ภายในห้องนอนของใบพลู หญิงสาวอาบน้ำชำระล้างคราบคาวโลกีย์ ก่อนจะเดินมานั่งที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วเพ่งมองตัวเองด้วยแววตาที่สมเพช
เมื่อเธอยอมจำนนต่อความเป็นชายจากออสตินอย่างไม่อาย ทั้งที่ผ่านมาพยายามระวังตัว ไม่ยอมให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบชายหนุ่ม แต่เมื่อคืนนี้เธอกลับยอมจำนนให้แก่เขาอย่างไม่รีรอ ราวกับว่าตัวเองก็รอคอยโหยหาเขามาแสนนาน
“ป่านนี้นายคงกำลังนั่งหัวเราะฉันอย่างมีความสุข คงจะสนุกมากสินะ ที่เอาชนะฉันได้ทุกประตู” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยร่องรอยของความอัดอั้นตันใจ เมื่อความรู้สึกมันหลากหลายแปลกประหลาดจนมิอาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
“นับจากนี้ไปฉันจะขออยู่ห่างๆ นาย ฉันจะไม่พาตัวเองเข้าไปพัวพันกับผู้ชายอย่างนายอีกแล้ว ฉันจะถือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเราเมื่อคืน มันคือการตอบแทน ที่นายเคยช่วยชีวิตฉันเอาไว้ในครานั้น จบสิ้นเสียที ฉันขอเป็นคนใหม่ที่จะไม่ยอมอ่อนข้อให้นายอีกแล้วออสติน!”
น้ำเสียงของเธอฟังดูคล้ายๆ กับว่าจะร้องไห้ออกมาเต็มที แม้ว่าหญิงสาวจะพยายามกลั้นเอาไว้จนสุดกำลัง ก่อนที่แววตาของใบพลูจะดูแข็งกร้าวราวกับคนละคน ดังที่เธอได้พูดกับตัวเอง นับจากนี้ไปเธอจะไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของออสตินอีกแล้ว
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงคนเคาะประตูดังขึ้น ซึ่งทำให้ใบพลูรีบปาดน้ำตาออกจากพวงแก้ม พร้อมกับเติมแป้งลงไป ก่อนที่เพื่อนทั้งสองของเธอจะเดินเข้ามา
“พวกฉันสองคนเป็นห่วงเธอแทบแย่ สรุปว่าเมื่อคืน...” พอเข้ามาในห้องนอนของเพื่อนรัก วาวารีบถามขึ้นด้วยความอยากรู้
“ไม่มีอะไร ฉันกับนายนั่นทะเลาะกันเหมือนทุกครั้ง จากนั้นฉันก็หนีกลับมาบ้าน” ใบพลูพูดแถออกไป พลางใช้นิ้วกลางไขว้นิ้วชี้แอบไว้ทางด้านหลัง เมื่อเธอกำลังพูดปด แล้วยังไม่กล้าสบตาเพื่อนทั้งสอง
“เมื่อสักครู่ ออสตินเพิ่งโทรมา เธอจะไม่โทรหาเขาหน่อยเหรอ นายนั่นของเธอฝากบอกมาว่า ถ้าเธอไม่โทรกลับเขาจะบุกมาหาเธอที่บ้านเลยนะใบพลู”
นัตตี้ส่งโทรศัพท์มือถือเครื่องแพงให้กับเพื่อนรักของเธอ พร้อมกับกระเป๋าสะพายที่ใบพลูไม่ได้หยิบมาด้วยเมื่อคืน เนื่องจากว่าเธอถูกออสตินลากออกไปจากงานอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ขอบใจนะ”
“เธอแน่ใจนะใบพลู ว่าเมื่อคืน...โอ๊ย! เจ็บนะนัตตี้” วาวายังคงไม่เลิกรา เธอพยายามที่จะเค้นเอาความจริงจากใบพลูเสียให้ได้ จนนัทตี้สะกิดเอาไว้แทบไม่ทัน
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เราสองคนขอตัวกลับก่อนนะ พอดีว่าต้องไปดูร้านเสื้ออ่ะ”
