ช่วงค่ำมีงานเลี้ยงต้อนรับเหล่าทหารที่ชนะศึกกลับมา ซ่งเนี่ยนก็มาด้วยตามคำเชิญของฮองเฮาและฮ่องเต้ มารดาของนางเป็นสหายสนิทของฮองเฮา อีกทั้งนางก็เคยช่วยชีวิตฮ่องเต้เอาไว้ จึงเป็นที่โปรดปรานของทั้งสอง
" สงครามที่ยาวนานมาหลายปีระหว่างแคว้นเหลียวกับแคว้นฉู่ ในที่สุดก็จบเสียทีต้องขอบใจพวกเจ้าเหล่าทหารกล้าทุกคน โดยเฉพาะเจ้า แม่ทัพฉี เจ้าเก่งกล้าสามารถมาก สามารถทำลายแคว้นฉู่ได้ ทั้งยังนำชัยชนะกลับมาให้แคว้นเหลียว เจ้ามีอะไรอยากได้เป็นพิเศษหรือไม่ ข้าจะให้เจ้าตามที่ขอ"
" กราบทูลฝ่าบาท กระหม่อมไม่ได้ต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ มีเพียงอย่างเดียวคืออยากทูลขอให้พระองค์ ประทานสมรสให้กระหม่อมพะยะค่ะ"
" ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องนี้ถึงเจ้าไม่ขอข้าก็จะให้เจ้าอยู่แล้ว เจ้ากับเนี่ยนเนี่ยนก็รักกันมาหลายปีถึงเวลาแต่งงานกันเสียที เอาหล่ะข้าขอประกาศ"
" ช้าก่อนพะย่ะค่ะ"
" มีอะไรรึ หรือว่าเจ้าเปลี่ยนใจไม่อยากแต่งกับเนี่ยนเนี่ยนแล้ว"
" ไม่ใช่พะย่ะค่ะ กระหม่อมเพียงแต่อยากทูลว่ากระหม่อมจะแต่งเนี่ยนเนี่ยนเป็นภรรยารองเท่านั้น"
เสียงทุกคนฮือฮา ฮ่องเต้เจี้ยนซุนกับฮองเฮาหลิวนาน่าก็ตกใจ ส่วนลูกน้องของฉีเส้าเฟินต่างก็รู้เรื่องราวอยู่แล้วจึงได้แต่เฉยๆ
" เจ้าหมายความว่ายังไง"
" กราบทูลตามตรง กระหม่อมมีภรรยาอยู่แล้ว บัดนี้นางกำลังตั้งครรภ์บุตรของกระหม่อม กระหม่อมจึงอยากขอพระราชทานสมรสแต่งนางเป็นภรรยาเอกส่วนเนี่ยนเนี่ยนกระหม่อมก็ได้เคยสัญญากับนางเอาไว้ ว่าเสร็จศึกจะแต่งงานกับนางจึงต้องทำตามสัญญาพะย่ะค่ะ"
" เจ้าจะบอกว่าที่ต้องแต่งงานกับเนี่ยนเนี่ยนเพียงเพราะทำตามสัญญาเท่านั้นรึ"
ฉีเส้าเฟินก้มหน้าเงียบไม่ตอบ ซ่งเนี่ยนแค่นหัวเราะในใจ
" นางเป็นใคร"
" องค์หญิงเฉียวม่านแห่งแคว้นฉู่พะยะค่ะ"
" เจ้า นี่เจ้า"
เจี้ยนซุนชี้หน้าฉีเส้าเฟิน หลิวนาน่ายิ่งโมโหแทนซ่งเนี่ยน ต่อว่าฉีเส้าเฟินเสียงดัง
" บังอาจนัก เจ้าคิดว่าเนี่ยนเนี่ยนเป็นแค่หญิงสาวธรรมดาไร้บิดามารดา จึงคิดจะทำเช่นไรกับนางก็ได้อย่างนั้นรึ เจ้ากล้าดียังไงเอาองค์หญิงเชลยแคว้นศัตรูมาเป็นใหญ่กว่านาง"
