ตั้งแต่วันที่เอเดนเลือกที่จะใช้ชีวิตกับพิ้งค์พลอย เขาก็กลายเป็นผู้ชายอบอุ่นเอาอกเอาใจภรรยาอย่างสม่ำเสมอมาโดยตลอด จนกระทั่งได้สร้างครอบครัวที่น่ารักให้ใครต่อใครได้อิจฉา ซึ่งพวกเขามีลูกด้วยกันสองคนคือออสตินเป็นลูกชายคนโตเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายกำลังจะจบแล้ว คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาออกแบบเครื่องแต่งกาย เนื่องจากเอเดนและกวิน กำลังจะร่วมมือกันขยายธุรกิจ เครื่องประดับและเครื่องแต่งการควบคู่ไปกับการผลิตรองเท้า เพื่อทำให้ใบพลูกับออสตินสนุกกับงานที่กำลังจะทำ เพราะคนทั้งคู่มีสิ่งที่ชอบเหมือนกัน แล้วยังมีพรสวรรค์คล้ายกันอีกด้วย
ส่วนไอด้าลูกสาวคนเล็กของเอเดนกับพิ้งค์พลอยเพิ่งเข้าปีหนึ่ง ซึ่งเธอได้เข้าเรียนคณะเดียวกันกับพี่ชาย เพราะไอด้าเองก็ชอบการออกแบบเครื่องแต่งกายไม่แพ้ออสติน
ในขณะที่กวินท่านประธานบริษัทกวินชู มีลูกสาวกับใบบุญ และลูกชายอีกหนึ่งคน ซึ่งทั้งสองมีอายุห่างกันพอสมควร เมื่อใบพลูเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชั้นปีสุดท้าย คณะเดียวกับออสตินแล้วยังเรียนอยู่คลาสเดียวกันอีกด้วย จึงทำให้บิดามารดาคลายความกังวล เมื่อใบพลูมีออสตินคอยดูแล แต่ว่าในทางกลับกัน คนทั้งสองไม่เคยพูดจาลงรอยกันเลยสักครั้ง
ทางด้านไบเบิลนั้นกำลังจะขึ้นเรียนในชั้นมัธยมปีที่สี่ นิสัยของหนุ่มน้อยเงียบสุขุมจนน่าเกรงขาม ผิดกับลุคใสๆ ของเขาที่แตกหนุ่มหน้าตาดีราวกับโอปา มองยังไงก็ดูมีเสน่ห์ เหมือนกับพี่สาวของเขาที่ดูสวยแบบใสๆ ห้าวเล็กๆ แต่ดูรวมๆ แล้วใบพลูเป็นผู้หญิงที่สามารถทำให้ผู้ชายทุกคนเข้าใกล้ ต้องหลงเข้าไปในวังวนของเธอ ราวกับต้องมนต์ได้อย่างไม่ยากเลยสักนิด เหมือนกับที่ออสตินกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ แต่ทว่าเขากลับทำเป็นปากแข็ง ใช้ความสนิทใกล้ชิดกับเธอไปวันๆ
ส่วนใบบัวเธอเรียนจบแพทย์สมใจ แต่ทว่าหญิงสาวได้ไปประจำอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐ ซึ่งอยู่ทางเหนือ เธอมักจะโทรมาเล่าให้พี่สาวฟังเสมอ ถึงบรรยากาศที่ดีและผู้คนที่นั่นล้วนเป็นมิตร แต่ทว่าแพทย์หญิงใบบัวในวัยสามสิบสองย่างสามสิบสามกลับโสดสนิทไม่คิดจะเปิดโอกาสให้ผู้ชายคนไหนเข้ามาในชีวิตของเธอ จนพี่สาวอย่างใบบุญรู้สึกหวั่นใจ กลัวว่าน้องสาวจะขึ้นคาน ไร้คนเหลียวแลใยยามแก่เฒ่า
แต่ที่ขาดไม่ได้คงจะเป็นคู่ของริสากับใบโพธิ์ ทั้งสองมีลูกสาวเพียงคนเดียวเป็นโซ่ทองคล้องใจชื่อใบเฟิร์น ชายหนุ่มต้องขอบคุณริสาที่วันนั้นเธอไม่ยอมกินยาคุมฉุกเฉิน เพราะอยากเอาคืนใบโพธิ์ ซึ่งทำให้น้ำยาของเขาได้ผลเกินคาด จนก่อเกิดกำเนิดสิ่งมีชีวิต กลายเป็นสายใยผูกพัน ของคำว่าครอบครัว
