Share

บทที่ 5 พบเจอ

last update Dernière mise à jour: 2025-06-05 12:35:38

ด้านเซียวเหมยลี่นั้นก็กำลังนั่งแทะเมล็ดแตงโมด้วยความเบื่อหน่าย หลังจากที่ทำพิธีให้ลูกค้าก่อนหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางก็มานั่งเล่นกับอิงเย่ว์ที่โต๊ะรับแขกชั้นล่างของสำนักร้อยบุปผา

"เหมยลี่ อีกเดี๋ยวจะมีลูกค้าอีกหนึ่งคนนะ เจ้าต้องต้อนรับดีดีเล่า ได้ยินว่าเป็นถึงเชื้อพระวงศ์เชียวนะ ชื่อว่าชินอ๋องฟางเทียนอวี้" 

อิงเย่ว์ที่กำลังถือจานใส่ขนมมาวางบนโต๊ะ เอ่ยกับเซียวเหมยลี่ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เซียวเหมยลี่ยื่นมือไปหยิบขนมในจานมาเคี้ยวตุ้ย ๆ ก่อนจะเอ่ยตอบ 

"ข้าจำสิ่งใดไม่ได้ เจ้าให้ท่านแม่ข้าทำแทนเถิด ข้ากลัวว่าจะเกิดความผิดพลาดขึ้นมาได้" 

"ได้อย่างไรกัน ยามนี้ท่านป้ากลับจวนไปแล้ว คนที่ทำพิธีนี้ได้ก็มีเพียงเจ้าที่เป็นสตรีคนเดียวในตระกูลเซียว เจ้าต้องตั้งใจนะเหมยลี่" 

เซียวเหมยลี่ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย บัดซบจริง ๆ!!! เกิดใหม่ทั้งที จะให้เกิดในร่างคนดีดีไม่ได้หรือไรกัน!!! 

"เหมยลี่" 

"รู้แล้วน่า อย่าบ่นเยอะได้หรือไม่" 

"โอ๊ะ น่าจะมาถึงแล้ว"

ไม่นานนักก็มีเสียงฝีเท้าม้าที่ด้านหน้าสำนักร้อยบุปผา อิงเย่ว์รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะเดินออกไปต้อนรับแขกทันที เซียวเหมยลี่ไม่ได้สนใจสิ่งใดมากนัก นางหยิบจอกสุราติดมือไปด้วย แล้วเดินไปรอที่ชั้นสองทันที 

ฟางเทียนอวี้เดินเข้ามาในสำนักร้อยบุปผาพลางสอดส่ายสายตามองดูไปโดยรอบ ที่นี่สมกับเป็นสำนักร้อยบุปผาเสียจริง เพียงก้าวเดินเข้ามาก็เห็นบุปผานานาพรรณประดับประดาทั่วทั้งสำนัก อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของสมุนไพรอีกด้วย 

ให้ความรู้สึกสดชื่นดีจริงจริง 

"สำนักร้อยบุปผายินดีรับใช้เจ้าค่ะ" 

ฟางเทียนอวี้หันไปมองตามเสียง ก่อนจะพบกับสตรีน้อยนางหนึ่ง อายุราวสิบหกปี กำลังเดินออกมาต้อนรับเขาด้วยท่าทีที่นอบน้อม ใบหน้างามแย้มรอยยิ้มที่ชวนมองให้แก่เขา  

"ข้าจะมาทำพิธีปัดเป่าสิ่งไม่ดี ก่อนหน้านี้ได้ให้พ่อบ้านมาแจ้งเอาไว้แล้ว" 

"อ้อ ชินอ๋องฟางเทียนอวี้ใช่หรือไม่เพคะ" 

"อืม" 

"เชิญด้านบนเถิดเพคะ" 

ฟางเทียนอวี้พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นสองตามที่อิงเย่ว์บอก เมื่อฟางเทียนอวี้เดินขึ้นไปแล้ว อิงเย่ว์ก็ยกยิ้มเขินอายเล็กน้อย 

