“แคทคับ”
พอเดินมาได้อีกหน่อยก็มีเสียงเรียกแคทดังมาจากด้านข้าง ทุกคนหันไปมองศิวานั่นเอง
“มีอะไรคะพี่ศิวา”แคทถาม
”พี่มีเรื่องจะคุยกับแคทหน่อยคับ”ศิวาพูด
แคทหันไปมองหน้าเพื่อน
”มายด์กับปรางไปก่อนนะ..เดี๋ยวเราตามไป”แคทบอก
มายด์ดึงมือปรางให้เดินออกไป
“ปล่อยให้อยู่กับพี่ศิวาอย่างนั้นจะดีเหรอ”ปรางพูดเพราะห่วงแคท
”ไม่ต้องห่วงแคทมันหรอกน่า…ไม่มีใครทำอะไรได้หรอก”มายด์พูดแล้วยิ้ม
”ทำไมล่ะ…แคทเป็นผู้หญิงนะถ้าพี่ศิวาทำอะไรขึ้นมาจะทำไง”ปรางพูดไปหันหลังไปคราวนึ้มายด์ถึงกับขำออกมา
”ปรางยังไม่รู้อะไร….แคทน่ะเป็นทั้งยูโด เทควันโดและมวยไทยเลยนะ ถ้าพี่ศิวาจะทำอะไรจริงๆชั้นว่ายังไม่รู้เลยว่าใครจะเจ็บ555”มายด์บอก
พอปรางได้ยินก็หันไปมองหน้ามายด์ทันที
”จริงอ่ะ”ปรางถาม
มายด์พยักหน้า
”แคทแอบพ่อเรียนตอนอยู่ม.ต้น ตอนนั้นไปอยู่กับป้า ไม่มีใครรู้จนกระทั่งได้รับเลือกให้ไปแข่งในระดับภาค” มายด์เดินเล่าไปเรื่อยๆ
”พอป้ากับพ่อรู้ลมแทบจับ ไม่ใช่แค่นั้นนะยังไปเรียนยิงปืนทั้งแบบเป้านิ่งและเป้าบิน แถมลงแข่งได้เหรียญทองระดับภาคด้วย”
ปรางฟังไปแบบอึ้งๆไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแคทที่ดูบอบบางจะเป็นนักกีฬาประเภทนี้
”แคทเล่นกีฬาเก่งหลายอย่างนะทั้งวอลเล่ย์บอล บาสเกตบอลเป็นนักกีฬาของรร.เลย"มายด์พูด
"แล้วทำไมปรางถึงไม่เคยเห็นแคทเล่นกีฬาอะไรเลยล่ะมายด์?”ปรางหันมาถามมายด์เพราะสงสัย
มายด์มีสีหน้าเศร้าลง
”เกิดอุบัติเหตุขึ้นตอนอยู่ม.5ช่วงปิดเทอมพอดี แคทไปตลาดกับพ่อและแม่ พอดีมันเห็นเด็กเล่นลูกบอลแล้วบอลมันกลิ้งไปที่ถนน เด็กคนนั้นวิ่งตามบอลไปกลางถนน”มายด์หยุดพูด
“แล้วเกิดอะไรขึ้น”ปรางรีบถาม
”แคทเห็นว่ามีรถกะบะวิ่งมาพอดี และกำลังจะชนเด็กก็เลยวิ่งไปอุ้มเด็กหลบแต่ตัวเองถูกรถชนเต็มๆเลย”มายด์เล่า
“แล้วไงอีก”ปรางเร่ง
”แคทนอนอยู่ไอซียูนาน2อาทิตย์หมอบอกว่ากระดูกข้อมือ ข้อเท้าหัก แขนก็หักตั้งแต่หัวไหล่ลงมา พอแคทฟื้นหมอก็บอกว่าไม่สมควรจะเล่นกีฬาอีก พอแคทหายดีพ่อก็เลยขอให้เลิกเล่นแคทสงสารพ่อ เลยรับปากพ่อว่าจะไม่เล่นกีฬาหรือทำอะไรที่จะมีผลต่อแขนขาอีก”มายด์พูดจบ
ปรางอ้าปากค้างเพราะตกใจ
”อ้าว!แล้วตอนนี้แคทยังจะทำอะไรใครได้ล่ะ”ปรางพูด
“แคทดื้อจะตาย แขนกับขากลับมาใช้งานได้แล้วเพียงแต่ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้วก็ต้องไม่ให้พ่อรู้อย่างเด็ดขาด แคทไม่อยากให้พ่อห่วงมาก
