LOGINBrew up 5
ผมลากสังขารกลับจากสาขาตอนสี่โมงครึ่ง เราใช้เวลาทำวิเคราะห์น้ำในอาหานเกือบครึ่งวันเพราะอาจารย์ให้สาธิตให้น้องปีหนึ่งดูด้วย พอกลับมาผมรีบตรงดิ่งไปอาบน้ำเพราะหกโมงต้องรีบเข้าร้าน ผมไม่อยากเสียเงินค่าสายชั่งโมงละร้อยเลยรีบปั่นงานสุดชีวิต อะ…ผมบอกไปหรือยังว่าเมื่อวานหลังจากกลับมานับทิปในกระเป๋าดู ผมได้ทิปเกือบสี่พันแน่ะ
วันนี้เป็นวันอาทิตย์เดรคไม่ได้ทำพาร์ทไทม์ มีแค่ผมคนเดียว หลังอาบน้ำเสร็จเลยไม่ต้องรอใครตรงดิ่งไปที่ร้านได้เลย พอเดินเข้าไปในร้ายผมเจอพนักงานประจำซึ่งจำนวนของพนักงานต่างจากเมื่อวานเกือบครึ่ง เพราะพรุ่งนี้ไม่ใช่วันหยุดวันนี้คนเลยลดลง วันนี้เลยไม่มีพนักงานพาร์ทไทม์
"เดี๋ยวนี้พี่ครามเข้าร้านเร็วจังวะ" พี่อาร์มพนักงานประจำของร้านหันมาพูดกับผม ทุกคนในร้านรู้ดีว่าพี่ครามจะเข้ามาร้านก็สามสี่ทุ่มตลอด แต่สองวันมานี้พี่ครามเข้าร้านพร้อม ๆ กับที่พนักงานเข้ามาทำความสะอาดร้านเลย
"สงสัยมาจับผิดเรามั้ง ฮ่า ๆ" ผมพูดเสร็จก็หันไปถูโต๊ะเพื่อทำความสะอาด พี่อาร์มหัวเราะนิดหน่อยก่อนจะยกเก้าอี้ที่อยู่โต๊ะถัดไปลงเพื่อให้ผมไปเช็ดต่อ
"รีบมากินเหล้าหรือเปล่า"
"แน่ะ นินทาเจ้าของร้านกันหรือไงเจ้าพวกนี้นิ" ขณะที่ผมกับพี่อาร์มกำลังนินทาพี่ครามอย่างมันปาก กัปตันก็เดินเข้ามาดุพวกผมที่กำลังใช้มือทำงานและใช้ปากนินทาเจ้านายตัวเองอยู่ ฮ่า ๆ
"กัปตันไม่บอก เจ้าของร้านจะรู้ได้ยังไงล่ะครับ" พูดจบก็หันไปยิ้มตาหยีให้ กัปตันหันมามองผมด้วยรอยยิ้มแล้วตบหัวผมเบา ๆ แต่ดูแล้วเหมือนลูบหัวซะมากกว่า
"ไป ๆ ทำงานกันได้แล้ว"
"ผมก็ทำอยู่นิฮะ ใช้มือทำใช้ปากนินทาไง" พูดจบก็รีบเผ่นไปอีกฝั่งเพราะกลัวโดนพี่เกรย์โบกกบาล พี่เกรย์กะพี่อาร์มหัวเราะก่อนจะพากันแยกไปทำงาน
หลังผมกินข้าวเสร็จแค่เสี้ยวนาทีลูกค้าก็เริ่มเข้าร้าน จนผมรีบกุลีกุจอเข้าไปรับลูกค้าในโซนตัวเอง วันนี้ในโซนผมมีลูกค้าแค่สี่โต๊ะดูจะไม่เยอะเหมือนสองวันที่ผ่านมาเท่าไรแต่ทุกโต๊ะเป็นลูกค้าของเมื่อวาน ทุกโต๊ะเลยชวนผมกินเหล้าด้วยมีทั้งเหล้า ไวน์ เบียร์ และค็อกเทล ดูแล้วผมคงไม่แคล้วเมาแน่ ๆ
"น้องยินวันนี้ไม่ร้องเพลงหรอ" ลูกค้าผู้ชายที่สวมเสื้อยืดลายกราฟิคถามผม พร้อมกับยกแก้วตัวเองขึ้นมาชนกับแก้วของผม ผมยกแก้วที่เพิ่งชนกับลูกค้าขึ้นมากระดกจนหมด
"เมื่อวานนักร้องเกิดอุบัติเหตุครับผมเลยโดนจ้างขึ้นแทน"
"งั้นพี่จ้างขึ้นบ้างได้ปะ"
"ขึ้นเวที?"
