Share

บทที่ 12

คำพูดเดียวของฉินอวิ๋นฟานราวกับมีสายฟ้าฟาดผ่ากลางมวลชน!

หลัวเหิงมองฉินอวิ๋นฟานด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เห็นเขาไม่เหมือนล้อเล่นจึงเอ่ยปากถาม “ค่ายทานหลางมีทหารทั้งหมดสามพันคน เบี้ยหวัดครึ่งปีไม่ใช่น้อย ๆ นะ”

“ถึงท่านจะเป็นรัชทายาทก็คงไม่มีอำนาจก้าวก่ายกรมคลังให้จ่ายเบี้ยหวัดกระมัง? เพราะกรมคลังอยู่ในการดูแลขององค์ชายใหญ่กับองค์ชายรอง”

“ไป ตามข้าเข้าวัง รับเบี้ยหวัด!”

ฉินอวิ๋นฟานไม่พูดไร้สาระอีก ถ้าอยากดึงค่ายทานหลางเข้าพวกจะต้องแก้ไขปัญหาปากท้องของพวกเขาก่อน สำหรับเรื่องอื่น คงได้แต่รอให้จบเรื่องนี้แล้วค่อยว่ากัน

“เอ่อ...”

หลัวเหิงตะลึงงัน มองอู่จ้านแบบประหลาดใจเล็ก ๆ เพราะอู่จ้านไม่เพียงแต่เคยเป็นพี่น้องที่ดีที่สุดของเขา ยังเป็นคนที่เขาเชื่อที่สุดด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นอดีตหัวหน้าของเขา

“ไป ไปเอาเบี้ยหวัด!”

อู่จ้านตบบ่าของหลัวเหิง ทั้งสองตามไปเดี๋ยวนั้น!

ไม่น่าพวกเขาก็มาถึงกรมคลัง สถานที่ดูเรื่องเงินของต้าเฉียน

“เอ๋ นี่ไม่ใช่รัชทายาทฉินอวิ๋นฟานของต้าเฉียนเราหรือ? ลมอะไรหอบท่านมาได้เนี่ย?”

พอเห็นพวกฉินอวิ๋นฟานมา ชายอ้วนตุ๊ต๊ะอายุสามสิบกว่าและมีไฝอยู่เหนือปากก็รีบมาต้อนรับ ปากก็เกรงใจดีอยู่หรอก ทว่าใบหน้าล้วนเป็นความดูถูก เจอหน้ารัชทายาทรัชกาลปัจจุบันไม่คุกเข่าทำพิธีคารวะ

“ฮั่วหลินใช่ไหม เห็นว่าไม่ได้จ่ายเบี้ยหวัดค่ายทานหลางครึ่งปีแล้ว มีเรื่องเช่นนี้จริงหรือไม่?”

ระหว่างทางฉินอวิ๋นฟานทำความเข้าใจกับกรมคลังโดยสังเขปแล้ว ชายหนุ่มที่มีไฝอยู่เหนือปากมีชื่อเรียกว่าฮั่วหลินนั่นเอง รั้งตำแหน่งรองเจ้ากรมคลังฝ่ายซ้าย เป็นสายหลักของตระกูลฮั่วและเป็นคนสำคัญที่ตระกูลฮั่วจัดแจงให้อยู่ในกรมคลัง

“เรียนรัชทายาท กรมคลังต้องผ่านการวางแผนโดยรวมแล้วจึงจะจ่ายเบี้ยหวัดได้ เบี้ยหวัดของค่ายทานหลางจ่ายไปนานแล้ว สำหรับจะตกถึงมือทุกคนจริงหรือไม่ นั่นไม่อยู่ในการดูแลของกรมคลังเราขอรับ”

ฮั่วหลินปัดสวะให้พ้นตัวทันที โยนความผิดออกไป ให้ตายก็ไม่ยอมรับ

“ฮั่วหลิน เจ้ามันไร้ยางอายโดยแท้ ครึ่งปีมานี้ข้ามาเอาเบี้ยหวัดกับเจ้าไม่ต่ำกว่ายี่สิบหนแล้วกระมัง แม้แต่เศษเงินยังไม่ได้เลย เจ้ากลับบอกว่าจ่ายเบี้ยหวัดแล้ว? แถมยังปัดสวะมาให้ข้าอีก บอกเป็นนัยว่าข้ายักยอกเบี้ยหวัด? เจ้ายังมียางอายอยู่หรือไม่?”

หลัวเหิงบันดาลโทสะทันที เขาเป็นชาตินักรบตรงไปตรงมาเสมอ ไหนเลยจะรับกับความแค้นนี้ได้? ไม่ให้เบี้ยหวัดยังแล้วไป แต่ยังกล้าใส่ความอีก?

