หน้าหลัก / มาเฟีย / รักสุดท้ายของอาชา / แผนการเผด็จศึกเด็กเนิร์ด

แชร์

แผนการเผด็จศึกเด็กเนิร์ด

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-29 21:15:54

แผนการเผด็จศึกเด็กเนิร์ดตลอดทั้งสัปดาห์ ธงเริ่มแผนการ "เผด็จศึกเด็กเนิร์ด" เรื่องนี้รู้กันเพียงสามคน

มีสกาย ไอ้ต๊อบตัวต้นเรื่อง และธงคือผู้ที่รับคำท้าในการตามจีบ "ยายเหมยลี่" เด็กเนิร์ดประจำมหาวิทยาลัยเอกภาษาไทย

"เหมยลี่ตื่นแล้วหรอ?"

ธงเลือกที่จะยอมตื่นแต่เช้า ทำนิสัยตรงข้ามกับสันดานตัวเอง มาดักรอเหมยลี่ที่หน้าหอพักมหาวิทยาลัยแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน

"สวัสดีค่ะพี่ธง ที่มาทำอะไรคะ?"

เหมยรีบถามตากุกตะกัก ไม่กล้าสบตาธงตรงๆ เพราะรู้สึกว่าตัวเองช่างดูแตกต่างกับธงเหลือเกิน

"พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับเหมยลี่อ่ะ...ขึ้นรถมาก่อนสิ"

ธงเอ่ยปากบอกให้เหมยลี่ขึ้นมานั่งบนมอเตอร์ไซค์เวฟ ซึ่งในรุ่นนั้นค่อนข้างฮิตกันมาก

"เอ่อ...เหมยนี่ว่ามันจะดูไม่ดีไหมคะ? เดี๋ยวแฟนพี่จะว่าเหมยลี่เอา" เหมยลี่พูดให้ดูสุภาพในการปฏิเสธธง

"พี่ยังไม่มีแฟนนะเหมยลี่ มีแต่สาว ๆ ที่มารายล้อมพี่ แต่พี่ไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ไม่แน่นะเรื่องที่พี่อาจจะคุย อาจจะเป็นเรื่องนี้ก็ได้" ธงเกริ่นปูทางให้กับตัวเอง

เหมยลี่ที่ได้ฟังไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าธงหมายถึงอะไร แต่เหมยลี่ก็ยังแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ เพราะเหมยลี่ไม่กล้าเปิดใจให้ใคร เหมยลี่กลัวจะเจ็บ

"มาเถอะน่า ยืนคิดอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวก็เข้าเรียนคลาสแรกสายหรอก มาเร็ว"

ธงพูดจบก็เดินลงจากมอเตอร์ไซค์ แล้วจูงมือเหมยลี่มาพร้อมกับสวมหมวกกันน็อกคนซ้อนท้ายและใส่ล็อกที่ใบหน้าให้เหมยลี่อย่างดี

เหมยลี่ที่ยืนมองการกระทำของธงแบบงงๆ เพราะร้อยวันพันปีธงกับเหมยลี่เหมือนอยู่คนละโลกกันเลยก็ว่าได้

ธงคือเด็กผู้ชายที่หน้าตาดี เป็นเดือนโรงเรียน เดือนคู่กับต๊อบลูกเศรษฐีบ้านรวย มีน้องสาวชื่อใบเฟิร์นอยู่ปี 1

"ทำไมทำหน้างั้นอ่ะเหมยลี่ ตกใจอะไร? พี่ไม่ได้พาเธอไปฆ่าซะที่ไหนล่ะยัยบ๊องเอ๊ย"

ธงเอามือลูบไปบนหมวกกันน็อกพร้อมกับส่งรอยยิ้มละมุนเหมือนพระเอกซีรีส์เกาหลี

พอถึงมหาวิทยาลัย สาวๆ ในมหาวิทยาลัยต่างพากันจ้องมองเหมยลี่เป็นตาเดียวที่ได้ซ้อนท้ายเดือนมหาลัยอย่างธง หนุ่มรูปหล่อที่สาวๆ พากันกรี๊ดกร๊าด