"โห น้องยินชงงี้พี่ต้องตอบว่าไงอะ" พอลูกค้าพูดเสร็จคนอื่น ๆ ในโต๊ะก็พากันหัวเราะ ผมเลยหันไปรินเบียร์ให้ทุกคนในโต๊ะก่อนจะขอตัวไปชงเหล้าโต๊ะอื่นต่อ ผมเดินวนชงเหล้ากินเหล้าอยู่แบบนี้จนวงดนตรีวงที่สองจบลง
"กัปตันฝากโซนหน่อยได้มั้ยอะ ผมอยากเข้าห้องน้ำ"
"ได้ดิ ไปเลยพี่ดูให้"
"ขอบคุณครับ" พอพูดจบผมก็พาตัวเองเดินไปเข้าห้องน้ำ หลายครั้งผมไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมเวลาเข้าห้องน้ำต้องมาเจอพี่ครามอยู่ตรงนั้นแถวลานจอดรถตลอดเลย วันนี้ผมเพิ่งสังเกตุเห็นป้ายว่าตรงนี้อนุญาตให้สูบบุหรี่เพราะตัวเองไม่สูบเลยไม่ได้สังเกตุ
"มาทำอะไรแถวนี้"
"มาดูดบุหรี่มั้งครับ"
"รู้มั้ยว่ามันไม่ดี" พอผมตอบกลับพี่ครามก็เริ่มเข้าโหมดผู้ปกครองทันที ทั้งที่เมื่อกี้ตัวเองเพิ่งจะสูบบุหรี่อยู่เลยแท้ ๆ ดันมาสอนคนอื่นว่ามันไม่ดีอีก โอ้…หัวจะปวด ผมต้องคุยกับคนแบบพี่ครามยังไงดีนะ
"แล้วพี่สูบทำไมอะถ้ามันไม่ดี"
"เป็นเด็กเป็นเล็กหัดเถียงผู้ใหญ่ แล้วก็เลิกสูบเลยนะ"
"เหอะ ใครจะไปอยากสูบเหม็นจะตายไม่เห็นจะชอบเลย" พี่ครามสั่งผมเสร็จก็เดินนำหน้าผมเข้าร้านไป ผมเลยบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินตามไปทำงานต่อ เข้ามางานต่อประมาณสี่สิบนาทีผมก็ไล่เก็บเงินลูกค้าในโซนจนหมด เราจำเป็นเรียกเก็บเงินลูกค้าทุกโต๊ะถ้าถึงเวลาเที่ยงคืนแล้ว เพื่อป้องกันลูกค้าเมาแล้วชักดาบพี่เกรย์เล่าว่าบางคนเมาแล้วลืมเลยมาจ่ายอีกวัน บางคนตั้งใจชักดาบแต่ใครที่หายไปเกินสองวันแล้วไม่มาจ่าย พี่ครามเป็นคนไปตามไม่รู้ตามยังไงพี่เกรย์บอกได้มาทุกคนที่ชิง บางคนโดนค่าปรับด้วย บางคนต้องไปเคลียร์ที่โรงพักกันเลยทีเดียว
พอเลิกงานเก็บร้านสแกนนิ้วออกงานเสร็จผมก็พาตัวเองข้ามถนนเดินเลียบทางเพื่อจะเดินกลับบ้าน
"ขึ้นมา" พี่ครามลดกระจกแล้วส่งเสียกจากในรถสีขาวคันโตที่ผมเคยนั่งมาแล้วหนหนึ่ง ผมหันไปมองคนในรถด้วยสีหน้างง ๆ
"ผมเดินไปได้พี่ บ้านผมอยู่แค่นี้เอง"
"จะไปส่ง ขึ้นมา" พี่ครามเหมือนไม่ได้ฟังที่ผมพูดเลยสักนิด พอเห็นแบบนั้นเลยไม่คิดจะพูดอะไรอีกเพราะนอกจากจะเบลอจากแอลกอฮอล์หลายแขนง ผมยังง่วงสุด ๆ ไปเลย
"พี่จะไปไหนอะ ไม่นอนร้านหรอ"
"ธุระ" พี่ครามตอบพร้อม ๆ กับเหยียบคันเร่งให้รถทะยานไปข้างหน้า
