แชร์

บทที่3 เจ้าสาวตัวร้าย

ผู้เขียน: ไห่ถาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-04 01:29:12

สิบวันต่อมา ณ จวนสกุลหวัง

          งานแต่งระหว่างแม่ทัพหวังลู่ฉงกับองค์หญิงหานชิน ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมฐานะของทั้งคู่ ซึ่งทุกอย่างดูจะผ่านพ้นไปด้วยดี แต่ทว่ายังไม่ทันรุ่งสาง ประตูเมืองจำต้องถูกเปิดออก เพื่อให้ขบวนทัพของแม่ทัพหนุ่มเดินทางออกสู่สายแดนทิศเหนือ ตามที่ชายหนุ่มได้ทูลขออนุญาตจากองค์ฮ่องเต้หลังพิธีสมรส

          ภายในรถม้าคันใหญ่ องค์หญิงหานซินยังคงหลับใหลอยู่บนผ้าปูขนสัตว์หนานุ่ม โดยมีแม่นมชุ่ยอิงคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง แต่ที่ทำให้แม่ทัพหนุ่มและทหารทุกคนรู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าใดนัก นั่นคือเหล่าบุรุษรูปงามขององค์หญิงหานชิน ที่ติดตามไปชายแดนในครั้งนี้ด้วย

          หวังลู่ฉงมองบุรุษทุกคนในชุดผ้าไหมเนื้อดีสีดำแดง ตัดเย็บอย่างประณีต ทุกคนล้วนแต่งกายเหมือนกัน บนศีรษะมีหมวกปีกกว้างสวมปิดบังใบหน้า ไร้รอยยิ้มหรือเสียงพูดคุย ทุกคนนั่งนิ่งเสมือนรูปปั้นอยู่บนหลังอาชาสีดำตัวใหญ่ ดูองอาจมิต่างจากทหารกล้าในกองทัพ

          หากไม่รู้ว่านี้คือเหล่าบุรุษจากตำหนักหานชิน คงคิดว่าเป็นทหารองครักษ์จากวังหลวงเสียมากกว่า

          ขบวนทัพเคลื่อนตัวออกพ้นประตูเมืองมาได้เล็กน้อย ก็ได้เพิ่มความเร็วขึ้นตามลำดับ หวังลู่ฉงเองก็อยากรู้นักว่าสตรีบ้าตัณหาเช่นภรรยาหมาด ๆ ของเขาจะทำเช่นไร เมื่อต้องนอนกลางดินกินกลาง อีกทั้งไม่มีพื้นที่ให้นางเสพสมกับชายหนุ่มเหล่านี้อีกด้วย

          “แม่นมว่าสามีข้าเป็นเช่นไร”

          คนที่ยังหลับตาอยู่บนกองผ้านุ่ม ๆ เอ่ยถามแม่นมที่กำลังนั่งเตรียมขนมให้แก่ผู้เป็นนายอยู่อีกด้าน

          “ท่านแม่ทัพหาได้ชื่นชอบองค์หญิงเพคะ”

          “หึ ๆ เรื่องนั้นข้ารู้ดี แค่ข้าอยากรู้ว่าทำไมเขาจึงเป็นผู้ถูกเลือก”

          “สกุลหวังเป็นตระกูลภักดีมาหลายชั่วอายุคนก็จริงเพคะ แต่ชนรุ่นหลังนั้นจะคงเดิมอยู่หรือไม่ยากที่จะคาดเดาได้ การแต่งงานครั้งนี้เพียงการตัดไฟแต่ต้นลมเท่านั้นเพคะ”

          “สมแล้วที่แม่นมของข้าอยู่มานาน ฮ่า ๆ”

          เพี๊ยะ! ฝ่ามืออวบอูมตีเบา ๆ ยังต้นแขนเรียวของผู้เป็นนาย ซึ่งนางรักดั่งดวงใจ นับตั้งแต่สิ้นอดีตฮองเฮาไป องค์หญิงน้อยก็ตัวติดกับนางมิเคยห่างสายตา

          “มิสำรวมเอาเสียเลยนะเพคะ”