นัทตี้รีบขอตัวกลับ ก่อนที่วาวาจะเอ่ยถามในสิ่งที่ใบพลูไม่อยากตอบ ซึ่งหญิงสาวพอจะเดาได้ว่าเพื่อนรักของเธอกับออสตินนั้น มีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งแค่ไหน เพราะเธอฟังจากน้ำเสียงของชายหนุ่มที่ดูโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ คงไม่พ้นเรื่องที่ใบพลูหนีเขามา
“อืม แล้วเจอกัน”
“มีอะไรก็โทรหาเราสองคนได้ตลอดเวลานะ”
“อื้ม... ขอบใจมากนะวาวา นัทตี้”
ทั้งสามส่งยิ้มบางๆ ให้แก่กัน ก่อนที่สองสาวจะเดินออกไปจากห้องของใบพลู ภายในห้องนอนเริ่มเงียบงันขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวเหลือบลงไปมองสมาร์ตโฟนเครื่องแพงในมือด้วยความลังเลใจ เธอควรโทรหาเขาดีไหม แล้วถ้าออสตินบุกมาที่บ้านจริงๆ แล้วพูดความจริงทั้งหมดให้กับบิดามารดาของเธอฟังจะทำยังไง
“นายมันเจ้ากรรมนายเวรของฉันหรือยังไง ทำไมชีวิตของฉันต้องมีนายเข้ามามีบทบาททุกครั้งด้วยนะ” ใบพลูพูดพร่ำพรรณนาออกมาตามลำพัง ก่อนจะตัดสินใจโทรหาออสติน เพื่อตอกย้ำให้เขาเลิกวุ่นวายกับเธอสักที
“ฮัลโหล เธอเป็นบ้าไปแล้วใช่ไหม ออกจากบ้านไปตอนไหน ใครไปส่ง รู้ไหมว่ามันอันตรายแค่ไหน ชุดที่เธอใส่มันโป้จะตาย แล้วนี่เธอทำอะไรอยู่ ถึงเพิ่งโทรมาเอาป่านนี้ ไม่รู้รึไงว่าฉันเป็นห่วงเธอแค่ไหน” ออสตินพูดออกมาเป็นฉากอย่างเผลอลืมตัว ซึ่งทำให้ใบพลูยกยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากด้วยหัวใจพองโต เธอไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า ผู้ชายอย่างเขาจะปริปากพูดคำว่าห่วงใยเธอออกมาแบบนี้ได้
แต่ทว่าหญิงสาวก็ต้องหุบยิ้มลงอย่างฉับพลัน พร้อมกับฉายแววตาเศร้า เมื่อเธอกับเขาไม่มีทางเดินร่วมทางกันได้ ในเมื่อต่างคนต่างก็มีเหตุผลคนละอย่าง ตั้งแต่รู้จักกันมา ออสตินไม่เคยสร้างรอยยิ้มให้กับเธอเลยสักครั้ง ถ้าฝืนคบกันไปก็คงมีแต่เสียใจ วันๆ คงเอาแต่ร้องไห้เสียน้ำตาอยู่ร่ำไป ซึ่งคนที่เจ็บปวดที่สุดคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากตัวเธอเอง
“เรื่องที่เกิดขึ้นมันคือความผิดพลาด ถือเสียว่าฉันได้ชดใช้หนี้ชีวิตให้กับนายไปก็แล้วกัน นับจากนี้ไปเราสองคนจะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ต่างคนต่างเดินในเส้นทางทีวาดเอาไว้ เพราะถึงยังไงทางที่ฉันเดินก็ไม่เคยมีนายผ่านเข้ามาอย่างแน่นอน” ใบพลูพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“หึ! เธอมันอวดดี คอยดูก็แล้วกัน อะไรที่เป็นของฉัน รวมทั้งตัวเธอก็ยังคงเป็นของฉันวันยังค่ำอยู่ดี” ออสตินเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอม เขาประกาศก้องเสียงแข็ง เพื่อยืนกรานในคำพูดออกมาอย่างหนักแน่น
“ก็แล้วแต่นายจะคิด อุ้ย!” หญิงสาวถึงกับเซถลา เมื่อเธอลุกขึ้นยืน อาจจะเป็นเพราะว่าพักผ่อนไม่เพียงพอ
“ใบพลู! ฮัลโหล! ใบพลูเธอเป็นอะไรน่ะ!” เมื่อเขาได้ยินหญิงสาวอุทานออกมาตามสาย ทำให้ออสตินรู้สึกห่วงใยเธอขึ้นมาทันที
“ฉันไม่เป็นไร แค่หน้ามืดเฉยๆ แค่นี้นะฉันจะนอนพักแล้ว”
“อ้าวเฮ้ย! ฮัลโหล! ใบพลู! ยัยนี่ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อยเลย”
