LOGINCard of the Day: Nine of Swords – เครียด กดดัน กังวล
สิ่งแรกที่พุฒิตาทำหลังจากตื่นนอนคือการจับไพ่ประจำวันหนึ่งใบผ่านไลน์แม่จกเจ้าประจำ และไพ่ที่ได้คือไพ่เก้าดาบ...
ภาพเด่นหราบนหน้าจอพร้อมคำพยากรณ์ในวันนี้ทำให้เธอหน้ามุ่ย
ใจคอจะออกแต่ไพ่ดาบเหรอไง เปิดมากี่ครั้งก็เจอแต่ดาบ...
และเช่นเดิม หญิงสาวโยนความคิดทุกอย่างทิ้งแล้วอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกไปทำงานเสริม
ทุกวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดจากงานประจำ พุฒิตาจะรับจ๊อบเพิ่ม ด้วยหน้าตาที่พอไปวัดไปวา กอปรกับหุ่นที่นำเสื้อผ้าสวย ๆ มาแขวนได้ ผู้จัดการดาราเพื่อนของเธอจึงชวนมาเป็นนางแบบอิสระให้กับห้องเสื้อแบรนด์ดังอย่าง SHISHA และ SHISHAx
เจ้าของแบรนด์คือสาวมั่นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ทำให้แบรนด์มีความโดดเด่นในหมู่เซเลบไฮโซ ทั้งยังมีเสื้อผ้ารุ่นที่คนทั่วไปจับต้องได้ เหมาะกับคนที่อยากได้ชุดสวยหรูราคาประหยัด ดังนั้นแบรนด์นี้จึงฮิตติดตลาดเป็นที่ชื่นชอบของคนหมู่มาก
พุฒิตารับหน้าที่เป็นนางแบบของแบรนด์ SHISHA ในเสื้อผ้ารุ่นราคาจับต้องได้ เนื้อผ้าที่ทางเจ้าของแบรนด์เลือกใช้นั้นใกล้เคียงกับรุ่นเอ็กซ์คลูซีฟอย่าง SHISHAx เพียงแต่ลูกเล่นและดีไซน์จะต่างกันเล็กน้อย
วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่เธอต้องถ่ายแบบมาราธอนกับเสื้อผ้าคอลเล็กชันใหม่ร่วมสิบสองชุด คู่กับดาราสาวภายใต้สังกัดของเพื่อนเธอและเป็นนางแบบของแบรนด์ SHISHAx
สตูดิโอถ่ายแบบเป็นอาคารโมเดิร์นสามชั้นย่านใจกลางเมือง ตัวอาคารออกแบบอย่างคำนึงถึงการใช้งานแบบมัลติฟังก์ชัน เป็นทั้งออฟฟิศ สตูดิโอ และห้องเสื้อ รองรับลูกค้าได้มากมาย แบ่งสัดส่วนได้เป็นอย่างดี ด้านหลังของอาคารยังมีบ้านเดี่ยวหลังเล็กปลูกอยู่ เป็นที่พักอาศัยสำหรับพนักงานตัดเย็บ
การถ่ายแบบในวันนี้กินเวลาตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงสี่ทุ่ม พุฒิตาเหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อเป็นงานที่ได้รับมอบหมาย เธอจึงตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุด
“เดี๋ยวเดือนหน้าพี่จะออกคอลเล็กชันชุดหนังลาเท็กซ์ เตยสนใจมาเป็นแบบไหม” ชิฌาผู้เป็นเจ้าของแบรนด์เดินเข้ามาทักทายพุฒิตาที่กำลังเก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน
“ชุดแบบไหนเหรอคะพี่ มันจะโป๊มากไหม”
“มีหลายแบบ ที่ไม่ได้โชว์เนื้อหนังมากก็มี ยังไงเดี๋ยวถ้าพี่ได้ตัวอย่างมาแล้วค่อยเข้ามาดูชุดอีกทีนะ”