สมบูรณ์แบบ กระทั่งปัจจุบันบิดาของริสาได้เสียชีวิตลง เอเดนซื้อหุ้นต่อจากนายคชาทั้งหมด จึงทำให้เขามีหุ้นที่กวินชูห้าสิบเปอร์เซ็นต์ พอๆ กับกวิน
ซึ่งคนที่กำลังจะมาสานต่อธุรกิจรองเท้าแบรนด์ดังอย่างกวินชู คงไม่พ้นออสตินกับใบพลู แต่ทั้งคู่แทบจะไม่พูดกันดีๆ เลยสักครั้ง ซึ่งในเวลานี้คนทั้งคู่กำลังนั่งรถจากบ้านมุ่งสู่มหาวิทยาลัย เพื่อส่งงานอาจารย์หลังจากที่ฝึกงานเสร็จ แต่ดูเหมือนว่ากำลังจะเกิดศึกขึ้นกลางทาง
เมื่อทั้งสองโต้ตอบกันไปมาด้วยวาจาที่ไม่มีใครยอมใคร รถยนต์คันหรูแล่นเข้ามายังถนนใหญ่ มุ่งสู่มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของย่านนี้ เรื่องค่าเทอมที่แพงหูฉี่ บวกกับการเรียนการสอนที่ดีเยี่ยม แต่ถึงยังไงมหาวิทยาลัยทุกที่ล้วนมีนโยบายแข็งขัน เน้นยำปลูกฝังให้อาจารย์ถ่ายทอดวิชาความรู้อย่างเต็มความสามารถ เพื่อสอนให้ศิษย์ทุกคนนำความรู้ที่ร่ำเรียนมาไปใช้ในชีวิตจริงได้ เพราะงานทุกวันนี้ยิ่งหาได้ยากเย็นแสนเข็ญ
"ฉันไม่เคยรักนาย! ไม่เคยรักนาย! จำเอาไว้ให้ขึ้นใจเลยนะออสติน" เสียงแหลมดังขึ้นยังกับป่าช้าแตก เมื่อหญิงสาวถูกชายหนุ่มที่นั่งมาข้างๆ กระตุกต่อมโกรธของเธอให้ทำงาน
"หึ! ผู้หญิงทุกคนเข้าใกล้ฉัน ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าไม่รักไม่ปลื้ม อย่าปากแข็งไปหน่อยเลยน่า แต่อย่างเธอฉันขอประกาศไว้ตรงนี้เลยนะ เธอไม่มีทางได้เห็นขาอ่อนของฉันหรอก" ชายหนุ่มพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่มั่นอกมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเอง ซึ่งสามารถมัดใจสาวได้ค่อนมหาวิทยาลัย
"ชิ! นายไปเอาความมั่นใจมาจากไหนออสติน คิดว่าตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาลรึไง!" หญิงสาวเองยอมเขาซะที่ไหนตะคอกใส่หน้าชายหนุ่มที่สวมใส่ชุดนักศึกษาจนน้ำลายกระเซ็น ทำให้ออสตินถึงกับมองค้อนไปที่คนตัวเล็ก ถ้าเขาถือสาหาความ แค่จับมาหักแข้งหักขาเธอก็ง่ายยังกับปอกกล้วยเข้าปาก แต่เขาก็ไม่อยากทำ เพราะมันไม่ใช่วิธีของลูกผู้ชาย
“ลืมไปแล้วรึไงว่าเธอคือผู้หญิงของฉันใบพลู” ออสตินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ทว่าคนฟังถึงกับเจ็บที่กลางอกข้างซ้าย เมื่อชายหนุ่มนั้นหวังแต่จะกำราบเธอให้ยอมจำนน เพียงเพราะว่าเขานั้นคือเจ้าชีวิตของเธอ
“อีกนานแค่ไหน นายถึงจะยอมปล่อยฉันไป” ใบพลูเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พลางกระพริบตาถี่ๆ ด้วยความรู้สึกน้อยใจในโชคชะตา ที่กำลังถูกออสตินคุกคามกำหนดให้เธอทำตามในสิ่งที่เขากำลังลิขิตเอาไว้
“ตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต แม้แต่ยมโลกก็ไม่สามารถกีดกันให้เธอหนีฉันพ้นหรอกนะใบพลู เพราะฉันจะตามติดชีวิตของเธอไม่ว่าเป็นหรือตายฉันก็จะตามไปไม่หนีห่าง จะทำทุกทางให้เธอผูกติดกับชีวิตของฉันไปจนชั่วนิจนิรันดรไม่มีที่สิ้นสุด”
ถ้อยคำที่ออสตินพูดออกมานั้น ยิ่งทำให้ใบพลูน้อยใจ แต่ทว่าภายใต้คำพูดที่ไม่สวยงามกลับมีนัยมากมายแอบแฝงเอาไว้ เพราะเขาจะไม่ยอมปล่อยให้หญิงสาวหนีห่าง เมื่อหัวใจของเขาเริ่มเต็มไปด้วยหญิงสาว ซึ่งดูเหมือนว่าเธอไม่เคยเข้าใจในสิ่งที่เขาทำลงไป มันคือรักหรือเกลียด แต่ทว่าใบพลูกลับเลือกที่จะเชื่อว่าเขาเกลียดเธอ
“นายมันเห็นแก่ตัว ใช่สิ! ชีวิตของฉันมันเป็นของนายตั้งแต่วันนั้นแล้วนี่!” คราวนี้ใบพลูพูดออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆ เมื่อเธอได้สัญญากับตัวเองเอาไว้ว่า จะไม่วันให้ออสตินเห็นน้ำตาเธอเด็ดขาด
“รู้แล้วก็จำใส่ใจเอาไว้ ฉันคือใครสำคัญกับเธอยังไง อย่าคิดหนี เพราะต่อให้เธอหนียังไงก็ไม่มีทางหนีฉันพ้นหรอกนะใบพลู” ออสตินได้ประกาศกร้าวออกมาด้วยน้ำเสียงเข้ม ซึ่งเขาเองก็พยายามซ่อนความรู้สึกลึกๆ ภายในใจเอาไว้เช่นกัน เพราะไม่อยากให้เธอรู้ว่าเขาหวั่นไหวแค่ไหนในเวลาที่ได้อยู่ใกล้หญิงสาว
“ฉันคงจำใส่สมองเอาไว้มากกว่าที่จะจำใส่ใจ เพราะนายไม่มีอะไรที่ควรค่าพอ ที่จะให้ฉันจำใส่ใจดวงนี้” คราวนี้ใบพลูได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เพื่อตอกย้ำให้ออสตินรู้ว่าเขาไม่ควรค่าพอที่จะจะให้เธอจดจำ แม้หญิงสาวจะรู้อยู่เต็มอก เรียนจบเมื่อไหร่บิดาของเธอและบิดาของเขาได้วางแผนเอาไว้ เพื่อที่จะให้ออสตินเข้ามาช่วยงานที่บริษัทกวินชู ในฐานะผู้ช่วยของเธอ เพราะหวังให้คนทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน
ซึ่งพบว่าใบพลูกำลังนั่งยิ้มแฉ่ง ส่งตาหวานมาให้เขา พร้อมกับยื่นก่องของขวัญผูกโบสีชมพูมาให้ ซึ่งชายหนุ่มถึงกับขมวดคิ้วดกหน้าเข้าหากันด้วยความสงสัย เพราะวันนี้ก็ไม่ได้เป็นวันพิเศษอะไรทำไมคนตัวเล็กถึงมีของขวัญให้กับเขานะ“ผมลืมหรือเปล่า วันนี้เป็นวันพิเศษ เนื่องในโอกาสอะไร ขอโทษนะครับคุณแม่ถ้าผมเผลอเลอลืมวันสำคัญของเราไปบ้าง” ชายหนุ่มฉายแววตาออกมาด้วยท่าทีที่รู้สึกผิด เมื่อเขากำลังคิดว่าตัวเองแย่เกินไป ที่ลืมวันสำคัญของเขาและเธอได้ลงคอ“ไม่เกี่ยวกับวันพิเศษหรอกค่ะ มันคือเรื่องเซอร์ไพร์สที่ใบพลูบอกกับคุณเอาไว้ในตอนเย็นยังไงละค่ะ” หญิงสาวยังคงฉีกยิ้มแป้นให้กับผู้เป็นสามี