กระเบื้องตรงปีกซ้ายก็มีร้าวอยู่หลายแผ่น เพราะรอบข้างมีต้นไม้ใหญ่จำนวนมากที่กิ่งพร้อมจะหักโค่นมาใส่เพราะไม่ได้รับการดูแลตัดต้นไม้ที่งอกขึ้นมาเองทิ้งไปบ้าง มันจึงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้กิ่งหักลงมากระแทกจนกระเบื้องมุงหลังคาเสียหาย เขาเลือกถอดแผ่นที่คุณภาพดีออกมาห้าแผ่น
คีรินลงมาจากนั่งร้านแล้วเดินไปดูห้องที่บอกให้เธอเก็บกวาด เห็นว่าเธอเอาแผ่นฝ้าที่แตกหักออกมาวางกองไว้ด้านนอกหมดแล้ว และกำลังกวาดฝุ่นกับหยากไย่ลงมาจากผนัง ก่อนจะกวาดใส่ที่ตักขยะแล้วเอาไปทิ้งด้านนอกอีกที
ชายหนุ่มกวาดตามองภายในห้อง ซึ่งตอนเขาเด็ก ๆ ห้องนี้เป็นห้องที่บิดากับมารดาของเขานอนด้วยกันมีขนาดกว้างกว่าห้องอื่นเพราะใช้พื้นที่ส่วนปีกขวาทั้งหมด ส่วนห้องฝั่งปีกซ้ายสองห้องเป็นห้องของพี่ชาย และอีกห้องหนึ่งเป็นห้องของน้องสาว
ส่วนเขาอยู่ห้องชั้นล่างซึ่งเธออยู่ตอนนี้ ด้วยติดผู้เป็นปู่กับย่าที่นอนอยู่อีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่ตรงข้ามติดห้องโถงชั้นล่าง เนื่องจากท่านอายุมากแล้วจึงเลือกอยู่ชั้นล่างเพราะขึ้นลงไม่สะดวก เขาจึงเลือกห้องข้างล่างเพื่อจะได้นอนใกล้ท่าน
“กวาดแค่นี้ก็พอแล้ว เดี๋ยวเราไปช่วยพี่ยกนั่งร้านหน่อย” เขาว่าแล้วก็เดินออกไปยังนั่งร้าน แล้วตั้งท่ารอให้เธอมายกพร้อมกัน เธอไปยืนคนละฝั่งกับเขา แล้วหามนั่งร้านเหล็กนั้นเข้ามาในห้อง
คีรินปีนขึ้นไปบนนั่งร้านแล้วไปถอดกระเบื้องที่ชำรุดลงมา ขณะที่เธอเดินไปหยิบกระเบื้องที่เขากองไว้เข้ามาในห้องอย่างรู้งาน ก่อนจะมายืนรอรับแผ่นกระเบื้องชำรุดที่เขาถอดส่งลงมาให้ เมื่อถอดออกมาได้สองสามแผ่น เขาก็ปีนขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน แล้วถอดแผ่นอื่นต่อจนเสร็จ พลางบอกให้เธอส่งแผ่นกระเบื้องอันใหม่ขึ้นไปให้บ้าง บอกให้หยิบอุปกรณ์โน่นนี่ส่งให้เขาบ้าง จนกระทั่งเสร็จจึงได้ปีนลงมา
“คราวนี้ไม่น่าจะรั่วแล้วนะ คืนนี้เราจะได้นอนสบายกันสักที พรุ่งนี้กระเบื้องมาถึงค่อยเปลี่ยนฝั่งโน้น” เขาว่าพลางเงยหน้ามองกระเบื้องมุงหลังคา
“งั้นเดี๋ยวฤดีทำความสะอาดห้องนี้ให้นะคะ พี่คีรินจะได้นอนห้องนี้” เธอว่าแล้วก็รีบก้าวเท้าไว ๆ ลงไปชั้นล่าง หยิบไม้ถูพื้นกับถังน้ำขึ้นมา ราวกับกลัวว่าคืนนี้เขาจะนอนห้องเดียวกับเธออีก
เมื่อขึ้นมาถึงเห็นเขากำลังลากนั่งร้านออกจากห้อง เธอจึงช่วยเขาเลื่อนนั่งร้านก่อน เพราะเมื่อครู่นี้เธอรีบร้อน จนลืมไปว่ายังไม่ได้ยกนั่งร้านออกไป ก่อนจะกวาดพื้นให้สะอาดอีกครั้งแล้วลงมือถูพื้นอย่างตั้งอกตั้งใจ
