Share

บทที่ 318

Author: ไห่ตงชิง
“สิ่งที่ท่านอ๋องกับหม่อมฉันกำลังวางแผนไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องเชื่อใจกัน พระปรีชาญาณของท่านอ๋องนั้นไม่ธรรมดา หม่อมฉันไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก ท่านอ๋องย่อมเข้าใจเป็นธรรมดา”

สตรีศักดิ์สิทธิ์กล่าวเสียงราบเรียบ “ตามที่เราได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ หม่อมฉันรับหน้าที่ในการลอบสังหาร ส่วนท่านอ๋องรับหน้าที่ในการหาโอกาสและวางแผน”

“พวกเรารออยู่ในเมืองหลวงมาสักระยะแล้ว วันนี้ฝ่าบาทได้เชิญหม่อมออกมา นอกจากการทดสอบแล้ว พระองค์ทรงมีแผนอะไรบ้างไหม?”

หลี่อิ๋นหู่ตอบว่า “มีแผนแน่นอน”

“อีกไม่นาน หลังจากเริ่มต้นปีใหม่ จะเป็นวันที่ทางตำหนักบูรพามอบสินสอดทองหมั้นให้กับซูจิ่นพ่า บุตรสาวของท่านแม่ทัพใหญ่ ตำหนักบูรพากับจวนแม่ทัพใหญ่กำลังจะเกี่ยวดองกัน องค์รัชทายาทต้องการอภิเษกสมรสซูจิ่นพ่า บุตรสาวของแม่ทัพใหญ่ซูเจิ้นถิงเป็นพระชายา และตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นนี้ไป องค์รัชทายาทก็จะออกจากตำหนักบ่อยขึ้น เพื่อเสด็จไปพบกับซูจิ่นพ่า ข้าวางแผนที่จะล่อองค์รัชทายาทออกจากพระตำหนักแล้วลอบสังหารเขา”

“เวลานี้เป็นเทศกาลตรุษจีน การป้องกันของทุกฝ่ายก็ผ่อนคลายลงพร้อมๆ กัน นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของปี หากพลาด ก็
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 319

    “สูงส่งมากนักเหรอ!”หลี่อิ๋นหู่กัดฟันพูดประโยคหนึ่ง จากนั้นรูปลักษณ์และรูปร่างที่ไม่มีใครเทียบได้ของสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา ดวงตาที่เย็นชาก็ปรากฏเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นมา หลายปีที่ผ่านมา สิ่งเดียวที่อยู่ในใจของเขาก็คืออำนาจเดิมทีเขาคิดว่าตัวเองคงไม่สนใจผู้หญิง และจะไม่ถูกผู้หญิงล่อลวงโดยเด็ดขาดแต่หลังจากพบกับสตรีศักดิ์สิทธิ์แล้ว หลี่อิ๋นหู่ก็ค้นพบว่านอกจากอำนาจแล้ว ยังมีบางสิ่งที่สามารถทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงได้ถ้าวันหนึ่งข้าสามารถมีสตรีเช่นนี้อยู่ใต้ร่างได้ จะรู้สึกอย่างไรกันนะ...ลมหายใจของหลี่อิ๋นหู่พลันถี่รัว เขายกจอกเหล้าขึ้นมาแล้วเงยหน้าเพื่อดื่ม แต่อย่างไรก็ตาม สุราฤทธิ์ร้อนแรงก็ไม่อาจดับไฟในกายของเขาได้ กลับกัน ยังทำให้เปลวไฟลุกโชนมากยิ่งขึ้น “มานี่” หลี่อิ๋นหู่หายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก ข้างหลังเขามีชายชราคนหนึ่งเดินออกมาราวกับภูติผีชายชราผู้นี้ คือชายชราที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องลับภายในจวนของหลี่อิ๋นหู่วันนั้น“ท่านอ๋อง” ชายชรายืนอยู่ข้างหลังหลี่อิ๋นหู่ และพูดด้วยความเคารพ “สตรีศักดิ์สิทธิ์ของสำนักบัวขาว เจ้าได้สังเกตนางอย่างละเอี

