Home / รักโบราณ / ลำนำรักจันทราสลาย / ตอนที่ 4 การพบกันครั้งแรก

Share

ตอนที่ 4 การพบกันครั้งแรก

last update Last Updated: 2025-10-16 12:55:30

หลังจากความฝันอันเร่าร้อนเกี่ยวกับรัชทายาทปีศาจ หลิงซินเอ๋อร์ ก็ไม่สามารถสงบจิตใจได้อีก พลังแห่งจันทราในตัวนางเกิดปฏิกิริยาอย่างรุนแรง พลังที่เคยเป็นน้ำแข็งใสกลับกลายเป็นคลื่นใต้น้ำที่ปั่นป่วน หลิงซินเอ๋อร์รู้ดีว่าหากยังอยู่ในวังสวรรค์ อาจเกิดเหตุการณ์วุ่นวายได้โดยไม่ตั้งใจ

ในคืนต่อมา นางจึงตัดสินใจทำสิ่งที่เสี่ยงที่สุด: ใช้พลังเซียนของตนเองเพื่อออกจากวังสวรรค์อีกครั้ง โดยหวังว่าจะได้ทำสมาธิในที่ที่สงบกว่านี้ และหาคำตอบเกี่ยวกับ พันธะต้องห้าม ที่ผูกมัดนางไว้กับโอรสปีศาจ

นางหลบหนีออกจากตำหนักกวงหมิงอย่างเงียบเชียบ โดยไม่รู้ว่า ไป๋หานอี้ องครักษ์ผู้ภักดีนั้นเพิ่งจะออกจากยามไปไม่นาน

หลิงซินเอ๋อร์ใช้พลังเซียนบินข้ามเมฆหมอกไปอย่างรวดเร็ว แต่พลังที่ปั่นป่วนในกายกลับทำให้การควบคุมพลังไม่มั่นคง ทันใดนั้น ลมสวรรค์ ที่ปกติจะสงบนิ่งก็พลันแปรปรวน แปรเปลี่ยนเป็นพายุที่บ้าคลั่ง โหมกระหน่ำเข้าใส่ร่างขององค์หญิงอย่างรุนแรง

วูบ!

ร่างของหลิงซินเอ๋อร์ถูกพายุซัดกระเด็น พลังป้องกันของนางถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย นางรู้สึกเหมือนถูกฉีกทึ้งอยู่กลางอากาศ ก่อนที่สติของนางจะดับวูบไป ร่างของนางก็ตกลงมาจากความสูงนับพันฟุตอย่างไม่สามารถควบคุมได้

เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง หลิงซินเอ๋อร์ก็พบว่าตนเองนอนอยู่ท่ามกลางผืนดินที่แห้งแล้งและหนาวเหน็บ อากาศรอบข้างเต็มไปด้วยกลิ่นกำมะถันและพลังหยินอันหนักอึ้ง

นางมองไปรอบๆ ภูมิทัศน์ที่นี่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่ไร้ใบ มีแต่กิ่งก้านดำทะมึนที่ยื่นออกไปบนท้องฟ้าสีหม่น หุบเขา ที่รายล้อมเต็มไปด้วยหมอกพิษสีม่วงอ่อนๆ นางจำได้จากตำราว่านี่คือ “หุบเขาอวิ๋นหมิง” เขตแดนที่อันตรายที่สุด เป็นแนวปะทะและด่านสุดท้ายที่กั้นระหว่างแดนสวรรค์กับแดนปีศาจ! หากก้าวพลาดไปแม้แต่ก้าวเดียว ก็อาจถูกพลังปีศาจกลืนกินได้ทันที

หลิงซินเอ๋อร์พยายามลุกขึ้น แต่ร่างกายก็เจ็บปวดรุนแรง โดยเฉพาะที่แขนขวาที่กระดูกน่าจะร้าว นางรู้สึกว่าพลังเซียนในตัวลดลงไปมาก แต่ยังเหลือพอที่จะเยียวยาบาดแผลเล็กน้อยได้

นางรีบใช้พลังรักษาของบุตรแห่งจันทร์ พลังเซียนสีเงินอ่อนๆ แผ่ออกมาจากฝ่ามือของนาง ห่อหุ้มบริเวณบาดแผล การทำงานของพลังนี้ช่างบริสุทธิ์และมหัศจรรย์ เพียงชั่วครู่ อาการบาดเจ็บรุนแรงก็บรรเทาลง แต่นางก็รู้ดีว่าต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นฟูพลังทั้งหมดกลับมา