เป็นไงทีนี้หายห่วงได้หรือยัง”มายด์พูด
”ถึงว่าทำไมพ่อถึงได้ห่วงแคทมาก”ปรางพูด
”แต่ก่อนแคทเป็นคนใจร้อน วู่วามพ่อก็เลยส่งไปฝึกสมาธิกับป้าจะได้เป็นคนใจเย็นขึ้้นแต่เชื่อมั้ยพอแคทกลับมาพ่อกลับบอกว่าคิดผิด”
“ยังไงล่ะ”ปรางถามอีก
”ก็แคทกลายป็นคนเข้าถึงยาก ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมาแต่กลับอ่านความคิดคนอื่นได้แบบทะลุปรุโป่รงอ่ะดิ พ่อบอกว่ายิ่งน่ากลัวกว่าเก่าอีก”มายด์บอก
“เออ..ใช่อันนี้เห็นด้วยกับพ่อเลย บางครั้งชั้นยังกลัวเลยเพราะไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่”ปรางพูดบ้าง
เดินคุยกันมาจนกระทั่งเห็นรถเก๋งจอดเรียงกันอยู่ 3 คัน
“พี่ปรินทางนี้ค่ะ”ปรางเรียก
ปรินหันมาเมื่อได้ยินเสียงเรียก
ปรินเป็นหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวเหมือนปรางหน้าตาคมเข้มหล่อเหลา ปรินสูง185ซม. เขาเดินเข้ามาหาปรางแล้วเอามือลูบหัว
”มานานแล้วเหรอคะ แล้วทำไมพี่ชยากับพี่เอกถึงมาด้วยล่ะคะ”ปรางทักพี่ชายแล้วถามไปถึงผู้ชายอีกสองคนที่ยืนคุยกับปรินอยู่
”หวัดดีคับน้องปราง”ชยากับเอกทักทายปราง
ชยากับเอกเป็นเพื่อนสนิทของปรินทำงานอยู่ที่บริษัทของพ่อปรินนั่นแหละ ชยาและเอกตัวเตี้ยกว่าปรินนิดหน่อย ผิวขาวทั้งคู่ หน้าตาหล่อพอใช้ได้
”สวัสดีค่ะพี่ชยา พี่เอก”ปรางหันไปยกมือไหว้
”อ้าว!.....ลืมแนะนำไปเลยนี่เพื่อนสนิทปรางค่ะ ชื่อมายด์ …มายด์นี่พี่ปรินพี่ชายเราและนี่พี่ชยากับพี่เอกเพื่อนสนิทของพี่ปริน”ปรางบอก
“สวัสดีค่ะพี่ปริน พี่ชยา พี่เอก”มายด์ยกมือไหว้ทั้งสามคน
”สวัสดีคับน้องมายด์”ปริน ชยาและเอกยกมือรับไหว้
“เพื่อนน้องปรางน่ารักนะคับ สงสัยพี่ต้องมารับน้องปรางเป็นเพื่อนเจ้าปรินบ่อยๆแล้ว”เอกพูดขึ้นมาทันที
”น้อยๆหน่อยเพื่อน เก็บอาการบ้าง”ชยาพูด
”ถ้าจะจีบเพื่อนปรางก็ต้องผ่านปรางก่อนนะคะพี่เอก”ปรางพูดแล้วก็ขำ
ส่วนมายด์ยืนนิ่งไม่พูดไม่จาอะไร
“แล้วจะกลับกันได้หรือยังเรา”ปรินหันไปถามปราง
”เดี๋ยวค่ะ พี่ปรินรอเพื่อนปรางอีกคนก่อนแล้วพี่ต้องไปส่งเพื่อนปรางด้วยนะคะ”ปรินมองหน้าปราง
”ได้สิ ไม่มีปัญหาแล้วเพื่อนเราอีกคนล่ะอยู่ไหน?”ปรินถามพลางหันมอง
