“น้องสาวหน้าตาสวยดีนะ” จอมทัพแสร้งพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
“ไม่ใช่แค่น้องสาวสวยครับ พี่สาวคนโตก็สวย แถมแซ่บร้าย หึๆ” โจว์แทรกขึ้นและหัวเราะราวกับมีแผน“พวกมึง ต้องการอะไรวะ” คีตะภัทรถามด้วยความหวาดกลัว ทั้งที่รู้แหละว่าต้องการชีวิต เหมือนที่ทำกับกรณ์ แต่เป็นห่วงพี่สาวและน้องเพราะเป็นผู้หญิง“ต้องการอะไรเหรอ เห็นสภาพไอ้กรณ์หรือยัง มึงก็คงมีสภาพไม่ต่างกับมัน หรืออาจจะมากกว่า” “กูจะฟ้องพ่อ จะบอกตำรวจ” คีตะภัทรบอกเสียงสั่น“ฟ้องพ่ออย่างนั้นเหรอ มึงไม่ใช่ลูกรักเขา และตอนนี้เขาก็ทิ้งพวกมึงไปแล้ว ไปอยู่บ้านเล็กหลังไหนก็ไม่รู้” จอมทัพบอกราวกับรู้ดี ใช่เขาสืบรู้หมดแหละ “ก็เพราะน้องมึงทำกูบ้านแตก” สิ้นคำของคีตะภัทร จอมทัพก็ลุกพรวดแล้วเดินตรงเข้าไปหา “ใช่ เอสทำบ้านแตก แต่มึงไม่มีสิทธิ์ทำกับเอสแบบนี้” “มันโง่ มันอ่อนแอเองต่างหาก เพราะมันอ่อนแอไง มันถึงตาย” สิ้นคำของคีตะภัทรจอมทัพก็เหวี่ยงหมัดต่อยไปที่ปากคีตะภัทรทันที“อ้า ฮือๆๆ ผมกลัวแล้ว ผมกลัว... อย่าฆ่าผมเลย” คีตะภัทรได้แต่กรีดอ้อนวอนและมือข้างซ้ายสั่นเทา จังหวะเดียวกันนั้นจอมทัพก็เอาปลายมีดแตะที่คางของคีตะภัทรให้เงยขึ้นช้าๆ“ผมขอโทษ” คีตะภัทรได้แต่พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ขณะที่สายตาจอมทัพแข็งกระด้าง“มันสายเกินไปแล้ว” จอมทัพบอกเสียงเหี้ยม ก่อนจะจิกผมคีตะภัทรอีกครั้งจากนั้นจึงเหวี่ยงไปให้โจว์จัดการต่อ“ส่งมันกลับบ้าน ให้พ่อแม่มันดูสภาพ และบอกไปเลยว่าฝีมือฉัน เตรียมรับแรงกระแทกที่จะแรงกว่านี้”“อย่า อย่าทำอะไรครอบครัวผมเลยนะ ไว้ชีวิตเราเถอะ” คีตะภัทรได้แต่ยกมือไหว้ด้วยความหวาดกลัว ขณะที่จอมทัพมีสีหน้าเย็นชาขึ้นมาก“ขอร้องแล้วเหรอ ไม่เก่งเหมือนก่อนหน้านี้เลย”“ฮือๆๆ”“ฉันจะทำให้พวกแกตายอย่างช้าๆ ตายไปเอง เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นกับต้าเอส ยังเหลือใครอีกนะ แม่และพี่สาวแกใช่ไหม ส่วนน้องสาวน่ะ สวยขนาดนั้น... น่าจะเอามาเล่นเกมกันซะก่อน”“อย่า... อย่าทำอะไรยัยเล็กนะ”&nbs
“ให้คนไปส่งคีตะภัทรหรือยัง” จอมทัพเปลี่ยนเรื่องคุยทันที“เฮ้อ ครับ แต่ก็อีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึง คุณท่านครับ”“พรุ่งนี้เจอกันโจว์ ตอนนี้ฉันอยากอยู่ตามลำพัง...” เขาบอกพร้อมกับมองเข้าไปด้านใน ขณะที่อลินเดินออกมาที่โต๊ะกินข้าวอีกครั้ง“ทั้งชีวิตผมไม่เคยห้ามคุณท่านเลยในทุกๆ การตัดสินใจ เพราะคุณท่านตัดสินใจเด็ดขาดเสมอและไม่เคยพลาด