ออสตินถึงกับสบถออกมาด้วยใบหน้าที่ดูโกรธ เมื่อใบพลูกดตัดสายอย่างไม่ไว้หน้าเขาสักนิด เธอไม่คิดที่จะเรียกร้องให้เขารับผิดชอบเลยหรืออย่างไรกัน ผู้หญิงคนนี้นอกจากจะพยศแล้ว เธอยังแสดงท่าทีเย็นชาใส่เขาอีกต่างหาก แบบนี้จะไม่ให้ออสตินคลั่งได้ยังไงกัน
ซึ่งพบว่าใบพลูกำลังนั่งยิ้มแฉ่ง ส่งตาหวานมาให้เขา พร้อมกับยื่นก่องของขวัญผูกโบสีชมพูมาให้ ซึ่งชายหนุ่มถึงกับขมวดคิ้วดกหน้าเข้าหากันด้วยความสงสัย เพราะวันนี้ก็ไม่ได้เป็นวันพิเศษอะไรทำไมคนตัวเล็กถึงมีของขวัญให้กับเขานะ“ผมลืมหรือเปล่า วันนี้เป็นวันพิเศษ เนื่องในโอกาสอะไร ขอโทษนะครับคุณแม่ถ้าผมเผลอเลอลืมวันสำคัญของเราไปบ้าง” ชายหนุ่มฉายแววตาออกมาด้วยท่าทีที่รู้สึกผิด เมื่อเขากำลังคิดว่าตัวเองแย่เกินไป ที่ลืมวันสำคัญของเขาและเธอได้ลงคอ“ไม่เกี่ยวกับวันพิเศษหรอกค่ะ มันคือเรื่องเซอร์ไพร์สที่ใบพลูบอกกับคุณเอาไว้ในตอนเย็นยังไงละค่ะ” หญิงสาวยังคงฉีกยิ้มแป้นให้กับผู้เป็นสามี เมื่อเธอนั้นเชื่อว่าเขาต้องดีใจกับสิ่งที่เธอตั้งใจจะเซอร์ไพร์สอย่างแน่นอนออสตินค่อยๆ แกะโบออกแล้วเปิดกล่อง ก่อนจะพบว่าของที่อยู่ในกล่องนั้น มันคือสิ่งที่มีค่ากับเขาแค่ไหน หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงขึ้น น้ำตาแห่งความปลาบปลื้มปีติยินดีไหลออกมาจากดวงตาคม เขาไม่อายที่จะหลั่งน้ำตาออกมาแบบนี้ เมื่อพบว่าที่ตรวจครรภ์นั้นขึ้นสองขีด เขากำลังจะมีลูกคนที่สอง กับผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ“ขอบคุณนะใบพลู ขอบคุณจริงๆ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่วัน
“มิ้นต์กับเดย์ต่างหาก”“จริงเหรอ...” ใบพลูเอ่ยถามชายหนุ่มออกมาราวกับว่าเธอไม่เชื่อใจเขา“ฉันจะโกหกเธอทำไม ที่สำคัญฉันกับมิ้นต์เราไม่เคยมีอะไรกัน” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปสบตาคนตัวเล็กอีกครั้ง เพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูดกับเธอ“ฉันยังเชื่อใจนายได้อยู่ใช่ไหม” ออสตินส่งยิ้มบางๆ ให้กับหญิงสาว แววตาอ้อนอ้อนของใบพลูกำลังจะทำให้คนตัวโตหัวใจละลาย ก่อนที่เขาจะหยิบรองเท้าคู่สวยออกมาจากถุงกระดาษ แน่นอนชายหนุ่มออกแบบมาให้เธอเป็นพิเศษ มันสวยสะดุดตา และเธอก็สวมมันได้พอดี“ฉันจะเป็นรองเท้าให้กับเธอ ฉันอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ แต่ลูกของเรา เด็กคนนี้ เกิดจากความรักไม่ใช่ความใคร่ เกิดจากความตั้งใจที่ฉันอยากได้ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ฉันรักเธอได้ยินไหมว่าฉันรักเธอ เราแต่งงานกันนะใบพลู” ถ้อยคำที่ชายหนุ่มถักทอเรียงร้อยออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ กำลังส่งผลให้ใบพลูหวั่นไหวหัวใจเต้นแรง“ฉันเคยบอกเหรอว่าจะไม่แต่งงานกับนาย” ดวงหน้ารูปไข่ดูสวยได้รูปเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อเธอมั่นใจว่าออสตินไม่มีทางทำให้เธอผิดหวังอย่างแน่นอน“เย้!”“เฮ้ยออสติน! ปล่อยฉันลงได้แล้ว ฉันกลัวตก” หญิงสาวถึงกับรีบเอาเรียวแขนคล้องลำคอแกร่ง
