Share

รักในความร้าย
รักในความร้าย
Author: มู​๋​สะเต๊ะ​

บทที่1

last update Last Updated: 2025-09-14 21:21:49

"ยัยพรีม วันนี้พี่เขามาวันสุดท้ายแล้วนะ แกจะไม่บอกเขาสักหน่อยหรอ"

"ฉันกลัว" ฉันตอบใยไหมเพื่อนสนิทที่สุดของฉันไปตามความรู้สึก ฉันกลัวว่าถ้าเด็กแว่นอย่างฉันวิ่งเข้าไปบอกความรู้สึกกับเขาตอนนี้ สุดท้ายคนที่เสียใจที่สุดต้องเป็นฉันคนนี้แน่

ขอยืนมองเขาอยู่ไกลๆ อยู่ตรงนี้ แบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว

ฉันยืนมองคนตัวโตอยู่ตรงมุมตึก แอบมองเขาที่กำลังยุ่งอยู่กับการรับดอกไม้และของขวัญ​จากรุ่นน้องที่ต่างก็มาแสดงความยินดีที่เขาสำเร็จการศึกษาชั้นสูงสุดของโรงเรียน​และยังสามารถสอบติดคณะวิศวะการบินของมหาวิทยาลัย​ชื่อดังระดับประเทศเป็นอันดับหนึ่ง​ได้อีกด้วย

จะว่าไปเส้นทางของฉันกับเขาก็เหมือนเส้นขนานไม่มีทางมาเจอกันได้เลยด้วยซ้ำ จนเมื่อหลายเดือนก่อนวันที่ฉันย้ายเข้ามาเรียนที่นี่เป็นวันแรก และเพราะความซุ่มซ่ามของฉันเองนี่แหละที่ทำให้เราได้เจอกัน

...หลายเดือนก่อน...

คนตัวเล็กในชุดนักเรียน​ชั้นมัธยมปลายวิ่งหน้าตาตื่นเข้าประตูโรงเรียนอย่างเร่งรีบเพราะใกล้เวลาเข้าเรียนคาบแรกในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ใช่! ฉันมาสาย สายมากด้วย!!​ แต่แล้วยิ่งรีบก็เหมือนยิ่งช้า... 

ปึก!!

"โอ๊ย!!"

เพราะฉันมัวแต่ก้มหาแว่นตาในกระเป๋าผ้าไม่ทันได้สังเกตเห็นว่ามีคนยืนอยู่ข้างหน้า กระทั่งหน้าผากมนกระแทกกับแผ่นหลังแกร่งเข้าอย่างแรง สองขาเล็กถอยเซไปด้านหลังจนเกือบจะหงายท้อง แว่นตาที่ฉันนั่งซ่อมมาเมื่อเช้าให้พอใส่ได้ชั่วคราวหลุดออกจากมืออย่างง่ายดาย นาทีนี้ฉันได้แต่ภาวนาขอให้กระจกแว่นไม่แตกก็พอ ไม่อยากนั้นคนสายตาสั้นมากอย่างฉันคงใช้ชีวิตลำบากแน่

"เป็นอะไรรึป่าว" เสียงทุ้มเอ่ยถามนิ่งๆ

"ขะ ขอโทษค่ะ" ฉันพยายามตั้งขาให้มั่น ก้มศีรษะขอโทษเขาเล็กน้อย โทษฐานที่เป็นฝ่ายซุ่มซ่ามทำให้เขาเสียเวลา ก่อนจะย่อตัวลงไปเก็บแว่นพังๆ ของฉันที่นอนอยู่บนพื้น

"อืม" แต่ยังช้ากว่าเขา เพราะตอนนี้แว่นสีชมพูคู่ใจได้ถูกส่งมาอยู่ในมือเล็กนี้แล้ว

"ไอ้เลนส์​ ทำไรอยู่วะ สายแล้วนะเว้ย"

"เร็ว!"