แต่วันนี้ผมอาจจะขอไว้สักเรื่อง คือคุณเล็ก นั่นหัวใจคุณท่านนะ” โจว์บอกด้วยความเป็นห่วง ทำเอาจอมทัพกัดฟันแน่นพร้อมกับดวงตาเริ่มแดงก่ำ ทว่าสีหน้ายังคงดุดันเช่นเดิม ไม่รู้เจ้านายจะฟังหรือไม่ แต่โจว์อยากจะพูด“หัวใจของฉันมันแตกสลายไปแล้ว” เขาด้วยน้ำเสียงกดต่ำก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน โจว์ก็ได้แต่ถอนหายใจและหลับตาด้วยความเครียด จากนั้นจึงหันไปมองเจ้านายเล็กน้อย แล้วปลีกตัวกลับไปยังบ้านพักของตัวเอง“นั่นหัวใจของคุณนะ” คำพูดของโจว์ผุดขึ้นมาในความคิด เมื่อจอมทัพกำลังมองอลินที่กำลังตักข้าวรอ เขามองแต่เพียงเบื้องหลังของเธอ เธอก็รู้สึกได้แหละว่าเขายืนอยู่ หวังจะหั
จึงได้แต่กินไปเงียบๆ ไม่ต่อปากต่อคำกับเขาอีก ทว่าว่าสายตาก็อดเหลือบมองชายหนุ่มนิดหน่อย แล้วพลันเห็นที่หลังมือขวาของเขามันเป็นแผลถลอก เธอจึงพยายามจ้องว่ามันเป็นแผลสดหรือว่าแผลเก่า กระทั่งไล่ไปตามเสื้อ ลำคอก็มีรอยเลือด เธอได้แต่อ้าปากอึ้งจะไม่กล้าพูดอะไรต่อกระทั่งมื้อค่ำผ่านไป เธอก็เก็บโต๊ะอาหาร ทำหน้าที่ล้างจานโดยที่ไม่ให้เขาต้องสั่ง แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น จอมทัพก็ไปค้นหากล่องยาที่ล็อกเกอร์หลังเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม จากนั้นเขาก็ยืนเช็ดแผลแล้วก็ทำแผลอยู่ตรงนั้นอลินออกมาเห็น หลังจากที่ล้างจานเสร็จ ทำให้เธออดเป็นห่วงไม่ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นจอมทัพผู้ชายที่เธอไม่รู้จัก แต่อีกร่างนึงเขาก็คือพี่ต้าเฉินของเธอ หากจะให้มองข้ามก็ดูจะเป็นไปได้ยาก จึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา“มีอะไรให้ช่วยไหมคะ” เธอถามเสียงเบา“ไม่เป็นไร” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำลง และถอนหายใจหนักๆ“มือคุณไปโดนอะไรมาคะทำไมมันถลอกขนาดนั้น” เธอถามขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะถือวิสาสะจับสำลีมาเช็ดแผลให้เขาด้วยตัวเอง เขาก็ได้แต่มองและถอนหายใจ ยอม
“เรื่องเธอนั้น คือไหน” เธอแกล้งทำเป็นใครสือและจำไม่ได้“ถ้าจำไม่ได้ เราก็มาทบทวนกัน” เขาบอกด้วยน้ำเสียงกดต่ำ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหาเธอ หญิงสาวก็เบื่อหน้าหลบ เขาอาศัยจังหวะรวดเร็ว กุ้มลงฝังจุบตรงซอกคอ“อื้อ! หยุดนะ” เธอถึงกับทางอู้อี้ไม่ชอบ พยายามผลักไสเข้าออกไปให้พ้น ทว่ายิ่งดิ้นก็ยิ่งกระตุ้นให้เขาใช้ใบหน้าหนักขึ้น ปากร้อนก็ดูดเม้มหน้าหนัก ร่างกายแทบชิดจนสัมผัสได้ถึงส่วนนั้นของเขามันขึงแข็ง“อย่าทำแบบนี้ คุณเมามากแล้ว” เธอพยายามดันเขาออกแต่ดูจะไร้ผล“เมาสิดี จะได้ทำอะไรได้เต็มที่”“นี่ อย่า คุณกำลังเริ่มต้นแก้แค้นใช่ไหม ได้โปรด อย่า” พอได้ยินคำว่าได้โปรดปุ๊บ เขาก็หยุดแล้วเงยหน้าขึ้น ทว่าเรียวปากยังคงอยู่ใกล้กับปากนุ่ม“ใช่ ผมจะเริ่มแก้แค้น แล้วตอนนี้เป็นตาคุณ” สิ้นคำเขาก็ฉุกจูบที่ปากกระจับที่เผยออ้าเตรียมจะเอ่ย ทว่าเสียงหวานถูกกลืนหาย เหลือเพียงเสียงหายใจหอบพร่า หญิงสาวเบิกตาโตด้วยความตกใจ มือน้อยก็ผลักใสไม่หยุด กระทั่งเขาคลายอ้อมกอดและยกขึ้นมาประคองใบห
“อยาก... อ่า พี่เฉิน เลียสิคะ เลียตรงนั้น” ในที่สุดก็เอ่ยขอร้องออกมาอย่างไม่อาย เพราะความต้องที่ใกล้จะแตก และไม่พูดเปล่าเธอกลับเอียงเนินเนื้อเข้าหากปากร้อน และเมื่อได้ยินเธอเอ่ยเช่นนี้ก็ทำให้เขาพอใจอย่างมาก ไม่รอช้าตวัดลิ้นเลียลงไปบนร่องเสียว ลากจากล่างขึ้นบน ปลายลิ้นทำเอาเธอสะดุ้งและดีดดิ้น พลางเม้มปากและกดกลั้นลมหายใจได้แต่ห่อปากพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เพราะไม่ให้มีเสียงครางเล็ดลอดออกมา“เลียแล้ว ดูดด้วยหรือเปล่า” เขาถาม พลางฝังลิ้นเลียให้หนักหน่วงขึ้นกระทั่งปลายลิ้นสัมผัสกับเม็ดสวาทที่ตอดตุบ เขาก็กระดกลิ้นเลียระรัวเร็ว“อ๊ะ อ๊ะ พี่เฉิน เลียเม็ดเสียวและดูดแรงๆ สิคะ เล็ก เล็กจะไม่ไหวแล้ว” เธอกรีดร้องออกมาด้วยความเสียวซ่าน พร้อมกับน้ำหวานเหนียวๆ ทะลึกไหลออกมาให้เขาได้ดูดเลียคำโต“อูยยยย พี่เฉินขา ซี๊ดดดด อ่า”“ทูนหัวของพี่ น้ำเยอะ น้ำหวานมาก”“เล็กจะ... จะตายอยู่แล้ว จะไม่ไหวแล้วค่ะ” ยิ
จอมทัพ หมดสิ้นความอดทนต่อความบริสุทธิ์ของตัวเอง และทิ้งความโกรธ เคียดแค้นที่มีต่ออลิน แค่อลินเท่านั้น เพราะถึงอย่างไรเธอก็คือผู้หญิงที่เขารักและรอคอยมานานหลายเดือนที่จะได้พบเจอ ที่จะได้บอกคำว่ารัก วันนี้จึงเป็นวันที่เขาทนต่อความต้องการของหัวใจไม่ได้อีกแล้วเขารักเธอเกินกว่าที่จะทำร้ายเธอได้แต่อย่าลืมว่าเขามีความแค้นต่อคนอื่น ที่เป็นคนทำร้ายได้เอสจนกระทั่งตาย ฉะนั้นความรักที่เขามีต่ออารมณ์ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นเรื่องของพี่ชายอลิน ถูกส่งตัวไปยังบ้านในเวลากลางดึก คนของโจว์ทำงานอย่างนี้เชื่อ ไม่ให้ใครรู้เลยว่าพวกเขาขับรถมาจอดหน้าบ้าน และนำร่างมาทิ้งไว้ ด้วยเพื่อจะได้ด้วยทุกคนในบ้านออกมาดูติ้งหน่อง! ติ้งหน่อง! เสียงดังขึ้น 2 ครั้ง พร้อมกับได้ยินเสียงเปิดประตูเลขข้างรั้วราวกับมีโจรยอง ทำให้คนในบ้านพักกันตื่น อันดับแรกคือคนรับใช้ผู้ชายเดินออกมาดูลาดเลา ก็เห็นเรื่องของคนๆนึงนอนอยู่ที่ งานหน้าบ้าน เขาจึงวิ่งออกไปดูอย่างรวดเร็ว แล้วจำได้ว่านี่คือ“คุณคีย์” คนรับใช้ถึงกับบูชาด้วยความตกใ