“ฮึก! ฮื้อ!” ใบพลูพยายามเก็บความรู้สึกน้อยใจเอาไว้สุดกำลัง แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว เธอก็ทนไม่ไหวปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย“หยุดร้องก่อน เธอรู้หรือเปล่า ว่าฉันคิดถึงเธอมากแค่ไหน หนีมาทำไม เธอไม่เชื่อใจฉันเลยรึไงใบพลู” ชายหนุ่มโน้มตัวลงเข้าหาหญิงสาว เขารั้งคนตัวเล็กเข้ามาซบกับร่างกายกำยำ พลางเอามือปาดน้ำตาออกจากแก้มของใบพลูอย่างเบามือ“นายต้องการอะไรจากฉันอีก”“ฉันต้องการครอบครัว ต้องการเธอกับลูก”“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันท้อง” ใบพลูเริ่มเป็นกังวล สีหน้าของหญิงสาวดูเสร้าหม่นแทนที่จะดีใจ เมื่อเธอไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นบ้านเล็กหรือบ้านใหญ่ ออสตินจะบริหารเวลายังไง เขาจะรักลูกของเธอเท่าลูกของมิ้นต์ไหมนั่นคือคำถามที่ใบพลูเกลียดที่สุด เพราะเธอไม่อยากใช้ผู้ชายร่วมกับใคร ไม่อยากให้ลูกต้องกลายเป็นคนมีปมด้อย“ไหนดูซิ นอกจากขี้แยแล้ว ยังชอบมโนไปเองด้วยใช่ไหมเนี่ย หืม” ออสตินอ้อมไปนั่งคุกเข่าลงที่พื้นตรงหน้าหญิงสาว เขารั้งมือของเธอมากุมเอาไว้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบดวงตากลมโต“นายจะทำอะไร ปล่อย! ฉันจะเข้าบ้าน นายกลับไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย” หญิงสาวพยายามดึงมือกลับ แต่ทว่าคงไม่เป็นผล เพราะออสตินตั้งใจใส่เกีย
“ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องปล่อยให้ออสตินเป็นคนสะสางเรื่องนี้เอง ก่อนที่ทุกอย่างมันจะบานปลายมากไปกว่านี้”“ป่านนี้นายกล้า คงพาออสตินไปถึงบ้านร้างแล้วมั้ง ฉันจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ ปล่อยให้ออสตินจัดการเองก็แล้วกัน”“ไม่ต้องเอาให้ถึงตาย ฉันยังไม่อยากได้ลูกเขยเป็นฆาตกร” “เชื่อเถอะน่า ออสตินคงมีวิธีที่ทำให้เดย์หายแค้น” เอเดนพูดพลางยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ ขณะที่กวินเองก็อดที่จะดื่มไม่ได้เช่นกัน เมื่อเขานั้นเป็นกังวลใจ เพราะห่วงใยความรู้สึกของใบพลูณ บ้านร้างชานเมือง ซึ่งเป็นอาณาจักรของเอเดน ที่ส่วนบุคคลห่างไกลชุมชน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่เอาไว้สำหรับเชือดศัตรู แน่นอนว่าพลอยชมพูไม่เคยรู้มาก่อน นอกจากออสติน กวินและลูกน้องคนสนิทเท่านั้น“มึงทำอะไรกับใบพลูบ้าง มึงทำอะไรเมียกู! กูถามมึงต้องตอบ มึงไม่มีสิทธิ์เงียบ” ออสตินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง ดวงตาคมจับจ้องมองไปที่ใบหน้าของเดย์อย่างสมเพช เมื่อชายหนุ่มถูกมัดขึงตึงเอาไว้ราวกับนักโทษ“ถุย!”“เชี้ยเอ้ย!”ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ออสตินปล่อยหมัดไปที่ใบหน้าของเดย์รัวๆ จนทำให้มิ้นต์ ที่ถูกมัดไว้กับเก้าทนไม่ไหว เมื่อพ่อของลูกกำลังเจ็บปวดทรมานใจ แม้เธอจะรู
