LOGINบ้านตระกูลอภิพัฒน์วัฒนากุล
“ตาคีย์ มา ๆ มาทานข้าวกันลูก”
เสียงของอรสา ผู้เป็นแม่ดังชวนลูกชายให้มานั่งที่โต๊ะอาหาร
“ครับแม่… แม่มีอะไรหรือครับ วันนี้ดูแปลก ๆ”
คีรติเอ่ยเสียงเรียบ ขณะนั่งลงตรงโต๊ะอาหาร เขายังไม่ละสายตาจากจานอาหารบนโต๊ะ
อรสายิ้มบาง ๆ พร้อมสายตาอ่อนโยน
“คีย์ แม่อยากอุ้มหลานแล้วนะลูก… ลูกก็จะสามสิบแล้ว ยังไม่มีเห็นจะมีแฟน แม่ไม่เคยเห็นลูกพาสาวเข้าบ้านให้แม่ชื่นใจสักคนเลย”
“แม่ครับ ผมทำงานทุกวัน จะเอาเวลาไหนไปหาลูกสะใภ้ครับ”
คีรติพูดอย่างเย็นชา แต่สายตายังคงมองอาหาร
อรสาหัวเราะเบา ๆ
“ไม่เป็นไรแม่หาไว้ให้แล้ว”
เธอสบตากับ ดำรง สามี พยักหน้าให้เขารับรู้
“เอ่อ… คีย์ พ่อแม่เห็นพ้องกันแล้ว ว่าจะให้ลูกแต่งงานกับ ณิชา ลูกสาวของลุงประสิทธิ์นะ”
น้ำเสียงของดำรงมั่นคงและตรงไปตรงมา
คีรติทำหน้าขมวดคิ้ว
“ณิชา… สาวไฮโซ ใช้เงินเหมือนกระดาษเหรอครับ? ไม่เอาหรอก… เธอดูร้ายกาจ ผมไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้”
อรสาไม่ตอบทันที เธอพยายามเก็บสีหน้า ก่อนเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน
“แต่แม่เคยเจอหนูณิชา เธอสวย น่ารัก และมารยาทดี… ไม่เห็นเหมือนข่าวลือเลยนะลูก ลองคบ ๆ กันก่อนไหม”
“แม่ครับ ปล่อยให้ผมหาคนที่ผมอยากใช้ชีวิตด้วยเองดีกว่า ยัยณิชาไรนั้นคงไม่เหมาะกับผมหรอก ผมชอบแนวเรียบร้อยไม่พูดมากคับ”
คีรติเอ่ยน้ำเสียงหนักแน่น ชัดเจนในความตั้งใจของตัวเอง
“ไม่รู้แหละ… สองสามวันนี่แหละแม่นัดครอบครัวคุณลุงประสิทธิ์ไปทานข้าว และลูกต้องไปด้วยนะ”
อรสาพูดด้วยน้ำเสียงไม่ยอมแพ้
“แม่ครับ…”
คีรติเริ่มอึดอัด
“ตอนนี้คุณลุงประสิทธิ์มีปัญหาทางธุรกิจ พ่อของลูกต้องช่วยเหลือลุง เลยอยากให้คีย์แต่งงานกับหนูณิชา แต่ถ้าไม่ยอมแต่ง พ่อแม่ก็คงต้องตัดออกจากกองมรดกนะ พี่จะยกให้น้องคนเดียว โทษฐานคีย์เป็นผู้ชายไม่ยอมสืบสกุล”
เธอเพิ่มน้ำเสียงหนักแน่น เพื่อให้ลูกชายเข้าใจถึงเหตุผล
“แม่ครับ พ่อจะช่วยก็ช่วยไป ไม่เห็นต้องให้เขาเอาลูกสาวมายัดเยียดให้ผมแต่งงานด้วยนี่ครับ”
คีรติเอ่ยด้วยความไม่พอใจ แต่พยายามควบคุมอารมณ์
“ตาคีย์อย่าพูดแบบนี้นะ มันไม่ดี”
ดำรงเอ่ยเสียงนิ่ง แต่มีแววตาขึงขัง
“ผมอิ่มแล้วครับ ผมไปทำงานก่อนนะครับ”
คีรติลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารโดยไม่รอคำตอบ และออกจากห้องไปด้วยท่าทีเย็นชา
“แม่ทำไงดี… ตาคีย์จะยอมไหม เรื่องแต่งงานนี่”
