รักต้องแลก
Writer : Aile'N
ตอนที่ 11
หมับ
"อะ...คุณอัค?" นิชาที่กำลังกระซิบกระซาบคุยกับเพื่อนชายเนื่องจากเสียงเพลงดัง ตัวลอยวืดออกมาด้วยแรงกระชากของใครบางคน เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบใบหน้านิ่งเรียบของเจ้านายหนุ่ม ที่ไม่รู้ว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
"ไปกับผม" น้ำเสียงดุดันเอ่ยสั่ง พร้อมกับกระชากข้อมือเล็กให้ลุกขึ้นยืน
"ไปไหน นี่ไม่ใช่เวลางานนะคะ" นิชาที่เริ่มเมาได้ที่ขัดขืนไม่ยินยอม
"แล้วยังไง ผมสั่งคุณได้ทุกเวลาคุณก็รู้" อัคคียื่นหน้าเข้าไปกระซิบขู่ใกล้ๆ เผื่อความเมาจะทำให้ร่างบางหลงลืมไปว่ายังมีสัญญาคู่นอนสองปีอยู่
"แต่นิมากับเพื่อน" เสียงหวานแย้งอย่างไม่ยินยอม ถ้าเป็นปกติเธอคงจะทำใจไปกับเขาง่ายๆ แต่ตอนนี้อารมณ์ของเธอไม่ปกติ มันแปรปรวนและคนที่ไม่อยากเจอหน้าที่สุดก็คือเขา!
"จะไปดีๆ หรืออยากให้เพื่อนคุณเดือดร้อน?" อัคคีขบกรามขู่เสียงต่ำ และนิชาก็รู้ซึ้งถึงอำนาจที่เขามีมากกว่าใคร ดวงตาคู่สวยจ้องหน้าเขาด้วยความโกรธจัด แต่เธอก็ยังมีสติอยู่และไม่อยากให้เพื่อนต้องมาเดือดร้อนทั้งที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วย
"...วี เดี๋ยวเราไปต่อกับเจ้านาย ฝากบอกเพียวด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวกลับเอง" นิชาข่มอารมณ์หันไปบอกเพื่อน ฝืนยิ้มบางๆ เพื่อให้อีกฝ่ายเบาใจ
"เดี๋ยวดิ!" วีที่ไม่รู้เรื่องอะไรแต่ก็เห็นๆ อยู่ว่านิชาไม่เต็มใจไป ทว่าอัคคีก็ไม่รอฟังอะไร เขาดึงแขนนิชาออกไปอย่างรวดเร็ว วีกำลังจะตามไปแต่เพียวที่ไปเข้าห้องน้ำกลับมาพอดี
เพียวที่เห็นเหตุการณ์ไกลๆ มาตั้งแต่แรกและจำได้ว่าผู้ชายคนนั้นคือเจ้านายของนิชาจริงๆ จึงรั้งวีไว้ไม่ให้ตามไป เพราะรู้ว่าเพื่อนจะไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน
นิชาที่ถูกร่างสูงลากมายังมุมอับของร้านที่มีแค่แสงไฟมืดสลัว ถูกดันเข้าหากำแพงด้วยแรงไม่เบานัก ก่อนที่เขาจะยืนคร่อมตัวเธอไว้ด้วยท่าทางหงุดหงิดงุ่นง่าน
"ผมบอกแล้วใช่มั้ยว่าห้ามยุ่งกับผู้ชายคนอื่น!" เขาตะคอกเสียงดังเหมือนเธอไปวางเพลิงเผาบ้านเขาก็ไม่ปาน อาการหมาบ้าเข้าสิงอีกแล้ว