ทันใดนั้น เสียงคำรามต่ำๆ ก็ดังขึ้นจากพุ่มไม้สีดำทมิฬเบื้องหน้า สัตว์อสูร รูปร่างคล้ายหมาป่าขนาดใหญ่ ดวงตาสีแดงก่ำ และมีเขาแหลมคมยื่นออกมาจากหน้าผาก มันมองมาที่หลิงซินเอ๋อร์ด้วยความหิวกระหาย

สัตว์อสูรตนนั้นดมกลิ่นพลังเซียนที่บริสุทธิ์ของนางได้อย่างง่ายดาย มันพุ่งเข้าใส่ร่างอันบอบบางของหลิงซินเอ๋อร์ทันที นางเบิกตากว้างด้วยความตกใจ พยายามรวบรวมพลังเซียนที่เหลืออยู่เพื่อสร้างม่านป้องกัน แต่ก็ไม่ทันการณ์

แคว่ก!

กรงเล็บแหลมคมของสัตว์อสูรข่วนผ่านม่านพลังที่อ่อนแอ และทิ้งรอยบาดแผลลึกไว้ที่ไหล่ซ้ายของนาง เลือดสีแดงสดซึมออกมาจากชุดผ้าแพรสีขาวอย่างรวดเร็ว หลิงซินเอ๋อร์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด นางรู้สึกได้ถึงพิษปีศาจที่เริ่มแล่นเข้าสู่บาดแผล

ในวินาทีที่สัตว์อสูรเตรียมจะพุ่งเข้าโจมตีซ้ำครั้งสุดท้าย

วูบ…

เงาดำ ขนาดมหึมาพลันพุ่งเข้าปะทะกับร่างของสัตว์อสูรนั้นอย่างรวดเร็ว เงาดำเหล่านั้นไม่ใช่แค่ความมืด แต่เป็นพลังปีศาจที่อัดแน่นและมีชีวิต เงาพันธนาการสัตว์อสูรไว้แน่น ก่อนจะฉีกกระชากร่างของมันออกเป็นชิ้นๆ อย่างโหดเหี้ยม เลือดสีดำของสัตว์อสูรกระเซ็นไปทั่วบริเวณ

อวิ๋นเทียนหาน รัชทายาทปีศาจ ก้าวออกมาจากกลุ่มหมอกสีม่วงอ่อนๆ ร่างกายของเขาสวมชุดเกราะสีนิลสนิทที่ปกคลุมด้วยไอความมืด ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเย็นชาไร้อารมณ์ ดวงตาคมกริบสีม่วงเข้มราวกับอัญมณีปีศาจกวาดมองร่างขององค์หญิงสวรรค์ที่บาดเจ็บอย่างพิจารณา

เขาเพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจตรวจตราเขตแดน และบังเอิญผ่านมาเห็นเหตุการณ์นี้ การที่ เซียน ตนหนึ่งร่วงลงมาถึงเขตแดนปีศาจเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

หลิงซินเอ๋อร์มองบุรุษผู้นี้ด้วยความรู้สึกสั่นสะท้านในใจ นี่คือเขา… เงาดำในความฝัน! รัศมีปีศาจที่แผ่ออกมาจากกายเขานั้นทรงอำนาจและน่ากลัว แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความรู้สึกคุ้นเคยและ ดึงดูดใจ อย่างประหลาด

อวิ๋นเทียนหานเดินเข้ามาใกล้ๆ ยืนอยู่เหนือร่างของนาง ราวกับเป็นเทพแห่งความตายที่เพิ่งมาถึง เขาไม่แสดงความเมตตาใดๆ ในแววตา มีเพียงความสงสัยและแผนการที่กำลังก่อตัวในความคิด

“เจ้าเป็นใคร?” อวิ๋นเทียนหานถามด้วยน้ำเสียงต่ำและเย็นชา ราวกับน้ำแข็งที่กัดเซาะหินผา

