Home / รักโบราณ / ลำนำรักจันทราสลาย / ตอนที่ 5 เงามืดและแสงจันทร์

Share

ตอนที่ 5 เงามืดและแสงจันทร์

last update Last Updated: 2025-10-17 12:55:46

หลิงซินเอ๋อร์ ถูก อวิ๋นเทียนหาน นำพาเข้าสู่ใจกลางของ แดนปีศาจ ซึ่งตั้งอยู่ภายในปราสาทหินดำทะมึนที่ใหญ่โตและน่าสะพรึงกลัว ปราสาทนี้ถูกเรียกว่า ‘โหมวอวิ๋น’ (เมฆามาร) ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางภูมิทัศน์ที่มืดมิด มีเพียงเปลวไฟปีศาจสีครามที่ให้แสงสว่างอย่างน่าขนลุก

ทุกสิ่งที่นางเห็นระหว่างทางเต็มไปด้วยความโหดร้ายและไร้ซึ่งเมตตา พื้นดินเต็มไปด้วยร่องรอยของสงครามและการต่อสู้ อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดและกำมะถัน ปีศาจที่เดินผ่านไปมาส่วนใหญ่มีรูปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัว มีดวงตาที่เต็มไปด้วยความกระหาย และมักจะเข่นฆ่ากันเองเพื่อแสดงอำนาจ

สิ่งที่ทำให้หลิงซินเอ๋อร์รู้สึกปวดใจที่สุดคือ ทาสมนุษย์ ที่ถูกนำตัวมาทำงานหนักและทรมานในแดนปีศาจ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ร่างกายผอมโซและเต็มไปด้วยบาดแผล นางเห็นทาสมนุษย์คนหนึ่งถูกปีศาจตนหนึ่งโบยตีอย่างหนักเพียงเพราะทำงานล่าช้า

นี่หรือคือแดนปีศาจที่ไร้ซึ่งกฎหมายและความเมตตา?

แม้จะถูกพามาในฐานะ ตัวประกัน หลิงซินเอ๋อร์ยังคงถูกปฏิบัติอย่างให้เกียรติในฐานะ เซียน ที่มีพลังพิเศษ นางถูกนำตัวไปยังห้องพักรับรองที่ตั้งอยู่ส่วนลึกของปราสาท ห้องนั้นตกแต่งด้วยหินนิลและผ้าไหมสีดำม่วง มีพลังปีศาจแผ่กระจายอยู่ทั่ว

อวิ๋นเทียนหานยืนมองนางที่ยืนนิ่งอยู่กลางห้องโดยไม่แสดงความหวาดกลัว “เจ้าควรรู้ไว้ ว่าเจ้าอยู่ในแดนของใคร” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หากเจ้าคิดจะใช้พลังเซียนเพื่อหนี ข้าจะสั่งให้ปีศาจของข้าฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ”

“ข้าไม่คิดหนี” หลิงซินเอ๋อร์ตอบอย่างหนักแน่น นางหันไปเผชิญหน้ากับเขา “แต่ข้าอยากรู้ว่า… ทำไมที่นี่ถึงโหดร้ายถึงเพียงนี้? ผู้บริสุทธิ์ต้องทนทุกข์มากมายขนาดนี้ได้อย่างไร?”

อวิ๋นเทียนหานยิ้มเยาะ “นี่คือแดนปีศาจ ความอ่อนแอคือความผิด บาดแผลคือบทเรียน หากเจ้าไม่สามารถปกป้องตนเองได้ ก็สมควรตาย”

“แล้วทาสมนุษย์พวกนั้นล่ะ?” นางถามอย่างไม่ลดละ “พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ต้องถูกทรมาน”

“พวกเขาคือเครื่องมือในการทำสงครามของบิดาข้า” อวิ๋นเทียนหานตอบอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง “เจ้าไม่ต้องสนใจเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของเจ้า หน้าที่ของเจ้าคือการ อยู่เฉยๆ และรอจนกว่าข้าจะใช้เจ้าได้ตามแผน”

