แชร์

บทที่2 องค์หญิงหานชิน

ผู้เขียน: ไห่ถาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-04 01:25:41

ตำหนักนอกวัง ณ เรือนหานชิน

          “ฮ่า ๆ ข้าอยากเห็นหน้าของหวังลู่ฉงยิ่งนัก ฮึ! แม่ทัพไร้พ่าย ไยมาตกม้าตายตอนถูกจับแต่งงานกับข้าเล่า นี่ถึงขนาดหนีไปซบอกยอดคณิกาเลยรึ จะให้ข้าทำเยี่ยงไรบุกไปแหกอกเขา หรือไปหัวเราะกับความคิดเสมือนดีเล่า”

          หานชินหัวเราะร่า นางไม่ได้รู้สึกเศร้าเสียใจหรือยินดีกับการแต่งงานในครั้งนี้ เหตุผลทางการเมืองล้วน ๆ ที่ทำให้นางต้องออกเรือนกับหวังลู่ฉงผู้หยิ่งผยอง

          “องค์หญิงมิสำรวมเลยนะเพคะ”

          พระนมข้างกายเอ่ยตักเตือนองค์หญิงของตน นางเองเพียรพยายามให้องค์หญิงทรงเป็นกุลสตรีทุกระเบียดนิ้ว แต่สิ่งที่ได้กลับตรงกันข้ามเสมอ

          “อย่าได้กลัวว่าข้าจะทำเสื่อมเกียรติยามอยู่ต่อหน้าผู้คนเลยแม่นม สำหรับองค์หญิงกำพร้าเช่นข้า ไม่มีผู้ใดสนใจเท่าเรื่องราวเสื่อมเสียที่กล่าวหาข้าหรอกนะ อย่าได้เหนื่อยกับคำผู้อื่น จงเหนื่อยกับภารหน้าที่เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ท่านดูแลข้ามาเป็นอย่างดีข้าย่อมมองเห็น”

          หญิงสาวยกจอกสุราขึ้นดื่ม ในสายตาผู้คนนั้นนางคือหญิงมากตัณหา ที่มักสะสมบุรุษเอาไว้ข้างกายมากมาย ส่วนเรื่องจริงนั้นไม่จำเป็นที่นางต้องบอกกล่าวให้ผู้อื่นรับรู้ เพราะมิว่าพูดอย่างไรมันก็คือคำแก้ตัวอยู่ดีในความคิดของผู้คน

          “เตรียมทุกอย่างให้พร้อม มิใช่สำหรับงานแต่ง แต่เป็นการเดินทางติดตามสามีข้าสู่ชายแดน”

          หานชินออกคำสั่งที่ดูเรียบง่าย แต่ย่อมมีความนัยแอบแฝงที่รู้กันแค่เพียงคนสนิทเท่านั้น

          “เพคะ องค์หญิงโปรดวางพระทัย ทุกอย่างจะมิขาดตกบกพร่อง แล้วเรื่องชุดแต่งงานเล่าเพคะ”

          “จะทำแบบไหนก็ตามใจ ข้ายังไงก็ได้”

          หญิงสาวส่งสัญญาณมือเล็กน้อย เป็นการบอกว่านางไม่อยากรับรู้เรื่องการแต่งงานอีก แม่นมชุ่ยอิงจำต้องปล่อยให้ผู้เป็นนายดื่มสุราเงียบ ๆ โดยมีขันทีคนสนิทคอยดื่มเป็นเพื่อน

          ในตำหนักนอกวังแห่งนี้ ทั้งสุราและดนตรีต้องเป็นเลิศ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น ผู้ติดตามต้องดื่มเก่งมิให้แพ้ผู้เป็นนาย การที่แม่นมเช่นนางไม่คิดห้ามปราม เพราะรู้ดีถึงเบื้องหลังสิ่งเหล่านี้ ยามทำหน้าที่องค์หญิงของนางหาได้ยิ่งหย่อนกว่าผู้ใด และสิ่งที่ทรงแบกรับไว้หนักเกินกว่าสตรีทั่วไป จะสามารถแบกรับเพียงลำพังเช่นองค์หญิงของนางได้

จวนเสนาบดีหลิวจง

          “กรี๊ด!!!”

