Share

ตอนที่4

last update Last Updated: 2025-09-05 09:18:29

ในห้องหอ จั่วหมิงเข็นรถเข็นพาเจี้ยนไห่เข้ามาก่อนจะเดินออกไป เสียงประตูปิดลงซ่งเนี่ยนก็ใจเต้นระรัว รอให้เจี้ยนไห่มาเปิดผ้าคลุม แต่รออยู่สักพักเขาก็ยังไม่มาเปิดไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ นางมองผ่านผ้าคลุมสีแดง เห็นลางๆว่าเขายังนั่งอยู่กับที่เหตุใดไม่รีบเปิดผ้าคลุมหน้าให้นางเล่า นางทนไม่ไหวเอ่ยถามขึ้น

" เมื่อไหร่ถึงจะเปิดผ้าคลุมให้ข้า หรือว่ารอฤกษ์ยามอยู่"

เจี้ยนไห่ขยับรถเข็นเข้าไปใกล้ กำลังจะเปิดผ้าคลุมออกให้นาง แต่นางเปิดออกก่อนไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัว นางก็ดึงเข้าขึ้นเตียง

" เรามาเข้าหอกันเถอะ"

นางกุมถอดชุดให้เขา เจี้ยนไห่ตกใจจับมือนางไว้แน่น

" ช้าก่อน เจ้าจะทำอะไร"

" ก็ทำอย่างที่สามีภรรยาเขาทำกันยังไงหล่ะ"

" เจ้าก็เห็นว่าข้าอยู่ในสภาพแบบนี้จะทำได้ยังไง"

" ท่านไม่ต้องทำ แค่นอนเฉยๆก็พอข้าทำเอง"

" อย่า หยุด หยุดก่อน"

นางพยายามจะถอดผ้าเขาออก เขาก็จับผ้าไว้แน่น ไม่ยอมให้นางถอดได้ ก่อนจะผลักนางออกแล้วถอยไปชิดมุม

" เจ้าอย่าใจร้อน ให้เวลาข้าหน่อย เรื่องแบบนี้มันเป็นศักดิ์ศรีของบุรุษ ข้า ข้าจะทำเองแต่ข้ายังไม่พร้อม"

" ยังไม่พร้อมหรือ"

นางจ้องมองกลางกายของเขา เขารีบเอามือกุมไว้ทันที

" ไม่เป็นไร ข้ามีวิธีทำให้มันพร้อม"

" เจ้า เจ้าจะทำอะไร"

" ข้าอ่านตำราวสันต์มามาก ศึกษามาอย่างดีข้าจะทำตามในตำรา ข้าจะอมให้ท่าน อมดูด อมดูด แป๊บเดียวก็พร้อมใช้งานแล้ว"

เจี้ยนไห่หน้าแดงลามมาถึงหู เขาไม่คิดว่านางจะเปิดเผยเช่นนี้ พูดเรื่องอย่างว่าได้ไม่อายปาก

" เจ้า เจ้าเป็นสตรีแบบใดกัน ช่างพูดได้ไม่อายปาก"

" อายทำไม เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ เราแต่งงานกันแล้วท่านก็เป็นสามีข้า ข้าพูดแต่กับท่านจะอายทำไมเล่า เอ้าถอดผ้าออกสิ ข้าจะได้อมให้หรือว่าจะให้ข้าถอดก่อน"

" ยะอย่า ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่พร้อม"

" แต่คืนเข้าหอสามีภรรยาต้องเอากันนะ"

" ข้า ข้าไม่อยากเอา"

" ท่านว่าอะไรนะ"

" ข้าบอกแล้วไงว่าข้าไม่พร้อม ข้าไม่รู้ว่าเจ้าทำแบบนี้ไปทำไม แค่เลือกแต่งงานกับข้าประชดฉีเส้าเฟินก็พอแล้วไม่ใช่รึ เหตุใดต้องเข้าหอทำเรื่องอย่างว่าด้วย"

ซ่งเนี่ยนกระชับชุดที่กำลังจะถอดออกให้เข้าที่ มองดูเจี้ยนไห่ที่นั่งกอดตัวเองอยู่มุมเตียง ยิ้มบางๆที่มุมปาก

" เมื่อกี้ข้าแค่ล้อเล่น ท่านวางใจเถอะ หากท่านไม่เต็มใจข้าจะไม่บังคับท่าน"

