Share

บทนำ

Author: Huneybunch
last update Last Updated: 2025-10-10 20:51:24

บทนำ

เยว่ซินเหยา เจ้าสำนักพยากรณ์ผู้เลื่องชื่อ รูปร่างสง่างามดั่งเทพธิดา ใบหน้าคมชัด ดวงตาเฉียบแหลมแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน ริมฝีปากบางเรียวสะกดทุกสายตาที่พบเห็น ผิวเนียนละเอียดดั่งหยกอ่อน ผมดำขลับยาวสลวย ถูกจัดเกล้าเป็นทรงสูงแบบโบราณประดับด้วย ปิ่นเงินอัญมณีสีแดงเลือดมังกร ยึดผมไว้ให้เรียบร้อย ชายผมด้านข้างถูกปล่อยลงพลิ้วไหวตามลมอย่างงดงาม นางสวมใส่อาภรณ์สีขาวล้วน กระโปรงยาวพลิ้วไหว ลวดลายบนผ้าเป็นเส้นสายอ่อนช้อย ทุกการเคลื่อนไหวเผยถึงความสง่างาม

ซินเหยา ยืนอยู่ท่ามกลางลานพิธีบวงสรวงของสำนัก แท่นหินหยกตั้งอยู่ตรงกลาง รอบ ๆ แท่นพิธีมีทั้งศิษย์และผู้เฒ่าของสำนักยืนเรียงราย ล้อมรอบแท่นพิธี ไกลออกไปเป็นเหล่าเชื้อพระวงศ์ และชาวบ้านที่มาเข้าร่วมพิธีด้วย

เยว่ซินเหยาค่อย ๆ ก้าวไปยังแท่นพิธี มือข้างหนึ่งประคอง ลูกแก้วพยากรณ์ ไว้กลางอก มืออีกข้างยกขึ้นเหนือลูกแก้ว ทำมือมุทรา ส่วนปลายนิ้วที่เหลือประสานกันแน่น สายตาของนางสอดส่องไปยังโต๊ะพิธีที่จัดผลไม้บูชาไว้อย่างครบถ้วน วางเรียงอย่างประณีต เทียนทองคำให้แสงสว่างส่องทั่วทั้งโต๊ะ ทุกองค์ประกอบรอบตัวนางดูสมบูรณ์พร้อมสำหรับพิธีบูชาสวรรค์ครั้งนี้

“เอาละเริ่มพิธีบูชาสวรรค์ได้” เอ่ยจบคำ เสียงร่ายคาถาของซินเหยาก็ดังกึ่งก้องและพลังปราณขั้นสูงปกคลุมไปทั่วทั่งบริเวณ นางสวดบวงสรวงสวรรค์ได้ราวหนึ่งเค่อ ใบหน้างามเริ่มมีเหงื่อซึมตามหน้าผากและข้างแก้ม เนื่องด้วยใช้พลังปราณ ค่อนข้างมากในการทำพิธี

หลังจากร่ายบทคาถาบวงสรวง นางจึงเริ่มร่าย คาถาขอฝน เสียงคำสวดชัดเจนและหนักแน่น ความเข้มข้นของพลังทำให้สายฝนพรำหนักขึ้น เม็ดฝนกระทบผืนดินและกระทบชายกระโปรงของนาง กลิ่นธูปและฝนผสานกัน บรรยากาศทั้งลานพิธีเต็มไปด้วยความขลังและศักดิ์สิทธิ์

สายตาของผู้ร่วมพิธีจดจ้องร่างเยว่ซินเหยาด้วยความหวัง ทุกคนต่างรู้สึกถึงพลังที่เรียกมาจากสวรรค์

เมื่อเม็ดฝนพรำโปรยปรายลงมา ผู้คนที่มาเข้าร่วมพิธีถึงกับหลังน้ำตา ก้มลงกราบพื้นดิน น้ำตาแห่งความดีใจและความหวังผสมปนกับฝนพรำ พวกเขารู้สึกถึง ความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้เข้ามา หลังจากที่แผ่นดินแห้งแล้งมานานนับสามปี

