Beranda / รักโบราณ / ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ / ตอนที่ 47 ใจยังมิอาจให้อภัย

Share

ตอนที่ 47 ใจยังมิอาจให้อภัย

last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-18 22:58:18

ยามค่ำในตำหนักชิงอวิ๋น แสงจันทร์ลอดผ่านม่านโปร่ง ส่องเงาอ่อนโยนลงบนพื้นหินกรวด บรรยากาศเงียบสงบ หลังมื้ออาหารยามค่ำ ไป๋ลี่เยว่ยืนลำพังในสวนหลังตำหนัก ราวต้องการปลดเปลื้องบางสิ่งที่คั่งค้างในอก หลังจากได้พบหน้าหลงเจิ้งหยางอีกครั้ง

เสียงฝีเท้าหนักแน่น แต่ลังเลของใครบางคนดังเข้ามาใกล้ นางมิได้หันไปมอง เพียงยืนสงบนิ่ง ลมหายใจทอดยาว ดวงหน้าหันรับลมราตรี

“เยว่เอ๋อร์”

เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยเอ่ยขึ้นเบื้องหลัง เสียงนั้นแผ่วเบานัก ทว่ากลับมีแรงพอที่จะสะเทือนหัวใจที่พยายามเข้มแข็งได้

ไป๋ลี่เยว่ชะงักเล็กน้อย หลับตาลงช้า ๆ ก่อนค่อย ๆ หันกลับ พบกับหลงเจิ้งหยางยืนอยู่ตรงนั้น สีหน้าเคร่งเครียดปนรู้สึกผิดอย่างปิดไม่มิด

นางสบตาเขา ดวงตาของหลงเจิ้งหยางฉายแววความลังเล ความเจ็บลึก และความรู้สึกผิดที่ไม่อาจซ่อน

“องค์ชายสาม มีธุระอันใดกับหม่อมฉันกันแน่เพคะ ถึงได้ยอมลดเกียรติพระองค์ มาเยือนตำหนักเย็นในวันนี้” นางเอ่ยเรียบเย็น ไม่แม้แต่แสดงแววซึ้งใด ๆ

“หม่อมฉันจำได้ดีว่า หกปีมานี้ นับแต่พระองค์มีรับสั่งให้หม่อมฉันมาพำนักที่นี่ พระองค์ก็มิเคยแม้แต่จะย่างกรายเข้ามา... แล้วเหตุใดวันนี้จึงมาปรากฏตัวในตำหนักเล็ก ๆ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 65 มังกรน้อยเจ็บไข้

    ตำหนักชิงอวิ๋นยามราตรี หลังกลับจากงานชมบุปผา รถม้าหยุดลงหน้าตำหนักท่ามกลางแสงโคมเลือนลาง หลงเจิ้งหยางก้าวลงมาก่อนโดยมีพระโอรสน้อยหลับคาอก เขาจัดท่าอุ้มอย่างแผ่วเบา ขณะเดินผ่านลานหินกรวด ใต้แสงจันทร์ที่ส่องกระทบผิวหน้าลูกน้อยอย่างนุ่มนวล ไป๋ลี่เยว่เดินตามหลังอย่างเงียบเชียบ สายตานางจับจ้องที่สองพ่อลูกไม่วางตา “เดี๋ยวก่อนเพคะ” นางกล่าวเสียงแผ่วเบา หลงเจิ้งหยางหยุดจังหวะการก้าวรอนิ่ง นางหยิบผ้าคลุมไหล่จากในรถม้ามาคลุมให้ลูกน้อย “เมื่อครู่… จิ่นอวิ๋นตัวอุ่นขึ้นเล็กน้อยเพคะ น่าจะเป็นไข้จากลมเย็น” แววตาของหลงเจิ้งหยางฉายแววกังวลขึ้นทันที เขากระชับอ้อมแขนที่อุ้มพระโอรสไว้แน่น ก่อนจะใช้มืออีกข้างยื่นมือแตะหน้าผากโอรสน้อย “ตัวร้อนจริงด้วย ข้าจะให้คนไปตามหมอหลวงเดี๋ยวนี้” เขาหันมององครักษ์ข้างกาย “ไม่ต้องถึงกับหมอหลวงหรอกเพคะ เดี๋ยวหม่อมฉันจัดยาสมุนไพรให้เอง จิ่นอวิ๋นป่วยบ่อย ครานี้คงเพียงแค่เช็ดตัว ห่มผ้าให้ร่างกายอุ่นเท่านั้นเอง” หลงเจิ้งหยางพยักหน้ารับทันที “เดี๋ยวครานี้ ข้าจะช่วยเจ้า” เมื่อถึงเรือนในตำหนักชิงอวิ๋น มีข้ารับใช้ออกมาต้อนรับด้วยความเคารพ แต่หลงเจิ้งหยางเพียงโบกมือให้