"คุณรู้จักคำว่าเพื่อนมั้ยคะ เผื่อคุณไม่รู้นะคะว่าผู้หญิงกับผู้ชายสามารถเป็นเพื่อนกันได้!" นิชาเองก็ไม่ยอมให้เขาขึ้นเสียงอยู่ฝ่ายเดียว ในเลือดของเธอมีแอลกอฮอล์ไม่น้อยส่งเสริมให้กล้าต่อปากต่อคำมากกว่าปกติ
"แล้วรู้ได้ยังไงว่ามันคิดกับคุณแค่เพื่อน!" อัคคีขบกรามแน่น ไม่ทันฉุกคิดว่าทำไมถึงโมโหได้ขนาดนี้
"แล้วคุณจะมาหงุดหงิดเอาอะไรคะ คุณเองก็มีคู่หมั้น นิจะมีใครหรือไม่มีมันผิดตรงไหน เราก็แค่คู่นอน ไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย!" ร่างบางทั้งเมาทั้งโมโห ความรู้สึกต่างๆ มันสะสมมาตั้งแต่เมื่อกลางวันที่เห็นเขาอยู่กับคู่หมั้นแล้ว
"สัญญาก็คือสัญญา คุณเขียนเองนี่ว่าห้ามไปมีอะไรกับใคร!" อัคคีไม่ได้คิดว่าตัวเองผิดเลยแม้แต่น้อย คู่หมั้นก็แค่สถานะ เขาไม่เคยมีอะไรเกินเลยกับไอริณเลยแม้แต่ครั้งเดียว
"แล้วคุณคิดว่านิไปมีอะไรกับใครงั้นเหรอคะ!" นิชาทวีความโกรธมากกว่าเดิมหลายเท่า เพราะถ้าเขาคิดแบบนั้นจริงๆ เขาก็โคตรจะดูถูกเธอเลย!
"นิไม่เหมือนคุณนะคะ ที่จะเที่ยวไปมีอะไรกับใครที่ไหนก็ได้!"
"แล้วปกติคุณแต่งตัวแบบนี้หรือไง!"
"แล้วทำไมจะแต่งไม่ได้คะ มันเรื่องส่วนตัว! ถามตัวเองเถอะค่ะว่าเดือดร้อนกับการแต่งตัวของคนอื่นเขาทำไม!" ร่างบางต่อปากต่อคำเก่งกว่าตอนไม่เมาเสียอีก ยิ่งพูดเสียงยิ่งดัง ดวงตาที่มองสบกันยิ่งแข็งกร้าว จนอัคคีทนไม่ไหว
มือหนาดึงเธอเข้ามากระแทกอกก่อนรั้งท้ายทอยเล็กขึ้นมารับจูบ นิชาดิ้นขัดขืนแต่เรี่ยวแรงมีน้อย ยิ่งทำให้อัคคีควบคุมเธอได้อย่างง่ายดาย ลิปสติกที่ทามาสวยๆ เปรอะเปื้อนปนน้ำลายไปทั่วทั้งปากเธอและปากเขา รสจูบที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธมีแต่ความดุดันและเจ็บแสบจากรอยฟันที่ถูกขบกัดจนได้เลือด เนิ่นนานกว่าเขาจะพอใจริมฝีปากบางเล็กก็บวมช้ำไปหมด
"...กลับ!" มือใหญ่กระชากข้อมือเล็กให้เดินตามออกไปที่รถ เธอถูกเขาจับยัดใส่รถแต่ยังไม่ขับออกไปในทันที ต่างฝ่ายต่างนั่งสงบสติอารมณ์อยู่คนละฝั่ง นานหลายนาทีอัคคีก็สตาร์ทรถขับออกไปด้วยความเร็ว
"นี่คุณ ปล่อยนะ นิจะกลับบ้าน!"
นิชาโวยวายพยายามจะดึงมือออกจากการเกาะกุมเมื่อถูกพามาที่คอนโดของเขา แต่แรงน้อยนิดไม่สามารถทำอะไรได้ เธอถูกลากเข้ามาในห้องและจบลงบนเตียงด้วยความไม่เต็มใจ แต่อาการมึนเมาก็ทำให้คล้อยตามได้อย่างง่ายดาย...
..
..