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 320

    ชายชราก้มศีรษะลงและพูดด้วยความเคารพ “ท่านอ๋องทรงทะเยอทะยานมาก กระหม่อมยินดีจะบุกน้ำลุยไฟ และสละชีวิตเพื่อท่านอ๋อง!”หลี่อิ๋นหู่กล่าวอย่างพอใจว่า “ดีมาก ข้าจะไม่ปฏิบัติต่อเจ้าอย่างเลวร้าย เมื่อข้าประสบความสำเร็จ พวกเจ้าทุกคน จะได้เป็นขุนนางตามมังกร[footnoteRef:1] ส่วนเจ้าคือผู้ที่มีผลงงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!” [1: ขุนนางตามมังกร หมายถึง กลุ่มคนที่สนับสนุนองค์ชายหรือเชื้อพระวงศ์ชายจนสามารถขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิได้] ดวงตาของชายชราเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น เขามองไปที่หลี่อิ๋นหู่ ราวกับว่าพวกเขาทั้งสองได้เห็นวันที่พวกเขาประสบความสำเร็จแล้ว ขณะเดียวกัน ในตำหนักบูรพา“เตาดินเผาใบเล็กจากดินแดง เหล้าต้มใหม่ลอยน้ำดั่งมดเขียว ยามราตรีหิมะโปรยปราย ขอร่วมเมาซักจอกได้หรือไม่?”ในสวนดอกไม้ด้านหลังของตำหนักบูรพา หลี่เฉินซึ่งสวมชุดผ้าไหมสีเหลืองสดใส กำลังทำบางสิ่งบางอย่างกับเตาถ่านขนาดเล็กและตรงข้ามเขาก็คือ ซูจิ่นพ่าที่สวมเสื้อคลุมผ้าต่วนปักลายอันงดงาม ขนตาสีขาวหิมมะบนใบหน้าเล็กๆ เผยท่าทางโกรธเคืองอย่างน่ารักเมื่อเห็นเหล้าเหลืองเดือดปุดๆ บนเตาถ่าน หลี่เฉินก็ยกกาเหล้าขึ้นมา จากนั้นก็โยนบ๊วยส

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 321

    “ไม่ใช่ว่าอัจฉริยะทั้งสองประเภทนี้จะไม่มี เพียงแต่ว่าอัจฉริยะเช่นนี้ ไม่มีปรากฏในราชวงศ์มาร้อยปีแล้ว บางทีอาจจะมีขึ้นแล้ว แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังไม่ได้มารับใช้ข้า ดังนั้นสำหรับข้าพวกเขาจึงไม่มีอยู่จริง”เมื่อเห็นซูจิ่นพ่ามีท่าทีครุ่นคิดแต่ยังคงไม่สบายใจ หลี่เฉินก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ขุนนางไม่ได้แบ่งแยกดีเลว ไม่ว่าพวกเขาจะโลภหรือว่าซื่อสัตย์ก็ตาม สำหรับข้าก็แค่ว่า คนแบบไหนสามารถใช้การได้ในสถานการณ์แบบไหน ตราบใดที่มีประโยชน์ ไม่ว่านิสัยจะเป็นเช่นไร มันก็ไม่สำคัญ” “แน่นอนว่าขุนนางที่ซื่อสัตย์ก็ควรใช้ แต่ไม่สามารถใช้มากเกินไป ส่วนขุนนางโลภควรใช้ให้มากขึ้น แต่ไม่สามารถใช้ซ้ำได้”เมื่อประโยคนี้หลุดออกมา ซูจิ่นพ่าก็ดูตกใจเล็กน้อยกับวิธีใช้คนของหลี่เฉินนางรู้สึกว่านี่คือหลักการที่ไม่ถูกต้อง แต่เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้ว ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติกับเรื่องนี้“เอาล่ะ นี่เป็นเทคนิคของจักรพรรดิ เจ้าเป็นผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเรียนรู้สิ่งนี้” หลี่เฉินกล่าวซูจิ่นพ่ากล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจทันที “ผู้หญิงแล้วอย่างไร? ราชวงศ์ก่อนยังมีมู่หลาน แต่สตรีในราชวงศ์นี้กลับอ่อนแอกว่างั้นหรือ? หลายครั้งก็มีเรื่องที่ผู้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 322

    ซูจิ่นพ่าไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าตระกูลหลงนี้มาจากไหนแต่นางก็รู้ดีว่าในสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ การที่ตระกูลจากมณฑลซีซาน ส่งจดหมายขอเข้าเฝ้ามาที่ ตำหนักบูรพา เกรงว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องเรียบง่าย “เช่นนั้นข้าขอกลับก่อน”ซูจิ่นพ่าลุกขึ้นยืนคิดอยากจะหลีกเลี่ยงการระแวงสงสัย  “กลับไปทำไม”หลี่เฉินวางชามเหล้าในมือลง และเอื้อมมือไปรับจดหมายจากขันที เขากวาดสายตาอ่านอย่างคร่าวๆ และพูดกับซูจิ่นพ่าโดยไม่เงยหน้าว่า “เราตกลงที่จะทานอาหารเย็นด้วยกัน บิดาของเจ้ายุ่งอยู่กับกิจของทหาร ส่วนพี่ชายของเจ้าก็ออกเดินทางไปแล้ว ในเมื่อเจ้าอยู่บ้านคนเดียว ไม่สู้อยู่กับข้าที่นี่จะดีกว่า” ข้าแบบทางการการเปลี่ยนคำแทนตัวอย่างกะทันหันนี้ ทำให้ซูจิ่นพ่ารู้ว่าตอนนี้ หลี่เฉินเข้าสู่บทบาทองค์รัชทายาท และกำลังพูดคุยกับนางในฐานะองค์รัชทายาทหลี่เฉินไม่ใช่หลี่เฉินที่เคยแทนตัวเองว่า ‘ข้า’ แบบก่อนหน้านี้ และนางก็ไม่สามารถทำตัวตามสบายได้ “เพคะ” ซูจิ่นพ่าตอบรับอย่างเบื่อหน่ายด้วยเหตุผลบางอย่าง นางชอบที่จะได้ยินหลี่เฉินเรียกตัวเองว่า ‘ข้า’ อย่างไม่เป็นทางการมากกว่าคำว่าข้านี