หลิงซินเอ๋อร์พยายามรวบรวมสติ นางฝืนลุกขึ้นนั่ง มองใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของเขาอย่างกล้าหาญ ทั้งที่ในใจเต้นรัวด้วยความหวาดกลัว นางไม่สามารถบอกได้ว่าตนคือองค์หญิงแห่งสวรรค์

“ข้า… ข้าเป็นเซียนจากสำนักฝึกตนที่พลัดหลงมา” นางตอบเสียงแผ่วเบา แต่พยายามทำให้น้ำเสียงมั่นคงที่สุด

อวิ๋นเทียนหานเยาะหยันเล็กน้อยที่มุมปาก “สำนักฝึกตน? เซียนน้อยที่อ่อนแออย่างเจ้า บินมาตกในเขตแดนของข้าอย่างไม่ระมัดระวัง เป็นการฝึกตนที่โง่เขลาสิ้นดี”

เขาไม่สนใจบาดแผลของนาง แต่กลับมองไปยังพลังเซียนที่ยังหลงเหลืออยู่ในตัวนาง และเขารับรู้ได้ทันทีว่า พลังนี้บริสุทธิ์และพิเศษยิ่งกว่าเซียนตนใดที่เขาเคยพบมา พลังนี้คือ แก่นแท้แห่งจันทรา ตามที่มารานตี้เคยกล่าวถึง

“เจ้าไม่หวาดกลัวข้าหรือ?” อวิ๋นเทียนหานถามด้วยความสงสัย น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

หลิงซินเอ๋อร์นิ่งไปครู่หนึ่ง นางมองดวงตาของเขาที่มืดมิดและเย็นชา แต่นางกลับไม่เห็นความกระหายเลือดหรือความบ้าคลั่งที่ปีศาจควรมี นางเห็นความโดดเดี่ยว ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเยือกเย็นนั้น

“ข้า… ข้ากลัว” นางยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “แต่ท่านช่วยชีวิตข้า ท่านสังหารอสูรที่คิดจะทำร้ายข้า… ถ้าท่านต้องการจะฆ่าข้า ท่านคงฆ่าไปตั้งแต่แรกแล้ว”

อวิ๋นเทียนหานรู้สึกประหลาดใจกับคำตอบนี้ ปีศาจทุกคนที่เจอเขามักจะหวาดกลัวจนสั่นเทา ไม่ก็พยายามหนีอย่างบ้าคลั่ง ไม่เคยมีใครกล้าตอบเขาอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้

“ข้าช่วยเจ้า ไม่ใช่เพราะเมตตา” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความจริงอันโหดร้าย “เจ้าเป็นเซียนที่ตกลงมาจากสวรรค์ เจ้าอาจมี ประโยชน์ ในการต่อรองกับวังสวรรค์ในภายหน้า”

เขาเหยียดมือข้างหนึ่งออกไปตรงหน้าหลิงซินเอ๋อร์ มือของเขาใหญ่และแข็งแกร่ง มีไอเย็นจากพลังปีศาจแผ่ออกมาเล็กน้อย “เจ้ารู้จักข้าไหม? ข้าคือ อวิ๋นเทียนหาน รัชทายาทแห่งแดนปีศาจ”

หลิงซินเอ๋อร์มองมือของเขาด้วยความลังเล พลังงานหยินจากกายเขาแผ่เข้ามาในร่างกายของนางอย่างช้าๆ มันทำให้พลังจันทราที่ปั่นป่วนของนาง สงบลง อีกครั้ง ราวกับว่าความมืดของเขาคือ จุดสมดุล ที่พลังของนางกำลังตามหา

“ข้ารู้จักท่าน… ในความฝัน” นางพึมพำอย่างเผลอไผล

อวิ๋นเทียนหานดึงมือกลับทันที ดวงตาของเขาแสดงความตกใจเพียงเสี้ยววินาที “เจ้าพูดอะไร? พลังของเจ้า… ทำไมถึงเชื่อมโยงกับข้าได้?”