วันนี้เป็นวันครบรอบวันแต่งงานปีที่5ของปรินกับแคท ปรินอยากจะเซอไพร์สเธอจึงโทรไปจองโต๊ะที่ร้านอาหารบนดาดฟ้าเพื่อจะฉลองกับเธอสองคน ตอนบ่ายปรินพาแคทกลับบ้านก่อนเวลา เขาบอกให้เธอแต่งตัวเพราะจะพาไปที่แห่งหนึ่ง แคทลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็นวันครบรอบวันแต่งงาน เธอจึงงงๆที่วันนี้เขาพาเธอกลับบ้านเร็วแล้วยังบอกว่าให้แต่งตัวจะพาไปไหนสักที่ เมื่อแคทแต่งตัวเสร็จ เธอเดินลงก็เห็นว่าปรินรออยู่แล้ว เขาพาเธอไปที่รถแล้วเอาผ้ามาปิดตาของเธอ "พี่ปรินจะทำอะไรคะเนี่ย..ปิดตาแคททำไมคะ" "พี่จะพาไปที่แห่งหนึ่ง แต่ต้องปิดตาก่อนจะได้ตื่นเต้นไงคับ" "เล่นเป็นเด็กเลยนะคะ" "ห้ามแกะออกนะคับ นั่งเฉยๆถ้าถึงที่แล้วพี่จะเปิดตาออกให้" "ค่ะ..ก็ได้" ปรินขับรถไปเรื่อยๆจนถึงโรงแรมที่เขาจองโต๊ะไว้ เขาลงไปเปิดประตูและก้มลงอุ้มเธอพาไปที่ลิฟต์ เขากดขึ้นไปชั้นบนสุด เมื่อลิพต์เปิดปรินก็อุ้มแคทไปนั่งเก้าอี้ที่ทางร้านได้จัดเตรียมไว้ เขาเอาผ้าที่ปิดตาของแคทออก "ลืมตาได้แล้วคับ"ปรินบอก แคทค่อยๆลืมตาขึ้น เธอมองไปข้างหน้าและมองไปรอบๆแล้วยิ้มออกมา รอบตัวเธอมีซุ้มดอกไม้เต็มไปหมด แถมมีเทียนหอมแท่งเล็กๆที่ถูกจุดแล้ววางไว้จนทั่วแทนการเ
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็นอนกอดกัน โดยปรินให้แคทซบไปที่หน้าอกของเขา แล้วก็กอดเธอไว้อย่างแน่น "พี่กลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้ทำแบบนี้กับเราอีกแล้ว" "แคทก็กลัวค่ะ...กลัวว่าจะไม่ได้นอนกอดพี่ปรินอย่างนี้อีก" "ผ่านเหตุการณ์นี้มาได้..ทำให้พี่รู้ว่า เวลาของพวกเราไม่รู้ว่าจะหมดลงเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นเราต้องดูแลรักษาคนที่รักไว้ให้ดีๆ อย่าปล่อยเวลาให้เสียไปเปล่าๆโดยที่ไม่ได้มีความสุขด้วยกันเลย" "ใช่ค่ะ..แต่จริงๆแล้วพี่ปรินกับแคทก็อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลาเลยนะคะ" "ใช่คับ..แต่พี่ว่าจะเพิ่มเวลาของเราให้มากขึ้นอีกหน่อยนะ" "เวลาของเรา? เวลาอะไรคะ" "ก็...เวลาที่เราจะเป็นของกันและกันไงคับ" "บ้า..พี่ปรินอ่ะ...ไม่คุยด้วยแล้วค่ะ" "งั้น..ทำอย่างอื่นแทนนะคับ" "ว้าย!พี่ปริน..ไม่เอา...พอแล้ว..อือ..อือ" ปรินก้มไปจูบปิดปากแคท แล้วทุกอย่างก็เริ่มต้นและจบลงเหมือนเดิมอีกครั้ง แคทกับปรินเดินทางกลับมาจากออสเตรเลียแล้ว เปรมพอเห็นแคทกับปรินกลับมาก็วิ่งเข้าไปกอดทั้งคู่ "น้องเปรมคิดถึงพ่อปรินกับแม่แคทที่สุดเลยคับ" "แม่กับพ่อก็คิดถึงน้องเปรมนะคับ"แคทพูด "แล้วแม่แคทหายหรือยังคับ" "แม่หายแล้วคับ แล้วน้องเปรมดื้อกับค
