LOGIN"พรีมมีธุระ" ธุระของฉันก็คือจะไปหาของขวัญให้เขายังไงละ
"เป็นเด็กเป็นเล็กมีธุระ?" เอ้า! แต่เดี๋ยวนะ! "พรีมไม่เด็กแล้วนะคะ" "ตรงไหน?" สายตาคมไล่มองฉันราวกับจะหาคำตอบให้กับคำถามของเขา แถมสายตานั้นทั้งกรุ่มกริ่มและดูเจ้าชู้มาก อย่างนี้สินะ เวลาเดินไปไหนถึงมีแต่สาวๆ พูดถึงชื่อเขาให้ได้ยินเต็มไปหมด หรือที่จริงแล้ว คำใบ้รูปเสือจะเป็นเขาคนนี้! "อย่ามาชอบเด็กแบบพรีมแล้วกัน" โอ้ย! ตายแล้ว! ยัยพรีมอยากจะตีปากตัวเองจริงเลยเชียว ทำไมเผลอพูดอะไรแบบนั้นออกไปได้นะ "..." ฉันยืนอ้าปากค้างดวงตาเบิกกว้างอึ้งกับคำพูดของตัวเองอยู่เกือบนาทีกว่าสติจะกลับมาก็ตอนที่เขายื่นมือใหญ่มาปิดปากของฉันเอาไว้ คงกลัวว่าจะมีแมลงบินเข้าไปละมั้ง ไม่ได้การละ! ขืนอยู่ตรงนี้ต่อไปฉันได้ทำอะไรตลกๆ ออกมาอีกแน่ รีบเดินจ่ำให้เร็วที่สุดโดยไม่เหลียวหลังกลับมามองคนตัวโตให้รู้สึกอายมากกว่าเดิม เดินตรงไปที่ประตูรั้วมหาวิทยาลัยเพื่อจะไปรอเรียกรถตรงไปห้างสรรพสินค้าไม่ไกลจากคอนโดทำภาระกิจสุดท้ายของวันนี้ "ว่าแต่จะซื้ออะไรดีละ" "นาฬิกาดีมั้ยนะ" ปากสีชมพูพูดงึมงำกับตัวเอง ใจก็นึกเสียดายที่เพื่อนรักหนีกลับไปก่อนเลยไม่มีเพื่อนมาช่วยเลือก แต่ด้วยเวลาอันจำกัดและไม่อยากเป็นคนเดียวในรุ่นที่โดนทำโทษเพราะหาสายรหัสของตัวเองไม่เจอ เพราะงั้นสองขาเล็กจึงมุ่งตรงไปร้านนาฬิกาแบรนด์ดังทันที "สวัสดีค่ะ มีรุ่นของผู้ชายแนะนำมั้ยคะ" "มีค่ะ มีรุ่นเดียวกับที่ข้อมือของคุณลูกค้าด้วยนะคะ" "ขอพรีมดูหน่อยได้มั้ยคะ" "สักครู่นะคะ" และพี่พนักงานประจำสาขาก็หยิบนาฬิกาสำหรับผู้ชายมาให้ฉันเลือกสามเรือน หนึ่งในนั้นก็คือรุ่นเดียวกับฉันแต่เป็นสีดำตัวเรือนใหญ่ดูเท่เหมาะสำหรับผู้ชายอย่างเขามากๆ ถ้าเกิดซื้อเรือนนี้ไปก็แอบเหมือนนาฬิกาคู่อยู่นะ เอาเรือนนี้ซะเลยดีมั้ย เขาไม่มีทางรู้หรอก "รับเรือนนี้ค่ะ แสกนจ่าย" ฉันบอกพี่พนักงานอย่างไม่ลังเลแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าราคาจะสูงนิดหน่อย แต่ฉันก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้างและถือเป็นของขวัญชิ้นแรกที่ฉันได้ให้แบบจริงๆ จังๆ ในฐานะสายรหัสและการกลับมาเจอกัน เพราะงั้นเดือนนี้ฉันจะยอมอดน้ำหวานและขนมเพื่อชดเชยเงินเก็บที่ถูกนำออกมาใช้ในวันนี้ ของขวัญชิ้นใหญ่ขนาดนี้ ถ้าไม่บอกละน่าดู! ... "ใยไหม ทางนี้" ฉันโบกไม้โบกมือเรียกเพื่อนที่มัวแต่เดินกดมือถือ ฉันละกลัวว่านางจะเดินสะดุดจนหกล้มจริงเชียว "หาอะไรกินทันมั้ยอะแก ฉันหิวมากเลย" "มีเวลาอีกสี่สิบนาที งั้นรีบไปกัน" ฉันกับเพื่อนพากันเดินไปโรงอาหารเพื่อหามื้อเช้าง่ายๆ รองท้อง แอบคิดถึงข้าวเหนียวหมูปิ้งหน้าหมู่บ้านอยู่เหมือนกันนะ จะได้ไม่ต้องมาต่อแถวและแย่งโต๊ะกับคนอื่นเหมือนอย่างตอนนี้ "แก ตรงนั้นว่าง ไปกัน" ใยไหมชี้ไปทางโต็ะในสุด เป็นโต๊ะเดิมที่ฉันกับใยไหมได้นั่งเมื่อวานเลย เขาจะมานั่งด้วยอีกมั้ยนะ ดีเหมือนกันถ้าเกิดบังเอิญเจอกันอีก ฉันจะได้เอาของขวัญที่เตรียมมาให้แลกกับคำตอบที่ฉันตั้งตารอมาตลอดหลายชั่วโมง "สรุปเสือคือพี่ภัทรหรอ" "อืม ดุสมคำใบ้มาก" งั้นพี่รหัสของฉันก็เป็นเขาจริงๆ สินะ "แล้วแกรู้ยัง" "ยังเลย พี่เลนส์จะบอกวันนี้" "ฉันตื่นเต้นด้วยเลยอะ" "ว่าแต่ ทำไมพี่ภัทรบอกแกง่ายๆ ละ" ไม่เหมือนของฉันเลยต้องรอข้ามวันข้ามคืน ทำเอาหายตื่นเต้นซะแล้วเนี่ย "รำคาญฉันละสิไม่ว่า" ดูจากสีหน้าของเพื่อนแล้วน่าจะยากไม่แพ้กัน แต่ก็ยังดีกว่าฉันอยู่ดี "แก ฉันขอเข้าห้องน้ำสามนาที" "งั้นฉันไปรอตรงนั้นนะ" ฉันปล่อยให้เพื่อนเข้าไปทำธุระ แล้วพาตัวเองมานั่งตรงโต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ข้างอาคารเรียน แอบเสียใจนิดหน่อยเหมือนกันนะที่ไม่เจอเขา ถึงแม้ว่าความมั่นใจของฉันจะมีมากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้วก็ตามว่าต้องใช่เขาแน่ๆ แต่ฉันก็อยากได้ยินจากปากเขานี่นา "มาแล้วๆ อุ้ย! แกพี่เลนส์มาโน่นแหนะ" ปากเล็กยิ้มกว้างออกมาทันทีที่ได้ยินเพื่อนบอก หันไปมองตามสายตาที่เพื่อนส่งสัญญาณ หน้านิ่งๆ แบบนี้ สูงประมาณนี้ ผิวออร่าจนแสบตาแบบนี้ ผมถูกเซ็ตมาเป็นทรงอย่างนี้ เป็นเขาว่าที่พี่รหัสของฉันไม่ผิดแน่! สงสัยจะมีเรียนเช้าเหมือนกันสินะ "แกรอฉันเดี๋ยวนะ เผื่อหน้าแตกแกจะได้ช่วยฉันเก็บทัน" " ฮ่าๆๆ อืมๆ รีบเข้า มีเวลาสิบนาทีนะ" สองขาเล็กวิ่งเข้าไปหาคนตัวโตก่อนจะหยุดเพื่อเว้นระยะห่างให้พอเห็นหน้ากัน "พี่เลนส์ พรีมขอคำตอบค่ะ" เสียงหวานทวงเขาทันทีพร้อมกับยื่นถุงกระดาษใบเล็กสีดำส่งให้เขา ตั้งใจเลือกถุงสีนี้เพื่อที่เขาจะได้ไม่รู้สึกเขินเวลาถือไปถือมา "ถามว่า" ห๊ะ! นี่เขาไม่ได้แกล้งกันใช่มั้ย? "พี่เลนส์เป็นพี่รหัสพรีมใช่มั้ยคะ" สู้เขายัยพรีม "อาจจะใช่..." "ขะ..." "แล้วก็อาจจะไม่ใช่" คนตัวโตหลุบตามองคนตัวเล็กยืนล้วงกระเป๋าตอบอย่างยียวน "แล้วสรุปใช่หรือไม่ใช่เล่า" ทำเธอโมโหจนเผลอเหวี่ยงใส่เขาออกไปอย่างไม่รู้ตัว แต่ก็ไม่ได้สร้างความหงุดหงิดหรือรู้สึกรำคาญให้เขาเลยสักนิด กลับทำให้เขารู้สึกสนุกจนเผลออมยิ้มออกมาบางเบา กล้าขึ้นเสียงใส่เขาด้วยนะ... #สู้เขาน้องพรีม🤭 #อ่านเพลินๆ สบายๆ กันเหมือนเดิมนะคะใครว่าคนสองคนอยู่ด้วยกัน ยิ่งทะเลาะกันจะยิ่งมีลูกหัวปีท้ายปี ผมขอค้านหัวชนฝา! เพราะตอนนี้ผมกับใยไหม เราแต่งงานกันเข้าสู่ปีที่สามแล้วตั้งแต่วันที่เธอเรียนจบ งานแต่งของเราก็เกิดขึ้นทันที ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ หรือเราสองคนอยู่ในสถานะไหน คุณเธอก็มีเรื่องให้ผมอยากฟาดได้ทุกวัน เถียงได้ทุกเรื่อง ต้องจับปรับทัศนคติกันทุกคืน แต่ถึงอย่างนั้นเราสองคนก็ยังไม่มีลูกให้ผมได้มีเพื่อนไปเตะฟุตบอลสักคนเพราะเธอยังสนุกกับอาชีพนักบินอยู่... ปีนี้ จะยังไงก็แล้วแต่ เป้าหมายของผมคือ ต้องมีลูกกับเธอสักคนให้ได้ และเริ่มลงมือทำตามแผนที่วางไว้คนเดียวเงียบๆ มาเกือบสองเดือนแล้ว เริ่มจากทำทีเป็นเผลอลืมใส่เกาะป้องกันบ้าง แอบใช้เข็มเจาะซองสีเงินทุกชิ้นในกล่องบ้าง ถึงจะมั่นใจความแข็งแรงของตัวเองว่ามีมากพอที่ฝ่าฝันทุกด่านผ่านเข้าไปได้ แต่ผมก็ปฏิบัติการทุกวันไม่มีขาดตกบกพร่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้นไม่แน่ว่าตอนนี้...อาจจะมีตัวป่วนตัวน้อยๆ หลับอยู่ในท้องเธอแล้วก็ได้ส่วนวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งในแผนที่ผมวางเอาไว้ พาเธอมาเล่นกับน้องภนลูกชายวัยสองขวบของไอ้เลนส์กับน้องพรีม เพราะหว
หลังจากวันนั้น วันที่เขาทั้งย้ำและยัดเยียดความสัมพันธ์แบบก้าวกระโดดให้ฉัน ยอมรับตามตรงว่าภายในใจตอนนี้ยังคงมีคำถามว่า "ฉันกับเขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร" จุดที่...ต้องกินข้าวด้วยกันทุกวัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน พากันดูหนังบ้าง ช่วยกันทำการบ้านบ้าง แต่ข้อนี้เป็นสิ่งที่เขาต้องช่วยสอนฉันอยู่แล้วหล่ะ แต่ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ตีกันทุกวัน เป็นเขานั่นแหละที่ชอบหาเรื่องว่าฉัน ใส่กระโปรงสั้นก็ไม่ชอบ แต่งหน้าจัดเกินไปก็ขัดใจ แต่พอฉันพูดว่าเขาบ้าง เขาก็งอนไม่พูดด้วยหาเรื่องให้ฉันคอยง้อ ถามว่าฉันง้อไหม? ก็ต้องง้อซิ เพราะเขาเล่นนอนพลิกตัวเสียงดังไปมากวนจนฉันข่มตาหลับไม่ลงเลย จนบางครั้งฉันอยากจะทุบให้หลังแอ่นสักที แต่ติดตรงที่กลัวว่าเขาจะเอาคืนโดยการกดฉันให้จมเตียงหน่ะสิ และเขาทำอย่างนั้นแน่"วันนี้พี่ภัทรไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอ""ไปทำงานกลุ่ม" "งั้นไหมขับรถไปเองแล้วกัน" "ไม่ ไปด้วยกัน" "ไหมเลิกเย็น" "...""โอเค โอเค" ในเมื่อเขาอยากจะขับรถให้ ฉันก็ไม่อยากขัดใจ ดีซะอีก จะได้นั่งสวยๆ ไม่ต้องคอยหงุดหงิดกับรถคันอื่นที่แซงไปปาดมาด้วย คิดได้อย่างนั้นก็รีบหยิบกระเป๋าสะพายและกล่องแซนว
"เป็นอะไรวะ""เปล่า"ผมนั่งมองความวุ่นวายตรงหน้าด้วยความรู้สึกหงุดหงิดโดยไม่มีสาเหตุ ถ้าเป็นงานเลี้ยงสายรหัสที่พวกผมจัดขึ้นรวมกันทั้งคณะเพื่อให้รุ่นพี่รุ่นน้องและเพื่อนๆ ได้พูดคุยทำความรู้จักกันมากขึ้น ผมก็คงนั่งดื่มเงียบๆ อยู่กับไอ้เลนส์ตามปกติ แต่ที่ทำให้ผมอยากกลับห้องตัวเองเต็มทน มองอะไรก็รู้สึกขวางหูขวางตาไปหมด ก็ตรงที่ยัยตัวป่วนนั่งยิ้มแป้นแล้นหัวเราะคิกคักกับทุกคนที่เข้ามาทักทายชนแก้วกับเธอไม่ขาด แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นผู้ชายทั้งนั้น เห็นแล้วรำคาญลูกตา"จะกลับกี่โมง""กี่โมงก็ได้ โตแล้ว" ตาคู่คมของผมกวาดตามองคนลอยหน้าลอยตาพูดอย่างน่าหมันไส้ ก่อนจะไปหยุดมองอะไรอะไรที่มันล้นขึ้นมาจนน่าหยิก หลักฐานที่บอกให้รู้ว่าเธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงตัวน้อยที่คอยวิ่งตามป่วนผมแล้ว เธอ...โตขึ้นแล้วจริงๆ"ฉันให้เวลาอีกสิบนาที""มีสิทธิ์อะไรมาสั่งไม่ทราบ""ฉันเป็นพี่รหัสเธอ""ก็แค่พี่รหัส"ปึก!ยัยตัวป่วนใช้ไหล่กระแทกตัวผมให้หลีกทางเธอ เพื่อจะเดินเข้าห้องน้ำด้วยท่าทางดื้อดึง เชิดหน้าอย่างอวดดี ทำผมแทบอยากจะตามเข้าไปจัดการจับฟาดให้หายซ่าสักที ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนสนิทของป๊าฝากให้ผมช่วยดูแลเธอ ผมคงไม่ต้องมาหาเ
"รูปเสือเหรอ? ยากชะมัด" ฉันนอนมองคำใบ้รูปเสือในมือ คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ตกว่าพี่รหัสของฉันเป็นใครกันแน่คงไม่ใช่ตานั่นหรอกใช่ไหม? "หรือจะใช่ เขาเกิดปีเสือนี่นา" คิดได้อย่างนั้นฉันก็พาตัวเองลุกจากที่นอนออกจากห้องนอนเดินตรงไป ห้องของใครบางคนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ใครบางคนที่เป็นคู่ปรับของฉันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ยังฝากฝังเขาให้ช่วยดูแลฉันที่เพิ่งย้ายออกมาอยู่คอนโดคนเดียว 'พี่ภัทร' ก๊อก ก๊อก ก๊อก"ไม่อยู่เหรอ" มือเล็กเคาะประตูอยู่นานหลายนาที แต่เคาะเท่าไหร่ก็ได้รับเป็นเพียงความเงียบงันกลับมาเท่านั้น ฉันจึงตัดสินใจหมุนตัวเตรียมกลับห้องตัวเอง ลองคิดคิดดูอีกที บางทีโลกอาจจะไม่ได้กลมจนทำให้เขามาเป็นพี่รหัสของฉันจริงๆ ก็ได้แกร๊ก! ในตอนที่ฉันกำลังจะเดินกลับไปห้องตัวเอง เสียงเปิดประตูจากด้านหลังก็ดังให้ได้ยิน เรียกความสนใจให้ฉันหันกลับไปมองอย่างมีความหวัง เป็นเขาที่ยืนผมชี้ฟูเปลือยอกทำหน้ายุ่งคิ้วขมวดอยู่ ทั้งตัวมีเพียงกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำปกปิดบางอย่างเท่านั้น แต่เอ๊ะ! รอยสักตรงหน้าอกนั่น! "มีอะไร" "ไหมอยากรู้ว่าพี่ภัทรใช่พี่รหัสของไหมรึเปล่า" "แค่นี้?" "อืม สรุปใช่มั้ย" ปั้ง! ไ
"โกรธพี่?" "อยากให้พรีมโกรธเรื่องอะไรดีคะ" สงสัยจะแอบทดไว้หลายเรื่อง"ไม่อยาก" "เปิดตัวทั้งที ที่ร้านส้มตำ" คนตัวเล็กตีหน้าเศร้าราวกับว่ากำลังน้อยใจนักหนาดูน่าเอ็นดูมาก"หึ" ฟอด"พี่ขอโทษครับ" "ไม่เป็นไรค่ะ ตอนงานวันเกิดพี่เลนส์ พรีมก็ไม่สบาย อดไปสนุกด้วยเลย" "พี่ขอแก้ตัว วันงานเลี้ยงบริษัทนะ" "ค่ะ"อย่างที่เธอบอก ตอนแรกผมตั้งใจพาเธอไปเปิดตัวกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่สนิทในงานเลี้ยงวันเกิดของผมกับไอ้ฟิล์มที่จัดขึ้นที่บ้านใหญ่ แต่เธอป่วยด้วยพิษไข้หวัดใหญ่เสียก่อน วันนั้นพอเปิดของขวัญจากน้องโฟและเป่าเค้กเสร็จ ผมก็รีบขับรถกลับไปหาเธอทันที เพราะไม่อยากทิ้งเธอให้นอนป่วยอยู่คนเดียว "งั้นพรีมต้องลดความอ้วนแล้วค่ะ" "เดี๋ยวไม่สวย" "พอแล้ว แค่นี้ก็สวยไม่ไหวแล้ว" "สวยไม่ไหว แปลว่าสวยหรือไม่สวยกันแน่คะ""หึ สวยที่สุดครับ" สิ่งหนึ่งที่เธออาจจะไม่รู้ตัวก็คือ ตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับเธอ เธอก็เจื้อยแจ้วช่างซักช่างถามช่างสงสัยมากขึ้น ตอบถูกใจก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้โลกทั้งใบดูสดใสอย่างตอนนี้ แต่ถ้าเกิดผมตอบไม่ถูกใจแล้วละก็ ใบสวยๆ ก็จะง้ำงองอนกันให้เห็นอย่างปิด
@ห้องพักเบรคพนักงาน"แกว่าผู้ช่วยเลขาคิน มีซัมติงกับท่านประธานป่ะ" "หัวข้อแรงมากจ้า" "ไม่กลัวท่านประธานจะผ่านมาได้ยินเหรอ" "สรุปคือ?" "ร้อยเปอร์เซ็นต์" "ฉันเคยเห็นน้องเขาลงมาจากรถท่านประธาน" "ไม่ใช่แค่มาด้วยกันนะ กลับพร้อมกันด้วย" "เศร้าจัง แอบมองมาตั้งนาน""น่าจะอยู่หล่อแบบโสดๆ ให้พวกเรามองไปนานๆ""จริง" หากใครมาเห็นฉันยืนอยู่ตรงนี้ คงหาว่าฉันเสียมารยาทแอบฟังคนอื่นคุยกันแน่ แต่ฉันเพียงบังเอิญจะเดินมากดน้ำใส่แก้วเก็บความเย็นทั้งของฉันกับพี่เลนส์ตรงตู้กดน้ำที่อยู่ในห้องพักเบรคของพนักงานก็เท่านั้น ใครจะไปคิดว่าจะได้ยินชื่อตัวเองอยู่ในบทสนทนาของบรรดาสาวๆ พนักงานออฟฟิศที่พอจะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้างในระยะเวลาค่อนเดือนที่ฉันเข้ามาทำงานที่นี่ เพราะอย่างนี้ไงหล่ะ ฉันถึงอยากเก็บทุกอย่างเป็นความลับ ไม่อยากให้ใครคิดว่าฉันถือสิทธิพิเศษเหนือคนอื่นแต่ก็เอาเถอะ...อย่างน้อยฉันก็ได้รู้ว่าเขาฮอตมากขนาดไหน จะรู้ตัวบ้างไหมนะ ว่าตัวเองเป็นขวัญใจสาวๆ ทั้งบริษัท คิดคิดแล้วก็น่าหมันไส้อยู่เหมือนกันฉันยืนรอจนหัวข้อสนทนาเปลี่ยนเป็นเรื่องแฟชั่น ถึงทำทีเป็นไม่เคยได้ยินอะไรก่อนหน้าน







