เหมยหลังจากที่จัดแจงที่นอนให้กับเสือและอาชาเรียบร้อยแล้ว ก็เดินหายลับกลับเข้าไปในห้องของตัวเองพร้อมกับเปลี่ยนลุค
ถอดแว่นตาหนาเตอะ และเครื่องสำอางทั้งหมดออก แล้วสวมชุดนอนตัวโคร่งตัวเดียวนอนหลับบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้าและฤทธิ์แอลกอฮอล์ เช้าวันใหม่ แสงแดดทอประกาย เหมยรีบลุกตื่นขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน แต่ก็ลืมไปว่ามีแขกอยู่ที่บ้านถึงสามคน คนแรกคือเพื่อนรัก ส่วนคนที่สองคือผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือตนและเพื่อน เหมยจึงเดินออกมาทั้งชุดนอนที่โนบราและบางเฉียบสีขาว อาชาเองก็เดินออกมาทั้งชุดนอนเช่นกัน เขาเห็นเหมยในรูปลักษณ์ที่แตกต่างออกไป กลายเป็นสาวแว่นที่ดูน่ารัก เซ็กซี่ และขี้เล่นในสายตาของอาชา ยิ่งเหมยไม่แต่งหน้ายิ่งดูหมวยจนน่าเจี๊ยะ อาชารอบกลืนน้ำลายดังเอื้อก เมื่อเห็นว่า เหมยกำลังเอื้อมหยิบของบางอย่างในตู้ตรงครัวแล้วชุดนอนตัวโคร่งกำลังร่นจนแทบเห็นแก้มก้น "คุณเหมยมีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ" อาชาจึงรีบส่งเสียงไปก่อนตัวเพื่อให้เหมยได้รู้ว่ามีเขาอยู่ตรงนั้น "อ้าว เหมยลืมเลยค่ะว่ามีแขก ขอโทษด้วยนะคะ เหมยแต่งตัวไม่เรียบร้อย" เหมยรู้สึกเขินจนต้องเอามือไปขยับแว่นตาดันกลับขึ้นมาอีกรอบ "ไม่เป็นไรครับคุณเหมย มีอะไรให้ผมช่วยไหม" อาชาอาสาที่จะช่วยเหมยหยิบของ "พอดีเหมยจะหยิบชาเขียวกับกาแฟลงมา น่ะค่ะ ว่าจะเอามาเติมในโหลแก้วมันหมดพอดี แล้วนี่คุณเสือไปไหนแต่เช้าคะ ไม่เห็นเลย" "อ๋อ พอดีเสือไปจัดการงานแทนผมนะครับ เดี๋ยวอีกสักพักคงจะมารับผมที่นี่" อาชาที่ให้เสือเข้าประชุมแทนตัวเองเพื่อจะได้ใช้เวลาอยู่กับเหมยในช่วงเช้า "เจ้านายนะเจ้านาย ดันใช้ผมมาประชุมแทน แล้วเนี่ยประชุมก็ครึ่งค่อนวันไปแล้ว" เสือบ่นอุบอิบขณะที่ขับรถไปด้วยก็บ่นไปด้วย ปกติอาชาไม่ใช่คนที่ทิ้งงาน นี่เป็นครั้งแรกที่ยอมทิ้งงานการประชุมสำคัญเพื่อมาอยู่กับผู้หญิง "อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ งั้นเดี๋ยวเหมยทำข้าวต้มอาหารเช้าง่ายๆ ให้กินแล้วกันนะคะ คุณอาชาทานได้ใช่ไหม" เหมยหันไปยิ้มแล้วเอ่ยปากถาม "ได้ครับคุณเหมย ทำอะไรผมก็ทานได้ทั้งนั้นแหละ" "งั้นเดี๋ยวเหมยขออนุญาตไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดี๋ยวออกมาทำอะไรให้ทานนะคะ" เหมยส่งยิ้มแล้วก็เดินดุ๊กดิ๊กๆ กลับเข้าไปในห้องของตัวเอง เหมยไม่รู้เลยว่าในสายตาของอาชา เหมย กลายเป็นผู้หญิงที่เข้ามานั่งในหัวใจของอาชาตั้งแต่เมื่อคืน ยิ่งเห็นเหมยในสภาพที่ไม่ปรุงแต่งและดูไม่จริตจะก้านจนเกินงาม ยิ่งทำให้อาชาสนใจและอยากทำความรู้จักเหมยมากขึ้นกว่านี้ "ยายเหมยเอ๋ย แกนี่ใจดี รับใครก็ไม่รู้เข้ามาในบ้าน" เหมยแอบว่าตัวเองเบาๆ ที่สะเพร่าเกินไป อนุญาตให้ผู้ชายทั้งสองคนมาอยู่ในบ้านของตัวเอง อาชาเองก็เข้ามาอาบน้ำ ใส่ชุดเดิมของเมื่อคืนคือเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสแล็คสีดำ และสวมถุงเท้าที่แสนแพง เจสซี่ที่หลับไม่ได้สติตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ตื่น เหมยอยากจะเข้าไปปลุกเจสซี่แต่ดูทรงถ้าปลุกมาตอนนี้ก็คงจำอะไรไม่ได้เพราะว่าคงจะเมาค้างไม่น้อย เหมยเลยตัดสินใจทำข้าวต้มเอาไว้ในหม้อแล้วเสิร์ฟให้กับตัวเองและอาชากินก่อน "คุณอาชากินข้าวต้มหมูได้ใช่ไหมคะ" เหมยที่ยกข้าวต้มร้อนๆ ออกมาเสิร์ฟ "ได้สิครับ ทำไมจะกินไม่ได้ล่ะ" อาชาหันไปส่งยิ้มเล็กน้อย ดูอบอุ่นจนเหมยแทบจะหยุดหายใจ ใบหน้าที่หล่อเหลาเหมือนฟ้าประทานแถมยิ้มละมุนที่ส่งมาให้เหมยอีก "เหมยขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องเมื่อคืน ถ้าไม่ได้คุณอาชาก็ไม่รู้ว่าเหมยจะกลับถึงบ้านหรือเปล่า" เหมยหัวเราะคิกคัก "แล้วผู้ชายคนที่ตามเหมยมานั่นเป็นใครหรอครับ" อาชาที่รู้เรื่องคร่าวๆ ของเหมยมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังเลือกที่จะถามเหมยเพราะอยากรู้ว่าเหมยนั้นยังปักใจรักธงอยู่หรือไม่ "เป็นรุ่นพี่คณะวิศวะปี 4 สมัยที่เหมยเรียนอยู่นั่นแหละค่ะ เมื่อก่อนเหมยน่าจะเป็นคนที่โง่มากเลยที่ไปหลงชอบผู้ชายพันธุ์นั้น" เหมยที่พูดไปก็กินข้าวไปด้วย "คุณเหมยพอจะเล่าให้ผมฟังได้ไหมว่าคุณเหมยโง่ยังไง" อาชาเริ่มใช้ความสัมพันธ์ที่ดีในการสืบสาวหาข้อมูลเรื่องของเหมยให้มากขึ้น เหมยจึงกินข้าวไปเล่าไปด้วย อาชาก็ตั้งใจฟังเหมยทุกอย่างโดยที่ไม่หลุดสักประเด็น ยิ่งได้ฟังเรื่องของเหมยที่โดนเพื่อนหัวเราะเยาะเย้ยในความที่โดนธงกลั่นแกล้งเพียงเพราะเอาเธอมาเป็นรางวัลในการพนันในครั้งนั้น "ถ้าผมเป็นคุณเหมย ผมคงได้กลับไปชกหน้าไอ้เวรตะไลนั่นแน่ๆ" อาชาที่รู้สึกโกรธแทนเหมยขึ้นมาเสียอย่างนั้น "ฮิๆ" เหมยหัวเราะร่วนเมื่อเห็นอาชารู้สึกโกรธแทนตัวเอง "เรื่องมันผ่านมานานแล้วค่ะคุณอาชา