เยว่ซินเหยายังคงร่าย คาถาขอฝน มือที่ทำมุทราเหนือลูกแก้วสั่นไหวเล็กน้อย แสงทองจากลูกแก้วและแท่นพิธีรวมตัวสว่างเจิดจ้า ราวกับพลังสวรรค์ทั้งหมดถูกดึงมารวม ณ จุดเดียว สายฝนโปรยหนักขึ้น เสียงฟ้าผ่ากึกก้องเหนือหัว ร่างเยว่ซินเหยารู้สึก แรงดึงบางอย่าง ลมพัดแรงจนชายกระโปรงและผมปลิวไหวเป็นคลื่น นางหลับตาแน่น พลังจากลูกแก้วและคาถาที่ร่ายทำงานอย่างเต็มที่ พลังสวรรค์สั่นสะเทือนลานพิธี ผู้คนก้มกราบต่ำด้วยความหวาดเกรงและเลื่อมใส

จู่ ๆ แสงจากลูกแก้วผสานกับสายฟ้าที่ผ่าลงมา กลืนลานพิธีทั้งหมดในความสว่างเจิดจ้า เยว่ซินเหยาถูกพลังดูดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว จนทุกสิ่งรอบตัวนาง จมหายไปในความสว่างนั้น ทิ้งไว้เพียง ร่างของนางที่ร่วงลงมาสู่พื้น สงบนิ่งมือที่ทำมุทราและลูกแก้วที่หม่นแสงลงยังคงค้างอยู่ในท่าทางเดิม

ผู้คนรอบแท่นพิธี ยังคงก้มกราบต่ำด้วยความหวาดเกรงสายฝนโปรยลงมาทำให้ทุกสิ่งรอบตัวเหมือนถูก ชะล้าง พลังสวรรค์ที่เพิ่งเรียกมาส่งผลชัดเจน พวกเขารู้ดีว่าพิธีวันนี้ได้แลกด้วยสิ่งที่มีค่า แต่ผู้ทำพิธีเองยังไม่รู้ตัวเลย ร่างเยว่ซินเหยาร่วงลงมาอยู่บนแท่นกลางพิธี วิญญาณของนางถูกดึงขึ้นไปสูงเหนือโลก เสียงฝนยังคงตกกระหน่ำเป็นจังหวะ

เมื่อแสงสว่างจากฟ้าผ่าและลูกแก้วค่อย ๆ จางลง เยว่ซินเหยาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา นางพบว่าตัวเองอยู่ใน สถานที่แปลกตา รอบกายเต็มไปด้วยสีขาวจาง ๆ ไร้ขอบเขต ไม่มีพื้น ไม่มีผนัง ไม่มีต้นไม้หรือวัตถุใด ๆ เพียงความว่างเปล่าและแสงจาง ๆ ที่เหมือนลอยอยู่กลางอากาศ สายตาของนางพยายามโฟกัส แต่กลับไม่สามารถจับขอบเขตหรือทิศทางใด ๆ ได้ ทุกอย่างราวกับลอยอยู่ ในมิติที่ไม่มีอะไรเลย ความเงียบรอบตัวทำให้ได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรง

“เกิดอันใดขึ้น...ข้าตายแล้วหรือ” เยว่ซินเหยาพูดขึ้นด้วยเสียงเบาแต่ชัดเจน พร้อมกับความงุนงง

ทันใดนั้น เสียงนุ่มลึกดังขึ้นในหัวของนาง ราวพูดกับจิตใจโดยตรง

‘ยินดีตอนรับสู่ ระบบพยากรณ์สวรรค์ขอรับ’ เยว่ซินเหยา กระพริบตาหลายครั้ง ความรู้สึกประหลาดไหลเข้าสู่ร่าง ราวกับมีพลังลึกลับบางอย่างไหลเวียนไปทั่วร่างของนาง

“ระ..ระบบ คือสิ่งใด”

‘ระบบพยากรณ์สวรรค์… คือเครื่องมือที่สวรรค์มอบให้แก่ผู้ถูกเลือก’ เสียงตอบกลับชัดเจนและมั่นคง

“เลือกหรือ..เหตุใดจึงเลือกข้า”

‘เพราะท่านเป็นผู้มีพลังหยั่งรู้ฟ้าดิน ซ้ำยังสามารถอัญเชิญเทพหยู่เสินมาประทานสายฝนได้ พิธีกรรมที่ท่านทำนั้นมีข้อแลกเปลี่ยน’

“แลกเปลี่ยนหรือ...แลกกับสิ่งใดในตำราโบราณมิเห็นได้แจ้งไว้…” เยว่ซินเหยายังพูดไม่ทันขาดคำ ภาพนิมิตก็ฉายขึ้นรอบตัวนาง 