"เฮ้ยแก! นั่นไงเด็กเนิร์ดที่ชื่อเหมยเปล่าวะ? ทำไมถึงซ้อนท้ายรถเดือนมหาลัยอย่างพี่ธงได้อ่ะ? โอ๊ย อิจฉาวาสนานางอ่ะ!"เด็กคณะนิเทศภาพยนตร์พากันส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดลั่นไปหมด

ธงที่ขับรถไปส่งเหมยลี่จนถึงใต้คณะของมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่ ธงพยายามทำคะแนนรุกหนักทำเหมือน "บอมบ์เลิฟ" ใส่เหมยลี่

"พี่ธงคะ วันหลังไม่ต้องไปรับเหมยก็ได้ อย่าทำแบบนี้เลย เหมยไม่ชิน"

เหมยพยายามปิดกั้นทุกช่องทางไม่ให้ธงมีโอกาสได้เข้ามาใกล้ตัวเอง แต่ด้วยความที่ยังเด็กและใสซื่อในเรื่องความรัก ยังไม่เคยเปิดใจให้ใคร จะถามว่าเหมยแอบหวั่นไหวไหม หัวใจก็แอบเต้นแรง

"โธ่ ยัยเด็กบ๊อง! ทำไมมีแต่คนอิจฉาเธอทั้งนั้น เธอรังเกียจพี่หรอ?" ธงแสร้งทำเสียงเป็นน้อยใจ

"ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะพี่ธง เหมยก็แค่ไม่ชินน่ะ ที่มีคนจ้องมองเหมยเยอะแยะเป็นจุดเด่นขนาดนี้"

"เอาล่ะ ไม่ต้องไปสนใจคนอื่นหรอก เราอ่ะรีบขึ้นไปเรียนเถอะจะสายแล้วไม่ใช่หรอ?"

ธงที่ยืนถอดหมวกกันน็อกให้เหมยอยู่ก็รีบแสร้งพูดให้เหมือนคิดได้ว่าต้องรีบเข้าคลาส

"เออจริงด้วยพี่ธง งั้นเหมยไปก่อนนะ ขอบคุณนะคะที่ไปรับ" เหมยพูดจบก็พยักหน้าลงขอบคุณเล็กน้อยแล้วรีบวิ่งขึ้นอาคารเรียนไป

ธงที่ยิ้มตามแล้วมองความโก๊ะตลกของยัยเด็กเนิร์ดว่าเขาจะไม่มีทางจีบเธอได้จริงๆ หรือ

ผ่านมาแล้วเกือบหนึ่งเดือนที่ธงตามจีบเหมยอย่างไม่ลดละความพยายาม เพียงเพราะต้องการชนะใจไอ้ต๊อบ

พี่ชายของใบเฟิร์นคนที่ธงชอบจริงๆ ไอ้ธงอยากจีบใบเฟิร์นแต่ไอ้ต๊อบเพื่อนรักให้พิสูจน์ตัวด้วยการเล่นเกมเดิมพันในการจีบยัยเด็กเนิร์ดที่ชื่อเหมย

"เหมย วันนี้เราไปกินข้าวเย็นกันดีกว่า เสร็จแล้วเดี๋ยวพี่พาไปดูหนังต่อ"

ธงที่มารับเหมยที่หน้าคณะทุกวันตลอหนึ่งเดือน ข่าวของเหมยกับธงดังไปทั่วว่าธงกำลังพยายามตามจีบเหมยเพื่อเป็นแฟน

"ได้ค่ะ งั้นเหมยขอบอกเจสสิก้าก่อนนะ ขืนไม่บอกยัยเจสซี่มีหวังกินหัวเหมยแน่เลย"

เหมยหัวเราะคิกคักแล้วรีบวิ่งขึ้นไปบนอาคารอีกรอบเพื่อบอกเพื่อนรัก

"เจสซี่ เดี๋ยววันนี้เหมยจะไปดูหนังกับพี่ธงแล้วก็กินข้าวต่อ พรุ่งนี้เจอกันที่คณะนะ เดี๋ยวซื้อขนมมาฝาก"

เหมยที่กำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์ของความรัก ดูมีความสุขสดใส ทุกอย่างดูเป็นไปได้ด้วยดี

"จ้า ก็ระวังตัวไว้หน่อยนะจ๊ะยัยบ๊อง อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวปล่อยใจมากเกินไปนะ" เจสซี่ที่เป็นห่วงเพื่อนรักอย่างเหมยก็เอ่ยปากห้ามปราม

"จ๊ะ ฉันยังไม่ได้ตกลงปลงใจอะไรสักหน่อย แต่ตลอดมาพี่ธงก็น่ารักกับฉันตลอด"

"เขาคงไม่ได้มองแค่รูปลักษณ์ภายนอกของฉันหรอกมั้ง" เหมยพูดไปพร้อมกับทำจิตใจเลื่อนลอย

"รีบไปเถอะ เดี๋ยวพี่ธงสุดหล่อของเธอจะรอซะแย่" เจสซี่บอกให้เพื่อนสาวรีบลงจากอาคารพร้อมกับโบกมือบ๊ายบายเพื่อนเหมือนเป็นการอวยพร...

ทางด้านธงที่มารับเหมยไปกินข้าวดูหนังตามแพลน ทุกอย่างดูออกมาได้ด้วยดี ธงรู้สึกว่าเหมยเป็นคนน่ารักคนหนึ่งแต่ก็ไม่ใช่สเปคของธงอยู่ดี

"พี่ธง เหมยซื้อชาไข่มุกมาฝาก พี่ธงกินป่ะ?" เหมยที่วิ่งออกจากโรงหนังแล้วตรงไปร้านชาไข่มุกพร้อมกับยื่นให้กับธง

"ขอบใจนะเหมย แฟนใครเนี่ยน่ารักจัง" ธงเอามือหนาลูบไปที่หัวเหมยอย่างอบอุ่น

ในขณะนั้นหัวใจของเหมยพองโตยิ่งกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง เหมยมองว่าธงเป็นคนดี ไม่ได้มองเพียงรูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นเด็กดัดฟันใส่แว่นตาหนาเตอะ ใครๆ ก็มองว่าเหมยหน้าตาขี้เหร่

"แฟนเฝินอะไรเล่า เดี๋ยว FC ของเดือนมหาลัยได้มาแหวกอกเหมยพอดี" เหมยแกล้งทำเป็นพูดเปลี่ยนเรื่อง

"เหมยไม่รู้จริงๆ หรอว่าพี่คิดยังไงกับเหมย?" ธงก้มหน้าลงไปถามเหมย

เหมยเงยหน้าขึ้นมามองธงพร้อมกับประสานสายตา มีข้อความมากมายที่เหมย อยากจะบอกธง

แต่อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ว่าธงคือคนแรกที่ทำให้หัวใจของเหมยเต้นแรง ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาธงชนะใจเหมยเกินครึ่งแล้ว

"พี่แน่ใจหรอว่าพี่จะคบกับเหมยเป็นแฟนจริงๆ?" เหมยถามธงออกไปตรงๆ

"แน่ใจสิ ถ้าเหมยยอมคบพี่เป็นแฟน พี่สัญญาว่าพี่จะรักเหมยคนเดียวและดูแลเหมยให้ดี" ธงพูดคำหวานออกมาโดยไม่รู้สึกอะไรเลย

หัวใจของเหมยที่ได้ยินคำหวานก็เหมือนต้นไม้ที่ถูกรดน้ำ เหมยไม่เคยคบแฟนหรือคบผู้ชายคนไหนเลย

หลังจากตอบตกลงว่าจะคบกันเงียบๆ 2 คนไหมที่ได้พับดาวกระดาษอย่างตั้งใจหวังว่าจะให้ธงในวันที่ไปนิเทศกันรอบกองไฟความตั้งใจของเหมยในทุกค่ำคืนดาวกระดาษ 1,000 ดวงที่เธอตั้งใจพับให้กับธงคนที่เธอชอบ

ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ธงเป็นคนแรกที่ทำให้หัวใจของเหมยกลายเป็นสีชมพู....