"ถ้าพี่จะขี้เกียจพูดขนาดนี้ ทำไมต้องมาทักผมด้วยล่ะ ไม่รู้หรอว่าผมชอบพูด"
"ก็พูดสิ จะได้ฟัง"
"เหมือนไม่ได้คำตอบเลยแฮะ"
"แล้วจะให้พูดอะไรล่ะ" พี่ครามถามขณะที่กำลังขับรถและสายตาจับจ้องอยู่ที่ถนนเบื้องหน้า โดยไม่ได้สังเกตเห็นความงงจากสีหน้าของผมตอนนี้
"นิ่ง ๆ แบบพี่มีเพื่อนหรือมีแฟนบ้างมั้ย" พอเห็นว่าป่วยการจะบังคับพี่ครามพูด คนพูดมากอย่างผมทนไม่ได้เลยเป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
"ก็ต้องมีสิ ถามทำไม"
"ผมก็ถามไปเรื่อยอะ พี่เข้าใจคำว่าชวนคุยปะ" รถหยุดลงทันทีที่ผมพูดจบ ผมหันไปยกมือไหว้พี่ครามก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาถือเอาไว้
"ผมไปนะ ขอบคุณนะครับ" พี่ครามพยักหน้าให้ผมเลยเปิดประตูลงจากรถไป เขาไม่ได้พูดอะไรต่อก็แล้วก็ขับรถออกไปเลย คุณเจ้าของร้านทำผมทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าพี่เขาใจดีอย่างที่ความรู้สึกบอกหรือเปล่า หลังจากเขาขับรถไปผมก็เดินตรงเข้าบ้านทันทีเพราะง่วงและพรุ่งนี้มีคลาสตั้งแต่ 9 โมงเช้า
Laiknam' s Said
พอส่งเด็กผมส้มถึงบ้านผมก็ขับไปวนยูเทิร์นหน้ามอ เพื่อกลับเข้าร้านไปนอนผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะขับออกมาทำไม ปกติไปไหนมาไหนผมจะใช้บิ๊กไบค์เสมอ แต่พอเห็นเด็กนั่นผมกลับกลัวมันนั่งไม่สบายเลยเปลี่ยนมาขับรถยนต์แทน ตอนแรกผมกะจะขอบคุณมันแต่พอเห็นหน้ากลับพูดไม่ออกพาลแต่จะนึกไปถึงเรื่องวันก่อนอยู่เรื่อย ตอนนี้ในหัวเลยคิดถึงแต่คำพูดของพี่ชิน พอเห็นเด็กนั่นพูดคุยกับกัปตันอย่างสนิทสนมทำเอาขมับผมเต้นตุ้บ ๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แถมยังชอบพาตัวเองเข้าไปขัดจังหวะเขาด้วยเรื่องโง่ ๆ อีกด้วย
"มาซื้อไรวะไอ้คราม" ผมกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ ก็ได้ยินเสียงทักจากข้างหลัง พอหันไปดูก็พบกับเพื่อนตัวเองที่คงเมาแล้วมาแวะหาอะไรกินในร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะไปต่อที่ไหนสักที
"ไม่รู้เหมือนกัน"
"อ้าว ไอ้เวรไม่รู้แล้วมาทำไมวะ" ฝ่ายตรงข้ามถามด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อ ก่อนจะเหล่ตามองกล่องหมากฝรั่งในมือผม
"มึงเคี้ยวหมากฝรั่งด้วยหรอ ปกติไม่เคยเห็น"