‘ทั้งห้าผู้เฒ่าแห่งสำนักลอบประชุมกันในห้องลับที่ไม่ใครรู้เห็น พวกเขาได้รับตำราโบราณและค่าจ้างจากกษัตริย์เพื่อทำพิธีเรียกฝน แต่ไม่มีใครเต็มใจทำงานเสี่ยงภัยเช่นนี้ เหล่าผู้อาวุโสที่ได้อ่านตำราเล่มนี้ทุกคนต่างรู้ดีว่าการทำพิธีต้องใช้ผู้มีพลังสูงและต้องแลกด้วยวิญญาณของผู้ทำพิธี ทั้งห้าคนจึงได้ลอบปรึกษากันและตกลงกันว่าจะนำตำราเล่มนี้ไปให้เจ้าสำนักซินเหยาเป็นผู้ศึกษาและทำพิธี พวกเขาได้จัดการทำลายตำราหน้าสุดท้ายที่แจ้งไว้ถึงเงื่อนไขการแลกวิญญาณ แล้วจึงนำไปมอบให้เจ้าสำนักได้ศึกษา นางศึกษาตำราอย่างรอบคอบและเร่งดำเนินพิธี เรียกสายฝนเพื่อช่วยขจัดภัยแล้ง ที่พรากชีวิตผู้คนไปนับไม่ถ้วนตลอดสามปีที่ผ่านมา...

ภาพยังคงฉายต่อหลังจากที่นางได้จากไป เหล่าผู้คนต่างพากันสรรเสริญและรำลึกถึงความกล้าหาญของนาง พิธีศพจึงถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เหล่าผู้คนต่างหลั่งน้ำตาและถวายความเคารพ แต่ท่ามกลางความโศกเศร้าและการสรรเสริญ พวกผู้เฒ่าจอมเจ้าเล่ห์กลับเริ่มแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งเจ้าสำนัก ความโลภของพวกเขาแสดงออกอย่างชัดเจน ความขัดแย้งระหว่างผู้เฒ่าก็เริ่มปะทุขึ้น จากนั้นภาพจึงดับลง’

หลังจากรู้ความจริง เย่วซินเหยาก็โกรธสุดขีด ดวงตาของนางฉายประกายความเดือดดาล เสียงนางดังขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่เต็มไปด้วยอำนาจ 

“หน๊อย เจ้าพวก..!”

ซินเหยาสถบคำหยาบคายออกมาหลายชุด

แม้นางจะอยากช่วยเหลือผู้คนแต่ถ้าต้องช่วยถึงขั้นต้องแลกชีวิตก็ขอให้นางได้เตรียมใจก่อนไม่ใช่ตายแบบไม่รู้ตัวเช่นนี้  ถึงแม้นางจะเป็นผู้หยั่งรู้ฟ้าดินแต่ความสามารถนั้นมีจำกัดนางไม่สามารถดูชะตาตัวเองได้และอีกทั้งผู้ที่นำตำรามามอบให้ก็มิใช่ผู้อื่น หากเป็นผู้อาวุโสผู้หนึ่งซึ่งนางเคารพยิ่งนัก ด้วยเหตุนี้นางจึงมิได้ระแวงสงสัย การจะตรวจสอบชะตาของผู้อาวุโสโดยพลการนั้นถือเป็นข้อห้ามใหญ่โต มิอาจทำได้โดยปราศจากเหตุผลอันควร ด้วยข้อจำกัดเหล่านี้เอง จึงทำให้นางพลั้งพลาดไปสู่หนทางที่มิอาจหวนกลับ

‘เอาละ ในเมื่อทราบแล้วก็ขอให้ท่านเตรียมใจเสียหน่อย’

“เอาเถอะ...อย่างไรก็ตายแล้วข้าต้องทำสิ่งใดต่อ ไปเกิดหรือขึ้นสวรรค์เป็นเทพ” ซินเหยาคิดอย่างปลงตก แค้นใจไปก็ทำอันใดไม่ได้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกรรมแล้วกัน

‘ไปถึงแล้วท่านจะรู้เอง หมดหน้าที่ข้าแล้ว’

จบคำแสงสีทองและน้ำเงินสาดส่องทั่วบริเวณ สายลมพัดแรงและภาพลวงตาเริ่มปรากฏรอบตัว นางรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงเข้าสู่มิติใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ 