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รักสุดท้ายของอาชา   ตอนพิเศษ

    วันเวลาเดินเคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็วก็เข้าปีที่ 3 เด็กๆโตขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกันเหมยที่ทำหน้าที่ดูแลลูกและหนูน้อยลิลลี่ในเวลาเดียวกันเธอทำทุกอย่างออกมาได้ดีมีแม่บ้านคอยช่วยเหลือบ้างเพราะเธอเองก็ยังทำงานที่เธอรักทำอะไรแต่เช้าครับขณะที่อยู่บนเตียงกว้างกับสามีสุดที่รักอย่างอาชาเขาที่ตื่นมาเห็นหน้าเหมือนเป็นคนแรกในทุกๆวันเช่นนี้เสมอ"กำลังคิดเรื่องพร็อพนิยายใหม่นะคะเดี๋ยวว่าจะแวะเข้าไปที่ไร่ชาสักอาทิตย์หน้าเผื่อไปหาบรรยากาศเปลี่ยนโหมดการทำงานหน่อย"เหมยยิ้มกว้างขณะที่นั่งอยู่บนเตียงหลังจากที่เธอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ"ก็ดีสิครับ จะได้เปลี่ยนบรรยากาศด้วยตอนนี้ที่ร้านมีขนมใหม่ ๆ เยอะเลยนะ ผมก็อยากให้เหมยไปดูเหมือนกัน" อาชาส่งยิ้มแล้วก็ขยับมานอนบนตักของเหมยด้วยท่าทีออดอ้อนแม้จะแต่งงานกันมาเข้าปีที่ 3 แล้วเหยียบปีที่ 4 ทั้งคู่ก็ยังคงความหวานใส่กันและกันเสมออาชาไม่เคยรักเหมยน้อยลงเช่นเดียวกับเหมยที่ไม่เคยรักอาชาน้อยลงเลย"อาทิตย์นี้เห็นหนูน้อยลิลลี่ของเรากับอคินจะไปบ้านของคุณย่าน้ำฟ้านะคะเดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่ เหมยจะมารับเอง เห็นว่าบ่นคิดถึงหลาน ๆ" เหมยใช้มือลูบไปตามกลุ่มผมของอาชาแล้วก็ส่งยิ้มอา

  • รักสุดท้ายของอาชา   บทส่งท้าย

    แสงไฟสลัว ๆ ที่โถงทางเดินของโรงพยาบาลส่องให้เห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ยืนและนั่งรออย่างใจจดใจจ่อ ทุกคนในที่นั้นต่างมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลและความหวังปะปนกันไป มีทั้งคุณหญิงวสุธรและคุณบุญรอด ผู้เป็นพ่อและแม่ของอาชา, คุณแม่น้ำฟ้าและคุณพ่อบุญทอง พ่อแม่ของเหมย, และหนูน้อยลิลลี่ ลูกสาววัย 5 ขวบเศษที่มาเฝ้ารอน้องชายคนใหม่ของเธออาชาเดินวนไปมาไม่หยุด เขากุมมือแน่นจนเหงื่อออกซึม ดวงตาจับจ้องไปที่ประตูห้องคลอดอย่างไม่คลาดสายตา ทุก ๆ นาทีที่ผ่านไปเหมือนเป็นชั่วโมงอันยาวนานสำหรับเขาคุณหญิงวสุธรลุกขึ้นจากเก้าอี้พลางวางมือบนบ่าของลูกชาย "ใจเย็น ๆ เถอะลูก เหมยเขาเข้มแข็งจะตาย"คุณบุญรอดเสริมขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้หนักแน่น "นั่นสิอาชา เราทุกคนอยู่ที่นี่พร้อมหน้าพร้อมตา ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกลูก"พ่อของอาชาตกไปที่บ่าของลูกชายเพื่อเป็นกำลังใจเพราะเขาก็เคยผ่านช่วงเวลานี้ในวันที่อาชาได้คลอดออกมาลืมตาดูโลกเช่นกัน"ครับพ่อ" อาชาหันไปตอบแต่ก็ไม่สามารถลดละสีหน้าความเป็นกังวลที่เป็นห่วงเหมยและลูกในท้องที่กำลังรออยู่ในห้องคลอดได้เลยส่วนอีกฟากหนึ่ง คุณพ่อบุญทองก็โอบกอดคุณแม่น้ำฟ้าไว้แน่น คุณแม่น้ำ

