Share

บทที่ 7

Penulis: เคธี่
มุมมองของเกเบรียล

ผมจ้องมองใบหน้าสวย ๆ ของคาริสซ่ามาพักหนึ่งแล้ว มีความคิดมากมายรบกวนจิตใจผม เพราะผมไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะยังบริสุทธิ์อยู่ ดูจากที่เราทั้งคู่ตื่นขึ้นมาแบบไม่ได้ใส่อะไรเลยในเช้าวันนั้น ถ้าเธอยังบริสุทธิ์ก็แปลว่าระหว่างเราไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าอย่างนั้นใครเป็นคนจัดฉากทั้งหมดนั้นล่ะ? ทำไมเช้าวันนั้นเราถึงตื่นขึ้นมานอนข้างกัน โดยที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าทั้งคู่?

ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาเพราะธุรกิจรัดตัวมาก ผมเลยไม่ได้กลับบ้านเลย ผมเพิ่งกลับมาจากการเดินทางไปทำธุรกิจที่ยุโรน่าตอนเช้าตรู่วันนี้เอง ผมรู้ว่าคาริสซ่าคงคิดว่าผมกำลังหลบหน้าเธอ คิดว่าผมโกรธเธอ เอาเถอะยังไงผมก็ไม่สนใจเธออยู่แล้ว เพราะผมทึกทักไปเองแล้วว่าเธอทำผิดต่อผมและอาร่า

เธอปฏิเสธมาหลายครั้ง ยืนกรานว่าเธอไม่ได้ทำและไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลย ตอนนี้เลยทำให้ผมรู้สึกผิด แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราเป็นฝีมือใครกัน?

ผมยกมือลูบหน้าอย่างไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะรู้สึกยังไง ผมยอมรับว่าผมเกลียดคาริสซ่าเข้ากระดูกเพราะเธอทำให้ความสัมพันธ์ของผมกับอาร่าพังทลายลง ผมคิดว่าเธอวางกับดักผม คิดว่าเธออยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด แต่คืนนี้ผมได้พิสูจน์แล้วว่าเธอไม่ได้ทำ เธอไร้เดียงสามากด้วยซ้ำ

ผมลูบใบหน้าของเธอเบา ๆ เธอไม่รู้สึกตัวสักนิด อาจเป็นเพราะสิ่งที่เราทำไปก่อนหน้านี้ทำให้เธอเหนื่อยเกินไป ตอนนี้เองที่ผมเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าเธอสวยแค่ไหน ใบหน้าของเธอดูอ่อนโยนมาก ผมเคยเจอเธอมาก่อนตอนที่ผมไปเยี่ยมอาร่า แต่เธอมักจะเอาแต่ก้มหน้าก้มตา ไม่เคยพูดกับผมด้วยซ้ำ ผมยังสังเกตเห็นว่าเธอกับอาร่าไม่สนิทกัน อาร่าไม่เคยพูดถึงคาริสซ่าเลยตอนเราอยู่ด้วยกัน ตอนนั้นผมยังรู้สึกว่าอาร่ามักจะมองน้องสาวในแง่ร้ายตลอดแต่ผมไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้น มีแค่อาร่าเท่านั้นที่สำคัญที่สุดสำหรับผม ผมไม่สนใจคนรอบตัวเธอเลย

ผมคงต้องให้คนมาสืบเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราในวันนั้นแล้ว ในที่สุดผมก็ลุกขึ้นจากเตียง เอาผ้าห่มคลุมตัวเธอ ผมรู้ว่าเธอจะหนาวแน่เพราะไม่ได้สวมเสื้อผ้าเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เธอกำลังหลับสนิทเพราะงั้นถึงผมจะอยากแต่งตัวให้เธอ ก็กลัวว่าจะทำเธอตื่น

ผมสวมเสื้อผ้าของตัวเองและเดินกลับไปหาเธอที่เตียง ผมจูบหน้าผากเธอเบา ๆ ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไง มันเหมือนกับว่าจู่ ๆ คาริสซ่าได้ยึดเอาพื้นที่ส่วนใหญ่ของหัวใจผมไปแล้ว ถ้าได้นอนข้างเธอและหลับต่อยันเช้าได้ก็คงดี แต่ผมทำอย่างที่ว่าไม่ได้ ผมมีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ แถมพรุ่งนี้ยังต้องไปที่ออฟฟิศแต่เช้าอีก ผมไม่อยากรบกวนการนอนหลับของเธอ เพราะผมอาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้และเข้าหาเธออีกครั้ง ตอนนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราก่อนหน้านี้ทำเอาผมยิ้มออกมา ผมไม่อยากเข้าหาเธออีกครั้งในตอนนี้เพราะรู้ว่าเธอเหนื่อยเกินไป อีกอย่างนี่ก็เป็นครั้งแรกของเธอด้วย พรุ่งนี้ร่างกายของเธอคงระบมไปหมดแน่