นางพูดจบก็เดินออกจากห้องไป เจี้ยนไห่มองตาม ในใจเกิดความรู้สึกหลากหลายนางบอกไม่บังคับเขา แล้วที่เลือกแต่งงานกับเขานี่ไม่ใช่การบังคับหรอกหรือ ก่อนแต่งงานไม่มีใครถามเขาสักคำว่ายินดีหรือไม่ เขาถอนหายใจอย่างแรง ผ่านไปสักพักประตูเปิดออกเขาคิดว่านางจะกลับมาแต่ไม่ใช่ เป็นจั่วหมิง

" เจ้า เหตุใดเจ้าถึงแต่งตัวเช่นนี้"

จั่วหมิงก้มมองตัวเองในชุดเจ้าสาวสีแดงเขาเองก็อายไม่น้อย เมื่อครู่ซ่งเนี่ยนไปหาเขาบังคับให้เขาสวมชุดนี้แล้วให้เขามาที่นี่

" นางให้ข้ามาอยู่เป็นเพื่อนท่าน"

เห็นเจี้ยนไห่ขมวดคิ้ว จั่วหมิงจึงพูดต่อ

"นางบอกให้ข้าสวมรอยเป็นนาง นอนค้างกับท่านที่นี่เพื่อไม่ให้ทุกคนสงสัย"

" แล้วนางหล่ะ"

" นางไปนอนที่ห้องของข้า"

เจี้ยนไห่ล้มตัวลงนอนตะแคง เขาไม่เข้าใจว่านางต้องการอะไรจากเขากันแน่

ยามเฉิน ฉีเส้าเฟินพาเฉียวม่านไปยกน้ำชาให้มารดา ฉีฮุ่ยชิวกำลังพูดคุยกับบ่าวคนสนิทยิ้มแย้ม พอเห็นทั้งสองเดินเข้ามาก็หุบยิ้มทันที

" ท่านแม่ ข้าพาม่านม่านมายกน้ำชาให้ท่านขอรับ"

บ่าวรับใช้รินน้ำชาใส่ถ้วยส่งให้เฉียวม่านฉีฮุ่ยชิวรีบพูดขึ้นมา

" อย่าเลย นางเป็นถึงองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ ข้าเป็นคนธรรมดาจะรับได้อย่างไร ข้ารับไม่ไหวหรอก"

มือของเฉียวม่านที่ถือถ้วยชาสั่นระริก ไม่คิดว่าฉีฮุ่ยชิวจะรังเกียจนางถึงเพียงนี้ นางรู้ว่าคนแคว้นฉู่สังหารบิดาของฉีเส้าเฟินทำให้มารดาของเขาโกรธเกียจคนแคว้นฉู่แต่ทุกอย่างก็จบลงแล้ว คนที่สังหารก็ตายไปแล้ว นางก็คือนาง เหตุใดถึงไม่แยกแยะ

" ท่านแม่ เหตุใดถึงพูดเช่นนี้ ตอนนี้ม่านม่านคือสะใภ้ของท่าน และกำลังจะมีหลานให้ท่านอุ้ม ท่านช่วยลดอคติลงหน่อยเถอะ ข้าขอหล่ะ แค่เมื่อวานท่านไม่มาร่วมงานแต่งนางก็เสียใจมากพอแล้ว นี่ท่านยังไม่คิดจะรับน้ำชาจากนางอีก"

" ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้ว ว่านอกจากเนี่ยนเนี่ยนข้าไม่รับคนอื่นเป็นสะใภ้ งานแต่งเมื่อวานข้าก็บอกเจ้าตั้งแต่วันที่เจ้าขอสมรสพระราชทานแล้ว ว่าพวกเจ้าอยากแต่งก็แต่งไป ข้าไม่ยุ่งเกี่ยว "

" ฮูหยินเตรียมพร้อมแล้วเจ้าค่ะ รถม้าก็มาแล้วของก็ขนหมดแล้วเจ้าค่ะ"

" อะไร ของอะไร ท่านแม่ท่านจะไปที่ใด"

" ข้าจะย้ายไปอยู่จวนหลังเล็กนอกเมืองจวนนี้ก็ยกให้เจ้าได้อยู่ครองรักกับองค์หญิงสูงศักดิ์ ไปเถอะเดี๋ยวสายแล้วจะร้อน"

" เจ้าค่ะ"

เฉียงม่านวางถ้วยน้ำชากระแทกเสียงดัง จนน้ำชากระฉอกออกมา แล้วเดินหน้าบูดกลับเรือนไป ฉีเส้าเฟินลังเลไม่รู้จะตามใครดีสุดท้ายก็ตัดสินใจวิ่งตามเฉียวม่านไป