ตั้งแต่เกิดมานางเพิ่งเคยพบเจอบุรุษที่รูปงามราวเทพสวรรค์เช่นนี้ 

ท่านอ๋องช่างหล่อเหลาเสียจริง 

ฟางเทียนอวี้เดินขึ้นมาที่บนชั้นสอง ก่อนจะพบกับห้องห้องหนึ่งที่เขียนติดเอาไว้ว่า ห้องปัดเป่าภัยร้าย เขายืนจ้องมองหน้าห้องอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะผลักประตูให้เปิดออกแล้วก้าวเดินเข้าไปด้านในทันที 

"มีผู้ใดอยู่หรือไม่?" 

เขาเดินเข้ามาด้านใน ก่อนจะจ้องมองไปโดยรอบ ไม่นานนักก็พบกับสตรีนางหนึ่ง 

เซียวเหมยลี่กำลังยกจอกสุราขึ้นดื่ม เมื่อได้ยินเสียงของบุรุษนางจึงรีบหันกลับมามองทันทีก่อนจะ 

พรวด!!

นั่นมัน!!! 

"เจ้า!!!" 

"ท่าน!!!" 

สุราในปากของเซียวเหมยลี่พ่นออกมาจากปากจนมันกระเด็นไปใส่ใบหน้าของฟางเทียนอวี้เข้าอย่างจัง ฟางเทียนอวี้ยกมือขึ้นเช็ดสุราบนใบหน้า ก่อนจะหันมาจ้องมองเซียวเหมยลี่อย่างโกรธเคืองเขาจำนางได้!!! 

สตรีปากบวมนางนั้น!!! 

แม้วันนี้ปากนางจะไม่บวมแล้ว แต่เขาก็จำหน้านางได้ขึ้นใจ ผู้ใดที่ทำให้ทุกส่วนบนร่างกายของเขาสกปรกเขาย่อมจำได้ไม่ลืม!!! 

เซียวเหมยลี่เองก็ตื่นตระหนกไม่น้อย นั่นมันบุรุษที่นางทำเหล้าหกใส่ แล้วยังยัดเงินสามอีแปะส่งให้อย่างรีบร้อน 

เวรกรรมแท้ ๆ อะไรดลใจให้มาเจอกันที่นี่วะเนี่ย!!! 

ฟางเทียนอวี้ส่งเสียงเหอะในลำคอ ก่อนจะเอ่ยกับเซียวเหมยลี่ 

"ที่แท้ก็เป็นเจ้านี่เองที่ทำเสื้อผ้าข้าเลอะเทอะ!!! ทำกิจการหลอกคนจนร่ำรวยได้ถึงเพียงนี้ กลับยัดเงินแค่สามอีแปะให้ข้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าเสื้อผ้าข้ามีราคาขนาดไหน!!!" 

เซียวเหมยลี่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็จ้องมองฟางเทียนอวี้ขึ้นลงคราหนึ่ง 

"ขออภัยด้วยเจ้าค่ะคุณชาย พอดีวันนั้นข้ารีบ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน วันนี้ข้าจ่ายเพิ่มให้ หนึ่งร้อยตำลึงไปเลย" 

"เหอะ!!! ทีอย่างนี้อวดรวยขึ้นมาเชียว" 

"อ้าว!!! แล้วจะเอาอย่างไร ฮะ!!! ข้าผิดที่ทำเสื้อผ้าท่านเลอะเทอะ แต่ข้าก็ยินดีจ่ายนี่!!!" 

"เจ้ารู้หรือไม่ว่าเสื้อผ้าชุดนั้นมันมีคุณค่าต่อจิตใจของข้าเพียงใด ข้าใส่ชุดนั้นแล้วรู้สึกว่าหล่อเหลาที่สุด แต่เจ้ากลับทำมันเลอะ!!!" 

