หน้าหลัก / รักโบราณ / ลิขิตกาลบันดาลรัก / หวานเพียงนี้เอาอันใดมาขมกัน

แชร์

หวานเพียงนี้เอาอันใดมาขมกัน

ผู้เขียน: ป่าดอกท้อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-09 19:04:04

อาหารเย็นนางซื้อมาแล้วจึงไม่จำเป็นต้องทำ แต่นางอยากได้ไข่ไก่มานวดกับแป้งเพื่อทำบะหมี่ไข่พรุ่งนี้ แต่ตอนนี้เสิ่นเยี่ยนฟางนางรู้ตัวว่าฝืนไม่ไหวแล้ว เมื่อเมิ่งหย่งชวนเอ่ยลาทุกคน ก็พานางกลับบ้านทันทีที่ถึงบ้านเสิ่นเยี่ยนฟางก็เดินโซซัดโซเซไปหาที่นอนทันที

ปวดหัวแทบจะระเบิดอยู่แล้ว แผลที่ถูกแทงคงอักเสบแน่ๆไข้จึงขึ้น

"เจ้าไหวไหม ตัวร้อนขนาดนี้ป่วยหนักกว่าข้าเสียอีกนะ"

"อืม ไหวๆอาเจินเอาเกวียนไปคืนท่านปู่หลงแล้วอุ่นอาหารเองนะ พี่สะใภ้ซื้อมาแล้วไม่ต้องทำ ท่านชาวยหาสุรามาให้หน่อยข้าจะล้างแผล คงอักเสบน่ะข้าถึงมีไข้"

"ได้ เดี๋ยวข้าจัดการให้เจ้าพักผ่อนเถอะ"

เมิ่งหย่งชวนเห็นสภาพนางก็สงสารจึงอุ้มนางไปนอนในห้อง เสิ่นเยี่ยนฟางปูที่นอนไว้เรียบร้อยแล้ว เขาวางนางเอาไว้ก่อนจะให้นางนอนพักแล้วตนเองก็ไปต้มยา

เมิ่งลู่เจินที่เพิ่งมาถึงจากเอาเกวียนไปคืนก็รับอาสาเฝ้าเตาไฟ เมิ่งหย่งชวนเข้าไปดูคนตัวเล็กเห็นนางนอนสั่นจึงห่มผ้าให้ เสิ่นเยี่ยนฟางหนาวสั่นจนเขาต้องทอดกายลงข้างๆแล้วกอดนางเอาไว้ ไม่นานน้องชายก็เดินมาหาพร้อมชามยาในมือ

"พี่ใหญ่ขอรับ ยาของพี่สะใภ้ได้แล้วขอรับ"

"ขอบใจมากอาเจิน เจ้าอุ่นอาหารแล้วกินก่อนได้เลยนะ พี่จะดูพี่สะใภ้เจ้าก่อนเดี๋ยวนางดีขึ้นพี่ค่อยไปหากินเอง"

"พี่ใหญ่ พี่สะใภ้จะไม่เป็นไรใช่ไหมขอรับ ข้าไม่อยากให้นางเป็นอะไรไป ข้าชอบนางข้ารู้สึกว่านางเป็นคนดี"

"นางจะไม่เป็นอะไรหรอกเจ้าอย่ากังวลเลย ท่านหมอจ่ายยามาเดี๋ยวนางกินยาก็ดีขึ้น เจ้าไปกินข้าวเถอะ"

เมิ่งลู่เจินไปแล้วเมิ่งหย่งชวนจึงปลุกเสิ่นเยี่ยนฟางให้ลุกมากินยา แต่นางอแงมากนัก

"เสิ่นเยี่ยนฟางเจ้าตื่นมากินยาก่อน ไม่อยากหายป่วยหรืออย่างไรกัน"

เสิ่นเยี่ยนฟางพยายามลุกนั่งพอเห็นยาในชามนางก็เบ้ปาก ไม่น่ากินสักนิดเลยเชียว ก่อนจะบ่นกลับเพิ่งหย่งชวน

"อื้อ ข้ารู้แล้วเจ้าจะบ่นอะไรนักหนา นี่ยาหรือทำไมกลิ่นมันถึงได้ชวนหืนเช่นนี้เล่า เมิ่งหย่งชวนข้าไม่กินได้ไหมดูสีแล้วต้องขมแน่ๆเลย"