ดำรงเอ่ยถามภรรยาด้วยน้ำเสียงกังวล แววตาเต็มไปด้วยความหวังว่าลูกชายจะเข้าใจ
“ลองให้เด็ก ๆ เจอกันสักครั้งก็แล้วกัน ฉันเชื่อว่าตาคีย์ของเราต้องชอบหนูณิชาเป็นแน่”
อรสาตอบอย่างใจเย็น
นายดำรงพยักหน้าเบา ๆ แล้วยิ้ม
“พูดไปก็นะ… ถ้าครอบครัวเราเป็นทองแผ่นเดียวกันก็ดีนะ”
อรสาหัวเราะเบา ๆ ก่อนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงชวนขำ
“ถ้าลูกยอมพูดง่าย ๆ พวกเราพ่อแม่ก็คงไม่ต้องทำอะไรแบบนี้หรอกค่ะคุณ”
เขาหันไปมองโต๊ะอาหารแล้วถามเสียงเรียบ
“แล้วยัยลูกสาวคนเล็กเราไปไหน ทำไมไม่ลงมาทานมื้อเช้า”
อรสายิ้มขำเล็กน้อย
“ขานั้นไม่ต้องรอเลยค่ะ… กว่าจะตื่นก็คงโน้น… เกือบเที่ยงโน่นแหละ”
นายดำรงถอนหายใจเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม
“โธ่… ลูกสาว จะต้องลำบากพ่อแม่หาคู่ให้เหมือนกับพี่ชายไหมหนอ ยัยครีม”
“ยัยลูกสาวคงโวยบ้านแตกแน่ ๆ อย่าดีกว่าค่ะคุณ ลูกสาวถ้าไม่แต่งงานก็ปล่อยเถอะ..คุณก็ห่วงลูกสาวอยู่แล้วนิ”
“ก็จริงอย่างที่คุณพูด เรามารอลุ้นตาคีย์ดีกว่า”
บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น แต่แฝงด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของพ่อแม่ที่มีแผนการอยู่ในใจ
เสียงหัวเราะเบา ๆ ของทั้งคู่สะท้อนถึงความรักและความห่วงใยที่มีต่อลูก ๆ
บริษัท ตระกูลอภิพัฒน์วัฒนากุล กรุ๊ป
ห้องท่านประธาน
“คุณทรงพล สืบข้อมูลของ คุณณิชาวดี วัฒนวานิชเจริญ ให้ผมหน่อยนะ”
“ครับท่านประธาน”
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ครืด… ครืด… ครืด…”
คีรติหยิบมือถือขึ้นมา เห็นชื่อเพื่อนสนิท
"เตชทัต"
“ไอ้คีย์ คืนนี้ไปบาร์กัน มีเด็กเข้าใหม่ มึงสนใจไหมว่ะ”
เสียงของ เตชทัต พูดด้วยความตื่นเต้น
คีรติทำหน้านิ่งแต่ตอบเสียงเรียบ
“เออ… ไปก็ได้ บาร์เดิมใช่ไหม? ห้อง VVIP มึงจองได้เลย”
“ครับคุณคีรติ ผมจะจัดน้อง ๆ บริการให้เลยครับ ว่าแต่คืนนี้นอนโรงแรมนะ ไม่ต้องกลับบ้าน”
เสียงเตทัชแฝงความตื่นเต้น
คีรติพยักหน้า “ได้”
“แล้วมึงจะเอาเพื่อนนอนไหม กูจะจัดเด็ด ๆ ให้”
“ไม่ กูจะนอนคนเดียว เบื่อแล้ว แค่อยากดื่มเฉย ๆ”
คีรติตอบสั้น ๆ น้ำเสียงเย็นชานิด ๆ แต่ชัดเจน
“โอเค แค่นี้ก่อน กูเข้าประชุมก่อนนะ”
เตทัชตอบ ก่อนสายจะตัดไป
คีรติวางมือถือ ลงบนโต๊ะ ชั่งใจสักครู่แล้วพึมพำกับตัวเอง
“เจอกันคืนนี้ ไอ้เต…”
