Home / รักโบราณ / ลำนำรักจันทราสลาย / ตอนที่ 3  รัชทายาทปีศาจ

Share

ตอนที่ 3  รัชทายาทปีศาจ

last update Last Updated: 2025-10-15 12:55:17

แดนปีศาจ หรือ โหมวเจี้ย ไม่เคยรู้จักคำว่า 'สงบสุข' แม้ในช่วงที่ไม่มีการทำสงครามกับแดนสวรรค์ การต่อสู้ก็ยังคงดำเนินอยู่ตลอดเวลาเพื่อแย่งชิงอำนาจและดินแดนอันมืดมิด

ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าถูกบดบังด้วยหมอกควันสีเทาอมดำ และมีเพียงแสงจากเปลวเพลิงสีครามที่ลุกโชนอย่างบ้าคลั่ง สมรภูมิหุบเขาอัคคี ได้กลายเป็นที่ฝังศพของเหล่าปีศาจกบฏที่คิดทรยศต่อบัลลังก์ของ มารานตี้ จักรพรรดิปีศาจ

บนยอดกองศพที่ยังไม่ทันเย็นชืด ร่างสูงสง่าของ อวิ๋นเทียนหาน รัชทายาทแห่งปีศาจ ยืนตระหง่านอยู่ เขาสวมชุดเกราะสีนิลสนิทที่กลืนไปกับความมืดมิด มีเพียงรอยแกะสลักคล้ายมังกรที่เรืองแสงสีม่วงอ่อนๆ ภายใต้แสงไฟปีศาจ ดาบปีศาจเงา ในมือของเขาถูกเก็บเข้าฝักแล้ว แต่กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งในอากาศยังคงติดอยู่

อวิ๋นเทียนหาน คือบุตรชายเพียงคนเดียวของมารานตี้ฮ่องเต้ ที่ไม่เพียงแต่สืบทอดสายเลือดปีศาจบริสุทธิ์ แต่ยังได้รับพรสวรรค์ในการควบคุมพลังแห่งความมืดที่เหนือกว่าปีศาจตนใดในแดนนี้ ด้วยความสามารถในการเรียกและควบคุมเงาให้กลายเป็นปีศาจภูติที่ไร้รูปร่าง และสามารถใช้เงามืดนั้นพันธนาการคู่ต่อสู้จนแตกสลาย เขาจึงได้รับฉายาที่น่าสะพรึงกลัวว่า “เจ้าชายเงามืด”

การปราบกบฏครั้งนี้กินเวลายาวนานกว่าสามวันสามคืน โดยมี เฮยหลง แม่ทัพใหญ่ผู้จงรักภักดีติดตามอย่างใกล้ชิด ทว่าอวิ๋นเทียนหานกลับทำลายกองทัพกบฏกว่าแสนตนลงได้ด้วยตัวคนเดียวเป็นส่วนใหญ่

ในฉากสุดท้ายของการรบ หัวหน้ากบฏตนหนึ่งที่บาดเจ็บหนักพยายามจะหลบหนี แต่เงาดำจากเท้าของอวิ๋นเทียนหานกลับพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วราวกับอสรพิษ เงาเหล่านั้นรวมตัวกันเป็นดาบที่มืดมิดและแทงทะลุร่างของหัวหน้ากบฏผู้นั้นอย่างโหดเหี้ยม

อวิ๋นเทียนหานไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ดวงตาคมกริบของเขาเย็นชาไร้เมตตา ราวกับผู้ที่ถูกพันธนาการไว้ในความมืดมานับพันปี เขาไม่เคยแสดงความสงสารหรือความอ่อนแอให้ใครเห็น การตัดสินใจของเขามีเพียงเพื่อ ชัยชนะ และ อำนาจ เท่านั้น

“นายท่าน การปราบปรามเสร็จสิ้นแล้ว” เฮยหลงเดินเข้ามาค้อมกายรายงานด้วยความเคารพอย่างสูงสุด

“กวาดล้างให้สิ้น อย่าให้เหลือซาก” อวิ๋นเทียนหานสั่งเสียงเรียบ “ปีศาจที่คิดทรยศต่อแดนปีศาจ ไม่มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่”

คำสั่งนี้แสดงให้เห็นถึงความ โหดเหี้ยมไร้เมตตา ที่ทำให้ทุกคนในแดนปีศาจหวาดกลัวเขาเหนือกว่ามารานตี้ฮ่องเต้เสียอีก

แม้ว่าภายนอกของอวิ๋นเทียนหานจะแสดงออกถึงความโหดเหี้ยมและกระหายในอำนาจ ทว่าภายในจิตใจที่เย็นชาของเขากลับมี ความขัดแย้ง ที่รุนแรงซ่อนอยู่

เขาคือบุตรชายของ มารานตี้ จักรพรรดิปีศาจ ผู้ซึ่งมีความปรารถนาในการทำสงครามกับแดนสวรรค์อย่างไม่สิ้นสุด มารานตี้เชื่อว่าการทำลายสวรรค์คือหนทางเดียวที่แดนปีศาจจะสามารถครอบครองสามภพและนำความยิ่งใหญ่มาสู่ปีศาจได้

อวิ๋นเทียนหานได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำทัพในการทำสงครามกับสวรรค์หลายครั้ง และเขาก็ทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยม แต่ในทุกครั้งที่ได้รับชัยชนะ ความรู้สึกว่างเปล่ากลับเข้ามาแทนที่ความปิติ

เขามองเห็นแล้วว่า สงคราม ไม่ได้นำมาซึ่งความรุ่งโรจน์อย่างแท้จริง มันนำมาซึ่งการสูญเสีย ความแค้น และการทำลายล้างที่ไม่สิ้นสุด ปีศาจที่ตายในสนามรบก็ไม่ต่างจากเซียนที่ตายในสงคราม ทั้งหมดล้วนเป็นเพียง เครื่องมือ ในการสนองความกระหายอำนาจของผู้ปกครอง

"บิดาของข้า... ใฝ่หาแต่ความยิ่งใหญ่ในนามของสงคราม แต่สุดท้ายแล้ว ปีศาจก็ต้องมาฆ่ากันเองเพื่อความอยู่รอด" เขาคิดในใจอย่างขมขื่น

ความขัดแย้งระหว่างเขากับมารานตี้จึงไม่เคยจางหายไป อวิ๋นเทียนหานไม่ปรารถนาสงครามที่ไม่สิ้นสุด เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับวัฏจักรแห่งความแค้นนี้ แต่ในฐานะรัชทายาท เขาไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามพระประสงค์ของบิดาเพื่อความอยู่รอดของตนเอง

ในคืนนั้น เมื่อเขากลับเข้าสู่ปราสาทที่มืดมิดของตนเอง อวิ๋นเทียนหานเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ที่ทำจากหินอัคนี มองออกไปยังฟากฟ้าที่ถูกบดบังด้วยความมืด

“เฮยหลง เจ้าคิดว่าสงครามนี้จะจบลงเมื่อใด?” อวิ๋นเทียนหานเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ผิดปกติจากความเย็นชาของเขา

เฮยหลงยืนอยู่ด้านหลังเขาอย่างเงียบๆ “ตราบใดที่สวรรค์ยังคงถือว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์และปีศาจยังเป็นผู้ถูกกวาดล้าง สงครามก็จะไม่มีวันจบสิ้นพ่ะย่ะค่ะ มีเพียงท่านเท่านั้นที่สามารถยุติมันได้ด้วยการทำลายสวรรค์ให้สิ้นซาก”

อวิ๋นเทียนหานหันกลับมามองเฮยหลง ดวงตาของเขามืดมิดราวกับหลุมดำ “ทำลาย? แล้วหลังจากนั้นล่ะ? แดนปีศาจจะสงบสุขจริงหรือ? หรือจะเกิดสงครามแย่งชิงอำนาจภายในอีกครั้ง เพราะไม่มีศัตรูภายนอกให้รวมใจเป็นหนึ่ง?”