นิชาตื่นขึ้นมาในช่วงสาย รู้สึกมึนหัวนิดๆ เลยยังไม่ลุก ได้แต่นอนมองเพดานนิ่งพลางนึกคิดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างจนกระทั่งจดจำเรื่องราวได้ทั้งหมด จริงอยู่ว่าเธอเมาแต่ก็ไม่ได้เมาถึงขนาดภาพตัดจำอะไรไม่ได้
ตากลมกวาดมองไปรอบๆ ห้องก่อนถอนหายใจหนัก ปกติถ้าเป็นไปได้เธอจะไม่ค้างที่นี่ไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อคืนนี้เธอเหนื่อยมากจริงๆ กว่าเขาจะยอมปล่อยเธอก็ดึกมาก แทบจะไม่มีเรี่ยวแรงกระดิกตัวไปไหน
ร่างบางทอดสายตามองเจ้าของห้องที่กำลังยืนหันหลังกินกาแฟอยู่ที่ริมระเบียง ในสภาพผ้าเช็ดตัวพันเอวผืนเดียว หัวเปียกๆ ยุ่งๆ น่าจะเพิ่งตื่นก่อนเธอไม่นาน รอยสักรูปงูตัวใหญ่ยังคงน่าหลงใหลและน่าหวาดกลัวในบางทีเหมือนกับเจ้าของของมัน
นิชาถอนสายตาพลางถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนลุกไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดใหม่ที่อีกฝ่ายซื้อมาตุนใส่ตู้ไว้ให้ เวลานัดมาทำเรื่องบนเตียงจะได้มีใส่กลับ เมื่อเรียบร้อยนิชาก็หยิบกระเป๋าสะพายตรวจดูสัมภาระก่อนจะเดินออกไปโดยไม่บอกกล่าวอะไรสักคำ
"ใครอนุญาตให้กลับ?" อัคคีได้ยินเสียงเคลื่อนไหว ก่อนหันมาเจอนิชาที่กำลังจะเปิดประตูห้องนอนออกไปพอดี
"...แล้วจะให้อยู่ทำไมคะ นี่ก็วันทำงานด้วย" นิชาหันมาพูดเสียงเรียบ เธอยังคงไม่พอใจและสงสัยว่าที่เขาเอาเปรียบเธอไปเมื่อคืนยังไม่พอใจอีกหรือไง ยังจะเอาอะไรจากเธออีก
"วันนี้ไม่ต้องเข้าบริษัท อยู่นี่แหละ" เขาสั่งอย่างคนเอาแต่ใจ หมาบ้ายังไม่ออกจากร่างสินะ...
"อยู่ทำไมคะ"
"ผมสั่ง"
นิชาจ้องหน้าอัคคีนิ่ง โกรธเหมือนกันแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เลยเดินไปกระแทกตัวลงนั่งตรงโซฟา ไขว่ห้างกอดอกแสดงออกถึงความไม่พอใจ
"ไปกินข้าว" ร่างสูงพูดก่อนเดินนำออกไปข้างนอก
ร่างบางลุกตามไปอย่างไม่เต็มใจ ก็ลองไม่ตามไปสิ คงได้กลับมาฉุดกระชากลากถูเธอไปอีก
อาหารถูกจัดวางไว้แล้วเต็มโต๊ะ อัคคีนั่งรออยู่เธอจึงนั่งลงฝั่งตรงข้าม เห็นเขานุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวกินข้าวแล้วก็รู้สึกแปลกๆ อะไรจะชิลปานนั้น
ทั้งสองคนต่างเริ่มทานข้าวโดยไม่พูดอะไรกันเลยสักคำ ทานเสร็จนิชาก็เก็บล้างให้ตามหน้าที่ กลับออกมาเห็นร่างสูงนั่งดูหนังอยู่ในห้องนั่งเล่น เปลี่ยนมาใส่ชุดลำลองเรียบร้อย
"มานั่ง"
เขาเรียก เธอจึงเดินไปนั่งลงข้างๆ แต่เว้นระยะห่างกันพอประมาณ พลันนึกขึ้นได้ว่าแม่คงเป็นห่วงเลยเปิดโทรศัพท์ดู มีข้อความจากแม่เข้ามาจริงๆ เลยตอบไปว่าเมื่อคืนค้างห้องเพื่อนและเช้าก็ออกไปทำงานเลย เมื่อตอบไลน์แม่แล้วก็แวะตอบไลน์เพื่อนด้วย
Pure : ไอ้นิ เป็นไงบ้าง ตื่นแล้วรายงานด้วย
Nicha : สบายดี หงุดหงิดนิดหน่อย
Pure : กว่าจะตอบ กูก็ห่วงไปเหอะ
Nicha : ก็บอกไอ้วีไว้แล้วนี่ มันบอกมึงว่าไง
Pure : รู้ว่าไปกับเขา กูก็เห็นไกลๆ อะ แต่อะไรจะบังเอิญขนาดนั้นวะ
Nicha : กูก็คิดเหมือนมึงนั่นแหละ แม่ง มาถึงก็เอาแต่สั่ง ขู่ฟ่อๆ เป็นหมาบ้า เห็นกูแต่งตัวหน่อยก็ไม่ได้ วุ่นวายไม่เข้าเรื่อง!