ฉันยังไม่ทันได้ขอบคุณ​ความใจดีของเขาที่ช่วยเก็บแว่นให้ เขาก็วิ่งตามหลังเพื่อนที่พูดเสียงเข้มเข้าอาคารเรียนไปแล้ว เขาชื่อ 'พี่เลนส์' 

"พรีม แกนั่งรอตรงนี้ อยากกินอะไรเดี๋ยวฉันไปซื้อให้" ใยไหมเพื่อนคนแรกของฉันที่นี่บอกอย่างใจดี เพราะเธอรู้ว่าฉันเดินค่อนข้างลำบาก

"เหมือนกันก็ได้" ฉันบอกเพื่อนอย่างไม่เรื่องมาก หยิบแว่นขึ้นมามองตาละห้อย ดีที่ใยไหมช่วยขอสลับที่กับเพื่อนให้ฉันได้นั่งข้างหน้า ไม่อย่างนั้นฉันคงเรียนไม่รู้เรื่องและจดการบ้านไม่ทันแน่

"ตัวเล็ก" 

"..." ฉันมองแว่นกรอบสีชมพูในมือใหญ่ของคนตัวโตอย่างงุนงง ดูจากความหนาของเลนส์แล้ว น่าจะพอพอกับของฉันเลย

"แว่นพังไม่ใช่?"

"อะ อ่อค่ะ" 

"เอาไปใส่ก่อน" 

"มะ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวก็เลิกเรียนแล้ว" กรอบสีชมพูขนาดนี้ ต้องเป็นของแฟนเขาแน่เลย

"อย่าดื้อ" เขาขมวดคิ้วทำเสียงดุใส่จนฉันตกใจรีบยื่นมือรับมาถือไว้ทั้งที่ไม่ควรทำ

"ขะ ขอบคุณ​ค่ะ"

ยังไม่พอแค่นั้น เขายังยืนกดดันใช้สายตาบังคับให้ฉันใส่แว่นที่เขาเอามาให้ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะอาหารกับเพื่อนๆ ถัดไปอีกสองโต๊ะหันหน้ามาทางฉัน ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องเขาตลอดทางราวกับว่าเขาเป็นดาราเลยก็ว่าได้

"แกรู้จักพี่เขาด้วยหรอ" 

"ฉันวิ่งชนพี่เขาเมื่อเช้า" 

"นั่นหน่ะ หนุ่มฮอตประจำโรงเรียนเราเชียวนะ" 

"ร หรอ" 

และหลังจากนั้นประวัติทั้งหมดของคนตัวโตก็ถูกถ่ายทอดออกมาทุกเรื่องราวผ่านเสียงเจื้อยแจ้วของใยไหม จนฉันรู้ว่าเขาไม่ชอบทานเผ็ด เล่นกีฬาเก่ง เรียนเก่งมาก มีฝาแฝดหนึ่งคนชื่อ 'พี่ฟิล์ม' น่าจะเป็นคนที่เรียกเขาเมื่อเช้า กลุ่มของเขามีสี่คน มีพี่มินินเป็นผู้หญิงคนเดียวและเป็นคนที่ทั้งโรงเรียนจับให้เป็นคู่จิ้นกับเขา พอฟังมาถึงตรงนี้ฉันก็อดจะเงยหน้าขึ้นไปมองผู้หญิงที่นั่งข้างๆ เขาไม่ได้ พี่เขาทั้งสวยทั้งน่ารักเวลายิ้มก็สดใสมากๆ ดูเหมาะกันสุดๆ ไปเลย สมแล้วที่เป็นคู่จิ้นกัน

"พี่คะ" 

"..."