เฮยหลงไม่กล้าตอบคำถามนั้น เพราะนั่นคือความจริงที่ทุกคนในแดนปีศาจรู้ดี การรวมเป็นหนึ่งเดียวของปีศาจเกิดจากความเกลียดชังที่มีต่อสวรรค์

“สิ่งที่ข้าต้องการไม่ใช่เพียงชัยชนะ… แต่คือ ความสงบ ที่แท้จริง” อวิ๋นเทียนหานกล่าวอย่างแผ่วเบา เป็นคำพูดที่ไม่เคยมีปีศาจตนใดเคยได้ยินจากเขามาก่อน

ในขณะที่อวิ๋นเทียนหานยืนอยู่ท่ามกลางความมืดมิด จิตวิญญาณของเขาก็พลันสัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่ คุ้นเคย และ ดึงดูดใจ มันคือพลังที่บริสุทธิ์และเยือกเย็นราวกับหิมะ แต่มันกลับเชื่อมโยงกับความมืดในตัวเขาได้อย่างแนบแน่น

ความรู้สึกนี้เริ่มรุนแรงขึ้นตั้งแต่คืนที่ดวงจันทร์เริ่มมีรอยร้าว และรุนแรงที่สุดเมื่อเขาได้สัมผัสกับ ความฝัน ขององค์หญิงสวรรค์ในคืนที่ผ่านมา

อวิ๋นเทียนหานก้าวไปที่หน้าต่างอีกครั้ง เขาใช้พลังปีศาจของตนเองดึงม่านเมฆหนาทึบออกไป เพื่อเผยให้เห็นท้องฟ้าด้านนอก

บนฟากฟ้าที่ห่างไกล ดวงจันทร์สีเงินยังคงปรากฏ รอยร้าว สีดำสนิทพาดผ่านกลางดวงอย่างเห็นได้ชัด แสงจันทร์ที่รอดผ่านรอยร้าวนั้นดูหม่นหมอง แต่กลับมี พลังดึงดูด อย่างรุนแรง

อวิ๋นเทียนหานเงยหน้ามองดวงจันทร์ รอยร้าวบนฟากฟ้าสะท้อนอยู่ในดวงตาคมเย็นยะเยือกของเขาอย่างชัดเจน ราวกับรอยร้าวนั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชะตากรรมเขาไปแล้ว

“บุตรแห่งจันทร์…”

เขานึกถึงพลังที่บริสุทธิ์และอ่อนโยนที่สัมผัสได้ในความฝัน มันช่างแตกต่างจากความมืดมิดที่เขาเติบโตมา แต่พลังนั้นกลับกระตุ้นสัญชาตญาณปีศาจในตัวเขาให้ อยากครอบครอง

แต่ในขณะเดียวกัน การสัมผัสกับความบริสุทธิ์นั้น ก็ทำให้ความรู้สึก เบื่อหน่าย ในตัวเขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วย พลังแห่งจันทราของนางทำให้เขาตระหนักว่าโลกนี้มีความหวังและสิ่งที่สวยงามที่มากกว่าการทำสงคราม

เขาต้องการพลังแห่งจันทราของนาง เพื่อใช้ในการทำลายล้างสวรรค์และยุติสงครามตามที่มารานตี้ต้องการ

แต่เขากลับรู้สึกเหมือนถูกลิขิตให้ปกป้องพลังนั้น เพราะมันคือแสงสว่างเดียวที่สามารถนำความสงบสุขที่แท้จริงมาสู่สามภพได้ หากพลังนั้นสลายไป โลกนี้ก็จะดำดิ่งสู่ความมืดมิดตลอดกาล และสงครามก็จะไม่มีวันจบสิ้น

อวิ๋นเทียนหานยกมือข้างหนึ่งขึ้นช้าๆ เงาดำจากปลายนิ้วของเขาก่อตัวเป็นกลุ่มหมอกเล็กๆ พยายามยื่นขึ้นไปสัมผัสกับแสงจันทร์ที่ร้าวรานนั้น

“พันธะที่ต้องห้าม”

นี่คือคำที่เขาได้ยินจากพลังแห่งจันทรา เขาไม่รู้ว่าพันธะนี้หมายถึงอะไร แต่เขารู้สึกเหมือน โชคชะตา บางอย่างกำลังเชื่อมโยงเขากับองค์หญิงสวรรค์ผู้นั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าความผูกพันนี้จะเป็นไปในรูปแบบใด... มันจะต้องเป็นจุดเริ่มต้นของมหาสงครามครั้งสุดท้ายของสามภพอย่างแน่นอน