“ข้าก็ไม่ทราบ” หลิงซินเอ๋อร์ส่ายหน้า “แต่ข้าฝันเห็นท่านยืนอยู่ท่ามกลางไฟสงคราม ภาพนั้นชัดเจนจนข้ารู้สึกเหมือนข้าเคยอยู่ที่นั่น”

บทสนทนาที่หยั่งเชิงนี้เผยให้เห็น พันธะต้องห้าม ที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างชัดเจน อวิ๋นเทียนหานเริ่มตระหนักว่าเซียนน้อยผู้นี้ไม่ได้เป็นเพียง ตัวประกัน ธรรมดา แต่เป็น ส่วนหนึ่ง ของโชคชะตาเขาจริงๆ

อวิ๋นเทียนหานมองบาดแผลของนางที่กำลังมีพิษปีศาจแล่นเข้าสู่บาดแผล แม้เขาจะอ้างว่าต้องการนางเป็นตัวประกัน แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ตัวประกันตายอย่างรวดเร็ว

“พิษปีศาจจากอสูรนั้นรุนแรง เซียนน้อยอย่างเจ้าอาจต้านทานไม่ได้นาน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ ก่อนจะก้มตัวลงอย่างช้าๆ

เขาใช้พลังปีศาจสีดำห่อหุ้มบาดแผลของนางไว้ ไม่ใช่เพื่อรักษา แต่เพื่อ สะกด พิษปีศาจไม่ให้แล่นเข้าสู่เส้นเลือดใหญ่ การสัมผัสนี้ทำให้อวิ๋นเทียนหานรู้สึกถึง ความบริสุทธิ์ ที่น่าประหลาดใจจากร่างของนาง มันช่างแตกต่างจากทุกสิ่งที่เขาเคยสัมผัสในแดนปีศาจ

หลิงซินเอ๋อร์กัดริมฝีปากแน่นด้วยความเจ็บปวดจากพิษ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความอบอุ่นบางอย่างจากพลังปีศาจของเขา

“ท่าน… ท่านเป็นปีศาจจริงๆ หรือ?” นางเอ่ยถามอย่างแผ่วเบา

“ข้าคือรัชทายาทปีศาจ” เขาตอบอย่างภาคภูมิ

“แต่…” หลิงซินเอ๋อร์มองดวงตาของเขาอีกครั้ง พลังปีศาจของเขาเข้มข้น ร่างกายของเขาสะท้อนความมืดมิดทั้งหมดของแดนนี้ แต่เมื่อเขามองมาที่นาง ความเยือกเย็นนั้นกลับแฝงด้วย ความหม่นหมอง ที่ไม่เหมือนกับปีศาจที่โหดร้ายตัวอื่น

นางรวบรวมความกล้า เอ่ยคำที่มาจากความรู้สึกในส่วนลึกที่สุดของหัวใจ “ท่านไม่เหมือนปีศาจตนอื่นที่ข้าเคยได้ยินมา… ท่านไม่เหมือนปีศาจ”

คำพูดนี้ดังก้องอยู่ในโสตประสาทของ อวิ๋นเทียนหาน ราวกับเสียงฟ้าร้องท่ามกลางความเงียบงัน มันคือประโยคที่ทำลายกำแพงที่เขาสร้างขึ้นมาตลอดชีวิตได้ชั่วขณะหนึ่ง

ไม่เหมือนปีศาจ? เขาทุ่มเทชีวิตให้กับการทำลายล้าง สงคราม และความมืดมิดมาตลอด แต่ทำไมเซียนน้อยผู้นี้ถึงมองเห็นความแตกต่าง?

หัวใจที่ปิดตายของเขา สั่นไหวเล็กน้อย ความรู้สึกที่คล้ายกับความอบอุ่นที่ถูกละเลยมานานนับพันปีฉายวาบขึ้นมา ก่อนที่เขาจะรีบควบคุมสีหน้าให้กลับมาเย็นชาดังเดิม

อวิ๋นเทียนหานลุกขึ้นยืนในทันที โดยไม่ตอบคำถามของนาง เขาทิ้งให้นางนั่งอยู่กับบาดแผลที่ถูกสะกดไว้กลางหุบเขาอวิ๋นหมิง

“ตามข้ามา” เขาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างกว่าเดิม ราวกับพยายามปกปิดความรู้สึกที่เพิ่งถูกปลุกให้ตื่น “เจ้าต้องไปกับข้าที่ปราสาทปีศาจในฐานะตัวประกัน อย่าได้คิดหนี… เซียนน้อย”