จั่วหมิงเข็นรถเข็นพาเจี้ยนไห่เข้ามา ก็เห็นอาหารวางเรียงรายเต็มโต๊ะ ลู่หนิงมองดูอาหารตรงหน้าอย่างตื่นตา ตั้งแต่เข้าวังมานางไม่เคยได้รับอาหารมากมายเช่นนี้ ทุกวันมีอาหารเพียงสามอย่างแทบจะไม่มีเนื้อ

" ในเมื่อมาแล้วงั้นเราก็กินกันเถอะ จั่วหมิงเจ้าก็ไปกินเถอะ ของเจ้ากับคนอื่นๆอยู่ทางนั้น"

จั่วหมิงมองตามที่ซ่งเนี่ยนชี้บอก เห็นโต๊ะอาหารอีกโต๊ะอยู่ไม่ไกล มีเจียวจูกับบ่าวรับใช้อีกสี่คนกวักมือเรียก เขารีบเดินไปนั่ง มองดูอาหารน่ากินเรียงรายเต็มโต๊ะก็น้ำลายไหล หยิบน่องไก่ขึ้นมาแทะ ไม่คิดว่ามื้อนี้จะได้กินอาหารอร่อยๆมากมายเช่นนี้ 

" เอ้ามองกันทำไม กินสิ เสด็จแม่กินเยอะๆนะ"

ซ่งเนี่ยนคีบปลาผัดเปรี้ยวหวานใส่ชามข้าวลู่หนิง ก่อนจะคีบน่องไก่ย่างให้เจี้ยนไห่ 

" ท่านก็กินเนื้อเยอะๆ ดูสิผอมกระหร่องเห็นแต่กระดูก"

เจี้ยนไห่แทะน่องไก่ด้วยความเอร็ดอร่อยนานแค่ไหนแล้วนะที่เขาไม่ได้กินน่องไก่ชิ้นโตๆแบบนี้

" กินอิ่มแล้วเดี๋ยวข้ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับท่าน"

" เรื่องอะไร"

" เอาไว้ก่อน กินก่อน นี่กินเข้าไป กินเยอะๆ"

นางคีบหมูเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆแล้วคีบไก่อีกน่องให้เขา

ในห้องโถง ซ่งเนี่ยนจับชีพจรและตรวจดูขาสองข้างให้เจี้ยนไห่

" นี่เจ้ามีความรู้วิชาแพทย์ด้วยรึ"

" อยู่เฉยๆเถอะน่า"

" เป็นอย่างไรบ้าง ขาของเขาพอมีทางรักษาหรือไม่"

"เสด็จแม่ท่านถามอะไรเช่นนั้น ขาของข้าพิการแต่กำเนิดจะรักษาได้อย่างไร"

เจี้ยนไห่แค่นหัวเราะ ลู่หนิงมองหน้าซ่งเนี่ยนรอคำตอบ แม้นางจะอยู่แค่ตำหนักท้ายวังหลวง แต่เรื่องของซ่งเนี่ยนนางก็ได้ยินมาไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือเรื่องที่นางช่วยรักษาตาที่บอดสนิทให้ฉีเส้าเฟินกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง ทั้งที่หมอหลวงหรือหมอเทวดาต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาไม่มีทางรักษาหาย แต่ไม่รู้ว่าซ่งเนี่ยนใช้วิธีอะไรถึงทำให้ฉีเส้าเฟินกลับมามองเห็นอีก นางมีความหวังเล็กๆว่าซ่งเนี่ยนจะมีวิธีรักษาขาให้บุตรชายของนางเช่นกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตรักจันทราสีโลหิต   ตอนที่11