"นั่นสิ กูเคี้ยวหมากฝรั่งด้วยหรอ"
"มึงเมาหรือไงวะคราม ดูไม่มีสติยิ่งกว่ากูซะอีก" พอมันพูดจบผมก็ยืนนิ่งพลางคิดทบทวนว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี่ นอกจากจะนึกไม่ออกแล้วในหัวยังมีแต่คำว่า 'ไม่เห็นจะชอบเลย' ของไอ้เด็กหัวส้มนั่นด้วย พอนึกไม่ออกเพื่อนของผมก็ดึงกล่องหมากฝรั่งไปวางที่เคาน์เตอร์คิดเงิน จ่ายเงินเรียบร้อยแล้วมันก็ยัดกล่องหมากฝรั่งสามกล่องใส่มือผม
"มึงกลับไปได้ล่ะ หรือจะไปกับกูต่อ"
"ไม่อะ พรุ่งนี้กูมีงานเช้าวะ"
"เออ งั้นพรุ่งนี้เย็นเจอกันร้านมึง" ไอ้เคพูดจบก็รีบเดินออกไปจากร้านสะดวกซื้อทันที ไอ้นี่สงสัยนัดหญิงไว้แน่เลยถึงได้รีบขนาดนี้ พอเห็นเพื่อนไปผมก็พาตัวเองออกไปกลับไปนอนที่ร้านโดยมีหมากฝรั่งสามกล่องกลับไปด้วย
อีกอาทิตย์หนึ่งจะเป็นวันพระใหญ่ที่ทุกร้านถูกสั่งห้ามขายแอลกอฮอล์ ผมเลยมีความคิดดี ๆ ว่าจะพาเด็กในร้านไปเที่ยวแพเล่นน้ำ พอนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาผมเลยหันไปหยิบกระดาษและปากกาที่โต๊ะทำงานในห้อง เพื่อมาลิสต์รายการต่าง ๆ ลงไป ก่อนจะถ่ายรูปกระดาษที่เขียนเรียบร้อยแล้วส่งให้กัปตันเพื่อปรึกษาเรื่องนี้ต่อ
พอทำทุกอย่างเสร็จก็ยังไม่รู้สึกง่วงแต่อย่างใดเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถเฟซบุ๊กในแท็กของร้าน เลื่อน ๆ ไปสักพักก็เห็นรูปของเด็กผมส้มที่กำลังเป็นกระแสในแท็กร้าน ไม่ว่าใครมาเด็กนั่นก็จะถูกเรียกไปถ่ายรูปด้วยเสมอ บางคนถึงกับโพสต์ว่ามาไม่เจอยินถือว่าแต้มบุญหมด บางคนแท็กเฟซบุ๊กเจ้าตัวด้วยเลยซ้ำ ขณะกำลังนั่งเลื่อนไปเลื่อนมารู้ตัวอีกทีผมก็กดเพิ่มเพื่อนเจ้าเด็กผมส้มนั่นซะแล้ว
Brew up 5ผมลากสังขารกลับจากสาขาตอนสี่โมงครึ่ง เราใช้เวลาทำวิเคราะห์น้ำในอาหานเกือบครึ่งวันเพราะอาจารย์ให้สาธิตให้น้องปีหนึ่งดูด้วย พอกลับมาผมรีบตรงดิ่งไปอาบน้ำเพราะหกโมงต้องรีบเข้าร้าน ผมไม่อยากเสียเงินค่าสายชั่งโมงละร้อยเลยรีบปั่นงานสุดชีวิต อะ…ผมบอกไปหรือยังว่าเมื่อวานหลังจากกลับมานับทิปในกระเป๋าดู ผมได้ทิปเกือบสี่พันแน่ะวันนี้เป็นวันอาทิตย์เดรคไม่ได้ทำพาร์ทไทม์ มีแค่ผมคนเดียว หลังอาบน้ำเสร็จเลยไม่ต้องรอใครตรงดิ่งไปที่ร้านได้เลย พอเดินเข้าไปในร้ายผมเจอพนักงานประจำซึ่งจำนวนของพนักงานต่างจากเมื่อวานเกือบครึ่ง