          “พอ ๆ กับคำเรียกขานของคนในวัง ตอนนี้ข้าคือฮูหยินแม่ทัพ ใช้คำสามัญชนจะดีที่สุด ยิ่งออกไปไกลเมืองหลวง ตำแหน่งและชาติกำเนิดของข้าก็มิควรให้ผู้ใดรู้ มันจะเป็นการเพิ่มความยุ่งยากให้แก่ชายหนุ่มทั้งหลายของข้า โดยเฉพาะสามีหน้าตายผู้นั้น”

          การสนทนาของสองนายบ่าว ไม่อาจหลุดรอดถึงหูของแม่ทัพหนุ่มหรือทหารคนใดได้ ด้วยขบวนของนางนั้นรั้งท้าย และมีเหล่าบุรุษรูปงามนับสิบคอยล้อมรอบเอาไว้อย่างแน่นหนา

          เลยเที่ยงมาได้ครึ่งชั่วยาม ขบวนทัพได้หยุดพักยังลำธารไม่ห่างจากถนนหลักเท่าใดนัก แม่ทัพหนุ่มได้ให้คนมาแจ้งแก่หญิงสาวว่าจะพักค้างแรมในป่าสำหรับคืนแรกของการเดินทาง

          “อืม! ข้าไม่มีปัญหา บอกเขาเอาที่เขาสะดวกก็แล้วกัน”

          จ้าวหลงค้อมศีรษะรับคำฮูหยินของตน ก่อนจะรีบกลับไปแจ้งแก่ผู้เป็นนายให้ได้ทราบ

          “ท่านแม่ทัพจงใจทำเช่นนี้กับนายหญิงนะขอรับ”

          ชายหนุ่มรูปงามที่กำลังยื่นถ้วยชาให้แก่หญิงสาว เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มขบขัน

          “ช่างเขา ว่าแต่อีกนานแค่ไหนเราจะถึงหมู่บ้านสุ่ยหลาน”

          “น่าจะราว ๆ หนึ่งเดือนขอรับ หากท่านแม่ทัพเร่งการเดินทางเช่นนี้อาจเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ก็เป็นได้ขอรับ”

          “เป็นเช่นนั้นก็ดี ข้าเองก็อยากจะรู้ว่าหวังลู่ฉง จะกลั่นแกล้งข้าได้อีกสักกี่น้ำ”

          แม่นมได้แต่ถอนหายใจหนัก ๆ องค์หญิงของนางช่างไม่รู้สึกรู้สากับเรื่องสามีภรรยาเอาเสียเลย หญิงสูงวัยได้แต่กล่าวขอโทษต่ออดีตฮองเฮา ที่นางมิสามารถทำให้องค์หญิงหานชินเป็นดั่งบุพผาดอกอื่นได้อย่างที่ควรจะเป็น

          “แม่นม”

          “เจ้าคะ”

          “ดอกไม่มิได้กลิ่นหอม หรือกลีบบางไปเสียทุกดอกหรอกนะ อย่าได้โทษตัวเองเรื่องข้า ท่านทำดีที่สุดแล้ว ข้าคือข้าอย่าได้อยากให้ข้าเหมือนผู้ใด”

          หานชินมีหรือจะไม่รู้ถึงความคิดของแม่นม นางมักได้ยินการพร่ำขอโทษต่อหน้าป้ายวิญญาณอดีตฮองเฮา หรือก็คือมารดาผู้ให้กำเนิดนางนั่นเอง ซึ่งแม่นมของนางมักทำอยู่เป็นประจำ โดยที่ไม่รู้เลยว่าถ้อยคำเหล่านั้นนางได้ยินมันจนจำได้ขึ้นใจแล้ว

          “เจ้าค่ะ”

          ชุ่ยอิง ทำได้เพียงรับคำผู้เป็นนายอย่างเสียมิได้ นางอาจเคร่งครัดต่อหน้าที่มากจนเกินไปก็เป็นได้ เลยทำให้ผู้เป็นนายนั้นมองออกถึงความคิดในตอนนี้ของนาง

          “เราออกมานอกกรอบของวังหลวงแล้ว จงใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้สนุกที่สุด เพราะเราไม่รู้วันข้างหน้าต้องพบกับอะไรบ้าง ข้าอยากให้ท่านมีความสุขกับช่วงเวลาแห่งอิสระนี้”