    " พระชายาเพคะ"เจียวจูทำจมูกฟุดฟิด ซ่งเนี่ยนฟุดฟิดตามก่อนจะมองไปที่ป่าฝั่งตรงข้าม แล้วว่ายน้ำขึ้นไปบนฝั่ง จิ้งจอกนับสิบตัวพากันออกมาหานาง กลายร่างเป็นมนุษย์" นายหญิง เป็นท่านจริงๆด้วย""พวกข้าตามหาท่านมาตั้งนาน"" แต่ว่าทำไมท่านถึงได้"" เรื่องนี้หากเล่ามันยาวนัก"" ตอนนี้นายหญิงอยู่ในสถานะพระชายาของเจี้ยนอ๋อง"บริวารจิ้งจอกต่างมองหน้ากัน" เอาเป็นว่าข้าปลอดภัยดี อยู่ดีมีสุข พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง อาถูข้าแต่งตั้งให้เจ้าดูแลจิ้งจอกทุกตัวในป่าไผ่แทนข้าไปก่อน"" น้อมรับคำสั่ง นายหญิง แล้วท่านจะกลับไปเมื่อไหร่"" ข้าบอกไม่ได้ "เฉียวม่านแอบดูอยู่หลังต้นไม้ด้วยความหวาดกลัว ซ่งเนี่ยนพูดคุยกับพวกจิ้งจอกพวกนั้นอย่างสนิทสนม หรือว่านางกับจิ้งจอกพวกนั้นจะเป็นพวกเดียวกัน ใช่ ต้องใช่แน่ๆ ซ่งเนี่ยนคือปีศาจจิ้งจอก นางขยับเข้าไปใกล้พยายามเงี่ยหูฟัง ว่าพวกนั้นพูดคุยอะไรกัน แกรบ เสียงเหยียบกิ่งไม้แม้ไกลแต่หูของซ่งเนี่ยนและจิ้งจอกทุกตัวได้ยินชัดเจน เฉียวม่านรีบซ่อนตัวหลังต้นไม้ " ข้าจัดการเอง"เจียวจูพูดแล้วซัดพลังฝ่ามือสีทองใส่ต้นไม้ งูนับสิบก็ร่วงหล่นลงมา " กรี๊ดดดดด"เฉียวม่านกรีดร้องด้วยความตกใจก

  • ลิขิตรักจันทราสีโลหิต   ตอนที่10

    ซ่งเนี่ยนจ้องมองเจี้ยนไห่ที่พยายามหลบหน้านาง เขาก้มหน้าตักข้าวใส่ปาก" ท่านอ๋องเหตุใดตาของท่านถึงได้ดำคล้ำราวอดนอนเช่นนั้นเล่า"เจี้ยนไห่หยุดชะงัก ยิ่งก้มหน้าเข้าไปอีก เขาจะบอกนางได้อย่างไรว่าเมื่อคืนเขาอ่านตำราวสันต์ทั้งคืน เจียวจูมองหน้าเจี้ยนไห่แม้ว่าเขาจะพยายามก้มหน้าหลบ แต่ยังมองเห็นใต้ตาดำคล้ำอยู่ดี" เจ้าไปทำอะไรมา"" ปะเปล่าเสด็จแม่ ข้าไม่ได้ทำอะไร แค่เมื่อคืนอากาศร้อนไปหน่อยเลยนอนไม่ค่อยหลับ"" อย่างนี้นี่เอง จริงสิเจ้ากับเนี่ยนเนี่ยนก็แต่งงานมาได้ครึ่งค่อนปีแล้ว ขาของเจ้าก็เดินได้แล้ว พวกเจ้าก็ควรรีบเข้าหอกัน จะได้มีหลานให้ข้าอุ้มเร็วๆ"เจี้ยนไห่ถึงกับมือไม้อ่อนทำตะเกียบหลุดมือ" เสด็จแม่เรื่องนี้ข้า"" เสด็จแม่ขาของเขาพึ่งจะเดินได้ไม่นาน รอให้เขาแข็งแรงดีกว่านี้ก่อน เรื่องลูกข้าไม่รีบ"ซ่งเนี่ยนเห็นท่าทีลำบากใจของเจี้ยนไห่จึงพูดแทน ลู่หนิงมองดูทั้งสองสลับไปมาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา" ถ้าอย่างงั้นพวกเจ้าก็ควรย้ายไปอยู่ห้องเดียวกัน เป็นสามีภรรยาไม่ควรแยกกันอยู่"เห็นเจี้ยนไห่ไม่พูดอะไรแต่ดูจากสีหน้าซ่งเนี่ยนก็รู้ว่าเขาไม่เต็มใจ นางจึงพูดขึ้นมา" ข้านอนค

