Home / โรแมนติก / รักรอวันจาง / บทที่ 3 ต่างคนต่างอยู่

Share

บทที่ 3 ต่างคนต่างอยู่

last update Last Updated: 2025-12-15 22:41:43

ผกายดาวกลับถึงห้อง สลัดความฟุ้งซ่านทิ้งเธอทำงานที่เธอรักเหมือนเดิม วันนี้ถึงวันที่เงินเดือนนักเขียนของเธอออกแล้ว เธอนั่งดูตัวเลขในบัญชีอย่างภาคภูมิใจที่ทำงานมากว่าห้าปีในด้านนี้ เธอเป็นที่รู้จักแต่ในนามปากกาเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าตัวจริงเธอเป็นใคร และเงินจำนวนนี้มากพอให้เธอออกจากชีวิตเขาตอนนี้เลยก็ได้ แต่ความรักที่เธอมีต่อเขาดึงดูดเธอเอาไว้

         ก่อนวันที่เขาบอกเลิกเธอเรายังรักกันอย่างเร่าร้อนบนเตียง แต่วันถัดมาเขาบอกว่ารู้สึกกับเธอแค่น้องสาว เธอคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเขาแยกรักกับเซ็กส์ออกจากกันได้อย่างไร เธอแยกไม่ได้หากไม่รักเธอไม่ยอมมีอะไรด้วยแน่

         แต่หลังจากปรับทุกข์กับคุณแม่แล้วเธอก็จะทำอาหารเหมือนเดิมไปให้เขา โดยผ่านทางคุณแม่ แต่ไม่ได้ทำทุกวันกลัวเขาจะอึดอัด เธอจึงทำเฉพาะวันอาทิตย์ และค่าใช้จ่ายทุกอย่างเธอรับผิดชอบส่วนของเธอเองทั้งหมดไม่ใช้เงินเขาอีกต่อไปแล้ว

         และวันนี้เป็นวันอาทิตย์ต้นเดือน เธอรีบเอาอาหารที่ทำมาให้แม่บ้านของคุณแม่แต่เช้า เขามักจะอยู่คอนโดแค่เวลาจำเป็นเท่านั้น ผิดจากเมื่อก่อนที่คอนโดเป็นรังรักและใช้เวลาร่วมกัน เธอจึงมีโอกาสทำอาหารให้เขาได้ แม้อาทิตย์ละมื้อก็ยังดี เธอรู้ว่าเขาชอบกินอะไรไม่ชอบกินอะไร จึงทำของที่เขาชอบทุกอย่างเมื่อส่งเสร็จแล้วก็ออกไป

         แต่เมื่อกลับมาถึงห้อง เธอตกใจที่เขาอยู่ในห้องไม่ใช่ที่บ้าน และที่มากกว่านั้นคือห่ออาหารที่เธอตั้งใจทำไปให้เขาแต่มันกลับมาอยู่บนโต๊ะพร้อมกับอีกคนที่ใบหน้าถมึงทึง

         “พี่ว่าเราต้องคุยกันให้ชัดเจนนะ” เสียงเข้มมองเธออย่างตรง ๆ ครั้งแรกในรอบหนึ่งเดือน เธอเดินตัวงอเข้าไปนั่งตรงข้ามเขาอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวคล้ายกับคนทำผิด แล้วก้มหน้านิ่งอย่างไม่มีคำอธิบายใด ๆ

         “พี่บอกว่าไม่ต้องทำอะไรให้แล้ว เราไม่ได้รักกันแล้ว ตลอดหนึ่งเดือนที่พี่ไม่พูดอะไรอยากให้โอกาสเราได้ทบทวนให้ดี แต่พี่ว่าเราคงไม่เข้าใจถ้าอย่างนั้นพูดให้ชัด ๆ แล้วกัน”

         หัวใจของผกายดาวเต้นตึกตัก ลุ้นกับคำพูดว่าเขาจะด่าจะว่าอะไร

         “พี่เบื่ออาหารรสชาติที่เธอทำแล้ว และเบื่อเธอมาก ๆ ด้วย เข้าใจหรือยัง”

         คำก็เบื่อ สองคำก็เบื่อ เธอมันน่าเบื่อมากเลยใช่ไหม

         “ขอโทษค่ะ ดาวไม่ทำแล้ว” เธอพูดเสียงเศร้าก้มมองมือตัวเองด้วยหัวใจที่เจ็บซ้ำ เขาใจร้ายมาก