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 323

    แม้ว่าเขาจะไม่มีความสุข แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนอย่างหลงเทียนเต๋อจะขอเงินคืนก็แค่เงินสิบตำลึงเท่านั้นเอง แม้ในตอนนี้ด้วยเงินจำนวนนั้นจะสามารถซื้อเด็กสาวที่งดงามได้สามคนก็ตาม แต่สำหรับหลงเทียนเต๋อนั้น ก็แค่ขนหนึ่งเส้นในวัวเก้าตัว เมื่อมองขันทีตัวน้อยจากไป หลงเทียนเต๋อก็กัดฟันและหันไปหาหลงไหวอวี้ลูกชายของเขาแล้วพูดว่า “องค์รัชทายาทผู้นี้จงใจวางอำนาจใส่พวกเรา” “ท่านพ่อ โปรดอดทนไว้”หลงไหวอวี้พูดอย่างใจเย็น “ถ้าเขาต้องการอวดศักดิ์ศรีองค์รัชทายาท ก็ปล่อยให้เขาทำไป สิ่งที่เราต้องการก็คือชัยชนะ ดังนั้นทำไมไม่รอตอนนี้เลย” หลงเทียนเต๋อตาค้าง “ยังจะรออีกหรือ?”“ไม่อย่างนั้นจะทำอย่างไร?”หลงไหวอวี้แบมือแล้วกล่าวว่า “องค์รัชทายาททรงตรัสอย่างชัดเจนว่า หากไม่รอก็กลับไป หรือพวกเราจะกลับไปมณฑลซีซานแล้วรอ? เช่นนั้นการเดินทางในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะไร้ประโยชน์ แต่ยังทะเลาะกับองค์รัชทายาทอีกด้วย ในอนาคตคงคุยกันลำบาก” “เขากล้า!?”หลังจากที่หลงเทียนเต๋อพูดจบ เขาก็รู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาทุกวันนี้ จู่ๆ พวกกบฏก็เงียบไป ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ทันทีที่กลุ่มกบฏหยุด กองกำลังท้องถิ่นในมณฑลซีซาน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 324

    หลังจากความวุ่นวายดังกล่าว ซูจิ่นพ่าก็ไม่กินอาหารที่หลี่เฉินคีบมาให้อีกต่อไป แต่กินเพียง...ผักไม่กี่อย่างที่นางรู้จักเท่านั้น แต่ทว่า นางไม่มีทางเลือกมากนัก เมื่อทั้งสองคนกินข้าว ก็มีแค่อาหารสามอย่างและซุปหนึ่งอย่างกบผัดแห้งหนึ่งจาน ซุปกะหล่ำปลีหนึ่งถ้วย รากบัวผัดผักชีฝรั่งอีกหนึ่งจาน และที่เหลือคือซุปมันเทศฟู่หรงหากอาหารเหล่านี้อยู่ในบ้านของคนทั่วไป มื้อนี้คงเป็นมื้อที่ไม่เลวสำหรับพวกเขา เพราะท้ายที่สุดแล้วสถานการณ์ในปัจจุบันก็เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่นี่คือตำหนักบูรพา และนี่คือพระกายาหารค่ำขององค์รัชทายาท “เจ้าทานอะไรง่ายๆ เช่นนี้ทุกวันหรือ?” เมื่อเห็นอาหารสามอย่างกับซุปหนึ่งอย่างของอีกฝ่าย ความโกรธของซูจิ่นพ่าก็ค่อยๆ ลดลงเล็กน้อยก่อนที่หลี่เฉินจะได้ตอบ วั่นเจียวเจียวซึ่งยืนอยู่ข้างหลังหลี่เฉินก็ตอบว่า “ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของตำหนักบูรพาในวันธรรมดา เน้นไปที่ความประหยัด ถ้าหากฝ่าบาททรงเสวยพระกายาหารเพียงคนเดียว ก็จะทรงเสวยอาหารสองอย่างและข้าวหนึ่งถ้วย หรือแค่หมั่นโถวเท่านั้น ฝ่าบาทเคยตรัสว่าแม้การประหยัดอาหารแค่มื้อเดียว ไม่อาจช่วยบ้านเมืองและราษฎรได้ แต่ถ้าหากราชว