"พี่ปรินคะ..ไม่งอนนะคะ แคทอยู่ก็ได้ค่ะ"แคทจับมือของเขา ตอนนี้แคทนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง ส่วนปรินยืนอยู่ข้างๆเตียง "พี่ไม่ได้งอน ถ้าเราไม่อยากอยู่พี่ก็ไม่บังคับหรอก"ปรินพูด น้ำเสียงน้อยใจนิดๆ "อยากสิคะ แคทแค่หวงลูกกับงานน่ะค่ะ ขอโทษนะคะ"แคทบอก "เราอ่ะ ห่วงทุกอย่างแต่ไม่เห็นจะห่วงพี่เลย พี่แค่อยากอยู่กับเราสองคนต่ออีกหน่อยเท่านั้น"ปรินยังหน้าบึ้ง "ห่วงสิคะ แคทห่วงพี่ปรินที่สุด นะคะ นะนะเลิกงอน เลิกน้อยใจนะ"แคทพูด "เราห่วงพี่จริงๆนะ หรือแค่พูดให้พี่ดีใจเล่นๆ"ปรินถาม เขาเลิกงอนเธอแล้วแต่แค่อยากแกล้งเธอดูบ้าง "แคทพูดจริงๆค่ะ...ทำยังไงพี่ปรินถึงจะเชื่อล่ะคะ"แคทพูด "งั้นก็ต้องพิสูจน์"ปรินบอก "พิสูจน์ยังไงคะ"แคทถาม "อย่างนี้ไงคับ" ปรินก้มลงมาจูบโดยที่แคทไม่ทันตั้งตัว เขาใช้มือข้างหนึ่งดันหัวเธอไว้ แล้วจูบเธอด้วยความรู้สึกรักใคร่ เขาเอาลิ้นเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นของเธอ แล้วก็ไล้ริมฝีปากไปที่แก้ม ตา ใบหูและลงมาที่ซอกคอขาว เขาไซร้คอจนแคทร้องครางออกมาเบาๆ แล้วเขาก็วนขึ้นไปจูบที่ปากเธออีกครั้ง "พี่หายงอนเราแล้วล่ะ"ปรินยิ้ม "ไม่ต้องมายิ้มเลย ขี้โกงตลอดอ่ะ"แคทอายหน้าแดง "พี่ก็โกงกับเราคน
"หมอให้อยู่รอดูอาการอีก2-3วัน ถ้าไม่มีอะไรก็เดินทางกลับได้"ลุงหมอบอก "ดีเลยค่ะ งั้นปรางไปโทรบอกพ่อกับแม่ก่อนดีกว่า ป่านนี้คงรอแย่แล้วค่ะ ไปค่ะพี่ชยา"ปรางบอก "งั้น เดี๋ยวพี่กับมายด์ไปหาซื้ออะไรมากินฉลองกันหน่อยดีกว่านะ"เอกพูด "ลุงก็ขอไปคุยกับเพื่อนลุงก่อน หนูแคทพักผ่อนไปก่อนนะเดี๋ยวลุงมาใหม่"ลุงหมอบอก ทุกคนพากันเดินออกไปจากห้องกันหมด เหลือแค่ปรินที่ยังจับมือแคทและมองหน้าเธออยู่ "แคทมีอะไรแปลกไปเหรอคะ พี่ปรินถึงได้มองแบบนั้น"แคทถาม "แคทรู้มั้ยว่าพี่กลัวมากแค่ไหน ตั้งแต่เราเข้าห้องผ่าตัดมาจนกระทั่งก่อนที่เราจะฟื้นขึ้นมา พี่กลัวว่าจะไม่ได้ยินเสียงของเราอีกแล้ว พี่กลัวว่าเราจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา นอนเฉยๆไม่รับรู้อะไรแต่นั่นพี่ก็ยังรับได้แค่ให้เรายังอยู่ไม่จากพี่ไปเลยก็พอ"ปรินหน้าเศร้ามาก "ทุกอย่างมันผ่านไปแล้วค่ะ..อย่าคิดมากเลยนะคะ...ต่อไปนี้แคทจะไม่ทำให้พี่ปรินต้องทุกข์ใจเพราะแคทอีกแล้ว"แคทพูด "พี่ไม่เคยทุกข์เพราะเราเลยนะ เราทำให้พี่มีความสุขเสมอขอแค่มีเราอยู่ข้างๆ อย่าทิ้งพี่ อย่าปล่อยให้พี่ต้องเดินไปคนเดียวโดยที่ไม่มีเรา ได้มั้ยคับ"ปรินถาม "ได้ค่ะ..ต่อไปนี้แคทจะไม่ทิ้งพี่ปรินกับลู
