จิลรู้สึกเริ่มสร่างเมาแล้วเหลือแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่ไม่ควรจะเจอกลับมาอยู่ในสถานที่แบบนี้ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นถึงคุณหมอและทายาทของนักธุรกิจชื่อดัง อีกทั้งที่นี่ยังเป็นห้องวีไอพีสำหรับแขกพิเศษที่ทุกคนต่างก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าเป็น “ห้องเชือด” นั่นเอง
“คุณมาทำอะไรที่นี่”
“เธอแน่ใจเหรอว่าไม่รู้เลยว่าฉันมาที่นี่ เธอจะแกล้งทำเป็นไร้เดียงสาทำเป็นไมรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ได้เหรอ”
จิลที่ยังไม่สร่างเมาดีแต่ก็ยังไม่เข้าใจที่เขาพูดก็เริ่มควานหามือถือที่สั่นอยู่ในกระเป๋า เธอยกขึ้นมารับสาย
“ฮัลโหล มิ้นท์ฉันปลอดภัยดี ฉันอยู่ที่…”
“ติ๊ด!”
“คุณหมอ! เอามือถือจิลคืนมานะ”
“ไม่ได้จนกว่าเราจะคุยกันจบ”
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณหมอนะคะ เอาคืนมา”
จิลลุกขึ้นมาและเดินเซมาที่เขาเพื่อจะแย่งมือถือ คณาธิปแค่ยืดตัวขึ้นด้วยความสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตรทำให้สาวตัวเล็กย่างชมชนกเอื้อมไม่ถึงจนเธอเริ่มโมโห
“เอามานะไอ้บ้าเอ๊ย อยากโดนหมัดหรือไงแม่จะฟาดไม่เลี้ยงเลย บอกให้เอาคืนมา!”
“อะไรนะ! นี่เธอเมาแล้วกร่างแบบนี้ทุกครั้งเลยเหรอ”
“เอามา! ได้ยินไหมไอ้ลูกหมา!”
“อะไรนะ! นี่เธอเรียกใครว่าไอ้ลูกหมา!”
“แกไง มาแย่งมือถือฉันทำไม เอาคืนมา!”
จิลไม่เพียงแค่ขู่ เธอยังเดินหน้าชกเขาไปสองสามทีเพื่อจะแย่งเอามือถือของเธอกลับมา แต่เขาหลบได้ทันจนเธอเริ่มเหนื่อยและล้มไปนอนที่โซฟา
“เอามานะไอ้บ้า!”
“เชี่ย ด่ากูเป็นไฟ ไหนบอกชอบกูนักหนาวะ”
เขาเดินไปใกล้ ๆ ตัวเธอที่นอนฟุบอยู่ที่โซฟาของเขาก่อนจะค่อย ๆ สะกิดให้เธอตื่น
“นี่… นี่เธอ ตื่นได้แล้วเราต้องคุยกันนะ”
“อือ ยุ่งน่ะมิ้นท์ขอนอนก่อนแป๊บหนึ่ง”
“จะมานอนอะไรตรงนี้”
“พูดมากมานอนด้วยกันเลยมา!”
“เฮ้ย!”
แรงของคนเมาไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ คณาธิปที่ไม่ทันตั้งตัวถูกเธอดึงลงไปซบกับหน้าอกนิ่ม ๆ ที่กำลังกระเพื่อมขึ้นลง กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ แบบเด็กมหาลัยแตะจมูกเขาจนรู้สึกวาบหวิวแปลก ๆ ไม่คิดว่าเขาจะมีความรู้สึกแบบนี้กับเธอ รวมไปถึงบางอย่างในร่มผ้าที่กำลังเริ่มตึงขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อนั่นด้วย
“อะไรวะเนี่ย ไม่จริงน่า”
ไม่นานประตูก็เปิดออกมา ตันติกรเพื่อนของเขาทันได้มาเห็นภาพนี้ทันทีจึงได้รีบพูด
“ไอ้คินน์ มึงจะทำอะไรก็ล็อกประตูก่อนสิวะ ประเจิดประเจ้อถ้าไม่ใช่กูจะยุ่งเอานะ”
“ไอ้ต้วน! มึงมาช่วยกูทีเร็วเข้า กูจะถูกรัดคอตายอยู่แล้ว”
“อะไรนะ! อ้าวไม่ใช่หรอกเหรอ”
“เร็ว ๆ เข้า”
เมื่อต้วนวิ่งมาช่วยคินน์ที่ถูกจิลรัดคอเอาไว้ออกมาได้กลับต้องตกใจ เมื่อเห็นว่าบางอย่างในตัวเพื่อนสนิทกำลังเรียกร้องตามธรรมชาติ
“ไอ้คินน์ กูว่ามึงน่าจะหาคนที่ช่วยมึงบำบัดโรคได้แล้วล่ะ”
“อะไรนะ พูดอะไรของมึง…เชี่ย!! ยังไม่ลงอีกเหรอ”
“ตุงขนาดนี้กูไม่เคยเห็น มึงจะลองไหม”
“ไม่ได้ เธอเป็นเด็กฝึกงานที่โรงพยาบาล นี่มันเลวเกินไปแล้ว”
“แล้วไงวะ ยังไงมึงก็ลองคุยกับน้องมันดูก่อน”
“มึงว่าสภาพแบบนี้กูยังจะคุยอะไรได้ล่ะ กูเกือบตายแล้ว”
“แล้วมึงจะเอายังไงเพราะตอนนี้เพื่อนเธอก็กลับไปแล้ว”
“อะไรนะ!”