"ขึ้นชื่อว่ายาย่อมต้องขม มากเถอะกินดีๆเดี๋ยวจะได้พักผ่อน"

เสิ่นเยี่ยนฟางเม้มปากแน่นทันทีที่ชามยามาจ่อปากนาง เมิงหย่งชวนอ่อนใจนางดื้อกว่าที่คิดนัก

ขาใช้มือช้อนท้ายทอยนางไว้ก่อนจะยกชามยาเข้าปากตนเอง จากนั้นใช้มืออีกข้างจับคางนางบีบขากรรกไรเล็กน้อย เพื่อบังคับให้นางอ้าปาก จากนั้นก็ก้มลงประกบปากนางค่อยๆบ้วนยาจากปากเขาลงไป

เสิ่นเยี่ยนฟางใช้มือสองข้างทุบแผ่นหลังเขารัวๆ นางจำต้องกลืนยานั่นลงคอ อื้อมันขมมากแต่นางหนีไม่ได้ นางเป็นไข้บวกกับเขาบังคับนางทำให้ยาถูกป้อนจากปากเขาเข้าสู่ปากนางจนหมดทุกหยด เมิ่งหย่งชวนเห็นนางกลืนยาหมดแล้วก็ปล่อยมือจากนั้นก็มองหน้านางเอ่ยเสียงเข้ม

"เจ้าดื้อกว่าที่คิดนะเสิ่นเยี่ยนฟาง ให้เจ้าแต่งมาดูแลข้าแต่กลายเป็นว่าข้าต้องมาดูแลเจ้าแทน"

"เมิ่งหย่งชวนตาบ้า ยาขมขนาดนี้เจ้าบังคับข้าดื่มอึกเดียวเลย จะให้ข้าสำลักตายหรืออย่างไรกัน แค่กๆๆ"

"ขมมากหรือ ไหนข้าชิมหน่อยสิ"

เมิ่งหย่งชวนรั้งนางเข้าหาก่อนจะแนบริมฝีปากตนเองประกบกับริมฝีปากของนาง เสิ่นเยี่ยนฟางพยายามจะดันเขาออกแต่กลับไม่ได้ผล เมิ่งหย่งชวนลึกล้ำลุกไล้ลิ้นของตนเข้ามาในปากของนางจนได้

จากนี้ก็ไล้ลิ้นไล่เกี่ยวพันลิ้นเล็กๆของนางเสิ่นเยี่ยนฟางจับสาบเสื้อเขาแน่น ได้แต่ร้องอื้อๆๆ จนกระทั่งเขาถอนริมฝีปากออก นางที่หน้าแดงเพราะพิษไข้อยู่แล้วยิ่งหน้าแดงกว่าเดิม ไอ้เด็กบ้านี่มันจูบแรกของฉันเลยนะ นายเล่นปล้นจูยกันแบบนี้เลยหรือไง

"เมิ่งหย่งชวนเจ้ามันคนโรคจิต ออกไปให้พ้นเลยนะ"

"ก็จ้าบอกว่ายามันขมข้าก็อยากลองชิมดู แต่ข้ารู้สึกว่ามีหวานนะ หรือเพราะข้าป่วยกินยามานานเลยแยกรสชาติไม่ออก ไหนลองชิมอีกครั้งสิ"

"ฝันไปเถอะข้าไม่ อื้อออๆๆ"

เสิ่นเยี่ยนฟางพูดไม่ทันจบเขาก็จูบนางอีกรอบ นางเป็นภรรยาเขาแต่วันนี้กลับยอมให้คนอื่นโอบกอด ต้องลงโทษกันหน่อย จะได้รู้ไว้ว่าเขายั่วยุไม่ได้

เมิ่งหย่งชวนถอนริมฝีปากออก จับนางมานั่งตักแล้วดุนางจริงจัง

"ห้ามทำเช่นวันนี้อีก หากข้าเห็นเจ้าให้บุรุษใดโอบกอดเช่นมือปราบจิ้งอีกข้าจะลงโทษเจ้าให้หนักกว่าวันนี้ อยู่กับข้าอย่าดื้อให้มากนักเสิ่นเยี่ยนฟาง นอนได้แล้วอีกสองชั่วยามจะปลุกเจ้าดื่มยาอีกครั้ง ที่สำคัญหวานขนาดนี้เอาที่ไหนมาขมกันหื้ม"