เมื่อเธอนั้นเชื่อว่าเขาต้องดีใจกับสิ่งที่เธอตั้งใจจะเซอร์ไพร์สอย่างแน่นอนออสตินค่อยๆ แกะโบออกแล้วเปิดกล่อง ก่อนจะพบว่าของที่อยู่ในกล่องนั้น มันคือสิ่งที่มีค่ากับเขาแค่ไหน หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงขึ้น น้ำตาแห่งความปลาบปลื้มปีติยินดีไหลออกมาจากดวงตาคม เขาไม่อายที่จะหลั่งน้ำตาออกมาแบบนี้ เมื่อพบว่าที่ตรวจครรภ์นั้นขึ้นสองขีด เขากำลังจะมีลูกคนที่สอง กับผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ“ขอบคุณนะใบพลู ขอบคุณจริงๆ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่วัน
“มิ้นต์กับเดย์ต่างหาก”“จริงเหรอ...” ใบพลูเอ่ยถามชายหนุ่มออกมาราวกับว่าเธอไม่เชื่อใจเขา“ฉันจะโกหกเธอทำไม ที่สำคัญฉันกับมิ้นต์เราไม่เคยมีอะไรกัน” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปสบตาคนตัวเล็กอีกครั้ง เพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูดกับเธอ“ฉันยังเชื่อใจนายได้อยู่ใช่ไหม” ออสตินส่งยิ้มบางๆ ให้กับหญิงสาว แววตาอ้อนอ้อนของใบพลูกำลังจะทำให้คนตัวโตหัวใจละลาย ก่อนที่เขาจะหยิบรองเท้าคู่สวยออกมาจากถุงกระดาษ แน่นอนชายหนุ่มออกแบบมาให้เธอเป็นพิเศษ มันสวยสะดุดตา และเธอก็สวมมันได้พอดี“ฉันจะเป็นรองเท้าให้กับเธอ ฉันอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ แต่ลูกของเรา เด็กคนนี้ เกิดจากความรักไม่ใช่ความใคร่ เกิดจากความตั้งใจที่ฉันอยากได้ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ฉันรักเธอได้ยินไหมว่าฉันรักเธอ เราแต่งงานกันนะใบพลู” ถ้อยคำที่ชายหนุ่มถักทอเรียงร้อยออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ กำลังส่งผลให้ใบพลูหวั่นไหวหัวใจเต้นแรง“ฉันเคยบอกเหรอว่าจะไม่แต่งงานกับนาย” ดวงหน้ารูปไข่ดูสวยได้รูปเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อเธอมั่นใจว่าออสตินไม่มีทางทำให้เธอผิดหวังอย่างแน่นอน“เย้!”“เฮ้ยออสติน! ปล่อยฉันลงได้แล้ว ฉันกลัวตก” หญิงสาวถึงกับรีบเอาเรียวแขนคล้องลำคอแกร่ง
“ฮึก! ฮื้อ!” ใบพลูพยายามเก็บความรู้สึกน้อยใจเอาไว้สุดกำลัง แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว เธอก็ทนไม่ไหวปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย“หยุดร้องก่อน เธอรู้หรือเปล่า ว่าฉันคิดถึงเธอมากแค่ไหน หนีมาทำไม เธอไม่เชื่อใจฉันเลยรึไงใบพลู” ชายหนุ่มโน้มตัวลงเข้าหาหญิงสาว เขารั้งคนตัวเล็กเข้ามาซบกับร่างกายกำยำ พลางเอามือปาดน้ำตาออกจากแก้มของใบพลูอย่างเบามือ“นายต้องการอะไรจากฉันอีก”“ฉันต้องการครอบครัว