เขาคือความมืดที่ต้องกลืนกินแสงสว่าง และนางคือแสงสว่างที่ต้องทำให้ความมืดสงบลง

อวิ๋นเทียนหานลดมือลงอย่างช้าๆ รอยยิ้มเย็นชาปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในอำนาจและสงครามที่กำลังจะมาถึง

“เฮยหลง… สั่งการทัพ เตรียมพร้อมภายในหนึ่งเดือน ข้าจะนำทัพบุกแดนสวรรค์ด้วยตัวเอง คราวนี้… เราจะไม่เพียงแต่ขับไล่เซียน แต่จะไป นำตัว สิ่งที่สวรรค์หวงแหนที่สุดกลับมา”

นั่นคือคำประกาศของรัชทายาทปีศาจ ที่จะนำพาตัวเองเข้าไปพัวพันกับชะตากรรมของ บุตรแห่งจันทร์ ตามคำพยากรณ์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 13 หายนะจันทราสลาย

    หลังจากที่ ซูเม่ยหลาน ถูกคุมขัง และ ความจริงเรื่องชาติกำเนิด ขององค์หญิงหลิงซินเอ๋อร์ถูกเปิดเผยต่อ อวิ๋นเทียนหาน อย่างลับๆ สถานการณ์ของสามภพก็เข้าสู่จุดวิกฤตที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้ ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยความมืดมิดอย่างผิดปกติ ดวงจันทร์ ที่เคยมีรอยร้าวอยู่แล้ว ก็เริ่ม แตกร้าวเป็นเสี้ยวๆ อย่างเห็นได้ชัด! ครืนนนนน… ตู้ม! เสี้ยวของดวงจันทร์เริ่มแตกออก และส่ง แสงสีแดงโลหิต สลับกับ แสงสีเงินเย็นเยือก พวยพุ่งออกมาจากรอยร้าว แสงฟ้าสั่นสะเทือนไปทั่วสามภพ พลังเซียนในแดนสวรรค์ปั่นป่วนอย่างรุนแรง พลังปีศาจในแดนปีศาจก็บ้าคลั่งจนเกินควบคุม เหล่าเทพเซียนหวาดกลัวอย่างที่สุด พวกเขารู้ว่านี่คือสัญญาณสุดท้าย: หายนะจันทราสลาย กำลังจะเกิดขึ้น และ บุตรแห่งจันทร์ กำลังจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับพลังที่แท้จริง ในตำหนักกวงหมิง หลิงซินเอ๋อร์ ซึ่งถูกล้างความทรงจำไปแล้ว ก็รู้สึกถึงความผิดปกติของพลังอย่างรุนแรง ร่างกายของนางถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีเงินที่หมุนวนอย่างรวดเร็ว พลังในตัวซินเอ๋อร์ไ

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 12 เลือดมารกับหยกฟ้า

    หลังจากที่ พันธะสาบาน ได้ขาดสะบั้นไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ อวิ๋นเทียนหาน ก็รู้สึกถึงความปวดร้าวที่ไม่มีวันบรรเทา แม้ความทรงจำทางอารมณ์จะถูกทำลายไปแล้ว แต่ความรู้สึกว่าถูก ทรยศ และถูก สูญเสีย ยังคงกัดกินจิตใจของเขา เขาตระหนักว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ หลิงซินเอ๋อร์ จะต้องเกี่ยวข้องกับพลังเซียนที่ยิ่งใหญ่ของสวรรค์ และต้องเกี่ยวพันกับ คำพยากรณ์ ที่มารานตี้เคยกล่าวถึง อวิ๋นเทียนหานเริ่มค้นคว้าอย่างลับๆ เขาใช้พลังเงามืดในการแทรกซึมเข้าไปในอาณาเขตเซียนที่ไม่เคยมีปีศาจตนใดกล้าเข้าไปถึง เขาไม่สนใจการทำสงครามชั่วคราว แต่ต้องการค้นหา ความจริง ที่ถูกปิดบังไว้ ในที่สุด เขาก็สามารถแทรกซึมเข้าไปใน หอจารึกเทวะ บนสวรรค์ได้อย่างลับๆ สถานที่ที่เก็บรักษาคัมภีร์และบันทึกสำคัญของสามภพ เขาค้นหาเกี่ยวกับ บุตรแห่งจันทร์ และ คำพยากรณ์จันทราสลาย เขาพบว่าคำพยากรณ์ที่สวรรค์เผยแพร่นั้นถูก บิดเบือน ไปบางส่วน ในบันทึกเก่าแก่ที่สุดที่จารึกไว้บน “ศิลาเทวลิขิต” ที่แท้จริงนั้น มีประโยคสำคัญที่สวรรค์ตัดออกไป: “บุตรแห่