เพราะเธอ ผมถึงได้สัมผัสกับความสุขสมของเซ็กส์เป็นครั้งแรก ไม่มีตอนไหนเลยที่ผมไม่มีความสุขและผมรู้ว่าร่างกายของผมจะโหยหาสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราเมื่อคืนแน่ ๆ ผมไม่รู้ว่าทำไมพอเป็นเธอแล้วผมถึงได้พอใจในเรื่องเซ็กส์นัก การที่เธอยังบริสุทธิ์อยู่อาจจะเป็นตัวเพิ่มคะแนนก็ได้ ผมเคยอยู่กับผู้หญิงมานับไม่ถ้วน ผมอยู่ได้นานเฉพาะตอนอยู่กับอาร่า อาร่าช่างออดอ้อนและเก่งเรื่องบนเตียงมาก ผมรู้ว่าผมไม่ใช่คนแรกของเธอ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะผมรู้ว่าสมัยนี้จะหาผู้หญิงที่ยังบริสุทธิ์อยู่มันไม่ง่าย ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมครอบครัวของอาร่าถึงเร่งรัดให้คาริสซ่ากับผมแต่งงานกัน ทีผมกับอาร่ามีอะไรกันมาตั้งหลายครั้ง พวกเขาไม่เห็นจะเรียกร้องให้เรารีบแต่งงานกันเลย นั่นแหละที่ผมคิดว่าวันนั้นมีบางอย่างผิดปกติ

สมัยนี้ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่สนใจเรื่องความบริสุทธิ์กันเท่าไหร่แล้ว เพราะแบบนั้นเมื่อคืนนี้ผมถึงตกใจตอนที่ผมสอดใส่เข้าไปในตัวคาริสซ่าแล้วพบว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่ คาริสซ่าเป็นผู้หญิงที่ดี เพราะงั้นผมควรจะชดเชยให้เธอ

ในที่สุดผมก็ออกจากห้องของเธอมา แล้วกลับไปที่ห้องของตัวเอง ก่อนมองหาโทรศัพท์มือถือ ผมโทรหามาร์คคู วิลสันทันที เขาเป็นหนึ่งในเพื่อนที่รู้จักนักสืบหลายคน ใช่แล้ว ผมจะให้คนสืบเรื่องครอบครัวของคาริสซ่า ผมคบกับอาร่ามานานแล้วก็จริง แต่ผมไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นในครอบครัวของเธอ ผมรู้ว่าเหตุผลของผมมันฟังไม่ขึ้น แต่ผมอยากรู้ทุกอย่าง อยากรู้ว่าอาร่าและคาริสซ่าอยู่ในครอบครัวแบบไหน

“ฮัลโหล เกเบรียลเหรอ?!” ผมได้ยินเสียงมาร์คคูตอบ น้ำเสียงของเขาบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าผมไปรบกวนกิจกรรมที่เขากำลังทำอยู่

“ฉันโทรหานายก็เพราะมีบางเรื่องที่ฉันอยากให้สืบหน่อย” ผมพูดตรง ๆ อย่างไม่อ้อมค้อม ผมรู้ว่าเพื่อน ๆ ชินกับนิสัยของผมแล้ว

“ไม่เอาน่า เพื่อน นี่มันดึกแล้วนะ รอจนถึงพรุ่งนี้ไม่ได้รึไง?” มาร์คคูพูดจากปลายสาย น้ำเสียงรำคาญอย่างชัดเจน

“ไม่… ฉันไม่อยากเสียเวลา ทำไมต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้ในเมื่อเราเริ่มได้เดี๋ยวเลย?” ผมตอบอย่างหนักแน่น

“ให้ตายสิ... แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ? นายอยากให้สืบเรื่องของใคร?” มาร์คคูตอบอย่างหงุดหงิด

“ครอบครัวสมิธ” ผมตอบสั้น ๆ

“ใครนะ? หมายถึงครอบครัวของอาร่า แฟนเก่าของนายงั้นเหรอ? ทำไม... คืองี้นะ นายจำเป็นต้องทำแบบนี้จริง ๆ เหรอ? นี่นายรับความจริงไม่ได้ว่าต้องเลิกกับเธอ เพราะนายแต่งงานกับน้องสาวเธอใช่ไหม?” มาร์คคูถามอย่างสับสน

“คืนนั้นระหว่างคาริสซ่ากับฉันไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกอย่างนายก็รู้นี่ว่าฉันเกลียดการถูกหลอก” ผมตอบ

“อะไรวะ?... นายพูดมาได้ยังไงว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น? ที่นายต้องแต่งงานกะทันหันก็เพราะเรื่องนั้นไม่ใช่รึไง? เพราะนายล่วงเกินคาริสซ่าถึงได้ต้องรีบแต่งงานกับเธอไงเพื่อน” มาร์คคูตอบ

“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน... จนกระทั่ง...”