ชิฌาเป็นเจ้านายสาวที่ใจดีมาก ให้เกียรตินางแบบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนางแบบอิสระ ดารา หรือนางแบบประจำ เธอไม่เคยยัดเยียดหรือบังคับว่าต้องใส่ชุดใดชุดหนึ่งเท่านั้น ทุกคนมีสิทธิ์เลือกได้ว่าอยากจะใส่ชุดที่เธอจัดเตรียมมาหรือไม่ เพราะเธอถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้รู้ว่า ชุดที่เธอออกแบบมานั้นมีคนต้องการใส่มันจริง ๆ หรือเปล่า
“ได้ค่ะพี่”
“แล้วนี่จะกลับเลยเหรอ ไปกินบุฟเฟต์ด้วยกันก่อนไหม” เพราะวันนี้ทุกคนโหมงานกันอย่างหนัก ชิฌาจึงอยากตอบแทนด้วยการพาไปเลี้ยงบุฟเฟต์
“วันนี้ยังดีกว่าค่ะ พอดีต้องกลับไปดูตุ๋นตุ๋นค่ะ”
“อ๋อ เซเลบตัวนั้นนี่เอง ว่าง ๆ พามาให้เล่นบ้างนะ”
“หูย กลัวแต่มันจะมาฝนเล็บกับชุดของพี่น่ะสิคะ หนูได้ชดใช้อานเลย”
หญิงสาวทั้งสองหัวเราะ
ทั้งคู่สนทนากันอีกเล็กน้อยแล้วต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไป พุฒิตารีบเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชันทันทีที่มีโอกาส ก่อนออกไปรอที่หน้าห้องเสื้อ
เพียงไม่นาน รถโดยสารก็มาจอดตรงหน้า เธอก้าวขึ้นรถทันทีด้วยความอยากกลับห้องไปเจอเจ้าแมวสุดที่รัก ต้องมานั่งเบื่ออยู่ในห้องสี่เหลี่ยมตัวเดียวทั้งวัน ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้างแล้ว
...
“ตุ๋นตุ๋น~ มี้กลับมาล้าววว” เปิดประตูห้องพักเข้ามา สิ่งแรกที่ทำคือเรียกหาเจ้าแมวน้อยทันที
ปล่อยให้แมวอยู่ตัวเดียวทุกวี่วัน มีหน้ามาทำเสียงออดอ้อนอีก แมวไม่หลงกลหรอกนะ!
แมวไร้ขนคิดพลางเมินเฉยกับเสียงเรียกของทาส
“โอ๋ ๆ มากินขนมนี่เร็ว” เมื่อได้ยินว่าขนม เจ้าหมูตุ๋นก็กระโดดลงจากตู้อย่างระริกระรี้ เข้ามาคลอเคลียที่ขาของเธอทันที
“แง้ว~”
“คิดถึงมี้ใช่ไหม” ระหว่างพูดก็ฉีกซองขนม แล้วยื่นให้มันเลียจนหนำใจ
“แง้ว~” ไม่เลยสักนิด!
ฟัดแมวโดยเอาขนมล่อจนสมใจแล้ว เธอก็จัดการเติมอาหาร ทำความสะอาดกระบะทรายให้มัน ต่อมาค่อยจัดแจงหามื้อดึกให้ตัวเอง
ระหว่างที่กำลังนั่งซดซุปบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในชาม คำชวนของชิฌาก็ลอยแว่วอยู่ในความทรงจำของเธออีกครั้ง
บุฟเฟต์!
จากที่ลืมมันไปแล้ว ตอนนี้มันกลับมาหลอกหลอนเธออีก
“ตุ๋นตุ๋น มี้มีลางสังหรณ์แปลก ๆ” เธอหันไปมองเจ้าหมูตุ๋นที่กำลังเลียเท้าตัวเองอย่างเมามัน
“แง้ว” เจ้าหมูตุ๋นส่งเสียงตอบรับมาหนึ่งครั้ง จากนั้นก็ไม่สนใจทาสสาวของตนอีก เอาแต่เลียเนื้อตัวที่เหี้ยนเตียนของตน โดยไม่ได้รับรู้เลยว่าถ้าทาสสาวของตัวเองมีปัญหา ตัวมันก็จะพลอยโดนหางเลขไปด้วย
“สนใจกันบ้างซี ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมามี้จะทำยังไง ฮือ...” เธอเอาแต่คิดจมจ่อมอยู่กับเรื่องหอยนางรมเจ้าปัญหา คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพิมพ์หากลุ่มเพื่อนรัก
ห้องแชต: สี่แซ่บโบ๊ะบ๊ะ
Toei: พวกแก...ทำไรกันอยู่
Fairy Fah: อยู่กับแบมแบม
BamBam: อยู่กับอิฟ้า
BamBam: แล้วแกล่ะ
Toei: อยู่กับตุ๋นตุ๋น
Toei: ลำยอง!