จอมทัพ หรือชื่อเล่น ต้าเฉิน เจ้าของกาสิโนในต่างประเทศ และเป็นเจ้าของโรงแรมระดับห้าดาวในเมืองไทย 1 แห่ง เขาเป็นลูกครึ่งเสี้ยว บิดาเป็นชาวไต้หวันลูกครึ่งอเมริกัน และแม่เป็นคนไทย จึงสามารถมีธุรกิจที่ต่างประเทศได้ วันนี้เข้ากลายเป็นเจ้าของทั้งหมด เพราะทั้งบิดาและมารดาเสียชีวิต ต้องบินไปกลับไต้หวันเมืองไทย และอเมริกาเป็นว่าเล่น มาเมืองไทยคราวละเป็นเดือน แต่ไปเมืองนอกคราวละหลายๆ เดือนเช่นกัน ทว่ารอบนี้แทนที่เขาจะได้มาตรวจงานที่เมืองไทยอย่างเดียว กลับต้องมาจัดพิธีศพน้องสาว ที่เขาต้องดูแลแทนพ่อกับแม่ตั้งแต่ ม.6 ยันเรียนจบปริญญา ไม่รู้เพราะปัญหาชีวิตที่ไม่เคยปรึกษาพี่ชายคนนี้ ส่งผลให้เธอเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า จึงทำให้ต้าเอสจบชีวิตลงที่คอนโดมิเนี่ยมภายในพิธีศพถูกจัดขึ้นที่มูลนิธิ ไทย- จีน โดยมีจอมทัพเป็นเจ้าของมูลนิธิ เป็นผู้นำและคอยให้ความช่วยเหลือเหล่าคนไทยเชื้อสายจีนมาโดยตลอด ซึ่งมูลนิธิตั้งอยู่ด้านหน้าของหมู่บ้านนั่นเอง แขกเหรื่อหมุนเวียนกันเขามาร่วมงานทั้งวัน จอมทัพและลูกน้องก็ปลีกตัวมารับแขก แต่ถึงกระนั้นก็แทบจะไม่เชิญใคร รับรู้กันเฉพาะคนรู้จักกันแค่ระแวกใกล้ๆ ก็พอ เพราะการตายของต้าเ
ห้องประชุมที่ว่าคือ อยู่บ้าน คฤหาสน์ที่เป็นดั่งศูนย์กลางการทำงานเกือบทั้งหมด มีห้องกระชุมขนาดใหญ่ ห้องทำงาน ห้องออกกำลังกายและห้องมืด จอมทัพพร้อมด้วยผู้ติดตามนั่งรถกลับมาที่บ้าน ตึกที่มีไว้สำหรับประชุมอยู่ด้านหน้าพอดี เป็นทรงโดม บริเวณบ้านถูกจัดเอาไว้แบบโค้งครึ่งวงกลม พอมาถึงจอมทัพก็เดินนำเข้ามาด้านใน ผ่านห้องประชุม ห้องโถง ยาวไปจนถึงด้านหลังของห้องประชุมคือห้องออกกำลังกาย และห้องมืดที่ประตูเป็นเหล็ก เมื่อเดินถึงห้องออกกำลังกาย จอมทัพเดินไปพลางถอดเสื้อสูทไปพลาง พร้อมกับส่งให้ลูกน้องถือ ตอนนี้เหลือไว้เพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว ก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นตรงแขนศอก เผยให้เห็นรอยสักที่แขนทั้งสองข้าง เสร็จแล้วก็ถอดเข็มขัด ถอดนาฬิกา ขณะเดียวกันเขาพยายามข่มอารมณ์ที่เดือดพล่านอยู่ในใจเอาไว้ จนกระทั่งลูกน้องเปิดประตูห้องมืด เสียงดัง เอี๊ยด! ปัง! ทำเอาร่างหนึ่งซึ่งถูกคลุมศีรษะเอาไว้ด้วยผ้าสีดำถึงกับสะดุ้งตกใจ ร่างนั้นถูกมัดอยู่กับเก้าอี้ เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว จอมทัพเดินเข้าไปช้าๆ พร้อมกับปลดกระดุมเสื้อไปด้วย ในจังหวะเดียวกันนั้นลูกน้องคนหนึ่ง ก็กระชากผ้าคลุมศีรษะออก เพื่อให้เห็นหน้ากันชัดๆ ชาย