เซียวเหมยลี่กลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะมองฟางเทียนอวี้อย่างพิจารณา 

ใบหน้าหล่อเหลา ผิวพรรณก็ดี เสียอย่างเดียวปากร้ายไปหน่อย 

"นี่เรียกว่าหล่อแล้วเหรอ?" 

ฟางเทียนอวี้ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถลึงตาใส่เซียวเหมยลี่อย่างดุดัน 

"เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ พูดอีกรอบสิ" 

"ข้าถามว่านี่หล่อแล้วเหรอ วันก่อนข้าไปเดินตลาด เห็นหล่อกว่าท่านมีตั้งหลายคน" 

บัดซบ!!! ผู้ใดกล้าหล่อกว่าข้ากัน!!! 

"อย่าปากดี!!! ข้าคือชินอ๋องแห่งหวงเฉวียน หากเจ้ากล้าล่วงเกินข้าอีกเพียงคำ ข้าตัดหัวเจ้าแน่!!!" 

เซียวเหมยลี่ที่ได้ยินว่าฟางเทียนอวี้เป็นใครก็รีบยกมือขึ้นมาทาบอก ก่อนจะอุทานในใจ ตายแล้ว หมอนี่คือเชื้อพระวงศ์ที่อิงเย่ว์บอกว่าจะมาทำพิธีหรอกหรือ

"โอ๊ยตายแล้ว หม่อมฉันขออภัยเพคะท่านอ๋อง" 

"รู้ตัวก็ดี ข้าน่ะหล่อเหลาจิตใจงามไม่ทำร้ายคนโง่อยู่แล้ว" 

เซียวเหมยลี่ก้มหน้าลงก่อนจะเบ้ปากคราหนึ่ง แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้ฟางเทียนอวี้ ฟางเทียนอวี้จ้องมองเซียวเหมยลี่เช่นกัน ก่อนจะพูดกับนางว่า

"รอยยิ้มเจ้านี่ช่างเสแสร้งจริง ๆ" 

ความคิดของเซียวเหมยลี่ : ไอ้เวรรรชินอ๋อง

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   ตอนพิเศษ

    1 ปีต่อมา ยามนี้สายลมฤดูหนาวพัดผ่านมาอีกครา บนพื้นถนนมีหิมะสีขาวปกคลุมอยู่เต็มไปหมด ยิ่งดึกอากาศยิ่งหนาวเย็น ผู้คนต่างพากันซุกกายอยู่ในผ้าห่มที่หนานุ่ม เข้าสู่ห้วงนิทราอันแสนมีความสุข'โมง' เวลายามสาม เสียงระฆังดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันในยามราตรี เสียงนี้เป็นเสียงสัญญาณของระฆังแจ้งการมรณกรรม เสียงนั้นดังมาจากวังหลวงติดต่อกันหลายครั้ง นอกจากจะเกิดเหตุการณ์ที่ฮ่องเต้สวรรคตแล้ว ไม่มีผู้ใดปฏิบัติตามธรรมเนียมนี้ ภายในวังหลวงยามนี้ เหล่าขันทีและนางกำนัลกำลังคุกเข่าพลางร่ำไห้กับการจากไปของฮ่องเต้ฟางเจิ้งหลง ภายในห้องบรรทม ไป๋ฮองเฮากำลังจัดการเปลี่ยนฉลองพระองค์ให้ฮ่องเต้ฟางเจิ้งหลงเป็นครั้งสุดท้าย เหล่าสนมนางในเองก็โศกเศร้ากับการจากไปของฮ่องเต้ในครานี้ ฟางเทียนอวี้ทำความเคารพพระศพของพี่ชายร่วมมารดาเป็นครั้งสุดท้าย เขานึกเสียใจไม่น้อย ที่ฟางเจิ้งหลงไม่เคยบอกเขาเลยว่าตนเองมีอาการเจ็บป่วยรุนแรงถึงเพียงนี้ จนกระทั่งวันที่สวรรคตเขาก็ได้มาดูใจพี่ชายคนนี้เพียงไม่นาน ฟางเทียนอวี้หวนนึกถึงคำพูดของฟางเจิ้งหลงที่บอกเขาก่อนจะสวรรคตได้ขึ้นใจ จงปกครองหวงเฉวียนอย่างมีคุณธรรม รักใคร่ราษฎรประหนึ่งลูกใน