"เจ้ามันโรคจิต นี่เมิ่งหย่งชวนข้าไม่กินแล้วได้ไหมยาขมขนาดนี้ เอ่อมียาลูกกลอนหรือไม่เล่าแบบนั้นกินง่ายกว่า"

"ยาลูกกลอนมีราคาแพง ชาวบ้านจ่ายไม่ไหวท่านหมอจ้าวจึงไม่ทำออกมา หากไม่อยากกินยาให้ข้าฝังเข็มให้เจ้าดีไหม เหมือนเข็มของข้าจะพร้อมแล้วนะ"

เสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าเขางงๆทันที จากนั้นนางก็รู้แล้วว่าเขาหมายถึงสิ่งใดเพราะมันแข็งเป็นศิลาหยกอีกทั้งตอนนี้มันยังทิ่มก้นนางอยู่ ด้วย จึงรีบปีนลงจากตักเขาอย่างลนลานเข้าไปด้านในเตียงแล้วนอนหันหลังให้ เอ่ยเบาๆ

"ท่านต้มยาเสร็จแล้วปลุกข้าแล้วกัน ข้าง่วงแล้ว "

เมิ่งหย่งชวนหัวเราะหึๆ เวลาดื้อก็ดื้อมาก เวลาอายก็น่ารัก ดูเหมือนภรรยาแก้ชงคนนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายสำหรับเขาเท่าไหร่ อีกอย่างเขาต้องเข้าเมืองหลวงอีกครั้ง อาเจินชอบนางมาก สิ่งที่เขาห่วงที่สุดก็คือน้องชาย หวังว่านางจะไม่หนีไปเพราะว่าเขาขี้โรคเหมือนคนก่อนๆที่รับเงินสินสอดแล้วไม่ยอมแต่ง ดูแล้วนางกับเขาคงมีดวงดอกท้อต่อกัน

บ้านเชิงเขานั้นอากาศมักจะเย็นมาก เสิ่นเยี่ยนฟางที่นอนอยู่ตัวร้อนเพราะพิษไข้ นางสั่งเมิ่งหย่งชวนให้หาสุรามาล้างแผลและเอาไว้ให้นางเช็ดตัวหากนางไข้ขึ้น

เมิ่งหย่งชวนที่จัดการเด็กดื้อกินยาเรียบร้อยแล้วก็สวมเสื้อทับอีกชั้นหนึ่งเพื่อเข้าไปในหมู่บ้าน ปู่หลงเปิดร้านค้าขายน่าจะมีสุราขายด้วย เมิ่งหย่งชวนจะรีบไปจึงฝากให้น้องชายดูแลพี่สะใภ้

"อาเจิน คอยฟังเสียงพี่สะใภ้เจ้าหน่อย พี่จะไปซื้อสุรามาล้างแผลให้นาง"

"ขอรับพี่ใหญ่ ท่านไปเถอะ อย่าลืมใส่เสื้อหนาๆหน่อยนะขอรับ พี่สะใภ้ซื้อเสื้อนวมมาให้ท่านสองตัวสวมทับด้วย ดูเหมือนฝนจะมาเร็วกว่าปกติ"

"อืม พี่ไปก่อนนะ"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตอนพิเศษ-15-ชีวิตครอบครัวมีความสุข