"ขอบใจนะทุกคน ขอบใจจริงๆ"ปรินบอก ทุกคนเดินไปนั่งกันที่โซฟาข้างๆห้อง ลุงหมอเดินเข้ามาแล้วและนั่งคุยอยู่กับชยา เอก มายด์และปราง ส่วนปรินยังนั่งกุมมือแคทอยู่ข้างเตียง สักพักปรินก็รู้สึกว่านิ้วมือของแคทที่เขากุมอยู่กำลังขยับ ตอนแรกปรินไม่แน่ใจเขาจึงตั้งใจมองอีกครั้ง ก็เห็นว่ามันขยับจริงๆ "ลุงหมอคับ แคทขยับนิ้วคับ"ปรินบอก เขาเรียกลุงหมอเสียงดังด้วยความดีใจ ทุกคนรีบลุกแล้วเดินเข้ามายืนข้างเตียง "ไหนตาปริน..จริงด้วย"ลุงหมอบอกน้ำเสียงดีใจ "ใช่ค่ะ...ตาของแคทก็ขยับด้วยค่ะ"ปรางพูด เธอยิ้มด้วยความดีใจ "ดูกันไว้ก่อนนะ...ลุงจะไปบอกหมอ"ลุงหมอบอกแล้วรีบเดินออกไป แคทที่นอนอยู่บนเตียงเริ่มขยับเปลือกตาขึ้นๆลงๆ เพราะเธอหลับไปนานจึงยังไม่ชินกับแสง นิ้วมือก็เริ่มขยับมากขึ้น เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่มือ รู้ว่ามีใครกำลังกุมมือของเธออยู่ ในที่สุดแคทก็ลืมตาขึ้นมาจนได้ "แคท...แคทรู้สึกตัวแล้ว ดีใจจริงๆ" ปรางกับมายด์หันมากอดกันเองด้วยความดีใจ "แคท..เป็นยังไงบ้าง รู้สึกเจ็บตรงไหนหรือป่าว รอเดี๋ยวนะคับลุงหมอไปตามหมอแล้ว"ปรินรีบพูด เขายิ้มด้วยความดีใจจนน้ำตาซึม ลุงหมอกับหมอที่ผ่าตัดแคทและพยาบาลเดิน
เมื่อเดินไปถึงห้องที่แคทนอนอยู่ ปรินน้ำตาคลอเมื่อเห็นแคทนอนหลับตาสนิท มีเครื่องมือและสายอะไรหลายอย่างอยู่รอบๆตัวเธอ ผมของเธอยังอยู่เหมือนเดิม ปากเธอมีท่อใส่อยู่ เขาไม่อยากเห็นเธอต้องเจ็บแบบนี้ จนเขาไม่ยอมมีลูกอีกก็เพราะกลัวเธอจะเจ็บแต่นี่ยิ่งกว่าตอนผ่าคลอดอีก "พี่ปรินคับ พี่ปรินต้องสู้นะคับ ใจของพี่ปรินกับพี่แคทส่งถึงกันได้ เพราะอย่างนั้นถ้าพี่ปรินท้อหรือหมดหวังพี่แคทก็จะรับรู้ได้นะคับ"กวางจับมือของปริน "ได้กวาง พี่จะสู้จะไม่ท้อเพื่อที่แคทจะได้กลับมาอยู่กับพี่อีกครั้ง พี่สัญญา"ปรินมองหน้ากวาง "ผมเชื่อว่าพี่แคทต้องผ่านไปได้ เพราะพี่แคทไม่เคยยอมแพ้ไม่ว่าเรื่องอะไร ไม่ว่าจะหนักแค่ไหน ถ้าพี่แคทตัดสินใจจะทำก็จะทำจนได้"กวางพูด "ใช่ กูคิดเหมือนกวาง แคทเป็นนักสู้ที่ไม่เคยแพ้ เพราะฉะนั้นมึงต้องเข้มแข็ง"เอกพูด "ใช่ มึงยังมีพวกกู มีกวาง มีลุงหมอแล้วยังมีพ่อแม่ ปรางกับมายด์และที่สำคัญที่สุดคือมึงยังมีตาเปรม ที่เป็นตัวแทนความรักของมึงกับแคทอีกด้วย"ชยาพูด "กูรู้ กูจะสู้และผ่านมันไปให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม"ปรินพูด วันรุ่งขึ้นปริน ชยา เอก กวางและลุงหมอมาโรงพยาบาลกันตั้งแต่เช้า ปรินโทรก