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   บทที่ 54 The End

    แม่ทัพใหญ่เฉินส่งสัญญาณเรียกรวมพลทหารที่แอบซ่อนตัวให้มารวมพล ก่อนจะจัดการสังหารเหล่าชาวบ้านที่ขวางทางจนหมด แล้วมุ่งหน้าไปที่ประตูเมืองหลวงทันที แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ได้รับสัญญาณตอบกลับจากฟางเจียเอ๋อร์ในขณะที่แม่ทัพใหญ่เฉินกำลังร้อนใจ ก็ปรากฏว่ามีทหารวังหลวงหลายแสนนายที่เข้ามาล้อมกำลังทหารของเขาเอาไว้ แม่ทัพเฉินมีท่าทีตื่นตระหนก ก่อนจะหันไปมองเสียงกีบเท้าม้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆฟางเทียนอวี้!!! มันยังไม่ตายหรอกหรือ!!! แม่ทัพเฉินหน้าซีดเผือดก่อนจะหันไปมองด้านหลังของฟางเทียนอวี้ก็ยิ่งตกใจมากกว่าเดิม ยามนี้ฟางเจียเอ๋อร์ถูกจับมัดลากมากับพื้นสภาพสะบักสะบอมเป็นอย่างมาก ลูกพ่อ!!! ฟางเทียนอวี้คร้านจะเอ่ยสิ่งใดให้มากความ เขาจึงหันไปสั่งการทหารทันที "สังหารพวกมันให้หมด แล้วจับตัวแม่ทัพใหญ่เฉินมาให้ข้า" เหล่าทหารที่ได้ยินต่างก็พุ่งเข้าไปรบราฆ่าฟันกับศัตรูตรงหน้าอย่างบ้าเลือด ฟางเทียนอวี้เชิดหน้าขึ้นมองดูเหล่ากบฏถูกสังหารอย่างไร้ความรู้สึก ผ่านไปราวหนึ่งชั่วยาม ทหารของแม่ทัพใหญ่เฉินก็ถูกสังหารตายไปจนหมด ส่วนแม่ทัพใหญ่เฉินก็ถูกจับกุมในข้อหากบฏ จวนจวิ้นอ๋องถูกรื้อค้น ขันทีและบ่าวรับใช้ทหารปร

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   บทที่ 53 จัดการคนชั่ว

    เวลาผ่านไปร่วมเดือน พิธีล่าสัตว์ก็มาถึง แม่ทัพใหญ่เฉินยิ้มกริ่มด้วยความพึงพอใจ ได้ยินว่าฝ่าบาททรงไม่เสด็จไปล่าสัตว์เพราะพระวรกายไม่สู้ดี จึงส่งชินอ๋องฟางเทียนอวี้ให้เป็นผู้นำขบวนล่าสัตว์ไปแทน ส่วนฝ่าบาทจะทรงทำพิธีขอพรกลางแจ้งอยู่ที่ลานขอพรในวังหลวงฟางเทียนอวี้นั่งอยู่บนหลังม้าสีขาว เขาสวมชุดสีดำที่ชอบใส่อยู่เสมอ ในปีนี้เขาเป็นผู้นำขบวนออกไปล่าสัตว์แทนฟางเจิ้งหลง โดยมีฟางเจียเอ๋อร์ติดตามไปร่วมล่าสัตว์ในปีนี้ด้วย ฟางเจียเอ๋อร์ปรายตามองฟางเทียนอวี้คราหนึ่งด้วยแววตาที่เย็นชา ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ยามนี้นักฆ่าที่ตระกูลเฉินฝึกฝนเอาไว้ กำลังรอคอยอยู่บนเขา ขอเพียงฟางเทียนอวี้นำขบวนไปจนถึงทางขึ้นเขา เหล่านักฆ่าก็จะบุกลงมาสังหารทันที แม้องครักษ์ของวังหลวงที่ติดตามมาจะมีไม่น้อย แต่นักฆ่าที่เขาเตรียมการเอาไว้ก็มีฝีมือเยี่ยมยอดเช่นเดียวกันเมื่อคิดว่าจะได้ตัดหัวของฟางเทียนอวี้แล้วนำไปมอบให้เซียวเหมยลี่เป็นของกำนัล เขาก็สนุกเต็มทนแล้ว ดูสิว่านางจะทำหน้าเช่นไร ครานี้นางจะได้รู้เสียที ว่าการที่คิดปฏิเสธเขาจะต้องพบกับจุดจบเช่นไร ฟางเทียนอวี้ไม่ได้แสดงท่าทีใดใดเลยสักครา เขายังคงมีใบหน้าเรียบเ

