แผนการเผด็จศึกเด็กเนิร์ดตลอดทั้งสัปดาห์ ธงเริ่มแผนการ "เผด็จศึกเด็กเนิร์ด" เรื่องนี้รู้กันเพียงสามคน
มีสกาย ไอ้ต๊อบตัวต้นเรื่อง และธงคือผู้ที่รับคำท้าในการตามจีบ "ยายเหมยลี่" เด็กเนิร์ดประจำมหาวิทยาลัยเอกภาษาไทย "เหมยลี่ตื่นแล้วหรอ?" ธงเลือกที่จะยอมตื่นแต่เช้า ทำนิสัยตรงข้ามกับสันดานตัวเอง มาดักรอเหมยลี่ที่หน้าหอพักมหาวิทยาลัยแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน "สวัสดีค่ะพี่ธง ที่มาทำอะไรคะ?" เหมยรีบถามตากุกตะกัก ไม่กล้าสบตาธงตรงๆ เพราะรู้สึกว่าตัวเองช่างดูแตกต่างกับธงเหลือเกิน "พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับเหมยลี่อ่ะ...ขึ้นรถมาก่อนสิ" ธงเอ่ยปากบอกให้เหมยลี่ขึ้นมานั่งบนมอเตอร์ไซค์เวฟ ซึ่งในรุ่นนั้นค่อนข้างฮิตกันมาก "เอ่อ...เหมยนี่ว่ามันจะดูไม่ดีไหมคะ? เดี๋ยวแฟนพี่จะว่าเหมยลี่เอา" เหมยลี่พูดให้ดูสุภาพในการปฏิเสธธง "พี่ยังไม่มีแฟนนะเหมยลี่ มีแต่สาว ๆ ที่มารายล้อมพี่ แต่พี่ไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ไม่แน่นะเรื่องที่พี่อาจจะคุย อาจจะเป็นเรื่องนี้ก็ได้" ธงเกริ่นปูทางให้กับตัวเอง เหมยลี่ที่ได้ฟังไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าธงหมายถึงอะไร แต่เหมยลี่ก็ยังแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ เพราะเหมยลี่ไม่กล้าเปิดใจให้ใคร เหมยลี่กลัวจะเจ็บ "มาเถอะน่า ยืนคิดอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวก็เข้าเรียนคลาสแรกสายหรอก มาเร็ว" ธงพูดจบก็เดินลงจากมอเตอร์ไซค์ แล้วจูงมือเหมยลี่มาพร้อมกับสวมหมวกกันน็อกคนซ้อนท้ายและใส่ล็อกที่ใบหน้าให้เหมยลี่อย่างดี เหมยลี่ที่ยืนมองการกระทำของธงแบบงงๆ เพราะร้อยวันพันปีธงกับเหมยลี่เหมือนอยู่คนละโลกกันเลยก็ว่าได้ ธงคือเด็กผู้ชายที่หน้าตาดี เป็นเดือนโรงเรียน เดือนคู่กับต๊อบลูกเศรษฐีบ้านรวย มีน้องสาวชื่อใบเฟิร์นอยู่ปี 1 "ทำไมทำหน้างั้นอ่ะเหมยลี่ ตกใจอะไร? พี่ไม่ได้พาเธอไปฆ่าซะที่ไหนล่ะยัยบ๊องเอ๊ย" ธงเอามือลูบไปบนหมวกกันน็อกพร้อมกับส่งรอยยิ้มละมุนเหมือนพระเอกซีรีส์เกาหลี พอถึงมหาวิทยาลัย สาวๆ ในมหาวิทยาลัยต่างพากันจ้องมองเหมยลี่เป็นตาเดียวที่ได้ซ้อนท้ายเดือนมหาลัยอย่างธง หนุ่มรูปหล่อที่สาวๆ พากันกรี๊ดกร๊าด "เฮ้ยแก! นั่นไงเด็กเนิร์ดที่ชื่อเหมยเปล่าวะ? ทำไมถึงซ้อนท้ายรถเดือนมหาลัยอย่างพี่ธงได้อ่ะ? โอ๊ย อิจฉาวาสนานางอ่ะ!"