จอมทัพ หมดสิ้นความอดทนต่อความบริสุทธิ์ของตัวเอง และทิ้งความโกรธ เคียดแค้นที่มีต่ออลิน แค่อลินเท่านั้น เพราะถึงอย่างไรเธอก็คือผู้หญิงที่เขารักและรอคอยมานานหลายเดือนที่จะได้พบเจอ ที่จะได้บอกคำว่ารัก วันนี้จึงเป็นวันที่เขาทนต่อความต้องการของหัวใจไม่ได้อีกแล้วเขารักเธอเกินกว่าที่จะทำร้ายเธอได้แต่อย่าลืมว่าเขามีความแค้นต่อคนอื่น ที่เป็นคนทำร้ายได้เอสจนกระทั่งตาย ฉะนั้นความรักที่เขามีต่ออารมณ์ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นเรื่องของพี่ชายอลิน ถูกส่งตัวไปยังบ้านในเวลากลางดึก คนของโจว์ทำงานอย่างนี้เชื่อ ไม่ให้ใครรู้เลยว่าพวกเขาขับรถมาจอดหน้าบ้าน และนำร่างมาทิ้งไว้ ด้วยเพื่อจะได้ด้วยทุกคนในบ้านออกมาดูติ้งหน่อง! ติ้งหน่อง! เสียงดังขึ้น 2 ครั้ง พร้อมกับได้ยินเสียงเปิดประตูเลขข้างรั้วราวกับมีโจรยอง ทำให้คนในบ้านพักกันตื่น อันดับแรกคือคนรับใช้ผู้ชายเดินออกมาดูลาดเลา ก็เห็นเรื่องของคนๆนึงนอนอยู่ที่ งานหน้าบ้าน เขาจึงวิ่งออกไปดูอย่างรวดเร็ว แล้วจำได้ว่านี่คือ“คุณคีย์” คนรับใช้ถึงกับบูชาด้วยความตกใ
“อยาก... อ่า พี่เฉิน เลียสิคะ เลียตรงนั้น” ในที่สุดก็เอ่ยขอร้องออกมาอย่างไม่อาย เพราะความต้องที่ใกล้จะแตก และไม่พูดเปล่าเธอกลับเอียงเนินเนื้อเข้าหากปากร้อน และเมื่อได้ยินเธอเอ่ยเช่นนี้ก็ทำให้เขาพอใจอย่างมาก ไม่รอช้าตวัดลิ้นเลียลงไปบนร่องเสียว ลากจากล่างขึ้นบน ปลายลิ้นทำเอาเธอสะดุ้งและดีดดิ้น พลางเม้มปากและกดกลั้นลมหายใจได้แต่ห่อปากพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เพราะไม่ให้มีเสียงครางเล็ดลอดออกมา“เลียแล้ว ดูดด้วยหรือเปล่า” เขาถาม พลางฝังลิ้นเลียให้หนักหน่วงขึ้นกระทั่งปลายลิ้นสัมผัสกับเม็ดสวาทที่ตอดตุบ เขาก็กระดกลิ้นเลียระรัวเร็ว“อ๊ะ อ๊ะ พี่เฉิน เลียเม็ดเสียวและดูดแรงๆ สิคะ เล็ก เล็กจะไม่ไหวแล้ว” เธอกรีดร้องออกมาด้วยความเสียวซ่าน พร้อมกับน้ำหวานเหนียวๆ ทะลึกไหลออกมาให้เขาได้ดูดเลียคำโต“อูยยยย พี่เฉินขา ซี๊ดดดด อ่า”“ทูนหัวของพี่ น้ำเยอะ น้ำหวานมาก”“เล็กจะ... จะตายอยู่แล้ว จะไม่ไหวแล้วค่ะ” ยิ