“อ้าวก็กูไม่รู้ก็เลยบอกเพื่อนเธอไปว่าส่งเธอกลับไปแล้วเพราะกลัวว่าจะมีเรื่อง ทางเราเคลียร์ให้และจ่ายค่าเสียหายให้ก็เลยกลับไป เห็นว่าโทรมาหาเธอแล้วนี่”
“ซวยของจริง”
“ซวยอะไร มึงจะได้รู้ไงว่าเธอช่วยมึงได้หรือเปล่า ถ้าของมึงไม่แข็งก็แค่ปล่อยน้องไปไม่ใช่เหรอ เอากลับไปด้วยล่ะข้างล่างกูจัดการแล้ว ตอนนี้ได้เวลาของกูแล้ว”
“เดี๋ยวก่อนสิแล้วจะให้กูพาไปไหน”
“โรงแรมใกล้ ๆ นี่ไงยังต้องให้กูบอกอีกเหรอ เอานี่ไปให้คนพาไปส่งกูจะบอกพี่หลวงให้”
“อะไรวะเนี่ย”
คณาธิปไม่มีทางออกอื่นนอกจากต้องพาเธอไปที่ห้องสวีทโรงแรมหรูของเพื่อนสนิทที่จัดเอาไว้ให้พร้อมกับคนขับรถ แม้ว่าตัวของสาวน้อยจะไม่ได้ใหญ่จนเขาอุ้มเธอเข้ามาได้สบาย แต่ก็ต้องทำใจลำบากเมื่อเห็นเธอนอนแบบนี้
“นี่… เธอตื่นมาก่อนได้ไหม”
“อืม ตื่นแล้ว"
ไม่คิดว่าเธอจะตื่นขึ้นมาจริง ๆ หลังจากที่เขาปลุกอยู่กว่าสิบนาที แต่ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือคิดถูก เพราะเมื่อจิลตื่นขึ้นมาก็หันมาโปรยยิ้มให้เขา
“ซิมบร้า”
“หา! อะไร ใครคือซิมบร้าเธอเพ้ออะไร…”
“มากอดหน่อย คิดถึงจังเลย”
จิลโถมตัวเข้ามากอดเขาและดึงลงไปที่เตียงทันที เธอซุกไซ้มาที่แก้มของหมอคินน์จนเขาแทบจะขยับไม่ได้ ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กอย่างเธอจะมีแรงมากกว่านี้
“มานี่มา หอมหน่อย อื้อ…”
เธอพลิกตัวขึ้นมาอยู่ด้านบนและก้มลงไปหอมเขาไม่หยุดจนอีกฝ่ายเริ่มตั้งตัวติดและบางอย่างที่อยู่ด้านล่างกำลังถูกถูไถจนเริ่มตื่นตัว
“เธอ หยุดก่อนนะคือว่ามันจะ โอ๊ย!”