“เราจบกันแค่นี้ ถือเสียว่าที่ผ่านมา ฉันได้ชดใช้ให้กับนายจนสิ้นแล้ว”“ใบพลู! ฟังฉันอธิบายก่อนสิ!” หญิงสาวคว้ากระเป๋าถือได้ เธอรีบวิ่งออกไปทันที ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางนั้นคือที่แห่งหนใด“เอะอะโวยวายทำไม มีอะไรเหรอออสติ” น้ำเสียงหวานดังขึ้น แต่ทว่าชายหนุ่มกลับรู้สึกรังเกียจ แม้แต่เสียงที่หล่อนเปล่งออกมาเขายังไม่อยากได้ยินด้วยซ้ำ“โธ่เว้ย!” ออสตินรู้สึกโมโหตัวเอง เมื่อเขาตามใบพลูออกไปไม่ทัน เพราะมัวแต่หาชุดมาสวมใส่ ไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนโทรไปก็ปิดเครื่อง มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขากันแน่ รักกันอยู่ดีๆ กลับมีเรื่องบ้าๆ คล้ายกัน ในเวลาไล่เลี่ยกัน แสดงว่าต้องมีความไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นนอนภาพบรรยากาศในยามเช้าวิวทิวทัศน์ตรงหน้าที่สวยงาม บ่งบอกให้รู้ว่าทัศนียภาพมีส่วนเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของมนุษย์ไม่น้อย เพราะป่าเขาลำเนาไพร ไม้ดอกไม้ประดับพวกนั้นทำให้ใบพลูดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าวันแรกๆ ที่เธอเดินทางมาถึงที่นี่ แม้ดวงตาที่เคยฉายแววเป็นประกายยังคงเศร้าหม่น แพทย์หญิงใบบัวก็ยังคงเชื่อว่าอีกไม่นานหลานสาวของเธอจะต้องดีขึ้น“ผลตรวจออกมาแล้วนะ” หญิงสาวรับฟังด้วยหัวใจที่เต้นแรง แต
ภายในห้องนอนของเดย์ บนเตียงขนาดคิงไซซ์ได้มีหญิงสาวร่างอรชรนอนหลับใหล เรือนกายของเธอมีเพียงชุดชั้นในตัวจิ๋วห่อหุ้มกายเอาไว้ หลังจากที่มิ้นต์ได้จัดการถอดชุดของเธอออกจนสิ้น สายตาคมจับจ้องไปที่ใบหน้ารูปไข่ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ นอนลงไปข้างกายของเธอ ซึ่งเนื้อตัวของเดย์มีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบเอวเอาไว้ ขณะที่มิ้นต์เป็นตากล้องคอยถ่ายภาพจัดฉากให้ดูสมจริง“นี่เดย์! ทำยังกับไม่เคย” มิ้นต์ถึงกับโวยวายออกมาเสียงดัง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มโอบใบพลูด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ “เคยน่ะเคย แต่ทุกมันยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่ได้นอนนิ่งๆ แบบนี้สักหน่อย”“มันก็เหมือนกันแหละน่า ตุ๊กตายางนายก็เคยเอามาแล้วไม่ใช่เหรอ”“หุบปาก!” “ก็เร็วหน่อยสิ เดี๋ยวออสตินก็กลับมาแล้ว เข้าในผ้าห่มทำเหมือนคนกำลังเล่นบทเลิฟซีนอะ” มิ้นต์ออกคำสั่งออกไป จนทำให้เดย์ชักสีหน้าใส่หล่อนอย่างไม่ค่อยพอใจ“เอาภาพนิ่งนะ”“รู้แล้วน่า ใครจะบ้าถ่ายวิดีโอ ยัยใบพลูนอนนิ่งเป็นขอนไม้อยู่แบบนั้น” มิ้นต์เริ่มขึ้นเสียงใส่ชายหนุ่ม ก่อนที่หล่อนจะพยายามหามุมกล้องให้ได้ภาพที่ดูเหมือนจริงที่สุด“พอแล้ว แค่นี้ก็ทำให้ออสตินไม่อยากแต่งงานกับใบพลูแล้วแหละ”“แ