บ้านณิชา..เสียงเครื่องยนต์รถสปอร์ตหรูดังแผ่วก่อนดับลงตรงหน้าบ้านของณิชา คีรติเปิดประตูลงจากรถในชุดสูทเรียบหรู สายตาคมกริบกวาดมองตัวบ้านด้วยท่าทีสงบ แต่แฝงไว้ด้วยความมั่นใจเฉพาะตัวภารดีที่กำลังจัดแจกันดอกไม้ตรงห้องรับแขกหันมาเห็นเข้าพอดี“อ้าว...ตาคีย์ มารับน้องเองเลยหรือลูก?”เสียงเธอแฝงรอยยิ้มปลื้มชัดเจนคีรติยกมือไหว้อย่างนอบน้อม“ครับคุณแม่ วันแรกของการทำงาน มารับเลขาส่วนตัวสะหน่อยครับ”ภารดียิ้มกว้าง“น่ารักจังลูกเขยของแม่”ทันใดนั้น เสียงเครื่องดนตรีเบา ๆ ดังจากในบ้าน ก่อนชายหนุ่มอีกคนจะเดินออกมาพร้อมกระเป๋าเป้สะพายข้าง“อ้อ นี่พอร์ช ลูกชายคนเล็กของแม่”ภารดีแนะนำพอร์ชยิ้มกว้าง“สวัสดีครับพี่เขย”เขาแกล้งเอ่ยคำเรียกอย่างซุกซน“เดี๋ยวผมขอตัวไปเรียนก่อนนะครับ”คีรติหัวเราะเบา ๆ“สวัสดีพอร์ช ขับรถดี ๆ นะ”ไม่นาน เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังลงมาจากชั้นบน ก่อนจะตามด้วยเสียงใสที่คุ้นหู“แม่ค่ะ มีอะไรทานบ้างคะเช้านี้?”ณิชาในชุดสูทกระโปรงสีครีมอ่อนก้าวลงมาจากบันได ผมยาวสลวยถูกรวบเรียบ เธอดูเรียบร้อยแต่น่ามองอย่างเหลือเชื่อ...จนคีรติอดยิ้มไม่ได้“อรุณสวัสดิ์ครับ...น้องณิชา”เขาเอ่ยเสียงทุ้มต
“คุณ!”เสียงทั้งสองซ้อนทับกันกลางห้องอาหารรอยยิ้มของอรสาและภารดีแข็งค้างไปชั่วขณะ ก่อนต่างฝ่ายต่างหันมามองหน้ากันด้วยแววตาฉงน“อ้าว...รู้จักกันอยู่แล้วเหรอลูก?”ภารดีถามด้วยน้ำเสียงแฝงความยินดีณิชารีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ยกยิ้มบาง“เอ่อ...บังเอิญเคยเจอกันค่ะ”“อย่างนี้ก็ดีเลย จะได้ไม่ต้องเริ่มทำความรู้จักใหม่ให้เสียเวลา”อรสากล่าวอย่างมีความหวัง มือประคองถ้วยชาเบา ๆ พลางมองเด็กทั้งสองด้วยแววตาอ่อนโยนคีรติทรุดตัวนั่งลงข้างๆ กับณิชา ท่าทีสงบนิ่งแต่ดวงตากลับไม่ยอมละไปจากใบหน้าของเธอหญิงสาวพยายามหลบสายตานั้น แต่ยิ่งหนี...เขากลับยิ่งมองบรรยากาศบนโต๊ะเริ่มเปลี่ยนจากความอบอุ่น เป็นแรงกดดันที่มองไม่เห็น“หนูณิชาชอบอาหารญี่ปุ่นไหมลูก ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องปลาดิบเลยนะ”ดำรงเอ่ยขึ้น ทำลายความเงียบที่เริ่มหนาแน่น“ชอบค่ะคุณลุง”ณิชาตอบอย่างเรียบสุภาพ แต่ปลายนิ้วยังคงสั่นเล็กน้อยใต้โต๊ะคีรติปรายตามองอย่างพิจารณา รอยยิ้มบางแฝงอยู่บนริมฝีปาก รอยยิ้มที่มีทั้งเย็นชาและความหมายบางอย่างที่เธออ่านไม่ออก“โลกกลมมากเลยนะครับผมพึ่งเจอเธอไม่นาน ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคู่หมายที่ผู้ใหญ่จัดหาไว้ให้...”เขาพู