ชายหนุ่มอมยิ้ม การที่เธอมาอยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกัน ทำให้เขาเบาแรงขึ้นได้เยอะเลยทีเดียว เขาปล่อยให้เธอถูห้องให้ ส่วนตัวเองก็ลงไปขนของขึ้นมา
วันนี้เขาซื้อชุดที่นอนปิกนิกของตัวเองมาแล้ว จึงไม่ต้องรบกวนผ้านวมของเธอปูนอนอีก เขาตั้งใจจะกินอยู่หลับนอนแบบง่าย ๆ ไปก่อน จนกว่าจะปรับปรุงบ้านหลังนี้เสร็จ แล้วค่อยไปซื้อข้าวของจำเป็นมาเพิ่ม
เมื่อเขาเข้ามาในห้องเธอก็ทำความสะอาดเสร็จพอดี จึงรีบออกไปจากห้องเพื่อให้เขาได้ใช้เวลาจัดข้าวของของตัวเอง
เพียงฤดีลงไปหุงข้าวทำกับข้าว เพราะในเวลานี้ก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้ว เธอจึงทำอาหารง่าย ๆ คือผัดกะเพราหมูสับ กับไข่ดาวราดข้าวคนละจาน และมีแกงจืดเต้าหูหมูสับให้เขาได้ซดร้อน ๆ เพราะคิดว่ากินเสร็จแล้วจะได้รีบนอน พรุ่งนี้มีงานซ่อมแซมบ้านอีกมากมายรออยู่
แล้วก็เป็นอย่างที่เธอคิด เขาลงมาอาบน้ำกินข้าวแล้วกลับขึ้นไปนอนโดยไม่ได้พูดอะไรมากนัก เธอจึงเก็บจานชามล้างแล้วอาบน้ำ
ก่อนจะมาแต่งชุดนอนแล้วไปนั่งที่โต๊ะญี่ปุ่น เปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กขึ้นมาเขียนนิยายตามปกติ เธอตั้งใจว่าจะใช้เวลาเขียนนิยายในตอนกลางคืนสักสองสามชั่วโมง แล้วอัปขึ้นเว็บไซต์นิยายออนไลน์สองสามเว็บไซต์ที่เธอใช้บริการอยู่เป็นประจำ ก่อนจะเข้านอนตอนเกือบเที่ยงคืน
แม้ว่าเขาจะอนุญาตให้เธออาศัยอยู่ที่นี่ได้ โดยช่วยงานเขาแลกกับค่าที่พัก แต่แผนการที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองนั้นก็ยังคงอยู่ เธอจึงจำเป็นต้องขยันมากกว่าคนอื่น ๆ กลางวันเธอจะช่วยเขาทำงานบ้าน และหยิบจับอะไรช่วยเขาบ้างตอนที่เขาซ่อมแซมบ้าน เพราะเธอรู้ว่าเขาทำคนเดียวคงไม่สะดวกนัก อย่างน้อยต้องมีคนคอยส่งเครื่องมือเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เขาบ้างในยามที่เขาอยู่ที่สูง
หญิงสาวหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาดู เพราะเมื่อกี้นี้เธอรีบเปิดไวไฟเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตในการอัปโหลดงานขึ้นเว็บไซต์ จึงยังไม่ได้ดูว่ามีใครติดต่อเข้ามาบ้าง เนื่องจากวันนี้เธอปิดเครื่องทั้งวันหนีการโทร. ตามของมารดาและพี่ชาย
เธอรู้ว่าทั้งสองคนนั้นไม่อยากให้เธอย้ายออกจากบ้าน เนื่องจากกลัวเธอจะไม่ช่วยเหลือเรื่องเงินทอง ส่วนน้องชายนั้นเธอไม่ห่วงมากนัก เพราะได้ทักไปบอกทางกล่องข้อความในเฟซบุ๊กแล้วว่า มีอะไรให้ทิ้งข้อความไว้ ส่วนเงินค่าใช้จ่ายเธอก็โอนไปให้สัปดาห์ละหนึ่งพันบาทเหมือนเดิม