          ชุ่ยอิงยิ้มกว้างเมื่อเห็นแววตาสดใสของผู้เป็นนาย นางอยู่ในวังมานานเสียจนลืมความสุขนอกกำแพงแห่งนั้น ตอนนี้ผู้เป็นนายหยิบยื่นมันใส่มือของนางแล้วเช่นนี้ นางก็มิควรที่จะปฏิเสธ

          เมื่อเข้าใจในสิ่งที่ผู้เป็นนายสื่อ ชุ่ยอิงจึงหัวเราะออกมาด้วยความสบายใจ ทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ด้วยต่างส่งเสียงหัวเราะร่า ทำให้แม่ทัพหนุ่มพร้อมเหล่าทหารติดตาม ต่างหันมองคณะขององค์หญิงหานชินด้วยแววตามมีคำถาม

          “พวกนางคิดว่าการเดินทางสู่ชายแดน เป็นเพียงการเที่ยวเล่นเช่นนั้นรึ”

          แม่ทัพหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก เขายังมีบทเรียนสอนภรรยาสูงศักดิ์อีกมากทีเดียว นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น

          ขบวนทัพเคลื่อนตัวอีกครั้ง ทุกอย่างกลับมาเร่งรีบเช่นเดิม การเดินทางที่หยุดพักตามป่าเขา ไม่ได้ทำให้องค์หญิงหานชินรู้สึกเหนื่อยล้าอันใดเลย

          แต่นางกลับเหมือนนกน้อยที่ได้บินออกจากกรงทอง เมื่อแวะพักตรงไหนที่มีลำธาร นางมักจะลงไปแหวกว่ายอย่างรื่นเริง ส่วนคนที่รู้สึกไม่พอใจ กลับเป็นคนที่เพียรพยายาม ผลักดันความลำบากให้แก่หญิงสาว

เวลาผ่านไปเกือบสิบวัน แม่ทัพหนุ่มยังคงไม่ได้เห็นความเหนื่อยล้า หรือได้ยินเสียงโอดครวญจากปากของหญิงสาวเลย แต่นางกับคนของนางดูจะสดใสร่าเริง

ทั้งยังดูสนุกสนานกับการเดินทาง จนเขายังไม่แน่ใจว่าที่เขาทำไปทุกอย่างนั้น นางได้รู้สึกถึงมันบ้างไหม

“ข้าอยากรู้นัก นางยังจะหัวเราะได้อีกสักกี่วันกัน”

แม่ทัพหนุ่มพึมพำเบา ๆ ก่อนจะเดินฮึดฮัดกลับไปยังที่นั่งของตนเอง จ้าวหลงได้แต่ทำหน้าเจื่อน ๆ เมื่อนึกถึงคำสั่งของหัวหน้าพ่อบ้าน ว่าให้พยายามสานสัมผัสสองสามีภรรยาให้แน่นแฟ้น แต่ที่เขาเห็นนั่นคือนับตั้งแต่ออกจากเมืองหลวงจนถึงตอนนี้ ท่านแม่ทัพกับฮูหยินยังมิเคยร่วมกินอาหารกันแม้แต่มื้อเดียว

และดูเหมือนฮูหยินเองก็มิได้เดือดเนื้อร้อนใจ กับเรื่องนี้เลยสักนิด คนที่แสดงอาการไม่พอใจ เห็นจะมีเพียงฝ่ายท่านแม่ทัพคนเดียวเท่านั้น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รักเร่าร้อนของฮูหยินทั้งห้า   บทที่101 แต่งงานกับข้านะ

