Share

บทที่ 12

Author: เมิ่งซานเชียน
คำพูดเดียวของฉินอวิ๋นฟานราวกับมีสายฟ้าฟาดผ่ากลางมวลชน!

หลัวเหิงมองฉินอวิ๋นฟานด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เห็นเขาไม่เหมือนล้อเล่นจึงเอ่ยปากถาม “ค่ายทานหลางมีทหารทั้งหมดสามพันคน เบี้ยหวัดครึ่งปีไม่ใช่น้อย ๆ นะ”

“ถึงท่านจะเป็นรัชทายาทก็คงไม่มีอำนาจก้าวก่ายกรมคลังให้จ่ายเบี้ยหวัดกระมัง? เพราะกรมคลังอยู่ในการดูแลขององค์ชายใหญ่กับองค์ชายรอง”

“ไป ตามข้าเข้าวัง รับเบี้ยหวัด!”

ฉินอวิ๋นฟานไม่พูดไร้สาระอีก ถ้าอยากดึงค่ายทานหลางเข้าพวกจะต้องแก้ไขปัญหาปากท้องของพวกเขาก่อน สำหรับเรื่องอื่น คงได้แต่รอให้จบเรื่องนี้แล้วค่อยว่ากัน

“เอ่อ...”

หลัวเหิงตะลึงงัน มองอู่จ้านแบบประหลาดใจเล็ก ๆ เพราะอู่จ้านไม่เพียงแต่เคยเป็นพี่น้องที่ดีที่สุดของเขา ยังเป็นคนที่เขาเชื่อที่สุดด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นอดีตหัวหน้าของเขา

“ไป ไปเอาเบี้ยหวัด!”

อู่จ้านตบบ่าของหลัวเหิง ทั้งสองตามไปเดี๋ยวนั้น!

ไม่น่าพวกเขาก็มาถึงกรมคลัง สถานที่ดูเรื่องเงินของต้าเฉียน

“เอ๋ นี่ไม่ใช่รัชทายาทฉินอวิ๋นฟานของต้าเฉียนเราหรือ? ลมอะไรหอบท่านมาได้เนี่ย?”

พอเห็นพวกฉินอวิ๋นฟานมา ชายอ้วนตุ๊ต๊ะอายุสามสิบกว่าและมีไฝอยู่เหนือปากก็รีบมาต้อนรับ ปากก็เกรงใจดีอยู่หรอก ทว่าใบหน้าล้วนเป็นความดูถูก เจอหน้ารัชทายาทรัชกาลปัจจุบันไม่คุกเข่าทำพิธีคารวะ

“ฮั่วหลินใช่ไหม เห็นว่าไม่ได้จ่ายเบี้ยหวัดค่ายทานหลางครึ่งปีแล้ว มีเรื่องเช่นนี้จริงหรือไม่?”

ระหว่างทางฉินอวิ๋นฟานทำความเข้าใจกับกรมคลังโดยสังเขปแล้ว ชายหนุ่มที่มีไฝอยู่เหนือปากมีชื่อเรียกว่าฮั่วหลินนั่นเอง รั้งตำแหน่งรองเจ้ากรมคลังฝ่ายซ้าย เป็นสายหลักของตระกูลฮั่วและเป็นคนสำคัญที่ตระกูลฮั่วจัดแจงให้อยู่ในกรมคลัง

“เรียนรัชทายาท กรมคลังต้องผ่านการวางแผนโดยรวมแล้วจึงจะจ่ายเบี้ยหวัดได้ เบี้ยหวัดของค่ายทานหลางจ่ายไปนานแล้ว สำหรับจะตกถึงมือทุกคนจริงหรือไม่ นั่นไม่อยู่ในการดูแลของกรมคลังเราขอรับ”

ฮั่วหลินปัดสวะให้พ้นตัวทันที โยนความผิดออกไป ให้ตายก็ไม่ยอมรับ

“ฮั่วหลิน เจ้ามันไร้ยางอายโดยแท้ ครึ่งปีมานี้ข้ามาเอาเบี้ยหวัดกับเจ้าไม่ต่ำกว่ายี่สิบหนแล้วกระมัง แม้แต่เศษเงินยังไม่ได้เลย เจ้ากลับบอกว่าจ่ายเบี้ยหวัดแล้ว? แถมยังปัดสวะมาให้ข้าอีก บอกเป็นนัยว่าข้ายักยอกเบี้ยหวัด? เจ้ายังมียางอายอยู่หรือไม่?”