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 11แผนร้ายแดนสวรรค์

    หลังจากศึกใหญ่ในหุบเขาอวิ๋นหมิงยุติลงชั่วคราวด้วยความสูญเสียอย่างหนักทั้งสองฝ่าย วังสวรรค์ ก็เข้าสู่สภาวะตึงเครียดสูงสุด ในโถงลับของตำหนักเซียน เง็กเซียนฮ่องเต้ ทรงเรียกประชุมเหล่าเทพเซียนผู้มีอำนาจสูงสุด รวมถึง ไป๋หานอี้ และ ซูเม่ยหลาน เพื่อตัดสินชะตากรรมของ หลิงซินเอ๋อร์ “ความสูญเสียครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก” เง็กเซียนฮ่องเต้ตรัสด้วยพระสุรเสียงที่หนักอึ้ง “และชัดเจนแล้วว่า สาเหตุของจันทราร้าว และการปั่นป่วนของพลังเซียนในวังสวรรค์… มาจากความสัมพันธ์ต้องห้ามขององค์หญิงหลิงซินเอ๋อร์กับรัชทายาทปีศาจ!” เหล่าเทพเซียนต่างเห็นพ้องต้องกัน พวกเขาเห็นการกระทำขององค์หญิงในสนามรบที่ใช้พลังรักษาปีศาจ และการที่รัชทายาทปีศาจปกป้องนาง การผูกพันทางชะตาของทั้งคู่กำลังคุกคามรากฐานของสวรรค์ “เราไม่สามารถฆ่านางได้” เทพสงครามเสนอ “นางคือ บุตรแห่งจันทร์ พลังของนางเชื่อมโยงกับดวงดาว หากนางดับสลาย สวรรค์จะพังทลายตามไปด้วย” “ถ้าเช่นนั้น เราต้อง ทำลายนางในความทรงจำ” เง็กเซียนฮ่องเต้สรุป “ต้องตัดขาด พันธะต

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 10 หัวใจสั่นไหว

    สงครามสามภพ เปิดฉากขึ้นแล้วที่ หุบเขาอวิ๋นหมิง สมรภูมิเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน พลังเซียน สีขาวบริสุทธิ์ปะทะกับ พลังปีศาจ สีดำทะมึน สายฟ้าสีทองฟาดฟันเข้าใส่กำแพงเงามืด เปลวไฟปีศาจสีครามลุกโชนเผาผลาญทัพสวรรค์ ไป๋หานอี้ องครักษ์ผู้ภักดี นำทัพหน้าเข้าโจมตีอย่างดุดันที่สุดเท่าที่เขาเคยทำ เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะทำลายแนวป้องกันของปีศาจ เพื่อยุติสงครามนี้ให้เร็วที่สุด และเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับ อวิ๋นเทียนหาน และ หลิงซินเอ๋อร์ อวิ๋นเทียนหาน รัชทายาทปีศาจ สวมชุดเกราะสีนิลและดาบปีศาจเงาของเขาฟาดฟันอย่างรวดเร็วและโหดเหี้ยม เขาคือขุนศึกผู้ไร้เทียมทานในสนามรบ ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วย เงามืด ที่กลืนกินพลังเซียนที่เข้ามาใกล้ ท่ามกลางความโกลาหลของสงคราม หลิงซินเอ๋อร์ ยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าแม่ทัพสวรรค์ด้วยความเจ็บปวด นางถูกบังคับให้เข้าร่วม แต่จิตวิญญาณของนางปฏิเสธการนองเลือดนี้ พลังเซียนที่ถูกผนึกไว้บางส่วนทำให้นางไม่สามารถต่อสู้ได้อย่างเต็มที่ แต่นางก็ค้นพบวิธีที่จะไม่ทรยศต่อ คำสาบาน ของตนเอง