Pure : เขายุ่งกับการแต่งตัวมึง? ก็แสดงว่าหึงอะดิ เห็นมั้ยกูบอกแล้วว่าถ้าได้เห็นนะ หลงไม่ไหว!
Nicha : ผีเข้ามากกว่ากูว่า แต่ก่อนไม่เห็นวอแวกูขนาดนี้ ไม่รู้เจ้านายหรือเจ้ากรรมนายเวร!
Pure : มึง! อาการผู้ชายเวลามันหึงมันหวงมันดูไม่ยากหรอก มันจะเหมือนหมาบ้าอย่างที่มึงว่านั่นแหละ
Nicha : ก็แค่ผู้ชายเจ้าชู้! ตอนเที่ยงนั่งกินข้าวกับคู่หมั้นหวานชื่น ตกเย็นมาทำกับกูแบบนี้กูคงจะดีใจมากมั้ง
Pure : เออ ถ้าเป็นกู กูก็ไม่โอเคว่ะ ทนๆ เอาแล้วกัน สองปีก็หลุดพ้นละ
Nicha : เออๆ แค่นี้ก่อน มองกูตาเขียวแล้ว
นิชาวางโทรศัพท์ลงข้างตัว เมื่อสัมผัสได้ถึงไอเย็นทะมึนๆ ที่แผ่มาจากด้านข้าง เธอนั่งดูหนังเป็นเพื่อนเขาโดยไม่มีบทสนทนาใดๆ เกิดขึ้น พอถึงกลางๆ เรื่องก็เริ่มง่วง พยายามฝืนหนังตาที่หนักอึ้งแต่สุดท้ายก็ฝืนต่อไปไม่ไหว นั่งหลับไปทั้งอย่างนั้น
อัคคีที่หันมาเจอร่างบางนั่งหลับคอพับคออ่อน นั่งมองอยู่พักใหญ่จนแน่ใจว่าเธอหลับลึกแล้วจึงขยับไปนั่งใกล้ๆ ใช้มือค่อยๆ จับศีรษะเล็กเอียงลงมาซบไหล่อย่างระมัดระวังไม่ให้เธอตื่นจนสำเร็จ
พลันมุมปากหยักก็กดยิ้มลึกขึ้นมาอย่างพึงพอใจ ใบหน้าตอนหลับแม้จะเคยได้มองแล้วเมื่อเช้าตอนตื่น แต่ก็มองได้อีกเรื่อยๆ เส้นผมสีอ่อนถูกเกลี่ยออกไปจากกรอบหน้าหวานเบาๆ จนหมด
ตาคมสำรวจทุกองค์ประกอบบนใบหน้าสวยอยู่นาน จนพอใจก็กลับมาสนใจดูหนังต่ออย่างสบายอกสบายใจ ลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้อารมณ์ขุ่นมัวขนาดไหน...
..
..
..
..
