Home / รักโบราณ / ลำนำรักจันทราสลาย / ตอนที่ 4 การพบกันครั้งแรก

Share

ตอนที่ 4 การพบกันครั้งแรก

last update Last Updated: 2025-10-16 12:55:30

หลังจากความฝันอันเร่าร้อนเกี่ยวกับรัชทายาทปีศาจ หลิงซินเอ๋อร์ ก็ไม่สามารถสงบจิตใจได้อีก พลังแห่งจันทราในตัวนางเกิดปฏิกิริยาอย่างรุนแรง พลังที่เคยเป็นน้ำแข็งใสกลับกลายเป็นคลื่นใต้น้ำที่ปั่นป่วน หลิงซินเอ๋อร์รู้ดีว่าหากยังอยู่ในวังสวรรค์ อาจเกิดเหตุการณ์วุ่นวายได้โดยไม่ตั้งใจ

ในคืนต่อมา นางจึงตัดสินใจทำสิ่งที่เสี่ยงที่สุด: ใช้พลังเซียนของตนเองเพื่อออกจากวังสวรรค์อีกครั้ง โดยหวังว่าจะได้ทำสมาธิในที่ที่สงบกว่านี้ และหาคำตอบเกี่ยวกับ พันธะต้องห้าม ที่ผูกมัดนางไว้กับโอรสปีศาจ

นางหลบหนีออกจากตำหนักกวงหมิงอย่างเงียบเชียบ โดยไม่รู้ว่า ไป๋หานอี้ องครักษ์ผู้ภักดีนั้นเพิ่งจะออกจากยามไปไม่นาน

หลิงซินเอ๋อร์ใช้พลังเซียนบินข้ามเมฆหมอกไปอย่างรวดเร็ว แต่พลังที่ปั่นป่วนในกายกลับทำให้การควบคุมพลังไม่มั่นคง ทันใดนั้น ลมสวรรค์ ที่ปกติจะสงบนิ่งก็พลันแปรปรวน แปรเปลี่ยนเป็นพายุที่บ้าคลั่ง โหมกระหน่ำเข้าใส่ร่างขององค์หญิงอย่างรุนแรง

วูบ!

ร่างของหลิงซินเอ๋อร์ถูกพายุซัดกระเด็น พลังป้องกันของนางถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย นางรู้สึกเหมือนถูกฉีกทึ้งอยู่กลางอากาศ ก่อนที่สติของนางจะดับวูบไป ร่างของนางก็ตกลงมาจากความสูงนับพันฟุตอย่างไม่สามารถควบคุมได้

เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง หลิงซินเอ๋อร์ก็พบว่าตนเองนอนอยู่ท่ามกลางผืนดินที่แห้งแล้งและหนาวเหน็บ อากาศรอบข้างเต็มไปด้วยกลิ่นกำมะถันและพลังหยินอันหนักอึ้ง

นางมองไปรอบๆ ภูมิทัศน์ที่นี่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่ไร้ใบ มีแต่กิ่งก้านดำทะมึนที่ยื่นออกไปบนท้องฟ้าสีหม่น หุบเขา ที่รายล้อมเต็มไปด้วยหมอกพิษสีม่วงอ่อนๆ นางจำได้จากตำราว่านี่คือ “หุบเขาอวิ๋นหมิง” เขตแดนที่อันตรายที่สุด เป็นแนวปะทะและด่านสุดท้ายที่กั้นระหว่างแดนสวรรค์กับแดนปีศาจ! หากก้าวพลาดไปแม้แต่ก้าวเดียว ก็อาจถูกพลังปีศาจกลืนกินได้ทันที

หลิงซินเอ๋อร์พยายามลุกขึ้น แต่ร่างกายก็เจ็บปวดรุนแรง โดยเฉพาะที่แขนขวาที่กระดูกน่าจะร้าว นางรู้สึกว่าพลังเซียนในตัวลดลงไปมาก แต่ยังเหลือพอที่จะเยียวยาบาดแผลเล็กน้อยได้