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 64 มังกรปราบบุปผา

    “ต่อไป ด่านสุดท้าย ทักษะการยิงธนู” เสียงขันทีประกาศย้ำก้องทั่วลานประลอง ท่ามกลางสายตาของบรรดาขุนนาง ขันที และเหล่าคุณหนูจากตระกูลสูงศักดิ์รวมถึงเชื้อพระวงศ์ “ด่านนี้ ให้ผู้ประลองทั้งสอง ยิงให้ลูกธนูเข้าเป้าหัวใจที่มีผ้าแดงผูกไว้ ข้ามีลูกธนูให้ทั้งหมดคนละสิบดอก ผู้ใดยิงได้แม่นยำกว่าเป็นฝ่ายชนะ” เสียงแม่ทัพซ่งจิ้น หวู่ซืออาวุโสฝ่ายยุทธกองวัง กล่าวแจ้งกติกาเสียงขรึม บริเวณลานประลอง ธนูทองสิบดอกถูกจัดวางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ หัวลูกศรล้วนเป็นปลายมนตามกฎสำหรับใช้ในการประลองภายในวังหลวง เป้าผ้าแดงผูกไว้กลางแท่นไม้ ระยะห่างจากจุดยิงเจ็ดจั้งโดยประมาณ หลี่ซุนเหม่ย ก้าวเดินออกมาอย่างสง่างามขณะเดินไปยังตำแหน่ง “หึ...ถ้าให้ประลองธนูกับข้า ก็เท่ากับยื่นถ้วยรางวัลมาให้” นางคิดในใจอย่างหมายมาดพลางปรายตามององค์ชายน้อยที่สูงแค่เอวตนเองอย่างปรานีปนเย้ยที่อาจหาญมาแข่งกับนาง วันนี้นางคงได้เห็นน้ำตาเด็กเป็นแน่ ขาเรียวของนางก้าวขึ้นไปยืนประจำจุดยิง ในมือถือคันธนูมั่น ยามยกคันธนูขึ้น ท่วงท่าม้าเที่ยงของนางนั้นตั้งตรงงดงาม ดวงตาฉายประกายมั่นใจเกินร้อย ผู้คนรอบข้างต่างเงียบกริบไม่กล้าแม้แต่กะพริบตา