ต้องการเธอกับลูก”“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันท้อง” ใบพลูเริ่มเป็นกังวล สีหน้าของหญิงสาวดูเสร้าหม่นแทนที่จะดีใจ เมื่อเธอไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นบ้านเล็กหรือบ้านใหญ่ ออสตินจะบริหารเวลายังไง เขาจะรักลูกของเธอเท่าลูกของมิ้นต์ไหมนั่นคือคำถามที่ใบพลูเกลียดที่สุด เพราะเธอไม่อยากใช้ผู้ชายร่วมกับใคร ไม่อยากให้ลูกต้องกลายเป็นคนมีปมด้อย“ไหนดูซิ นอกจากขี้แยแล้ว ยังชอบมโนไปเองด้วยใช่ไหมเนี่ย หืม” ออสตินอ้อมไปนั่งคุกเข่าลงที่พื้นตรงหน้าหญิงสาว เขารั้งมือของเธอมากุมเอาไว้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบดวงตากลมโต“นายจะทำอะไร ปล่อย! ฉันจะเข้าบ้าน นายกลับไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย” หญิงสาวพยายามดึงมือกลับ แต่ทว่าคงไม่เป็นผล เพราะออสตินตั้งใจใส่เกีย
“ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องปล่อยให้ออสตินเป็นคนสะสางเรื่องนี้เอง ก่อนที่ทุกอย่างมันจะบานปลายมากไปกว่านี้”“ป่านนี้นายกล้า คงพาออสตินไปถึงบ้านร้างแล้วมั้ง ฉันจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ ปล่อยให้ออสตินจัดการเองก็แล้วกัน”“ไม่ต้องเอาให้ถึงตาย ฉันยังไม่อยากได้ลูกเขยเป็นฆาตกร” “เชื่อเถอะน่า ออสตินคงมีวิธีที่ทำให้เดย์หายแค้น” เอเดนพูดพลางยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ ขณะที่กวินเองก็อดที่จะดื่มไม่ได้เช่นกัน เมื่อเขานั้นเป็นกังวลใจ เพราะห่วงใยความรู้สึกของใบพลูณ บ้านร้างชานเมือง ซึ่งเป็นอาณาจักรของเอเดน ที่ส่วนบุคคลห่างไกลชุมชน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่เอาไว้สำหรับเชือดศัตรู แน่นอนว่าพลอยชมพูไม่เคยรู้มาก่อน นอกจากออสติน กวินและลูกน้องคนสนิทเท่านั้น“มึงทำอะไรกับใบพลูบ้าง มึงทำอะไรเมียกู! กูถามมึงต้องตอบ มึงไม่มีสิทธิ์เงียบ” ออสตินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง ดวงตาคมจับจ้องมองไปที่ใบหน้าของเดย์อย่างสมเพช เมื่อชายหนุ่มถูกมัดขึงตึงเอาไว้ราวกับนักโทษ“ถุย!”“เชี้ยเอ้ย!”ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ออสตินปล่อยหมัดไปที่ใบหน้าของเดย์รัวๆ จนทำให้มิ้นต์ ที่ถูกมัดไว้กับเก้าทนไม่ไหว เมื่อพ่อของลูกกำลังเจ็บปวดทรมานใจ แม้เธอจะรู