Fairy Fah: แมวเถื่อน!
Toei: นี่อย่ามามู่ลี่แมวฉันนะ
BamBam: ลำยง ลำยองอีกแล้ว ชาวบ้านเขามีแต่ลำไย!
Fairy Fah: ก็กิมมิกของมันอะ ทักมามีอะไรนะ
Toei: ฉันอยากล้องไห้
BamBam: เพนอาราย
Toei: ฉันกลัวลูกค้าขรี้แตก
Fairy Fah: หือ วอตแฮปเพ่น
Toei: เชฟกิ่งอ่า พักนี้ผีเข้าหรือไงก็ไม่รู้ ให้ฉันเอาหอยนางรมใกล้เน่าให้ลูกค้ากิน
Fairy Fah: ห๊า!
Toei: เฮล์ปหมี๋
BamBam: แตกแน่มึง!
Fairy Fah: นังแบม แกจะไปพูดให้มันประสาทแดกทำไม
BamBam: อะล้อเล่น แกทำไรไม่ได้หรอกนอกจากสวดมนต์ วิงวอนให้เจ้ากรรมนายเวรละเว้นแก ขนาดหอยธรรมดายังแตก นี่หอยเน่า...บอกเลยว่าไม่รอด!
Fairy Fah: นังแบม แกก็เวอร์ไป นมบูดฉันก็ยังเคยกินมาแล้วไม่เห็นมีปัญหา
BamBam: อะโห ช่างกล้า แม่กระเพาะเหล็กทองแดง สายแข็งสินะ...ขรี้แข็ง
Toei: พวกแก...เลิกย้ำซะทีเรื่องขรี้ ๆ เนี่ย ฮือ
Fairy Fah: อะๆๆ ไม่น่ามีไรหรอกแก ทำใจให้สบาย ๆ แล้วไปนอนกอดแมวเถื่อนนั่นไป
BamBam: จริง ฝากจุ๊บ ตุ๋นตุ๋นไข่ใหญ่ด้วยนะ คิดถึงว่ะ
Toei: แต่ฉันสังหรณ์แปลก ๆ ว่ะ
BamBam: โอ๊ย แกผู้ไม่เคยแทงหวยถูกสักงวด ครั้งนี้คงไม่แจ็กพอตหรอก เชื่อสิ...
Toei: จุก!
Fairy Fah: จริง!
BamBam: กินวีต้า สวดมนต์ แล้วไปนอนซะ
Fairy Fah: เรื่องยังไม่เกิดอย่าเพิ่งประสาทแดกค่ะเพื่อน
Toei: เคเค
Wann: ฉันเพิ่งอ่านสือเสร็จ
BamBam: โห นังเค็ม ลำยอง! เขาแยกย้ายกันหมดแล้ว แกเพิ่งมีอินเทอร์เน็ตเหรอไง
Wann: ฉันชื่อหวาน และฉันปิดเสียงเลยไม่รู้ย่ะ
Wann: ใครขี้แตกเหรอ
BamBam: อ่านเอา ขี้เกียจอธิบาน
BamBam: บาย*
Wann: เคเค บาย
BamBam: กูเพลียยย
Wann: เพลียก็ไปนอนค่ะ ลำยองค่ะเพื่อน (ขอยาดยืมคำนังเตยมาใช้)
Wann: หอยนางรม
Wann: บอกเลยขี้แตกแน่นอน
Wann: โอเค ฉันไปนอนแล้วนะ แกอย่าคิดมากนะเตย
BamBam: เออดี นังหวาน พูดเองคนเดียวก็ได้ด้วยเว้ย ลำยอง!!!
ไม่น่าทักไปเลย บ้าบอจริงเชียว ยัยพวกนี้ไม่ได้ช่วยไรเลย แต่เอาวะ อย่างน้อยก็ได้ระบาย
ค่ำคืนนั้นผ่านพ้นไปพร้อมกับการกกกอดความเชื่อว่าเธอคงไม่แจ็กพอตแตกคราวนี้หรอก...