นางรีบใช้พลังรักษาของบุตรแห่งจันทร์ พลังเซียนสีเงินอ่อนๆ แผ่ออกมาจากฝ่ามือของนาง ห่อหุ้มบริเวณบาดแผล การทำงานของพลังนี้ช่างบริสุทธิ์และมหัศจรรย์ เพียงชั่วครู่ อาการบาดเจ็บรุนแรงก็บรรเทาลง แต่นางก็รู้ดีว่าต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นฟูพลังทั้งหมดกลับมา

ทันใดนั้น เสียงคำรามต่ำๆ ก็ดังขึ้นจากพุ่มไม้สีดำทมิฬเบื้องหน้า สัตว์อสูร รูปร่างคล้ายหมาป่าขนาดใหญ่ ดวงตาสีแดงก่ำ และมีเขาแหลมคมยื่นออกมาจากหน้าผาก มันมองมาที่หลิงซินเอ๋อร์ด้วยความหิวกระหาย

สัตว์อสูรตนนั้นดมกลิ่นพลังเซียนที่บริสุทธิ์ของนางได้อย่างง่ายดาย มันพุ่งเข้าใส่ร่างอันบอบบางของหลิงซินเอ๋อร์ทันที นางเบิกตากว้างด้วยความตกใจ พยายามรวบรวมพลังเซียนที่เหลืออยู่เพื่อสร้างม่านป้องกัน แต่ก็ไม่ทันการณ์

แคว่ก!

กรงเล็บแหลมคมของสัตว์อสูรข่วนผ่านม่านพลังที่อ่อนแอ และทิ้งรอยบาดแผลลึกไว้ที่ไหล่ซ้ายของนาง เลือดสีแดงสดซึมออกมาจากชุดผ้าแพรสีขาวอย่างรวดเร็ว หลิงซินเอ๋อร์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด นางรู้สึกได้ถึงพิษปีศาจที่เริ่มแล่นเข้าสู่บาดแผล

ในวินาทีที่สัตว์อสูรเตรียมจะพุ่งเข้าโจมตีซ้ำครั้งสุดท้าย

วูบ…

เงาดำ ขนาดมหึมาพลันพุ่งเข้าปะทะกับร่างของสัตว์อสูรนั้นอย่างรวดเร็ว เงาดำเหล่านั้นไม่ใช่แค่ความมืด แต่เป็นพลังปีศาจที่อัดแน่นและมีชีวิต เงาพันธนาการสัตว์อสูรไว้แน่น ก่อนจะฉีกกระชากร่างของมันออกเป็นชิ้นๆ อย่างโหดเหี้ยม เลือดสีดำของสัตว์อสูรกระเซ็นไปทั่วบริเวณ

อวิ๋นเทียนหาน รัชทายาทปีศาจ ก้าวออกมาจากกลุ่มหมอกสีม่วงอ่อนๆ ร่างกายของเขาสวมชุดเกราะสีนิลสนิทที่ปกคลุมด้วยไอความมืด ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเย็นชาไร้อารมณ์ ดวงตาคมกริบสีม่วงเข้มราวกับอัญมณีปีศาจกวาดมองร่างขององค์หญิงสวรรค์ที่บาดเจ็บอย่างพิจารณา

เขาเพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจตรวจตราเขตแดน และบังเอิญผ่านมาเห็นเหตุการณ์นี้ การที่ เซียน ตนหนึ่งร่วงลงมาถึงเขตแดนปีศาจเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

หลิงซินเอ๋อร์มองบุรุษผู้นี้ด้วยความรู้สึกสั่นสะท้านในใจ นี่คือเขา… เงาดำในความฝัน! รัศมีปีศาจที่แผ่ออกมาจากกายเขานั้นทรงอำนาจและน่ากลัว แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความรู้สึกคุ้นเคยและ ดึงดูดใจ อย่างประหลาด

อวิ๋นเทียนหานเดินเข้ามาใกล้ๆ ยืนอยู่เหนือร่างของนาง ราวกับเป็นเทพแห่งความตายที่เพิ่งมาถึง เขาไม่แสดงความเมตตาใดๆ ในแววตา มีเพียงความสงสัยและแผนการที่กำลังก่อตัวในความคิด

“เจ้าเป็นใคร?” อวิ๋นเทียนหานถามด้วยน้ำเสียงต่ำและเย็นชา ราวกับน้ำแข็งที่กัดเซาะหินผา

หลิงซินเอ๋อร์พยายามรวบรวมสติ นางฝืนลุกขึ้นนั่ง มองใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของเขาอย่างกล้าหาญ ทั้งที่ในใจเต้นรัวด้วยความหวาดกลัว นางไม่สามารถบอกได้ว่าตนคือองค์หญิงแห่งสวรรค์

“ข้า… ข้าเป็นเซียนจากสำนักฝึกตนที่พลัดหลงมา” นางตอบเสียงแผ่วเบา แต่พยายามทำให้น้ำเสียงมั่นคงที่สุด

อวิ๋นเทียนหานเยาะหยันเล็กน้อยที่มุมปาก “สำนักฝึกตน? เซียนน้อยที่อ่อนแออย่างเจ้า บินมาตกในเขตแดนของข้าอย่างไม่ระมัดระวัง เป็นการฝึกตนที่โง่เขลาสิ้นดี”

เขาไม่สนใจบาดแผลของนาง แต่กลับมองไปยังพลังเซียนที่ยังหลงเหลืออยู่ในตัวนาง และเขารับรู้ได้ทันทีว่า พลังนี้บริสุทธิ์และพิเศษยิ่งกว่าเซียนตนใดที่เขาเคยพบมา พลังนี้คือ แก่นแท้แห่งจันทรา ตามที่มารานตี้เคยกล่าวถึง

“เจ้าไม่หวาดกลัวข้าหรือ?” อวิ๋นเทียนหานถามด้วยความสงสัย น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

หลิงซินเอ๋อร์นิ่งไปครู่หนึ่ง นางมองดวงตาของเขาที่มืดมิดและเย็นชา แต่นางกลับไม่เห็นความกระหายเลือดหรือความบ้าคลั่งที่ปีศาจควรมี นางเห็นความโดดเดี่ยว ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเยือกเย็นนั้น

“ข้า… ข้ากลัว” นางยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “แต่ท่านช่วยชีวิตข้า ท่านสังหารอสูรที่คิดจะทำร้ายข้า… ถ้าท่านต้องการจะฆ่าข้า ท่านคงฆ่าไปตั้งแต่แรกแล้ว”

อวิ๋นเทียนหานรู้สึกประหลาดใจกับคำตอบนี้ ปีศาจทุกคนที่เจอเขามักจะหวาดกลัวจนสั่นเทา ไม่ก็พยายามหนีอย่างบ้าคลั่ง ไม่เคยมีใครกล้าตอบเขาอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้

“ข้าช่วยเจ้า ไม่ใช่เพราะเมตตา” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความจริงอันโหดร้าย “เจ้าเป็นเซียนที่ตกลงมาจากสวรรค์ เจ้าอาจมี ประโยชน์ ในการต่อรองกับวังสวรรค์ในภายหน้า”

เขาเหยียดมือข้างหนึ่งออกไปตรงหน้าหลิงซินเอ๋อร์ มือของเขาใหญ่และแข็งแกร่ง มีไอเย็นจากพลังปีศาจแผ่ออกมาเล็กน้อย “เจ้ารู้จักข้าไหม? ข้าคือ อวิ๋นเทียนหาน รัชทายาทแห่งแดนปีศาจ”

หลิงซินเอ๋อร์มองมือของเขาด้วยความลังเล พลังงานหยินจากกายเขาแผ่เข้ามาในร่างกายของนางอย่างช้าๆ มันทำให้พลังจันทราที่ปั่นป่วนของนาง สงบลง อีกครั้ง ราวกับว่าความมืดของเขาคือ จุดสมดุล ที่พลังของนางกำลังตามหา

“ข้ารู้จักท่าน… ในความฝัน” นางพึมพำอย่างเผลอไผล

อวิ๋นเทียนหานดึงมือกลับทันที ดวงตาของเขาแสดงความตกใจเพียงเสี้ยววินาที “เจ้าพูดอะไร? พลังของเจ้า… ทำไมถึงเชื่อมโยงกับข้าได้?”