" ฝ่าบาท พระองค์ทรงตรัสแล้วว่าจะให้กระหม่อมทุกอย่างที่ขอ กระหม่อมไม่ต้องการสิ่งใดเพียงอยากแต่งงานกับเฉียวม่านเท่านั้น"
เจี้ยนไห่มองหลิวนาน่ากับซ่งเนี่ยนด้วยสีหน้าลำบากใจ
" ได้ ข้า ข้าประทานสมรสให้เจ้ากับองค์หญิงแคว้นฉู่ผู้นั้น ฤกษ์มงคลแล้วแต่เจ้าเห็นสมควร ส่วนเนี่ยนเนี่ยนข้า"
" ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นด้วยที่จะให้เนี่ยนเนี่ยนไปเป็นรองใคร"
" แต่ว่าใครๆก็รู้ว่าเนี่ยนเนี่ยนรักเพียงฉีเส้าเฟิน"
เจี้ยนซุนกับหลิวนาน่าหันไปมองซ่งเนี่ยน
" เนี่ยนเนี่ยน ข้าเคารพในการตัดสินใจของเจ้า"
ซ่งเนี่ยนยิ้มก่อนจะหันไปมองหน้าฉีเส้าเฟิน
" ในเมื่อแม่ทัพฉีมีใจรักมั่นกับองค์หญิงแคว้นฉู่ หม่อมฉันจะไม่เข้าไปแทรกกลางระหว่างพวกเขาเพคะ หม่อมฉันเคยบอกกับพระองค์ไปก่อนหน้าแล้วว่าหากไม่ได้เป็น1ก็จะขอไม่เป็นรองใคร หม่อมฉันยังยืนยันคำเดิมเพคะ"
หลิวนาน่ายิ้มกว้าง
" ดีดีมาก ฝ่าบาทเพคะ"
หลิวนาน่ากระซิบข้างหูเจี้ยนซุน เจี้ยนซุนหัวเราะชอบใจ
" ฮ่าฮ่าฮ่า เอาหล่ะ ในเมื่อเนี่ยนเนี่ยนไม่ต้องการแต่งเป็นภรรยารองของแม่ทัพฉี งั้นก็ขอให้แม่ทัพฉีถอยกลับไปนั่งที่ของตัวเองซะ"
ฉีเส้าเฟินมองหน้าซ่งเนี่ยนที่ไม่แม้แต่จะปรายตามองเขา ในใจรู้สึกหน่วงๆแปลกๆเขาเดินก้าวกลับไปนั่งที่ ในหัวก็คิด หากนางไม่แต่งกับเขาแล้วจะแต่งกับใคร
" ขอเชิญองค์ชายทุกพระองค์ก้าวออกมายืนข้างหน้า"
เหอกงกงประกาศเสียงดัง องค์ชายหลายสิบคนก็ก้าวเดินออกมายืนเรียงกันแบบงงๆ หลิวนาน่าจูงมือซ่งเนี่ยนมายืนด้านหน้า
" เนี่ยนเนี่ยนเจ้าเลือกสิ"
ซ่งเนี่ยนขมวดคิ้วหันไปมองเจี้ยนซุนฮ่องเต้ที่ผายมือให้นางเลือก นางหันกลับไปมององค์ชายหลายสิบคนที่ยืนเรียงรายอยู่ตรงหน้า
" เลือกเลยสิ เจ้าชอบคนไหนก็ชี้เลย ข้าจะประทานสมรสให้เจ้า"
ฉีเส้าเฟินกำลังยกจอกเหล้าเข้าปาก ได้ยินคำพูดของเจี้ยนซุนฮ่องเต้ก็หยุดชะงัก สายตาจ้องมองซ่งเนี่ยนที่มองมาทางเขาพอดี เขาส่ายหน้าบอกนางว่าอย่าเลือก อย่าประชดเขาด้วยวิธีนี้
" เจ้าดูสิมีแต่องค์ชายรูปงามทั้งนั้น ชอบคนไหนเลือกเลย หรือว่าจะเดินไปดูใกล้ๆก็ได้ไปสิ"