เพราะพรุ่งนี้ไม่ใช่วันหยุดวันนี้คนเลยลดลง วันนี้เลยไม่มีพนักงานพาร์ทไทม์"เดี๋ยวนี้พี่ครามเข้าร้านเร็วจังวะ" พี่อาร์มพนักงานประจำของร้านหันมาพูดกับผม ทุกคนในร้านรู้ดีว่าพี่ครามจะเข้ามาร้านก็สามสี่ทุ่มตลอด แต่สองวันมานี้พี่ครามเข้าร้านพร้อม ๆ กับที่พนักงานเข้ามาทำความสะอาดร้านเลย"สงสัยมาจับผิดเรามั้ง ฮ่า ๆ" ผมพูดเสร็จก็หันไปถูโต๊ะเพื่อทำความสะอาด พี่อาร์มหัวเราะนิดหน่อยก่อนจะยกเก้าอี้
Brew up 4ผมร้องเพลงเสร็จทุกคนปรบมือกันดังมากจนผมลืมความตื่นเต้นก่อนหน้านี้ไปซะสนิทเลย พี่เกรย์ก็ชูนิ้วโป้งทั้งสองนิ้วพร้อมยิ้มหวานให้ผม"สวัสดีทุกคนนะครับ ขอต้อนรับสู่ห้องนั่งเล่นสำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจในคืนวันเสาร์แบบนี้ สามารถแนะนำเพลงกันขึ้นมาได้นะครับแต่ถ้าใครแนบทิปมาเราจัดให้พิเศษแน่นอนฮะ" พอผมพูดติดตลกใส่ไมค์เสร็จมือกลองห็ให้สัญญาณเริ่มเพลงที่สองต่อเลย นอกจากกระดาษขอเพลงแล้วผมยังได้รับทั้งเหล้าทั้งเบียร์และทิปพิเศษจากลูกค้า ที่ชื่นชอบเสียงผมเป็นพิเศษอีกด้วยวันนี้วันสินะเพราะผมได้ทิปไม่หยุดเลยLaiknam's saidหลังจากขึ้นร้องเพลงในฐานะนักร้องจำเป็น ดูเหมือนเจ้าเด็กหัวส้มนั่นจะได้ความสนใจจากลูกค้ามากเป็นพิเศษ นอกจากหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูแล้วเด็กนั่นยังอัธยาศัยดี ยิ้มเก่ง นี่ผมเพิ่งบอกว่าเด็กหัวส้มนั่นน่ารักใช่หรือเปล่า หลังจากที่คุยกับพี่ชินเสร็จผมก็คิดทบทวนมาตลอดทั้งวัน วันนี้ถึงได้รีบเข้าร้านเพราะผมไม่มั่นใจว่าตัวเองรู้สึกอะไรกับเด็กนั่นหรือเปล่า"เหลือเวลาอีกสองเพลงสุดท้ายแล้ว ใครมีเพลงอะไรแนะนำกันเข้ามาได้เลยนะฮะ" ยินพูดใส่ไมค์ช่วงก่อนขึ้นเพลงใหม่ ผมนั่งจ้องเด็กนั่นมาสั
Brew up 3หลังจากพักฟื้นมาครึ่งวันผมก็สร่างเมา อาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปเมาในเวลางานต่ออีก โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์ทำให้ผมไม่ต้องฝืนสังขารไปเรียนทั้ง ๆ ที่แฮงก์หนักขนาดนี้ ก็อย่างที่เดรคมันพูดผมไม่ใช่คนคออ่อนนะแต่เมื่อคืนหนักสุดเพราะคนปกติเวลากินเหล้ากินเบียร์ก็เลือกกินแค่อย่างเดียว แต่นี่ผมกินทุกอย่างที่ในร้านมีเลยมานั่งแฮงก์ นอนแฮงก์ ยืนแฮงก์อยู่นี่ไง