เด็กคณะนิเทศภาพยนตร์พากันส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดลั่นไปหมด ธงที่ขับรถไปส่งเหมยลี่จนถึงใต้คณะของมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่ ธงพยายามทำคะแนนรุกหนักทำเหมือน "บอมบ์เลิฟ" ใส่เหมยลี่ "พี่ธงคะ วันหลังไม่ต้องไปรับเหมยก็ได้ อย่าทำแบบนี้เลย เหมยไม่ชิน" เหมยพยายามปิดกั้นทุกช่องทางไม่ให้ธงมีโอกาสได้เข้ามาใกล้ตัวเอง แต่ด้วยความที่ยังเด็กและใสซื่อในเรื่องความรัก ยังไม่เคยเปิดใจให้ใคร จะถามว่าเหมยแอบหวั่นไหวไหม หัวใจก็แอบเต้นแรง "โธ่ ยัยเด็กบ๊อง! ทำไมมีแต่คนอิจฉาเธอทั้งนั้น เธอรังเกียจพี่หรอ?" ธงแสร้งทำเสียงเป็นน้อยใจ "ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะพี่ธง เหมยก็แค่ไม่ชินน่ะ ที่มีคนจ้องมองเหมยเยอะแยะเป็นจุดเด่นขนาดนี้" "เอาล่ะ ไม่ต้องไปสนใจคนอื่นหรอก เราอ่ะรีบขึ้นไปเรียนเถอะจะสายแล้วไม่ใช่หรอ?" ธงที่ยืนถอดหมวกกันน็อกให้เหมยอยู่ก็รีบแสร้งพูดให้เหมือนคิดได้ว่าต้องรีบเข้าคลาส "เออจริงด้วยพี่ธง งั้นเหมยไปก่อนนะ ขอบคุณนะคะที่ไปรับ" เหมยพูดจบก็พยักหน้าลงขอบคุณเล็กน้อยแล้วรีบวิ่งขึ้นอาคารเรียนไป ธงที่ยิ้มตามแล้วมองความโก๊ะตลกของยัยเด็กเนิร์ดว่าเขาจะไม่มีทางจีบเธอได้จริงๆ หรือ ผ่านมาแล้วเกือบหนึ่งเดือนที่ธงตามจีบเหมยอย่างไม่ลดละความพยายาม เพียงเพราะต้องการชนะใจไอ้ต๊อบ พี่ชายของใบเฟิร์นคนที่ธงชอบจริงๆ ไอ้ธงอยากจีบใบเฟิร์นแต่ไอ้ต๊อบเพื่อนรักให้พิสูจน์ตัวด้วยการเล่นเกมเดิมพันในการจีบยัยเด็กเนิร์ดที่ชื่อเหมย "เหมย วันนี้เราไปกินข้าวเย็นกันดีกว่า เสร็จแล้วเดี๋ยวพี่พาไปดูหนังต่อ" ธงที่มารับเหมยที่หน้าคณะทุกวันตลอหนึ่งเดือน ข่าวของเหมยกับธงดังไปทั่วว่าธงกำลังพยายามตามจีบเหมยเพื่อเป็นแฟน "ได้ค่ะ งั้นเหมยขอบอกเจสสิก้าก่อนนะ ขืนไม่บอกยัยเจสซี่มีหวังกินหัวเหมยแน่เลย" เหมยหัวเราะคิกคักแล้วรีบวิ่งขึ้นไปบนอาคารอีกรอบเพื่อบอกเพื่อนรัก "เจสซี่ เดี๋ยววันนี้เหมยจะไปดูหนังกับพี่ธงแล้วก็กินข้าวต่อ พรุ่งนี้เจอกันที่คณะนะ เดี๋ยวซื้อขนมมาฝาก" เหมยที่กำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์ของความรัก ดูมีความสุขสดใส ทุกอย่างดูเป็นไปได้ด้วยดี "จ้า ก็ระวังตัวไว้หน่อยนะจ๊ะยัยบ๊อง อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวปล่อยใจมากเกินไปนะ" เจสซี่ที่เป็นห่วงเพื่อนรักอย่างเหมยก็เอ่ยปากห้ามปราม "จ๊ะ ฉันยังไม่ได้ตกลงปลงใจอะไรสักหน่อย