          เสียงกรีดร้องของคุณหนูรองสกุลหลิว ดังก้องทั่วเรือนหลังงาม ข่าวเรื่องการแต่งงานของชายที่หมายปอง กับองค์หญิงมีราคีผู้นั้น มันไม่ควรเกิดขึ้น นางจะเอาหน้าไปไว้ที่ใดกับเรื่องนี้

          ทั่วทั้งเมืองหลวงมีผู้ใดบ้างไม่รู้ ว่านางนั้นคือคนที่ถูกวางให้เป็นภรรยาเอกจวนแม่ทัพหวังลู่ฉง แม้ฝ่ายชายจะยังไม่เอ่ยปากทาบทามสู่ขอ แต่การที่เขามิได้ปฏิเสธถึงการไปมาหาสู่ นั่นย่อมเป็นการบอกได้ว่านางคือสตรีอันดับหนึ่งที่เขาจะเลือกอย่างแน่นอน

          “หยุดบ้าได้แล้ว อี้ชิว”

          เสียงดุดันที่ปนไปด้วยโทสะของเสนาบดีหลิว ทำให้ใบหน้างามจำต้องเม้มปากแน่น โผเข้ากอดมารดา ที่ก้าวติดตามผู้เป็นบิดาเข้ามาในเรือน

          “แต่ลูกรักท่านแม่ทัพนี่เจ้าค่ะ”

          หญิงสาวเอ่ยเถียงบิดาด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น หญิงสาวกระตุกเสื้อมารดาเบา ๆ เพื่อให้ผู้เป็นแม่ช่วย

          “รักอย่างนั้นรึ ฮึ! หากมิใช่เพราะข้าต้องการใช้งานเขา คนเยี่ยงหลิวลู่ฉงย่อมไม่มีวันได้ยลโฉมเจ้าแน่อี้ชิว”

          เสนาบดีหลิวพูดด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธ อยู่ ๆความตั้งใจของเขาก็พังลงอย่าไม่เป็นท่า มีหรือเขาจะไม่รู้ว่าหวังลู่ฉง มิได้รักใคร่อันใดบุตรสาวของเขาเลย

แต่ที่แม่ทัพหนุ่มไม่แก้ข่าวลือ นั่นเพราะชายหนุ่มคงวางบุตรสาวของเขาเอาไว้เป็นตัวเลือกแรก เพื่อที่จะแต่งเข้าจวนเมื่อถึงวัยออกเรือน แต่ไม่คิดเลยว่าฮ่องเต้ จะช่วงชิงตำแหน่งเมียเอกให้กับองค์หญิงหานชินไปเสียก่อน

          “ท่านพ่อ ไยกล่าวเช่นนั้นเจ้าคะ”

          หลิวอี้ชิวรู้ดีแก่ใจ ว่าครั้งแรกที่นางพยายามโดดเด่นในสายตาแม่ทัพหนุ่ม ก็เพื่อเหตุผลทางการเมืองของผู้เป็นบิดา หากถามใจของนางว่ารักเขาไหม นางตอบได้ไม่เต็มปากนัก แต่นางมิอยากเสียหน้าต่อคุณหนูบ้านอื่น ซึ่งทุกคนรู้ดีว่านางกับแม่ทัพหนุ่มคือคนที่เหมาะสมกัน

          “ฝ่าบาททรงตั้งใจที่จะตัดเส้นทางของข้า จึงได้ให้องค์หญิงหานชินแต่งกับหวังลู่ฉง พี่สาวเจ้าที่อยู่ในวังตอนนี้ก็มิได้รับความโปรดปราณเช่นเดิม เห็นทีข้าต้องลงมือทำบางอย่างเสียแล้ว”