“หลัวเหิง เจ้าอย่าไม่รู้จักดีสิ นี่คือกรมคลังนะ ไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะกำแหงได้ ข้าบอกว่าจ่ายแล้วก็คือจ่ายแล้ว รีบไสหัวไปซะ จะเอาใครมาก็ไม่มีประโยชน์!”

หลัวเหิงเบ่ง ฮั่วหลินเบ่งยิ่งกว่า ในฐานะที่เป็นคนตระกูลฮั่วและเป็นลูกหลานสายหลักที่ตระกูลฮั่วบ่มเพาะเป็นพิเศษจะยอมแพ้ไม่ได้อยู่แล้ว ทุกเรื่องที่เขาทำลงไปล้วนเป็นตัวแทนของตระกูลฮั่วทั้งหมด

รัชทายาทแล้วยังไง? รัชทายาทมาก็ยังต้องจ๋อยอยู่ดี จะหน้าไหนก็ไม่ให้ทั้งนั้น อย่าว่าแต่เขาที่เป็นรัชทายาทโง่ ๆ เลย

ฮั่วหลินโต้จนทุกคนพูดไม่ออก สีหน้าของพวกอู่จ้านปั้นยากกว่าเดิม เวลานี้สีหน้าของฉินอวิ๋นฟานดำทะมึนจนแทบจะหยดติ๋งเป็นน้ำได้แล้ว

“ดูท่าเบี้ยหวัดจะไม่ได้จ่ายจริง ๆ สินะ?”

น้ำเสียงของฉินอวิ๋นฟานเริ่มเปลี่ยนเป็นเย็นชา

“จ่ายแล้วจะยังไง? ไม่จ่ายแล้วจะยังไง เจ้าจะทำอะไรข้าได้?”

ฮั่วหลินถลึงตามองฉินอวิ๋นฟาน ในแววตามีแต่ความดูถูกและท้าทาย แต่น่าเสียดาย เขาไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เพราะถ้ารู้...คงไม่โอหังเช่นนี้

ก็ขณะที่ทุกสายตารวมอยู่ที่ตัวฉินอวิ๋นฟาน ในตอนที่รอเขาตัดสินใจว่าจะใช้กลยุทธ์อะไร เห็นเพียงเขาชักกระบี่ออกมาฉับพลัน เสียงกระบี่ดังขึ้น ฮั่วหลินถูกฉินอวิ๋นฟานสังหารในกระบี่เดียว!

“อะไรนะ!!!”

“รัชทายาทฆ่าคนแล้ว?”

จู่ ๆ ฉินอวิ๋นฟานก็สังหารคน ทำเอาขุนนางในกรมคลังที่อยู่ในที่นั้นอึ้งไปเลย คุกเข่าด้วยใบหน้าประหวั่นพรั่นพรึง

“ยังมีใครไม่ยอมอีก? อยากท้าทายอำนาจของข้าหรือไม่?”

ฉินอวิ๋นฟานมองโดยรอบด้วยความผยอง น้ำเสียงเย็นชาที่สุด เจตนาสังหารเข้มข้นข่มขวัญทุกคนในที่นั้นทันที!

สายตาที่พวกอู่จ้านและหลัวเหิงมองฉินอวิ๋นฟานเต็มไปด้วยความครั่นคร้าม เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานพวกเขาแค่ได้ยินมาเท่านั้น วันนี้กลับได้เห็นกับตาตัวเอง รัชทายาทเผด็จการยิ่งนัก

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครตอบกลับ ฉินอวิ๋นฟานจึงถามอย่างเย็นชาว่า “เบี้ยหวัดของค่ายทานหลางจ่ายหรือยังกันแน่? รีบเอาตัวคนรับผิดชอบมา ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าไม่เว้น!”

ครั้นได้ยินคำพูดนี้ ขุนนางกรมคลังคนอื่น ๆ ก็ตกใจจนสั่นพั่บ แม้แต่ฮั่วหลินยังกล้าสังหาร แล้วพวกเขาจะไม่เหมือนมดที่บี้ก็ตายง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ?

“ยัง ยังไม่ได้จ่ายขอรับ!”

ชายชราผมขาวอายุห้าสิบต้น ๆ เดินออกมาแบบตัวสั่นงันงก ไม่มีความกล้าที่จะมองฉินอวิ๋นฟานสักสายตา

“เจ้าเป็นใคร?”

ฉินอวิ๋นฟานถามเสียงเข้ม

“ข้าน้อยหวังหลิน รองเจ้ากรมคลังฝ่ายขวาขอรับ!”

หวังหลินตอบคำถามอย่างระมัดระวัง

“ค้างเบี้ยหวัดของค่ายทานหลางเท่าไร เจ้ารู้หรือไม่?”