         “พี่ว่าดาวออกไปจากตรงนี้เถอะ พี่อึดอัดและทนมามากแล้ว” เขายืนขึ้นและหันหลังพูดกับเธอ

         “แต่ว่าดาวขอสามเดือนนี่คะ พี่ภาพรับปากแล้ว” น้ำเสียงเครือสั่นของเธอเปล่งออกไป บังคับมันให้ราบเรียบแล้วแต่ทำไม่ได้ เธอไม่อยากจะดรามากับเขา แต่เขาควรทำตามให้ได้อย่างที่พูด

         “พี่ขอโทษ พี่คิดว่าทนไม่ได้ถึงสามเดือน”

         ทนไม่ได้ถึงสามเดือน เขาทนเธอมาตลอดงั้นเหรอ ถ้าวันหนึ่งจะหมดรักแล้วมารักเธอทำไมกัน เขาใจร้ายมากนะ คนนิสัยไม่ดี

         “ขอเวลาดาวอีกนิดได้ไหม ดาวจะรีบหาที่อยู่ใหม่ทันที...ฮึก...” เธอสะอื้นหลังพูดกับเขา

         “ดาวยื้อไว้เพื่ออะไร ในเมื่อพี่ไม่ได้รักดาวแล้ว อย่าเป็นคนพูดยากได้ไหม”

         ผกายดาว !_! น้ำตาไหลอีกครั้ง แต่มันไหลแบบเงียบ ๆ แบบไร้เสียงสะอื้น

         “ดาวจะไปให้เร็วที่สุด พี่ภาพไม่ต้องห่วง” ที่จริงเธอหาห้องได้แล้ว และกำลังย้ายข้าวของออกไปเงียบ ๆ แต่ทว่าไม่นึกว่าจะมีวันที่เขาไล่เธอออกจากคอนโดของเขาขึ้นมาจริง ๆ หัวใจเธอมันมีเลือดเนื้อนะ แต่ทำไมเขาขยันเอามีดมาแทงเป็นแผลซ้ำไปซ้ำมาอย่างนี้ ไม่สงสารเธอบ้างหรือไง

         “พี่รอได้ไม่นานหรอกนะ เพราะพี่กำลังคบกับคนใหม่แล้ว”

         ในที่สุดเธอก็รับรู้แล้ว เขากำลังมีใครอื่น เขากำลัง

มูฟออนแต่เธอยังโคจรเป็นวงกลมไม่ยอมทิ้งเขาได้สักที

         ขณะที่เธอกำลังนั่งน้ำตาหยดอยู่นั้น เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น

         ปิ๊งป่อง!!!

         เสียงนั้นทำให้เธอรีบปาดน้ำตาทิ้งแล้วรีบไปล้างหน้าล้างตาในห้อง คิดว่าเป็นแขกของเขา เพราะเธอไม่มีใครนอกจากเขา แต่ทว่าประตูของเธอไม่ได้ปิดสนิท มันแง้มเล็กน้อยและได้ยินเสียงผู้หญิงแว่วมา

         “ภาพขา...วันนี้ไปดินเนอร์ที่ไหนดีคะ”

         “แล้วแต่มุกเลยครับ”

         เสียงตอบพร้อมเสียงหอมแก้มฟอดใหญ่นั้นทำให้อีกคนในห้องหัวใจสลาย เธอร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด เธอกินข้าวไม่ได้ นอนไม่ได้ด้วยซ้ำ หัวใจเต้นไม่ปกติ มันสั่นกลัวไปหมด จนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับตัวเองในขณะนี้ดี

         “เขาไม่รักแล้วดาว เขาไม่รักแล้ว ได้ยินไหม”

         เจ็บเจียนตายเธอได้รับรู้แล้วว่ามันเป็นยังไง เธอเก็บของที่เหลือในกระเป๋าเดินทาง เขาไม่อยากเห็นหน้าเธอแล้วเธอก็จะไปอยู่เงียบ ๆ ในที่ของเธอ

         บางทีเธออยากเก็บความสัมพันธ์ที่อยู่ใกล้ ๆ เอาไว้อีกนิด เพื่อเก็บเป็นกำลังใจให้เธอเดินต่อ แต่เขาสะบั้นมันด้วยการเอาผู้หญิงอีกคนมาสลัดเธอทิ้ง แล้วเธอจะอยู่ต่อไปได้อย่างไรกัน

        