“จนกระทั่งอะไร?” มาร์คคูตอบอีกครั้ง

“คาริสซ่ากับฉันมีอะไรกัน” ผมบอกมาร์คคูสั้น ๆ

“แล้วมันผิดปกติตรงไหน?! มันจะแปลกตรงไหนในเมื่อพวกนายสองคนแต่งงานกันแล้ว อย่าบอกนะว่านั่นเป็นครั้งแรกที่นายมีอะไรกันหลังจากแต่งงาน” มาร์คคูตอบพร้อมหัวเราะ

“นั่นแหละประเด็น ที่ฉันสับสนก็เพราะเธอยังบริสุทธิ์อยู่ไงเพื่อน ถ้าคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา เธอไม่ควรจะบริสุทธิ์แล้วว่าไหม?” ผมตอบ

“เฮ้ย?... แต่เดี๋ยวนะ... โหเพื่อน... นายนี่สุดยอดจริง ๆ... นายโคตรโชคดีเลย! แต่เดี๋ยวนะ... เป็นไปได้ยังไง? นายเคยบอกว่าคืนนั้นพวกนายมีอะไรกันไม่ใช่หรือไง?” มาร์คคูตอบ

“ฉันถึงอยากให้สืบเรื่องนี้ไง ฉันไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมคาริสซ่าถึงเอาแต่ปฏิเสธอยู่ตลอด เพราะระหว่างเรามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ เหมือนกับว่าเราทั้งคู่ถูกถอดเสื้อผ้าและพามานอนข้างกันเท่านั้น” ผมตอบไป

“ถ้าเป็นอย่างนั้นคาริสซ่าก็น่าสงสารน่ะสิเพื่อน คิดดูนะนายด่าเธอตั้งขนาดนั้น ทั้งที่เธอก็เป็นเหยื่อในเรื่องนี้ด้วย” มาร์คคูพูด

“ฉันก็เลยอยากรู้ความจริงไง... ฉันอยากรู้ที่มาที่ไปของเรื่องที่ฉันกำลังจะสั่งให้นายสืบ” ผมบอกมาร์คคู

“จำเป็นต้องสืบด้วยเหรอ? ฉันว่าแค่เราถาม โจนาธาน ดีแอซน่าจะเร็วกว่านะ ฉันมั่นใจว่าเขารู้เรื่องราวในชีวิตของคาริสซ่าและครอบครัวของเธอเยอะเลยล่ะ” มาร์คคูตอบ

คิ้วผมขมวดมุ่นเพราะคำพูดของมาร์คคู ผมไม่เข้าใจว่าเขากำลังหมายความว่ายังไง โจนาธานมาเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องที่เรากำลังคุยกันอยู่

“นายหมายความว่ายังไง? โจนาธานเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้?” ผมถาม

“โธ่เอ๊ย... นี่นาย... ไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าคาริสซ่ากับร็อกซี่ น้องสาวของโจนาธานเป็นเพื่อนกัน? ฉันมั่นใจว่าเธอรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตของคาริสซ่าเยอะเลยล่ะ ข้อมูลที่นายจะได้ก็ฟรีแถมยังจะได้รู้ความจริงภายในวันเดียวด้วย” มาร์คคูตอบยืดยาว

“นายรู้ได้ยังไง?” ผมถาม ผมไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนแต่ก็อย่างว่าผมไม่สนใจเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว สมองผมโฟกัสแต่เรื่องธุรกิจเพียงอย่างเดียว และผมไม่เหลือเวลาให้เรื่องอื่น

“ก็ต้องรู้สิ ตอนที่เราไปรวมตัวกันที่นั่น ฉันเห็นคาริสซ่าที่บ้านของพวกเขาตลอดเลย ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นเพื่อนสนิทกันและเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน เราชวนนายไปดื่มที่บ้านโจนาธานตั้งหลายครั้ง แต่นายก็เอาแต่ปฏิเสธทุกที นายถึงได้ตกข่าวแบบนี้ไง” มาร์คคูร่ายยาวเหยียด