    สามเดือนต่อมา หลังจากการสืบสวนของศาล ผลสรุปของคดี ฉีชางพร้อมด้วยมารดาเลี้ยงของเขา ได้รับโทษประหาร ส่วนฮั่วเยว่อิงและมารดารวมถึงเฉินป๋อหยาถูกส่งไปใช้แรงงานในเหมือง ในฐานะนักโทษเป็นเวลาสิบปี ทางด้านเด็กน้อยเสี่ยวเป่า ฮั่วเสารับดูแลในฐานะลูก โดยทุกคนได้รับคำสั่งไม่ให้พูดเรื่องชาติกำเนิดแท้จริงกับเด็กน้อย เฉินห้าวหนานยืนมองเป้าหมาย ที่กำลังนั่งเหม่ออยู่ไม่ไกล เขาหอบลูกติดตามหญิงสาวมาจนถึงชายแดนตะวันออก ทว่าทางสำนักคุ้มภัยบอกแก่เขาว่านางอยู่ที่นี่ หลังจากทำการเจรจากับท่านตาและท่านยายของหญิงสาวเป็นที่เรียบร้อย เขาจึงได้มาหานางที่นี่ ชายหนุ่มวางบุตรชายเอาไว้บนพื้นหญ้า ก่อนจะทำให้เจ้าก้อนแป้งส่งเสียงร้องงอแง ฮั่วเหลียนชินหันหาที่มาของเสียงร้อง ที่นางคุ้นเคยในทันที ก่อนที่นางจะเดินตามเสียงนั้นเสมือนต้องมนต์ แม้ในใจจะคิดว่านางคงกำลงคิดถึงหลานชายจนหูแว่ว “ห้าวหยาง!” ร่างบางวิ่งเข้าอุ้มหลานชายขึ้นสู่อ้อมแขนในทันที หญิงสาวกดจมูกลงบนแก้มอวบอ้วนด้วยความคิดถึง “เจ้ามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรกัน บิดาเจ้ารังแกเช่นนั้นรึ หลี

  • รักเร่าร้อนของฮูหยินทั้งห้า   บทที่100 แม่ขอโทษ

    “ท่านแม่! ข้าเป็นลูกของท่านพ่อใช่หรือไม่ ข้ามิใช่ลูกเขาใช่ไหมขอรับ” เฉินป๋อหยาเอ่ยถามมารดา ด้วยน้ำเสียงแหบแห้งกว่าปกติหลายเท่านัก มารดาบอกแก่เขาว่าตนเป็นลูกของนางอย่างแท้จริง แต่เฉินห้าวหนานเป็นลูกชายของน้องสาว ที่แต่งมาเป็นอนุของบิดา ทว่าตอนนี้ไยทุกอย่างมันกลับกลายเป็นเขา ที่มิใช่สายเลือดสกุลเฉินไปได้ “แม่ขอโทษป๋อหยา’ ไม่ต้องมีคำอธิบายใด ๆ อีกแล้ว ทุกอย่างกระจ่างชัดจนชายหนุ่มทนรับมันต่อไปไม่ได้ ร่างสูงก้าวช้า ๆ ตรงไปยังประตูห้องจัดเลี้ยง เขาไม่ใช่คนสกุลเฉิน แต่เป็นลุกพ่อบ้านจวนสกุลฮั่ว หนำซ้ำคนผู้นั้นยังเป็นคนอยู่เบื้องหลังการตายของใครอีกหลายคน มารดาของเขาคือฆาตกรสังหารน้องสาวตนเอง เพื่อช่วงชิงลูกของนางมาเป็นของตนเอง ทุกอย่างมันร้ายแรงเกินกว่าที่เขาจะทนรับมันได้ ทว่าเพียงก้าวพ้นประตู เฉินป๋อหยาก็ถูกทหารรวบตัวเอาไว้ เพราะมีส่วนร่วมในการลอบสังหารฮูหยินในท่านแม่ทัพเฉินห้าวหนาน เฉินป๋อหยาไม่มีท่าทีขัดขืนใด ๆ ชายหนุ่มเหม่อลอยจนน่าตกใจ ก่อนที่เขาจะหันกลับเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง มารดาถูกคุมตัวนั่งเคียงข้างบิดาที่เขาเพิ่งรู้จัก อีกข้า