  • ลิขิตรักจันทราสีโลหิต   ตอนที่9

    ซ่งเนี่ยนกำลังจะเข้านอนก็ได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากด้านนอก จึงเปิดประตูออกไปดู" มีอะไรกัน"นางกำนัลพยายามขัดขวางไม่ให้ฉีเส้าเฟินเข้ามา"พระชายาท่านแม่ทัพเขา" " เนี่ยนเนี่ยน ข้ามีเรื่องขอร้องเจ้า"" ปล่อยให้เขาเข้ามา"" เนี่ยนเนี่ยน"" เจ้าเรียกข้าว่าอะไร"" พระชายา ข้ามีเรื่องขอให้ท่านช่วย ตอนนี้ม่านม่านนางตกเลือดหมดสติ ท่านช่วยไปดูนางหน่อยได้ไหม ข้ารู้ว่าท่านช่วยนางได้ ได้โปรดเถอะ ข้าขอร้อง"" ข้าไม่ใช่หมอตำแย ไม่เคยทำคลอด ท่านควรไปหาหมอตำแยถึงจะถูกไม่ก็หมอหลวง"" ทั้งหมอตำแยหมอหลวงก็ไปหมดแล้ว แต่ก็บอกว่าหมดหนทาง ตอนนี้นางยังเลือดไหลไม่หยุด เด็กในท้องก็ไม่มีสัญญาณชีพแล้วข้าขอร้องได้โปรดช่วยนางด้วย"ฉีเส้าเฟินคุกเข่าลงตรงหน้า" ขอเพียงท่านช่วยนางกับลูกให้ปลอดภัยจะให้ข้าทำอะไรข้ายอมหมดทุกอย่าง"เห็นซ่งเนี่ยนเงียบเฉยเขาก็ร้อนใจพูดขึ้นมา"หรือจะให้ข้าลดสถานะนางเป็นรอง แล้วแต่งท่านเข้ามาเป็นฮูหยินเอกก็ย่อมได้"" เจ้าว่าอะไรนะ"ซ่งเนี่ยนไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดเช่นนี้ออกมา" ข้ารู้ว่าท่านยังรักข้าอยู่ ก็แหงหล่ะ ท่านกับข้ารักกันมาตั้งหลายปี อยู่ดีๆจะเลิกรักง่ายๆได้ยังไง ข้าเข้าใจที่ท่านแต่งงาน

  • ลิขิตรักจันทราสีโลหิต   ตอนที่8

    "ท่านอ๋อง นี่คือของที่ท่านให้ข้าหามา"จั่วหมิงวางหนังสือห้าเล่มลงตรงหน้าของเจี้ยนไห่" ค่อยๆศึกษานะพะยะค่ะ เอ่อจริงๆข้าอยากจะบอกท่านว่า เรื่องแบบนี้จริงๆไม่ต้องดูตำราวสันต์ก็ได้ พอถึงเวลาจริงๆร่างกายจะสอนเราเอง มันจะเป็นไปโดยธรรมชาติ"พูดจบก็เดินออกไป เจี้ยนไห่หยิบตำราวสันต์มาเปิดอ่านวันต่อมาฉีเส้าเฟินกลับจากค่ายทหารมาถึงจวนก็เห็นคนหลายคน" พวกนั้นเป็นใคร"" เเม่ทัพฉีท่านมาเสียที"" ใช่ พวกเรารอท่านตั้งนาน"" รอข้า พวกเจ้าเป็นใครมีธุระอะไรกับข้า"" ข้ามาจากร้านขายเครื่องประดับฝูหลง วันก่อนฮูหยินของท่านไปซื้อเครื่องประดับจากร้านข้ายังไม่ได้จ่ายเงิน ข้าเลยต้องมาทวงนางบอกให้รอท่านมาก่อนท่านจะเป็นคนจ่าย"" ส่วนข้ามาจากร้านเสื้อผ้า มาเก็บค่าชุด วันก่อนนางเอาชุดไปจากร้านห้าชุด ยังมีชุดที่พึ่งสั่งตัดอีกสองชุด ข้านำมาส่งเลยมาเก็บเงินพร้อม ทั้งหมดห้าหมื่นตำลึง"" ห้าหมื่น"" ใช่แล้ว"" ส่วนข้ามาจากร้านรองเท้า นางสั่งทำรองเท้าพิเศษปักมุกหนึ่งคู่ อีกคู่ปักด้วยดิ้นทองชนิดพิเศษ นี่คือใบเรียกเก็บเงิน"" ข้ามาจากโรงเตี๊ยมซื่อไหล เมื่อตอนกลางวันนางกับสาวใช้ไปกินอาหารที่โรงเตี๊ยมยังไม่ได้จ่ายเงิน บอก