หลิวนาน่าพูดแล้วผลักนางเบาๆ นางจำใจเดินไปดูใกล้ๆทีละคน แล้วสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับบุรุษคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังสุดเขาไม่ได้ยืนเหมือนคนอื่น แต่นั่งอยู่บนรถเข็น หากนางจำไม่ผิดนี่คงเป็นเจี้ยนอ๋อง โอรสของกุ้ยเหรินคนหนึ่ง ที่ไม่เป็นที่โปรดปราน เจี้ยนอ๋องพิการเดินไม่ได้แต่กำเนิด ไม่ค่อยปรากฏตัวให้ใครเห็น แต่งานเลี้ยงครั้งนี้เข้าร่วมด้วย คงเป็นรับสั่งของฮ่องเต้จึงขัดไม่ได้ นางชี้มือไปที่เขา คนอื่นๆพากันถอยออกด้านข้าง เผยให้เห็นเจี้ยนไห่ที่นั่งทำหน้าเหรอหราอยู่บนรถเข็น
" เนี่ยน เนี่ยนเนี่ยน"
หลิวนาน่าร้องเรียกนางอย่างตกใจ
" เนี่ยนเนี่ยน เจ้าแน่ใจนะว่าชี้ไม่ผิด"
" เพคะ หม่อมฉันเลือกเขานั่นแหละ"
หลิวนาน่ากับเจี้ยนซุนมองหน้ากัน หลังเลิกงาน ซ่งเนี่ยนกำลังจะขึ้นรถม้าก็ถูกกระชากแขนอย่างแรง พอเห็นหน้าว่าเป็นใครนางก็รีบสะบัดออก
" แม่ทัพฉีสำรวมด้วย ตอนนี้ข้าคือว่าที่พระชายาเจี้ยนอ๋อง ส่วนเจ้าเองก็กำลังจะแต่งงาน อยู่ห่างๆข้าหน่อย"
นางก้าวถอยหลังออกห่างจากเขา
" เนี่ยนเนี่ยน เจ้าไม่จำเป็นต้องประชดข้าด้วยวิธีนี้"
" ประชด"
" รึไม่ใช่ เจ้าเลือกเจี้ยนอ๋องที่พิการก็เพราะประชดข้า ข้าบอกแล้วไงว่าข้าจะแต่งงานกับเจ้า ข้าไม่ได้ผิดสัญญาสักหน่อย เพียงแต่ม่านม่านเป็นองค์หญิง ถึงเจ้าจะเป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาทกับฮองเฮา แต่ชาติกำเนิดของเจ้าไม่อาจเทียบม่านม่านที่เป็นองค์หญิงได้ เจ้าเข้าใจข้าใช่ไหม"
" เหอะ องค์หญิง นางเป็นองค์หญิงแค่ที่แคว้นฉู่เท่านั้น แต่ที่นี่แคว้นเหลียวนางเป็นแค่เชลย ฐานะของนางไม่ต่างกับบ่าวไพร่คนหนึ่ง มีแต่เจ้าเท่านั้นแหละที่ยกนางไว้ที่สูง หลีกไป ข้าจะกลับจวน"
นางเดินหนีแต่เขาคว้าแขนนางเอาไว้ นางสะบัดออกด้วยท่าทีรังเกียจ
" อย่ามาแตะต้องตัวข้า"
" เจ้า"
" จะทำไม"
" เนี่ยนเนี่ยน ข้ารู้ว่าเจ้าโกรธข้า แต่ก็ไม่ควรเอาทั้งชีวิตไปผูกติดกับคนพิการอย่างเจี้ยนอ๋อง ตอนนี้เจ้ารีบไปบอกฝ่าบาทขอยกเลิกสมรสพระราชทานซะ"
" ทำไมข้าต้องฟังเจ้าด้วย นี่มันเรื่องของข้าข้าจะแต่งกับใครมันก็เรื่องของข้า"
" เนี่ยนเนี่ยนอย่าดื้อดึงเลย เจ้าใช้อารมณ์ตัดสินใจตอนนี้อีกเดี๋ยวเจ้าจะต้องเสียใจ"
" เสียใจรึ ใช่ ข้าเสียใจที่เลือกช่วยชีวิตเจ้าตอนนั้น ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าจะทรยศข้า ข้าคงไม่ช่วยเจ้าหรอก ถ้าย้อนกลับไปได้ข้าจะปล่อยให้เจ้าตายไปซะ "