แม้จะแสดงออกอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าหลิงซินเอ๋อร์ แต่ อวิ๋นเทียนหาน ก็กำลังต่อสู้กับความขัดแย้งในใจอย่างรุนแรง เขาทิ้งให้หลิงซินเอ๋อร์อยู่ในห้องเพียงลำพัง ก่อนที่เขาจะเดินไปยังห้องโถงหลักของปราสาท ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับทรมานทาสมนุษย์

เขาเดินผ่านทาสมนุษย์คนหนึ่งที่เป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่กำลังถูกโบยตีอย่างทารุณจากปีศาจเฝ้ายาม ปีศาจนั้นสนุกสนานกับการเห็นความเจ็บปวด

อวิ๋นเทียนหานหยุดเดิน เฮยหลง แม่ทัพใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหลังพลันรู้สึกได้ถึงพลังที่เปลี่ยนไปของรัชทายาท

“หยุดมือ!” อวิ๋นเทียนหานออกคำสั่งเสียงดุดัน พลังอำนาจปีศาจของเขาแผ่ออกมาอย่างกดดันจนปีศาจเฝ้ายามต้องหยุดชะงักด้วยความหวาดกลัว

“รัชทายาท?” ปีศาจตนนั้นถามอย่างงุนงง “พวกมันเป็นแค่ทาส พวกมันไม่เชื่อฟัง...”

“ข้าบอกให้ หยุด” อวิ๋นเทียนหานย้ำคำ ปีศาจเฝ้ายามคุกเข่าลงด้วยความกลัวในทันที

อวิ๋นเทียนหานไม่ได้ลงโทษปีศาจตนนั้น แต่เขากลับเดินเข้าไปใกล้เด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่กำลังนอนจมกองเลือด เด็กคนนั้นหวาดกลัวจนตัวสั่น ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามอง

“เจ้าเด็กคนนี้ยังสามารถทำงานได้หรือไม่?” เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่สุด ราวกับเป็นคำถามเพื่อประโยชน์ในการใช้แรงงานเท่านั้น

“มัน… มันใกล้จะหมดลมแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ปีศาจเฝ้ายามตอบอย่างตะกุกตะกัก

อวิ๋นเทียนหานมองบาดแผลที่หลังของเด็กอย่างพิจารณา ก่อนจะใช้พลังปีศาจสีดำดึงเด็กหญิงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พลังปีศาจของเขาห่อหุ้มร่างของเด็กไว้ชั่วขณะหนึ่ง ทำให้บาดแผลของเด็กหญิง สงบลง อย่างน่าประหลาด แม้จะไม่หายสนิท แต่ก็ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและระงับพิษร้ายได้

“เอาเด็กคนนี้ไปพักผ่อน ให้ยาบำรุง และส่งไปทำงานเบาๆ” อวิ๋นเทียนหานออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ “จำไว้ว่า เครื่องมือ ที่พังง่ายๆ ไม่มีประโยชน์สำหรับแดนปีศาจ”

เขาแสร้งทำเป็นว่าทำไปเพราะเหตุผลด้านการใช้ประโยชน์ แต่ เฮยหลง แม่ทัพใหญ่ที่จงรักภักดีรู้ดีว่า อวิ๋นเทียนหาน กำลังแสดงความเมตตาที่ซ่อนอยู่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าหลิงซินเอ๋อร์เมื่อครู่นี้ กำลังส่งผลต่อความขัดแย้งภายในใจของรัชทายาท

‘เขายังคงมีความเป็นมนุษย์ที่หลงเหลืออยู่ แม้จะถูกปกคลุมด้วยความมืดมิดทั้งหมดของแดนปีศาจ’ เฮยหลงคิดในใจ

อวิ๋นเทียนหานไม่ปรารถนาความโหดร้ายที่ไร้จุดหมาย เขาเกลียดชังความสิ้นหวังเช่นเดียวกับที่เขาเกลียดชังความอ่อนแอ การช่วยเหลือเด็กๆ และผู้ที่บริสุทธิ์อย่างลับหลัง เป็นการแสดงออกถึงความขัดแย้งภายใน: เขาอยากเป็นปีศาจที่ทรงอำนาจและเย็นชา แต่จิตวิญญาณของเขากลับโหยหาความสงบและยุติธรรม

ในขณะที่อวิ๋นเทียนหานกำลังจัดการปัญหาภายในอย่างเงียบๆ ทั่วทั้ง หุบเขาอวิ๋นหมิง ก็พลันเกิดเสียงสัญญาณเตือนภัยอันน่าสะพรึงกลัวขึ้น!