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 325

    “มาแล้ว!” หลงไหวอวี้ตาเป็นประกาย เขาก้าวเท้าไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว สองพ่อลูกคิดว่านี่คงจะเป็นคนที่ตำหนักบูรพาส่งมาเรียกพวกเขาสองพ่อลูกเข้าไปแน่ๆ แต่ก้าวไปได้แค่ก้าวเดียว พวกเขาสองพ่อลูกก็พบว่าสิ่งที่ออกมาจากด้านในของตำหนักบูรพา ไม่ใช่คนมาเรียก แต่เป็นรถม้ารถม้าที่งดงามและหรูหราออกมาจากประตูตำหนักบูรพา และค่อยๆ แล่นไปข้างหน้าสองพ่อลูก “หรือว่าจะเป็นการประชุมลับนอกพระราชวังหรือเปล่า?”หลงเทียนเต๋อถามอย่างสงสัยหลงไหวอวี้หรี่ตามองรถม้าที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นผู้หญิง เขาส่ายหัวเล็กน้อย ปิดปากแน่นโดยไม่พูดอะไร รถม้าค่อยๆ หยุดลงต่อหน้าสองคนพ่อลูกม่านในรถถูกเปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าที่สวยงามของซูจิ่นพ่าแม้ในคืนที่หนาวเย็น ความงามของซูจิ่นพ่าก็นำแสงสว่างมาสู่โลกที่มืดมิดสองพ่อลูกที่รู้สึกว่าใกล้จะตัวแข็งเต็มทีก็ตาเป็นประกายขึ้นมา ราวกับว่ากลิ่นหอมบนร่างของสตรีได้ลอยออกมากระทบกับปลายจมูกของพวกเขา ทำให้รู้สึกสดชื่น และหลงไหวอวี้ที่ยังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ ก็ยิ่งใจสั่นไหวมากขึ้น เขามักจะรู้สึกว่าผู้หญิงก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง แต่ตอนนี้เขาได้ตระหนักแล้วว่า สต

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 326

    เกือบจะเที่ยงของวันรุ่งขึ้น หลงเทียนเต๋อและหลงไหวอวี้ก็ออกมาจากโรงเตี๊ยม ตามที่พวกเขาคุยกันเมื่อคืนนี้ พวกเขาจะกินข้าวกลางวันก่อน จากนั้นก็ค่อยไปที่ตำหนักบูรพาอย่างเชื่องช้า“ท่านพ่อไม่ต้องกังวล ถ้าหากท่านกับข้าไม่ไปในตอนเช้า องค์รัชทายาทคงกำลังจะว้าวุ่นอยู่ และจะให้พวกเราเข้าไปในตำหนักบูรพาวันนี้อย่างแน่นอน”เมื่อกระซิบคำวิเคราะห์กับหลงเทียนเต๋อ หลงไหวอวี้ก็แสยะยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ตราบใดที่เขากังวล เราก็จะได้เปรียบ” “เช่นนั้นก็ดีมาก” หลงเทียนเต๋อพยักหน้า รู้สึกว่าลูกชายของเขาพูดถูกขณะที่สองพ่อลูกเพิ่งออกมาจากโรงเตี๊ยม และกำลังมองหาสถานที่รับประทานอาหารกลางวัน หลงไหวอวี้ที่เงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะไม่กี่ตัวของร้านแผงลอยขายซาลาเปาฝั่งตรงข้ามฝ่ายชายมีหน้าตาที่หล่อเหลา และบรรยากาศที่ไม่ธรรมดา ฝ่ายหญิงมีใบหน้าที่งดงาม นับเป็นเอกสตรีผู้หนึ่งแม้ว่าชายหญิงคู่นี้จะสวมเสื้อผ้าธรรมดา และนั่งทานซาลาเปาที่ธรรมดาที่สุดและดื่มน้ำเต้าหู้ตามปกติ แต่พวกเขาก็ดูแตกต่างจากคนทั่วไปที่อยู่รอบตัวพวกเขาอยู่ดี หลงไหวอวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อยพูดตามหลักเหตุผ