“ถ้าอย่างนั้นเตยขอลากลับก่อนจะได้ไหมคะ กลัวจะจัดของไม่ทันค่ะ” ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร เธอก็ต้องรีบลากลับบ้านเสียแล้ว“เอาเถอะ ไว้พรุ่งนี้หรือวันหลังแม่แวะไปหาที่บ้านเจ้าเชนแล้วกันนะ” คุณนายสุพรรณีรู้สึกเสียดาย ยังไม่ทันได้ศึกษาอุปนิสัยของว่าที่ลูกสะใภ้เลย ก็ต้องส่งเธอให้กับเจ้าลูกชายสุดแสบเสียแล้ว ความรู้สึกนี้มันช่างเหมือนตอนที่กำลังจะส่งชิฌาเข้าเรือนหอเลยไม่ผิดเพี้ยนร่ำลากันเสร็จ พุฒิตารีบเดินทางกลับห้องพักพร้อมเจ้าหมูตุ๋น และห้องน้ำแมวอันใหม่ที่เพิ่งจะได้มา ทำการเก็บข้าวของลงกล่องและกระเป๋าเดินทางในแบบฉบับที่คิดว่าหยิบอะไรได้ก็ยัด ๆ ไปก่อนเมื่อแพ็กของตัวเองเรียบร้อย เธอจึงหันไปจัดแจงเก็บของใช้ของเจ้าหมูตุ๋น ไม่ว่าจะเป็นกระบะทราย ที่นอนแมว และของเล่นสารพัดอย่างที่กระจัดกระจายอยู่ทุกมุมห้องทุกอย่างดูเหมือนจะเสร็จสิ้น เหลือบไปดูเวลาก็พบว่าขณะนี้ล่วงเลยไปจนห้าทุ่มแล้วนี่เธอยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่เช้า! ว่าแล้วก็คุ้ยหาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กดน้ำร้อนใส่รอประมาณสามนาทีแล้วก็นั่งซดไปพลางเปิดแชตพิมพ์หากลุ่มเพื่อน ๆ ไปพลางToei: นอนแล้วยังสาว~Wann: ยางงงงงToei: ทำไรอะหวาน ดึกมว้ากWa
ชิฌาขับตามทางเข้าไปจอดภายในโรงจอดรถ จากนั้นหันมาแซวหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านหลังนิดหน่อย“เป็นยังไง เห็นบ้านแล้วลมแทบจับเลยไหม”ใช่…ลมแทบจับ หวังว่าบ้านของคุณเชนอะไรนั่นจะไม่ใหญ่เท่านี้หรอกนะตอนที่ขับผ่านเพียงหน้าบ้านก็เล่นเอาเธอคิดสะระตะว่า ถ้าต้องทำความสะอาดบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้คนเดียว มีหวังเธอคงตายคาที่แน่นอน“เดี๋ยวเราเข้าไปคุยรายละเอียดกันในบ้านดีกว่า” ชิฌาเสนอ เพราะทุกคนต่างนั่งรถเดินทางกันมาเหนื่อยๆ ถึงระยะทางไม่ไกล แต่การจราจรที่ติดขัดเกินไปก็สร้างความเมื่อยล้าให้กับผู้โดยสารได้เช่นกันเมื่อเข้าไปภายใน พุฒิตาวางตะกร้าเจ้าหมูตุ๋นลงข้าง ๆ เพราะระยะทางระหว่างโรงจอดรถกับตัวบ้านก็ใช่ว่าจะใกล้ ๆ แบกมานาน ๆ เล่นเอากล้ามแขนแทบขึ้นเช่นกันจากนั้นเธอก็ก้มลงถอดรองเท้าแล้วนำไปวางบนชั้นที่จัดไว้สำหรับแขกผู้มาเยี่ยมเยือน“แมวชื่ออะไรเหรอจ๊ะ” คุณนายสุพรรณีถามขึ้น“หมูตุ๋นค่ะ”“มันไม่อึดอัดเหรออยู่แต่ในกรง ไหนจะต้องกินน้ำ ขับถ่ายอีก” จะว่าไปตัวมันก็ดูเนียนน่าสัมผัสพิกล“ไม่หรอกค่ะ มันชินแล้ว” เมื่อก่อนเธอเคยหิ้วมันไปด้วยทุกที่ แต่นั่นก็ค่อนข้างนานมาแล้วเหมือนกัน“ถ้าน้องไม่ข่วนข้าวของ ไม่เข้าห้อ