ผมไม่มีอะไรจะตอบเขากลับ

“ฉันชอบคาริสซ่านะแต่เธอเข้าหายากมาก เธอไม่อยากสุงสิงกับเรา แถมน้องสาวของโจนาธานก็หยิ่งมากซะด้วย” มาร์คคูพูดพร้อมหัวเราะ

ผมถอนหายใจกับสิ่งที่มาร์คคูพูด ผมไม่รู้เรื่องพวกนี้เลยจริง ๆ บางทีพรุ่งนี้เช้าผมอาจจะโทรหาโจนาธาน เพราะตอนนี้ดึกเกินไปและผมก็รู้ว่าเขาคงหลับไปแล้ว

ผมวางสายจากมาร์คคูทันทีหลังจากบอกให้เขาทำสิ่งที่ผมขอ เอาให้ชัวร์เลยดีกว่า

วันรุ่งขึ้นผมตื่นแต่เช้า ผมต้องรีบออกเพราะผมมีการประชุมตอนเจ็ดโมงเช้า ถึงจะยังสองจิตสองใจ แต่ผมก็ยังแวะไปที่ห้องของคาริสซ่า ผมอยากเห็นเธอก่อนออกจากบ้าน ลึก ๆ ในใจแล้วผมอยากให้เธออยู่ในสายตาผมตลอดทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าทำไม

ผมค่อย ๆ เปิดประตูห้องของเธอ การได้เห็นว่าเธอยังหลับอยู่ทำให้ผมยิ้มออก ผมไม่เข้าไปในห้องและปิดประตูลง เพราะถ้าผมเข้าไปอาจจะทำให้เธอตื่น

พอผมลงไปข้างล่างก็บังเอิญเจอมาร์ธา เดวิส หนึ่งในสาวใช้ของเรา เธอทักทายผม ซึ่งผมก็ได้แต่พยักหน้ากลับไปเท่านั้น

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณเกเบรียล... อาหารเช้าของคุณเตรียมพร้อมไว้ในห้องอาหารแล้วค่ะ” เธอกล่าวอย่างสุภาพ

“ฉันไม่กินแล้ว มาร์ธา วันนี้ฉันรีบ” ผมตอบและเดินตรงออกจากคฤหาสน์ไป ผมเข้าไปในรถที่มารอพร้อมแล้ว ก่อนจะขับออกไป

พอมาถึงสำนักงาน แอรอน เมนโดซ่าเลขาของผมก็เข้ามาทักทายผมทันที ผมเลือกเลขานุการชายเพราะผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอย่างการถูกเลขานุการหญิงอ่อยใส่ เลขาผู้หญิงของผมต้องเปลี่ยนไปหลายคนแล้ว เพราะผมไม่อยากให้เรื่องเล่นสนุกกับธุรกิจมาปะปนกัน จึงคอยหลีกเลี่ยงการมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพนักงานของตัวเอง

แต่กับเลขาผู้ชายแล้ว ผมไม่เคยเจอปัญหาอะไรเลย เขาเป็นคนขยันและน่าเชื่อถือ เป็นลูกชายของอดีตพนักงานที่ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย

ถึงคาริสซ่าจะเข้ามาในความคิดของผมอยู่ตลอดเวลา แต่ผมก็ยังพยายามโฟกัสไปที่งานของตัวเอง ผมไม่สามารถลืมสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราได้ ไม่สามารถลบใบหน้าสวย ๆ ของเธอออกจากหัวของผมได้ ผมโหยหาร่างกายของเธอ ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าผมแค่รู้สึกผิดหรือมีอะไรมากไปกว่านั้น

ผมต้องการได้ยินเสียงเธอ แต่ผมรู้ว่าผมไม่มีเบอร์มือถือเธอ ตอนนี้เธอจะเป็นยังไงบ้าง? ได้กินข้าวหรือยัง? เธอกำลังทำอะไรอยู่? คิดถึงผมบ้างไหม? โอย มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่?