“ข้าก็ไม่ทราบ” หลิงซินเอ๋อร์ส่ายหน้า “แต่ข้าฝันเห็นท่านยืนอยู่ท่ามกลางไฟสงคราม ภาพนั้นชัดเจนจนข้ารู้สึกเหมือนข้าเคยอยู่ที่นั่น”

บทสนทนาที่หยั่งเชิงนี้เผยให้เห็น พันธะต้องห้าม ที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างชัดเจน อวิ๋นเทียนหานเริ่มตระหนักว่าเซียนน้อยผู้นี้ไม่ได้เป็นเพียง ตัวประกัน ธรรมดา แต่เป็น ส่วนหนึ่ง ของโชคชะตาเขาจริงๆ

อวิ๋นเทียนหานมองบาดแผลของนางที่กำลังมีพิษปีศาจแล่นเข้าสู่บาดแผล แม้เขาจะอ้างว่าต้องการนางเป็นตัวประกัน แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ตัวประกันตายอย่างรวดเร็ว

“พิษปีศาจจากอสูรนั้นรุนแรง เซียนน้อยอย่างเจ้าอาจต้านทานไม่ได้นาน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ ก่อนจะก้มตัวลงอย่างช้าๆ

เขาใช้พลังปีศาจสีดำห่อหุ้มบาดแผลของนางไว้ ไม่ใช่เพื่อรักษา แต่เพื่อ สะกด พิษปีศาจไม่ให้แล่นเข้าสู่เส้นเลือดใหญ่ การสัมผัสนี้ทำให้อวิ๋นเทียนหานรู้สึกถึง ความบริสุทธิ์ ที่น่าประหลาดใจจากร่างของนาง มันช่างแตกต่างจากทุกสิ่งที่เขาเคยสัมผัสในแดนปีศาจ

หลิงซินเอ๋อร์กัดริมฝีปากแน่นด้วยความเจ็บปวดจากพิษ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความอบอุ่นบางอย่างจากพลังปีศาจของเขา

“ท่าน… ท่านเป็นปีศาจจริงๆ หรือ?” นางเอ่ยถามอย่างแผ่วเบา

“ข้าคือรัชทายาทปีศาจ” เขาตอบอย่างภาคภูมิ

“แต่…” หลิงซินเอ๋อร์มองดวงตาของเขาอีกครั้ง พลังปีศาจของเขาเข้มข้น ร่างกายของเขาสะท้อนความมืดมิดทั้งหมดของแดนนี้ แต่เมื่อเขามองมาที่นาง ความเยือกเย็นนั้นกลับแฝงด้วย ความหม่นหมอง ที่ไม่เหมือนกับปีศาจที่โหดร้ายตัวอื่น

นางรวบรวมความกล้า เอ่ยคำที่มาจากความรู้สึกในส่วนลึกที่สุดของหัวใจ “ท่านไม่เหมือนปีศาจตนอื่นที่ข้าเคยได้ยินมา… ท่านไม่เหมือนปีศาจ”

คำพูดนี้ดังก้องอยู่ในโสตประสาทของ อวิ๋นเทียนหาน ราวกับเสียงฟ้าร้องท่ามกลางความเงียบงัน มันคือประโยคที่ทำลายกำแพงที่เขาสร้างขึ้นมาตลอดชีวิตได้ชั่วขณะหนึ่ง

ไม่เหมือนปีศาจ? เขาทุ่มเทชีวิตให้กับการทำลายล้าง สงคราม และความมืดมิดมาตลอด แต่ทำไมเซียนน้อยผู้นี้ถึงมองเห็นความแตกต่าง?

หัวใจที่ปิดตายของเขา สั่นไหวเล็กน้อย ความรู้สึกที่คล้ายกับความอบอุ่นที่ถูกละเลยมานานนับพันปีฉายวาบขึ้นมา ก่อนที่เขาจะรีบควบคุมสีหน้าให้กลับมาเย็นชาดังเดิม

อวิ๋นเทียนหานลุกขึ้นยืนในทันที โดยไม่ตอบคำถามของนาง เขาทิ้งให้นางนั่งอยู่กับบาดแผลที่ถูกสะกดไว้กลางหุบเขาอวิ๋นหมิง