         ในร้านอาหารรูฟท็อปบนชั้นดาดฟ้าโรงแรมหรู สองคู่รักกำลังนั่งส่งยิ้มหวานให้กัน เขาทั้งคู่ตัดสินใจคบกันหลังจากเริ่มพูดคุยในตอนที่เขาจบความสัมพันธ์กับรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยใหม่ ๆ จากวันนั้นถึงวันนี้ก็หนึ่งเดือนเต็มแล้ว

         “ภาพใจร้ายนะคะ เด็กนั่นยังอยู่ ไปค้างที่ห้องแบบนี้ดีเหรอคะ” มุกดาภาเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับเขา เธอเป็นดาวมหาวิทยาลัย หลังเรียนจบไปต่อโทที่อังกฤษด้านบริหาร และเพิ่งกลับมาทำงานที่บริษัทต่างชาติในเมืองไทย

         ด้วยความที่วัยเดียวกันทัศนคติคล้ายคลึงกันเรื่องการทำงาน ทำให้เขารู้สึกสนุกมีเพื่อนคู่คิดจนเมื่อเลิกกับผกายดาวเขาจึงขอถามเธอดูว่าเราลองคบกันดูไหม

         “เจ็บแต่จบไวไม่ดีเหรอ” ภาพตะวันไม่คิดว่ามุกดาภาจะใจดีขนาดนั้น คิดว่าเธอจะหึงเสียอีกที่อดีตของเขายังอยู่ในห้อง

         “แหม...น้องเขาขอเวลาแค่สามเดือนคุณรอไม่ได้เชียวเหรอคะ” มุกดาภารู้ว่าเขาต้องการอะไร แววตาสื่อความหมายของภาพตะวัน คนที่เจนจัดเรื่องนี้อย่างเธอไม่รู้ก็บ้าแล้ว

         “ไม่ใช่คุณก็ยั่วผมอยู่ทุกวันเหรอครับ” ของที่อยากชิมใจจะขาด แต่ไม่ได้ชิมสักทีมันก็ทรมานและอึดอัดเหมือนกัน แล้วจะให้เขาอดทนรอเพื่ออะไรกันล่ะ

         “ถ้าอย่างนั้น...”

         “ค้างกับผมนะครับ” พูดจบภาพตะวันดึงต้นคอของมุกดาภามาจูบโดยไม่แคร์สื่อใด ๆ แม้ว่าที่นั่งอยู่นี้จะเป็นร้านอาหารบนดาดฟ้าโรงแรม

         เสียงนัวเนียขลุกขลักตั้งแต่หน้าประตูที่เปิดเข้ามา พาให้คนที่ยังเก็บของไม่เสร็จสะดุ้ง แม้ที่จริงตั้งใจจะไปแล้วแต่ทว่าเขากลับมาก่อน เมื่อตั้งใจจะเดินมาปิดประตูให้สนิทแต่กลับได้ยินเสียงน่าเกลียดที่กำลังกอดจูบกันอย่างดูดดื่ม

         “ภาพขา...มุก...มุก...อื้อ” มุกดาภาอยู่ในชุดที่เว้าถึงเอวแม้ว่าชุดจะยาวแต่ทว่าแหวกถึงโคนขาและเธอไม่ได้ใส่ชั้นในยิ่งปลุกอารมณ์หื่นกามของชายหนุ่มที่ชอบความเร่าร้อนอย่างภาพตะวันได้อย่างดี

         เธอและเขาเคยวันไนต์กันครั้งหนึ่งตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้กลับมาพบกันอีก ความเร่าร้อนของเธอทำให้ผู้ชายหลายคนติดหนึบ และภาพตะวันก็เป็นอีกคนที่เธอตั้งใจพบเพื่อสานต่อเมื่อรู้ว่าเขาโสดแล้ว และมากกว่าเขายังมีสิ่งที่เธออยากได้อยู่ด้วย แต่มันต้องหลังจากนี้ หลังจากที่เธอได้เขาทั้งตัวทั้งใจไปครอง

         ผกายดาวเห็นภาพผู้ชายที่เธอรักมีอะไรกับผู้หญิงอื่นต่อหน้าต่อตา ใบหน้าหวานช็อกจนพูดไม่ออกยกมืออุดปากกลั้นก้อนสะอื้นพิงหลังกับผนังห้องร้องไห้เงียบ ๆ

         กว่าพายุอารมณ์ของเขาทั้งคู่จะสิ้นสุดเธอหัวใจแตกสลายไปแล้ว ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ

         เขากล้าทำเรื่องน่าอายขณะที่เธออยู่ในห้อง  เขากล้าพูดว่าไม่รัก เขาไม่อยากเห็นหน้า

         และเขาทำสำเร็จแล้ว เธอคงไม่อยู่อีกต่อไป...