“อยู่เฉย ๆ สิเดี๋ยวดีเองขอจูบหน่อย”
ไม่ได้พูดเฉย ๆ แต่เธอทำจริง สาวสวยในชุดเดรสสีขาวเข้ารูปเซ็กซี่ที่ปกติเขาไม่เคยเห็นจู่ ๆ ก็จู่โจมเข้ามา จูบที่เธอบดที่ปากเขาดูเงอะงะแต่กลับมีกลิ่นที่ทำให้ห้วงอารมณ์ปรารถนาของเขาแตกกระเจิง และตอนนี้คงยากที่จะหยุดเสียแล้ว
“เธอเริ่มก่อนเองนะแม่เด็กจอมยั่ว”
“อ๊ะ! โอ๊ะ! อื้อ…. อ๊าา”
เดรสสีขาวถูกดึงลงมาพร้อมกับบราไร้สายจนเห็นหน้าอกอวบอิ่มข้างใน เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันจะเต่งตึงและมีขนาดใหญ่จนทำให้เขารู้สึกคอแห้ง หน้าอกที่ไร้การศัลยกรรมและหัวนมสีชมพูที่เป็นธรรมชาตินี้คงไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน
“ไม่ไหวแล้ว…”
“อ๊าา จั๊กจี้นะไม่เล่น อ๊ะ ไม่ใช่ นี่มัน อ๊าา หยุดนะ อ๊าา มันเสียวขึ้นหัวเลย อ๊าา”
ลิ้นอุ่น ๆ ของหมอคินน์ค่อย ๆ ดูดดึงหน้าอกที่อวบอิ่มตรงหน้า เขาพบว่าตัวเองหิวมากขนาดไหนเมื่อเริ่มจะลงมือ ลิ้นไต่วนรอบยอดอกสีชมพูสดจนเริ่มช้ำอีกทั้งเผลอสร้างรอยเอาไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
“อ๊าา ร้อน อย่านะ อื้อ...”
เขารู้ว่าเธอเครื่องติดแล้วมือหนาจึงเริ่มล้วงเข้าไปด้านล่างที่เริ่มแฉะแต่กลีบตรงกลางดูเหมือนจะยังปิดสนิทอย่างไม่น่าเชื่อ
“ให้ตายเถอะ เธอยังเวอร์จิ้นอยู่เหรอเนี่ย”
แต่เขากลับรู้สึกมีอารมณ์มากกว่าทุกครั้งจนน่าแปลกใจ ขนาดเธอไม่ได้เล้าโลมเขาเลยสักนิดยังเป็นไปได้ขนาดนี้ หมอคินน์ต้องรีบถอดกางเกงของตัวเองออกเพื่อให้มังกรน้อยของเขาได้หายใจสะดวก ซึ่งแทบจะตกใจเมื่อเห็นว่ามันตื่นเต็มที่จนกลายร่างเป็นมังกรยักษ์เต็มตัว
“เชี่ย! ไม่เคยรู้สึกว่าใหญ่ได้เท่านี้มาก่อนเลย อาา….”
เขาหันไปมองจิลที่ยังดิ้นอยู่ที่เตียง ยิ่งเธอดิ้นก็ยิ่งปลุกอารมณ์เสือร้ายของเขาให้ตื่นขึ้นมา ก่อนจะค่อย ๆ คลี่กลีบที่ปิดสนิทแยกออกจากกัน
“สวยอะไรแบบนี้วะ”
เขาเป็นหมอสูติฯ ย่อมต้องเคยเป็นอวัยวะเพศของหญิงสาวมานับไม่ถ้วน แต่กลับไม่มีคนไหนที่ทำให้เขาเอ่ยปากชมเมื่อเปิดดูของผู้หญิงตรงหน้า
“แคมปิดสนิทอีกทั้งยังเป็นสีชมพูสด แม้แต่แตะต้องหรือช่วยตัวเองก็คงจะไม่เคยสินะ ให้ตายเถอะทำไมทนไม่ไหวล่ะ บ้าเอ๊ย!!”