หลิงซินเอ๋อร์พยักหน้าอย่างช้าๆ นางรู้ดีว่าการเข้าไปในรังปีศาจนั้นอันตรายถึงชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน นางก็ไม่สามารถต้านทาน แรงดึงดูด ที่เชื่อมโยงนางกับบุรุษผู้นี้ได้ นางจะต้องค้นหาความจริงเกี่ยวกับ พันธะต้องห้าม นี้ให้ได้

นางลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล พยายามเดินตามเงาดำที่นำทางนางไปยังใจกลางแดนปีศาจ โดยไม่รู้เลยว่าการพบกันครั้งนี้คือจุดเริ่มต้นของความรักต้องห้ามที่ถูกลิขิตให้ทำลายล้างทั้งสามภพ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 30 บุปผาพิรุณแห่งลิขิตสุดท้าย (ตอนอวสาน)

    หลังจากที่ หลิงซินเอ๋อร์ และ อวิ๋นเทียนหาน รวมพลังสมดุลเข้าด้วยกัน และผนึกพลังของ มารานตี้ฮ่องเต้ และ เง็กเซียนฮ่องเต้ สนามรบก็กลับคืนสู่ความสงบ แต่สันติสุขที่แท้จริงยังมาไม่ถึงหลิงซินเอ๋อร์ มองไปยังท้องฟ้าที่ดวงจันทร์ยังคงร้าวราน นางรู้ดีว่า การผนึก เป็นเพียงการยืดเวลา สงครามจะกลับมาอีกครั้งตราบใดที่ ช่องว่าง และ ความไม่เข้าใจ ระหว่างสองภพยังคงอยู่เพื่อหยุดสงครามระหว่างสองภพอย่างถาวร หลิงซินเอ๋อร์ตัดสินใจใช้พลังสุดท้าย ของตนเองในการสร้าง สะพานจันทราสะพานนี้ไม่ใช่สะพานทางกายภาพ แต่เป็น เส้นทางจิตวิญญาณ ที่จะเชื่อมโยง สวรรค์ กับ แดนปีศาจ เข้าด้วยกันอย่างแท้จริง ทำให้สองภพไม่ถูกแยกจากกันด้วยความแค้นและกฎเกณฑ์ที่เคยกำหนดไว้แต่พลังที่จำเป็นในการสร้าง สะพานจันทรา ที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ต้องแลกด้วยชีวิตของผู้สร้างสะพาน ซึ่งหมายถึงการสละการดำรงอยู่ทั้งหมดของ หลิงซินเอ๋อร์อวิ๋นเทียนหาน ซึ่งความทรงจำกลับมาสมบูรณ์แล้ว เข้าใจถึงการตัดสินใจของ หลิงซินเอ๋อร์ เขาไม่ยอมให้เธอก้าวไปเพียงลำพัง“เราจะ

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 29 ศึกแห่งสวรรค์และปีศาจ

    ข่าวการตื่นขึ้นของ หลิงซินเอ๋อร์ และการทำลายกองทัพเซียนที่ บึงดำ ได้แพร่สะพัดไปทั่วสามภพอย่างรวดเร็วข่าวนี้แพร่ไปถึงหูของ มารานตี้ จักรพรรดิปีศาจแห่งแดนปีศาจทันที!มารานตี้ ซึ่งรอคอยโอกาสนี้มานานหลายศตวรรษ เชื่อว่าการตื่นของ บุตรแห่งจันทร์ ผู้ซึ่งมีพลังสมดุลของทั้งสองเผ่าพันธุ์ คือ โอกาสสุดท้าย ในการล้างแค้นต่อสวรรค์มารานตี้ประกาศระดมพลครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา จักรพรรดิปีศาจเชื่อว่าพลังที่สมดุลของหลิงซินเอ๋อร์คือ กุญแจสำคัญในการเปิดมิติ ที่ถูกผนึกไว้ตั้งแต่สงครามครั้งแรก ซึ่งจะนำพากองทัพปีศาจจำนวนมหาศาลเข้าสู่ใจกลางวังสวรรค์ได้โดยตรงศึกแห่งสวรรค์และปีศาจ จึงปะทุขึ้นอีกครั้งอย่างรุนแรงยิ่งกว่าครั้งใดๆ ในประวัติศาสตร์ของสามภพอวี่หาน (อวิ๋นเทียนหานในร่างใหม่) ผู้ซึ่งกำลังเดินทางด้วยความเจ็บปวดที่ไร้ที่มา ถูกดึงเข้าสู่สงครามโดย ไม่รู้ตัวแม้เขาจะสละความทรงจำและสถานะ โอรสปีศาจ ไปแล้ว แต่ เลือดในกายเขายังคงเป็นสายเลือดปีศาจที่บริสุทธิ์ เขาถูกกองทัพปีศาจที่บ้าคลั่งเข้าใจผิดว่าเป็นนายทัพป