          หลิวอี้ชิวได้แต่นิ่งเงียบ นางเคยวาดหวังที่จะเข้าวัง แต่ผู้เป็นพ่อกลับให้นางพยายามมัดใจหวังลู่ฉง และเมื่อเขาไม่ได้ปฏิเสธนางเช่นครั้งแรกที่รู้จัก อีกทั้งยังเริ่มให้ความสนใจนางบ้างแล้ว ทว่าวันนี้เจ้าสาวของเขากลับมิใช่นาง มันช่างน่าเจ็บใจยิ่งนัก

          “คนเช่นข้ามิชื่นชอบความพ่ายแพ้ เป็นเมียเอกไม่ได้ข้าก็จะเป็นเมียรองที่มัดใจเขาไว้แต่ผู้เดียวให้ได้”

          “อี้ชิว!!!!”

          เสนาบดีหลิวกับภรรยาถึงกับดวงตาเบิกกว้าง ด้วยไม่คิดว่าบุตรสาวคนรองจะกล้าเอ่ยออกมาเช่นนั้น เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการลดลดศักดิ์ศรีของตนเอง เพียงเพื่อร้องขอตำแหน่งภรรยาจากหวังลู่ฉง ย่อมต้องเป็นที่ขบขันของผู้คนทั่วแผ่นดินอย่างแน่นอน

          ใบหน้างามเชิดขึ้นสูง ความหมาดมั่นในสายตาของหลิวอี้ชิว บอกได้เป็นอย่างดีว่านางจะทำเรื่องนี้จริง ๆ ต่อให้ผู้คนจะหัวเราะเยาะนางก็มิคิดใส่ใจ เพราะมันจะเป็นตำแหน่งเมียรอง เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เมื่อใดที่สิ้นองค์หญิงหานชิน ตำแหน่งฮูหยินเอกก็มิพ้นมือนาง

          “ไม่เห็นแก่หน้าข้า เจ้าก็ควรเห็นแก่พี่สาวของเจ้าบ้าง”

          “แล้วมีผู้ใดเห็นแก่ข้าบ้าง การเป็นเมียรองของราชบุตรเขย มันสูงส่งกว่าเป็นเมียเอกของบางสกุลอีกนะเจ้าคะ และมันไม่หรือเจ้าคะที่เราจะยังมีเขาเอาไว้ใช้งาน”

          เสนาบดีหลิวนิ่งคิดตามคำพูดของบุตรสาว ก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ แล้วก้าวออกจากห้องไป โดยที่ไม่เอ่ยสิ่งใดออกมาอีก หากคิดถึงเรื่องหน้าตาทางสังคม อาจมีบ้างที่ถูกเย้ยหยัน แต่หากคิดในแง่ของการเป็นพ่อตาร่วมกับฮ่องเต้ มันก็มิใช่เรื่องน่าอับอาบอันใด

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รักเร่าร้อนของฮูหยินทั้งห้า   บทที่101 แต่งงานกับข้านะ

    สามเดือนต่อมา หลังจากการสืบสวนของศาล ผลสรุปของคดี ฉีชางพร้อมด้วยมารดาเลี้ยงของเขา ได้รับโทษประหาร ส่วนฮั่วเยว่อิงและมารดารวมถึงเฉินป๋อหยาถูกส่งไปใช้แรงงานในเหมือง ในฐานะนักโทษเป็นเวลาสิบปี ทางด้านเด็กน้อยเสี่ยวเป่า ฮั่วเสารับดูแลในฐานะลูก โดยทุกคนได้รับคำสั่งไม่ให้พูดเรื่องชาติกำเนิดแท้จริงกับเด็กน้อย เฉินห้าวหนานยืนมองเป้าหมาย ที่กำลังนั่งเหม่ออยู่ไม่ไกล เขาหอบลูกติดตามหญิงสาวมาจนถึงชายแดนตะวันออก ทว่าทางสำนักคุ้มภัยบอกแก่เขาว่านางอยู่ที่นี่ หลังจากทำการเจรจากับท่านตาและท่านยายของหญิงสาวเป็นที่เรียบร้อย เขาจึงได้มาหานางที่นี่ ชายหนุ่มวางบุตรชายเอาไว้บนพื้นหญ้า ก่อนจะทำให้เจ้าก้อนแป้งส่งเสียงร้องงอแง ฮั่วเหลียนชินหันหาที่มาของเสียงร้อง ที่นางคุ้นเคยในทันที ก่อนที่นางจะเดินตามเสียงนั้นเสมือนต้องมนต์ แม้ในใจจะคิดว่านางคงกำลงคิดถึงหลานชายจนหูแว่ว “ห้าวหยาง!” ร่างบางวิ่งเข้าอุ้มหลานชายขึ้นสู่อ้อมแขนในทันที หญิงสาวกดจมูกลงบนแก้มอวบอ้วนด้วยความคิดถึง “เจ้ามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรกัน บิดาเจ้ารังแกเช่นนั้นรึ หลี