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1071

    เฉินทงแสดงอาการภูมิใจออกนอกหน้า คำพูดที่เปล่งออกมายังแฝงแววโอ้อวด จนหลี่เฉินต้องเหลือบตามองเขาด้วยความรำคาญ ขณะนั้นเอง เสียงกรีดร้องของต้วนจิ่นเจียงก็ดังขึ้น เมื่อปลายนิ้วแรกถูกตัดออก ความเจ็บปวดจากนิ้วที่เชื่อมโยงถึงหัวใจนั้นทำให้เขาดิ้นพล่านราวกับเสียสติ “หลี่เฉิน! เจ้าจะไม่มีวันตายดี! จะไม่มีวันตายดีแน่!!” ในตอนนี้ ต้วนจิ่นเจียงเริ่มรู้สึกเสียใจเสียแล้ว เสียใจที่ตนเองดึงดันต้องมาที่เมืองหลวงเพื่อฆ่าหลี่เฉินด้วยมือตนเอง เขานึกถึงคำพูดที่เหวินอ๋องกล่าวไว้ก่อนออกเดินทาง จู่ๆ ก็เริ่มสงสัยว่า บางทีเหวินอ๋องอาจคาดการณ์ถึงจุดจบเช่นนี้แล้ว ถึงได้พูดคำคลุมเครือเช่นนั้นออกมา เสียดายที่ตนเอง...ไม่อาจเข้าใจ ตอนนี้ สิ่งเดียวที่เขาคิดได้ ก็คือพยายามยั่วโมโหลี่เฉิน ให้เขาสังหารตนเสียในคราวเดียว แต่หลี่เฉินกลับไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เวลานี้ หลี่เฉินได้มายืนอยู่ตรงหน้าของหลงไหวอวี้แล้ว “เงยหน้าขึ้น” หลี่เฉินเอ่ยเสียงเรียบ หลงไหวอวี้ตัวสั่นไปทั้งร่าง เมื่อได้ยินเสียงปราศจากอารมณ์จากเหนือศีรษะ เขาเงยหน้าขึ้นมองหลี่เฉินโดยไม่รู้ตัว สิ่งที่เขาเห็น คือดวงตาที่เย็นชา ร

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1070

    เสียงหนึ่งประโยคจากหลงไหวอวี้ที่ตะโกนไล่หลัง ยิ่งตอกย้ำความเป็นศิษย์อาจารย์ที่แนบแน่น แรงทะลวงของลูกปืนแต่ละนัดรุนแรงดั่งค้อนทุบ เมื่อกระแทกใส่ร่างมนุษย์ ทีละนัด สองนัด สามนัด แทบทุกคนถูกยิงเข้าร่างกายกว่า 10 นัดในเวลาอันสั้น ในระยะประชิดเช่นนี้ ไม่มีทางรอดชีวิตได้แน่นอน ผู้คุ้มกันหกถึงเจ็ดคนล้มลงกับพื้น ใครโชคดี โดนจุดสำคัญ ตายทันทีโดยไม่รู้สึกเจ็บ ส่วนคนโชคร้าย แม้ยังไม่สิ้นใจ แต่จิตสำนึกก็พร่ามัว ทรมานเจียนสิ้นใจจนไม่อาจเปล่งเสียงร้องได้ เลือดสดไหลไม่หยุด ชีวิตกำลังร่วงหล่นไปทุกขณะ ส่วนต้วนจิ่นเจียง ถูกยิงเข้าที่ขาทั้งสองนัด พอดีโดนตรงหัวเข่าทั้งสองข้าง ไม่ใช่เพราะโชคดี แต่เพราะทหารที่ยิงตั้งใจเลี่ยงจุดสำคัญโดยเจตนา ผั่บ เสียงร่างของต้วนจิ่นเจียงกระแทกลงพื้น ที่เต็มไปด้วยน้ำฝนและเลือด ขณะนั้นเอง หลงไหวอวี้ที่เพิ่งหนีไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกบังคับให้ถอยหลังกลับมา ตรงหน้าผากของเขา จ่อไว้ด้วยปลายปืนดำมืดหนึ่งกระบอก พร้อมกับอีกสี่ห้ากระบอกที่เล็งทุกจุดสำคัญทั่วทั้งร่างกาย เมื่อเห็นชะตากรรมของต้วนจิ่นเจียงและเหล่าทหารกล้า หลงไหวอวี้ก็รู้ทันทีว่าตนไม่อาจต้านทานได