  • รักเร่าร้อนของฮูหยินทั้งห้า   บทที่99 เปิดโปง

    “หยุดนะห้าวหนาน วันนี้เป็นวันดีของน้องชาย เจ้าจะเอาเรื่องไร้สาระเช่นนี้ มาเล่าเพื่อสิ่งใดกัน” “อย่าได้ร้อนตัวสิขอรับท่านแม่ อย่างไรก็ฟังให้จบเสียก่อนจะดีกว่า” “นั่นสิ! เฉินฮูหยินให้หลานชายข้าเล่าต่อให้จบเถิด” ท่านเจ้ากรมการคลัง ได้พูดแทรกขึ้น เพราะเขาเองก็อยากจะฟังเรื่องนี้ให้จบ เพื่อความแน่ใจว่าสิ่งที่เขาเคยได้ยินมานั้น มันมิใช่สิ่งที่คิดไปเอง ซึ่งแขกในงานต่างแสดงความต้องการ เช่นเดียวกันกับท่านเจ้ากรม “เช่นนั้นต่อเลยนะขอรับ ในวันที่น้องสาวของนางคลอดบุตรชาย ตัวนางเองก็คลอดบุตรชายเช่นกัน อ่อ! ในตอนนั้น นางเลือกที่จะพาน้องสาวกลับไปคลอดยังบ้านเกิดมารดา อีกทั้งสามีที่เป็นแม่ทัพก็มิอาจปลีกตัวติดตามไปได้ ข่าวดีและร้ายได้เกิดขึ้นในวันเดียวกัน นั่นคือท่านแม่ทัพได้บุตรชายสองคน ทว่าเพียงสองชั่วยามภรรยาและลูกชายอีกคนได้สิ้นใจลงอย่างน่าอนาถ” “แล้วมันยังไง ก็แค่เมียเอกกับเมียน้อยคลอดลูกพร้อมกัน ส่วนเรื่องคลอดลูกแล้วตกเลือดจนตายก็นับเป็นเรื่องที่มีให้เห็นอยู่ไม่น้อย เด็กไม่แข็งแรงจะสิ้นใจก็ไม่แปลก” “แปลกตรงที่แท้จริงเมียเอกมิได

  • รักเร่าร้อนของฮูหยินทั้งห้า   บทที่98 ยกยิ้มร้าย

    ตลอดสามวันที่เขาปล่อยข่าวว่าออกนอกเมืองไป มันทำให้เขาได้รู้เห็นเรื่องในบ้าน จนเรียกว่าเจ็บจนแทบจะกระอักเลือดเลยก็ว่าได้ “สัญญากับข้า อย่าได้แหวกหญ้าให้งูตื่น เพียงเพราะโทสะของท่าน” “ข้าสัญญา เจ้าก็ต้องรับปากข้า ว่าจะไม่เอาตนเองมาเสี่ยงเช่นนี้อีก เข้าใจหรือไม่” “เราเป็นอะไรกันเช่นนั้นรึ จึงต้องทำตามคำขอของท่าน ซึ่งมันมิใช่ส่วนรวมเช่นคำขอของข้าเลยสักนิด” “เจ้ากับลูกเป็นทุกสิ่งของข้า” “อย่าได้หมิ่นเกียรติข้าเกินไปนัก รู้ตนเองบ้างว่าท่านกับข้าเป็นใคร” “เพราะรู้ข้าถึงกล้ายอมรับมัน” “…” ฮั่วเหลียนชินมิอาจเอ่ยสิ่งใดตอบโต้ชายหนุ่มได้ นางทำเพียงก้าวเคียงข้าเขาไปเงียบ ๆ เพราะคร้านจะโต้แย้ง “ความรู้สึกมิใช่เงินตราก็ซื้อหาได้ ข้าคิดเช่นไรก็พูดออกไปเช่นนั้นมิได้โป้ปด ทุกอย่างสุดแท้แต่เจ้าจะมองเห็นเหลียนชิน” เฉินห้าวหนานเอ่ยขึ้นเบา ๆ พร้อมกระชับร่างบางให้แนบกายมากขึ้น ด้วยเกรงว่าเขาจะมิได้ชิดใกล้นางเช่นนี้อีก หลังจากกลับมาถึงจวน เฉินฮูหยินได้รีบมาที่เรือนของลูกสะใภ้ พร

  • รักเร่าร้อนของฮูหยินทั้งห้า   บทที่97 โอหัง!