มันยังไงคะคุณพรี่
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 27 (ตอนจบ)ผ่านไปหลายเดือนอะไรหลายๆ อย่างก็เริ่มลงตัวมากขึ้น น้องปุณณ์กับน้องปัญญ์ได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติที่มีราคาค่าเทอมพอๆ กับราคาบ้านหลังใหญ่หนึ่งหลัง มีคนขับรถรับส่งอย่างดี ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมีอัคคีเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ไม่เพียงเท่านี้แต่เขายังคิดเผื่อไปถึงชีวิตในรั้วโรงเรียนที่ถึงแม้จะมีแต่ลูกหลานคนรวยก็ใช่ว่าจะมีแต่คนดีๆ ด้วยกลัวว่าหลานๆ จะถูกรังแกหรือดูถูกว่ามาจากครอบครัวธรรมดา อัคคีถึงกับลงทุนรับเด็กทั้งสองมาเป็นลูกบุญธรรม โดยให้ใช้นามสกุล 'ศิระพักตร์พิมล' ของเขาเป็นเกราะคุ้มกัน เพราะถ้าลูกหลานตระกูลไหนกล้ารังแกเด็กๆ ทั้งสองก็เท่ากับตั้งตนเป็นศัตรูกับเขาด้วยเช่นกัน ส่วนแม่ของนิชา อัคคีได้จ้างแม่บ้านมาคอยดูแลและอยู่เป็นเพื่อนเพราะอยากให้เธอย้ายไปอยู่ด้วยกัน ตอนแรกนิชาไม่ยอมเพราะเป็นห่วงแม่ กลัวแม่ไม่มีเพื่อนแล้วจะเหงา เขาก็เลยจ้างแม่บ้านที่ไว้ใจได้สองคนมาคอยดูแล อายุเท่ากันกับแม่เธอหนึ่งคน ไว้คอยอยู่เป็นเพื่อนและหญิงวัยกลางคนอีกหนึ่งคนไว้คอยดูแลบ้านและเรื่องอาหารการกิน มีรถและคนขับรถให้เวลาอยากออกไปข้างนอก คนเจ้าเล่ห์จัดแจง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 26"ครับแม่" บ่ายวันหนึ่งขณะที่กำลังนั่งทำงานตามปกติ ร่างสูงที่มีสายเรียกเข้าก็กดรับสาย แต่พอรู้ว่าปลายสายเป็นใครนิชาก็หูผึ่ง เพราะไม่รู้ว่าแม่ของเขาโทรมาทำไม ที่รู้คือคุณหญิงดาริกาไม่ค่อยชอบเธอตั้งแต่ที่เรียกไปคุยส่วนตัวในวันนั้น พอเกิดเรื่องถอนหมั้นและมีเธอเป็นต้นเหตุ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายจะยิ่งไม่ชอบเธอแค่ไหน หลายครั้งที่ได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับแม่และจบลงที่การทะเลาะ นิชาก็ยิ่งคิดหนัก แม่ไม่ชอบแต่ลูกชายกำลังจีบเธอ ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ที่หลายคนมองว่าเบสิก แต่ก็ทำคนเลิกกันมาตั้งเท่าไร "นิ..." "..." "นิ!" "อะ คะ?" "เหม่ออะไร พี่เรียกตั้งนาน" สรรพนามที่เปลี่ยนไปของอัคคี นิชาไม่เคยชินเลยสักที ไม่พอเขายังบังคับให้เธอเรียกเขาว่าพี่ด้วย "อ้อ เปล่าค่ะ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ว่าแต่มีอะไรเหรอคะ" เธอแสร้งถามเผื่อเขาจะตอบความจริง เพราะความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้มันก้าวข้ามคำว่า 'แฟน' มาไกลมากแล้ว "เย็นนี้ไปทานข้าวบ้านพี่นะ แม่โทรมาชวน" "คะ?" นิชาได้ฟังก็ยิ่งงง เขากับแม่ดีกันตั้งแต่เมื่อไร ถึงขั้นชวนเธอไปทานข้าวที่บ้านด้วย ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกหวาดร
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 25หลังเดินตลาดจนเหนื่อยทุกคนก็เดินกลับโรงแรมและแยกย้ายกันเข้าห้อง อัคคีทำทีเป็นกลับห้องตัวเอง แต่จริงๆ แค่มาอาบน้ำแล้วค่อยแอบออกไปเคาะห้องลูกสาวคนอื่นตอนดึก นิชาที่เห็นเขาไม่ตามมาที่ห้องก็พลันรู้สึกห่อเหี่ยวใจแปลกๆ เพราะคิดว่าเขาจะมานอนด้วยกันอีก พอเขาไม่มาเลยแอบผิดหวัง แต่ก็พยายามสลัดความคิดทิ้งไป หยิบข้าวของเข้าไปอาบน้ำและสวมแค่ชุดคลุมออกมา ขณะที่กำลังจะแต่งตัวก็ได้ยินเสียงเคาะประตู คิดว่าแม่อาจจะมาเลยเดินไปเปิดอย่างไม่คิดอะไร แต่กลับเจออัคคียืนอยู่หน้าห้องและแทรกตัวเข้ามาอย่างถือวิสาสะ "มาทำไมคะ" แม้จะแอบดีใจจนเนื้อเต้น แต่นิชาก็ยังแสดงออกนิ่งๆ เหมือนเดิม "อยากดื่ม มาดื่มกันเถอะ" ร่างสูงชูเครื่องดื่มที่สั่งมาจากบาร์ของโรงแรมให้ดู ก่อนเดินไปนั่งที่เตียง เทเครื่องดื่ม เปิดทีวีดูอย่างสบายใจ นิชาปล่อยเขาดื่มไปก่อน เพราะเธอยังต้องแต่งตัวและเป่าผมให้แห้ง ใช้เวลาสักพักก็เสร็จ เธอจึงปิดไฟสร้างบรรยากาศ เปิดไว้แค่แสงสีส้มจากโคมไฟหัวเตียง เธอขึ้นเตียงไปนั่งข้างเขาแต่ถูกดึงไปนั่งตรงหว่างขา รั้งตัวเอนพิงอกและกอดไว้หลวมๆ ก่อนจะเทเครื่องดื่มให้ พวกเรานั่ง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 24"ปะ ปล่อยได้แล้วค่ะ ไม่ทำนะคะ เดี๋ยวแม่มาเจอ" นิชาพยายามดันร่างสูงออกห่าง ใบหน้าสวยแดงระเรื่อ เขินทั้งจูบหวานๆ และสายตาที่เขาเอาแต่มองมาไม่หยุด "คุณน้าอนุญาตให้ผมจีบคุณแล้ว...แล้วคุณล่ะ" อัคคีไม่ได้ปล่อยมือจากเอวบาง ยังคงกอดไว้อย่างแนบชิด ก่อนจะก้มลงถามความรู้สึกของเธอบ้าง "...คุณแน่ใจแล้วเหรอคะ" นิชาเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะย้อนถามเขา "ผมพูดกับแม่คุณขนาดนั้น คุณยังคิดว่าผมเล่นๆ อีกเหรอ" คิ้วเข้มขมวดชนกันคล้ายว่าจะไม่พอใจที่เห็นเธอยังไม่เชื่อใจเขา "ก็...เปล่าค่ะ แต่บอกตรงๆ ว่านิไม่คู่ควรกับคุณหรอกค่ะ ความรักมันไม่ใช่แค่คนสองคนรักกันแล้วทุกอย่างจะราบรื่น คุณมีครอบครัว มีสังคมสูงๆ ที่ไม่มีทางยอมรับคนธรรมดาอย่างนิ...นิเหนื่อยมามากพอแล้วค่ะ ไม่อยากเจอเรื่องยุ่งยากอะไรอีก..." ร่างบางเปิดเผยสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในใจให้เขาได้รับรู้จนหมด แววตาคู่สวยเศร้าลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องราวมากมายในชีวิตที่ผ่านมา "ผมขอโทษ...ที่เริ่มต้นกับคุณได้ไม่ดี ขอโทษที่เป็นหนึ่งในเรื่องร้ายๆ ในชีวิตของคุณ แต่ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่ยอมปล่อยมือคุณเด็ดขาด ให้โอกาสผมสักครั้ง ผมจะทำให้ค