Toei: โอ๋ยยย เอาดี ๆ ชมอยู่LadyGecko: บอกแล้ว ฉันแม่น ฉันเก่ง ฉันสวย และรวยมว้ากToei: ไหนบอกมีหนี้เยอะLadyGecko: นังลูกจกตกอับ เคยได้ยินคำนี้ไหม ‘รวยหนี้’ นั่นแหละแม่เลยLadyGecko เพิ่มคุณเป็นเพื่อนToei: ไหนบอกจะเพิ่มเพื่อนต้องเสียเงินไงLadyGecko: ยกให้เป็นกรณีพิเศษ ไว้ลับฝีปาก แต่ถ้าจะดูดวงจ่ายเงินนะบอกก่อนToei: ลับฝีปากอะไรก๊อน ลูกจกออกจะเรียบร้อยดุจผ้ายับที่พับไว้ แต่เดี๋ยวแชร์ให้ค่าLadyGecko: ดีมาก แล้วอย่าลืมไปตามหาญาติด้วยนะ เผื่อมีญาติเหลืออยู่Toei: ตอนนู้นเจ้าหน้าที่เหมือนเคยตาม แล้วบอกว่าประสานงานติดต่อไม่ได้LadyGecko: บางทีเขาอาจจะตกหล่น ถ้าไม่เขาตกหล่น ก็ฉันมั่ว แค่นั้น จะเสียหายอะไรToei: โอเคร ขอบคุณมัก ๆ แม่จก ไว้ลูกจกจะเอาธูปเทียนและพานดอกไม้ไปกราบไหว้LadyGecko: เปลี่ยนจากธูปเทียน พานดอกไม้ เป็นพวงมาลัยเงินทองแล้วกันนะToei: งก!LadyGecko: ยอมรับ ฉันไปก่อน ง่วงจะนอนหลังจากได้แชร์ความสุขกับใครสักคนแล้ว พุฒิตามุ่งตรงกลับไปยังหอพักของตัวเอง และเริ่มลงมือเก็บข้าวของอย่างจริงจังสิ่งหนึ่งที่เธอกังวลมากคือ เจ้าหมูตุ๋นแมวเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างจะติดที่ เธอเคยอ่านเจอ บ
เดี๋ยวนะ...ผู้ชายฟรี แล้วเชนไหน ไม่ใช่เชนเดียวกันใช่ไหม พุฒิตาหวั่นใจแต่ไม่กล้าถาม ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้เงินก้อนมาใช้หนี้ เธอปลอบใจตัวเองว่าชื่อนี้คงโหลมากกว่า“ถ้าอย่างนั้นก็ขอผ่อนเดือนละแปดหมื่นห้าพันบาทค่ะคุณป้า ประมาณสองปีครึ่งน่าจะหมดค่ะ” พุฒิตาคำนวณหนี้สินในหัวอย่างรวดเร็ว ทางออกอยู่ตรงหน้า ต่อให้นอนในรูหนู เธอกับตุ๋นตุ๋นต้องผ่านมันไปให้ได้ อย่างมากก็แค่สามปีเท่านั้น ไม่นับว่านานเลย“โอเค แล้วนี่พร้อมเริ่มงานเมื่อไรดี ป้าจะได้โทรบอกลูกชายของป้า” คุณนายสุพรรณีดีใจจนเนื้อเต้น อยากจะจับหนูเตยคนนี้ไปส่งให้ถึงมือลูกชายเธอเสียวันพรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ เธอเชื่อว่าลูกชายจอมซนของเธอต้องไม่ปล่อยหนูเตยที่แสนจะน่ารักไปอย่างแน่นอน“จะว่าไปก็เริ่มได้เลยค่ะคุณป้า ว่าแต่ที่ทำงานเลี้ยงแมวได้ไหม เตยมีแมวหนึ่งตัว แต่มันเรียบร้อยมากค่ะ” เรื่องเรียบร้อยหรือไม่ เอาไว้ไปตายเอาดาบหน้าแล้วกันนังเตย ตอนนี้ขอให้มีงานทำก่อน ตอนนี้ต้องรอด ท่องไว้ต้องรอด!“งั้นดีเลย เดี๋ยวป้าให้คนไปช่วยขนของมาเลยดีไหม เริ่มงานพรุ่งนี้เลยเป็นไง” คุณนายสุพรรณีไม่ตอบเรื่องแมว เพราะเธอรู้ดีว่าหากนำเจ้าแมวเข้าบ้านแล้วจะเกิดอะไรขึ