เดรคกำลังอาบน้ำอยู่เหมือนกันเพราะวันนี้เป็นอีกวันที่มันต้องทำพาร์ทไทม์ที่ร้าน เออ…เมื่อวานผมทำงานวันแรกได้ทิปตั้งพันห้าแน่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันผมรับประกันเลยว่าไม่อดตายแน่ ๆ ข้าวเย็นก็ไปกินที่ร้าน เงินออกทุก 15 วัน กัปตันของเราบริหารร้านแทนพี่ครามได้ดีจริง ๆ"มึงเพ้อไรอยู่วะยิน ไปได้ยัง" เดรคทักขึ้นขณะที่ผมกำลังนั่งเหม่อคิดอะไรไปเรื่อย ผมลุกขึ้นพยักหน้าให้มันก่อนจะหันไปหยิบเป้มาสะพาย แล้วเดินตามมันออกไป"มึงยังแฮงก์ไม่หายหรือไง" เดรคหันมาถามผมขณะที่ยืนรอผมปิดประตูบ้านอยู่ พอปิดประตูเสร็จผมก็หันไปตบไหล่มันหนึ่งที"นิดหน่อย แต่เดี๋ยวไปถอน" ผมตอบมันพร้อมใช้มือพยายามเกาะไหล่มันเดิน แต่บังเอิญผมเตี้ยกว่ามันเลยดูเหมือนเด็กกำลังปีนผู้ใหญ่อยู่
Brew up 2ผมลืมตาขึ้นมาในเช้าของอีกวันเพราะเเสงอาทิตย์ทะลุผ่านผ้าม่านเข้ามา ก่อนจะขยับตัวให้ลุกจากที่นอนช้า ๆ พอมองไปรอบห้องสิ่งที่ทำให้ผมตกใจคือที่นี่ไม่ใช่ห้องเดรค ผมจำได้ว่าเมื่อคืนเลี้ยงรับน้องใหม่อย่างผมและหลังเมาจัดผมจำได้ว่าผมอยู่ที่ร้าน มันคลับคล้ายคลับคลาหรือผมฝันกันแน่นะ"ตื่นได้แล้วหรือไง" เสียงที่ไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไรดังขึ้น จากประตูห้องน้ำที่อยู่ถัดจากเตียงไปไม่ไกลนัก ผมพยายามเพ่งมองอยู่นานเพราะคน ๆ นั้นใช้ผ้าขนหนูวางแปะไว้บนหัวเพื่อซับน้ำที่เปียกจากการสระผม"พี่เป็นใคร" ผมถามพร้อมกับเปิดผ้าห่มออกเพื่อจะลุกจากที่นอน แต่พอเปิดได้แค่นิดเดียวก็ต้องปิดไว้เหมือนเดิมเพราะใต้ผ้าห่มผมไม่ได้ใส่อะไรอยู่เลยแม้แต่ชิ้นเดียว"อะ จำเจ้าของร้านตัวเองไม่ได้แล้วหนึ่ง""พี่ครามเหรอ""เออ จะใครล่ะก็เมื่อคืนเมาอยู่ที่ร้าน""แล้วทำไมผมอยู่สภาพนี้อะ""คิดเอาเอง ไปอาบน้ำไป่" พี่ครามพูดจบก็ขว้างผ้าขนหนูมาตรงหน้าของผม ผมรีบเอาผ้าขนหนูพันไว้รอบตัวแล้วตรงเข้าห้องน้ำที่เขาเพิ่งจะออกมา ใช้เวลาอาบน้ำแค่ 5 นาทีผมก็รีบออกมาเพราะมีบางอย่างอยากจะถามเจ้าของร้าน พอออกมาจากห้องน้ำก็เห็นพี่ครามนั่งเป่าผมอยู่หน้า