ฝากทุกคนช่วยอ่านและเป็นกำลังใจให้ซินเหยาและลูกๆ ด้วยนะคะ ถ้าชอบกดหัวใจหรือคอมเมนต์พูดคุยกันได้เลย ทุกคำพูดจากผู้อ่านสำคัญกับนักเขียนมาก ๆ ค่ะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ระบบพยากรณ์สวรรค์กับคุณแม่ลูกแฝด   บทที่ 15 ช่วยคนสกุลไป๋

    บทที่ 15 ช่วยคนสกุลไป๋“ขอโทษนะคะ คุณใช่อาจารย์เยว่ไหมคะ” ซินเหยาหันไปมอง ผู้หญิงที่ทักเธอ เธอมีอายุประมาณสามสิบต้นๆ ผมดำประบ่าม้วนเบาๆ ใบหน้าสวยหวานแต่ดวงตาไม่สดใส แฝงไปด้วยความเครียดความกังวลเล็กน้อย เธอยิ้มอย่างสุภาพขณะเอ่ยเรียกซินเหยา“อาจารย์?” ซินเหยา เอ่ยทวนคำเธอเอียงศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะหรี่ตาลงช้าๆ ในใจเต็มไปด้วยความสงสัยผู้หญิงตรงหน้าซินเหยาเลิกคิ้วเล็กน้อย พยายามรวบรวมความกล้า ในน้ำเสียงแฝงความเกรงใจและความหวังเล็กๆ ขณะที่เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “คุณใช่อาจารย์เยว่ซินเหยาใช่ไหมคะ” เธอจับกระเป๋าไว้แน่น มือสั่นเล็กน้อย แววตาตึงเครียดและเต็มไปด้วยความคาดหวัง ราวกับอยากได้คำยืนยันจากซินเหยา“อืม..ฉันชื่อเยว่ซินเหยา” เธอตอบชัดถ้อยชัดคำ ขณะที่สายตาจับจ้องผู้หญิงตรงหน้าอย่างนิ่งสงบ แววตาเย็นเฉียบ ซินเหยาพอจะรู้จุดประสงค์ของคนตรงหน้าแล้วผู้หญิงคนนั้นเบิกตากว้างเล็กน้อย ก่อนสีหน้าจะอ่อนลง คล้ายกับโล่งใจ ความหวังวูบไหวอยู่ในดวงตาคู่สวย แต่ริมฝีปากกลับสั่นเล็กน้อยอย่างไม่กล้าเปล่งถ้อยคำออกมา ซินเหยามองเพียงแวบเดียวก็อ่านความรู้สึกนั้นออกทันที ริมฝีปากโค้งขึ้นน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ

  • ระบบพยากรณ์สวรรค์กับคุณแม่ลูกแฝด   บทที่ 14 โรงเรียน

    บทที่ 14 โรงเรียนเช้าวันที่สอง ซินเหยาตื่นขึ้นในเวลาเดิม ร่างกายของเธอยังคงสดชื่นจากการพักผ่อน แม้เมื่อวานจะนอนดึก แต่กลับไม่รู้สึกอ่อนล้า หลังจากล้างหน้าเรียบร้อย เธอก็เข้าสู่มิติอีกครั้ง เริ่มต้นด้วยการนั่งขัดสมาธิกลางลานกว้าง ดวงตาหลับลงอย่างสงบ หัวใจเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ลมหายใจเข้าออกสอดคล้องไปกับพลังธรรมชาติรอบกาย จิตใจของเธอว่างเปล่าแต่มั่นคง การฝึกสมาธิครั้งนี้ลึกซึ้งกว่าเดิม ราวกับเธอกำลังกลายเป็นหนึ่งเดียวกับพลังที่ไหลเวียนอยู่ทั่วทั้งมิติเมื่อจิตใจสงบนิ่งดีแล้ว เธอจึงเปลี่ยนเข้าสู่การฝึกกายและยุทธ์ ซินเหยาเคลื่อนไหวด้วยท่วงท่าที่ดุดันและเฉียบขาดกว่าเมื่อวาน ทุกการก้าว การหมุนตัว และการโจมตีอากาศ เต็มไปด้วยแรงที่ควบคุมได้ดั่งใจ พลังภายในถูกรีดใช้และส่งออกผ่านปลายนิ้วและฝ่ามืออย่างราบรื่น ร่างบางเคลื่อนไหวราวกับสายลม บางครั้งอ่อนโยนพลิ้วไหว บางครั้งรุนแรงดั่งพายุ แต่ไม่ว่าท่วงท่าใดก็ยังคงความงดงามและสง่างามไว้เวลาผ่านไปอีกสองชั่วโมงเต็ม ร่างกายของเธอเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่ออีกครั้ง แต่กลับเปี่ยมไปด้วยพลังและความมั่นคงในลมหายใจ สายตาคมกริบของซินเหยาส่องประกายเจิดจ้า ราวกับมีเ