อย่าโกรธแทนเหมยเลย เมื่อคืนเหมยแค่เห็นหน้าพี่เขาเหมือนกับรู้สึกขยะแขยงเสียมากกว่า" "แล้วยิ่งเห็นท่าทางกิริยาที่เขาพยายามเข้ามาหาเหมยอีกครั้งมาขอคบ เหมยยิ่งรู้สึกว่าเหมยคิดถูกและเหมยโชคดีที่ไม่ได้เขาเป็นแฟนในวันนั้น" เหมยที่ไปปลดล็อกความรู้สึกของตัวเองในงานคืนสู่เหย้าครั้งล่าสุด ทำให้เหมยกล้าเปิดตัวเองมากขึ้นและรักตัวเองเป็น อาชาที่เห็นเหมยในวันนี้ก็รู้สึกดีใจที่เหมยไม่ได้ชอบธง จึงตั้งใจว่าจะเดินหน้าจีบเหมยอย่างเต็มอัตราศึก ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เหมยและอาชาที่ทานข้าวกันอย่างออกรสออกชาติ เพราะอาชาและเหมยผลัดสลับกันเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเอง "ฮ่าๆ จริงหรอคะที่คุณอาชากระโดดตามเบ็ดลงน้ำไปแบบนั้น" อาชาเล่าให้เหมยฟังว่าอาชาชอบตกปลาแต่มีอยู่ครั้งหนึ่งปลาตัวใหญ่มากกระชากเบ็ดคันโปรดของอาชาลงน้ำจนทำให้อาชาต้องกระโดดลงน้ำตามไปด้วย เหมยถึงกับหัวเราะร่วน "จริงๆ ครับคุณเหมย ผมน่ะชอบตกปลามาก แต่ก็ไม่คิดว่าไอ้เจ้าปลาโหดตัวนี้มันจะกระชากเบ็ดคันโปรดของผมลงน้ำไปด้วย" "สู้กันอยู่ตั้งนานนะครับกว่าจะเอาทั้งปลาทั้งเบ็ดขึ้นมาได้" อาชาฉายความเป็นกันเองให้กับเหมย โดยปกติเขาเป็นคนที่พูดน้อยและไม่เคยเปิดเผยเรื่องส่วนตัวไม่ว่าจะด้านใดให้ใครฟัง "ขอบคุณคุณอาชานะคะที่เล่าเรื่องสนุกๆ มากมายให้เหมยฟัง เมื่อก่อนเหมยเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเพื่อน นอกจากยัยเจสซี่ที่คุณอาชาเห็นนี่ล่ะค่ะ เพื่อนคนเดียวของเหมย" เหมยที่พูดว่าตัวเองไม่ค่อยมีเพื่อนก็รู้สึกหน้าเจื่อนๆ ลงไป "ผมก็ไม่ค่อยมีเพื่อนนะคุณเหมย ผมโตมาในฐานะที่อยู่สูงสุด มีทั้งแม่บ้าน บอดี้การ์ดรายล้อมไปหมด แทบจะไม่เห็นหน้าคุณพ่อที่เอาแต่ทำงาน ส่วนคุณแม่ก็เอาแต่ออกงานสังคม" อาชาเองก็รู้สึกขาดในส่วนที่ไม่เคยได้เติมเต็ม เหมยที่มองใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายคนนี้ก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน.....เวลาที่ไร่ชาผ่านไปเร็วไวเหมือนโกหก วันนี้เป็นวันที่สี่ ที่เหมยมาอยู่ที่ไร่ชาแสนสุขนี้ โดยมีเจสซี่และสมาชิกใหม่แสนน่ารัก 1 คนที่ไม่ยอมไปนอนกับอาชา ขอมานอนกับเหมยทุกวันตั้งแต่พบกัน"คุณครูเหมยขา ลิลลี่เขียนตัวนี้ถูกต้องไหมคะ" ลิลลี่เอ่ยถาม "ตั้งแต่เจอคุณครูเหมย ลิลลี่ก็เหมือนได้เติมเต็มบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไป แม้แต่คุณตาคุณยายก็ไม่อาจเติมเต็มให้ลิลลี่ได้"สวยมากค่ะลิลลี่" เหมยที่กำลังนั่งปั่นต้นฉบับนิยายอีกเล็กน้อย จึงไม่ค่อยตึงเครียดเท่าไหร่ ถือโอกาสทำความรู้จักกับลิลลี่ผู้ น่ารัก"ฮาย...