  • รักสุดท้ายของอาชา   ความสุขที่สมบูรณ์แบบ

    ตัดภาพมาที่ทางด้านอาชากับเหมยที่เดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่นในเวลาที่แตกต่างจากไทยทั้งสองมาถึงในวันที่หิมะเริ่มตกพอดีและเป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้ตกหนักมากจนเกินไปทำให้เธอได้มองเห็นบรรยากาศที่สวยงามเกินคำบรรยายราวกับออกมาจากเทพนิยายสองร่างก้าวเท้าออกมาจากสนามบินชินชิโตเซะสู่โลกที่ปกคลุมไปด้วยความขาวบริสุทธิ์ของหิมะ เหมยสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด สัมผัสได้ถึงไอเย็นที่บริสุทธิ์จนขนลุกไปทั่วทั้งร่าง เธอหันไปมองอาชาที่กำลังยืนยิ้มอยู่ข้างๆ“สวยจังเลยค่ะพี่อาชา เหมือนความฝันเลย” เหมยเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือด้วยความตื่นเต้นอาชาโน้มตัวลงไปกระซิบข้างหูเธอ “นี่ไม่ใช่ความฝันครับ มันคือโลกแห่งความจริงที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป”เมื่อมาถึงโรงแรม ทั้งสองก็ไม่รอช้าที่จะออกไปสำรวจเมืองที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เหมยกับอาชาจูงมือกันเดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ ผู้คนต่างแต่งกายด้วยชุดกันหนาวสีสันสดใส ทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นเหมยไม่เคยรู้สึกมีความสุขเท่านี้มาก่อนในชีวิต เธอได้เป็นตัวเองอย่างเต็มที่ ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ ได้แสดงความรู้สึกอย่างท

  • รักสุดท้ายของอาชา   เจสซี่เสือ หวานๆๆ

    เสือยืนนิ่งอึ้งในห้องเก็บของที่มืดสลัว ความรู้สึกทั้งประหลาดใจ สับสน และตื่นเต้นปะปนกันไปหมด ริมฝีปากของเขายังคงรู้สึกถึงสัมผัสแผ่วเบาแต่ร้อนแรงของเจสซี่ หัวใจเต้นรัวราวกับกลองศึก“คุณเจสซี่...นี่คุณทำบ้าอะไรเนี่ย!” เสือหลุดปากออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความประหม่า เขาพยายามผลักดันเจสซี่ออก แต่เธอกลับยิ่งกอดเขาไว้แน่นเจสซี่หัวเราะเบาๆ “ก็เจสซี่บอกแล้วไงคะ ว่าเจสซี่จะทวนความจำให้เสือ” เธอกระซิบข้างหูเขาอย่างหยอกล้อ “แล้วตอนนี้เสือจำได้หรือยังคะ ว่าใครเป็นคนทำแบบนี้กับเสือ”เสือหลับตาลงอย่างอ่อนใจ เขาพยายามรวบรวมสติทั้งหมดที่มี “คุณเจสซี่ครับ ปล่อยผมเถอะครับ” น้ำเสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ “มันไม่ถูกต้อง”“ไม่ถูกต้องตรงไหนคะ” เจสซี่แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ “หรือเสือคิดว่าเจสซี่ไม่ดีพอ? เจสซี่เป็นผู้หญิงที่ไม่ได้แย่นะคะ”“คุณดีเกินไปครับ” เสือสวนกลับทันควัน เขาหมายความอย่างนั้นจริงๆ เจสซี่เป็นผู้หญิงที่สวย ฉลาด และมาจากครอบครัวดีๆ . เขาเป็นแค่บอดี้การ์ด...เป็นได้เพียงแค่เงา ที่ไม่ควรมีตัวตนในชีวิตของใคร“เสือไม่ต้องมาหาข้ออ้างเลย” เจสซี่สวนกลับอย่างรู้ทัน “เจสซี่รู้ว่าเสือไม่ได้รังเกียจเจส