สุดท้ายผมก็ทนไม่ไหวเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กะจะโทรเข้าโทรศัพท์บ้าน ซึ่งผมแน่ใจว่าจะมีคนรับแน่ เพราะมีแม่บ้านอยู่ทั่วคฤหาสน์เนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาทำความสะอาด

ผมกดโทรออกทันที ก่อนที่เสียงสัญญาณจะดังถึงห้าครั้งก็มีคนรับสายพอดี ผมถามถึงคาริสซ่าทันที

“คุณเกเบรียลคะ คุณคาริสซ่ายังไม่ออกจากห้องเลยค่ะ” คำตอบที่สุภาพตอบกลับมา

เรียวคิ้วผมขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินคำตอบนั้น ผมรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที นี่มันสิบโมงเช้าแล้วนะ เธอยังหลับอยู่เหรอ? ปกติเธอตื่นกี่โมง? ผมไม่สนใจเธอมาก่อนก็เลยไม่รู้เรื่องนี้ แถมตั้งแต่หลังแต่งงานผมก็ไม่ได้อยู่ในบ้านเดียวกันกับเธอด้วย นอกจากเมื่อคืนที่มีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเรา ผมก็ไม่ได้แวะมาที่คฤหาสน์เลย

“ปกติเธอตื่นกี่โมง?” ผมถาม

“ปกติเธอจะตื่นเช้าค่ะ คุณเกเบรียล แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไมวันนี้เธอถึงยังไม่ลงมา” ปลายสายตอบกลับมา

“เธอบอกมาร์ธาให้ไปดูคาริสซ่าที่ห้องหน่อยได้ไหม?” ผมสั่ง รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที

“ได้ค่ะ คุณเกเบรียล ฉันจะบอกเธอให้ค่ะ” ปลายสายรับคำ

“บอกมาร์ธาว่าพอไปดูคาริสซ่าแล้วให้โทรหาฉัน เข้าใจไหม?” ผมสั่ง

“จะดำเนินการให้ค่ะ คุณเกเบรียล” อีกฝ่ายรับคำ ผมกดปุ่มวางสายบนโทรศัพท์มือถือทันที ก่อนขมวดคิ้วเหม่อมองไปยังความว่างเปล่า ไม่ถึงสามสิบนาทีต่อมา โทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น พอเห็นว่าเป็นเบอร์ของคฤหาสน์ ผมจึงรับสายทันทีและเสียงของมาร์ธาดังมาจากทางปลายสาย ผมถามเธอถึงคาริสซ่าทันที

“ขออภัยค่ะคุณเกเบรียล ที่เพิ่งโทรกลับได้เอาป่านนี้ ฉันต้องดูแลคุณคาริสซ่าก่อนเพราะเธอมีไข้สูงมากค่ะ” มาร์ธาพูดทันที

ผมไม่ได้ตอบรับคำพูดของมาร์ธา มีความกังวลอย่างหนักผุดขึ้นมาทันที

“แต่คุณเกเบรียลคะ เราให้เธอทานข้าวและทานยาแล้วค่ะ เราจะเฝ้าดูอาการเธอ บางทีไม่นานไข้อาจจะลดลง” มาร์ธาเสริม

“ไม่ได้ เดี๋ยวผมจะให้จีนี่ เมดิสันไปตรวจดูอาการของคาริสซ่าที่บ้าน” ผมตอบ จีนี่เป็นลูกพี่ลูกน้องของผม อายุเท่ากันกับผมและเป็นหมอด้วย เธอเป็นลูกสาวของเดลฟิน เมดิสันซึ่งเป็นน้องชายของพ่อ ผมรู้ว่าเธอจะตรวจอาการให้คาริสซ่าได้อย่างครอบคลุม

“ค่ะ คุณเกเบรียล ให้หมอตรวจคุณผู้หญิงจะดีกว่า” มาร์ธาเห็นด้วย

“รออยู่ที่บ้าน และดูแลคาริสซ่าด้วย เดี๋ยวฉันกลับไป” ผมบอกมาร์ธา

หลังจากคุยกับมาร์ธา ผมก็โทรหาจีนี่ให้ไปที่คฤหาสน์ทันที โชคดีที่เธอรับปาก บางทีเธออาจจะพอมีเวลาเพราะเห็นเธอบอกว่าเพิ่งออกจากบ้านและจะไปที่คฤหาสน์เลย

หลังวางสาย ผมก็โทรหาเลขาทันที

“ยกเลิกตารางงานวันนี้ของฉันทั้งหมดเลยนะ แอรอน” ผมบอกเขาทันที

ใบหน้าเขาดูสับสนอย่างเห็นได้ชัด อาจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมยกเลิกตารางงาน เขาเองก็รู้ว่าพอเป็นเรื่องงานแล้วผมจะไม่มีถอยเด็ดขาด

“แต่ท่านครับ... ท่านมีนัดรับประทานอาหารกลางวันกับคุณชัวว์ เขารอพบท่านมานานแล้วนะครับ ก่อนหน้านี้เลขาของเขาก็โทรหาผมเพื่อย้ำเรื่องนัดครั้งนี้ด้วย” เลขาของผมพูด