เมื่อนิ้วเกลี่ยสำรวจจนพอใจ คุณหมอก็เริ่มใช้ลิ้นเข้าไปสำรวจภายใน เขาไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นจนหัวใจเต้นแรงขนาดนี้มาก่อน เมื่อลิ้นของเราเริ่มสัมผัส คนตัวเล็กก็เริ่มส่งเสียงครางทำเอามังกรยักษ์ของเขาเริ่มพ่นน้ำออกมาทีล่ะนิด
“ใจเย็น ๆ ก่อนลูกพ่อ อาา เสียวฉิบหายเลย ยอดเยี่ยม…”
“อ๊าา!! ร้อน อ๊าา”
ห้องส่งตัว หมอคินน์ค่อย ๆ พยุงภรรยาเข้ามาในห้องหอที่จัดเตรียมเอาไว้สำหรับทั้งคู่ งานในวันนี้ถูกจัดที่เรือนหอที่พึ่งสร้างเสร็จ เมื่อพาเธอมานั่งที่เตียงหมอคินน์ก็ก้มลงไปถอดรองเท้าให้จนจิลต้องห้ามเขา“อย่าทำแบบนี้นะคะ เดี๋ยวจิลถอดเองดีกว่า”“ไม่เป็นไร หลังจากนี้ให้ผมทำเถอะนะ คุณแค่อุ้มท้องเจ้าตัวเล็กนี่กับต้องทนแพ้ท้องทุกวันก็ลำบากแย่แล้ว แค่ถอดรองเท้าให้คุณผมทำได้อยู่แล้ว”“แต่ว่า…”เมื่อหมอคินน์ถอดรองเท้าเธอออกถึงได้รู้ว่าทำไมจิลถึงไม่อยากให้เขาเป็นคนถอด รองเท้าแม้ว่าจะสวยแต่กลับกัดเจ้าสาวของเขาจนมีรอยแผล“อะไรเนี่ย! ทำไมไม่บอกผมว่ารองเท้ากัดล่ะ แล้วทำไมต้องทนเจ็บอยู่คนเดียวแบบนี้ เดี๋ยวผมไปเอายามาทาให้”“หมอคะ! อย่าไปเลยค่ะ เดี๋ยวค่อยทาก็ได้ไม่ได้เจ็บมาก ยังมีถุงน่องรองเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง มิ้นท์เองก็เอาแผ่นรองมากันให้แล้วตอนอยู่ในงาน”“ทำไมไม่พูดอะไรเลยผมจะได้ให้คนเอารองเท้ามาเปลี่ยนให้”“จิลไม่คิดว่าวันจริงเท้าจะบวมมากขึ้นขนาดนี้ค่ะ วันที่ลองใส่ยังพอดีกับเท้าอยู่เลย”“เฮ้อ อยู่นี่นะผมจะไปเตรียมน้ำอุ่นให้คุณแช่เท้า”หมอคินน์ลุกขึ้นเพื่อจะไปเตรียมของ จิลลุกขึ้นกอดเขาจากด้านหลัง คณาธิปร
“นี่แกยังจะทรมานเมียแกอีกเหรอ ตอนนี้จิลก็กำลังท้องแกยังจะทรมานลูกสะใภ้ของฉันแบบนี้ได้ยังไง”“ผมรู้ครับแต่ผมก็ติดรสมือเมียผมไปแล้วนี่นา อีกอย่างตอนนี้ก็ยังไม่ได้แพ้มากแต่ยังไงผมก็ต้องดูแลจิลให้ดีที่สุด แม่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ”“เดือนหน้าจะรับปริญญาแล้วใช่ไหม คงต้องจัดการให้ดี ๆ แล้วล่ะ คุณลินดา จริงด้วยบอกคุณแม่หรือยัง”“บอกแล้วค่ะคุณแม่บอกว่าจะรีบมาที่กรุงเทพค่ะถ้างานที่ฮ่องกงเรียบร้อยคงจะมาอยู่ยาวค่ะ”“ดีเลย ๆ งั้นแม่ไม่รบกวนละ ตาคินน์เลิกงานแล้วก็รีบพาจิลกลับไปบ้านพักผ่อนแล้วอย่าหักโหมนักเข้าใจไหม หนูเองก็พักมาก ๆ นะเข้าใจไหม ท้องแรกอาจจะยังทำตัวไม่ถูกเอาไว้แม่จะทำอาหารบำรุงครรภ์ไปให้”“ขอบคุณค่ะคุณแม่”คุณแม่หมอคินน์กลับไปแล้วเขาจึงพาเธอกลับบ้าน แต่เรื่องทุกอย่างไม่ง่ายเลย เพราะจิลแพ้ท้องเกือบทุกวันจนหมอคินน์ไม่อนุญาตให้เธอออกไปข้างนอกในช่วงนี้ นอกจากจะมีธุระสำคัญอย่างไปตรวจครรภ์กับเขาที่โรงพยาบาล หรือฝึกซ้อมรับปริญญาเท่านั้นหนึ่งเดือนถัดมา / งานรับปริญญา “ชิดกันหน่อยนะครับ หนึ่ง สอง… สวยมากครับ”หมอคินน์ที่ถ่ายรูปคู่กับจิลซึ่งถือช่อดอกไม้ช่อโตที่เขาถือมาให้พร้อมกับลูกโป่งเพื่อแสด