หลัวเหิงบันดาลโทสะทันที เขาเป็นชาตินักรบตรงไปตรงมาเสมอ ไหนเลยจะรับกับความแค้นนี้ได้? ไม่ให้เบี้ยหวัดยังแล้วไป แต่ยังกล้าใส่ความอีก?

“หลัวเหิง เจ้าอย่าไม่รู้จักดีสิ นี่คือกรมคลังนะ ไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะกำแหงได้ ข้าบอกว่าจ่ายแล้วก็คือจ่ายแล้ว รีบไสหัวไปซะ จะเอาใครมาก็ไม่มีประโยชน์!”

หลัวเหิงเบ่ง ฮั่วหลินเบ่งยิ่งกว่า ในฐานะที่เป็นคนตระกูลฮั่วและเป็นลูกหลานสายหลักที่ตระกูลฮั่วบ่มเพาะเป็นพิเศษจะยอมแพ้ไม่ได้อยู่แล้ว ทุกเรื่องที่เขาทำลงไปล้วนเป็นตัวแทนของตระกูลฮั่วทั้งหมด

รัชทายาทแล้วยังไง? รัชทายาทมาก็ยังต้องจ๋อยอยู่ดี จะหน้าไหนก็ไม่ให้ทั้งนั้น อย่าว่าแต่เขาที่เป็นรัชทายาทโง่ ๆ เลย

ฮั่วหลินโต้จนทุกคนพูดไม่ออก สีหน้าของพวกอู่จ้านปั้นยากกว่าเดิม เวลานี้สีหน้าของฉินอวิ๋นฟานดำทะมึนจนแทบจะหยดติ๋งเป็นน้ำได้แล้ว

“ดูท่าเบี้ยหวัดจะไม่ได้จ่ายจริง ๆ สินะ?”

น้ำเสียงของฉินอวิ๋นฟานเริ่มเปลี่ยนเป็นเย็นชา

“จ่ายแล้วจะยังไง? ไม่จ่ายแล้วจะยังไง เจ้าจะทำอะไรข้าได้?”

ฮั่วหลินถลึงตามองฉินอวิ๋นฟาน ในแววตามีแต่ความดูถูกและท้าทาย แต่น่าเสียดาย เขาไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เพราะถ้ารู้...คงไม่โอหังเช่นนี้

ก็ขณะที่ทุกสายตารวมอยู่ที่ตัวฉินอวิ๋นฟาน ในตอนที่รอเขาตัดสินใจว่าจะใช้กลยุทธ์อะไร เห็นเพียงเขาชักกระบี่ออกมาฉับพลัน เสียงกระบี่ดังขึ้น ฮั่วหลินถูกฉินอวิ๋นฟานสังหารในกระบี่เดียว!

“อะไรนะ!!!”

“รัชทายาทฆ่าคนแล้ว?”

จู่ ๆ ฉินอวิ๋นฟานก็สังหารคน ทำเอาขุนนางในกรมคลังที่อยู่ในที่นั้นอึ้งไปเลย คุกเข่าด้วยใบหน้าประหวั่นพรั่นพรึง

“ยังมีใครไม่ยอมอีก? อยากท้าทายอำนาจของข้าหรือไม่?”

ฉินอวิ๋นฟานมองโดยรอบด้วยความผยอง น้ำเสียงเย็นชาที่สุด เจตนาสังหารเข้มข้นข่มขวัญทุกคนในที่นั้นทันที!

สายตาที่พวกอู่จ้านและหลัวเหิงมองฉินอวิ๋นฟานเต็มไปด้วยความครั่นคร้าม เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานพวกเขาแค่ได้ยินมาเท่านั้น วันนี้กลับได้เห็นกับตาตัวเอง รัชทายาทเผด็จการยิ่งนัก

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครตอบกลับ ฉินอวิ๋นฟานจึงถามอย่างเย็นชาว่า “เบี้ยหวัดของค่ายทานหลางจ่ายหรือยังกันแน่? รีบเอาตัวคนรับผิดชอบมา ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าไม่เว้น!”

ครั้นได้ยินคำพูดนี้ ขุนนางกรมคลังคนอื่น ๆ ก็ตกใจจนสั่นพั่บ แม้แต่ฮั่วหลินยังกล้าสังหาร แล้วพวกเขาจะไม่เหมือนมดที่บี้ก็ตายง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ?