“รู้ขอรับ แต่ละคนเดือนละสองตำลึงเงิน ทั้งหมดสามพันคน รวมของหัวหน้าค่ายหลัวเหิงเดือนละห้าตำลึงเงิน ทั้งหมดค้างสามหมื่นหกพันสามสิบตำลึงเงินขอรับ”

หวังหลินตอบตามความจริง

ครั้นเห็นหวังหลินตอบตามจริง ใบหน้าของหลัวเหิงก็ฉายความยินดีออกมาในที่สุด ความน้อยใจที่เก็บกดอยู่ในหัวใจนับว่าได้รับการปลดปล่อย!

“จ่ายเป็นคนละสิบตำลึงต่อเดือน หัวหน้าค่ายหลัวเหิงเดือนละสามสิบตำลึง ทั้งหมดหกเดือน รวมหนึ่งแสนแปดหมื่นหนึ่งร้อยแปดสิบตำลึง รีบจ่ายมาเร็ว!”

ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย

“อะไรนะ? หนึ่งแสนแปดหมื่นหนึ่งร้อยแปดสิบตำลึงหรือ?”

หวังหลินใบหน้าเปลี่ยนสีฉับพลัน “รัชทายาท นี่ กรมคลังไม่เคยจ่ายเบี้ยหวัดเช่นนี้นะขอรับ”

“ไม่เป็นไร เจ้าจ่ายไปก็พอ มีข้าอยู่ นี่จะเป็นเรื่องปกติ เจ้าต้องเตรียมใจเอาไว้นะ ไปดำเนินการตามนั้นก็พอ ใครไม่ยอมก็ให้มันมาหาข้าตรง ๆ”

ฉินอวิ๋นฟานพูดหนักแน่น ไม่ให้โอกาสอธิบายกับหวังหลิน

“ขอ ขอรับ!”

หวังหลินเพิ่งรับบทเรียนจากฉากที่ฉินอวิ๋นฟานตวัดกระบี่เอาชีวิตคน เขาไม่กล้าขัดขืน ขืนพูดมากอีกคำก็คือไม่ให้ความสำคัญกับชีวิตตัวเอง

“รัช รัชทายาท ท่านแน่ใจหรือขอรับว่าจะให้ทหารคนละสิบตำลึงต่อเดือน? ขนาดยอดมือธนูยังไม่เคยได้รับเช่นนี้มาก่อนเลย”

ยามนี้หลัวเหิงราวกับเพิ่งตื่นจากความฝัน ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย รัชทายาทมาถึงก็เพิ่มเงินเดือนให้ทุกคนห้าเท่า ความสุขจะมาแบบกะทันหันไปหน่อยแล้วกระมัง?

และเรื่องที่ทำให้เขาเหนือคาดยิ่งกว่าคือ รัชทายาทแข็งกร้าวมาก เผด็จการที่สุด มาดราชันเต็มเปี่ยม สะใจยิ่งนัก!

“แค่สิบตำลึงเงินก็พอใจแล้วหรือ?”

ฉินอวิ๋นฟานยกยิ้มมุมปาก “หานซิ่น กลับไปเรื่องแรกก็คือทำหนังสือข้อมูลครอบครัวของทหารทุกคน จัดสรรที่เดินตามจำนวนสมาชิกในครอบครัว พร้อมชดเชยสองตำลึงทุกเดือน ถ้าทหารเสียชีวิต ราชสำนักจะเลี้ยงดูครอบครัวของเขาจนตาย ดำเนินการทันที!”

ครั้นคำพูดนี้โพล่งออกมา ทุกคนต่างตะลึงงันอยู่กับที่ มองรัชทายาทที่อยู่ตรงหน้า ทึ่งอย่างปราศจากสิ่งใดเทียบเทียม

ทุกแคว้นทุกสมัย ไม่เคยปรากฏสถานการณ์ที่ทหารตายราชสำนักจะเลี้ยงดูครอบครัวเขาจนตาย กระทั่งมีหลายที่ที่ใช้กำลังจับชายฉกรรจ์เพื่อเสริมกองทัพ ไม่มีเหตุผลให้กล่าวถึง

“นี่...”

ยามนี้หลัวเหิงตาแดงน้อย ๆ รู้สึกถึงความอบอุ่นในการเป็นทหารครั้งแรก ความรู้สึกที่ถูกมองว่าเป็นคนมันยอดเยี่ยมจริง ๆ เรื่องที่ว่าเมื่อก่อนรัชทายาทเป็นอย่างไรนั้นเขาก็แค่ได้ยินมาเฉย ๆ

ฉินอวิ๋นฟานในตอนนี้คือเทพในดวงใจเขา...

Bab terkait

Bab terbaru

DMCA.com Protection Status