    เมื่อถึงมื้อค่ำผู้ใหญ่ก็มีเรื่องคุยกัน หวงหย่งเหนียนเจรจาสู่ขอจางจื่อเหยียนกับจางลี่ให้หวงมู่เหวิน กลับเมืองหลวงแต่งงานทันทีเพราะเด็กทั้งสองนั้นไปไกลแล้ว หากเกิดจางจื่อเหยียนตั้งครรภ์ขึ้นมาก่อนจะไม่ดีจากนั้นซูหยางก็สู่ขอเมิ่งหานเซียงกับเมิ่งหย่วงชวน ส่วนเมิ่งหย่งชวนก็เจรจาสู่ขอหวงเฟยเซียนให้บุตรชายคนโตเช่นกัน ตวนอ๋องเอ่ยกับเมิ่งหย่งชวนว่าเขาจะแต่งงานกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงทำเอาทุกคนอ้าปากค้าง แต่เสิ่นเยี่ยนฟางและเมิ่งหย่งชวนรู้ดีว่าบุตรสาวมีใจให้เสด็จอาสิบสองมานานแล้ว ในเมื่อเป็นความสุขของบุตรสาวทั้งคู่จึงส่งเสริม สรุปทุกคู่หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้วจะแต่งงานกันในอีกครึ่งเดือนเจ็ดเดือนต่อมาเสิ่นเยี่ยนฟางก็คลอดฝาแฝดชายหญิงให้เมิ่งหย่งชวนอีกหนึ่งคู่ ตอนนี้นางกำลังอยู่เดือน บุตรชายและบุตรสาวแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เมิ่งเสี่ยวเถาที่ตอนนี้กลายเป็นพระชายารัชทายาท คนอื่นๆ ก็เป็นฮูหยินน้อยของจวนต่างๆเมิ่งหานเซียงตั้งครรภ์คนแรก หากไม่นับจางจื่อเหยียนที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานไปแล้ว จากนั้นก็ตามด้วยโจวจื่อหราน ส่วนที่เหลือสามียังคงตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติภารกิจปั๊มบุตรอย่างไม่ย่อท้อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในที่

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตอนพิเศษ-14-มหาเทวีของข้า

    เมิ่งเสี่ยวเถาลืมตาขึ้นมา นางฝันอะไรเนี่ยถึงนางจะชอบจ้าวตงหยางแต่ไม่ควรเก็บเขามาฝันลามกเช่นนี้ได้นะ เขาเรียกนางมหาเทวี ส่วนนางก็เรียกเขาว่าท่านตาเจ้าที่ นี่มันเรื่องอะไรกัน อีกทั้งเขากับนางยังเข้าหอกันในศาลเจ้า นี่มันบ้าไปแล้วหรือนอกจากเมิ่งเสี่ยวเถาจะฝันประหลาดจ้าวตงหยางก็ไม่ต่างกัน เขาฝันเช่นเดียวกับนาง ในความฝันนางช่างหอมหวานยิ่งนัก นึกถึงวันที่ได้ชิมความหวานจากนางเมืองหลายวันก่อนยังตราตรึง อีกทั้งในฝันเสมือนจริงเหลือเกิน หากเขาแหวกม่านประเพณีเข้าหอกับนางก่อนได้ก็คงดีนางจะเป็นพระชายาและจะเป็นแม่ของแผ่นดินคนต่อไป คืนวันแต่งงานหากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่ได้นางจะใช้ชีวิตที่เหลือลำบาก เขาจึงจำต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แต่ในความฝันนางช่างน่าทะนุถนอมเหลือเกิน เขาไม่เข้าใจเหตุใดฝันเช่นนั้นได้แต่ละเมอออกมาไม่รู้ตัว"เทวีของข้า เสี่ยวเถาเด็กดีข้าคิดถึงเจ้าคนงาม"หลังจากมาถึงฮวาป๋ายทุกคนก็พักผ่อนกันเต็มที่ กระทั่งยามซื่อทุกคนก็มารวมตัวกันไปบ้านท่านปู่ทวด เด็กๆให้สาวใช้และบ่าวในจวนขนของขวัญมากมายไปที่บ้านท่านอาหญิง จางจื่อเหยียนจูงมือเหลนเขยไปเยี่ยมท่านตาทวดของนางอย่างอารมณ์ดีเมิ่งซุนที่กำ