บ้านตระกูลอภิพัฒน์วัฒนากุล (บ้านคีรติ)เสียงเครื่องยนต์ดับลงหน้าบ้านหรูเมื่อ คีรติ พาน้องสาว ครีม กลับมาถึงบ้านทันทีที่ อรสา แม่ของทั้งคู่ได้ยินเรื่องรถชน ใบหน้าของเธอก็ซีดลงทันที“ครีม! ไม่เป็นไรใช่ไหมลูก เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”หญิงสาวรีบเดินเข้ามาดูบุตรสาวด้วยความร้อนใจ“ไม่เจ็บเลยค่ะแม่ แต่พี่ที่หนูชน...เขาหัวแตกค่ะ”ครีมตอบเสียงแผ่วแต่ยังยิ้มบาง ๆ“ตายจริง! แล้วพี่เขาเอาเรื่องหรือเปล่าลูก?”“ไม่ค่ะ แม่...พี่คนสวยเขาน่ารักมากเลย ยังลงมาดูหนูด้วยนะคะ”คีรติยิ้มจาง ๆ เมื่อนึกถึงใบหน้าของหญิงสาวคนนั้น ภาพเธอยังวนอยู่ในหัว ดวงตาคมสวย แววตาแข็งแกร่งแต่เศร้าลึก ๆ “งั้นครีมไปพักก่อนนะลูก เดี๋ยวค่อยลงมาทานมื้อเย็นกัน”“ค่ะแม่ แล้วคุณพ่อกลับมาหรือยังคะ?”“ยังเลยลูก วันนี้บริษัทคุณพ่อมีประชุม คงกลับมามืดหน่อย”“งั้นหนูไปอาบน้ำก่อนนะคะ”“ไปสิลูก รีบอาบน้ำแล้วลงมาทานข้าวนะ”อรสามองตามลูกสาวขึ้นบันได ก่อนจะหันกลับมาทางลูกชายที่ยังยืนอยู่ตรงโถงบ้าน“ตาคีย์...แม่มีเรื่องจะคุยด้วย มานั่งก่อนสิลูก”คีรติพยักหน้าเบา ๆ“ครับแม่”น้ำเสียงราบเรียบ แต่ในใจกลับรู้ดีว่าเรื่องที่แม่จะพูดคืออะไร“พรุ่งนี้ว
บ้านตระกูลวัฒนวานิชเจริญ (บ้านณิชา)เสียงส้นรองเท้าดังแผ่วเบาไปตามพื้นหินอ่อน เมื่อ ณิชา เดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทีอิดโรย ดวงตาคู่สวยดูพร่ามัวราวกับคนไม่ได้หลับทั้งคืน“ณิชา เป็นยังไงบ้างลูก…ทำไมมีเลือด!”เสียงของ ภารดี แม่ของเธอเอ่ยขึ้นทันทีด้วยความตกใจ“รถชนนิดหน่อยค่ะคุณแม่ หนูให้เลขาของคุณพ่อจัดการแล้วค่ะ”หญิงสาวตอบเบาๆ พยายามกลบความอ่อนแรงในน้ำเสียง“ตายแล้ว! มาทำแผลก่อนเถอะลูก”ภารดีรีบพาเธอไปนั่งที่โซฟา มือสั่นเล็กน้อยด้วยความเป็นห่วง“ขอบคุณค่ะ...”ณิชาตอบเสียงเรียบ พลางขยับผ้าพันคอให้แน่นขึ้นอีกนิด เพื่อปกปิดรอยช้ำที่ซ่อนอยู่ใต้เนื้อผ้า รอยที่ไม่ควรมีใครเห็น โดยเฉพาะแม่ภารดีนั่งลงข้างๆ พลางหยิบกล่องยามาจัดการแผลให้ลูกสาวด้วยความอาทร“พรุ่งนี้แม่มีนัดกับป้าอรสา ลูกไปกับแม่นะลูก”“แม่ค่ะ…จะให้หนูไปดูตัวอีกแล้วใช่ไหม?”น้ำเสียงของณิชาปนความเหนื่อยใจ“แม่เชื่อว่าลูกกับตาคีย์เหมาะสมกันมาก”ภารดีพูดเสียงหนักแน่นราวกับตัดสินใจแทนลูกสาวไปแล้ว“แต่แม่ค่ะ…”“เพื่อครอบครัวนะณิชา”หญิงสาวชะงัก เธอเม้มปากแน่น ก่อนถามออกมาด้วยความคับข้อง“ครอบครัวเราลำบากขนาดนั้นเลยหรือคะ ทำไมบัตรของหนูเ