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1069

    เสียงหัวข้าะเบาๆ ของต้วนจิ่นเจียง ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นหัวข้าะลั่น ก่อนจะกลายเป็นเสียงหัวข้าะคลุ้มคลั่ง ต้วนจิ่นเจียงราวกับเสียสติ เงยหน้าหัวข้าะอย่างบ้าคลั่ง แม้สายฝนเย็นเฉียบสาดซัดใส่ใบหน้า เขาก็ยังไม่หยุดหัวข้าะ “ดี! ดีมาก!” ต้วนจิ่นเจียงหัวข้าะจนแทบหายใจไม่ออก เขาชี้ไปที่หลี่เฉิน กล่าวด้วยเสียงแหบพร่า “องค์รัชทายาท เจ้านี่ช่างเป็นผู้ถูกมังกรคุ้มครองแท้จริง แม้หลี่อิ๋นหู่กับจ้าวเสวียนจีจะร่วมมือกัน ก็ยังโค่นเจ้าไม่ลง!” “ข้าเพียงเสียดาย ที่ยามท่านอ่อนแอที่สุด ข้ามิได้ลงมือเด็ดขาด ปล่อยให้เจ้าเติบโตมาจนถึงขั้นนี้ ข้า...เสียใจนัก!” สภาพของต้วนจิ่นเจียงเริ่มเข้าสู่ความคลุ้มคลั่งเต็มขั้น ดวงตาแดงฉาน ใบหน้าเหยเกดั่งอสูร “ทำไมกัน! ทำไมข้ารอบคอบวางแผนมาขนาดนี้ เจ้าถึงยังไม่ตาย! มันเป็นเพราะอะไร!” ในถ้อยคำนี้ เต็มไปด้วยความเคียดแค้นและความไม่ยอมแพ้อย่างถึงที่สุด “วางแผนรอบคอบย่อมดี แต่คนอย่างเจ้าที่เอาแต่ซุกซ่อนในมุมมืด ดุจหนอนใต้ซากศพ คอยวางแผนลอบกัดไปวันๆ ยังคิดหวังจะทำการใหญ่ได้หรือ?” หลี่เฉินกล่าวเรียบๆ “ข้าไม่มีเวลามากพอจะปล่อยให้พวกเจ้าถ่วงเล่น มาเข้าเรื่องกัน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1068

    ตึก ตึก ตึก... เสียงฝีเท้าเป็นจังหวะพร้อมเพรียงดังขึ้น ฟังแล้วชวนให้หัวใจพลุ่งพล่านอย่างไม่ทราบสาเหตุ พร้อมเสียงเกราะกระทบกัน สักพักหนึ่ง เหล่าทหารกลุ่มหนึ่งก็เริ่มเข้าสู่ลาน พวกเขาเคลื่อนที่อย่างมีระเบียบและได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี ทันทีที่เข้าสู่ลาน ก็จัดรูปขบวนทันที ล้อมรอบกลุ่มของหลงไหวอวี้ที่ยืนอยู่หน้าศาลบูรพกษัตริย์ การล้อมวงเช่นนี้ ทำให้ต้วนจิ่นเจียงรู้สึกผิดสังเกตขึ้นมาทันทีโดยสัญชาตญาณ “เกิดอะไรขึ้นหรือ อาจารย์?” หลงไหวอวี้ที่รู้สึกว่าต้วนจิ่นเจียงเริ่มตึงเครียดก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย ต้วนจิ่นเจียงตอบเสียงหนักแน่น “พวกทหารเหล่านี้กำลังล้อมข้าอยู่” ต้วนจิ่นเจียงซึ่งเคยเป็นขุนนางกระทรวงกลาโหม ย่อมมีพื้นฐานด้านการยุทธ เขาเพียงแค่ชำเลืองดูก็รู้ว่านี่คือรูปขบวนของทหารต้าฉิน ใช้สำหรับล้อมศัตรูกลุ่มเล็กโดยเฉพาะ หากเป็นคนของหลี่อิ๋นหู่หรือจ้าวเสวียนจี ต่อให้คิดฆ่าพวกเขาก็ไม่ควรจะเป็นเวลานี้ และยิ่งไม่ควรจะทำได้ง่ายดายเช่นนี้ ต้วนจิ่นเจียงหรี่ตาลง พยายามเพ่งมองเครื่องแบบเกราะของทหารเหล่านี้ หวังจะดูให้แน่ชัดว่าเป็นหน่วยใด แต่ด้วยความมืดของยามค่ำคืน และสายฝน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1067

    สายฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เม็ดฝนขนาดเท่าเม็ดถั่วถูกลมพายุหอบพัด แทบจะซัดกระหน่ำในแนวราบใส่สิ่งปลูกสร้างทั้งปวงระหว่างฟ้ากับดิน บนหลังคา ชายคา และพื้นดิน ล้วนถูกฝนกระแทกกระจายเป็นละอองฝอยบางราวกับหมอก ทั่วทั้งผืนฟ้าดินเปียกชุ่มฉ่ำไปหมด เสียงที่ได้ยิน มีเพียงเสียงสายฝนกระหน่ำราวน้ำตก กับเสียงน้ำในร่องน้ำใกล้ๆ ไหลทะลักอย่างไม่อาจต้านทาน บางทีอาจเป็นเพราะสายฝนนี้ หรืออาจเป็นเพราะเหตุจลาจล เมืองหลวงทั้งเมืองจึงเงียบงันอย่างน่าประหลาด ในยามปกติ ต่อให้เป็นยามดึกเพียงใด ตามตรอกซอกซอยในเมืองหลวงก็ยังคงมีผู้คน จะเป็นเสียงฝีเท้าผ่านไปมา หรือเสียงพูดคุยจากลานบ้านข้างเคียงก็ตามที แต่ไม่ใช่เช่นคืนนี้ ที่ดูราวกับผู้คนล้วนหายไปจนสิ้น สิ่งเดียวที่ยังมองเห็นบนท้องถนน คือทหารที่เร่งฝีเท้าเดินผ่านไป แม้แต่เหล่าทหารเหล่านั้น ต่างก็เฝ้าระวังราวกับกำลังเผชิญศัตรู บางคนถึงกับมีบาดแผลติดตัว ฟ้าดินแห่งเมืองหลวงพลิกผัน ไม่มีผู้ใดกล้าประมาท ในวันนี้ไม่รู้ว่ามีผู้คนล้มตายไปมากเพียงใด เสียงระเบิดในช่วงกลางวันดังสนั่นราวกับฟ้าร้อง ยังทำให้ชาวบ้านพากันปิดประตูหน้าต่าง ไม่กล