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 9 สงครามเริ่มต้น

    หลังจากที่ เง็กเซียนฮ่องเต้ ได้รับรายงานจาก ซูเม่ยหลาน และตระหนักถึงความสัมพันธ์ที่เกินกว่าเหตุระหว่าง หลิงซินเอ๋อร์ กับ อวิ๋นเทียนหาน พระองค์ก็ตัดสินใจดำเนินการอย่างเด็ดขาด ในโถงหลิงเซียว เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงเรียกประชุมเหล่าเทพเซียนทั้งหมด และมีพระบัญชาที่ทำให้ทั้งสวรรค์ต้องสั่นสะเทือน “เราไม่สามารถปล่อยให้ความมืดมิดคุกคามสามภพได้อีกต่อไป” เง็กเซียนฮ่องเต้ตรัสด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ “แดนปีศาจนำโดยรัชทายาทปีศาจ ได้ละเมิดกฎฟ้า ซ่องสุมกำลัง และเป็นภัยต่อวิถีแห่งเต๋า สวรรค์ในนามของผู้พิทักษ์ความยุติธรรม จึงขอ ประกาศสงครามขั้นเด็ดขาด กับแดนปีศาจ!” คำประกาศนี้ถูกอ้างอย่างเป็นทางการว่าเพื่อ ปกป้องโลกมนุษย์ และเพื่อรักษาความสงบสุขของสามภพ แต่ความจริงเบื้องหลังที่เหล่าเซียนชั้นสูงรับรู้คือ ความกลัวคำพยากรณ์จันทราสลาย การที่ บุตรแห่งจันทร์ แสดงความภักดีต่อ โอรสปีศาจ นั้น เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าหายนะกำลังจะมาถึง มีเพียงการทำลายแกนกลางแห่งความมืด (รัชทายาทปีศาจ) เท่านั้น ที่จะสามารถตัดขาดพันธะต้องห้ามและช่วยห

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 8 เสียงพิณแห่งสวรรค์

    หลังจากที่ หลิงซินเอ๋อร์ ถูกนำตัวกลับสู่สวรรค์ และแสดงความเอนเอียงไปทางรัชทายาทปีศาจอย่างชัดเจน ความหวาดระแวงในวังสวรรค์ก็พุ่งสูงถึงขีดสุด เง็กเซียนฮ่องเต้ ทรงตระหนักดีว่าการกักบริเวณเพียงอย่างเดียวไม่สามารถควบคุม บุตรแห่งจันทร์ ผู้ถูกลิขิตให้เป็นทั้งความหวังและหายนะได้ ดังนั้น จึงมีพระบัญชาลับให้ ซูเม่ยหลาน สหายสนิทเพียงไม่กี่คนของหลิงซินเอ๋อร์ ถูกส่งลงมายังดินแดนมนุษย์ที่อยู่ใกล้กับหุบเขาอวิ๋นหมิง เพื่อคอยสอดส่องพฤติกรรมขององค์หญิงอย่างใกล้ชิด ซูเม่ยหลาน เป็นเซียนสาวที่งดงามและมีพรสวรรค์สูงยิ่ง นางมีความเชี่ยวชาญด้านดนตรีโบราณ และมีพลังเซียนที่แฝงอยู่ในเสียงพิณของนาง พลังนี้คือ ‘เสียงพิณสะกดจิต’ ที่สามารถควบคุมอารมณ์ สยบจิตใจที่ปั่นป่วน และแม้กระทั่งทำให้ศัตรูหลงใหลในความว่างเปล่าจนสูญเสียพลังไปได้ เม่ยหลานได้รับพิณศักดิ์สิทธิ์ที่ทำจากหยกโบราณ และลงมายังอาณาจักรมนุษย์อย่างเงียบเชียบ นางตั้งสำนักเล็กๆ ไว้ใกล้กับอาณาเขตของหุบเขาอวิ๋นหมิง และเฝ้าสังเกตการณ์อย่างระมัดระวัง แม้จะเต็มใจรับพระบัญชา แต่ในใจขอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status