"พรีมเอาแว่นมาคืนค่ะ ส่วนนี่ข้าวเหนียวหมูปิ้ง พรีมตั้งใจซื้อมาฝากขอบคุณ​ที่พี่ให้ยืมแว่นตาค่ะ" เป็นประโยคยาวเหยียดที่ฉันซ้อมท่องมาตลอดคืนเพื่อมาพูดกับเขาวันนี้

ฉันตื่นแต่เช้ามืดเพื่อให้ทันแวะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งหน้าปากซอยหมู่บ้านมาฝากเขาและใยไหม ตั้งใจมายืนรอเขาตรงมุมตึกตามที่ใยไหมเล่าให้ฟังว่าปกติแล้วเขาจะมาถึงเวลาประมาณนี้และชอบมานั่งหลบมุมอยู่กับเพื่อนด้านหลังอาคารเรียน กว่าฉันจะพูดทุกคำที่ซ้อมมาจบทำเอามือเต็มไปด้วยเหงื่อ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้เสียงหัวใจที่เต้นแรงอย่างในตอนนี้ มันตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นหน้า เขาเรียกว่าอะไร?

​อาจจะเป็นเพราะความใจดีของเขาก็ได้ที่สร้างความประทับใจให้กับฉันตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน

"ขอบคุณครับ" 

"พรีม พรีมไปก่อนนะคะ" 

เขายื่นมือมารับของไปถือไว้เองทั้งหมด รวมถึงข้าวเหนียวหมูปิ้ง​ด้วย พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ พอให้เห็นลักยิ้มเล็กๆ ของเขา อย่างนี้สินะ เขาถึงได้ฮอตที่สุดในโรงเรียนแบบที่ใยไหมว่า...

และหลังจากวันนั้น ฉันก็พาตัวเองไปอยู่ในรัศมีของเขาเสมอ เขาซ้อมกีฬา ฉันซ้อมเชียร์ เขาแข่งกีฬา ฉันไปเป็นกำลังใจให้อยู่ห่างๆ ห่างจนเขาไม่สังเกตเห็น ตอนพักกลางวันของทุกวันฉันเลือกที่จะนั่งโต๊ะเดิมทุกครั้ง โต๊ะที่เขาเดินเอาแว่นมาให้ 

รอถึงเวลาที่เหมาะสม...ฉันจะพาตัวเองให้ได้เข้าไปอยู่ใกล้ๆ เขามากกว่านี้ 

'พี่เลนส์รอพรีมก่อนนะ'​

 

#พาพี่เลนส์​กับน้องพรีมมาทักทายค่ะ

#ฝากกด ♥️ เป็นกำลังใจให้น้องพรีมด้วยนะคะ

#อ่านเพลินๆ ฟินๆ สบายๆ เหมือนเดิมนะคะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักในความร้าย   บทที่8

    แน่นอนว่าเธอได้ที่หนึ่งด้วยคะแนนเสียงที่ท่วมท้นแถมยังได้รางวัลขวัญใจช่างภาพอีกด้วย อย่างที่ผมบอกวันนี้เธอมีเสน่ห์​มาก ผมเลยพาตัวเองเข้ามายืนรอข้างเวที รอช่วยเธอถือช่อดอกไม้และรางวัลที่เธอได้รับ เพราะลึกๆ แอบรู้สึกผิดที่มาไม่ทันให้กำลังใจเธอก่อนขึ้นเวทีแต่เหมือนว่าผมจะได้รับบัตรคิวเข้าร่วมแสดงความยินดีกับเธอเป็นคนสุดท้าย เพราะเวลานี้มีทั้งรุ่นพี่และเพื่อนของเธอพากันเข้าไปแสดงความยินดี ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ชายทั้งนั้น จนผมรู้สึกอยากจะเดินไปสับคัตเอาท์ปิดไฟให้หมดทุกคนจะได้แยกย้ายเลิกรุมเธอสักที น่าหงุดหงิดเหมือนกันนะ"ถือให้" ยืนรออยู่ครู่ใหญ่เพื่อนสนิทของเธอก็พาดาวป้ายแดงฝ่าวงล้อมเดินออกมา เพราะสีหน้าของเธอตอนนี้ถึงแม้ว่าปากสีชมพูจะยิ้มกว้างแต่ตากลมโตปรือดูง่วงเต็มที ทันทีที่เดินออกมาเจอหน้ากันรอยยิ้มที่เคยสดใสกลับหุบลงปากเล็กๆ เชิดขึ้นเล็กน้อยนัยน์ตากลมๆ ที่มองกันสั่นไหว ท่าทางแบบนี้โฟกัสทำให้เห็นอยู่บ่อยครั้งเวลาที่น้องน้อยใจ เพราะงั้นเธอคงรู้สึกน้อยใจผมสินะ"พี่ถือให้" ในเมื่อเธอไม่ส่งของในมือมาให้ช่วยถือ ผมเลยเอื้อมมือไปแย่งช่อดอกไม้ช่อโตที่เธ