แต่ตลอดมาพี่ธงก็น่ารักกับฉันตลอด" "เขาคงไม่ได้มองแค่รูปลักษณ์ภายนอกของฉันหรอกมั้ง" เหมยพูดไปพร้อมกับทำจิตใจเลื่อนลอย "รีบไปเถอะ เดี๋ยวพี่ธงสุดหล่อของเธอจะรอซะแย่" เจสซี่บอกให้เพื่อนสาวรีบลงจากอาคารพร้อมกับโบกมือบ๊ายบายเพื่อนเหมือนเป็นการอวยพร... ทางด้านธงที่มารับเหมยไปกินข้าวดูหนังตามแพลน ทุกอย่างดูออกมาได้ด้วยดี ธงรู้สึกว่าเหมยเป็นคนน่ารักคนหนึ่งแต่ก็ไม่ใช่สเปคของธงอยู่ดี "พี่ธง เหมยซื้อชาไข่มุกมาฝาก พี่ธงกินป่ะ?" เหมยที่วิ่งออกจากโรงหนังแล้วตรงไปร้านชาไข่มุกพร้อมกับยื่นให้กับธง "ขอบใจนะเหมย แฟนใครเนี่ยน่ารักจัง" ธงเอามือหนาลูบไปที่หัวเหมยอย่างอบอุ่น ในขณะนั้นหัวใจของเหมยพองโตยิ่งกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง เหมยมองว่าธงเป็นคนดี ไม่ได้มองเพียงรูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นเด็กดัดฟันใส่แว่นตาหนาเตอะ ใครๆ ก็มองว่าเหมยหน้าตาขี้เหร่ "แฟนเฝินอะไรเล่า เดี๋ยว FC ของเดือนมหาลัยได้มาแหวกอกเหมยพอดี" เหมยแกล้งทำเป็นพูดเปลี่ยนเรื่อง "เหมยไม่รู้จริงๆ หรอว่าพี่คิดยังไงกับเหมย?" ธงก้มหน้าลงไปถามเหมย เหมยเงยหน้าขึ้นมามองธงพร้อมกับประสานสายตา มีข้อความมากมายที่เหมย อยากจะบอกธง แต่อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ว่าธงคือคนแรกที่ทำให้หัวใจของเหมยเต้นแรง ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาธงชนะใจเหมยเกินครึ่งแล้ว "พี่แน่ใจหรอว่าพี่จะคบกับเหมยเป็นแฟนจริงๆ?" เหมยถามธงออกไปตรงๆ "แน่ใจสิ ถ้าเหมยยอมคบพี่เป็นแฟน พี่สัญญาว่าพี่จะรักเหมยคนเดียวและดูแลเหมยให้ดี" ธงพูดคำหวานออกมาโดยไม่รู้สึกอะไรเลย หัวใจของเหมยที่ได้ยินคำหวานก็เหมือนต้นไม้ที่ถูกรดน้ำ เหมยไม่เคยคบแฟนหรือคบผู้ชายคนไหนเลย หลังจากตอบตกลงว่าจะคบกันเงียบๆ 2 คนไหมที่ได้พับดาวกระดาษอย่างตั้งใจหวังว่าจะให้ธงในวันที่ไปนิเทศกันรอบกองไฟความตั้งใจของเหมยในทุกค่ำคืนดาวกระดาษ 1,000 ดวงที่เธอตั้งใจพับให้กับธงคนที่เธอชอบ ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ธงเป็นคนแรกที่ทำให้หัวใจของเหมยกลายเป็นสีชมพู....