" ข้าผิดต่อเจ้า ข้าขอโทษ แต่เรื่องความรักมันบังคับกันไม่ได้หรอก"
" ท่านจะบอกว่าที่ผ่านมาไม่เคยรักข้าเลย"
" ไม่ ไม่ใช่ ข้ายังรักเจ้าอยู่ เพียงแต่น้อยลงกว่าเมื่อก่อนก็แค่นั้น ข้ายอมรับว่าตั้งแต่ข้าได้พบกับม่านม่าน หัวใจของข้าก็มีแต่นางถึงแม้ตอนนี้ข้าจะรักเจ้าน้อยลง แต่ข้าก็ยังรักเจ้าอยู่นะ ข้าจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้า ข้าจะแต่งงานกับเจ้าด้วย"
" ใครอยากแต่งงานกับเจ้า"
ซ่งเนี่ยนมองหน้าชายที่นางรักมานานถึง4ปีด้วยความรู้สึกขมขื่น เขาบอกว่ายังรักนางอยู่เพียงแต่น้อยลงเท่านั้น แล้วยังทำตัวเป็นคนดีรักษาสัญญาที่ให้กับนาง จะแต่งงานกับนางเหมือนเดิม ตลกสิ้นดี นางยิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะหันหลังเดินออกไป
" ข้าจะไปทูลขอสมรสพระราชทานอีก ขอให้เจ้าเป็นภรรยาเท่าเทียม แบบนี้พอใจเจ้าหรือไม่"
" ฉีเส้าเฟิน เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่สตรีทุกคนต้องอยากแต่งงานกับเจ้ารึ เจ้าคิดผิดแล้ว บุรุษโลเลเปลี่ยนใจง่ายเช่นเจ้าข้าไม่คิดจะเอามาทำพันธ์หรอก"
พูดจบนางก็เดินขึ้นรถม้าไป ฉีเส้าเฟินยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น เหตุใดนางถึงได้ปากคอเลาะร้ายนัก ช่างเถอะ ในเมื่อเขาให้ทางลงกับนางแล้วนางไม่เดินลงมาก็ช่าง เขาก็ไม่ได้ผิดสัญญากับนางเรื่องแต่งงาน แต่เป็นนางที่ปฏิเสธเอง
" พระชายาเพคะ"เจียวจูทำจมูกฟุดฟิด ซ่งเนี่ยนฟุดฟิดตามก่อนจะมองไปที่ป่าฝั่งตรงข้าม แล้วว่ายน้ำขึ้นไปบนฝั่ง จิ้งจอกนับสิบตัวพากันออกมาหานาง กลายร่างเป็นมนุษย์" นายหญิง เป็นท่านจริงๆด้วย""พวกข้าตามหาท่านมาตั้งนาน"" แต่ว่าทำไมท่านถึงได้"" เรื่องนี้หากเล่ามันยาวนัก"" ตอนนี้นายหญิงอยู่ในสถานะพระชายาของเจี้ยนอ๋อง"บริวารจิ้งจอกต่างมองหน้ากัน" เอาเป็นว่าข้าปลอดภัยดี อยู่ดีมีสุข พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง อาถูข้าแต่งตั้งให้เจ้าดูแลจิ้งจอกทุกตัวในป่าไผ่แทนข้าไปก่อน"" น้อมรับคำสั่ง นายหญิง แล้วท่านจะกลับไปเมื่อไหร่"" ข้าบอกไม่ได้ "เฉียวม่านแอบดูอยู่หลังต้นไม้ด้วยความหวาดกลัว