  • รักในความร้าย   บทที่7

    "แกว่า ฉันจะแสดงอะไรดี" สัปดาห์​นี้คุณพ่อคุณแม่บินไปดูงานที่ต่างประเทศ​ ฉันเลยชวนใยไหมมาดูซีรีย์เป็นเพื่อนและทำชาบูกินกันที่คอนโด ก็คนมันเหงานี่นา..."น้องพรีมแค่ยืนยิ้มเฉยๆ ก็ชนะแล้วค่ะ" ถ้าให้ทำแค่นั้น ฉันคงไม่มานั่งกลุ้มแบบนี้หรอก"ฉันจริงจังอยู่นะใยไหม" "ฮ่าๆ อะ อะ ไม่แกล้งแล้วๆ" "ร้องเพลงไง แกร้องเพลงเพราะมากนะ เผื่อลืม" "ฉันไม่มั่นใจ" ฉันชอบร้องเพลงก็จริง แต่ไม่เคยไปประกวดหรือร้องต่อหน้าคนเยอะๆ เลยสักครั้ง"มั่นใจค่ะสาว แกทำได้เชื่อฉันซิ""งั้นฉันซ้อมให้แกฟังก่อนแล้วกัน" "มาสิๆ"ฉันเลือกมาสองสามเพลงที่ฉันชอบมาร้องให้เพื่อนฟัง ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงประกอบซีรีย์ที่ฉันดูนี่แหละ(เสียงปรบมือ)​ใยไหมเปิดเสียงเอฟเฟ็กต์​ปรบมือรัวรัวให้กำลังใจกันหลังจากที่ฟังฉันร้องจบไปสามเพลง ทำเอาคอแห้งเหมือนกันนะ"ฉันชอบทุกเพลงเลยอะ""แต่ฉันว่าเต้นด้วยดีมั้ย" ยัยเพื่อนคนนี้นี่! ขยันหาการหางานให้ฉันเสียจริง แล้วฉันก็พลอยบ้าจี้ตามเพื่อนไปด้วย"งั้นก็ต้องเป็นเพลงนี้หน่ะซิ" เป็นเพลงประกอบซีรีย์ที่เป็นไวรัลในแอพดัง เพลงน่ารักๆ ฟังสบายๆ ท่าเต้นก็ไม่ได้ยากสามารถเต้นตามได้ในเมื่อฉันเป็นความหวังของหมู่บ้าน ก