วูบ! วูบ!

ม่านพลังปีศาจสีดำที่ปกคลุมแนวป้องกันสั่นไหวอย่างรุนแรง ราวกับถูกฉีกขาดด้วยพลังอำนาจที่บริสุทธิ์และรุนแรงที่สุด

“รายงาน!” อวิ๋นเทียนหานหันไปสั่งเฮยหลงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“รัชทายาท! กองทัพสวรรค์นำโดย ไป๋หานอี้ กำลังบุกเข้ามาในเขตแดนของเราแล้วพ่ะย่ะค่ะ! พวกเขานำเซียนชั้นยอดกว่าห้าพันตนเข้ามาด้วย! เป้าหมายคือ องค์หญิงหลิงซินเอ๋อร์!” เฮยหลงรายงานด้วยความเร่งรีบ

อวิ๋นเทียนหานกำหมัดแน่น เขาคาดเดาไว้แล้วว่าสวรรค์จะต้องตอบโต้ แต่ไม่คิดว่าจะรวดเร็วถึงเพียงนี้ และผู้ที่นำทัพมาคือ ไป๋หานอี้ องครักษ์ผู้ภักดี ที่มีวรยุทธ์เป็นรองเพียงเทพสงครามแห่งสวรรค์เท่านั้น

“มันเป็นแค่องครักษ์… มันกล้าบุกรุกแดนปีศาจงั้นหรือ?” อวิ๋นเทียนหานเยาะหยัน แต่ในใจกลับเริ่มระแวดระวัง

“ท่านองครักษ์ผู้นี้มีพลังปราณที่แข็งแกร่งและคล้ายคลึงกับเทพสงครามมากพ่ะย่ะค่ะ” เฮยหลงเตือน

“เตรียมทัพ! ออกไปต้อนรับกองทัพสวรรค์ให้สมเกียรติ!” อวิ๋นเทียนหานออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด เขาสวมผ้าคลุมสีดำยาว และก้าวออกจากห้องโถงหลักทันที รังสีแห่งอำนาจมืดของเขาแผ่ออกไปจนทำให้ปีศาจที่อยู่ใกล้ๆ ต้องคุกเข่าลงด้วยความหวาดกลัว

ไม่นานนัก อวิ๋นเทียนหานก็มาถึงจุดปะทะที่ขอบหุบเขาอวิ๋นหมิง

ไป๋หานอี้ ยืนอยู่ท่ามกลางแสงสว่างของพลังเซียน ร่างกายของเขาเปล่งประกายสีขาวราวกับหิมะ ดาบเซียนในมือของเขาส่องแสงเรืองรอง เขามองมาที่อวิ๋นเทียนหานด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและความแค้น

“รัชทายาทปีศาจ! คืนองค์หญิงหลิงซินเอ๋อร์มาให้ข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำลายแดนปีศาจนี้ให้สิ้นซาก!” ไป๋หานอี้ตะโกนด้วยน้ำเสียงทรงพลังที่สะท้อนไปทั่วหุบเขา

อวิ๋นเทียนหานยิ้มอย่างเย็นชา “องครักษ์ต่ำต้อย… เจ้ากล้าขู่ข้า? องค์หญิงหลิงซินเอ๋อร์เป็นตัวประกันของข้าแล้ว หากเจ้าไม่ต้องการให้สวรรค์เกิดหายนะ… จงถอยกลับไป!”

ตูม!

การปะทะเริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด ไป๋หานอี้ ไม่รอช้า เขาพุ่งเข้าใส่ อวิ๋นเทียนหาน ด้วยความเร็วสูง ดาบเซียนของเขาก่อให้เกิดพลังดาบสีขาวบริสุทธิ์ที่สามารถฉีกม่านพลังปีศาจได้ในพริบตาเดียว

อวิ๋นเทียนหานตั้งรับอย่างรวดเร็ว เขาใช้ พลังควบคุมเงา สร้างกำแพงเงาขึ้นมาป้องกันการโจมตี ดาบของไป๋หานอี้ถูกสกัดกั้นไว้ได้ แต่แรงปะทะทำให้พื้นดินยุบตัวลงไปหลายสิบเมตร

“เจ้าองครักษ์ผู้ภักดี! เจ้าทำทุกอย่างเพื่อปกป้องนางใช่ไหม?” อวิ๋นเทียนหานเยาะหยัน “แต่สุดท้าย นางก็อยู่ในกำมือของข้า!”

ในขณะที่ทั้งสองกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดจนพลังมืดและแสงสว่างปะทะกันจนท้องฟ้าสั่นคลอน หลิงซินเอ๋อร์ ก็ออกมาจากห้องพักรับรองอย่างรวดเร็ว นางได้ยินเสียงการปะทะและรู้ทันทีว่า ไป๋หานอี้ กำลังมาช่วยนาง

แม้ว่านางควรจะยินดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากพวกพ้อง แต่ภาพของ อวิ๋นเทียนหาน ในความฝันและความรู้สึกที่นางเพิ่งสัมผัสได้จากเขา: ความโดดเดี่ยวและความปรารถนาความสงบ ก็ทำให้ใจนางสั่นคลอน

ไม่! พันธะต้องห้ามไม่ใช่แค่การทำลายล้าง! มันอาจเป็นหนทางเดียวที่จะยุติสงครามได้!

หลิงซินเอ๋อร์รีบวิ่งไปยังจุดปะทะอย่างไม่คิดชีวิต ด้วยร่างกายที่ยังคงบาดเจ็บ นางมองเห็นไป๋หานอี้ที่เต็มไปด้วยความแค้น และอวิ๋นเทียนหานที่พร้อมจะใช้พลังทำลายล้างเพื่อจัดการศัตรู

ในวินาทีที่อวิ๋นเทียนหานกำลังจะรวบรวม เงามืด เพื่อโจมตีไป๋หานอี้ด้วยพลังที่รุนแรงที่สุด และไป๋หานอี้กำลังจะฟันดาบเซียนลงมาที่อวิ๋นเทียนหานอย่างสิ้นหวัง

หลิงซินเอ๋อร์ก็พุ่งตัวออกไป!

นางใช้พลังเซียนที่เหลืออยู่ทั้งหมดสร้าง ม่านพลังสีเงินอ่อนๆ ล้อมรอบร่างของตนเอง และยืนอยู่ตรงกลางระหว่าง รัชทายาทปีศาจ กับ องครักษ์สวรรค์

ตู้มมมมม!

พลังดาบเซียนและพลังเงามืดปะทะเข้ากับม่านพลังสีเงินของนางทันที ม่านพลังนั้นแตกสลายในพริบตา แต่แรงปะทะก็ถูกลดทอนลงอย่างรวดเร็ว ร่างของหลิงซินเอ๋อร์กระเด็นออกไปอย่างรุนแรง เลือดสดๆ พุ่งออกมาจากปากของนาง และล้มลงกองกับพื้น

ทั้ง อวิ๋นเทียนหาน และ ไป๋หานอี้ ต่างหยุดนิ่งด้วยความตกตะลึง!

“องค์หญิง!” ไป๋หานอี้ร้องออกมาด้วยความตกใจอย่างที่สุด เขารีบวิ่งเข้าหานาง แต่ถูกพลังปีศาจที่เหลืออยู่ของอวิ๋นเทียนหานตรึงไว้

หลิงซินเอ๋อร์พยายามลุกขึ้น เลือดไหลอาบร่างของนาง แต่นัยน์ตาของนางยังคงมุ่งมั่น นางมองไปที่ไป๋หานอี้ องครักษ์ผู้ภักดีของนาง

“ท่านหานอี้… โปรดกลับไป” นางพูดเสียงแหบพร่า “อย่าทำสงครามที่นี่เลย”

จากนั้น นางก็หันไปมองอวิ๋นเทียนหาน ดวงตาของนางยังคงอ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว นางใช้แขนข้างที่บาดเจ็บ กอดรัดเอวของรัชทายาทปีศาจไว้แน่น ราวกับต้องการปกป้องเขาจากดาบเซียนของไป๋หานอี้