        

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักรอวันจาง   ตอนพิเศษ 2

    ผกายดาวอาบน้ำเสร็จแล้วนุ่งผ้าขนหนูผืนใหญ่ออกมาจากห้องน้ำเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวที่เป็นส่วนติดกัน แต่ทว่า... “ว้าย...พี่ภาพทำอะไรคะ” “ก็จะทำน้องให้น้องดินยังไงเล่า” ผกายดาวไม่คิดว่าเขาเอาจริง มองไปที่นอนลูกตอนนี้ไม่มีผ้าห่มกับหมีเน่า คิดว่าน่าจะไปนอนกับคุณย่าอีกตามเคย “ไม่เอาค่ะ วันนี้เมื่อย” ผกายดาวกว่าจะปิดต้นฉบับได้หลังขนหลังแข็ง ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนตรวจต่อไป ก่อนจะขายงานออกสู่สายตานักอ่านตามลำดับ “พี่นวดให้ รับรองว่าหายเมื่อยและสบายตัวเป็นปลิดทิ้ง” คนเป็นสามีอุ้มตัวเมียตัวเล็กขึ้นไปวางบนเตียงรั้งผ้าขนหนูออกจากนั้น ถอดกางเกงตัวเดียวที่นุ่งเอาไว้ทิ้งไป โดยที่ยังเปิดไฟโล่งโจ่งจนคนหน้าบางอย่างผกายดาวต้องทักท้วง “ไม่ปิดไฟเหรอคะ” “อยากเห็นดาวชัด ๆ” “ชัดกับผีน่ะสิ เขาก็เคยดูมาตลอด ตอนนี้มีลูกโตแล้วยังจะทำเหมือนวัยรุ่นจอมหื่นเสียอีก” “ดาวยังสวยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน” เขาเริ่มเล้าโลมด้วยคำพูด พร้อมสัมผัสด้วยมือนุ่มของตัวเองที่ภรรยาจับทาครีมทุกวันจนทำให้อีกร่างเริ่มสยิว สังเกตจากไรขนอ่อนลุกชันตามตัว

  • รักรอวันจาง   ตอนพิเศษ 1

    บ้านสีขาวหลังใหญ่และหลังเล็กสองหลังสไตล์คิมูจิที่ตั้งอยู่บนที่ดินผืนงามแถบชานเมืองที่อากาศยังบริสุทธิ์ไม่เต็มไปด้วยควันรถ เป็นบ้านของผกายดาวและภาพตะวันที่อยากทำให้ครอบครัวอบอุ่นโดยคุณแม่ที่ไม่อยากไปแทรกกลางขอปลูกบ้านอีกหลังแต่ติดกัน ให้พวกเขาได้มีเวลาเป็นส่วนตัว เด็กชายตัวอ้วนเจ้าของฉายาเจ้าปักเป้าน้อยที่มีแก้มอ้วนเหมือนเจ้าปลาเดินปากแถบจะติดกับจมูกลงมาจากรถตู้ของผู้เป็นพ่อที่ไปรับเจ้าตัวแสบทุกวัน ผกายดาวเดินออกมาด้วยชุดเดรสดอกเดซี่สายเดี่ยวเข้ารูปต้อนรับการกลับมาของพ่อและลูก โดยที่เอวคาดด้วยผ้ากันเปื้อนเพราะเพิ่งทำอาหารเสร็จ “เป็นอะไรไปครับคนเก่งของแม่ใครขัดใจน้า...” ผกายดาวนั่งยอง ๆ ให้เจ้าอ้วนจุ๊บแก้มเหมือนปกติที่กลับจากโรงเรียน ตอนนี้เขาขึ้นอนุบาลสองแล้ว ที่เสื้อปักดาวสองดวงที่อก โดยที่หูกระต่ายของเขาที่เป็นยูนิฟอร์มของโรงเรียนนานาชาติ ถูกดึงถือเอาไว้ในมือ คงจะร้อนเพราะอากาศประเทศไทยช่วงนี้ที่เป็นฤดูฝนที่มีอากาศร้อนอบอ้าว “พ่อน่ะฉิ” เจ้าแก้มปักเป้าหันไปค้อนพ่อแล้วตั้งอกตั้งใจฟ้องแม่ โดยที่คนเป็นพ่อถือถุงชอปปิงตามที่ภรรยาสั่งทุกอย่าง และมีขนมเค้ก