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 63 มังกรน้อยวางยาบุปผา

    “ต่อไป ด่านที่สอง ด่านปรุงตำรับยา ขอเชิญท่านหมอหานเซียว หัวหน้าแพทย์หลวง แถลงกติกาขอรับ” เสียงขันทีประกาศก้องในลานประลองหานเซียว ไท่ยี่หลิ่งวัยชราประจำราชสำนัก เงยหน้าขึ้นมาจากการจัดสมุนไพรหลากชนิดมาวางตรงโต๊ะกลาง ก่อนจะวางมือจากสมุนไพรเบื้องหน้าเมื่อจัดเสร็จเรียบร้อย สายตาทอดมองบรรดาผู้ชมพลางลุกขึ้นยืนหลังเหยียดตรง ดวงตาคมกริบเปี่ยมด้วยอำนาจแห่งผู้คร่ำหวอดในวงการโอสถ“สมุนไพรที่เห็นนี้ ล้วนถูกคัดสรรจากหอแพทย์หลวง ใช้สำหรับปรุงยาแก้พิษไข้ร้อนสลับหนาว ผู้ประลองทั้งสองต้องเลือกสมุนไพรเพียงห้าชนิดที่วางอยู่ นำมาปรุงยาถอนพิษไข้ ตำรับยาที่ได้ต้องไม่ขัดฤทธิ์กัน และต้องปรุงยาภายในเวลาหนึ่งชั่วยาม จึงจะถือว่าสมบูรณ์และเป็นผู้ชนะ”เสียงฮือเบา ๆ ดังกระเพื่อมในหมู่ผู้ชม ขณะทุกสายตาจับจ้องโต๊ะประลองทั้งสองโต๊ะด้านหนึ่ง หลี่ซุนเหม่ยสะบัดแขนเสื้อ ยืดกายขึ้น พลางกวาดตามองสมุนไพรตรงหน้าราวผู้เชี่ยวชาญ แววตานางแน่วแน่เผยสีหน้ามั่นใจ ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อย หน้างามเงยเชิดขึ้นราวผู้กำชัยก่อนการรบ ริมฝีปากบางเม้มยิ้มเจือเยาะอยู่ในที“ตำรับโอสถของข้า… คือโอสถต้านพิษร้อน เร่งขับพิษให้สิ้น คงต้องใช้สูตรร

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 62 ศึกแรกแห่งเชาวน์

    พระบัญชาจากฮ่องเต้ดุจเสียงสายฟ้าฟาดลงกลางลานหินขาว ท่ามกลางความอึ้งงันและงุนงงของผู้คนในงาน เสียงขานของขันทีหลวงดังขึ้นอย่างชัดเจนก้องกลางลาน “วันนี้ เพื่อถวายความเพลิดเพลินแก่ใต้หล้า และแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์แห่งชนชั้นสูง ฝ่าบาททรงโปรดให้จัดการประลองวัดเชาวน์ปัญญาและฝีมือ ระหว่าง... คุณหนูหลี่ซุนเหม่ย บุตรีแห่งเสนาบดีหลี่ กับ องค์ชายหลงจิ่นอวิ๋น พระโอรสแห่งองค์ชายหลงเจิ้งหยาง..” แต่ยังไม่ทันที่ขันทีจะกล่าวประกาศขั้นตอนต่อไป เสียงฮือฮา เสียงคัดค้านหลายระลอกจากเหล่าเชื้อพระวงศ์และกลุ่มขุนนางก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับระลอกคลื่น “องค์ชายเพียงห้าชันษา จะต่อกรกับคุณหนูผู้เจนจบจากสำนักบัณฑิตได้หรือพ่ะย่ะค่ะ ขอฝ่าบาททรงพิจารณาอีกรอบเถิด” “องค์ชายน้อยยังเยาว์เกินไปนัก กระหม่อมคิดว่า...ยังไม่ถึงเวลาที่สมควรเปิดศึกต่อหน้าผู้คน ขอฝ่าบาททรงพระกรุณายกเลิกหรือจับคู่การประลองใหม่เถิดพ่ะย่ะค่ะ” “การให้เด็กไร้ประสบการณ์มาต่อสู้กับสตรีที่ผ่านการฝึกมานับปี ดูจะไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยพ่ะย่ะค่ะ” เสียงของเหล่าเสนาบดีเฒ่าต่างช่วยกันทูลคัดค้าน แม้แต่หมู่พระญาติในราชสกุลหลายพระองค์ก็พลอยนิ่วหน้า บ้างก