หนูลิลลี่!" เสียงเจสซี่ที่เปิดประตูห้องเข้ามาอย่างถือวิสาสะตามประสาเพื่อนรัก"คุณน้าเจสซี่ ดูนี่สิคะ ลิลลี่เขียนถูกต้องด้วยค่ะ" ลิลลี่เอาผลงานไปโชว์เจสซี่ด้วยความภาคภูมิใจ"โอ้โห หนูลิลลี่ของคุณน้าเจสซี่เก่งมากค่ะ งั้นเดี๋ยวหนูลิลลี่ไปนั่งบนเตียงนะคะ ขอคุณน้าคุยธุระกับคุณครูเหมยแป๊บนึง" เจสซี่บอกให้ลิลลี่ไปนั่งรออย่างเรียบร้อย"ยัยเหมย ฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ" ท่าทีดูจริงจังของเจสซี่ทำให้เหมยวางมือแล้วเดินตามเจสซี่ออกไปนอกห้อง"นี่แกจะเป็นคุณครูของหนูลิลลี่จริงๆ เหรอ" เจสซี่ถามเพื่อนรักอย่างจริง
อาชาซึ่งยืนแอบอยู่ข้างๆ เฝ้าดูพฤติกรรมทุกอย่างของเหมยด้วยตัวเขาเอง เขามั่นใจแล้วว่าเหมยเป็นคนที่มีจิตใจดีมาก เพราะแม้แต่ลิลลี่จะพุ่งเข้าไปหาหรือแกล้ง เหมยก็ไม่มีทีท่าจะโกรธหรือดุลิลลี่เลย ซ้ำยังก้มลงไปหอมแก้มลิลลี่อีกต่างหาก"ลิลลี่ไม่มีคุณพ่อกับคุณแม่ค่ะ ลิลลี่มีแต่คุณลุง คุณตา และคุณยายค่ะ" เมื่อลิลลี่พูดถึงพ่อกับแม่ที่เสียไป ก็ทำหน้าเศร้าลงเล็กน้อยเหมยที่เห็นอาการของลิลลี่ดูเศร้าลง จึงกล่าวคำขอโทษลิลลี่จากใจจริง เพราะไม่รู้ว่าลิลลี่ต้องพบเจออะไรมาบ้าง"หนูชื่ออะไรคะ พี่ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้หนูเสียใจ" เหมยบอกขอโทษลิลลี่"ไม่เป็นอะไรเลยค่ะ คุณครูคนสวยของลิลลี่ คุณครูสอนหนังสือให้ลิลลี่นะคะ ลิลลี่จะเป็นเด็กดี" ลิลลี่ก็ยังคงพูดเรื่องการเรียนกับเหมยอยู่"ก่อนที่เราจะตกลงกัน งั้นพาไปหาผู้ปกครองได้ไหมคะ เผื่อผู้ปกครองตามหาอยู่" เหมยหันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นใครอยู่บริเวณนั้นนอกจากเธอเหมยวางลิลลี่ออกจากตักแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พร้อมกับยื่นมือให้ลิลลี่จูงเหมยไปหาผู้ปกครองของลิลลี่"คุณลุงของลิลลี่อยู่ตรงโน้นค่ะ" ลิลลี่ด้วยความใสซื่อจึงชี้ไปที่ด้านหลังทางเข้าประตูที่อาชาแกล้งแอบยืนด