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 28 การคืนชีพของจันทรา

    เง็กเซียนฮ่องเต้ และ สภาสวรรค์ ล่วงรู้ถึงการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ของพลังจันทราที่มาจาก บึงดำ พวกเขาทราบดีว่า บุตรแห่งจันทร์ กำลังจะตื่นขึ้นอีกครั้ง ความกลัวเข้าครอบงำสวรรค์อีกครั้ง เพราะหาก หลิงซินเอ๋อร์ ตื่นขึ้นพร้อมกับพลังที่สมดุลอย่างสมบูรณ์ และมีพลังของ โอรสปีศาจ อยู่ในตัว นางจะกลายเป็นภัยคุกคามที่ไม่สามารถเอาชนะได้ สภาสวรรค์สั่งให้ทำลายนาง และ ผนึกบึงดำ อย่างถาวร ก่อนที่พลังปีศาจในร่างจะฟื้นเต็มตัว กองทัพเทพเซียนชุดใหญ่ที่นำโดยเทพผู้คุมกฎที่มีอำนาจมากที่สุด ถูกส่งลงมายัง บึงดำ ทันที ซูเม่ยหลาน ผู้ซึ่งเฝ้าอยู่ริมบึงเห็นกองทัพนั้นเข้ามา นางรู้ว่าถึงเวลาต้องต่อสู้ครั้งสุดท้ายแล้ว ซูเม่ยหลาน ใช้พิณหยกโบราณของตนเองต่อสู้กับกองทัพเซียนอย่างสิ้นหวัง แต่นางอ่อนแอเกินกว่าจะต้านทานพวกเขาได้ ภายในบึงดำ ดวงจิตสุดท้ายของไป๋หานอี้ ก็รับรู้ถึงภัยคุกคามที่กำลังจะมาถึง เขาต้องเลือกระหว่างการรักษาดวงจิตสุดท้ายไว้ให้สลายไปอย่างสงบ กับการสละการดำรงอยู่ทั้งหมดเพื่อปกป้องเธอ

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 27 วิญญาณจันทรา

    หลายร้อยปีแห่งการรอคอยและการหลับใหลกำลังจะสิ้นสุดลง ซูเม่ยหลาน ผู้ซึ่งกลายเป็นคนเร่ร่อนที่สันโดษ และเป็นเพียงผู้เดียวที่เฝ้าคอยการตื่นของเพื่อนรัก ได้เดินทางไปยัง ยอดเขาจันทรายอดเขาจันทรา เป็นสถานที่ที่ใกล้ชิดกับดวงจันทร์ที่แตกร้าวที่สุด และเป็นที่ที่พลังของ หลิงซินเอ๋อร์ เคยแข็งแกร่งที่สุดในวัยเยาว์ในคืนที่ ดวงจันทร์เต็มดวง และแสงจันทร์สาดส่องลงมายังบึงดำอย่างทรงพลังที่สุด ซูเม่ยหลาน ได้ตัดสินใจทำพิธีปลุก จิตจันทรา ของหลิงซินเอ๋อร์นางวาง พิณหยกโบราณ ลงบนก้อนหินที่ถูกแสงจันทร์อาบไล้ แล้วเริ่มบรรเลงเพลงที่นางเคยบรรเลงให้เพื่อนรักฟังในอดีต เสียงพิณนั้นไม่ใช่เพลงสวรรค์ แต่เป็นเพลงที่เปี่ยมด้วยความภักดี ความเสียสละ และความรักที่เพื่อนทุกคนมอบให้แก่หลิงซินเอ๋อร์เสียงพิณของซูเม่ยหลานดังขึ้นบนยอดเขาจันทรา มันดังก้องไปทั่วทั้งสามภพ ราวกับเป็นเสียงเรียกที่ทะลุผ่านกาลเวลาภายใน บึงดำ ที่มืดมิดและเย็นยะเยือก หลิงซินเอ๋อร์ ที่หลับใหลอยู่ใต้น้ำลึกเริ่มมีปฏิกิริยาต่อเสียงพิณนั้นเสียงนั้นทะลุผ่าน ผนึ