“เราจบกันแค่นี้ ถือเสียว่าที่ผ่านมา ฉันได้ชดใช้ให้กับนายจนสิ้นแล้ว”“ใบพลู! ฟังฉันอธิบายก่อนสิ!” หญิงสาวคว้ากระเป๋าถือได้ เธอรีบวิ่งออกไปทันที ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางนั้นคือที่แห่งหนใด“เอะอะโวยวายทำไม มีอะไรเหรอออสติ” น้ำเสียงหวานดังขึ้น แต่ทว่าชายหนุ่มกลับรู้สึกรังเกียจ แม้แต่เสียงที่หล่อนเปล่งออกมาเขายังไม่อยากได้ยินด้วยซ้ำ“โธ่เว้ย!” ออสตินรู้สึกโมโหตัวเอง เมื่อเขาตามใบพลูออกไปไม่ทัน เพราะมัวแต่หาชุดมาสวมใส่ ไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนโทรไปก็ปิดเครื่อง มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขากันแน่ รักกันอยู่ดีๆ กลับมีเรื่องบ้าๆ คล้ายกัน ในเวลาไล่เลี่ยกัน แสดงว่าต้องมีความไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นนอนภาพบรรยากาศในยามเช้าวิวทิวทัศน์ตรงหน้าที่สวยงาม บ่งบอกให้รู้ว่าทัศนียภาพมีส่วนเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของมนุษย์ไม่น้อย เพราะป่าเขาลำเนาไพร ไม้ดอกไม้ประดับพวกนั้นทำให้ใบพลูดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าวันแรกๆ ที่เธอเดินทางมาถึงที่นี่ แม้ดวงตาที่เคยฉายแววเป็นประกายยังคงเศร้าหม่น แพทย์หญิงใบบัวก็ยังคงเชื่อว่าอีกไม่นานหลานสาวของเธอจะต้องดีขึ้น“ผลตรวจออกมาแล้วนะ” หญิงสาวรับฟังด้วยหัวใจที่เต้นแรง แต
ภายในห้องนอนของเดย์ บนเตียงขนาดคิงไซซ์ได้มีหญิงสาวร่างอรชรนอนหลับใหล เรือนกายของเธอมีเพียงชุดชั้นในตัวจิ๋วห่อหุ้มกายเอาไว้ หลังจากที่มิ้นต์ได้จัดการถอดชุดของเธอออกจนสิ้น สายตาคมจับจ้องไปที่ใบหน้ารูปไข่ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ นอนลงไปข้างกายของเธอ ซึ่งเนื้อตัวของเดย์มีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบเอวเอาไว้ ขณะที่มิ้นต์เป็นตากล้องคอยถ่ายภาพจัดฉากให้ดูสมจริง“นี่เดย์! ทำยังกับไม่เคย” มิ้นต์ถึงกับโวยวายออกมาเสียงดัง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มโอบใบพลูด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ “เคยน่ะเคย แต่ทุกมันยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่ได้นอนนิ่งๆ แบบนี้สักหน่อย”“มันก็เหมือนกันแหละน่า ตุ๊กตายางนายก็เคยเอามาแล้วไม่ใช่เหรอ”“หุบปาก!” “ก็เร็วหน่อยสิ เดี๋ยวออสตินก็กลับมาแล้ว เข้าในผ้าห่มทำเหมือนคนกำลังเล่นบทเลิฟซีนอะ” มิ้นต์ออกคำสั่งออกไป จนทำให้เดย์ชักสีหน้าใส่หล่อนอย่างไม่ค่อยพอใจ“เอาภาพนิ่งนะ”“รู้แล้วน่า ใครจะบ้าถ่ายวิดีโอ ยัยใบพลูนอนนิ่งเป็นขอนไม้อยู่แบบนั้น” มิ้นต์เริ่มขึ้นเสียงใส่ชายหนุ่ม ก่อนที่หล่อนจะพยายามหามุมกล้องให้ได้ภาพที่ดูเหมือนจริงที่สุด“พอแล้ว แค่นี้ก็ทำให้ออสตินไม่อยากแต่งงานกับใบพลูแล้วแหละ”“แ