เหมยกับเจสซี่อยู่ที่ไร่ชาของอาชาเป็นวันที่ สอง วันนี้เหมยได้ไปเยือนคาเฟ่ชาสุดชิกพร้อมกับดูการทำงานของบาริสต้าชงชาฝีมือฉมัง ลูกค้าเข้ามาที่คาเฟ่ของอาชาไม่ขาดสายตั้งแต่ผู้ใหญ่ เด็ก ไปจนถึงวัยรุ่น ที่นี่ตกแต่งออกมาเป็นบรรยากาศวิวภูเขาที่สบายตามากๆเหมยถือโน้ตบุ๊กคู่ใจมานั่งบริเวณด้านนอกเพื่อรับชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าพลางจิบกาแฟเบาๆ ค่อยๆ บรรจงพิมพ์งานลงไปทีละตัวอักษร ถ่ายทอดความรู้สึกต่างๆ ลงไปบนตัวหนังสือสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่เหมยแทบไม่วางตาพร้อมกับยืนจิบกาแฟหอมกรุ่นในยามเช้าเช่นกัน อาชาที่เปิดกระจกในห้องทำงานพลันสายตาก็เห็นร่างเล็กของผู้หญิงที่หมายปองอย่างเหมย เขาจึงยืนจิบกาแฟแล้วจ้องมองเหมยด้วยความเสน่หาอย่างเต็มหัวใจส่วนเจสซี่ เพื่อนสาวสุดที่รักก็สนุกสุดเหวี่ยงตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เล่นทุกกิจกรรมที่มี จนตอนนี้ยังนอนสลบอยู่บนเตียงไม่ฟื้น“นายชอบคุณเหมยไหมครับ นายรู้ไหมว่านายชอบเผลอยิ้มทุกครั้งที่พูดถึงคุณเหมยเลยนะ” เสือหันไปพูดกับอาชา“ฉันว่าเหมยเป็นผู้หญิงที่น่ารักดีนะ แต่ฉันคงไม่ถึงขั้นชอบเหมยหรอก” อาชายืนจิบกาแฟล้วงกระเป
พระอาทิตย์อัสดงยามเย็น แสงแดดสีแดงสดใสบวกกับพระอาทิตย์ดวงกลมโตที่กำลังจะลับไปหลังภูเขาเขียวขจีลูกใหญ่ ณ ไร่ชาพรหมเทพ เหมยและอาชากำลังนั่งจิบชายามเย็นตรงระเบียงห้องพักตากอากาศอาชากำลังเฝ้ามองเหมยระหว่างที่เหมย กำลังนั่งทำงานอยู่หน้าโน้ตบุ๊ก รู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบอยากให้มีเพียงเหมยและเขา“คุณเหมยดูท่าจะชอบเขียนนิยายเอามากๆ เลยนะครับ” อาชาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเหมยกำลังนั่งขะมักเขม้นกับหน้าจอตั้งแต่มาถึงที่นี่เหมยจึงหยุดมือแล้วเงยหน้าขึ้นไปมอง พร้อมยิ้มตอบกลับไปให้อาชาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจในแบบฉบับของสาวแว่น“เหมยว่าเวลาที่เหมยเขียนนิยาย เหมือนเหมยหลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งที่เหมยอยากจินตนาการตัวละครตัวใดตัวหนึ่งให้อยู่บน โชคชะตาและเส้นด้ายที่เหมยได้เขียนเอาไว้” เหมยอธิบายเรื่องราวมากมายให้อาชาฟัง อาชาโดยปกติเป็นคนไม่ค่อยเอาเวลาที่เป็นเงินเป็นทองมานั่งเฝ้าผู้หญิงแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เสือเห็นกิริยาของเจ้านาย“นี่..! คุณบอดี้การ์ด ช่วยเปิดขวดเนยถั่วให้หน่อยได้ป่ะ” เจสซี่ที่เดินมาหาเสือขณะที่ยืนคุมเชิงอยู่บริเวณด้านนอกเสือทำคิ้วขมวดเมื่อจ้องมองหน้าสาวสวยลูกครึ่งฝรั่ง“คุณช่วยทำหน้าให้มันดูเป