  • รักสุดท้ายของอาชา   การแต่งงานที่อบอุ่นและจุดเริ่มต้นของเสือกับเจสซี่

    สามเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหกเลิกและงานแต่งของเหมยและอาชาก็มาถึง เพื่อนสาวอย่างเจสซี่บินตรงมาจากออสเตรเลียรวมถึงพราวที่ขับรถจากเชียงรายเพื่อมาหาเพื่อนรักในวันพิธีมงคลสมรสถูกจัดขึ้นอย่างอบอุ่นท่ามกลางแขกในงานมากหน้าหลายตาเสือและเหล่าบอดี้การ์ดทุกคนเข้าประจำจุดด้วยความพร้อมเพียงวันนี้บอดี้การ์ดของอาชาสวมใส่เสื้อทักซิโด้สีขาวแทนสีดำทำให้บรรยากาศยิ่งดูสดใสขึ้นไปอีกเท่าตัวนึงส่วนเหมยที่ได้สวมใส่ชุดเจ้าสาวแบบฝรั่งโดยมีเพื่อนสาวอย่างเจสซี่เป็นผู้ออกแบบและตัดเย็บเองกับมือเธอภูมิใจในไม้แขวนชุดนี้เหลือเกินเพราะคนที่เป็นไม้แขวนเสื้อตัวนี้ก็คือเหมยเพื่อนสาวที่เธอรักที่สุดพิธีมงคลสมรสถูกจัดขึ้นสไตล์ฝรั่งและมีบาทหลวงมากล่าวคำพิธีมงคลต่างๆขณะที่อาชายืนรอเหมยให้เดินออกมากับพ่อบุญทองเขาก็ต้องตกตะลึงเพราะเหมยไม่เคยลองชุดเจ้าสาวให้เขาเห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียวเธอบอกว่าเป็นความลับเหมยในชุดเกาะอกสีขาวโชว์ให้เห็นคองามระหงชุดถุงมือสีขาวบางลายลูกไม้ผ้าคลุมผมเหมือนดั่งเจ้าหญิงชุดฟูฟ่องเล็กน้อยไม่ได้ดูมากไปและน้อยเกินไปต่างหูไข่มุกถูกประดับลงบนใบหูทั้งสองข้างสร้อยไข่มุกและตรงกลางฝังด้วยเพชรขนาด สิบห้ากะรัตดูไม่เ

  • รักสุดท้ายของอาชา   ความคิดถึง NC

    ร่างสูงใหญ่ค่อยๆ ก้าวเท้าอย่างแผ่วเบาเข้าไปในห้องนอน กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคยของเหมย ลอยมาแตะจมูก ยิ่งทำให้ใจที่คิดถึงแทบขาดของอาชาเต้นรัวแรง เขาปิดประตูอย่างเบามือที่สุดแล้วเดินตรงไปยังเตียงกว้างอย่างเงียบเชียบดวงตาคมกริบไล่มองร่างเล็กที่นอนขดอยู่ภายใต้ผ้าห่มสีขาวสะอาดตา แสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียงส่องกระทบใบหน้าหวานที่กำลังหลับใหล อย่างเป็นสุข เรียวปากบางอิ่มที่เผยอยิ้มเล็กน้อยในยามหลับใหลแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังมีความสุขในห้วงฝัน อาชากลัวเหลือเกินว่าถ้าหากไม่ใช่เขาที่ยืนอยู่ตรงนี้ แต่เป็นชายอื่นที่ล่วงล้ำเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเธอ เหมยจะเป็นอย่างไรความคิดเหล่านั้นทำให้แววตาของอาชาเต็มไปด้วยความหวงแหนและหึงหวง เขาทรุดตัวลงนั่งข้างเตียง ค่อยๆ เอื้อมมือไปลูบผมยาวสลวยที่กระจัดกระจายอยู่บนหมอนอย่างแผ่วเบา จากนั้นจึงเลื่อนปลายนิ้วไล้ไปตามโครงหน้าหวาน ไล่ลงมาตามลำคอระหง อาชาโน้มตัวลงไปกระซิบเสียงแผ่วข้างหูของเธอ "คิดถึงนะครับ...คิดถึงจนจะบ้าตายอยู่แล้ว"คำกระซิบแผ่วเบาคล้ายจะปลุกให้เหมยรู้สึกตัว เธอขยับตัวเล็กน้อยแล้วลืมตาขึ้นช้าๆ แสงสลั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status