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   บทที่ 52 วางแผน

    หมอหลวงสวีรีบนำยามาให้เซียวเหมยลี่กินในยามดึกคืนนั้นทันที หลังจากกินยาเข้าไปไม่นานนัก นางก็อาเจียนเป็นโลหิตสีดำออกมา ก่อนจะหมดสติไป ฟางเทียนอวี้ที่เห็นเช่นนั้นก็ตื่นตระหนกลนลานจนทำสิ่งใดไม่ถูก "หมอหลวงสวี เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้!!!" "ท่านอ๋องโปรดวางพระทัย พระชายาปลอดภัยแล้วพ่ะย่ะค่ะ พิษถูกขจัดออกหมดแล้ว แต่ต้องดื่มยาถอนพิษของกระหม่อมต่ออีกสามวัน เพื่อขับพิษที่หลงเหลืออยู่ให้ออกมาจนหมด"เมื่อได้ยินเช่นนั้นฟางเทียนอวี้ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะมองดูเซียวเหมยลี่ที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ใบหน้าสวยหวานกลับมางดงามมีชีวิตชีวาเช่นเดิมแล้ว เช้าวันต่อมาฟางเทียนอวี้เดินทางเข้าวังหลวงแต่เช้า หลังจากประชุมยามเช้าเสร็จสิ้น เขาก็ตามไปพบฟางเจิ้งหลงที่ห้องทรงอักษรทันที "ร้อนใจเรื่องใด จึงรีบเร่งมาหาข้า ไม่รีบกลับจวนแล้วหรือ?" ฟางเทียนอวี้ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ทิ้งกายลงนั่งเก้าอี้ข้าง ๆ กันกับฟางเจิ้งหลง ก่อนจะเล่าเรื่องราวที่เฉินหมิงหยวนนำยาถอนพิษมามอบให้เขา และบอกอีกว่าเฉินหมิงหยวนบอกว่าแม่ทัพใหญ่เฉินคิดการไม่ซื่อ หากอยากรู้เรื่องใดเพิ่มก็ให้มาถามกับฟางเจิ้งหลง ฟางเจิ้งหลงมองฟางเท