  • รักในความร้าย   บทที่6

    สุดท้ายผมก็ทนเธอมองค้อนจนหน้าแดงไม่ไหว เลยยอมรับกับเธอไปอย่างง่ายดายว่าผมคือพี่รหัสที่เธอตามหา และฝากของขวัญที่เธอเตรียมมาไว้กับเธอก่อนเพราะผมไม่มีกระเป๋า มีแค่ไอแพดติดตัวมาเท่านั้น ดูจากถุงก็รู้แล้วว่าข้างในเป็นนาฬิกาแบรนด์​ดังเพราะเป็นแบรนด์​ที่ผมชอบและใส่อยู่ตอนนี้แต่ยังไม่ทันได้แลกคอนแทร็คกันไว้เราสองคนก็ต้องรีบแยกย้ายกันไปเรียนเพราะใกล้ถึงเวลาอาจารย์​เช็คชื่อ ลำพังตัวผมเองคงไม่เท่าไหร่ แต่เด็กปีหนึ่งอย่างเธอจะเข้าเรียนสายในวันที่สองของการเปิดเทอมคงไม่เป็นผลดีแน่ไม่เป็นไร...ยังพอมีเวลาทำความรู้จักและให้ผมแกล้งอีกนานหลังจากเรียนช่วงเช้าเสร็จ ผมกับเพื่อนสนิทก็ลงมาอยู่ห้องสโมสร ห้องที่มีไว้สำหรับประชุมงานเตรียมงานหรือแม้กระทั่งนอนพักสายตา ดีที่อาจารย์​ยกคลาสในช่วงบ่าย ทำให้ผมมีเวลาลงมาอ่านสรุปกิจกรรมเฟรชชี่ที่จะถูกจัดขึ้นในอีกสามสัปดาห์​ข้างหน้า"ท่านประธาน​ครับ" "กวนตีน" "ดาวปีที่แล้วมาขอให้น้องพรีมลงประกวด" รุ่นน้องปีสองและเพื่อนปีสามต่างรู้ว่าเธอคือน้องรหัสของผม และไม่แปลกที่เธอจะโดนทาบทามให้เป็นตัวแทนของคณะ ไม่ใช่เพราะเ

  • รักในความร้าย   บทที่5

    "พรีมมีธุระ"​ ธุระของฉันก็คือจะไปหาของขวัญให้เขายังไงละ"เป็นเด็กเป็นเล็กมีธุระ?" เอ้า! แต่เดี๋ยวนะ! "พรีมไม่เด็กแล้วนะคะ" "ตรงไหน?" สายตาคมไล่มองฉันราวกับจะหาคำตอบให้กับคำถามของเขา แถมสายตานั้นทั้งกรุ่มกริ่มและดูเจ้าชู้มาก อย่างนี้สินะ เวลาเดินไปไหนถึงมีแต่สาวๆ พูดถึงชื่อเขาให้ได้ยินเต็มไปหมดหรือที่จริงแล้ว คำใบ้รูปเสือจะเป็นเขาคนนี้! "อย่ามาชอบเด็กแบบพรีมแล้วกัน" โอ้ย! ตายแล้ว! ยัยพรีมอยากจะตีปากตัวเองจริงเลยเชียว ทำไมเผลอพูดอะไรแบบนั้นออกไปได้นะ"..."ฉันยืนอ้าปากค้างดวงตาเบิกกว้างอึ้งกับคำพูดของตัวเองอยู่เกือบนาทีกว่าสติจะกลับมาก็ตอนที่เขายื่นมือใหญ่มาปิดปากของฉันเอาไว้ คงกลัวว่าจะมีแมลงบินเข้าไปละมั้ง ไม่ได้การละ! ขืนอยู่ตรงนี้ต่อไปฉันได้ทำอะไรตลกๆ ออกมาอีกแน่ รีบเดินจ่ำให้เร็วที่สุดโดยไม่เหลียวหลังกลับมามองคนตัวโตให้รู้สึกอายมากกว่าเดิม เดินตรงไปที่ประตูรั้วมหาวิทยาลัย​เพื่อจะไปรอเรียกรถตรงไปห้างสรรพสินค้า​ไม่ไกลจากคอนโดทำภาระกิจสุดท้ายของวันนี้"ว่าแต่จะซื้ออะไรดีละ" "นาฬิกาดีมั้ยน