“ตามข้ามา” เขาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างกว่าเดิม ราวกับพยายามปกปิดความรู้สึกที่เพิ่งถูกปลุกให้ตื่น “เจ้าต้องไปกับข้าที่ปราสาทปีศาจในฐานะตัวประกัน อย่าได้คิดหนี… เซียนน้อย”

หลิงซินเอ๋อร์พยักหน้าอย่างช้าๆ นางรู้ดีว่าการเข้าไปในรังปีศาจนั้นอันตรายถึงชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน นางก็ไม่สามารถต้านทาน แรงดึงดูด ที่เชื่อมโยงนางกับบุรุษผู้นี้ได้ นางจะต้องค้นหาความจริงเกี่ยวกับ พันธะต้องห้าม นี้ให้ได้

นางลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล พยายามเดินตามเงาดำที่นำทางนางไปยังใจกลางแดนปีศาจ โดยไม่รู้เลยว่าการพบกันครั้งนี้คือจุดเริ่มต้นของความรักต้องห้ามที่ถูกลิขิตให้ทำลายล้างทั้งสามภพ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 13 หายนะจันทราสลาย

    หลังจากที่ ซูเม่ยหลาน ถูกคุมขัง และ ความจริงเรื่องชาติกำเนิด ขององค์หญิงหลิงซินเอ๋อร์ถูกเปิดเผยต่อ อวิ๋นเทียนหาน อย่างลับๆ สถานการณ์ของสามภพก็เข้าสู่จุดวิกฤตที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้ ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยความมืดมิดอย่างผิดปกติ ดวงจันทร์ ที่เคยมีรอยร้าวอยู่แล้ว ก็เริ่ม แตกร้าวเป็นเสี้ยวๆ อย่างเห็นได้ชัด! ครืนนนนน… ตู้ม! เสี้ยวของดวงจันทร์เริ่มแตกออก และส่ง แสงสีแดงโลหิต สลับกับ แสงสีเงินเย็นเยือก พวยพุ่งออกมาจากรอยร้าว แสงฟ้าสั่นสะเทือนไปทั่วสามภพ พลังเซียนในแดนสวรรค์ปั่นป่วนอย่างรุนแรง พลังปีศาจในแดนปีศาจก็บ้าคลั่งจนเกินควบคุม เหล่าเทพเซียนหวาดกลัวอย่างที่สุด พวกเขารู้ว่านี่คือสัญญาณสุดท้าย: หายนะจันทราสลาย กำลังจะเกิดขึ้น และ บุตรแห่งจันทร์ กำลังจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับพลังที่แท้จริง ในตำหนักกวงหมิง หลิงซินเอ๋อร์ ซึ่งถูกล้างความทรงจำไปแล้ว ก็รู้สึกถึงความผิดปกติของพลังอย่างรุนแรง ร่างกายของนางถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีเงินที่หมุนวนอย่างรวดเร็ว พลังในตัวซินเอ๋อร์ไ

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 12 เลือดมารกับหยกฟ้า

    หลังจากที่ พันธะสาบาน ได้ขาดสะบั้นไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ อวิ๋นเทียนหาน ก็รู้สึกถึงความปวดร้าวที่ไม่มีวันบรรเทา แม้ความทรงจำทางอารมณ์จะถูกทำลายไปแล้ว แต่ความรู้สึกว่าถูก ทรยศ และถูก สูญเสีย ยังคงกัดกินจิตใจของเขา เขาตระหนักว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ หลิงซินเอ๋อร์ จะต้องเกี่ยวข้องกับพลังเซียนที่ยิ่งใหญ่ของสวรรค์ และต้องเกี่ยวพันกับ คำพยากรณ์ ที่มารานตี้เคยกล่าวถึง อวิ๋นเทียนหานเริ่มค้นคว้าอย่างลับๆ เขาใช้พลังเงามืดในการแทรกซึมเข้าไปในอาณาเขตเซียนที่ไม่เคยมีปีศาจตนใดกล้าเข้าไปถึง เขาไม่สนใจการทำสงครามชั่วคราว แต่ต้องการค้นหา ความจริง ที่ถูกปิดบังไว้ ในที่สุด เขาก็สามารถแทรกซึมเข้าไปใน หอจารึกเทวะ บนสวรรค์ได้อย่างลับๆ สถานที่ที่เก็บรักษาคัมภีร์และบันทึกสำคัญของสามภพ เขาค้นหาเกี่ยวกับ บุตรแห่งจันทร์ และ คำพยากรณ์จันทราสลาย เขาพบว่าคำพยากรณ์ที่สวรรค์เผยแพร่นั้นถูก บิดเบือน ไปบางส่วน ในบันทึกเก่าแก่ที่สุดที่จารึกไว้บน “ศิลาเทวลิขิต” ที่แท้จริงนั้น มีประโยคสำคัญที่สวรรค์ตัดออกไป: “บุตรแห่