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตอนพิเศษ-13-กลับฮวาป๋าย

    หลายเหตุการณ์ผ่านไปถึงเวลาที่ทั้งหมดต้องเดินทางกลับฮวาป๋าย รุ่งสางทุกคนก็เตรียมตัวที่จะออกเดินทาง จ้าวตงหยางพาเมิ่งเสี่ยวเถาขี่ม้าไปด้วยกัน จ้าวไห่เฉิงกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงก็ขี่ม้าไปล่วงหน้าแล้ว นางชอบขี่ม้าที่สุด เสด็จอาสิบสองจึงตามใจนางบรรดาสตรีที่เหลือนั่งรถม้าสามคัน จากเมืองลั่วเหอไปฮวาป๋ายใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้น แต่เด็กๆจะแวะไปเมืองเหลยเพื่อเยี่ยมท่านย่าลู่ซินก่อน เดินทางมาได้หนึ่งวันก็ถึงเมืองเหลย ทั้งหมดเข้าที่พักที่ท่านอาเขยเตรียมไว้ให้ หวังจิ่วมารับเด็กๆและอารักขาด้วยตนเอง หวังซูหรานก็ตามบิดามาด้วย นางคิดถึงพี่ๆมากนัก หวังซูหนีว์เห็นหน้าน้องสาวก็รีบทักทาย"ซูหราน เจ้ามาแล้ว""พี่หญิง ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย"คนที่เหลือเปิดม่านออกมาก่อนจะส่งเสียงทักทาย หวังซูหรานควบม้ามาใกล้ๆก่อนจะขี่ม้าขนาบข้างแล้วคุยไปด้วย หวังจิ่วต้องรีบกลับเพราะตอนมานั้นเขามาคนเดียว ใครจะรู้เจ้าตัวดีแอบตามมาด้วย หากกลับไปเมียจัดการเขาแน่นอนกระทั่งถึงที่พักเรียบร้อยก็เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว จากนั้นทั้งหมดก็เข้าที่พัก เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยก็พากันมากินมื้อเย็น ต่า

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตอนพิเศษ-12-ข้าต้องการแต่งงานกับนาง

    จางจื่อเหยียนยอมรับสัมผัสจากหวงมู่เหวิน นางลืมไปแล้วว่านางกำลังโกรธเขา ลืมไปแล้วว่าเขามาเพื่อให้นางยกโทษให้ กระทั่งผิวกายต้องอากาศเย็นนางจึงรับรู้ว่าอาภรณ์ถูกเขาปลดออกแล้ว แผ่นหลังแตะที่นอนโดยมีร่างไร้อาภรณ์ของคนตัวโตทาบทับเกยนางเอาไว้ ดอกบัวตูมเบ่งบานชูช่อ ปลายถันแข็งชันล่อลวงให้คนด้านบนตกอยู่ในมนต์เสน่หา หวงมู่เหวินสบตากับนางจางจื่อเหยียนไม่กล้าสบตาเขาเอ่ยตะกุกตะกัก"คุณชายรอง""เรียกพี่มู่เหวินเหมือนเดิมได้หรือไม่ จื่อเหยียนของพี่ เจ้างามนัก"จางจื่อเหยียนผวา ร่างงามถูกเขานวดเฟ้น ปากหยักครอบครองความหวานตรงหน้า ดรุณีน้อยยกแขนคู่เรียวโอบรั้งท้ายทอยหนาแอ่นอกงามให้เขาเชยชม ใจนางมีเขาอยู่จึงไม่ไตร่ตรองในสิ่งที่กำลังทำ แค่คืนนี้เท่านั้น แค่ครั้งนี้ขอให้นางได้เป็นผู้หญิงของเขา หลังจากคืนนี้ไปนางจะออกจากหนานเป่ยไปใช้ชีวิตที่อื่น"อื้อ พี่มู่เหวิน อาเหยียน สะเสียว""อืม หวานเจ้าหวานมากอาเหยียน"ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนต่ำลงไปหาดอกไม้บอบบางก่อนเริ่มสำรวจน้ำหวาน ไม่นานคนใต้ร่างก็กระตุกเกร็ง นางแตะสวรรค์จนต้องกลั้นเสียงครางเอาไว้ เกรงว่าจะเล็ดลอดออกไป หวงมู่เหว