  • รักในความร้าย   บทที่4

    "พ พี่คะ" ฉันพาตัวเองเดินกล้าๆ กลัวๆ มาหาใครคนนึงที่นั่งกดมือถืออยู่กับเฮดว้ากตัวพ่อของคณะ ทำไมฉันถึงได้เดินมาหาเขาหน่ะหรอ? ก็เพราะว่าฉันกับใยไหมถามรุ่นพี่ครบทุกคนแล้วยังไงหล่ะ แต่ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันให้เราสองคนมาถามคนที่น่ากลัวที่สุดในห้องนี้ จะเป็นใครได้นอกจากเขาและเฮดว้าก! แค่ยืนเฉยๆ รังสีความดุก็แผ่ออกมาจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้"ครับ" เขาละสายตาจากมือถือแล้วเงยหน้าขึ้นมามองฉัน ที่จริงครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเจอกันพูดคุยกัน แถมวันนี้เป็นครั้งที่สามของวันแล้วด้วยซ้ำ แต่ใจฉันก็ยังไม่กล้าพออยู่ดี"เครื่องบินสีดำคือพี่เลนส์ใช่มั้ยคะ" "ถ้าบอกจะได้อะไร" ต้องมีอะไรมาแลกด้วยหรอ หรือว่าเป็นธรรมเนียมว่าต้องมีของขวัญมาให้พี่รหัส แบบนี้ใช่หรือเปล่านะ"วันนี้พรีมไม่ได้เตรียมมา พรุ่งนี้ได้มั้ยคะ" ฉันก้มมองดูนาฬิกาสีโรสโกลด์ที่ข้อมือ พึ่งห้าโมงเย็น เพราะงั้นวันนี้ยังพอมีเวลาไปเดินห้าง​หาของขวัญ​มาแลกกับคำตอบจากเขา"มาถามใหม่พรุ่งนี้" คิ้วเล็กขมวดแน่นเม้มปากเล็กน้อยอย่างลังเล ก็ใจอยากจะรู้วันนี้เลยนี่นา เพราะถ้าเกิดไม่ใช่เขาขึ้

  • รักในความร้าย   บทที่3

    คิ้วเข้มเลิกขึ้นจงใจมองหน้าคนตัวเล็กเพราะใจอยากรู้ว่าเธอจะทำอย่างไรต่อ แก้มกลมๆ จากที่แต้มสีชมพูพีชบางเบาเวลานี้กลับเปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนลูกมะเขือเทศ ไหนจะตากลมโตเบิกกว้างเท่าไข่ห่านนั่นอีก น่าเอ็นดูชะมัด"ย ใยไหม รีบกินเร็วเดี๋ยวสาย" แต่สุดท้ายเธอกลับหันไปทำเสียงงุ้งงิ้งออกคำสั่งกับเพื่อนกลบเกลื่อนทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่​ แต่ดูเหมือนว่าเธอยิ่งพยายามทำตัวปกติทำทีเป็นตักข้าวกินเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเท่าไหร่ ท่าทางของเธอก็ยิ่งดูลุกลี้ลุกลน​มากเท่านั้น ก่อนจะรีบดึงแขนเพื่อนให้ลุกขึ้นพากันออกไป"ใยไหม แกไม่บอกฉันเลยนะ" "ฉันจะบอกแกยังไงก่อนยัยพรีม""ฉันเลยกินข้าวไม่อิ่มเลย"'หึ' แน่นอนว่าทุกการกระทำและเสียงซุบซิบที่พยายามเอ็ดดุเพื่อน อยู่ในสายตาของผมและได้ยินชัดทุกคำ มีแต่เธอเท่านั้นแหละที่หนีผม เพราะถ้าเป็นคนอื่นคงไม่ปล่อยให้โอกาสดีดีที่ได้นั่งข้างกันแบบนี้หลุดลอยไปแน่"หน้าคุ้นๆ หว่ะ""รุ่นน้องโรงเรียน​เก่า""รู้จัก?""รีบกิน" ผมเลี่ยงที่จะตอบคำถามไอ้แฝด ขืนหลวมตัวพูดอะไรออกไป น้องชายของผ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status