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 23"เย่ๆ ทาเล๊~~" หลังจากที่คุณอาไฟบอกว่าจะพาไปเที่ยวทะเลในวันนั้น สองพี่น้องก็เก็บกระเป๋านั่งนับวันนับคืนรออย่างใจจดจ่อ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง อัคคีมารับแต่เช้าด้วยรถตู้คันใหญ่พร้อมคนขับส่วนตัวที่นิชาคุ้นหน้าคุ้นตาดีคือ 'พี่ชิด' คนขับรถที่เขามักเรียกใช้เวลาเดินทางออกต่างจังหวัดไกลๆ หรือเวลาขี้เกียจขับรถเอง ส่วนเจ้าลัคกี้เอาไปฝากไว้ที่โรงแรมแมวแล้ว หายห่วง เมื่อมาถึงโรงแรมก็เช็กอินแบ่งห้องกันตามที่อัคคีจองไว้ให้คือเธอกับเขาและพี่ชิดคนละห้อง ส่วนแม่และหลานๆ ห้องเดียวกัน เมื่อเก็บกระเป๋าเสร็จ เด็กๆ ก็อ้อนขอออกไปเล่นน้ำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งนิชา แม่และอัคคีต่างถูกหลานๆ ดึงให้ลงไปเล่นด้วยกัน แต่ด้วยความที่อายุเยอะแล้วนางพิมพาเล่นด้วยได้ไม่นานก็ขอไปนั่งดูดีกว่า สุดท้ายเลยเหลือแค่นิชากับอัคคีที่อยู่เล่นกับเด็กๆ ร่างสูงเล่นน้ำไปพลางแอบมองเลขาคนสวยไปด้วย เพราะเธอหัวเราะและยิ้มกว้างมาก เหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองจากเรื่องเครียดๆ มากมายเพื่อเล่นสนุกกับสองพี่น้อง ทั้งที่สภาพเปียกปอนไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยของเธอลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย นิชาเงยหน้า
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 22"อะไรนะคะ? ได้ค่ะ จะรีบไป!" ร่างบางวางสายโทรศัพท์ด้วยความเคร่งเครียด เนื่องจากคุณครูประจำชั้นโทรมาเรียกให้ไปที่โรงเรียนด่วน เพราะหลานชายมีเหตุทะเลาะวิวาทกับเพื่อนที่โรงเรียน ตอนนี้รออยู่ในห้องปกครอง "มีอะไรหรือเปล่า" อัคคีถามด้วยความห่วงใย มีไม่กี่เรื่องในชีวิตที่ทำให้เลขาคนสวยเป็นเดือดเป็นร้อนได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่แม่ก็ต้องเป็นหลานๆ "นิขอลาช่วงบ่ายนะคะ คุณครูแจ้งมาว่าน้องปุณณ์มีเรื่องชกต่อยที่โรงเรียน" ร่างบางพูดไปเก็บของไปด้วยความรีบเร่ง หลักๆ เลยคือเป็นห่วงเพราะเชื่อว่าหลานเธอไม่ได้เริ่มก่อนแน่นอน "ผมไปด้วย" ร่างสูงทิ้งงานลุกขึ้นทันที จะปฏิเสธก็ไม่ทัน เพราะเขาเดินนำไปก่อนแล้ว เมื่อมาถึงโรงเรียนนิชาก็ตรงไปที่ห้องปกครองทันที ก่อนจะได้รู้จากครูที่ประจำการอยู่ว่าผู้ปกครองของคู่กรณีต้องการให้เรื่องถึงผู้อำนวยการ เด็กๆ จึงถูกพาไปตัดสินที่ห้องของผู้อำนวยการ ทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความสงสัย แค่เด็กทะเลาะกันทำไมถึงต้องไปที่ห้องผู้อำนวยการ มันเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมครูปกครองถึงตัดสินกันเองไม่ได้ในเมื่อมันเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง หรือไม่คงมี 'บาง