ทางด้านธงและดารินก็ยังคงไม่ยอมแพ้ แม้ว่าดารินจะแพ้อย่างราบคาบเมื่อเจออาชาเล่นไม้แข็ง ให้บอดี้การ์ดลากเธอออกจากไร่ชาพรหมเทพอย่างไม่ใยดี แถมยังสั่งห้ามไม่ให้ดารินเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตของเขาอีก ขณะที่ทั้งสองกำลังพลอดรักกันอยู่ที่โรงแรมเดิม ธงที่รู้สึกถึงแรงแค้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะยิ่งวิ่งเข้าใกล้เหมยมากเท่าไหร่ เหมยก็ยิ่งวิ่งออกห่างเขามากเท่านั้น ธงรู้สึกเหมือนเสียศักดิ์ศรีและโดนหยามหน้า "ดารินครับ ทำไมคุณถึงได้ทำพลาดขนาดนั้น คุณไม่เคยรู้เลยเหรอว่าไอ้อาชามีหลานสาว" ธงที่นอนอยู่บนตักของดารินก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ "แล้วใครมันจะไปรู้ล่ะคะ ว่าอีเด็กเปรตนั่นจะเป็นหลานสาวของอาชา" ดารินก็รู้สึกโมโหไม่น้อยที่อยู่ดี ๆ ก็ต้องมาล้มละลายเพียงเพราะเด็กคนเดียว "แล้วเราจะทำยังไงต่อไปล่ะครับดาไหนจะมีไอ้เมฆินทร์อีกคนนึงที่มาตามป้วนเปี้ยนจีบเหมย" ธงก็ยังคงอยากเอาชนะอาชาและเมฆินทร์อยู่ โดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของเหมยและอาชาได้ก้าวหน้าเกินกว่าที่เขาจะแตะถึง "เหลือแต่คุณแล้วค่ะที่ต้องเข้าไปทำลายความสัมพันธ์ของสองคนนั้น เอาให้ทั้งสองคนมันแตกหัก ไม่ไว้ใจซึ่งกันและกันยิ่งดี แล้ว
เมฆินทร์ที่กลับจากการทำธุระของตัวเองก็คิดถึงเหมยไม่แพ้อาชาหรือธง วันนี้เขาตั้งใจจะเข้าไปเจอเหมยที่คาเฟ่และซื้อของมากมายกลับมาฝากเธอ “ถังลี่ วันนี้กูจะเข้าไปที่ไร่ชาพรหมเทพ จะเอาของที่กูซื้อไปฝากคุณเหมย มึงให้เด็กเอาของขึ้นรถให้กูด้วย” เมฆินทร์หันไปสั่งบอดี้การ์ดคู่ใจ “ผมจัดการให้นายเรียบร้อยแล้วครับ นายจะไปเลยไหมครับ” ถังลี่หันมาถามผู้เป็นนาย เมฆินทร์พยักหน้า เขาลุกออกจากห้องนั่งเล่นในคฤหาสน์หรูแล้วก้าวขึ้นรถสไตล์ยุโรป ใจของเขาอยากจะเจอหน้าสวย ๆ ของเหมย และเขาก็อยากจะเข้าไปสืบหาเรื่องราวของอาชาที่จะทำการเซ็นสัญญากับมิสเตอร์จางเพื่อตัดหน้าบริษัทของเขาด้วย “ได้ครับนาย แต่ว่านายมั่นใจเรื่องที่ดินที่เราซื้อไว้ให้มิสเตอร์จางจริง ๆ ใช่ไหมครับ” ถังลี่รู้สึกว่าอาชามีความเงียบผิดปกติ “มีอะไรหรือเปล่าวะ” เมฆินทร์หันมาถามขณะกำลังดูตารางงานอยู่ด้านหลังรถ “ผมว่าบอดี้การ์ดของไอ้อาชาและตัวมันเงียบผิดปกติ เพราะโครงการนี้มันเคยคิดจะสู้กับเราหลายหน ทำไมมันถึงเงียบหายไป” ถังลี่รู้สึกถึงความผิดสังเกต “มันก็จริงอย่างที่มึงพูด ส่งคนของเราจับตาดูมันทุกฝีก้าว ลองดูว่ามันจะบินไปสิงคโปร์เมื่อไหร่