“ยัง ยังไม่ได้จ่ายขอรับ!”

ชายชราผมขาวอายุห้าสิบต้น ๆ เดินออกมาแบบตัวสั่นงันงก ไม่มีความกล้าที่จะมองฉินอวิ๋นฟานสักสายตา

“เจ้าเป็นใคร?”

ฉินอวิ๋นฟานถามเสียงเข้ม

“ข้าน้อยหวังหลิน รองเจ้ากรมคลังฝ่ายขวาขอรับ!”

หวังหลินตอบคำถามอย่างระมัดระวัง

“ค้างเบี้ยหวัดของค่ายทานหลางเท่าไร เจ้ารู้หรือไม่?”

“รู้ขอรับ แต่ละคนเดือนละสองตำลึงเงิน ทั้งหมดสามพันคน รวมของหัวหน้าค่ายหลัวเหิงเดือนละห้าตำลึงเงิน ทั้งหมดค้างสามหมื่นหกพันสามสิบตำลึงเงินขอรับ”

หวังหลินตอบตามความจริง

ครั้นเห็นหวังหลินตอบตามจริง ใบหน้าของหลัวเหิงก็ฉายความยินดีออกมาในที่สุด ความน้อยใจที่เก็บกดอยู่ในหัวใจนับว่าได้รับการปลดปล่อย!

“จ่ายเป็นคนละสิบตำลึงต่อเดือน หัวหน้าค่ายหลัวเหิงเดือนละสามสิบตำลึง ทั้งหมดหกเดือน รวมหนึ่งแสนแปดหมื่นหนึ่งร้อยแปดสิบตำลึง รีบจ่ายมาเร็ว!”

ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย

“อะไรนะ? หนึ่งแสนแปดหมื่นหนึ่งร้อยแปดสิบตำลึงหรือ?”

หวังหลินใบหน้าเปลี่ยนสีฉับพลัน “รัชทายาท นี่ กรมคลังไม่เคยจ่ายเบี้ยหวัดเช่นนี้นะขอรับ”

“ไม่เป็นไร เจ้าจ่ายไปก็พอ มีข้าอยู่ นี่จะเป็นเรื่องปกติ เจ้าต้องเตรียมใจเอาไว้นะ ไปดำเนินการตามนั้นก็พอ ใครไม่ยอมก็ให้มันมาหาข้าตรง ๆ”

ฉินอวิ๋นฟานพูดหนักแน่น ไม่ให้โอกาสอธิบายกับหวังหลิน

“ขอ ขอรับ!”

หวังหลินเพิ่งรับบทเรียนจากฉากที่ฉินอวิ๋นฟานตวัดกระบี่เอาชีวิตคน เขาไม่กล้าขัดขืน ขืนพูดมากอีกคำก็คือไม่ให้ความสำคัญกับชีวิตตัวเอง

“รัช รัชทายาท ท่านแน่ใจหรือขอรับว่าจะให้ทหารคนละสิบตำลึงต่อเดือน? ขนาดยอดมือธนูยังไม่เคยได้รับเช่นนี้มาก่อนเลย”

ยามนี้หลัวเหิงราวกับเพิ่งตื่นจากความฝัน ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย รัชทายาทมาถึงก็เพิ่มเงินเดือนให้ทุกคนห้าเท่า ความสุขจะมาแบบกะทันหันไปหน่อยแล้วกระมัง?

และเรื่องที่ทำให้เขาเหนือคาดยิ่งกว่าคือ รัชทายาทแข็งกร้าวมาก เผด็จการที่สุด มาดราชันเต็มเปี่ยม สะใจยิ่งนัก!

“แค่สิบตำลึงเงินก็พอใจแล้วหรือ?”

ฉินอวิ๋นฟานยกยิ้มมุมปาก “หานซิ่น กลับไปเรื่องแรกก็คือทำหนังสือข้อมูลครอบครัวของทหารทุกคน จัดสรรที่เดินตามจำนวนสมาชิกในครอบครัว พร้อมชดเชยสองตำลึงทุกเดือน ถ้าทหารเสียชีวิต ราชสำนักจะเลี้ยงดูครอบครัวของเขาจนตาย ดำเนินการทันที!”