""อะไรนะ""ทั้งสามคนหันมามองหน้าคณาธิปด้วยความคิดที่ไม่เหมือนกัน “แกจะไม่ใจร้อนเกินไปเหรอที่ไปดูที่และตัดสินใจแบบนั้น ต้องให้…”“แม่ครับ ผมให้ซินแสของคุณแม่ไปช่วยดูมาให้เรียบร้อยแล้วครับ ที่ดินไม่มีปัญหาอีกอย่างเป็นทำเลทองและอยู่ในโครงการของคุณพ่อนั่นแหละครับ ไม่ได้ซื้อที่อื่นเลย”“แต่ว่าที่ดินตอนนี้ต้องดูดี ๆ อีกอย่างบริษัทที่รับออกแบบ…”“พ่อครับ เรื่องนั้นผมมีผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์คอยดูแลให้อยู่นะครับ อีกอย่างพี่จรูญก็ช่วยผมได้เพราะเขาดูแลโครงการบ้านที่นี่อยู่เหมือนกัน”“แต่ว่า เรื่องนี้ไม่เห็นคุณหมอบอกจิลมาก่อนเลย”“คือว่าเรื่องนี้…. ผมอยากจะเซอร์ไพรส์คุณแต่ไม่คิดว่าคุณแม่จะพูดเรื่องเรือนหอขึ้นมาก็เลยต้องรีบบอกน่ะ หมู่บ้านนี้เป็นของคุณพ่อก็จริงแต่ผมซื้อที่ดินและปลูกเองนะครับไม่เกี่ยวกับเงินบริษัท ที่สำคัญที่นี่อยู่ใกล้มหาลัยของจิลแล้วก็อยู่ไม่ไกลจากคอนโดเดิมด้วย”จิลไม่กล้ามีปากเสียงต่อหน้าพ่อแม่ของเขา แม้ว่าจะไม่เคยได้ออกความเห็นเรื่องนี้มาก่อน แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยเพราะไม่คิดว่าหมอคินน์จะทำทุกอย่างรวดเร็วแบบนี้ ตั้งแต่เรื่องที่เชียงใหม่จนถึงที่นี่ เธ
จิลแทบไม่มีความรู้สึกเลยเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าหลับไปตอนไหน จำได้แค่ครั้งสุดท้ายเธอไม่มีเสียงและอยู่ในอ้อมกอดของเขาบนเตียงและหลับสนิทไปเลยหลังจากนั้นเมื่อหันไปมองคนที่ยังหลับสนิทอยู่ข้าง ๆ ซึ่งไม่ได้สวมเสื้อผ้าเหมือนกับเธอก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งจับที่ปลายจมูกคมสันน่ามองนั่น“ตื่นแล้วแกล้งคนแบบนี้ระวังจะไม่มีแรงกลับกรุงเทพฯ เอานะครับ”“อุ๊ย! คุณตื่นแล้วเหรอ แกล้งหลับเหรอคะเนี่ย”คณาธิปค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามองคู่หมั้นข้าง ๆ และดึงเธอเข้ามาหอมแก้มอีกครั้งและกอดเธอเอาไว้“ถ้าไม่แกล้งหลับจะรู้เหรอว่ามีคนกำลังจะลักหลับสามีตัวเอง”“พูดอะไรแบบนั้นคะ ไม่ได้ทำสักหน่อย”“งั้นก็แอบมองเพราะผมหล่อมาก”“แหวะ”“ท้องแล้วเหรอ แสดงว่าความพยายามที่ผ่านมาได้ผล”“จะบ้าเหรอคะหมอ! เพ้อเจ้อไปเรื่อยเปื่อยใครท้องกันล่ะคะ”“จริงสิจิลคุณวางแผนเอาไว้หรือยัง หลังเรียนจบแล้วแต่งงาน อยากมีลูกกี่คน”“เรื่องนั้นยังไม่ได้คิดเอาไว้เลยค่ะ ช่วงนี้คงต้องฉีดยาคุมไปก่อนจนกว่าจิลจะเรียนจบนะคะ”“ผมรู้ครับแต่หลังจากแต่งงานยังไงแม่ผมก็ต้องถาม นี่ยังไลน์มาถามทุกวันว่าขอคุณแต่งงานสำเร็จหรือเปล่า”“อะไรนะคะ คุณแม่ข