  • รักรอวันจาง   บทที่ 25 ส่งท้าย

    พักฟื้นอยู่โรงพยาบาลอีกสามวัน หมอก็อนุญาตให้กลับบ้าน แต่คราวนี้เหมือนมีลูกสองคน ป้านุ่มหลังจากทำงานเสร็จก็ทิ้งให้ดาวอยู่กับพี่ภาพและน้องดินไม่เข้ามากวน ไม่รู้ว่าวางแผนกันไว้หรือเปล่า คุณแม่ก็ขยันออกไปชอปปิงทุกวัน จนเธอเริ่มเบื่อหน้าเขาแล้ว ข้าวสองจานอยู่ตรงหน้า โดยมีข้าวของน้องดินใส่ถ้วยเอาไว้ และข้าวของคนป่วยที่ตัวติดกับเธอไม่ยอมให้ขยับไปไหน ป้อนลูกคำหนึ่งก็ป้อนพ่อคำหนึ่งสลับกันไปมา ราวกับคนป่วยยกแขนไม่ขึ้น “อิ่มหรือยังคะ ลูกกินหมดแล้ว” ผกายดาวไม่รู้ว่าคิดผิดไหมที่กลับไปรีเทิร์นกับเขา รู้สึกเหมือนหาภาระมาใส่ตัวอย่างไรไม่รู้ “อิ่มข้าวหิวอย่างอื่น” “หิวอะไรคะ เดี๋ยวเอาลูกนอนกลางวันก่อนนะ จะทำให้” ผกายดาวเห็นเจ้าตัวแสบกินไปจะหลับไป เพราะพ่อชวนเล่นขับรถที่ซื้อมาเป็นของขวัญวิ่งรอบห้อง จนทำให้รู้ว่าต้องรีบสร้างบ้านแล้ว เดี๋ยวลูกจะไม่มีที่วิ่งเล่น “เอาลูกนอนแล้วก็มาเอาพ่อมันด้วยนะครับ” เธอค้อนตาเขียว นับวันชักจะเยอะกว่าเมื่อก่อนที่กว่าจะกินกันสักทีต้องนัดแล้วนัดอีก เพราะเขานั้นขี้อายไม่พองานยังยุ่งอีกต่างหาก เหมือนกับเธอเช่นกัน “ทะลึ่งลู

  • รักรอวันจาง   บทที่ 24 ครั้งนี้จะปล่อยไปก่อน

    ผ่านไปสิบวันแล้ว ตอนนี้ภาพตะวันถูกย้ายมายังห้องพักผู้ป่วยปกติ แต่ทว่าอาการที่ไม่ปกติคือไม่ยอมฟื้นสักทีจนคนรอร้อนใจแล้ว คุณหมอบอกว่าได้แต่รอคนไข้เท่านั้น อยากจะฟื้นหรือไม่ ผกายดาวสลับกันมาเฝ้ากับคุณแม่ โดยมีป้าแจ๋วมาคอยดูคุณแม่อีกทีในตอนกลางวัน เพราะเพิ่งจะหายป่วยและต้องกินยาต่อเนื่องห้ามลืมจึงต้องมีคนคอยกำชับ “ดาวพรุ่งนี้แม่ไปทำบุญที่วัดนะลูก จะกลับมาตอนสาย ๆ” เพลินฤดีบอกกับผกายดาวเพราะตอนกลางวันเป็นเวรของคุณแม่ และตอนกลางคืนเป็นของผกายดาว “ได้ค่ะไม่มีปัญหา ดาวจะเฝ้าพี่ภาพจนกว่าคุณแม่จะมา” “อย่าลืมพักผ่อนนะลูก พี่เขาตื่นมาเห็นหนูหน้าตาไม่สดใสคงเสียใจ “ค่ะ” ผกายดาวรับคำ แต่เธอนอนไม่หลับหวาดกลัวว่าตื่นมาจะไม่เจอเขา กลัวเขาเป็นอะไรไป แม้จะมีพี่หมอเขมกับพี่หมอณัฐสลับกันมาเยี่ยมและอยู่เป็นเพื่อนคุยบ้าง แต่เธอก็ยังไม่คลายกังวลใจ เมื่อคุณแม่ออกไปแล้ว น้องดินที่อยู่กับเธอด้วย เริ่มปีนขึ้นมาบนเตียงนอนของคนเป็นพ่อ ทั้งกอดเอาไว้เรียกเขา “ตื่นป้อ...ตื่นมาเย่นกับดิน” เสียงเล็ก ๆ เขย่าเรียกคนเป็นพ่อทำให้ผกายดาวต้องอุ้มลงกลัวจะไ