  • ระบบพยากรณ์สวรรค์กับคุณแม่ลูกแฝด   บทที่ 13 ช้อปปิ้ง

    บทที่ 13 ช้อปปิ้งสองพี่น้องมองแม่ด้วยความสนใจที่กำลังยืนชำระเงินที่เคาน์เตอร์ พลางกระซิบกันเบาๆ“ในความทรงจำของพี่ หม่าม้าไม่ได้รวยนี่นาหรือเราเข้าใจอะไรกันผิด” หมิงหมิงกระซิบเบาๆ พลางขมวดคิ้วคิด“ความทรงจำของหลันหลันก็ด้วยนะ” หลันหลันพยักหน้า พลางเอามือแตะแก้มตัวเองด้วยความสงสัย“พี่แอบใช้โทรศัพท์หม่าม้าก่อนออกมา เห็นหม่าม้ามีเงินแค่สี่หมื่นกว่าหยวนเอง” ได้ยินดังนั้นหลันหลัน ถึงกับเบิกตากว้าง“โหแต่หม่าม้าใช้เงินเก่งมาก แป๊บเดียวจะสองพันหยวนแล้ว”“อื้ม งั้นเราก็ต้องช่วยกันหาเงินเก่งๆ มาให้แม่ใช้”“พี่ยุคนี้ทำงานอะไรถึงได้เงินดีล่ะ”“อืมม.. ไม่แน่ใจเหมือนกันค่อยๆศึกษาไปเดี๋ยวก็มีวิธี” หมิงหมิงยักไหล่พร้อมทำหน้าครุ่นคิด“เช่นนั้นเป้าหมายตอนนี้หาเงินให้ได้เยอะๆ แล้วก็กินของอร่อยให้ครบทุกร้าน!! อาหารแคปซูลเราอย่าได้เจอกันอีกเลย” ส่วนน้องสาวก็ตบมือเล็กๆ ด้วยความมุ่งมั่น

  • ระบบพยากรณ์สวรรค์กับคุณแม่ลูกแฝด   บทที่ 12 ภารกิจโบนัส

    บทที่ 12 ภารกิจโบนัสซินเหยา มือหนึ่งอุ้มลูกสาว อีกมือหนึ่งจับลูกชาย พากันเดินเข้ามาในห้าง เด็กหญิงในอ้อมแขนเกาะคอแม่แน่น ดวงตากลมใสจ้องมองแสงไฟระยิบระยับด้วยความตื่นเต้น ส่วนเด็กชายที่ถูกแม่จับมือเดินเคียงข้างกลับเชิดหน้าขึ้นอย่างดื้อรั้นนิดๆ แก้มป่องๆ มีสีแดงจากความเหนื่อย แต่ก็ยังไม่ยอมให้แม่อุ้ม“หมิงหมิงให้หม่าม้าอุ้มดีกว่านะ เหนื่อยแล้วใช่ไหมครับ” ซินเหยาก้มลงถามเสียงอ่อนโยนเด็กชายส่ายหัวแรงๆ อย่างดื้อรั้น“ไม่เอาครับ หมิงหมิงไม่อยากให้หม่าม้าเหนื่อยแค่อุ้มน้องหม่าม้าก็หนักแล้วครับ หมิงหมิงเดินเองได้ครับ” หมิงหมิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจราวกับตนเป็นผู้ใหญ่แล้ว ซินเหยาแอบหัวเราะเบาๆ เธอไม่อยากขัดใจ จึงเพียงยื่นมือไปลูบศีรษะลูกชายอย่างเอ็นดู“เช่นนั้นก็จับมือหม่าม้าดีๆ นะครับถ้าเหนื่อยก็บอกหม่าม้านะครับหม่าม้าจะได้หยุดพัก”“อื้ม!” เด็กชายพยักหน้าหนักแน่น แต่สายตาก็เริ่มกวาดมองรอบๆ ห้างที่เต็มไปด้วยร้านอาหารสีสันสดใส กลิ่นหอมลอยคลุ้งชวนให้ท้อง