“เขา… เขาคือพันธะของข้า” นางประกาศต่อหน้ากองทัพเซียนและปีศาจทั้งหมด “ท่านหานอี้… ข้าเลือกจะปกป้องเขา”

การกระทำของ บุตรแห่งจันทร์ ที่เอาตัวเองเข้าขวางกลางสมรภูมิ และเลือกที่จะปกป้อง โอรสปีศาจ ต่อหน้าองครักษ์ของตนเอง ทำให้ทุกฝ่าย ตะลึง จนพูดไม่ออก!

นั่นคือการประกาศสงครามขององค์หญิงสวรรค์ต่อโลกทั้งใบ... และการเริ่มต้นของความรักต้องห้ามที่ถูกลิขิต

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 13 หายนะจันทราสลาย

    หลังจากที่ ซูเม่ยหลาน ถูกคุมขัง และ ความจริงเรื่องชาติกำเนิด ขององค์หญิงหลิงซินเอ๋อร์ถูกเปิดเผยต่อ อวิ๋นเทียนหาน อย่างลับๆ สถานการณ์ของสามภพก็เข้าสู่จุดวิกฤตที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้ ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยความมืดมิดอย่างผิดปกติ ดวงจันทร์ ที่เคยมีรอยร้าวอยู่แล้ว ก็เริ่ม แตกร้าวเป็นเสี้ยวๆ อย่างเห็นได้ชัด! ครืนนนนน… ตู้ม! เสี้ยวของดวงจันทร์เริ่มแตกออก และส่ง แสงสีแดงโลหิต สลับกับ แสงสีเงินเย็นเยือก พวยพุ่งออกมาจากรอยร้าว แสงฟ้าสั่นสะเทือนไปทั่วสามภพ พลังเซียนในแดนสวรรค์ปั่นป่วนอย่างรุนแรง พลังปีศาจในแดนปีศาจก็บ้าคลั่งจนเกินควบคุม เหล่าเทพเซียนหวาดกลัวอย่างที่สุด พวกเขารู้ว่านี่คือสัญญาณสุดท้าย: หายนะจันทราสลาย กำลังจะเกิดขึ้น และ บุตรแห่งจันทร์ กำลังจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับพลังที่แท้จริง ในตำหนักกวงหมิง หลิงซินเอ๋อร์ ซึ่งถูกล้างความทรงจำไปแล้ว ก็รู้สึกถึงความผิดปกติของพลังอย่างรุนแรง ร่างกายของนางถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีเงินที่หมุนวนอย่างรวดเร็ว พลังในตัวซินเอ๋อร์ไ

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 12 เลือดมารกับหยกฟ้า

    หลังจากที่ พันธะสาบาน ได้ขาดสะบั้นไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ อวิ๋นเทียนหาน ก็รู้สึกถึงความปวดร้าวที่ไม่มีวันบรรเทา แม้ความทรงจำทางอารมณ์จะถูกทำลายไปแล้ว แต่ความรู้สึกว่าถูก ทรยศ และถูก สูญเสีย ยังคงกัดกินจิตใจของเขา เขาตระหนักว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ หลิงซินเอ๋อร์ จะต้องเกี่ยวข้องกับพลังเซียนที่ยิ่งใหญ่ของสวรรค์ และต้องเกี่ยวพันกับ คำพยากรณ์ ที่มารานตี้เคยกล่าวถึง อวิ๋นเทียนหานเริ่มค้นคว้าอย่างลับๆ เขาใช้พลังเงามืดในการแทรกซึมเข้าไปในอาณาเขตเซียนที่ไม่เคยมีปีศาจตนใดกล้าเข้าไปถึง เขาไม่สนใจการทำสงครามชั่วคราว แต่ต้องการค้นหา ความจริง ที่ถูกปิดบังไว้ ในที่สุด เขาก็สามารถแทรกซึมเข้าไปใน หอจารึกเทวะ บนสวรรค์ได้อย่างลับๆ สถานที่ที่เก็บรักษาคัมภีร์และบันทึกสำคัญของสามภพ เขาค้นหาเกี่ยวกับ บุตรแห่งจันทร์ และ คำพยากรณ์จันทราสลาย เขาพบว่าคำพยากรณ์ที่สวรรค์เผยแพร่นั้นถูก บิดเบือน ไปบางส่วน ในบันทึกเก่าแก่ที่สุดที่จารึกไว้บน “ศิลาเทวลิขิต” ที่แท้จริงนั้น มีประโยคสำคัญที่สวรรค์ตัดออกไป: “บุตรแห่