อาชาปลดพันธนาการที่ข้อมือเหมยออก ช้า ๆ แต่ยังคงจับมือเธอไว้มั่น เขายิ้มเจ้าเล่ห์ "เราลองเปลี่ยนท่ากันหน่อยดีไหมครับคนดีของพี่..." เหมยพยักหน้าเล็กน้อยด้วยใบหน้าแดง ระเรื่อ เธอเชื่อใจเขาอย่างเต็มเปี่ยม อาชาจึงค่อย ๆ พลิกร่างบางของเหมยให้นอนคว่ำลงช้า ๆ จากนั้นใช้เนคไทผูกข้อมือทั้งสองข้างของเธอไขว้ไปด้านหลังอย่างชำนาญ การถูกมัดในท่านี้ทำให้เหมยรู้สึกอ่อนแอแต่ก็ตื่นเต้นจนหัวใจเต้นระรัว "แบบนี้... เราจะรู้สึกถึงพี่ได้ชัดเจนขึ้น พี่จะเอาเหมยจน เหมยร้องขอให้พี่หยุด..." อาชากระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูของเหมย ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาทำให้ขนอ่อน ๆ ทั่วร่างของเธอตั้งชัน เหมยพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงก็ติดอยู่ในลำคอ อาชาโน้มตัวลงไปจูบแผ่นหลังเนียนนุ่มของเหมยช้า ๆ ไล่ขึ้นไปตามกระดูกสันหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสอันเร่าร้อนของเขาทำให้เหมยบิดกายเล็กน้อยด้วยความรู้สึกที่พุ่งพล่านขนลุกซู่ไปทั้งกาย "พะ พี่... อาชาขา.....อ้าส์ ซี๊ด..." เหมยครางชื่อเขาเบา ๆ น้ำเสียงแหบพร่าด้วยอารมณ์ที่ควบคุมไม่ได้ "ใช่ครับ... พี่อยู่นี่แล้ว" อาชาตอบ พลางใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามแนวสะโพกผายของเธออย่างยั่วยวน เ
หลังจากผ่านพ้นเรื่องของดารินไปอาชาสั่งห้ามบอดี้การ์ดทุกคนห้ามให้ดารินกลับมาเหยียบไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยทุกพื้นที่ของตระกูลเขา ห้ามดารินเข้ามาก้าวก่ายโดยเด็ดขาด "ไอ้เสือบอกบอดี้การ์ดทุกคน ถ่ายทอดคำสั่งของกูลงไป ห้ามให้ดารินเหยียบเข้ามาทุกพื้นที่ของตระกูลกู แม้แต่เงาก็ห้ามให้มาใกล้..! อาชาเขารู้ว่าผู้หญิงอย่างดารินทั้งอันตรายและเจ้าเล่ห์จึงเลือกที่จะปกป้องเหมยและลิลลี่ให้ออกห่างจากผู้หญิงอย่างดาริน "ครับนายผมจะรีบถ่ายทอดคำสั่งของนายทุกคำออกไปในกลุ่มบอดี้การ์ดของเราครับนาย" "คืนนี้ผมว่าเป็นคืนที่ดีนะครับนาย" "มันเป็นคืนที่ดียังไงวะ" อาชาสงสัยเล็กน้อยเมื่ออยู่ๆเสือก็พูดขึ้นมา "เพราะคืนนี้นายธงมักจะออกไปทุกคืน วันเสาร์และกลับมาในวันจันทร์เช้า เพื่อทำงาน ผมอาจจะใช้โอกาสทองและจังหวะนี้" "ในการหาข้อสงสัยของผมเพราะมีบางอย่างไม่ชอบมาพากลที่ผมสัมผัสได้" เสือรายงานบางอย่างให้กับอาชาได้ฟังเพราะเขาก็แอบสงสัยพฤติกรรมของธงมานานแล้ว "ดีกูเองก็ไม่ไว้ใจมัน มันจงใจปล่อยข่าวเสียหายให้กับเหมย เรื่องของมันกับเหมยในอดีตกูคงจะยอมง่าย ๆ ไม่ได้หรอก" อาชาเองก็ไม่ได้ละทิ้งเรื่องพวกนี้แต่เขาให้มันเป็นเพี