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 11แผนร้ายแดนสวรรค์

    หลังจากศึกใหญ่ในหุบเขาอวิ๋นหมิงยุติลงชั่วคราวด้วยความสูญเสียอย่างหนักทั้งสองฝ่าย วังสวรรค์ ก็เข้าสู่สภาวะตึงเครียดสูงสุด ในโถงลับของตำหนักเซียน เง็กเซียนฮ่องเต้ ทรงเรียกประชุมเหล่าเทพเซียนผู้มีอำนาจสูงสุด รวมถึง ไป๋หานอี้ และ ซูเม่ยหลาน เพื่อตัดสินชะตากรรมของ หลิงซินเอ๋อร์ “ความสูญเสียครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก” เง็กเซียนฮ่องเต้ตรัสด้วยพระสุรเสียงที่หนักอึ้ง “และชัดเจนแล้วว่า สาเหตุของจันทราร้าว และการปั่นป่วนของพลังเซียนในวังสวรรค์… มาจากความสัมพันธ์ต้องห้ามขององค์หญิงหลิงซินเอ๋อร์กับรัชทายาทปีศาจ!” เหล่าเทพเซียนต่างเห็นพ้องต้องกัน พวกเขาเห็นการกระทำขององค์หญิงในสนามรบที่ใช้พลังรักษาปีศาจ และการที่รัชทายาทปีศาจปกป้องนาง การผูกพันทางชะตาของทั้งคู่กำลังคุกคามรากฐานของสวรรค์ “เราไม่สามารถฆ่านางได้” เทพสงครามเสนอ “นางคือ บุตรแห่งจันทร์ พลังของนางเชื่อมโยงกับดวงดาว หากนางดับสลาย สวรรค์จะพังทลายตามไปด้วย” “ถ้าเช่นนั้น เราต้อง ทำลายนางในความทรงจำ” เง็กเซียนฮ่องเต้สรุป “ต้องตัดขาด พันธะต

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 10 หัวใจสั่นไหว

    สงครามสามภพ เปิดฉากขึ้นแล้วที่ หุบเขาอวิ๋นหมิง สมรภูมิเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน พลังเซียน สีขาวบริสุทธิ์ปะทะกับ พลังปีศาจ สีดำทะมึน สายฟ้าสีทองฟาดฟันเข้าใส่กำแพงเงามืด เปลวไฟปีศาจสีครามลุกโชนเผาผลาญทัพสวรรค์ ไป๋หานอี้ องครักษ์ผู้ภักดี นำทัพหน้าเข้าโจมตีอย่างดุดันที่สุดเท่าที่เขาเคยทำ เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะทำลายแนวป้องกันของปีศาจ เพื่อยุติสงครามนี้ให้เร็วที่สุด และเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับ อวิ๋นเทียนหาน และ หลิงซินเอ๋อร์ อวิ๋นเทียนหาน รัชทายาทปีศาจ สวมชุดเกราะสีนิลและดาบปีศาจเงาของเขาฟาดฟันอย่างรวดเร็วและโหดเหี้ยม เขาคือขุนศึกผู้ไร้เทียมทานในสนามรบ ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วย เงามืด ที่กลืนกินพลังเซียนที่เข้ามาใกล้ ท่ามกลางความโกลาหลของสงคราม หลิงซินเอ๋อร์ ยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าแม่ทัพสวรรค์ด้วยความเจ็บปวด นางถูกบังคับให้เข้าร่วม แต่จิตวิญญาณของนางปฏิเสธการนองเลือดนี้ พลังเซียนที่ถูกผนึกไว้บางส่วนทำให้นางไม่สามารถต่อสู้ได้อย่างเต็มที่ แต่นางก็ค้นพบวิธีที่จะไม่ทรยศต่อ คำสาบาน ของตนเอง