“เรื่องเธอนั้น คือไหน” เธอแกล้งทำเป็นใครสือและจำไม่ได้“ถ้าจำไม่ได้ เราก็มาทบทวนกัน” เขาบอกด้วยน้ำเสียงกดต่ำ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหาเธอ หญิงสาวก็เบื่อหน้าหลบ เขาอาศัยจังหวะรวดเร็ว กุ้มลงฝังจุบตรงซอกคอ“อื้อ! หยุดนะ” เธอถึงกับทางอู้อี้ไม่ชอบ พยายามผลักไสเข้าออกไปให้พ้น ทว่ายิ่งดิ้นก็ยิ่งกระตุ้นให้เขาใช้ใบหน้าหนักขึ้น ปากร้อนก็ดูดเม้มหน้าหนัก ร่างกายแทบชิดจนสัมผัสได้ถึงส่วนนั้นของเขามันขึงแข็ง“อย่าทำแบบนี้ คุณเมามากแล้ว” เธอพยายามดันเขาออกแต่ดูจะไร้ผล“เมาสิดี จะได้ทำอะไรได้เต็มที่”“นี่ อย่า คุณกำลังเริ่มต้นแก้แค้นใช่ไหม ได้โปรด อย่า” พอได้ยินคำว่าได้โปรดปุ๊บ เขาก็หยุดแล้วเงยหน้าขึ้น ทว่าเรียวปากยังคงอยู่ใกล้กับปากนุ่ม“ใช่ ผมจะเริ่มแก้แค้น แล้วตอนนี้เป็นตาคุณ” สิ้นคำเขาก็ฉุกจูบที่ปากกระจับที่เผยออ้าเตรียมจะเอ่ย ทว่าเสียงหวานถูกกลืนหาย เหลือเพียงเสียงหายใจหอบพร่า หญิงสาวเบิกตาโตด้วยความตกใจ มือน้อยก็ผลักใสไม่หยุด กระทั่งเขาคลายอ้อมกอดและยกขึ้นมาประคองใบห
จึงได้แต่กินไปเงียบๆ ไม่ต่อปากต่อคำกับเขาอีก ทว่าว่าสายตาก็อดเหลือบมองชายหนุ่มนิดหน่อย แล้วพลันเห็นที่หลังมือขวาของเขามันเป็นแผลถลอก เธอจึงพยายามจ้องว่ามันเป็นแผลสดหรือว่าแผลเก่า กระทั่งไล่ไปตามเสื้อ ลำคอก็มีรอยเลือด เธอได้แต่อ้าปากอึ้งจะไม่กล้าพูดอะไรต่อกระทั่งมื้อค่ำผ่านไป เธอก็เก็บโต๊ะอาหาร ทำหน้าที่ล้างจานโดยที่ไม่ให้เขาต้องสั่ง แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น จอมทัพก็ไปค้นหากล่องยาที่ล็อกเกอร์หลังเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม จากนั้นเขาก็ยืนเช็ดแผลแล้วก็ทำแผลอยู่ตรงนั้นอลินออกมาเห็น หลังจากที่ล้างจานเสร็จ ทำให้เธออดเป็นห่วงไม่ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นจอมทัพผู้ชายที่เธอไม่รู้จัก แต่อีกร่างนึงเขาก็คือพี่ต้าเฉินของเธอ หากจะให้มองข้ามก็ดูจะเป็นไปได้ยาก จึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา“มีอะไรให้ช่วยไหมคะ” เธอถามเสียงเบา“ไม่เป็นไร” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำลง และถอนหายใจหนักๆ“มือคุณไปโดนอะไรมาคะทำไมมันถลอกขนาดนั้น” เธอถามขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะถือวิสาสะจับสำลีมาเช็ดแผลให้เขาด้วยตัวเอง เขาก็ได้แต่มองและถอนหายใจ ยอม