ไม่นานหลังจากเหตุการณ์ชุลมุนที่คาเฟ่ ดารินก็ได้พบกับ อาชา ในที่สุด เธอเดินเข้าไปหาเขาด้วยรอยยิ้มหวานหยด ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอนั่งรออาชาหลายชั่วโมงกว่าที่อาชาจะยอมให้เธอเข้าพบ "อาชาคะ ดาคิดถึงคุณจังเลยค่ะ" ดารินเอ่ยเสียงหวาน พร้อมกับทำท่าจะโผเข้ากอด แต่อาชากลับถอยห่างออกมาเล็กน้อย สีหน้าเรียบเฉย "คุณดาริน มาทำอะไรที่นี่" อาชาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาไม่ต้องการจะข้องแวะกับอดีตที่เลวร้าย "อะไรกันคะอาชา ทำไมพูดกับดาแบบนี้ล่ะคะ ดาก็แค่อยากมาเยี่ยมคุณ มาทวงถามความรักเก่า ๆ ของเราคืน" ดารินแสร้งทำเป็นตัดพ้อ ใบหน้าแสดงความเศร้าสร้อยอย่างจงใจ "สงสัยความรักที่ผมเรียกคุณไป 10 ล้านคงไม่พอซะแล้วมั้ง คุณยังมีแรงมาระรานวุ่นวายกับผมอยู่แบบนี้"อาชาพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยันและรู้สึกรังเกียจผู้หญิงอย่างดารินที่สุด "โธ่อาชาคะ คุณไม่เห็นจะต้องแจ้งความเอาเรื่องดารินขนาดนั้นเลยค่ะ คุณก็รู้ว่าดารินไม่มีอะไรที่จะสู้กับคุณได้" "ดารินแค่อยากมาถามหาความเห็นใจจากคุณบ้างก็เท่านั้น ใจดีกับดารินหน่อยนะคะ" ดารินเกาะแข้งเกาะขาอาชาไม่ยอมปล่อยเอาแต่ทำท่าทีออดอ้อนออเซาะเพื่อให้อาชาใจอ่อน เหมือนฝันของดารินกำ
ธงเริ่มปฏิบัติการตามแผนของดารินอย่างเคร่งครัด เขายังคงส่งของขวัญและดอกไม้ให้เหมยเช่นเคย แต่คราวนี้มาพร้อมข้อความที่ดูเหมือนจะเข้าใจและเห็นอกเห็นใจเหมยมากยิ่งขึ้น เช่น "รู้ว่าเธอเหนื่อย พักผ่อนบ้างนะ" หรือ "หวังว่าดอกไม้ช่อนี้จะทำให้วันของเธอสดใสขึ้นมาบ้าง" ซึ่งเป็นข้อความที่ดารินแนะนำให้ใช้เพื่อสร้างความรู้สึกผูกพันทางอารมณ์"พี่ส่งดอกไม้ให้ครูเหมยทุกวันเลยอ่ะผมเป็นครูเหมยนี้ผมละลายหมดแล้วนะ"ไอ้เต้เดินมาแซวธงเมื่อเห็นว่ายังคงใช้ให้เต้ไปส่งดอกไม้"มันก็ต้องขยันหน่อยเว้ย.!!อยากได้เขากลับมาก็ต้องเอาใจเขาบ้าง"ธงพูดลอยๆ"คราบพี่" ไอ้เต้กับไอ้ต้นหนาวถึงกับหลุดหัวเราะในขณะเดียวกัน ธงก็เริ่มหาโอกาสพูดคุยกับเหมยมากขึ้น โดยอาศัยสถานการณ์ที่พบกันโดยบังเอิญในที่ทำงาน หรืออ้างเรื่องงานเข้ามาพูดคุย "อรุณสวัสดิ์ครับเหมย" ธงที่มาคาเฟ่แต่เช้าเพื่อมาดักรอเหมยและลิลลี่ที่จะมานั่งในห้องประจำเพื่อเรียนหนังสือเปลี่ยนบรรยากาศไม่ใช่ภายในบ้านพักตากอากาศ"อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ธง"เหมยยิ้มให้อย่างเป็นมิตรช่วงนี้เธออาจจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย