LOGINสุดท้ายผมก็ทนเธอมองค้อนจนหน้าแดงไม่ไหว เลยยอมรับกับเธอไปอย่างง่ายดายว่าผมคือพี่รหัสที่เธอตามหา และฝากของขวัญที่เธอเตรียมมาไว้กับเธอก่อนเพราะผมไม่มีกระเป๋า มีแค่ไอแพดติดตัวมาเท่านั้น ดูจากถุงก็รู้แล้วว่าข้างในเป็นนาฬิกาแบรนด์ดังเพราะเป็นแบรนด์ที่ผมชอบและใส่อยู่ตอนนี้
แต่ยังไม่ทันได้แลกคอนแทร็คกันไว้เราสองคนก็ต้องรีบแยกย้ายกันไปเรียนเพราะใกล้ถึงเวลาอาจารย์เช็คชื่อ ลำพังตัวผมเองคงไม่เท่าไหร่ แต่เด็กปีหนึ่งอย่างเธอจะเข้าเรียนสายในวันที่สองของการเปิดเทอมคงไม่เป็นผลดีแน่ ไม่เป็นไร...ยังพอมีเวลาทำความรู้จักและให้ผมแกล้งอีกนาน หลังจากเรียนช่วงเช้าเสร็จ ผมกับเพื่อนสนิทก็ลงมาอยู่ห้องสโมสร ห้องที่มีไว้สำหรับประชุมงานเตรียมงานหรือแม้กระทั่งนอนพักสายตา ดีที่อาจารย์ยกคลาสในช่วงบ่าย ทำให้ผมมีเวลาลงมาอ่านสรุปกิจกรรมเฟรชชี่ที่จะถูกจัดขึ้นในอีกสามสัปดาห์ข้างหน้า "ท่านประธานครับ" "กวนตีน" "ดาวปีที่แล้วมาขอให้น้องพรีมลงประกวด" รุ่นน้องปีสองและเพื่อนปีสามต่างรู้ว่าเธอคือน้องรหัสของผม และไม่แปลกที่เธอจะโดนทาบทามให้เป็นตัวแทนของคณะ ไม่ใช่เพราะเธอคือผู้หญิงหนึ่งในสองคนของชั้น แต่เพราะ...เธอน่ารักมาก "คนอื่น" "ทั้งชั้นมีผู้หญิงสองคน" "น้องมึงไง" ผมบอกปัดโยนไปให้ไอ้ภัทร เพราะน้องรหัสของไอ้ภัทรก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ฉะนั้นไม่มีความจำเป็นต้องเป็นเธอ "ไม่ ยัยนั่นขี้วีนเกิน" "..." ผมเหลือบตามองเพื่อนที่ทำเสียงหงุดหงิด ปฏิเสธหัวชนฝาเหมือนกัน "แค่ประกวดป่าววะ มึงจะคิดเยอะเพื่อ" เริ่มไม่มั่นใจว่าประโยคนี้ ไอ้ภัทรบอกผมหรือบอกตัวเองกันแน่ "ไปถามเอง" "ถือว่าผ่านมึงละนะ" "..." ผมเลือกที่จะเงียบไม่พูดตอบอะไรไปมากกว่านั้น ถ้าเธอตอบตกลง ผมคงไม่มีสิทธิ์ห้ามอะไร นอกจากให้คำแนะนำและคอยดูแลอยู่ห่างๆ เท่านั้น ถึงเวลากิจกรรมผมกับเฮดว้ากก็พากันเดินมาห้องประชุมแยกกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง โดยที่ผมมานั่งสังเกตการณ์อยู่ตรงมุมด้านหน้าเพื่อที่จะได้มองเห็นได้ทั่วทั้งห้อง ผมตั้งใจเลือกห้องนี้เพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่ร้อนเพราะมีเครื่องปรับอากาศและมีเก้าอี้ให้น้องๆ ได้นั่งสบาย ผมชอบบรรยากาศการรับน้องแบบนี้นะ ให้ทุกคนได้พูดคุยและทำความรู้จักกันทำกิจกรรมละลายพฤติกรรมร่วมกัน ถ้ามีอะไรที่มันดูเกินไปก็เป็นหน้าที่ของเฮดว้ากที่ต้องควบคุมสถานการณ์เพื่อความเรียบร้อย และผลโหวตก็การคัดเลือกตัวแทนที่จะไปประกวดดาวและเดือนของคณะก็เป็นเอกฉันท์ แน่นอนว่าทุกคนโหวตให้เธอเป็นตัวแทนในการประกวดครั้งนี้ หากผมไม่ได้คิดไปเอง ในตอนที่ทุกคนกำลังโหวตกัน คนตัวเล็กแอบชำเลืองมองมาทางผมเหมือนจะดูว่าผมยกมือโหวตให้เธอด้วยหรือเปล่า แน่นอนว่าไม่เพราะเพื่อความเป็นกลางประธานและพี่รหัสอย่างผมจำเป็นต้องงดออกเสียง "พี่เลนส์ นี่ค่ะของที่ฝากไว้" หลังจากที่ปล่อยน้องปีหนึ่งกลับบ้าน เหลือเพียงเธอกับเพื่อนสนิทนั่งคุยกันอยู่สองคนไม่ยอมลุกไปไหน ไม่นานเธอก็ปลีกตัวเดินมาหาผมพร้อมกับยื่นถุงกระดาษสีดำมาให้ "..." "พี่เลนส์เปิดเลยสิ พรีมอยากรู้ว่าชอบมั้ย" แววตากลมโตวิบวับราวกับเป็นมนต์สะกด จากที่ตั้งใจจะเอากลับไปเปิดดูที่ห้องต้องเปลี่ยนมาใช้มือแกะริบบิ้นที่ถูกผูกเอาไว้อย่างสวยงามเพราะท่าทางตื่นเต้นของเธอ มือใหญ่ค่อยๆ หยิบกล่องหนังสีดำออกมาจากถุงกระดาษส่งถุงให้เธอช่วยถือไว้ ส่วนเขาก็เปิดกล่องหนังดูของด้านในตามที่คนตัวเล็กต้องการอย่างตามใจ เพราะยังจำแววตาดูดุที่เธอมองเขาเมื่อเช้าได้ ยอมรับว่าเขากลัวเธอโกรธ "นาฬิกาคู่?" นาฬิกาสีดำรุ่นเดียวกับเรือนที่เธอใส่ต่างกันแค่สีและที่อยู่บนข้อมือของเธอเรือนเล็กกว่า "คู่ คู่อะไร ไม่คู่หรอก พรีมแค่ชอบเรือนนี้" เสียงหวานปฏิเสธติดๆ ขัดๆ ตกใจที่เขารู้ รู้ว่าเธอตั้งใจซื้อเรือนนี้มาให้เขาใส่คู่กัน "หึ" "หิว ไปกินข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อย" "..." ทำแก้มป่องตาโตดูขี้สงสัยแบบนี้อีกแล้ว "แลกกับนาฬิกา" และคงต้องพาเธอไปเลี้ยงข้าวอีกหลายมื้อ ถึงจะครบค่านาฬิกาเรือนนี้ "พรีมชวนใยไหมไปด้วยได้มั้ยคะ" "กลัว?" "พรีมไม่ได้กลัว แต่พรีมให้เพื่อนรอ" "ตามใจ" เมื่อตกลงกันเรียบร้อย ผมก็รับถุงกระดาษจากเธอกลับมาใส่นาฬิกาตามเดิม ก่อนจะยืนเดินตามหลังคนตัวเล็กกับเพื่อนออกไปจากห้องประชุม และเดินนำไปที่รถยนต์สีดำที่ผมเลื่อนมาจอดไว้ตรงด้านหลังอาคารเรียนเมื่อตอนพักกลางวัน ดีที่วันนี้เลือกรถสี่ประตูมาใช้ เพราะปกติแล้วผมชอบขับซุปเปอร์คาร์สองประตูซะมากกว่า "วันประกวดพี่เลนส์จะไปเชียร์ยัยพรีมมั้ยคะ" ใยไหมเริ่มชวนคุยก่อนให้บรรยากาศดูผ่อนคลายขึ้น บอกตามตรงนอกจากมินินที่เป็นเพื่อนในกลุ่มและน้องสาวอย่างโฟกัส ผมก็ไม่เคยมานั่งกินข้าวกับผู้หญิงคนไหน ครั้งนี้...เป็นครั้งแรก ซึ่งมื้อนี้ผมเป็นคนเลือกร้านอาหาร เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นของไอ้ไอนี่แหละเพราะสะดวกและมีห้องส่วนตัว เรื่องความอร่อยไม่ต้องพูดถึงมีคะแนนรีวิวห้าดาวการันตีในทุกแพลตฟอร์ม ผมเลยกล้าพาเธอมา "ถ้าว่าง" "ต้องว่างสิคะ ยัยพรีมต้องการกำลังใจนะ" "ใยไหม!" คนตัวโตที่กำลังนั่งเล่นเกมส์ในมือถือระหว่างรออาหาร แอบเปิดปฏิทินผ่านแอพพลิเคชั่นเลือกอิโมจิรูปแมวสีส้มใส่ลงในวันที่คนตัวเล็กประกวด ที่จริงเขาเคลียร์ตารางเอาไว้รอตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าเธอเป็นตัวแทนเข้าประกวดอยู่ก่อนแล้ว แค่อยากรู้ว่าเธอจะกล้าชวนเขาหรือเปล่าแค่นั้น... #มาอีกสักตอน🐱 #อ่านเพลินๆ สบายๆ กันก่อนนะคะ #เรื่องนี้ไรท์ตั้งใจว่าจะค่อยๆ ฟินแบบขั้นบันได😚ใครว่าคนสองคนอยู่ด้วยกัน ยิ่งทะเลาะกันจะยิ่งมีลูกหัวปีท้ายปี ผมขอค้านหัวชนฝา! เพราะตอนนี้ผมกับใยไหม เราแต่งงานกันเข้าสู่ปีที่สามแล้วตั้งแต่วันที่เธอเรียนจบ งานแต่งของเราก็เกิดขึ้นทันที ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ หรือเราสองคนอยู่ในสถานะไหน คุณเธอก็มีเรื่องให้ผมอยากฟาดได้ทุกวัน เถียงได้ทุกเรื่อง ต้องจับปรับทัศนคติกันทุกคืน แต่ถึงอย่างนั้นเราสองคนก็ยังไม่มีลูกให้ผมได้มีเพื่อนไปเตะฟุตบอลสักคนเพราะเธอยังสนุกกับอาชีพนักบินอยู่... ปีนี้ จะยังไงก็แล้วแต่ เป้าหมายของผมคือ ต้องมีลูกกับเธอสักคนให้ได้ และเริ่มลงมือทำตามแผนที่วางไว้คนเดียวเงียบๆ มาเกือบสองเดือนแล้ว เริ่มจากทำทีเป็นเผลอลืมใส่เกาะป้องกันบ้าง แอบใช้เข็มเจาะซองสีเงินทุกชิ้นในกล่องบ้าง ถึงจะมั่นใจความแข็งแรงของตัวเองว่ามีมากพอที่ฝ่าฝันทุกด่านผ่านเข้าไปได้ แต่ผมก็ปฏิบัติการทุกวันไม่มีขาดตกบกพร่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้นไม่แน่ว่าตอนนี้...อาจจะมีตัวป่วนตัวน้อยๆ หลับอยู่ในท้องเธอแล้วก็ได้ส่วนวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งในแผนที่ผมวางเอาไว้ พาเธอมาเล่นกับน้องภนลูกชายวัยสองขวบของไอ้เลนส์กับน้องพรีม เพราะหว
หลังจากวันนั้น วันที่เขาทั้งย้ำและยัดเยียดความสัมพันธ์แบบก้าวกระโดดให้ฉัน ยอมรับตามตรงว่าภายในใจตอนนี้ยังคงมีคำถามว่า "ฉันกับเขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร" จุดที่...ต้องกินข้าวด้วยกันทุกวัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน พากันดูหนังบ้าง ช่วยกันทำการบ้านบ้าง แต่ข้อนี้เป็นสิ่งที่เขาต้องช่วยสอนฉันอยู่แล้วหล่ะ แต่ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ตีกันทุกวัน เป็นเขานั่นแหละที่ชอบหาเรื่องว่าฉัน ใส่กระโปรงสั้นก็ไม่ชอบ แต่งหน้าจัดเกินไปก็ขัดใจ แต่พอฉันพูดว่าเขาบ้าง เขาก็งอนไม่พูดด้วยหาเรื่องให้ฉันคอยง้อ ถามว่าฉันง้อไหม? ก็ต้องง้อซิ เพราะเขาเล่นนอนพลิกตัวเสียงดังไปมากวนจนฉันข่มตาหลับไม่ลงเลย จนบางครั้งฉันอยากจะทุบให้หลังแอ่นสักที แต่ติดตรงที่กลัวว่าเขาจะเอาคืนโดยการกดฉันให้จมเตียงหน่ะสิ และเขาทำอย่างนั้นแน่"วันนี้พี่ภัทรไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอ""ไปทำงานกลุ่ม" "งั้นไหมขับรถไปเองแล้วกัน" "ไม่ ไปด้วยกัน" "ไหมเลิกเย็น" "...""โอเค โอเค" ในเมื่อเขาอยากจะขับรถให้ ฉันก็ไม่อยากขัดใจ ดีซะอีก จะได้นั่งสวยๆ ไม่ต้องคอยหงุดหงิดกับรถคันอื่นที่แซงไปปาดมาด้วย คิดได้อย่างนั้นก็รีบหยิบกระเป๋าสะพายและกล่องแซนว
"เป็นอะไรวะ""เปล่า"ผมนั่งมองความวุ่นวายตรงหน้าด้วยความรู้สึกหงุดหงิดโดยไม่มีสาเหตุ ถ้าเป็นงานเลี้ยงสายรหัสที่พวกผมจัดขึ้นรวมกันทั้งคณะเพื่อให้รุ่นพี่รุ่นน้องและเพื่อนๆ ได้พูดคุยทำความรู้จักกันมากขึ้น ผมก็คงนั่งดื่มเงียบๆ อยู่กับไอ้เลนส์ตามปกติ แต่ที่ทำให้ผมอยากกลับห้องตัวเองเต็มทน มองอะไรก็รู้สึกขวางหูขวางตาไปหมด ก็ตรงที่ยัยตัวป่วนนั่งยิ้มแป้นแล้นหัวเราะคิกคักกับทุกคนที่เข้ามาทักทายชนแก้วกับเธอไม่ขาด แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นผู้ชายทั้งนั้น เห็นแล้วรำคาญลูกตา"จะกลับกี่โมง""กี่โมงก็ได้ โตแล้ว" ตาคู่คมของผมกวาดตามองคนลอยหน้าลอยตาพูดอย่างน่าหมันไส้ ก่อนจะไปหยุดมองอะไรอะไรที่มันล้นขึ้นมาจนน่าหยิก หลักฐานที่บอกให้รู้ว่าเธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงตัวน้อยที่คอยวิ่งตามป่วนผมแล้ว เธอ...โตขึ้นแล้วจริงๆ"ฉันให้เวลาอีกสิบนาที""มีสิทธิ์อะไรมาสั่งไม่ทราบ""ฉันเป็นพี่รหัสเธอ""ก็แค่พี่รหัส"ปึก!ยัยตัวป่วนใช้ไหล่กระแทกตัวผมให้หลีกทางเธอ เพื่อจะเดินเข้าห้องน้ำด้วยท่าทางดื้อดึง เชิดหน้าอย่างอวดดี ทำผมแทบอยากจะตามเข้าไปจัดการจับฟาดให้หายซ่าสักที ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนสนิทของป๊าฝากให้ผมช่วยดูแลเธอ ผมคงไม่ต้องมาหาเ
"รูปเสือเหรอ? ยากชะมัด" ฉันนอนมองคำใบ้รูปเสือในมือ คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ตกว่าพี่รหัสของฉันเป็นใครกันแน่คงไม่ใช่ตานั่นหรอกใช่ไหม? "หรือจะใช่ เขาเกิดปีเสือนี่นา" คิดได้อย่างนั้นฉันก็พาตัวเองลุกจากที่นอนออกจากห้องนอนเดินตรงไป ห้องของใครบางคนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ใครบางคนที่เป็นคู่ปรับของฉันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ยังฝากฝังเขาให้ช่วยดูแลฉันที่เพิ่งย้ายออกมาอยู่คอนโดคนเดียว 'พี่ภัทร' ก๊อก ก๊อก ก๊อก"ไม่อยู่เหรอ" มือเล็กเคาะประตูอยู่นานหลายนาที แต่เคาะเท่าไหร่ก็ได้รับเป็นเพียงความเงียบงันกลับมาเท่านั้น ฉันจึงตัดสินใจหมุนตัวเตรียมกลับห้องตัวเอง ลองคิดคิดดูอีกที บางทีโลกอาจจะไม่ได้กลมจนทำให้เขามาเป็นพี่รหัสของฉันจริงๆ ก็ได้แกร๊ก! ในตอนที่ฉันกำลังจะเดินกลับไปห้องตัวเอง เสียงเปิดประตูจากด้านหลังก็ดังให้ได้ยิน เรียกความสนใจให้ฉันหันกลับไปมองอย่างมีความหวัง เป็นเขาที่ยืนผมชี้ฟูเปลือยอกทำหน้ายุ่งคิ้วขมวดอยู่ ทั้งตัวมีเพียงกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำปกปิดบางอย่างเท่านั้น แต่เอ๊ะ! รอยสักตรงหน้าอกนั่น! "มีอะไร" "ไหมอยากรู้ว่าพี่ภัทรใช่พี่รหัสของไหมรึเปล่า" "แค่นี้?" "อืม สรุปใช่มั้ย" ปั้ง! ไ
"โกรธพี่?" "อยากให้พรีมโกรธเรื่องอะไรดีคะ" สงสัยจะแอบทดไว้หลายเรื่อง"ไม่อยาก" "เปิดตัวทั้งที ที่ร้านส้มตำ" คนตัวเล็กตีหน้าเศร้าราวกับว่ากำลังน้อยใจนักหนาดูน่าเอ็นดูมาก"หึ" ฟอด"พี่ขอโทษครับ" "ไม่เป็นไรค่ะ ตอนงานวันเกิดพี่เลนส์ พรีมก็ไม่สบาย อดไปสนุกด้วยเลย" "พี่ขอแก้ตัว วันงานเลี้ยงบริษัทนะ" "ค่ะ"อย่างที่เธอบอก ตอนแรกผมตั้งใจพาเธอไปเปิดตัวกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่สนิทในงานเลี้ยงวันเกิดของผมกับไอ้ฟิล์มที่จัดขึ้นที่บ้านใหญ่ แต่เธอป่วยด้วยพิษไข้หวัดใหญ่เสียก่อน วันนั้นพอเปิดของขวัญจากน้องโฟและเป่าเค้กเสร็จ ผมก็รีบขับรถกลับไปหาเธอทันที เพราะไม่อยากทิ้งเธอให้นอนป่วยอยู่คนเดียว "งั้นพรีมต้องลดความอ้วนแล้วค่ะ" "เดี๋ยวไม่สวย" "พอแล้ว แค่นี้ก็สวยไม่ไหวแล้ว" "สวยไม่ไหว แปลว่าสวยหรือไม่สวยกันแน่คะ""หึ สวยที่สุดครับ" สิ่งหนึ่งที่เธออาจจะไม่รู้ตัวก็คือ ตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับเธอ เธอก็เจื้อยแจ้วช่างซักช่างถามช่างสงสัยมากขึ้น ตอบถูกใจก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้โลกทั้งใบดูสดใสอย่างตอนนี้ แต่ถ้าเกิดผมตอบไม่ถูกใจแล้วละก็ ใบสวยๆ ก็จะง้ำงองอนกันให้เห็นอย่างปิด
@ห้องพักเบรคพนักงาน"แกว่าผู้ช่วยเลขาคิน มีซัมติงกับท่านประธานป่ะ" "หัวข้อแรงมากจ้า" "ไม่กลัวท่านประธานจะผ่านมาได้ยินเหรอ" "สรุปคือ?" "ร้อยเปอร์เซ็นต์" "ฉันเคยเห็นน้องเขาลงมาจากรถท่านประธาน" "ไม่ใช่แค่มาด้วยกันนะ กลับพร้อมกันด้วย" "เศร้าจัง แอบมองมาตั้งนาน""น่าจะอยู่หล่อแบบโสดๆ ให้พวกเรามองไปนานๆ""จริง" หากใครมาเห็นฉันยืนอยู่ตรงนี้ คงหาว่าฉันเสียมารยาทแอบฟังคนอื่นคุยกันแน่ แต่ฉันเพียงบังเอิญจะเดินมากดน้ำใส่แก้วเก็บความเย็นทั้งของฉันกับพี่เลนส์ตรงตู้กดน้ำที่อยู่ในห้องพักเบรคของพนักงานก็เท่านั้น ใครจะไปคิดว่าจะได้ยินชื่อตัวเองอยู่ในบทสนทนาของบรรดาสาวๆ พนักงานออฟฟิศที่พอจะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้างในระยะเวลาค่อนเดือนที่ฉันเข้ามาทำงานที่นี่ เพราะอย่างนี้ไงหล่ะ ฉันถึงอยากเก็บทุกอย่างเป็นความลับ ไม่อยากให้ใครคิดว่าฉันถือสิทธิพิเศษเหนือคนอื่นแต่ก็เอาเถอะ...อย่างน้อยฉันก็ได้รู้ว่าเขาฮอตมากขนาดไหน จะรู้ตัวบ้างไหมนะ ว่าตัวเองเป็นขวัญใจสาวๆ ทั้งบริษัท คิดคิดแล้วก็น่าหมันไส้อยู่เหมือนกันฉันยืนรอจนหัวข้อสนทนาเปลี่ยนเป็นเรื่องแฟชั่น ถึงทำทีเป็นไม่เคยได้ยินอะไรก่อนหน้าน