ครั้นคำพูดนี้โพล่งออกมา ทุกคนต่างตะลึงงันอยู่กับที่ มองรัชทายาทที่อยู่ตรงหน้า ทึ่งอย่างปราศจากสิ่งใดเทียบเทียม

ทุกแคว้นทุกสมัย ไม่เคยปรากฏสถานการณ์ที่ทหารตายราชสำนักจะเลี้ยงดูครอบครัวเขาจนตาย กระทั่งมีหลายที่ที่ใช้กำลังจับชายฉกรรจ์เพื่อเสริมกองทัพ ไม่มีเหตุผลให้กล่าวถึง

“นี่...”

ยามนี้หลัวเหิงตาแดงน้อย ๆ รู้สึกถึงความอบอุ่นในการเป็นทหารครั้งแรก ความรู้สึกที่ถูกมองว่าเป็นคนมันยอดเยี่ยมจริง ๆ เรื่องที่ว่าเมื่อก่อนรัชทายาทเป็นอย่างไรนั้นเขาก็แค่ได้ยินมาเฉย ๆ

ฉินอวิ๋นฟานในตอนนี้คือเทพในดวงใจเขา...
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1062

    ในที่สุดเหมิงฉาก็รับไม่ไหว ร้องตะโกนคำที่แทบจะเป็นความอัปยศนั้นการแข่งขันทางบู๊นี้ก็ปิดฉากลงท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของทุกคน...เรื่องหักเหจากการคาดหมายของทุกคนเหลียงจ้านอิงและเหลียงเทียนจื้อต่างคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้จะล้วงปืนสั้นออกมาพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันด้านบู๊นี้กระทั่งว่าเหลียงเทียนจื้อไม่มีโอกาสจะได้ออกโรงเลย...เช่นละครอย่างไรอย่างนั้น เนื่องจากเหมิงฉากลัวสุดขีดจึงยกมือยอมแพ้ดังนั้นเหลียงเทียนอี้จึงคว้าชัยชนะการแข่งขันรอบนี้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่เปลืองแรงภาพมหัศจรรย์เกิดให้แบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงลุ้นระทึกและไม่มีเลือดร้อนพลุ่งพล่านที่ใครคาดหวัง!ถึงขั้นว่าลวงตามากแต่ผลลัพธ์เป็นของจริงแท้แน่นอน เหลียงเทียนอี้ชนะแล้ว......“ดูท่าครั้งนี้ฟานเอ๋อร์จะช่วยข้าได้มากอีกแล้ว”เหลียงเทียนอี้กลับมาถึงด้านในก็คืนปืนสั้นให้ฉินอวิ๋นฟานและพรูลมหนัก ๆ“เหอะ ๆ เสด็จน้าชมเกินไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของท่านทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับข้าสักหน่อย”ฉินอวิ๋นฟานยักไหล่ มิได้กล่าวอะไรอีกถ้าจะบอกว่าเขาทำอะไรเพื่อเหลียงเทียนอี้ นั่นก็แค่บอกเขาว่าความจริงการแข่งขันนี้สามาร

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1061

    การกระทำของเหลียงเทียนอี้ทำให้ทุกคนในนั้นตกตะลึงแม้แต่เหลียงจ้านอิงที่อยู่บนปะรำก็ยังหยุดการดื่มน้ำชาไม่ได้ มองไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”เหลียงเทียนจื้อมองเหลียงเทียนอี้ที่ปราศจากเครื่องป้องกันใด ๆ ด้านข้าง ใบหน้าแปลกใจนี่คือการแข่งขันบู๊นะ คือสถานที่ตีรันฟันแทง ถ้าไม่ระวังอาจต้องคมศาสตราได้จริง ๆ ศีรษะย้ายที่อยู่ หากไม่ใช่เพราะมั่นใจกับฝีมือของตัวเองมาก กอปรกับวางแผนร่วมกับทางซยงหนูดีแล้วเขาคงต้องสวมชุดเกราะหนักมารับมือกับการแข่งขันด้านบู๊วันนี้เหมือนกันทว่าการกระทำเช่นนี้ของเหลียงเทียนอี้ต่างจากการรนหาที่ตายอย่างไร?ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก เหลียงเทียนจื้อหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย...ทั้งที่เขาควรดีใจกับเวลานี้ ถ้าเหลียงเทียนอี้เกิดอุบัติเหตุในการแข่งขันรอบนี้ เช่นนั้นบัลลังก์ต้องเป็นของเขาแน่แล้วแต่ใจกับกระวนกระวาย อย่างไรก็ไม่เป็นสุข“หรือว่าเขาแอบวางแผนอะไร?”ทันใดนั้นเหมิงฉาเริ่มบุกโจมตีก่อนแล้วร่างสูงใหญ่นั้นหวดขวานใหญ่หนักร้อยชั่งพลางเข้าใกล้เหลียงเทียนอี้อย่างต่อเนื่องภายใต้แสงสุริยา คมมีดนั้นน่ากลัวเช่นนี้ ราวกับแค่ถากเถือเบา ๆ ก็เฉือนศีรษ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1060