และน้องชายของเธอก็ได้ตอบกลับมาแล้วว่าทุกอย่างที่บ้านสงบดี สองสามวันมานี้แม่ของเธอก็ไม่ค่อยออกไปข้างนอกแล้ว ส่วนพี่ชายก็ยังตั้งวงกินเหล้าที่บ้านทุกเย็นอยู่เหมือนเดิม หากมีปัญหาอะไรที่หนักหนาจริง ๆ นภดลน้องชายของเธอจะส่งข้อความมาบอกเอง ทำให้เธอเบาใจไปได้เปลาะหนึ่ง
โชคดีที่น้องชายเธอไม่ได้เกเร ขยันขันแข็งในการเรียนดี เธอจึงไม่เคยขัดใจ หากน้องชายจะขอเงินพิเศษสำหรับการซื้ออุปกรณ์การเรียนเพิ่มบ้าง
หญิงสาวส่งข้อความหาน้องชายว่าวันนี้เธอสบายดี การซื้อที่ดินเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับมีที่พักให้ด้วย ตอนนี้กำลังทำงานเก็บเงินสร้างบ้าน ถ้าเสร็จแล้วจะไปรับมาเที่ยว ไม่ต้องเป็นห่วง ก่อนจะปิดสมาร์ตโฟนแล้วนอนหลับลงได้
“นายไปเถอะ ฤดีทำกับข้าวไว้แล้ว บอกแม่ว่าพรุ่งนี้จะพาฤดีไปกินข้าวด้วย” คีรินว่าพลางโอบเอวของภรรยาข้าวใหม่ปลามันเข้ามาชิด “โอเค งั้นผมไปละ โคตรหิว” ปรัชญาโบกมือลาแล้วเดินดุ่ม ๆ มุ่งหน้าไปยังบ้านหลังน้อยของเพียงฤดีที่ตอนนี้เปิดไฟสว่างขึ้น คีรินและเพียงฤดีมองตามร่างสูงของปรัชญาที่เดินเข้าไปยังบ้านหลังเล็กที่อยู่ไกล ๆ เพียงฤดีมองภาพนั้นอย่างมีความสุข เพราะบ้านหลังน้อยของเธอนอกจากจะเป็นบ้านที่ให้แม่และน้องได้อยู่อย่างมีความสุขแล้วยังเป็นที่พึ่งพิงของชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ทำตัวเป็นคนโปรดของมารดาเธอได้อย่างน่าเอ็นดู แถมยังทำให้มารดามีความสุขกับการได้มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่ต้องมีเรื่องทุกข์ร้อนให้ต้องกังวลใจอีกไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่เคยชักหน้าไม่ถึงหลัง ใช้เดือนไม่เคยชนเดือน ตอนนี้ท่านก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทองอีก เพราะเดือนละหนึ่งหมื่นบาทที่เธอให้ ท่านแทบไม่ได้เอาไปซื้ออะไรเลย เพราะใช้เงินจากที่นภดลนำผักไปขายเอาเงินไปซื้ออาหารสด และนภดลก็เริ่มมีรายได้เป็นของตัวเอง
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เขาก็ใช้ความพยายามกล่อมภรรยาจนได้กินเธออีกรอบอย่างที่ต้องการ นอนคลอเคลียด้วยกันอยู่บนที่นอนจนถึงอาหารมื้อเที่ยง ถึงได้ออกจากห้องคีรินเปิดประตูออกไปหน้าบ้าน เห็นคนงานกำลังเคลียร์สถานที่ที่ใช้จัดงาน โดยมีปรัชญาคอยดูแล“อ้าว พี่คี ออกมาได้แล้วเหรอ เมื่อคืนคงหนักสินะ” รุ่นน้องหนุ่มเอ่ยแซวพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย“แล้วมึงละ หนักเหมือนกันละสิไอ้เป้ ป่านนี้ถึงได้เพิ่งมาเก็บของ”“แหม ก็ยันเช้าอ่ะพี่ พี่ณัฐกับไอ้บุ๋มยังไม่ตื่นเลย