บริษัท อภิพัฒน์วัฒนากุล กรุ๊ป ห้องทำงานประธานแสงแดดยามสายลอดผ่านกระจกสูงสะท้อนลงบนโต๊ะทำงานหรูที่เต็มไปด้วยเอกสารสำคัญคีรติพิงเก้าอี้ พลางจิบกาแฟอย่างใจเย็น ก่อนจะละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ“ก๊อก… ก๊อก…”“เข้ามาได้”เลขาคนสนิทของเขา ทรงพล เดินเข้ามาพร้อมแฟ้มสีเทาในมือ“ข้อมูลของผู้หญิงที่คุณคีรติให้สืบมาครับ ทั้งคนที่อยู่กับคุณคืนนั้น… และข้อมูลของคุณณิชาวดีด้วยครับ”คีรติขมวดคิ้วเล็กน้อย พลิกแฟ้มในมืออย่างใช้ความคิด แต่ก่อนที่ทรงพลจะเริ่มรายงานครืด… ครืด… ครืด…เสียงโทรศัพท์ดังแทรกขึ้นหน้าจอขึ้นชื่อว่า “ครีม”คีรติรีบรับสายทันที“ครีม ว่ายังไงพี่ทำงานอยู่”เสียงปลายสายสั่นเครือ“พี่คีย์… ครีมขับรถชนค่ะ พี่มาหาครีมหน่อยได้ไหม”คีรติลุกพรวดจากเก้าอี้ทันที สีหน้าเปลี่ยนจากเรียบนิ่งเป็นเคร่งเครียดในพริบตา“ครีมบาดเจ็บไหม? อยู่ตรงไหนส่งโลเคชั่นมาพี่จะรีบไปหาเดี๋ยวนี้” เขาถามไถ่น้องสาวด้วยความห่วงใย“ไม่ค่ะ ครีมไม่เป็นไรเลย”คีรติหายใจโล่งเมื่อรู้ว่าน้องสาวไม่ได้รับบาดเจ็บ“รอตรงนั้น ห้ามขยับรถ พี่จะรีบไปเดี๋ยวนี้”“ค่ะพี่คีย์…”สายถูกตัดไป คีรติหันไปสั่งเล
โรงพยาบาลเอกชน เงียบสงบเสียงพยาบาลดังเรียก“เชิญคุณณิชาวดีที่ห้องตรวจค่ะ”ณิชาเดินเข้าไปพบแพทย์ทันที“สวัสดีค่ะคุณหมอ”“สวัสดีค่ะคุณณิชา ปวดท้องน้อยบริเวณไหนคะ”“ปวดท้องน้อยตรงนี่ค่ะ หน่วง ๆ”ณิชากุมท้องน้อย กดๆ ให้คุณหมอดู “ไม่ทราบรอบเดือนมาวันที่เท่าไหร่ค่ะ?”“เพิ่งมาสัปดาห์ที่แล้วค่ะ ประมาณวันที่ 4”“เอ่อค่ะ… แล้วไม่ทราบว่ามีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ค่ะ”ณิชากลืนน้ำลาย ก่อนตอบเสียงเบา“เมื่อคืนค่ะ”หมอพยักหน้าเบา ๆเดี๋ยวหมอขอตรวจหน่อยนะคะ”ณิชาขึ้นนอนบนเตียงตรวจ หมอเริ่มตรวจอย่างละเอียด“อ่อมีฉีกขาดบ้าง เป็นครั้งแรกหรือเปล่าค่ะ ”“อืม..ค่ะคุณหมอ”ณิชาตอบเสียงเบา สีหน้าเธอแดงก่ำหมอยิ้มอ่อนโยนแต่เอ่ยเสียงจริงจัง“อืม..การใช้งานรุนแรงทำให้เกิดการอักเสบได้ ต่อจากนี้ขอให้งดกิจกรรม 7 วันนะคะหมอจะให้ยาไปทาน เดี๋ยวก็จะดีขึ้นค่ะ”ณิชาพยักหน้าอย่างเขินอาย“ขอบคุณค่ะคุณหมอ… เอ่อ ขอ ‘ยาคุมฉุกเฉิน’ ด้วยได้ไหมคะ คือเมื่อคืน…”หมอยิ้มเบา ๆ อย่างเข้าใจ“ได้ค่ะ เดี๋ยวจัดยาให้เลย”“หมอสั่งยาเรียบร้อยแล้วค่ะ...รอรับยาแล้วกลับบ้านได้ค่ะ”“ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ”ณิชาเดินออกจากห้องตรวจด้วยหัวใจที่