  • รักรอวันจาง   บทที่ 23 กลับมาได้ไหม

    ผกายดาวให้เลือดกับภาพตะวันไปสองถุง แม้คุณหมอจะบอกว่าพอแล้วแต่เธอคิดว่าแข็งแรงพอ เอาเลือดเธอไปให้เขาเยอะ ๆ ความเป็นความตายอยู่แค่เอื้อม เธอไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาดอีก เพราะที่ผ่านมาเขาตัดสินใจพลาดไปหนหนึ่งแล้ว แต่เธอไม่อนุญาตให้เขาพลาดการลืมตามาพบเธออีกครั้ง กระสุนเจาะเข้าลำตัวไปถึงสี่นัด แต่ละนัดเฉียดในจุดสำคัญไปหลายจุดมาก ยิ่งตรงช่วงหน้าอก คุณหมอต้องผ่าตัดอย่างระมัดระวังเป็นที่สุด จนเมื่อไฟห้องผ่าตัดดับลง คุณหมอจึงออกมารายงานผลกับญาติ โดยมีพี่หมอเขมกำลังถือแก้วน้ำหวานให้ดาวจิบมาก ๆ เดี๋ยวจะเป็นลมไปเพราะให้เลือดไปเยอะ “พี่ภาพเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ” ร่างเล็กผุดลุกขึ้นทันทีที่คุณหมอออกมา “ตอนนี้อาการผู้ป่วยต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คงต้องอยู่พักในห้องผู้ป่วยวิกฤติเพื่อดูอาการ ยังไม่อนุญาตให้เยี่ยมครับ” คุณหมอบอกได้เท่านี้ เพราะที่เหลือแล้วแต่คนไข้แล้วว่าจะมีกำลังใจอยู่ต่อไหม หมอเขมมองหน้าเพื่อนหมอด้วยกันก็เข้าใจทันที เพราะว่าอาการหนัก พูดมากกว่านี้ญาติจะเสียกำลังใจ จึงพูดเท่าที่พูดได้ “น้องดาวไปพักก่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวค่อยมาดูคุณภาพตอนเช้

  • รักรอวันจาง   บทที่ 22 ของขวัญที่ยังไม่เปิด

    เวลาสองทุ่ม ภาพตะวันที่ไปเอาเค้กยังไม่กลับมาสักทีจนคุณเพลินฤดีอดเป็นห่วงไม่ได้ปล้ำโทรหาแต่ก็ไม่มีใครรับโทรศัพท์เลย “หนูดาวพี่เขาไปนานแล้วนะลูก แค่นี้ครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว แม่กลัวจังเลยลูก” เพลินฤดีสังหรณ์ใจบางอย่าง หลายวันนี้ภาพตะวันคุยกับนพดนัยจนดึกจนดื่น แล้วก็สีหน้าคร่ำเครียดอีกด้วย ได้ยินว่ามีคนดักทำร้าย แต่เค้นถามก็ไม่ยอมบอก พูดแค่ว่าไม่มีอะไร “ใจเย็น ๆ ค่ะ รถอาจจะติด มากินข้าวก่อนนะคะ” ผกายดาวก็แปลกใจที่เขาไปนาน วันนี้อุตส่าห์อนุญาตให้เขาร่วมงานวันเกิดปีที่สองของลูก แต่เขาดันมาสายต่อไปเธอจะไม่อนุญาตเขาแล้วคอยดู ภาพตะวันยังไม่มาสักที แต่ว่าน้องดินใกล้จะหลับแล้ว เธอจึงให้คุณย่ามอบของขวัญแทนคุณพ่อให้เขาเสียเลย จนเวลาสามทุ่มเด็กน้อยที่กินอิ่มเล่นจนเหนื่อยงัวเงียจะหลับแล้ว พร้อมกับเสียงกดกริ่งหน้าของเธอ แต่ทว่าน้องดินอยู่ ๆ ก็ร้องจ้าไม่มีสาเหตุ “แง๊...แง๊...แง๊” “น้องดินเป็นอะไรไปลูก แมลงต่อยหรือเปล่า” เพลินฤดีหันรีหันขวางจะไปเปิดประตูก็ห่วงหลาน คิดว่าตาภาพน่าจะมาถึงแล้ว “คุณแม่ไปเปิดประตูก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวดาวดูลูกเอง” ผกายดาวเดิน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status