“พรีเวดดิ้งเหรอคะ”“มาเถอะน่า มีอีกหลายคนที่รอถ่ายอยู่นะ”“ออ ค่ะ ๆ”“เดินระวังหน่อย”หมอคินน์ค่อย ๆ จับตัวจิลเข้าไปถ่ายรูปในฉากที่โรงแรมจัดเอาไว้ให้ ทั้งคู่ถ่ายรูปไปเยอะมากและถ่ายในหลาย ๆ มุมของโรงแรมเหมือนกับช่างภาพถูกจ้างมา แต่คณาธิปก็ไม่ได้ขัดใจเพราะวันนี้คู่หมั้นของเขาสวยเหมือนกับเจ้านางทางเหนือและเขาเองก็ไม่เคยแต่งชุดแบบนี้เลยสักครั้ง“อร่อยไหม”“อาหารของโรงแรมวันนี้อร่อยทุกอย่างเลยนะคะ หรือเป็นเพราะว่าเทศกาล ดูสิคะคนเริ่มมาลอยกระทงกันแล้ว”“อยากไปลอยหรือเปล่า”“อืม รอให้แขกคนอื่นลอยไปก่อนก็ได้ค่ะคนยังเยอะอยู่เลย”“แต่ช่วงสามทุ่มเห็นบอกว่าจะมีจุดประทีปลอยแม่น้ำปิง ที่จริงจะมีปล่อยโคมที่เรียกว่างานอะไรนะ...”“ประเพณียี่เป็ง[1]ค่ะแต่เห็นบอกว่าตอนนี้งดปล่อยโคมกันแล้ว ให้จุดไฟแล้วลอยโคมสายในน้ำแทนค่ะ”“ก็ดีนะ แบบนี้ไม่อันตรายด้วย”ทางโรงแรมมีจัดงานลอยกระทงแบบย่อม ๆ แขกที่มาพักที่นี่มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ทุกคนต่างสวมชุดล้านนาที่ทางโรงแรมมีจัดเตรียมไว้ให้ แต่เท่าที่จิลเริ่มสังเกต ทุกคนล้วนแต่จ้องมองพวกเขาทั้งสองคนเพราะชุดที่เธอและหมอคินน์ใส่เหมือนจะไม่เหมือนกับชุดพื้นเมืองที่คนอื่
จิลค่อย ๆ ขยับช่วงเอวตามจังหวะและเริ่มรุนแรงขึ้นเพราะเธอทนไม่ไหว ความเสียวที่เขากระตุ้นเริ่มทำให้เธอลืมตัว“อ๊าา ที่รักคะช่วยด้วย!!”“มาแล้ว...อาา แน่นฉิบหายเลย โอยจิลผมเสียวมาก…อาา”คณาธิปดึงเธอลงมากอดเขาเอาไว้และเป็นฝ่ายเด้งตอบเธอไป ความแรงและความถี่ของเขาทำได้ดีกว่าเธอ ไม่นานจิลก็เริ่มร้องดังมากขึ้น ร่างบางเกร็งสุดตัวและร้องสุดเสียงเมื่อถึงฝั่งไปก่อน หมอคินน์เองก็ไม่อยากรอ เขาจึงได้เร่งตามเธอไปทันที“อาา…ไม่คิดว่าจะน่ากินขนาดนี้”“ต่อสิคะที่รัก”“ให้ตายเถอะ ทำไมคืนนี้คุณเร่าร้อนขนาดนี้”จิลลุกขึ้นและหันหลังพร้อมกับก้มบั้นท้ายรอเขา เธอถอดชั้นในออกไปแล้วโดยไม่รอให้เขาทำ หมอคินน์แค่เห็นบั้นท้ายขาวกลมตรงหน้ามีเหรอที่จะทนไหว เพียงแค่จังหวะเดียวเขาก็สอดเข้าไปจนสุดและแช่เอาไว้เพื่อซึมซับความอบอุ่นและการบีบรัดตรงหน้า มือหนาเอื้อมไปขย้ำบั้นท้ายจนเกิดรอย“เฮือก!! อ๊าา…ฮึก!! อ๊าา…หมอคะ แรงอีกค่ะ อ๊าา แบบนั้นแหละค่ะ อ๊าา”จิลเสร็จไปไม่รู้กี่รอบในคืนนี้แต่เขาก็ยังปรนเปรอเธอไม่หยุด ดูเหมือนว่าเธอจะยอมตามใจเขามากกว่าเดิม คิดถูกแล้วที่ไม่ทำข้างนอกเพราะหมอคินน์ค่อนข้างจะหวงแฟนสาวเอามาก ๆ แต่ต่อให้เ