  • รักเร่าร้อนของฮูหยินทั้งห้า   บทที่100 แม่ขอโทษ

    “ท่านแม่! ข้าเป็นลูกของท่านพ่อใช่หรือไม่ ข้ามิใช่ลูกเขาใช่ไหมขอรับ” เฉินป๋อหยาเอ่ยถามมารดา ด้วยน้ำเสียงแหบแห้งกว่าปกติหลายเท่านัก มารดาบอกแก่เขาว่าตนเป็นลูกของนางอย่างแท้จริง แต่เฉินห้าวหนานเป็นลูกชายของน้องสาว ที่แต่งมาเป็นอนุของบิดา ทว่าตอนนี้ไยทุกอย่างมันกลับกลายเป็นเขา ที่มิใช่สายเลือดสกุลเฉินไปได้ “แม่ขอโทษป๋อหยา’ ไม่ต้องมีคำอธิบายใด ๆ อีกแล้ว ทุกอย่างกระจ่างชัดจนชายหนุ่มทนรับมันต่อไปไม่ได้ ร่างสูงก้าวช้า ๆ ตรงไปยังประตูห้องจัดเลี้ยง เขาไม่ใช่คนสกุลเฉิน แต่เป็นลุกพ่อบ้านจวนสกุลฮั่ว หนำซ้ำคนผู้นั้นยังเป็นคนอยู่เบื้องหลังการตายของใครอีกหลายคน มารดาของเขาคือฆาตกรสังหารน้องสาวตนเอง เพื่อช่วงชิงลูกของนางมาเป็นของตนเอง ทุกอย่างมันร้ายแรงเกินกว่าที่เขาจะทนรับมันได้ ทว่าเพียงก้าวพ้นประตู เฉินป๋อหยาก็ถูกทหารรวบตัวเอาไว้ เพราะมีส่วนร่วมในการลอบสังหารฮูหยินในท่านแม่ทัพเฉินห้าวหนาน เฉินป๋อหยาไม่มีท่าทีขัดขืนใด ๆ ชายหนุ่มเหม่อลอยจนน่าตกใจ ก่อนที่เขาจะหันกลับเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง มารดาถูกคุมตัวนั่งเคียงข้างบิดาที่เขาเพิ่งรู้จัก อีกข้า