  • ลิขิตรักจันทราสีโลหิต   ตอนที่7

    ซ่งเนี่ยนไม่ยอมไป มองไปที่โต๊ะริมหน้าต่างโต๊ะหนึ่ง แอบดีดนิ้วเบาๆแสงสีทองที่คนอื่นมองไม่เห็นก็ลอยไปที่คนโต๊ะนั้น คนในโต๊ะนั้นก็เรียกเสี่ยวเอ้อมาคิดเงินแล้วพากันลุกเดินออกไป" เห็นไหมว่างแล้ว"นางจูงมือเจี้ยนไห่ไปนั่งลง จั่วหมิงกับเจียวจูนั่งฝั่งตรงข้าม ก่อนจะเรียกเสี่ยวเอ้อมาสั่งอาหารเต็มโต๊ะ นางคีบอาหารป้อนเจี้ยนไห่คำแล้วคำเล่าจนเขากินแทบไม่ทันที่มุมหนึ่ง ฉีเส้าเฟินกำจอกสุราแน่นจ้องมองซ่งเนี่ยนเอาอกเอาใจเจี้ยนไห่ เฉียวม่านมองตามสายตาไปก็เห็นสตรีงดงามหมดจดนางหนึ่ง กำลังคีบอาหารป้อนบุรุษที่นั่งข้าง หากนางเดาไม่ผิด สตรีคนนั้นคงเป็นซ่งเนี่ยนอดีตคนรักของฉีเส้าเฟิน ที่มารดาของเขาเอ่ยปากว่ายอมรับเป็นสะใภ้แค่คนเดียว นางกระแทกตะเกียบเสียงดัง ฉีเส้าเฟินจึงได้สติหันมามอง" อิ่มแล้วรึ เหตุใดถึงได้กินน้อยนักเล่า"" ข้าไม่หิว"" กินอีกนิดเถอะลูกจะได้แข็งแรง"" สตรีคนนั้นคืออดีตคนรักของท่าน ซ่งเนี่ยนใช่หรือไม่"เฉียวม่านพูดพร้อมจ้องมองไปที่ซ่งเนี่ยน ที่กำลังหัวเราะคิกคัก" อืม"ฉีเส้าเฟินตอบสั้นๆ เขาไม่คิดว่าจะได้มาเจอนางที่นี่ ตั้งแต่เขาแต่งงานก็ไม่ได้เจอนางอีกผ่านมา6เดือนนี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบน

  • ลิขิตรักจันทราสีโลหิต   ตอนที่6

    เจี้ยนไห่ตื่นขึ้นมาตอนเช้า เขาขยับตัวลงไปนั่งบนรถเข็น รอจั่วหมิงอยู่นานก็ไม่เห็นมาสักที จึงเข็นรถออกไปดูข้างนอก ระหว่างที่เข็นรถอยู่ ล้อรถข้างนึงเหยียบหินก้อนใหญ่จนรถพลิกคว่ำ เขาตกลงมาจากรถเข็น เจี้ยนไห่พยายามจะปีนกลับไปนั่งรถเข็นใหม่เขายืนขึ้นโดยไม่รู้ตัว จั่วหมิงที่ตื่นสายเร่งรีบถืออ่างล้างหน้ามา สายตามองเห็นเจี้ยนไห่ยืนอยู่ อ่างล้างหน้าหลุดมือ โครม" ท่าน ท่านอ๋อง"เขารีบวิ่งเข้าไปหาเจี้ยนไห่" ท่านอ๋องนี่ท่าน นี่ นี่ท่านยืนได้แล้ว"เจี้ยนไห่ที่กำลังจับรถเข็นพลิกขึ้นก็หยุดชะงัก ก้มมองดูตัวเอง เห็นขาสองข้างยืนเหยียบพื้นดิน เขาตกใจแทบไม่อยากเชื่อ" ข้า ข้ายืนได้แล้ว"จั่วหมิงพยักหน้ายิ้มทั้งน้ำตา เจี้ยนไห่ค่อยๆก้าวขาเดินทีละก้าว ทีละก้าว เขาหัวเราะทั้งน้ำตา" ข้าเดินได้ ในที่สุดข้าก็เดินได้แล้ว จั่วหมิงข้าไม่ใช่คนพิการอีกต่อไปแล้วข้าเดินได้"" พะยะค่ะข้าเห็นแล้ว ท่านอ๋องเดินได้จริงๆข้าจะรีบไปบอกพระชายา"จั่วหมิงรีบวิ่งไปที่ห้องของซ่งเนี่ยน ตั้งแต่ซ่งเนี่ยนแต่งงานกับเจี้ยนไห่ก็มีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้น ฮ่องเต้ให้คนสร้างตำหนักใหม่ขึ้นมากว้างขวางใหญ่โต ยังให้นางกำนัลและขันทีรับใช้เพิ่มมาอี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status