พี่เทพพาเมียไปเดินเล่นในสวน ส่วนไอ้หนึ่งพาเมียไปออกไปซื้อของตลาดเดี๋ยวคงจะมา เห็นว่าจะกลับกันเย็นนี้” ปรัชญารายงาน“แล้วยายนภาล่ะ เมื่อคืนนอนที่ไหน”“เห็นพี่ชลพากลับไปนอนบ้านโน้น แต่รถยังอยู่ที่นี่เห็นว่าค่อยกลับมาเอาตอนจะกลับกรุงเทพฯ” ปรัชญาตอบ“อืม งั้นนายก็ทำงานไปเถอะ ฝากช่วยหน่อยนะ วันนี้เพลีย ๆ เดี๋ยวพี่ไปช่วยเมียทำกับข้าวก่อน นายก็หากินเอาเองนะ”“ไปเลยพี่ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องกินน่ะผมฝากท้องกับแม่แล้ว ผูกปิ่นโตทุกวัน เดี๋ยวก็ว่าจะย้ายของในห้องไปอยู่กระท่อมแล้วละ ส่วนพี่ก็เก็บแ
“งั้นเดี๋ยวพี่ป้อนให้” ว่าแล้วก็ดันร่างบางของหญิงสาวให้มาเผชิญหน้า เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย มือเรียวปิดหน้าอกเอาไว้ เขาเพิ่งรู้ว่ามันไม่ได้เล็กอย่างที่เขาคิด แต่ความอวบอิ่มนั้นล้นมือของเธอทีเดียว ปกติเขาจะเห็นเธอแต่งชุดเรียบร้อย เสื้อผ้าก็ใส่แบบหลวม ๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับมีจนเขาต้องแอบกลืนน้ำลาย เขาเอาองุ่นใส่ปากหญิงสาวที่กำลังจะอ้าปากท้วง “อร่อยไหม” ถามด้วยดวงตามระยิบระยับ ที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา “พี่คีริน ไปอาบน้ำสิคะ ฤดีกินเองได้ค่ะ” เธอหลบสายตาหวานฉ่ำนั้นด้วยความเขินอาย พลางไล่ให้เขาไปอาบน้ำก่อน “พี่ไม่อาบคนเดียวหรอก เราต้องไปอาบกับพี่ด้วย รู้ไหมตอนตกแต่งห้องนี้ พี่แอบคิดว่าถ้าวันหนึ่งพี่แต่งงานกับฤดี ก็อยากอาบน้ำด้วยกันทุกวัน จึงได้ติดตั้งอ่างจากุชซี่ไว้ในห้องนอนด้วย” “อะไรน
๒๒วิวาห์แสนหวาน งานแต่งงานที่จัดขึ้นที่ไร่คีรินจบลงอย่างสวยงาม แม้ว่าเพื่อนเจ้าบ่าวกับเพื่อนเจ้าสาวออกอาการเขม่นกันอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้ทำให้งานแต่งงานเสียบรรยากาศแต่อย่างใดส่วนเอกกมลผู้เป็นพี่ชายของเจ้าสาวนั้นพาภรรยาวัยสาวน้อยมาด้วย แต่อยู่ร่วมงานเพียงไม่นาน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ก็พาภรรยากลับไปซึ่งเพียงฤดีก็เข้าใจและเห็นใจในความลำบากใจของพี่ชาย ซึ่งรู้ว่าภรรยาของตนกับมารดานั้นไม่ค่อยลงรอยกันนัก จึงไม่ได้ว่าอะไรที่เขาไม่ได้อยู่จนจบงาน แค่เขาได้มาร่วมงาน เธอก็ดีใจมากแล้ว และเห็นว่าเอกกมลเปลี่ยนตัวเองให้ใจเย็นลงได้อย่างมากก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว “น้องฝากยายฤดีด้วยนะพี่คีริน ดูแลให้ดีนะ ไม่งั้นน้องโกรธจริง ๆ ด้วย” นภาธรว่า ขณะที่อยู่ในห้องหอของบ่าวสาวที่เพิ่งทำพิธีจบลง และหมดหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวของเธอแล้ว&nb