  • รักเร่าร้อนของฮูหยินทั้งห้า   บทที่99 เปิดโปง

    “หยุดนะห้าวหนาน วันนี้เป็นวันดีของน้องชาย เจ้าจะเอาเรื่องไร้สาระเช่นนี้ มาเล่าเพื่อสิ่งใดกัน” “อย่าได้ร้อนตัวสิขอรับท่านแม่ อย่างไรก็ฟังให้จบเสียก่อนจะดีกว่า” “นั่นสิ! เฉินฮูหยินให้หลานชายข้าเล่าต่อให้จบเถิด” ท่านเจ้ากรมการคลัง ได้พูดแทรกขึ้น เพราะเขาเองก็อยากจะฟังเรื่องนี้ให้จบ เพื่อความแน่ใจว่าสิ่งที่เขาเคยได้ยินมานั้น มันมิใช่สิ่งที่คิดไปเอง ซึ่งแขกในงานต่างแสดงความต้องการ เช่นเดียวกันกับท่านเจ้ากรม “เช่นนั้นต่อเลยนะขอรับ ในวันที่น้องสาวของนางคลอดบุตรชาย ตัวนางเองก็คลอดบุตรชายเช่นกัน อ่อ! ในตอนนั้น นางเลือกที่จะพาน้องสาวกลับไปคลอดยังบ้านเกิดมารดา อีกทั้งสามีที่เป็นแม่ทัพก็มิอาจปลีกตัวติดตามไปได้ ข่าวดีและร้ายได้เกิดขึ้นในวันเดียวกัน นั่นคือท่านแม่ทัพได้บุตรชายสองคน ทว่าเพียงสองชั่วยามภรรยาและลูกชายอีกคนได้สิ้นใจลงอย่างน่าอนาถ” “แล้วมันยังไง ก็แค่เมียเอกกับเมียน้อยคลอดลูกพร้อมกัน ส่วนเรื่องคลอดลูกแล้วตกเลือดจนตายก็นับเป็นเรื่องที่มีให้เห็นอยู่ไม่น้อย เด็กไม่แข็งแรงจะสิ้นใจก็ไม่แปลก” “แปลกตรงที่แท้จริงเมียเอกมิได

  • รักเร่าร้อนของฮูหยินทั้งห้า   บทที่98 ยกยิ้มร้าย

    ตลอดสามวันที่เขาปล่อยข่าวว่าออกนอกเมืองไป มันทำให้เขาได้รู้เห็นเรื่องในบ้าน จนเรียกว่าเจ็บจนแทบจะกระอักเลือดเลยก็ว่าได้ “สัญญากับข้า อย่าได้แหวกหญ้าให้งูตื่น เพียงเพราะโทสะของท่าน” “ข้าสัญญา เจ้าก็ต้องรับปากข้า ว่าจะไม่เอาตนเองมาเสี่ยงเช่นนี้อีก เข้าใจหรือไม่” “เราเป็นอะไรกันเช่นนั้นรึ จึงต้องทำตามคำขอของท่าน ซึ่งมันมิใช่ส่วนรวมเช่นคำขอของข้าเลยสักนิด” “เจ้ากับลูกเป็นทุกสิ่งของข้า” “อย่าได้หมิ่นเกียรติข้าเกินไปนัก รู้ตนเองบ้างว่าท่านกับข้าเป็นใคร” “เพราะรู้ข้าถึงกล้ายอมรับมัน” “…” ฮั่วเหลียนชินมิอาจเอ่ยสิ่งใดตอบโต้ชายหนุ่มได้ นางทำเพียงก้าวเคียงข้าเขาไปเงียบ ๆ เพราะคร้านจะโต้แย้ง “ความรู้สึกมิใช่เงินตราก็ซื้อหาได้ ข้าคิดเช่นไรก็พูดออกไปเช่นนั้นมิได้โป้ปด ทุกอย่างสุดแท้แต่เจ้าจะมองเห็นเหลียนชิน” เฉินห้าวหนานเอ่ยขึ้นเบา ๆ พร้อมกระชับร่างบางให้แนบกายมากขึ้น ด้วยเกรงว่าเขาจะมิได้ชิดใกล้นางเช่นนี้อีก หลังจากกลับมาถึงจวน เฉินฮูหยินได้รีบมาที่เรือนของลูกสะใภ้ พร

  • รักเร่าร้อนของฮูหยินทั้งห้า   บทที่97 โอหัง!