“เดี๋ยวก่อนสิแม่...อยู่ ๆ จะเดินไปบอกให้เตยมาแต่งงานกับลูกชายของแม่มันจะละครไปหน่อยไหมคะ แล้วอีกอย่างเรายังไม่รู้พื้นเพของเตยดีพอเลยนะคะ” ชิฌารีบหยุดแม่ของตน ใจคอจะไม่ไตร่ตรองศึกษานิสัยใจคอกันดูก่อนสักหน่อยรึยังไงนะ“ใจเย็น ๆ อาณี สองคนนี้เขามีดวงที่เสริมเกื้อหนุนกัน แต่ดูท่าช่วงนี้อาจจะมีปัญหากัน อย่างไรเสียตอนนี้เราก็หาทางให้เขาได้รู้จักคุ้นเคยกันก่อน เรื่องแต่งงานค่อยว่ากันหลังจากนี้ก็ไม่สาย” ซินแสสำทับอีกแรง“แล้วไหนซินแสบอกว่าตาเชนต้องแต่งภายในสองปีนี้ล่ะคะ” เธอรีบท้วง เพราะเกรงว่าลูกชายตนจะเป็นคนไร้คู่ และไม่มีทายาทสืบทอดให้“อั๊วว่าลื้อก็แก่แล้วนะ ทำเป็นใจร้อนเป็นวัยรุ่นไปได้”“ใช่ค่ะแม่ ตอนนี้เรามาหาทางช่วยน้องเตยเรื่องเงินก่อนดีไหมคะ” ชิฌาเสนอขึ้น เพราะตอนนี้ปัญหาใหญ่ของนางแบบสาวในสังกัดเธอคือเรื่องเงิน ไม่ใช่เรื่องคู่ครอง“จริงด้วย งั้นแม่ให้เตยเขาไปเลยดีไหม เท่าไรนะ สามล้านหรือเปล่า” เธอหันไปถามบุตรสาวที่นั่งข้าง ๆ“สองล้านแม่...มันก็ได้อยู่หรอกค่ะ แต่หนูว่าเตยเขาคงไม่รับมาฟรี ๆ แน่นอน”“นั่นสิ มันดูจะเป็นนิยายเกินไป อยู่ ๆ ก็มีคนเอาเงินมาให้ตั้งสองสามล้าน เดี๋ยวแม่ขอคิดก่อ
“ช่วงนี้รู้สึกว่าดวงตก มีการใส่ร้าย โยนความผิดด้วยใช่ไหม” ซินแสเมิ่งเปิดประเด็น“ใช่ค่ะ” ทันทีที่ตอบออกไป คุณนายสุพรรณีที่นั่งอยู่อีกข้างกระถดตัวเข้ามาใกล้ และทำคอยื่นยาวเพื่อส่องดูกระดาษที่ซินแสเขียน“ลื้ออยู่เฉย ๆ เลยอาณี หดคอกลับไป ขออั๊วคุยกับหนูเตยก่อน” คอยืดยาวประหนึ่งยีราฟค่อย ๆ หดกลับเข้าที่พร้อมสีหน้าสลดราวกับเด็ก ๆ ทำผิดแล้วถูกจับได้ดีแค่ไหน...ซินแสเพียงปรามด้วยคำพูด ไม่ช่วยดันศีรษะกลับเข้าที่ให้ได้เขินอายไปมากกว่านี้ภาพตรงหน้าทำให้ชิฌาถึงกับส่ายหัว ความชอบกินเผือกเสพดราม่าของอดีตนางเอกเบอร์ต้นระดับประเทศอย่างแม่ของตนช่างไม่มีใครเกินจริง ๆพุฒิตาเองก็ตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนรู้สึกเข้าใจหัวอกคุณแม่เจ้านายเป็นอย่างดี ตอนหมอดูทำนายดวงให้เพื่อน สภาพคอเธอก็เป็นอย่างนี้ไม่ผิดเพี้ยนซินแสเมิ่งเริ่มสนทนาถามไถ่ถึงปัญหาของพุฒิตา เธอจึงเล่าเหตุการณ์นับตั้งแต่วันที่บุพการีเสียชีวิต กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการพาพุฒิตาไปอาศัยยังบ้านเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง เธอให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อยู่อาศัยที่นั่นพร้อมเรียนหนังสือจนกระทั่งจบมัธยมปลายพอได้วุฒิม.หกในขณะอายุสิบเจ็ดปี เธอก็กลับมาสมัครงานเป็นพนักง