ปรัชญาเดินดุ่มขึ้นมาบนบ้านหลังเล็กของเพียงฤดีเมื่อเห็นคีรินนั่งอยู่หน้าบ้าน เขาเดินขึ้นระเบียง ถอดหมวกแก๊ปวางบนโต๊ะด้วยท่าทางหงุดหงิด แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าชายหนุ่มรุ่นพี่“เป็นอะไรไอ้เป้” คีรินถาม“ก็ผู้หญิงอะไรไม่รู้ หน้าตาก็ดี แต่เหมือนคนบ้า ผมจอดรถของผมอยู่ดี ๆ ก็มาเคาะกระจกเรียก ด่าผมว่าเสียมารยาทไปจอดรถตรงที่ที่เขาจองไว้แล้ว บ้าบอมาก มันตลาดนัด ใครไปถึงก็จอดก่อน ผมก็ไม่เห็นว่าเขากำลังจะเข้าจอด เห็นรถถอยออกก็เสียบเข้าไป ยังไม่ทันได้ดับเครื่องก็มาเคาะเรียก บังคับให้ผมเอารถออกทั้ง ๆ ที่ตรงอื่นก็จอดได้เยอะแยะ ผมขี้เกียจรำคาญก็เลยถอยรถออกมานี่แหละ จะแวะซื้อเป็ดตุ๋นมากินสักหน่อยเลยไม่ได้กินเลย”“เออน่า อย่าเพิ่งโมโหหิว แม่กับฤดีทำกับข้าวอยู่ น่าจะใกล้เสร็จแล้วละ เดี๋ยวก็กินด้วยกันที่นี่แหละ แล้วว่าไง ออกไปหาลูกค้าไร่พิงอรุณมาเป็นยังไงบ้าง”“ก็ดี ลุงแกก็โอเคแหละ คนแก่น่ะ ให้เราออกแบบระบบให้แล้วเสนอราคาไปก่อน เห็นบอกว่าลูกสาวที่อยู่กรุงเทพฯ อยากให้วางระบบฟาร์มอัจฉริยะไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาอยู่บ้านแล้ว”“อืม เห็นลุงแกจะขายที่ดินให
งานแต่งงานกำลังจะจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า วันนี้ทั้งประสิทธิ์ สายชล และชลธรมาช่วยเตรียมงานในไร่ตั้งแต่เช้า ไหนจะช่วยจัดเตรียมวางแผนเรื่องอาหาร การจัดสถานที่ รวมทั้งชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว แม้ว่าทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะบอกว่าอยากได้งานเล็ก ๆ อบอุ่น ๆ ภายในครอบครัวแต่ในที่สุดก็ไม่สามารถจัดแบบนั้นได้ เมื่อพ่อแม่เจ้าบ่าวไม่ยอม เนื่องจากเป็นลูกชายคนแรกที่ได้แต่งงาน และไม่รู้ว่าลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็กจะมีโอกาสได้แต่งงานไหม จึงขอจัดงานให้ถูกใจพ่อแม่เจ้าบ่าวก่อน“อย่าว่าฉันอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะแม่หทัย ฉันน่ะก็ไม่อยากให้ทุกคนเหนื่อยกันหรอก แต่ฉันก็มีลูกอยู่แค่สามคน อีกสองคนยังไม่มีวี่แววว่าจะได้แต่งงาน เลยขอจัดงานพ่อคีรินให้มันใหญ่หน่อย ให้พออวดเพื่อนได้ว่าฉันได้ลูกสะใภ้ดี แม่หทัยนี่สอนลูกดีจริง ๆ น่ารักน่าเอ็นดู ขยันขันแข็ง อ่อนน้อมถ่อมตน ฉันเห็นครั้งแรกก็หลงรักแล้ว” สายชลว่าพลางนั่งตรวจเช็คของชำร่วยไปพลาง ว่าจำนวนชิ้นพอกับแขกเหรื่อที่เชิญไว้หรือไม่ขณะคนที่ถูกชมกลับยิ้มเจื่อน ๆ เพราะตนเองก็ไม่ได้สอนอะไรลูกสาวมากนัก มีแต่ใช้งานหนักให้ทำโน่น