    “หึ ๆ ไม่นึกว่าวันนี้จะได้ยลโฉมคุณหนูใหญ่สกุลฮั่ว” เสียงจากด้านหลังหินก้อนใหญ่กลางสวน ไม่ได้ทำให้หญิงสาวทั้งสามรู้สึกตื่นเต้นเลยสักนิด ยิ่งอีกฝ่ายเรียกนางได้อย่างถูกต้อง นั่นแสดงว่าจิ้งจอกพิการทั้งสอง รนรานกลับไปหานายเก่าแล้ว และหากนางเดาไม่ผิดทั้งสองคนไร้ลมหายไปแล้วเช่นกัน “รวดเร็วทันใจดีแท้ หึ ๆ” หญิงสาวเอ่ยเบา ๆ กับสาวใช้ทั้งสอง ก่อนจะมองไปยังคนที่เผยตัวออกมาอย่างใจเย็น ทว่าเขายังคงปิดบังใบหน้าตนเองเอาไว้ “ไยต้องบิดบังใบหน้าด้วยเล่า ช่างไร้มารยาทในการพบเจอยิ่งนัก” “ไม่นึกเลยว่าเด็กขี้โรคเมื่อวันวาน จะกลายเป็นหญิงงามในวันนี้” “ขอบคุณที่ชม แต่ข้าก็ยังแปลกใจอยู่ดี ว่าเหตุใดกันเจ้าจึงมารอพบข้าที่นี่ อย่าบอกนะว่าเป็นเรื่องบังเอิญ มันย่อมไม่มีทางเป็นเช่นนั้นไปได้ เพราะความบังเอิญนี้มันเหมาะเจาะจนเกินไป” ฮั่วเหลียนชินกระชับอ้อมแขนรัดร่างอ้วนให้แน่นขึ้น นางสัมผัสได้ถึงไอสังหารที่อีกฝ่าย ตั้งใจปลดปล่อยออกมาเพื่อกดดันนาง อีกอย่างคือกำลังประเมินฝีมือของนางไปในตัว “จะกล่าวเช่นนั้นก็ย่อมได้ น่าเสียดา

  • รักเร่าร้อนของฮูหยินทั้งห้า   บทที่96 ชมดอกไม้

    สามวันถัดมา เฉินฮูหยินได้ให้สาวใช้มาแจ้งแก่ฮั่วเหลียนชิน ว่าจะพานางกับลูกไปไหว้พระ เพื่อขอพรให้กับครอบครัว หญิงสาวได้ตอบรับคำเชิญของแม่สามี หญิงสาวยกยิ้มร้าย เมื่อกล้าท้าทายนางก็พร้อมท้าชนเช่นกัน “บาดแผลของนายหญิง ยังไม่หายดีนะเจ้าคะ” “บาดแผลหนักกว่านี้พวกเราก็ผ่านกันมาแล้ว หากให้ผู้อื่นรู้ว่าข้าบาดเจ็บย่อมต้องเป็นสงสัยของทุกคน แค่เขารู้คนเดียวข้าก็หนักใจอยู่ไม่น้อย” ฮั่วเหลียนชินรู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ เพราะถึงแม้ตอนนี้นางไม่รู้ว่าจะวางใจเฉินห้าวหนานได้มากแค่ไหน แม้เขาจะพูดกับนางอย่างตรงไปตรงมา ถึงความรู้สึกที่มีต่อน้องสาวของนาง ‘แม้ข้ามิได้รักนาง แต่ข้าก็มิคิดที่จะให้นางกับลูกตาย ห้าวหยางคือลูกชายของข้า ไยข้าจะชิงชังเขาได้เล่า แต่ข้าไม่นึกว่าการเดินทางของนาง จะเป็นการจากไปมิหวนคืนเช่นนี้’ “จิ้งจอกถูกปล่อยแล้วใช่หรือไม่” “เจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านพี่ฉงอานกำลังจับตาดูอยู่เจ้าค่ะ” “ดี! มองอยู่เงียบ ๆ รอให้สาวถึงปลาตัวใหญ่ ค่อยลงมือในคราเดียว” “สาวใช้จากเรือนหลีหยา มาป้วนเปี้ยนบ่อยยิ่งนักเจ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status