  • ระบบพยากรณ์สวรรค์กับคุณแม่ลูกแฝด   บทที่ 11 เพนท์เฮ้าส์ 1

    “ประตูนี้คือทางเข้าลิฟต์ส่วนตัวครับ” เขาอธิบายพลางหยิบ คีย์การ์ด ขึ้นมาแตะเครื่องอ่านด้านข้างประตูเสียง ติ๊ง! ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าอนุญาตให้เข้า ซินเหยาเดินประตูเข้าไปพร้อมลูกๆ ทันที แต่กลับพบว่าในห้องมี ประตูลิฟต์อยู่สองตัว ตั้งอยู่คู่กัน และฝั่งตรงข้ามอีกสองตัว ภายในห้องนี้มีลิฟต์ทั้งหมดสี่ตัวหลิวเจ๋อยิ้มเล็กๆ แล้วจึงอธิบายส่วนต่างๆของที่นี่“ฝั่งซ้าย ประตูแรกคือลิฟต์ส่วนตัวของคุณเยว่ซินเหยาครับ ส่วนประตูที่สองจะเป็นลิฟต์ของห้องอื่นที่อยู่ชั้นเดียวกันครับ ส่วนฝั่งขวาเป็น ของชั้นที่ 67 ครับ เพนท์เฮาส์แบบชั้นละสองห้องของที่นี่จะมีแค่สองชั้น คือชั้นที่ 67 และ 68 ครับ ส่วนลิฟต์ตัวนอกจะเป็นชั้นที่2 ถึง 66 เป็นห้องชุด แบบที่มีชั้นละสี่ห้องครับ” ผู้จัดการหลิวเจ๋อชี้ไปที่ เครื่องอ่านคีย์การ์ดของลิฟต์ฝั่งซ้าย ซึ่งมี เลขห้องแสดงอยู่ชัดเจน99/168 ขณะที่ลิฟต์ตัวอื่นก็มีเลขห้องต่างกัน แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นของห้องอื่น ซินเหยาเห็นเลขห้องใบหน้าเย็นชายังคงเรียบเฉย แต่เธอพยักหน้าอย่าง พึงพอใจ“เด็กๆ ไป

  • ระบบพยากรณ์สวรรค์กับคุณแม่ลูกแฝด   บทที่ 11 เพนท์เฮ้าส์

    บทที่ 11 เพนท์เฮ้าส์ในวันเดียวกันนั้นหลังจากซินเหยากินข้าวเช้าเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเรียกลูกๆ ทั้งสองคนมานั่งพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนที่ยากจะพบเห็น“เด็กๆค่ะ วันนี้เราจะไปดูบ้านใหม่กันนะคะ” เด็กๆเงยหน้ามองแม่ด้วยสายตาตื่นเต้นปนความสงสัย ซินเหยาอธิบายอย่างใจเย็นว่า บ้านใหม่จะกว้างขวางกว่า มีที่ให้เล่นเยอะขึ้น และทุกคนจะมีห้องเป็นของตัวเอง“เราจะย้ายบ้านใหม่เหรอครับ” ลูกชายคนโตถามเสียงสดใส พร้อมด้วยแววตาสงสัย“ใช่ครับ หม่าม้าได้บ้านมาโดยบังเอิญครับ วันนี้เราจะไปดูกันถ้าเป็นไปได้เราก็จะย้ายวันนี้เลยครับ เด็กๆ ช่วยหม่าม้าเก็บของใส่กล่องไว้นะ ช่วงบ่ายเราจะไปดูบ้านกันครับ”“ได้ครับ / ได้ค่ะ”“ย้ายที่อยู่ใหม่เราต้องใช้เงินหม่าม้ามีเงินเยอะไหมครับ” หมิงหมิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความใสซื่อ ซินเหยาได้ยินคำถาม ก็นิ่งไปครู่หนึ่ง พลางคิดถึงเงินที่มีอยู่ แต่เพียงเสี้ยววินาที เธอก็ยิ้มบางๆ และลูบหัวลูกชาย“หม่าม้ามีเงินไม่เยอะครับ แต่หม่าม้าจะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status