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 11แผนร้ายแดนสวรรค์

    หลังจากศึกใหญ่ในหุบเขาอวิ๋นหมิงยุติลงชั่วคราวด้วยความสูญเสียอย่างหนักทั้งสองฝ่าย วังสวรรค์ ก็เข้าสู่สภาวะตึงเครียดสูงสุด ในโถงลับของตำหนักเซียน เง็กเซียนฮ่องเต้ ทรงเรียกประชุมเหล่าเทพเซียนผู้มีอำนาจสูงสุด รวมถึง ไป๋หานอี้ และ ซูเม่ยหลาน เพื่อตัดสินชะตากรรมของ หลิงซินเอ๋อร์ “ความสูญเสียครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก” เง็กเซียนฮ่องเต้ตรัสด้วยพระสุรเสียงที่หนักอึ้ง “และชัดเจนแล้วว่า สาเหตุของจันทราร้าว และการปั่นป่วนของพลังเซียนในวังสวรรค์… มาจากความสัมพันธ์ต้องห้ามขององค์หญิงหลิงซินเอ๋อร์กับรัชทายาทปีศาจ!” เหล่าเทพเซียนต่างเห็นพ้องต้องกัน พวกเขาเห็นการกระทำขององค์หญิงในสนามรบที่ใช้พลังรักษาปีศาจ และการที่รัชทายาทปีศาจปกป้องนาง การผูกพันทางชะตาของทั้งคู่กำลังคุกคามรากฐานของสวรรค์ “เราไม่สามารถฆ่านางได้” เทพสงครามเสนอ “นางคือ บุตรแห่งจันทร์ พลังของนางเชื่อมโยงกับดวงดาว หากนางดับสลาย สวรรค์จะพังทลายตามไปด้วย” “ถ้าเช่นนั้น เราต้อง ทำลายนางในความทรงจำ” เง็กเซียนฮ่องเต้สรุป “ต้องตัดขาด พันธะต

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 10 หัวใจสั่นไหว

    สงครามสามภพ เปิดฉากขึ้นแล้วที่ หุบเขาอวิ๋นหมิง สมรภูมิเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน พลังเซียน สีขาวบริสุทธิ์ปะทะกับ พลังปีศาจ สีดำทะมึน สายฟ้าสีทองฟาดฟันเข้าใส่กำแพงเงามืด เปลวไฟปีศาจสีครามลุกโชนเผาผลาญทัพสวรรค์ ไป๋หานอี้ องครักษ์ผู้ภักดี นำทัพหน้าเข้าโจมตีอย่างดุดันที่สุดเท่าที่เขาเคยทำ เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะทำลายแนวป้องกันของปีศาจ เพื่อยุติสงครามนี้ให้เร็วที่สุด และเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับ อวิ๋นเทียนหาน และ หลิงซินเอ๋อร์ อวิ๋นเทียนหาน รัชทายาทปีศาจ สวมชุดเกราะสีนิลและดาบปีศาจเงาของเขาฟาดฟันอย่างรวดเร็วและโหดเหี้ยม เขาคือขุนศึกผู้ไร้เทียมทานในสนามรบ ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วย เงามืด ที่กลืนกินพลังเซียนที่เข้ามาใกล้ ท่ามกลางความโกลาหลของสงคราม หลิงซินเอ๋อร์ ยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าแม่ทัพสวรรค์ด้วยความเจ็บปวด นางถูกบังคับให้เข้าร่วม แต่จิตวิญญาณของนางปฏิเสธการนองเลือดนี้ พลังเซียนที่ถูกผนึกไว้บางส่วนทำให้นางไม่สามารถต่อสู้ได้อย่างเต็มที่ แต่นางก็ค้นพบวิธีที่จะไม่ทรยศต่อ คำสาบาน ของตนเอง