    “หึ ๆ ไม่นึกว่าวันนี้จะได้ยลโฉมคุณหนูใหญ่สกุลฮั่ว” เสียงจากด้านหลังหินก้อนใหญ่กลางสวน ไม่ได้ทำให้หญิงสาวทั้งสามรู้สึกตื่นเต้นเลยสักนิด ยิ่งอีกฝ่ายเรียกนางได้อย่างถูกต้อง นั่นแสดงว่าจิ้งจอกพิการทั้งสอง รนรานกลับไปหานายเก่าแล้ว และหากนางเดาไม่ผิดทั้งสองคนไร้ลมหายไปแล้วเช่นกัน “รวดเร็วทันใจดีแท้ หึ ๆ” หญิงสาวเอ่ยเบา ๆ กับสาวใช้ทั้งสอง ก่อนจะมองไปยังคนที่เผยตัวออกมาอย่างใจเย็น ทว่าเขายังคงปิดบังใบหน้าตนเองเอาไว้ “ไยต้องบิดบังใบหน้าด้วยเล่า ช่างไร้มารยาทในการพบเจอยิ่งนัก” “ไม่นึกเลยว่าเด็กขี้โรคเมื่อวันวาน จะกลายเป็นหญิงงามในวันนี้” “ขอบคุณที่ชม แต่ข้าก็ยังแปลกใจอยู่ดี ว่าเหตุใดกันเจ้าจึงมารอพบข้าที่นี่ อย่าบอกนะว่าเป็นเรื่องบังเอิญ มันย่อมไม่มีทางเป็นเช่นนั้นไปได้ เพราะความบังเอิญนี้มันเหมาะเจาะจนเกินไป” ฮั่วเหลียนชินกระชับอ้อมแขนรัดร่างอ้วนให้แน่นขึ้น นางสัมผัสได้ถึงไอสังหารที่อีกฝ่าย ตั้งใจปลดปล่อยออกมาเพื่อกดดันนาง อีกอย่างคือกำลังประเมินฝีมือของนางไปในตัว “จะกล่าวเช่นนั้นก็ย่อมได้ น่าเสียดา

  • รักเร่าร้อนของฮูหยินทั้งห้า   บทที่96 ชมดอกไม้

    สามวันถัดมา เฉินฮูหยินได้ให้สาวใช้มาแจ้งแก่ฮั่วเหลียนชิน ว่าจะพานางกับลูกไปไหว้พระ เพื่อขอพรให้กับครอบครัว หญิงสาวได้ตอบรับคำเชิญของแม่สามี หญิงสาวยกยิ้มร้าย เมื่อกล้าท้าทายนางก็พร้อมท้าชนเช่นกัน “บาดแผลของนายหญิง ยังไม่หายดีนะเจ้าคะ” “บาดแผลหนักกว่านี้พวกเราก็ผ่านกันมาแล้ว หากให้ผู้อื่นรู้ว่าข้าบาดเจ็บย่อมต้องเป็นสงสัยของทุกคน แค่เขารู้คนเดียวข้าก็หนักใจอยู่ไม่น้อย” ฮั่วเหลียนชินรู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ เพราะถึงแม้ตอนนี้นางไม่รู้ว่าจะวางใจเฉินห้าวหนานได้มากแค่ไหน แม้เขาจะพูดกับนางอย่างตรงไปตรงมา ถึงความรู้สึกที่มีต่อน้องสาวของนาง ‘แม้ข้ามิได้รักนาง แต่ข้าก็มิคิดที่จะให้นางกับลูกตาย ห้าวหยางคือลูกชายของข้า ไยข้าจะชิงชังเขาได้เล่า แต่ข้าไม่นึกว่าการเดินทางของนาง จะเป็นการจากไปมิหวนคืนเช่นนี้’ “จิ้งจอกถูกปล่อยแล้วใช่หรือไม่” “เจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านพี่ฉงอานกำลังจับตาดูอยู่เจ้าค่ะ” “ดี! มองอยู่เงียบ ๆ รอให้สาวถึงปลาตัวใหญ่ ค่อยลงมือในคราเดียว” “สาวใช้จากเรือนหลีหยา มาป้วนเปี้ยนบ่อยยิ่งนักเจ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status