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1066

    ประโยคแรกที่ฮ่องเต้ต้าสิงตรัสออกมา ก็ทำให้บรรยากาศในตำหนักบรรทมเคร่งเครียดถึงขีดสุด จ้าวเสวียนจีก้มหน้า สีหน้าอ่อนน้อม เอ่ยด้วยเสียงเบา “ขอฝ่าบาททรงอภัย กระหม่อมมิกล้าพ่ะย่ะค่ะ” “ไม่กล้า?” ฮ่องเต้ต้าสิงแค่นเสียงเย็น ก่อนจะก้าวออกจากที่ประทับมายืนตรงหน้าจ้าวเสวียนจี แล้วตรัสว่า “ยังมีสิ่งใดบ้าง ที่เจ้าไม่กล้า?” จ้าวเสวียนจีก้มหน้า เขามองเห็นช่วงล่างของฮ่องเต้ต้าสิงในระยะประชิด พระวรกายของฮ่องเต้ต้าสิงอ่อนแอยิ่งนัก ขณะทรงยืนอยู่นั้น พระวรกายก็สั่นเล็กน้อย ชัดเจนว่าการยืนอยู่นี้ลำบากอย่างยิ่ง ต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อทรงกาย แต่ถึงแม้จะเป็นเพียงชายชราอ่อนแรงดั่งเปลวเทียนกลางสายลม เพียงแค่พระองค์ยังมีลมหายใจ ยังลืมพระเนตร แผ่นดินต้าฉินก็ยังไม่ถึงคราวล่มสลาย “ตั้งแต่เจ้าฝังอาจารย์ของเจ้าคือหลินจือเป้าในคดีแสดงความยินดีปีใหม่ แล้วเริ่มรวบรวมพรรคพวก ผูกมิตรแบ่งพรรค ตั้งตัวเป็นใหญ่อย่างลับๆ ไปจนถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ที่ด่านเย่ว์หยา แผนการลอบเร้นอันโหดร้ายแต่ละเรื่อง ล้วนสะเทือนใจอย่างยิ่ง เจ้าคิดว่าข้าจะไม่รู้หรือ? แล้วเจ้ากลับกล้ากล่าวว่าเจ้าไม่กล้า?” ถ้อยคำของฮ่องเต้ต้าส

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1065

    “ซานเป่าใช้งานได้ดี หน่วยบูรพาก็ใช้งานได้ดี แต่ก่อนจะลงมือทำสิ่งใด หรือตัดสินใจต่อผู้ใด เจ้าจำเป็นต้องคิดให้รอบคอบว่า การกระทำของเจ้าจะก่อให้เกิดผลต่อเนื่องเช่นไรบ้าง” “หากซานเป่าตาย หน่วยบูรพาที่อยากอยู่รอดต่อไปก็จะต้องพึ่งพาเจ้ายิ่งขึ้น ดังนั้น เจ้าต้องใช้หน่วยบูรพาต่อไป และควบคุมหน่วยบูรพาไว้ให้มั่น การให้ซานเป่าตายจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด” “ยิ่งไปกว่านั้น ราชสำนักปั่นป่วน ขุนนางทั่วแผ่นดินต่างลำบากใจกับหน่วยบูรพามานาน แต่หน่วยบูรพายังมีคุณค่าที่ควรคงไว้ การรักษาหน่วยบูรพาไว้ย่อมเป็นประโยชน์กับเจ้ามากกว่า ดังนั้น เจ้าห้ามแตะต้องหน่วยบูรพา แต่ซานเป่าล่ะ? ตายไปคนหนึ่ง เจ้าไม่เพียงควบคุมหน่วยบูรพาได้แน่นขึ้น แต่ยังปลอบใจขุนนางทั้งราชสำนัก ให้พวกเขาได้ระบายออกบ้าง ซานเป่าตาย มีแต่ได้ ไม่มีเสีย” ฮ่องเต้ต้าสิงเปรียบประหนึ่งชี้แนะด้วยใจจริง พระองค์ตรัสว่า “จ้าวเสวียนจีก็เป็นเหตุผลเดียวกัน หากจ้าวเสวียนจีตาย ราชสำนักจะวุ่นวาย ขุนนางไม่สงบ ประชาชนก็หวั่นไหว ที่สำคัญที่สุด คือแผ่นดินอาจระส่ำระสาย” “เมื่อบ้านขาดหมาร้ายเสียตัวหนึ่ง ญาติชั่วและเพื่อนบ้านเลวเหล่านั้น ก็จะเริ่มคิดว่า