และแล้วเวลาที่อาชารอคอยก็มาถึง วันนี้เขายกเลิกงานและการประชุมทุกอย่าง เพื่อเตรียมตัวมารับเหมยด้วยตัวเอง เขาตื่นเต้นกว่าคนที่จะมาพักเสียอีก"เจ้านายครับ นี่เพิ่ง 15:30 น. เอง เจ้านายจะรีบไปไหนครับ? ผมเห็นเจ้านายรีบตั้งแต่ 15:00 น. แล้ว จะไปรับเหมยท่าเดียวเลย" เสือพูด"ครึ่งชั่วโมงก็ไปถึงบ้านใหม่พอดี มึงรีบแต่งตัวเลย" อาชาตอบ "คนภายนอกมองไม่มีใครรู้หรอกว่าเสือกับอาชาเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน เรียนด้วยกันมาและผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ แต่เสือให้ความเคารพอาชาในฐานะเจ้านาย นอกจากบางครั้งที่อาชาอยากจะได้ความเป็นเพื่อน เสือก็จะอยู่ข้าง ๆ อาชาเสมอ"ผมน่ะไม่ต้องแต่งตัวแล้วครับ เชิญเจ้านายขึ้นรถเลย เดี๋ยวผมขับรถให้" เสือพูดกึ่งแซวทางด้านสองสาวที่เตรียมเสื้อผ้าและกระเป๋าสำหรับการไปพักผ่อน 2-3 วันตามคำเชิญของอาชา ส่วนเหมยตั้งใจจะไปสูดอากาศที่ไร่ชาให้เต็มปอด แล้วเขียนนิยายเรื่องโปรดเพื่อให้แฟน ๆ ได้อ่านต่อไป"ฉันว่านะ ฉันจะต้องมีพลังในการเขียนนิยายมากแน่เลย ได้ไปเปลี่ยนบรรยากาศ" เหมยหันมาคุยกับเจสซี่ที่ยืนทาลิปสติกอยู่หน้ากระจก
ทุกอย่างผ่านไปไวเหมือนโกหก หลังจากที่เหมยกับอาชาทานข้าวกันเสร็จเรียบร้อยในช่วงเวลาเช้า เสียงรถคันหรูก็แล่นเข้ามาที่บ้านของเหมยอีกครั้งเพื่อมารับอาชากลับไป“คุณเหมยครับ จะรังเกียจไหมถ้าผมจะขอแลกไอดีกับคุณเหมยหน่อย” อาชาที่อยากจะทำความรู้จักเหมยมากกว่านี้จึงได้เอ่ยปากขอช่องทางการติดต่อกับเหมย“ยินดีมากค่ะคุณอาชา เป็นเพื่อนคนที่สองของเหมยเลยนะ” เหมยยิ้มจนแก้มแทบฉีกที่ได้เพื่อนใหม่ต่างวัย“งั้นพรุ่งนี้ผมจะมารับคุณเหมยไปลองชิมชาที่ไร่ แล้วก็ไปกินเค้กที่คาเฟ่ คุณเหมยโอเคไหมครับ” อาชาหันมาถามเหมยก่อนที่จะก้าวขึ้นรถหรูไป“ได้สิคะ เหมยขออนุญาตพายายเจสซี่ไปด้วยได้ใช่ไหมคะ” เหมยเองที่ยังไม่แน่ใจว่าอาชาเป็นคนแบบไหน จึงเลือกที่จะพาเจสซี่ เพื่อนสาวที่แสนฉลาดหลักแหลมติดไปด้วย“ได้สิครับ ยินดีมากๆ เอาไว้พรุ่งนี้ผมมารับคุณเหมยกี่โมงดี” อาชารวบรัดตัดตอนเลือกทั้งกระทั่งเวลาให้กับเหมย“ที่ไร่ชาปิดกี่โมงคะ” เหมยหันไปถามอาชาเพราะไม่เคยไปเลยสักครั้ง“ที่ไร่ชาของผม สำหรับคุณเหมยเปิดตลอดครับ” อาชาพูดอย่างคนเป็นต่อ“ถ้าเหมยไม่เกรงใจจะไปน