ผมถอนหายใจก่อนจ้องแอรอน

“บอกเขาว่าผมมีเรื่องฉุกเฉิน แค่หาข้ออ้างอะไรก็ได้” ผมบอกเขาขณะลุกขึ้นยืนและเดินตรงออกจากสำนักงาน ผมก้าวขึ้นรถและขับกลับไปยังคฤหาสน์ด้วยความเร็วเต็มพิกัด

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รักแท้ของเศรษฐีพันล้าน   บทที่ 30

    “คุณคาริสซ่าเหรอครับ? เธอยังไม่กลับเลยครับ นายหญิงมอยร่าเป็นห่วงมาก ท่านรอคุณคาริสซ่าตลอดทั้งเย็นเลยครับ” การ์ดหน้าประตูตอบ“หมายความว่าไง เธอยังไม่กลับเหรอ? เธอออกไปตอนไหน?” ผมถามด้วยความรู้สึกตึงเครียด“ผมไม่แน่ใจครับคุณเกเบรียล การ์ดช่วงกะเช้าก็ไม่เห็นคุณคาริสซ่าออกไป แต่พวกเราตรวจสอบภาพบันทึกกล้องวงจรปิดแล้วครับ กล้องหน้าประตูจับภาพไว้ตอนที่คุณคาริสซ่าออกไปตอนบ่ายสองครับ”"เข้าใจแล้ว ขอบใจมาก” ผมตอบสั้น ๆ แล้วเดินออกมาผมเดินตรงไปที่บาร์ส่วนตัวของคฤหาสน์แล้วเทเครื่องดื่มแรง ๆ ผมเป็นห่วงคาริสซ่า นี่มันดึกแล้วแต่เธอยังไม่กลับมาเลย ผมก็เลยตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาเธอไม่มีแม้แต่เสียงสัญญาณรอสายด้วยซ้ำ มีแต่เสียงข้อความอัตโนมัติดังขึ้นเลยในทันที“โธ่เอ๊ย… คาริสซ่า เธอไปอยู่ที่ไหนกันแน่?” ผมพึมพำท่ามกลางความเงียบ ความกังวลตอนนี้กลายเป็นความหวาดกลัวอันเย็นเยียบในใจของผมผมเลื่อนดูรายชื่อในโทรศัพท์มือถือแล้วโทรหาอารอนผู้ช่วยมือขวาของผม เสียงรอสายดังขึ้นสามครั้งก่อนที่เขาจะรับ และเสียงของเขาก็เต็มไปด้วยความงัวเงีย"ครับ คุณเกเบรียล มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ?” เขาพูดอย่างสุภา

  • รักแท้ของเศรษฐีพันล้าน   บทที่ 29

    มุมมองของเกเบรียลผมอยู่ที่บาร์ยอดนิยมแห่งหนึ่งที่เป็นของไคล์ เฮอร์นันเดซ เขาเป็นเพื่อนของผมและเป็นนายแบบชื่อดังด้วยตอนนี้ผมอยู่กับพวกแอนดี้ โลเปซ, ไคซ์ คิงและโจนาธาน ทุกคนร่ำรวยพอ ๆ กัน มีแค่มาร์คที่ไม่ได้มาเพราะเขาบอกว่ายุ่งมากผมดื่มเครื่องดื่มของตัวเองจนหมด ระหว่างนั้นเพื่อน ๆ ก็เล่นหยอกล้อกัน หัวเราะเหมือนเด็ก ๆ และคุยกันเรื่องไร้สาระสารพัดผมแทบไม่ได้ร่วมวงด้วยเลยเพราะอารมณ์ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ความคิดของผมวนเวียนอยู่แต่กับเรื่องของคาริสซ่าตลอดเวลา ผมไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ตอนนี้ผมควรดีใจจนลิงโลดแล้วสิ แผนของผมมันได้ผลแล้วแท้ ๆอาร่ากลับมาแล้ว อนาคตที่เราฝันไว้ร่วมกันก็อยู่แค่เอื้อม แล้วทำไมผมถึงรู้สึกว่างเปล่าแบบนี้? ทำไมเรื่องของคาริสซ่าถึงทิ่มแทงผมขนาดนี้? ผมต้องยอมรับว่า…ผมเคยมีความสุขที่ได้อยู่กับเธอจริง ๆแล้วทำไมถึงรู้สึกเหมือนว่าผมเป็นคนที่ทำผิดเสียเอง? ทุกความทรงจำที่เห็นรอยน้ำตาของเธอมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดอยู่ในอก สัญชาตญาณแรกของผมคืออยากดึงเธอเข้ามากอดแต่ผมกลับไม่ได้ทำแบบนั้นผมต้องทำให้เธอเชื่อว่าผมไม่สนใจเธอ ว่าเมื่อปีก่อนผมเป็นฝ่ายที่ถูกทำร้าย ผมต้องพิสูจน์ว