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 26 ลมหายใจแห่งบึงดำ

    หลายร้อยปีผ่านไป ท่ามกลางการหยุดยิงที่เปราะบาง หลิงซินเอ๋อร์ ยังคงหลับใหลอยู่ใต้บึงดำ โลกภายนอกพยายามที่จะลืมสงครามใหญ่ที่จบลงด้วยความสูญเสียครั้งใหญ่ของทั้งสองฝ่าย บึงดำ ถูกประกาศให้เป็น สถานที่ต้องห้าม และ เขตกันชน ระหว่างแดนสวรรค์และแดนปีศาจ แม้แต่ มารานตี้ฮ่องเต้ ก็ไม่กล้าแตะต้องบึงนี้ เพราะพลังที่สมดุลของบุตรแห่งจันทร์นั้นน่ากลัวเกินกว่าจะคาดเดา บาดแผลของสามภพถูกซ่อนไว้ภายใต้ความเงียบ แต่ไม่มีใครสามารถรักษาบาดแผลในจิตใจได้ อวี่หาน ผู้เร่ร่อนที่ถูกสาปด้วยความรัก อวิ๋นเทียนหาน ผู้สละความทรงจำที่เกี่ยวกับความเจ็บปวดและความแค้นของ โอรสปีศาจ ได้สร้างร่างใหม่และใช้ชื่อ “อวี่หาน” นามที่แปลว่า "ความหนาวเย็นแห่งพิรุณ" ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นคืนชีพภายใต้พิรุณโลหิต อวี่หาน กลายเป็น คนเร่ร่อน ผู้ไม่ผูกพันกับที่ใด เขาใช้พลังที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดในการช่วยเหลือโลกมนุษย์ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติที่เกิดจากพลังที่หลงเหลือของสงคราม แต่ในใจเขามี ความว่างเปล่า ที่ไม่สามารถเติมเต็มได้

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 25 พิรุณเลือดแห่งการฟื้นคืน

    ภายใน บึงดำ ที่ปั่นป่วนไปด้วยพลังมาร อวิ๋นเทียนหาน กอดร่างที่ไร้สติและอ่อนล้าของ หลิงซินเอ๋อร์ ไว้แน่นความทรงจำทั้งหมดที่หายไปได้ไหลกลับเข้ามาในจิตวิญญาณของเขาอย่างรุนแรง ทั้งความรักและความแค้นต่อสวรรค์ การเสียสละของ ไป๋หานอี้ และการตายของ เฮยหลง ทั้งหมดนี้ถูกประทับไว้ในใจของเขาอย่างไม่มีวันลืมอวิ๋นเทียนหาน ใช้ พลังมารที่ฟื้นคืน อย่างสมบูรณ์ของเขา สร้างร่างจริงของตนเองขึ้นมา พลังมารสีม่วงเข้มปกคลุมไปทั่วร่างวิญญาณ ก่อนจะควบรวมกลายเป็น ร่างปีศาจ ที่แข็งแกร่งและสมบูรณ์แบบที่สุดร่างของเขาสวมอาภรณ์สีดำที่ทอจากพลังมาร อวิ๋นเทียนหาน ในตอนนี้คือ โอรสปีศาจที่ฟื้นคืนชีพ อย่างแท้จริงทว่า การฟื้นคืนในครั้งนี้ต้องแลกด้วยการสละครั้งสำคัญ อวิ๋นเทียนหาน มองไปยังร่างที่หลับใหลของหลิงซินเอ๋อร์ เขาตระหนักว่าเขาไม่สามารถแสดงความอ่อนแอได้อีกต่อไป เขาต้องเข้มแข็งเพื่อปกป้องความเสียสละของนาง‘ข้าจะใช้ความแค้นนำทาง เพื่อไม่ให้ใครกล้าแตะต้องนางได้อีก!’เขายอม สละความอ่อนโยน และ ความรู้สึกที่เปราะบาง ของปีศาจในตัวตนของเข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status