ซ่งเนี่ยนพูดคุยกับพวกจิ้งจอกพวกนั้นอย่างสนิทสนม หรือว่านางกับจิ้งจอกพวกนั้นจะเป็นพวกเดียวกัน ใช่ ต้องใช่แน่ๆ ซ่งเนี่ยนคือปีศาจจิ้งจอก นางขยับเข้าไปใกล้พยายามเงี่ยหูฟัง ว่าพวกนั้นพูดคุยอะไรกัน แกรบ เสียงเหยียบกิ่งไม้แม้ไกลแต่หูของซ่งเนี่ยนและจิ้งจอกทุกตัวได้ยินชัดเจน เฉียวม่านรีบซ่อนตัวหลังต้นไม้ " ข้าจัดการเอง"เจียวจูพูดแล้วซัดพลังฝ่ามือสีทองใส่ต้นไม้ งูนับสิบก็ร่วงหล่นลงมา " กรี๊ดดดดด"เฉียวม่านกรีดร้องด้วยความตกใจก
ซ่งเนี่ยนจ้องมองเจี้ยนไห่ที่พยายามหลบหน้านาง เขาก้มหน้าตักข้าวใส่ปาก" ท่านอ๋องเหตุใดตาของท่านถึงได้ดำคล้ำราวอดนอนเช่นนั้นเล่า"เจี้ยนไห่หยุดชะงัก ยิ่งก้มหน้าเข้าไปอีก เขาจะบอกนางได้อย่างไรว่าเมื่อคืนเขาอ่านตำราวสันต์ทั้งคืน เจียวจูมองหน้าเจี้ยนไห่แม้ว่าเขาจะพยายามก้มหน้าหลบ แต่ยังมองเห็นใต้ตาดำคล้ำอยู่ดี" เจ้าไปทำอะไรมา"" ปะเปล่าเสด็จแม่ ข้าไม่ได้ทำอะไร แค่เมื่อคืนอากาศร้อนไปหน่อยเลยนอนไม่ค่อยหลับ"" อย่างนี้นี่เอง จริงสิเจ้ากับเนี่ยนเนี่ยนก็แต่งงานมาได้ครึ่งค่อนปีแล้ว ขาของเจ้าก็เดินได้แล้ว พวกเจ้าก็ควรรีบเข้าหอกัน จะได้มีหลานให้ข้าอุ้มเร็วๆ"เจี้ยนไห่ถึงกับมือไม้อ่อนทำตะเกียบหลุดมือ" เสด็จแม่เรื่องนี้ข้า"" เสด็จแม่ขาของเขาพึ่งจะเดินได้ไม่นาน รอให้เขาแข็งแรงดีกว่านี้ก่อน เรื่องลูกข้าไม่รีบ"ซ่งเนี่ยนเห็นท่าทีลำบากใจของเจี้ยนไห่จึงพูดแทน ลู่หนิงมองดูทั้งสองสลับไปมาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา" ถ้าอย่างงั้นพวกเจ้าก็ควรย้ายไปอยู่ห้องเดียวกัน เป็นสามีภรรยาไม่ควรแยกกันอยู่"เห็นเจี้ยนไห่ไม่พูดอะไรแต่ดูจากสีหน้าซ่งเนี่ยนก็รู้ว่าเขาไม่เต็มใจ นางจึงพูดขึ้นมา" ข้านอนค
ซ่งเนี่ยนกำลังจะเข้านอนก็ได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากด้านนอก จึงเปิดประตูออกไปดู" มีอะไรกัน"นางกำนัลพยายามขัดขวางไม่ให้ฉีเส้าเฟินเข้ามา"พระชายาท่านแม่ทัพเขา" " เนี่ยนเนี่ยน ข้ามีเรื่องขอร้องเจ้า"" ปล่อยให้เขาเข้ามา"" เนี่ยนเนี่ยน"" เจ้าเรียกข้าว่าอะไร"" พระชายา ข้ามีเรื่องขอให้ท่านช่วย ตอนนี้ม่านม่านนางตกเลือดหมดสติ ท่านช่วยไปดูนางหน่อยได้ไหม ข้ารู้ว่าท่านช่วยนางได้ ได้โปรดเถอะ ข้าขอร้อง"" ข้าไม่ใช่หมอตำแย ไม่เคยทำคลอด ท่านควรไปหาหมอตำแยถึงจะถูกไม่ก็หมอหลวง"" ทั้งหมอตำแยหมอหลวงก็ไปหมดแล้ว แต่ก็บอกว่าหมดหนทาง ตอนนี้นางยังเลือดไหลไม่หยุด เด็กในท้องก็ไม่มีสัญญาณชีพแล้วข้าขอร้องได้โปรดช่วยนางด้วย"ฉีเส้าเฟินคุกเข่าลงตรงหน้า" ขอเพียงท่านช่วยนางกับลูกให้ปลอดภัยจะให้ข้าทำอะไรข้ายอมหมดทุกอย่าง"เห็นซ่งเนี่ยนเงียบเฉยเขาก็ร้อนใจพูดขึ้นมา"หรือจะให้ข้าลดสถานะนางเป็นรอง แล้วแต่งท่านเข้ามาเป็นฮูหยินเอกก็ย่อมได้"" เจ้าว่าอะไรนะ"ซ่งเนี่ยนไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดเช่นนี้ออกมา" ข้ารู้ว่าท่านยังรักข้าอยู่ ก็แหงหล่ะ ท่านกับข้ารักกันมาตั้งหลายปี อยู่ดีๆจะเลิกรักง่ายๆได้ยังไง ข้าเข้าใจที่ท่านแต่งงาน
"ท่านอ๋อง นี่คือของที่ท่านให้ข้าหามา"จั่วหมิงวางหนังสือห้าเล่มลงตรงหน้าของเจี้ยนไห่" ค่อยๆศึกษานะพะยะค่ะ เอ่อจริงๆข้าอยากจะบอกท่านว่า เรื่องแบบนี้จริงๆไม่ต้องดูตำราวสันต์ก็ได้ พอถึงเวลาจริงๆร่างกายจะสอนเราเอง มันจะเป็นไปโดยธรรมชาติ"พูดจบก็เดินออกไป เจี้ยนไห่หยิบตำราวสันต์มาเปิดอ่านวันต่อมาฉีเส้าเฟินกลับจากค่ายทหารมาถึงจวนก็เห็นคนหลายคน" พวกนั้นเป็นใคร"" เเม่ทัพฉีท่านมาเสียที"" ใช่ พวกเรารอท่านตั้งนาน"" รอข้า พวกเจ้าเป็นใครมีธุระอะไรกับข้า"" ข้ามาจากร้านขายเครื่องประดับฝูหลง วันก่อนฮูหยินของท่านไปซื้อเครื่องประดับจากร้านข้ายังไม่ได้จ่ายเงิน ข้าเลยต้องมาทวงนางบอกให้รอท่านมาก่อนท่านจะเป็นคนจ่าย"" ส่วนข้ามาจากร้านเสื้อผ้า มาเก็บค่าชุด วันก่อนนางเอาชุดไปจากร้านห้าชุด ยังมีชุดที่พึ่งสั่งตัดอีกสองชุด ข้านำมาส่งเลยมาเก็บเงินพร้อม ทั้งหมดห้าหมื่นตำลึง"" ห้าหมื่น"" ใช่แล้ว"" ส่วนข้ามาจากร้านรองเท้า นางสั่งทำรองเท้าพิเศษปักมุกหนึ่งคู่ อีกคู่ปักด้วยดิ้นทองชนิดพิเศษ นี่คือใบเรียกเก็บเงิน"" ข้ามาจากโรงเตี๊ยมซื่อไหล เมื่อตอนกลางวันนางกับสาวใช้ไปกินอาหารที่โรงเตี๊ยมยังไม่ได้จ่ายเงิน บอก