“ให้คนไปส่งคีตะภัทรหรือยัง” จอมทัพเปลี่ยนเรื่องคุยทันที“เฮ้อ ครับ แต่ก็อีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึง คุณท่านครับ”“พรุ่งนี้เจอกันโจว์ ตอนนี้ฉันอยากอยู่ตามลำพัง...” เขาบอกพร้อมกับมองเข้าไปด้านใน ขณะที่อลินเดินออกมาที่โต๊ะกินข้าวอีกครั้ง“ทั้งชีวิตผมไม่เคยห้ามคุณท่านเลยในทุกๆ การตัดสินใจ เพราะคุณท่านตัดสินใจเด็ดขาดเสมอและไม่เคยพลาด แต่วันนี้ผมอาจจะขอไว้สักเรื่อง คือคุณเล็ก นั่นหัวใจคุณท่านนะ” โจว์บอกด้วยความเป็นห่วง ทำเอาจอมทัพกัดฟันแน่นพร้อมกับดวงตาเริ่มแดงก่ำ ทว่าสีหน้ายังคงดุดันเช่นเดิม ไม่รู้เจ้านายจะฟังหรือไม่ แต่โจว์อยากจะพูด“หัวใจของฉันมันแตกสลายไปแล้ว” เขาด้วยน้ำเสียงกดต่ำก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน โจว์ก็ได้แต่ถอนหายใจและหลับตาด้วยความเครียด จากนั้นจึงหันไปมองเจ้านายเล็กน้อย แล้วปลีกตัวกลับไปยังบ้านพักของตัวเอง“นั่นหัวใจของคุณนะ” คำพูดของโจว์ผุดขึ้นมาในความคิด เมื่อจอมทัพกำลังมองอลินที่กำลังตักข้าวรอ เขามองแต่เพียงเบื้องหลังของเธอ เธอก็รู้สึกได้แหละว่าเขายืนอยู่ หวังจะหั
“อ้า ฮือๆๆ ผมกลัวแล้ว ผมกลัว... อย่าฆ่าผมเลย” คีตะภัทรได้แต่กรีดอ้อนวอนและมือข้างซ้ายสั่นเทา จังหวะเดียวกันนั้นจอมทัพก็เอาปลายมีดแตะที่คางของคีตะภัทรให้เงยขึ้นช้าๆ“ผมขอโทษ” คีตะภัทรได้แต่พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ขณะที่สายตาจอมทัพแข็งกระด้าง“มันสายเกินไปแล้ว” จอมทัพบอกเสียงเหี้ยม ก่อนจะจิกผมคีตะภัทรอีกครั้งจากนั้นจึงเหวี่ยงไปให้โจว์จัดการต่อ“ส่งมันกลับบ้าน ให้พ่อแม่มันดูสภาพ และบอกไปเลยว่าฝีมือฉัน เตรียมรับแรงกระแทกที่จะแรงกว่านี้”“อย่า อย่าทำอะไรครอบครัวผมเลยนะ ไว้ชีวิตเราเถอะ” คีตะภัทรได้แต่ยกมือไหว้ด้วยความหวาดกลัว ขณะที่จอมทัพมีสีหน้าเย็นชาขึ้นมาก“ขอร้องแล้วเหรอ ไม่เก่งเหมือนก่อนหน้านี้เลย”“ฮือๆๆ”“ฉันจะทำให้พวกแกตายอย่างช้าๆ ตายไปเอง เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นกับต้าเอส ยังเหลือใครอีกนะ แม่และพี่สาวแกใช่ไหม ส่วนน้องสาวน่ะ สวยขนาดนั้น... น่าจะเอามาเล่นเกมกันซะก่อน”“อย่า... อย่าทำอะไรยัยเล็กนะ”&nbs
“น้องสาวหน้าตาสวยดีนะ” จอมทัพแสร้งพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา“ไม่ใช่แค่น้องสาวสวยครับ พี่สาวคนโตก็สวย แถมแซ่บร้าย หึๆ” โจว์แทรกขึ้นและหัวเราะราวกับมีแผน“พวกมึง ต้องการอะไรวะ” คีตะภัทรถามด้วยความหวาดกลัว ทั้งที่รู้แหละว่าต้องการชีวิต เหมือนที่ทำกับกรณ์ แต่เป็นห่วงพี่สาวและน้องเพราะเป็นผู้หญิง“ต้องการอะไรเหรอ เห็นสภาพไอ้กรณ์หรือยัง มึงก็คงมีสภาพไม่ต่างกับมัน หรืออาจจะมากกว่า”“กูจะฟ้องพ่อ จะบอกตำรวจ” คีตะภัทรบอกเสียงสั่น“ฟ้องพ่ออย่างนั้นเหรอ มึงไม่ใช่ลูกรักเขา และตอนนี้เขาก็ทิ้งพวกมึงไปแล้ว