    “ข้าเอง!”ทันใดนั้นเหลียงเทียนอี้ก็ก้าวออกมาช้า ๆโง่อย่างที่คิด...เหลียงเทียนจื้อยืนยิ้มเยาะอยู่ในใจข้างหลังเขารู้นิสัยของพี่ชายดี และรู้ว่าเหลียงเทียนอี้เป็นคนดื้อรั้นมากเมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ก็มักจะดาหน้าออกไปทันทีแม้เผชิญหน้ากับพันขุนศึกหมื่นอาชาก็ยังปราศจากความกลัวเกรง พลีตนจนตัวตาย...แต่พฤติกรรมวู่วามเช่นนี้ กลัวแต่ต้องจบอย่างอนาถในท้ายที่สุด“ฮ่า ๆ ๆ รัชทายาทกล้าหาญดังคาด!” เหมิงฉาหัวเราะเสียงดัง “ปกติยังนึกว่าท่านเป็นแต่สะบัดพู่กันขีดเขียน วันนี้ข้าอยากลองดูสิว่าฝีมือดาบกระบี่ของท่านจะล้ำลึกหรือไม่?”เพิ่งกล่าวจบ เหมิงฉาก็กวัดแกว่งขวานใหญ่พลางเดินประชิดไปทางเหลียงเทียนอี้ทีละก้าวรูปร่างใหญ่นั้น ร่างกายแข็งแรงนั้น แค่ยืนอยู่ก็สร้างแรงกดดันที่มองไม่เห็นแล้วทำให้หลาย ๆ คนเห็นแล้วอดเกิดใจกลัวอย่างหนึ่งขึ้นมาไม่ได้“อุ๊ย ท่านพี่จะเอาชนะสัตว์ประหลาดตัวนี้ยังไง?”เหลียงจื่อฝูที่อยู่บนปะรำหน้าทุกข์ร้อน สองมือบีบผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าซีดไปเล็กน้อยนางจ้องเหลียงเทียนอี้กลางลานฝึกซ้อม“ท่านพี่ไม่มีความสามารถด้านนี้เท่าไร ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมิงฉา!”ผู้เป็นน้องสาว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1059

    เหลียงเทียนอี้ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าราบเรียบ มองอารมณ์ไม่ออกแต่ในใจเขารู้ดี การต่อสู้ครั้งนี้ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการตั้งแต่เหมิงฉาเริ่มพูดแล้วนี่คือการหยามหน้า คือการหยามเหยียดอย่างชัดเจนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย“เป็นยังไง? องค์ชายสาม?”เหมิงฉาเมินเหลียงเทียนอี้ที่อยู่อีกทางหนึ่ง แล้วใช้สายตาท้าทายมองไปทางเหลียงเทียนจื้อ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ได้ยินว่าฝีมือการใช้ดาบกระบี่ขององค์ชายสามค่อนข้างร้ายกาจ วันนี้ข้าขอท้าทายสักหน่อยเถิด”“มิเป็นไร” เหลียงเทียนจื้อฉีกยิ้ม ใบหน้าเปื้อนไปด้วยความกระหยิ่มใจจากนั้นก็ชักกระบี่ล้ำค่าคู่กายออกมาจากตรงเอวช้า ๆการต่อสู้ครั้งนี้ คือของเขาเท่านั้น!และเป็นเขาได้เท่านั้น!เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเขาเหลียงเทียนจื้อต่างหากที่เป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดคนนั้น คือคนที่สามารถเอาชนะซยงหนูได้อย่างแท้จริง!......“ดูท่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนนะ”เหลียงจ้านอิงดื่มน้ำชาสบายใจเฉิบอยู่บนปะรำมองผลสะท้อนกลับอย่างอบอุ่นของเหล่าผู้ชม จิตใจยิ่งฮึกเหิมตื่นเต้นไม่พูดไม่ได้เลย ถ้อยคำนั้นของเหมิงฉาทำให้เกิดผลดีเยี่ยม สามารถชักจูงอารมณ์ของทุกคนได้ในพริบตาเขาเช