Brew up 1หลังจากพี่เกรย์ผู้จัดการร้านสอนงานผมอยู่เกือบชั่วโมง ร้านก็เปิดเรียบร้อยแล้วแม้จะยังไม่มีลูกค้ามาก็ตามที ร้านอาหารกึ่งบาร์ของที่นี่จะแบ่งเป็น 4 โซน โซนแรกจะเป็นห้องกระจกซึ่งอยู่ฝั่งขวามือถ้ามองจากนอกร้าน ส่วนโซนที่สองจะเป็นโซนหน้าเวทีที่มีไว้โชว์ไลฟ์ของวงดนตรีที่มีทั้ง 3 วงจนกระทั่งปิดร้าน โซนที่สามจะเป็นโซนฝั่งซ้ายมือถ้ามองจากด้านนอกร้านและอยู่ตรงข้ามกับโซนแรกซึ่งเป็นห้องกระจก โซนสุดท้ายจะเป็นโซนที่ต่อจากโซนที่สองแต่เป็นโซนที่ไม่มีหลังคาคลุม อ๋อ! ที่สำคัญผมรู้แล้วว่าคนชื่อลายครามคือเจ้าของห้องนั่งเล่นเวลาผ่านไปชั่วโมงหนึ่งหลังจากที่กัปตันสอนงานผมเสร็จพี่แกก็อยู่ใกล้ตัวผมตลอดเวลาเผื่อผมยังไม่เข้าใจระบบสั่งเหล้าสั่งอาหารผ่านโปรแกรมของที่ร้าน พอเริ่มมีลูกค้ามาเรื่อย ๆ ผมก็คอยเดินเข้าไปสังเกตดูว่าพนักงานเก่ามีวิธีรับลูกค้ายังไงบ้าง โดยเราจะรับลูกค้าได้เฉพาะลูกค้าที่ไปนั่งในโซนที่เรารับผิดชอบเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดการแย่งลูกค้ากัน ผมว่าระบบของที่นี่ดูโอเคอยู่นะเพราะถ้ามีการแย่งลูกค้ากันอาจจะเกิดการทะเลาะกันก็ได้"สวัสดีครับ พี่มากันกี่คนครับ" ผมรีบเข้าไปหาลูกค้าผู้ชายซึ่งกำลัง
บทนำ"ไอ้ยินแกกลับมาเดี๋ยวนี้นะไอ้ลูกชั่ว" เสียงชายแก่ขี้เมาที่ทั้งตะโกนเรียกและตะโกนด่าผมไปพร้อม ๆ กันดังลั่นซอยที่ทั้งเล็ก ทั้งแคบในแถบชานเมือง ผมชื่อยินเป็นลูกชายของชายแก่คนนั้น คนที่กำลังตะโกนด่าและวิ่งไล่กวดผมอยู่เพราะผมวิ่งหนีออกมาจากทางเข้าบ้านของเจ้าหนี้ของเขา"กลับไปก็เขาขึ้นกบาลแล้ว" หลังจากพ่อขี้เมาของผมตะโกนด่าผมก็สวนกลับทันที ก่อนที่จะออกจากบ้านพ่อบอกว่าจะพาผมไปทำงานใช้หนี้ที่ผมไม่ได้ก่อ ทั้ง ๆ ที่ทุกวันนี้ผมก็เป็นคนหาเงินหาข้าวให้กิน แต่ตาแก่ขี้เมานั่นนอกจากจะไม่ทำงานแล้วยังติดการพนันเข้าขั้นเสพติด ไปกู้หนี้ยืมสินมาเรื่อย ๆ และครั้งนี้ก็เหมือนกัน ผมก็ไม่รู้ว่าไอ้เจ้าหนี้มันโง่หรือมันตั้งใจจะโกงตั้งแต่แรก ถึงได้ให้ตาแก่นั่นยืมเงินเกือบห้าหมื่นโดยไม่มีอะไรค้ำประกันเลย สุดท้ายตาแก่นั่นเลยพาผมมาเป็นคนใช้หนี้ โดยขายผมให้กับเกย์แก่ในหมู่บ้านที่เป็นเถ้าแก่ปล่อยเงินกู้ คิดดูว่ามันบัดซบขนาดไหนผมเป็นผู้ชายแต่ถูกขายใช้หนี้ แต่ผมไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงควรถูกขายเพราะไม่ว่าใครก็ไม่ควรถูกขายทั้งนั้นแหละ โชคดีที่ผมบังเอิญไปได้ยินพ่อคุยกับไอ้คนเก็บดอกถึงได้หนีออกมาได้ก่อนจะได้เดินเข้าป