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 9 สงครามเริ่มต้น

    หลังจากที่ เง็กเซียนฮ่องเต้ ได้รับรายงานจาก ซูเม่ยหลาน และตระหนักถึงความสัมพันธ์ที่เกินกว่าเหตุระหว่าง หลิงซินเอ๋อร์ กับ อวิ๋นเทียนหาน พระองค์ก็ตัดสินใจดำเนินการอย่างเด็ดขาด ในโถงหลิงเซียว เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงเรียกประชุมเหล่าเทพเซียนทั้งหมด และมีพระบัญชาที่ทำให้ทั้งสวรรค์ต้องสั่นสะเทือน “เราไม่สามารถปล่อยให้ความมืดมิดคุกคามสามภพได้อีกต่อไป” เง็กเซียนฮ่องเต้ตรัสด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ “แดนปีศาจนำโดยรัชทายาทปีศาจ ได้ละเมิดกฎฟ้า ซ่องสุมกำลัง และเป็นภัยต่อวิถีแห่งเต๋า สวรรค์ในนามของผู้พิทักษ์ความยุติธรรม จึงขอ ประกาศสงครามขั้นเด็ดขาด กับแดนปีศาจ!” คำประกาศนี้ถูกอ้างอย่างเป็นทางการว่าเพื่อ ปกป้องโลกมนุษย์ และเพื่อรักษาความสงบสุขของสามภพ แต่ความจริงเบื้องหลังที่เหล่าเซียนชั้นสูงรับรู้คือ ความกลัวคำพยากรณ์จันทราสลาย การที่ บุตรแห่งจันทร์ แสดงความภักดีต่อ โอรสปีศาจ นั้น เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าหายนะกำลังจะมาถึง มีเพียงการทำลายแกนกลางแห่งความมืด (รัชทายาทปีศาจ) เท่านั้น ที่จะสามารถตัดขาดพันธะต้องห้ามและช่วยห

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 8 เสียงพิณแห่งสวรรค์

    หลังจากที่ หลิงซินเอ๋อร์ ถูกนำตัวกลับสู่สวรรค์ และแสดงความเอนเอียงไปทางรัชทายาทปีศาจอย่างชัดเจน ความหวาดระแวงในวังสวรรค์ก็พุ่งสูงถึงขีดสุด เง็กเซียนฮ่องเต้ ทรงตระหนักดีว่าการกักบริเวณเพียงอย่างเดียวไม่สามารถควบคุม บุตรแห่งจันทร์ ผู้ถูกลิขิตให้เป็นทั้งความหวังและหายนะได้ ดังนั้น จึงมีพระบัญชาลับให้ ซูเม่ยหลาน สหายสนิทเพียงไม่กี่คนของหลิงซินเอ๋อร์ ถูกส่งลงมายังดินแดนมนุษย์ที่อยู่ใกล้กับหุบเขาอวิ๋นหมิง เพื่อคอยสอดส่องพฤติกรรมขององค์หญิงอย่างใกล้ชิด ซูเม่ยหลาน เป็นเซียนสาวที่งดงามและมีพรสวรรค์สูงยิ่ง นางมีความเชี่ยวชาญด้านดนตรีโบราณ และมีพลังเซียนที่แฝงอยู่ในเสียงพิณของนาง พลังนี้คือ ‘เสียงพิณสะกดจิต’ ที่สามารถควบคุมอารมณ์ สยบจิตใจที่ปั่นป่วน และแม้กระทั่งทำให้ศัตรูหลงใหลในความว่างเปล่าจนสูญเสียพลังไปได้ เม่ยหลานได้รับพิณศักดิ์สิทธิ์ที่ทำจากหยกโบราณ และลงมายังอาณาจักรมนุษย์อย่างเงียบเชียบ นางตั้งสำนักเล็กๆ ไว้ใกล้กับอาณาเขตของหุบเขาอวิ๋นหมิง และเฝ้าสังเกตการณ์อย่างระมัดระวัง แม้จะเต็มใจรับพระบัญชา แต่ในใจขอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status