ไปอยู่บ้านเล็กหลังไหนก็ไม่รู้” จอมทัพบอกราวกับรู้ดี ใช่เขาสืบรู้หมดแหละ“ก็เพราะน้องมึงทำกูบ้านแตก” สิ้นคำของคีตะภัทร จอมทัพก็ลุกพรวดแล้วเดินตรงเข้าไปหา“ใช่ เอสทำบ้านแตก แต่มึงไม่มีสิทธิ์ทำกับเอสแบบนี้”“มันโง่ มันอ่อนแอเองต่างหาก เพราะมันอ่อนแอไง มันถึงตาย” สิ้นคำของคีตะภัทรจอมทัพก็เหวี่ยงหมัดต่อยไปที่ปากคีตะภัทรทันที
“ถอยไป” เธอบอกเสียงห้วน“ผมถามว่าหิวเหรอ คุณยังไม่ตอบ”“สีหน้าฉันเหมือนคนหิวเหรอคะ”“โดนสักนิดเดี๋ยวก็รู้เรื่อง” เขาหาเรื่องหื่นกับเธอไม่เลือกเวลาเลยหรือเนี่ย นี่เธอกำลังโกรธอยู่นะ เธอคิด“หยาบคาย” เธอว่า พลางกัดฟันแน่นก่อนจะเบี่ยงตัวแล้วเอาไหล่ชนเขาเพื่อให้หลบ กิริยาไม่น่ารักเอาเสียเลย แต่ก็ไม่แปลกใจหรอกหากจะทำ เขาคิด“ซักผ้าแล้ว ทำกับข้าวด้วย วันนี้อยากกินอะไรอร่อยๆ” เขาเอ่ยขึ้นพลางทำลอยหน้าลอยตา จังหวะเดียวกันเธอก็หันกลับมามอง จ้องกันเขม่ง แล้วเธอจะสู้อะไรเขาได้นอกเสียจากทำตาม ว่าแล้วจึงรีบเดินไปยังห้องซักรีด เพื่อจะได้ซักเสื้อผ้าให้กับเขาจอมทัพเดินตามไปด้วยความที่ไม่ไว้ใจในความเป็นแม่บ้านแม่เรือนของอลินเพราะเธอเป็นลูกคุณหนู คงทำอะไรไม่เป็นพอๆ กับเขานี่แหละ ซึ่งผิดคาดอลินซักผ้าได้ เพราะเป็นเครื่องซักผ้าอัตโนมัติ อยู่คอนโดก็จ้าง บ้างก็ซักเองโดยที่คอนโดมีบริการให้ซักเองด้วย ทว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอต้องชะงักคือ ต้องแยกเสื้อผ้าของเขา“กางเกงใน” เธอ
“พวกมึงเป็น” ใครคีตะภัทรถาม ด้วยน้ำเสียงสั่น แต่ชายหนุ่มไม่ตอบกลับเอาปืนจ่อขมับคีตะภัทรเอาไว้แล้วกระชากให้ขึ้นไปบนรถ ส่วนรถก็ของคีตะภัทรก็จอดทิ้งเอาไว้อย่างนั้นแหละเพราะชายชุดดำไม่ต้องการทำให้มันเงียบอยากให้ทุกคนรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น จึงทิ้งรถเอาไว้ให้เป็นเบาะแส เมื่อขึ้นมาบนรถแล้วชายแปลกหน้าพร้อมคนขับรถก็แล่นออกไปจากซอยทันทีมาถึงตอนนี้คิดพยายามมองหน้าทุกคนว่าใช่คนที่รู้จักหรือไม่ แต่คิดว่าคงไม่ใช่แน่เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่เอาปืนมาจ่อสมองกัน“พวกมึงเป็นใครบอกมาเดี๋ยวนี้นะ คีตะภัทรถาม“เป็นเวรกรรม ชายแปลกหน้าตอบพร้อมกับหัวเราะในลำคอ ทำให้คีตะภัทรถลึงตามองด้วยความตกใจ และตัวสั่นเทามากกว่าเดิม นั่น ทำให้รู้แล้วว่าชายแปลกหน้าทั้งหมดนี้น่าจะเป็นคนของต้าเฉินยังไม่ผิดแน่นอน“พวกมึงเป็นคนของต้าเฉินใช่ไหม” คีตะภัทรถามเสียงสั่น“ฉลาดแล้วนี่” ชายแปลกหน้าตอบ แล้วหัวเราะชอบใจ“พวกมึงต้องการอะไร” คีตะภัทร