  • รักแท้ของเศรษฐีพันล้าน   บทที่ 28

    “คุณหมอแอสเตอร์ ผมมีเรื่องอยากขอร้องครับ” โรนัลด์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณช่วยเก็บข้อมูลการรักษาของคาริสซ่าไว้เป็นความลับได้ไหมครับ? รบกวนช่วยอย่าบันทึกการรับรักษาของเธอในแบบที่คนภายนอกสามารถเข้าถึงได้ หรือแม้แต่ในระบบภายในก็ด้วย ช่วยอย่าใส่ชื่อของเธอลงในฐานข้อมูลได้ไหมครับ?”“คุณโรนัลด์ นั่นอาจจะเกินไปนะครับ แถมยังเป็นการละเมิดกฎระเบียบของโรงพยาบาลด้วย” หมอแอสเตอร์ตอบ เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกสิ้นหวังที่พลันก่อตัวขึ้นในสายตาของโรนัลด์ ท่าทีของเขาจึงนุ่มนวลขึ้น “แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ ผมจะดูให้ว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้างแล้วกันครับ เดี๋ยวผมจะไปเสนอพูดคุยกับฝ่ายบริหารเองครับ”"ขอบคุณครับ คุณหมอแอสเตอร์ ถ้างั้นผมขอฝากความหวังไว้กับคุณหมอด้วยนะครับ ช่วยยื้อเวลาชีวิตเธอให้นานขึ้นทีเถอะนะครับ"“นั่นเป็นเรื่องที่ผมต้องทำอยู่แล้วครับ คุณโรนัลด์ ด้วยแรงศรัทธาต่อพระเจ้า ทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้นะครับ” คุณหมอแอสเตอร์ตอบเช่นนั้นเวลาหนึ่งทุ่ม คาริสซ่าถูกย้ายไปยังห้องส่วนตัว เธอยังคงหมดสติ สายให้น้ำเกลือและสายเครื่องแสดงผลพันร่างเล็กจนยุ่งเหยิง หน้ากากออกซิเจนครอบปากและจมูกของเธอ เสียงฟ่อเป็นจังห

  • รักแท้ของเศรษฐีพันล้าน   บทที่ 27

    ร็อกซี่พุ่งพรวดผ่านประตูอัตโนมัติของโรงพยาบาลเข้ามาด้วยสภาพหายใจหอบ เธอไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเห็นโรนัลด์อยู่ตรงพื้นที่รอสำหรับผู้มาเยี่ยม เธอก็เดินเข้าไปหาเขาด้วยท่าทีตระหนกกังวล"โรนัลด์" เธอเอ่ยเรียกแล้ววิ่งเข้าไปหาเขา "เกิดอะไรขึ้น? ใครเป็นอะไร?""คาริสซ่าน่ะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงต่ำและตึงเครียด “เธอเป็นลมไป ตอนที่อยู่สวนสาธารณะ เธอโทรมาหาฉัน ร้องไห้สะอึกสะอื้น… แทบจะพูดไม่เป็นคำ พอฉันไปถึง เธอก็เป็นลมล้มใส่ฉันแล้ว”ดวงตาของร็อกซี่พร่ามัวด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอ ความหวาดกลัวเย็นเยียบแล่นลงสู่ท้องน้อย เธอรู้ว่าคาริสซ่าใจสลาย แต่ถึงขั้นเป็นล้มพับไปแบบนี้เลยหรือ? คนคนหนึ่งจะทนไหวได้มากแค่ไหนกันเชียว“ฉันก็เลยขับรถพาคาริสซ่าตรงมาที่นี่” โรนัลด์พูดด้วยน้ำเสียงตึงเครียดเจือความกังวลที่มิอาจควบคุมได้ เขาเดินไปมาอย่างกระสับกระส่าย “หมอยังตรวจหล่อนอยู่เลย พระเจ้า ร็อกซ์ เธอต้องเห็นคาริสซ่า… หล่อนตัวซีดอย่างกับศพเลย”"อะไรนะ?" ร็อกซี่พรวดออกมาเบา ๆ เธอรู้สึกสับสนไปหมด “แต่คาริสซ่าไม่เคยมีปัญหาสุขภาพเลยนะ ต้องเป็นเพราะตกใจกับเรื่องที่เห็นเมื่อวานจนรับไม่ไหวแน่”“ฉันเองก็ไม่รู้” โรนัลด์

  • รักแท้ของเศรษฐีพันล้าน   บทที่ 26

    ปลายนิ้วของคาริสซ่าจับปากกา มือของเธอสั่นเทา เธอเขียนชื่อตัวเองลงตรงบรรทัดนั้นแต่ตัวอักษรกลับเลือนรางด้วยน้ำตาที่เปื้อนบนกระดาษเกเบรียลรวบรวมเอกสารขึ้นมาใส่กลับเข้าไปในซองโดยไม่พูดอะไรเลย เขาหันหลังเดินออกไปแต่ดวงตาของเขาและเธอกลับสบกันเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะเขาจะเดินออกไปจริง ๆความเงียบหลังจากที่เขาออกไป ช่างชวนอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก คาริสซ่านั่งอยู่บนขอบเตียง ในห้องกว้างนั้นมีเพียงเสียงของเธอที่กำลังสะอื้นไห้และหายใจอย่างกระเสือกกระสน ราวกับบรรยากาศภายในห้องถูกแทนที่ด้วยความโศกเศร้ามหาศาลในที่สุด สัญชาตญาณอันเยือกเย็นก็ผลักให้เธอลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ผู้หญิงในกระจกช่างดูแปลกหน้า ดวงตาของเธอแดงก่ำ ใบหน้าซีดและเป็นปื้นแดง หญิงสาวยกมือขึ้นปาดน้ำตา ฝืนหายใจด้วยร่างกายที่สั่นเทาหลังจากตั้งสติได้ เธอก็คว้ากระเป๋าสะพายใบโปรดแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างเหม่อลอยเธอเคลื่อนตัวไปตามโถงกว้างใหญ่ของคฤหาสน์โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเธอเลย บรรดาคนรับใช้กำลังยุ่งง่วนกันอยู่ พวกการ์ดก็คอยสอดส่องดูแลบริเวณนอกคฤหาสน์ ไม่ใช่ภายในคฤหาสน์ที่กำลังพังทลายลง เธอไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน รู้เพียงว่าเธ

  • รักแท้ของเศรษฐีพันล้าน   บทที่ 25

    มุมมองของคาริสซ่า เสียงเคาะเบา ๆ ปลุกฉันจากการหลับ ฉันฝืนลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปเปิดประตู ก่อนจะเห็นลิซ่า หนึ่งในแม่บ้านยืนอยู่ที่โถงทางเดิน“สายัณห์สวัสดิ์ค่ะคุณคาริสซ่า คุณผู้หญิงมอยร่าให้มาแจ้งว่าว่าอาหารค่ำพร้อมแล้วค่ะ” เธอกล่าว สายตาเธอจ้องมองใบหน้าฉันเนิ่นนาน และฉันก็รู้ว่าเธอเห็นอะไร ดวงตาที่บวมเป่ง ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงไงล่ะ“ช่วยบอกท่านว่าฉันยังไม่หิวได้ไหมคะ? ฉันเพิ่งทานอาหารที่ห้างกับร็อกซี่มาเอง” ฉันขอร้องเธอ คำพูดติดอยู่ในลำคอ น้ำเสียงฟังดูเศร้าอย่างเห็นได้ชัด“ได้ค่ะ” เธอตอบอย่างอ่อนโยน แล้วหันหลังเดินจากไปฉันกลับไปที่เตียง ความเงียบของห้องกดดันฉัน จิตใจของฉันกลวงโบ๋ ฉันจำเป็นต้องเจอเกเบรียล เราต้องคุยกัน……แสงยามเช้าสาดส่องผ่านผ้าม่าน ในขณะที่อีกด้านหนึ่งของเตียงถูกปล่อยทิ้งไว้ ความว่างเปล่านั้นทำให้เจ็บปวดทั้งกายใจความริษยาเต้นเร่าอยู่ในท้องฉัน ในใจเกิดภาพที่ชัดเจนขึ้นภาพหนึ่ง คือภาพที่เกเบรียลอยู่กับอาร่าเป็นเพราะวันนั้นมอยร่ากับราล์ฟออกไปข้างนอกกัน จึงไม่มีใครสังเกตเห็นความทุกข์ของฉัน คนงานเดินไปเดินมาในบ้านโดยไม่ได้รับรู้อะไร เว้นแต่ลิซ่าที่ตอบรับคำขอของฉันอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status