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1064

    เมื่อฮ่องเต้ต้าสิงตรัสมาถึงตรงนี้ ความหมายก็ชัดเจนยิ่งนัก หลี่เฉินถอนหายใจยาว เอ่ยว่า “ต่อให้ไม่ใช่จ้าวเสวียนจี ลูกก็ไม่อาจวางใจได้อยู่ดีพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้ต้าสิงมิได้กริ้ว พระองค์ตรัสว่า “เจ้าจะฆ่าเขาก็ได้ แต่ต้องรอให้เจ้าขึ้นครองราชย์ก่อน” “ขุนศึกเปลี่ยนตามกษัตริย์ ขุนนางตามยุค ฮ่องเต้ใหม่ย่อมมีขุนนางใหม่ จ้าวเสวียนจีคือหมากที่ข้าทิ้งไว้ให้เจ้าใช้สร้างอำนาจ แต่ตราบใดที่เจ้ามิได้ขึ้นครองราชย์ ก็ยังไม่อาจแตะต้องเขาได้ มิฉะนั้น ในสายตาขุนนางทั้งแผ่นดิน องค์รัชทายาทยังมิทันครองราชย์ ก็ฆ่าราชเลขาประจำสำนักราชเลขาเสียแล้ว แล้วเมื่อเจ้าขึ้นครองราชย์ พวกเขาจะยังมีทางรอดอีกหรือ?” “เฉินเอ่อร์ ในฐานะฮ่องเต้ ความคิดและวิสัยทัศน์ของเจ้า ห้ามจำกัดอยู่เพียงบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง จ้าวเสวียนจี มิใช่จ้าวเสวียนจี แต่เขาคือตัวแทนของกลุ่มคน กลุ่มราษฎรคือกลุ่มราษฎร อ๋องแห่งแคว้นคืออ๋องแห่งแคว้น ขุนนางท้องถิ่นคือขุนนางท้องถิ่น ขุนนางประจำเมืองหลวงก็คือขุนนางประจำเมืองหลวง” “เจ้าต้องมองเห็นพวกเขาเป็นตัวแทนของกลุ่มต่างๆ แล้วปรับกลยุทธ์ของเจ้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ใช้ว

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1063

    ตามคำอธิบายและเรื่องราวของฮ่องเต้ต้าสิง หลี่เฉินก็เริ่มมองเห็นถึงเบื้องลึกในจิตใจที่แท้จริงของฮ่องเต้พระองค์นี้ สิ่งที่พระองค์ต้องการ คือการสืบทอดราชบัลลังก์โดยไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงรากฐานของบ้านเมือง และขุนนางชั่วอย่างจ้าวเสวียนจี ก็คือประกันภัยอีกชั้นหนึ่งที่พระองค์วางไว้ ตราบใดที่จ้าวเสวียนจียังอยู่ เขาก็จะกระหายอำนาจ และต้องพยายามลดบทบาทของฮ่องเต้แน่นอน แต่การลดบทบาทของฮ่องเต้หาใช่ปัญหาไม่ ขอเพียงฮ่องเต้ยังคงดำรงอยู่ อ๋องแห่งแคว้นย่อมไม่อาจก่อหวอด สถานการณ์ก็จะยังดำเนินต่อไปได้ กล่าวได้ว่า ฮ่องเต้ต้าสิงได้วางหมากไว้สองทาง ทางแรก คือหวังว่าจะมีบุตรผู้หนึ่งสามารถเติบโตขึ้นมาเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ มีสติปัญญาและความสามารถลึกซึ้ง กอบกู้สถานการณ์ได้ แต่เรื่องนี้ยากเกินไป อย่างน้อยในขณะวางแผน ฮ่องเต้ต้าสิงเองก็มองไม่เห็นความหวัง ดังนั้นพระองค์จึงเตรียมทางที่สอง ผลักดันให้เกิดขุนนางชั่วคนหนึ่ง เพื่อรักษาความมั่นคงของการถ่ายโอนอำนาจ แม้ฮ่องเต้จะเป็นเพียงหุ่นเชิด ตราบใดที่ยังเป็นบุตรของฮ่องเต้ต้าสิง แผ่นดินก็จะไม่ล่มสลาย ส่วนอำนาจนั้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status