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   บทที่ 51 ยาถอนพิษ

    ฟางเทียนอวี้และเซียวเหมยลี่ใช้เวลาอยู่ที่วัดบนเขาราวครึ่งค่อนวัน ก่อนจะเดินทางกลับถึงจวนในตอนเย็น เซียวเหมยลี่รู้สึกแข็งแรงขึ้นไม่น้อย นางสบายใจขึ้นมากกว่าหลายวันก่อน อีกทั้งยังไม่อ่อนเพลียแล้วด้วย หมอหลวงสวีให้นางดื่มยาบำรุงติดกันมาร่วมเจ็ดวัน ก่อนที่จะทำการถอนพิษ หมอหลวงสวีบอกว่าการถอนพิษอาจจะทรมานในช่วงสามวันแรก แต่เมื่อผ่านไปได้ เซียวเหมยลี่จะค่อย ๆ กลับคืนสู่ร่างกายที่ปกติดังเดิม เซียวเหมยลี่ยกถ้วยยาบำรุงขึ้นดื่มจนหมด ก่อนจะหันไปส่งถ้วยยาคืนให้แก่หมอหลวงสวี "วันพรุ่ง ข้าจะต้องถอนพิษออกจากร่างกายแล้วใช่หรือไม่?" "พ่ะย่ะค่ะพระชายา เอ่อ กระหม่อมมีเรื่องหนึ่งอยากจะทูลให้ทรงทราบพ่ะย่ะค่ะ" "เรื่องอันใดหรือ?" หมอหลวงสวีหันไปมองหน้าฟางเทียนอวี้คราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบ "เดิมทียาถอนพิษชนิดนี้หายากยิ่งนัก ในใต้หล้านี้หนึ่งปีจะปรุงขึ้นมาได้เพียงห้าเม็ดเพราะใช้สมุนไพรพิเศษหลายตัว ยาถอนพิษนี้เพียงได้กินไปเม็ดเดียวก็จะช่วยขับพิษออกจากร่างกายได้ทันที โดยไม่ทรมานพ่ะย่ะค่ะ" ฟางเทียนอวี้ที่ได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มเอ่ยถามหมอหลวงสวีทันที "เราจะหายาถอนพิษนั้นได้จากที่ใด" "ยากนักท่านอ๋อง ยามนี้ไม่

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   บทที่ 50 ส่งมอบหลักฐาน

    แม่ทัพใหญ่เฉินกลับมาที่จวนของตนเอง โดยไม่ได้สงสัยสิ่งใดเลยแม้แต่น้อย วันนี้เขาไปที่จวนจวิ้นอ๋องเพื่อหารือกับฟางเจียเอ๋อร์ อีกหนึ่งเดือนข้างหน้าฝ่าบาทจะทรงออกไปล่าสัตว์ ซึ่งเป็นประเพณีที่กระทำสืบเนื่องต่อกันมาหลายปี เขาจะถือโอกาสนี้สังหารคนตระกูลฟางให้สิ้นซากไปเสีย แล้วผลักดันฟางเจียเอ๋อร์บุตรชายของเขาให้ขึ้นมาเป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ จากคำบอกเล่าของไป๋ฮองเฮานางบอกว่าระยะนี้ฝ่าบาททรงไม่ค่อยแข็งแรงเท่าใดนัก เขาจะถือโอกาสนี้ลอบส่งคนไปใส่ยาพิษในอาหารเพื่อทำให้พระวรกายอ่อนแอลงไปเรื่อย ๆ จนไม่สามารถออกนอกวังได้ ในเมื่อออกนอกวังหลวงไม่ได้ ฝ่าบาทที่เป็นคนเคร่งพิธีการทุกอย่าง ย่อมต้องส่งฟางเทียนอวี้ไปทำหน้าที่แทน เขาจะถือโอกาสนี้สังหารฟางเจิ้งหลงในวังหลวง ส่วนฟางเจียเอ๋อร์จะคอยถ่วงเวลาฟางเทียนอวี้เอาไว้ เมื่อเขาบังคับให้ฟางเจิ้งหลงมอบบัลลังก์ให้สำเร็จ ยามนั้นอำนาจจะตกอยู่ในมือของคนตระกูลเฉิน ฟางเทียนอวี้ย่อมไม่มีปัญญาทำสิ่งใดได้อีกนอกจากยอมจำนนอย่างไร้หนทางต่อสู้!!! ยิ่งคิดแม่ทัพใหญ่เฉินก็ยิ่งอารมณ์ดีไม่น้อย เขานับวันรอที่จะเสพสุขกับอำนาจในมือไม่ไหวแล้ว!!! ด้านเฉินหมิงหยวนนั้น เขาเก็บหลักฐานท

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status