ซ่งเนี่ยนไม่ยอมไป มองไปที่โต๊ะริมหน้าต่างโต๊ะหนึ่ง แอบดีดนิ้วเบาๆแสงสีทองที่คนอื่นมองไม่เห็นก็ลอยไปที่คนโต๊ะนั้น คนในโต๊ะนั้นก็เรียกเสี่ยวเอ้อมาคิดเงินแล้วพากันลุกเดินออกไป" เห็นไหมว่างแล้ว"นางจูงมือเจี้ยนไห่ไปนั่งลง จั่วหมิงกับเจียวจูนั่งฝั่งตรงข้าม ก่อนจะเรียกเสี่ยวเอ้อมาสั่งอาหารเต็มโต๊ะ นางคีบอาหารป้อนเจี้ยนไห่คำแล้วคำเล่าจนเขากินแทบไม่ทันที่มุมหนึ่ง ฉีเส้าเฟินกำจอกสุราแน่นจ้องมองซ่งเนี่ยนเอาอกเอาใจเจี้ยนไห่ เฉียวม่านมองตามสายตาไปก็เห็นสตรีงดงามหมดจดนางหนึ่ง กำลังคีบอาหารป้อนบุรุษที่นั่งข้าง หากนางเดาไม่ผิด สตรีคนนั้นคงเป็นซ่งเนี่ยนอดีตคนรักของฉีเส้าเฟิน ที่มารดาของเขาเอ่ยปากว่ายอมรับเป็นสะใภ้แค่คนเดียว นางกระแทกตะเกียบเสียงดัง ฉีเส้าเฟินจึงได้สติหันมามอง" อิ่มแล้วรึ เหตุใดถึงได้กินน้อยนักเล่า"" ข้าไม่หิว"" กินอีกนิดเถอะลูกจะได้แข็งแรง"" สตรีคนนั้นคืออดีตคนรักของท่าน ซ่งเนี่ยนใช่หรือไม่"เฉียวม่านพูดพร้อมจ้องมองไปที่ซ่งเนี่ยน ที่กำลังหัวเราะคิกคัก" อืม"ฉีเส้าเฟินตอบสั้นๆ เขาไม่คิดว่าจะได้มาเจอนางที่นี่ ตั้งแต่เขาแต่งงานก็ไม่ได้เจอนางอีกผ่านมา6เดือนนี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบน
เจี้ยนไห่ตื่นขึ้นมาตอนเช้า เขาขยับตัวลงไปนั่งบนรถเข็น รอจั่วหมิงอยู่นานก็ไม่เห็นมาสักที จึงเข็นรถออกไปดูข้างนอก ระหว่างที่เข็นรถอยู่ ล้อรถข้างนึงเหยียบหินก้อนใหญ่จนรถพลิกคว่ำ เขาตกลงมาจากรถเข็น เจี้ยนไห่พยายามจะปีนกลับไปนั่งรถเข็นใหม่เขายืนขึ้นโดยไม่รู้ตัว จั่วหมิงที่ตื่นสายเร่งรีบถืออ่างล้างหน้ามา สายตามองเห็นเจี้ยนไห่ยืนอยู่ อ่างล้างหน้าหลุดมือ โครม" ท่าน ท่านอ๋อง"เขารีบวิ่งเข้าไปหาเจี้ยนไห่" ท่านอ๋องนี่ท่าน นี่ นี่ท่านยืนได้แล้ว"เจี้ยนไห่ที่กำลังจับรถเข็นพลิกขึ้นก็หยุดชะงัก ก้มมองดูตัวเอง เห็นขาสองข้างยืนเหยียบพื้นดิน เขาตกใจแทบไม่อยากเชื่อ" ข้า ข้ายืนได้แล้ว"จั่วหมิงพยักหน้ายิ้มทั้งน้ำตา เจี้ยนไห่ค่อยๆก้าวขาเดินทีละก้าว ทีละก้าว เขาหัวเราะทั้งน้ำตา" ข้าเดินได้ ในที่สุดข้าก็เดินได้แล้ว จั่วหมิงข้าไม่ใช่คนพิการอีกต่อไปแล้วข้าเดินได้"" พะยะค่ะข้าเห็นแล้ว ท่านอ๋องเดินได้จริงๆข้าจะรีบไปบอกพระชายา"จั่วหมิงรีบวิ่งไปที่ห้องของซ่งเนี่ยน ตั้งแต่ซ่งเนี่ยนแต่งงานกับเจี้ยนไห่ก็มีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้น ฮ่องเต้ให้คนสร้างตำหนักใหม่ขึ้นมากว้างขวางใหญ่โต ยังให้นางกำนัลและขันทีรับใช้เพิ่มมาอี