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 61 บุปผาท้าชน

    “หากองค์ชายทรงตรัสเช่นนั้นแล้ว... หม่อมฉันย่อมมิกล้าบังอาจฝันเกินตนแล้วเพคะ”สุ้มเสียงของหลี่ซุนเหม่ยหวานนุ่มนวล เอ่ยออกมาอย่างอ่อนน้อม นางก้มศีรษะลงเล็กน้อยพร้อมถอนหายใจเบา ๆ ประหนึ่งยอมรับโชคชะตา แต่ประกายในดวงตาที่หลุบต่ำกลับฉายแววดื้อรั้นและความทระนงไม่ยอมจำนน“หม่อมฉันเพียงประสงค์พิสูจน์ตนให้เทียบเท่าหรือไม่ได้ด้อยกว่าผู้อื่น หาได้มีเจตนาหมายคิดช่วงชิงใคร ถึงตอนนี้แล้วหม่อมฉันขอทูลฝ่าบาท หากพระองค์ทรงพระเมตตา หม่อมฉันใคร่ขอท้าประลองฝีมือด้านสติปัญญา ศาสตร์การปรุงยา และศิลปะยิงธนู เพื่อถวายเป็นของขวัญและความเพลิดเพลินในงานชมบุปผาในวันนี้ เพคะ”สิ้นคำ เสียงฮือฮาก็เริ่มดังขึ้นรอบลาน เหล่าขุนนางทั่วทั้งศาลาประทับ ต่างพากันกระซิบกระซาบดังอื้ออึง บ้างหัวเราะแผ่ว บ้างแลดูด้วยความแปลกประหลาดใจขุนนางเฒ่าผู้หนึ่งกระแอมเสียงแหบๆ “ตระกูลหลี่ ดื้อด้านถึงเพียงนี้หรือ… หึ”“ตระกูลหลี่มั่นใจเพียงนี้เชียวหรือ…”“นางคงหวังว่า หากแสดงความสามารถแล้ว องค์ชายสามจะเปลี่ยนพระทัยกระมัง”“คุณหนูหลี่… เชี่ยวชาญทุกศาสตร์เช่นนี้ แล้วใครจะไปมีฝีมือเทียบเคียงนางได้ บิดานางยังบอกว่านางเก่งนัก”“นางช่างหาญกล้า.

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 60 หวังเคียงบัลลังก์

    เสนาบดีหลี่ลุกออกมาจากที่นั่ง ก้าวสู่เบื้องพระพักตร์ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง แต่แววตาลอบกวาดมองมายังองค์ชายสามที่นั่งนิ่งเด่นสง่าอยู่ที่โต๊ะกับพระชายาสาม ก่อนคุกเข่าลงเบื้องพระพักตร์ “ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมีเรื่องใคร่ทูลให้พิจารณา...” เสียงของเขาหนักแน่น แต่เต็มไปด้วยความมุ่งหวัง “กระหม่อมใคร่ขอถวายบุตรี แด่องค์ชายสาม เพื่อช่วยดูแลตำหนักและรับใช้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทโดยแท้ หากใต้หล้าจะมีสตรีใดสมควรเคียงข้างองค์ชายสามในฐานะพระชายารองแล้วไซร้ กระหม่อมเห็นว่า...ไม่มีผู้ใดเหมาะเทียบเท่าซุนเหม่ย บุตรีของกระหม่อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เสียงรอบลานเงียบงันคล้ายแม้แต่สายลมยังกลั้นหายใจ เหล่าเสนาบดีผู้ใหญ่ในงานเหลือบตามองกัน แลกเปลี่ยนแววเย้ยหยันเจือเย็น นี่คือครั้งที่สองที่เสนาบดีหลี่เสนอธิดาให้โอรสสวรรค์ ซึ่งหากองค์ชายสามเพียงเมินสายตา นั่นคือการปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง แต่...หากทรงลังเล แม้เพียงครึ่งใจ ย่อมหมายถึงเปิดประตูให้ตระกูลหลี่สอดเท้าเข้าวัง ไป๋ลี่เยว่นั่งนิ่งมิได้ขยับกายแม้สักนิด แต่ปลายนิ้วของนางที่วางบนตักเกร็งเล็กน้อย ดวงหน้าเรียบสงบยิ่งกว่าธารน้ำแข็ง...หากแต่ในอกกลับปั่นป่วนรอฟังคำตอบ ‘

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status