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 9 สงครามเริ่มต้น

    หลังจากที่ เง็กเซียนฮ่องเต้ ได้รับรายงานจาก ซูเม่ยหลาน และตระหนักถึงความสัมพันธ์ที่เกินกว่าเหตุระหว่าง หลิงซินเอ๋อร์ กับ อวิ๋นเทียนหาน พระองค์ก็ตัดสินใจดำเนินการอย่างเด็ดขาด ในโถงหลิงเซียว เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงเรียกประชุมเหล่าเทพเซียนทั้งหมด และมีพระบัญชาที่ทำให้ทั้งสวรรค์ต้องสั่นสะเทือน “เราไม่สามารถปล่อยให้ความมืดมิดคุกคามสามภพได้อีกต่อไป” เง็กเซียนฮ่องเต้ตรัสด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ “แดนปีศาจนำโดยรัชทายาทปีศาจ ได้ละเมิดกฎฟ้า ซ่องสุมกำลัง และเป็นภัยต่อวิถีแห่งเต๋า สวรรค์ในนามของผู้พิทักษ์ความยุติธรรม จึงขอ ประกาศสงครามขั้นเด็ดขาด กับแดนปีศาจ!” คำประกาศนี้ถูกอ้างอย่างเป็นทางการว่าเพื่อ ปกป้องโลกมนุษย์ และเพื่อรักษาความสงบสุขของสามภพ แต่ความจริงเบื้องหลังที่เหล่าเซียนชั้นสูงรับรู้คือ ความกลัวคำพยากรณ์จันทราสลาย การที่ บุตรแห่งจันทร์ แสดงความภักดีต่อ โอรสปีศาจ นั้น เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าหายนะกำลังจะมาถึง มีเพียงการทำลายแกนกลางแห่งความมืด (รัชทายาทปีศาจ) เท่านั้น ที่จะสามารถตัดขาดพันธะต้องห้ามและช่วยห

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 8 เสียงพิณแห่งสวรรค์

    หลังจากที่ หลิงซินเอ๋อร์ ถูกนำตัวกลับสู่สวรรค์ และแสดงความเอนเอียงไปทางรัชทายาทปีศาจอย่างชัดเจน ความหวาดระแวงในวังสวรรค์ก็พุ่งสูงถึงขีดสุด เง็กเซียนฮ่องเต้ ทรงตระหนักดีว่าการกักบริเวณเพียงอย่างเดียวไม่สามารถควบคุม บุตรแห่งจันทร์ ผู้ถูกลิขิตให้เป็นทั้งความหวังและหายนะได้ ดังนั้น จึงมีพระบัญชาลับให้ ซูเม่ยหลาน สหายสนิทเพียงไม่กี่คนของหลิงซินเอ๋อร์ ถูกส่งลงมายังดินแดนมนุษย์ที่อยู่ใกล้กับหุบเขาอวิ๋นหมิง เพื่อคอยสอดส่องพฤติกรรมขององค์หญิงอย่างใกล้ชิด ซูเม่ยหลาน เป็นเซียนสาวที่งดงามและมีพรสวรรค์สูงยิ่ง นางมีความเชี่ยวชาญด้านดนตรีโบราณ และมีพลังเซียนที่แฝงอยู่ในเสียงพิณของนาง พลังนี้คือ ‘เสียงพิณสะกดจิต’ ที่สามารถควบคุมอารมณ์ สยบจิตใจที่ปั่นป่วน และแม้กระทั่งทำให้ศัตรูหลงใหลในความว่างเปล่าจนสูญเสียพลังไปได้ เม่ยหลานได้รับพิณศักดิ์สิทธิ์ที่ทำจากหยกโบราณ และลงมายังอาณาจักรมนุษย์อย่างเงียบเชียบ นางตั้งสำนักเล็กๆ ไว้ใกล้กับอาณาเขตของหุบเขาอวิ๋นหมิง และเฝ้าสังเกตการณ์อย่างระมัดระวัง แม้จะเต็มใจรับพระบัญชา แต่ในใจขอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status