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1058

    ตกลงไว้แต่แรกว่าเป็นการแข่งขันรูปแบบปิด และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร นอกจากราชวงศ์จะมิมีผู้ใดล่วงรู้ทว่าตอนนี้กลับแข่งขันในลานกว้างต่อหน้าธารกำนัล?หากท่านพี่แพ้มิต้องเป็นที่หัวเราะไปทั่วหรือ?“นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ทางเหลียงชินอ๋องต้องการกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานนั่งลงด้านข้าง ยิ้มพูดอย่างเฉยชา “ในฐานะที่เป็นละครฉายซ้ำของวันนี้ พวกเขาแค่ต้องการให้ทุกคนได้เห็นความประดักประเดิดของเสด็จน้าเท่านั้น”แต่แพ้จากการต่อสู้เช่นนั้นผลลัพธ์ต้องเทข้างแน่โอรสสวรรค์ของต้าเหลียงที่กล่าวขานกลับแพ้ให้กับคนป่าเถื่อน ทั้งความสามารถยังมิสู้องค์ชายสามเหลียงเทียนจื้อขอเพียงมีการพูดประเภทนี้ต่อไป ไม่นานอัตราการสนับสนุนเหลียงเทียนจื้อก็จะพุ่งสูงลูกไม้พรรค์นี้ช่างโหดเหี้ยมนัก“น่ารังเกียจจริง ๆ...” คิ้วงามเหลียงจื่อฝูย่นยู่เล็กน้อย อดกระตุกมุมปากไม่ได้ “ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้”“เมื่อวานท่านพี่ชนะการแข่งขันด้านบุ๋นกับซยงหนูในท้องพระโรง พวกเขาไม่เห็นจะพูดกันเลย เลวทรามจริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะอย่างไม่ออกความเห็นเขากลับไม่ใส่ใจว่าเมื่อวานจะชนะหรือแพ้ วันนี้ต่างหากที่เป็นส่วนสำค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1057

    สำหรับเหลียงเทียนอี้ การแข่งขันในวันนี้ค่อนข้างน่าตกใจแต่ยังดีที่สุดท้ายเขาสามารถคลี่คลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พวกซยงหนูหน้าบึ้งตึง โจมตีจนพวกเขารับมือไม่ทันดูท่าปกติว่างเว้นจากการงานอ่านหนังสือให้มากจะมีประโยชน์...หลังประชุมเช้า เหลียงเทียนอี้ก็อดรนทนไม่ไหวบอกข่าวดีกับฉินอวิ๋นฟาน อยากแบ่งปันความสุขและความเปรมปรีดิ์ของตนแต่พอได้ยินฉินอวิ๋นฟานตอบกลับ เขาจึงตระหนักว่าเรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายธรรมดาอย่างที่เขาคิดอย่างนั้น“การแข่งขันทางบู๊ในวันพรุ่งนี้จึงจะเป็นส่วนสำคัญอย่างแท้จริง”คำพูดราบเรียบประโยคหนึ่งของฉินอวิ๋นฟานทำให้ความยินดีปรีดาของเหลียงเทียนอี้ในแต่เดิมสูญสิ้น สีหน้าอึมครึมมากขึ้นเรื่อย ๆ“ข้าย่อมรู้ดี...แต่ปกติ คนที่จะชนะในการแข่งขันทางบู๊คงจะเป็นน้องสาม”เกี่ยวกับจุดนี้แทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเพราะเหลียงเทียนจื้อร่ำเรียนกับเหลียงจ้านอิงแต่เล็ก อีกทั้งยังเคยเข้าสนามรบฟาดฟันกับศัตรู ด้านประสบการณ์การรบ จึงมีความคล่องมากกว่าเป็นธรรมดาเช่นนี้ หากคิดจะชิงคะแนนหนึ่งมาจากมือของเหลียงเทียนจื้อ คาดว่าต้องยากเป็นพิเศษเมื่อเห็นเหลียงเทียนอี้มีท่าทางปราศจากใจฮึดสู้ ฉินอวิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status