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตอนพิเศษ-11-ให้อภัยพี่เถอนะ

    จางจื่อเหยียนนอนละเมอทั้งคืน หวงมู่เหวินนั่งเฝ้าอยู่ด้านนอก เขารู้สึกผิดเขาเพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเขารักนาง หากว่าวันนี้ไม่เกือบเสียนางไปเขาก็คงไม่รู้หัวใจตัวเองและเป็นเขาเองที่เกือบทำนางหายไป เมิ่งเสี่ยวหว่านออกมาจากห้องเห็นบุตรชายคนรองของมหาราชครูก็ถอนหายใจคนหนึ่งก็พยายามหนีหัวใจตัวเอง อีกคนก็ปากแข็งจนก่อเรื่องร้ายแรง จางลี่ออกมาจากห้องบุตรสาวเห็นคนก่อเรื่องนั่งคุกเข่าอยู่หน้าห้องก็ประคองฮูหยินของตนเดินมาหา "คุณชายรอง....ท่านไปพักก่อนเถอะอาเหยียนนางยังมีไข้และเพ้อเป็นบางครั้ง รอนางดีขึ้นท่านค่อยมาดีกว่า""ท่านอาจาง..ข้าสำนึกผิดแล้วข้าอยากเข้าไปหานาง ท่านอาท่านอนุญาตเถอะขอรับ""คุณชายรอง..มีใช่ว่าพวกเรากีดกันท่าน แต่ให้เวลานางสักหน่อย บุตรสาวข้านางเพิ่งเสียขวัญ อีกทั้งเกือบจมน้ำตาย ตอนนี้หากเห็นหน้าท่านนางอาจทรุดหนักกว่าเดิม"จางลี่โกรธมากเรื่องนี้เมิงเสี่ยวหว่านรู้ดี เขารักบุตรสาวคนนี้ที่สุด จางเหิงบุตรชายคนโตที่เป็นผู้สืบสกุล สามีนางยังมิเอ็นดูเท่ากับบุตรสาวเลย แต่อย่างไรเล่า คนที่คุกเขาอยู่ตรงหน้าคือบุตรชายมหาราชครูเชียวนะ เมิ่งเสี่ยวหว่านถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสามีของนาง

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตอนพิเศษ-10-ข้าเกลียดเจ้า ไปตายซะ

    ทุกคนปรับความเข้าใจกันหมดแล้ว เหลือเพียงเมิ่งลู่เหลียนกับหานมู่เฉินเท่านั้น ตอนนี้ดรุณีน้อยกำลังโมโหเขาอยู่ หานมู่เฉินที่เดิมทีเคยถูกนางทุบตีประจำมาวันนี้เขากลับตรึงนางเสียอยู่หมัด ยามนี้รน่างงามอยู่ใต้ร่างแกร่งเขากดข้อมือนางเอาไว้ ปล้ำจูบนางอย่าเอาแต่ใจ เมิ่งลู่เหลียนที่ถูกเขาหลอกมาตลอดว่าเขาไร้วรยุทธ ยามนี้นางต่างหากที่ห่างไกลคำว่ายอดฝีมือ"ปล่อยข้านะเจ้าบ้าหานมู่เฉิน ไอ้คนโกหกหลอกลวง เจ้าหลอกข้าหรือ อย่าให้ข้ารอดไปได้นะ บอกให้ปล่อยไง""ปล่อยหรือ นี่เมิ่งลู่เหลียนข้าจะบอกให้นะ ทั้งชีวิตข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่นอน""เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาควบคุมข้า หานมู่เฉินไอ้คนเลว อื้ออออ"เด็กคนนี้ต้องสั่งสอน เขาต้องปราบนางให้ได้ ดื้อด้านนักทุบตีเขาอยู่เรื่อย ถ้าไม่ใช่ว่าเขารักนางคงจับนางฟาดเสียหลายทีแล้ว ทำตัวเกเรยิ่งนัก เมิ่งลู่เหลียนที่กำลังเสียเปรียบเขาอยู่ ก็หาทางออกให้ตัวเอง ทันทีที่เขาถอนจุมพิตออกนางก็เปลี่ยนเป็นไม้อ่อนทันที"พะ พี่มู่เฉิน เหลียนเอ๋อร์เจ็บมือเจ้าค่ะ ปล่อยเหลียนเอ๋อร์ได้ไหมเจ้าคะ""หืม..อ่อนหวานก็เป็น เอาตัวรอดสิท่าแม่ตัวดี""เปล่านะเจ้าคะ เหลียนเอ๋อร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status