로그인ตอนที่สาม ความสุขที่ว่าคือเรื่องไหนกัน
“แล้วความสุขที่ว่าคือเรื่องไหนกันคะ?” หญิงสาวยังไม่เข้าใจเพราะการรักษาคนท่ามกลางสงครามที่มีแต่กลิ่นคาวเลือดจะมีความสุขได้อย่างไร
(ก็คือเรื่องที่เจ้าตะโกนร้องขออ้อนวอนก่อนหน้านี้อย่างไรเล่า)
ร้องขอ!... หา!...ไม่นะ!
เมื่อคิดทบทวนถึงเรื่องที่เธอตะโกนโวยวายไปในคืนที่กำลังมึนเมาและเสียใจ
ถ้อยคำเหล่านั้นจึงค่อยๆ ผุดขึ้นมาและกังวานก้องในหัว
“สวรรค์ไม่ยุติธรรม ทำไมให้พวกเขาที่นิสัยไม่ดีมีความสุขกัน แล้วฉันล่ะ ฮือๆๆๆ ฉันผิดอะไร
ฉันทั้งซื่อสัตย์และยอมเสียครั้งแรกให้เขา แต่กลับถูกมองว่าไร้ค่า ฮือๆๆๆ แค่ไม่ได้เอากันบ่อยๆ แค่นั้น ทำไมล่ะ คนเรามันต้องเอากันบ่อยแค่ไหนเชียว
ถ้าสวรรค์มีจริง ท่านต้องให้พรฉันสิ ฉันขอผู้ชายที่รักฉันจากใจจริง และเขาต้องเป็นคนแข็งแรง อึดทน มีส่วนนั้นใหญ่ๆ เอากันได้ทั้งคืน
อ้อ...ขอหลายๆ คนก็ดีนะ ฉันจะได้มีความสุขมากๆ ไม่ต้องรออยู่แค่คนคนเดียวแห้งเหี่ยวจิตใจ”
เมื่อนึกขึ้นได้ถึงคำขอในช่วงหลังๆ ที่เมามากแล้ว หลินหยุนซีถึงกับหน้าถอดสี
ไม่นะ! คืนนั้นเธอแค่โมโหแล้วก็เมามากก็เลยตะโกนบ้าๆ ไปแบบนั้น อย่าได้คิดเป็นจริงเป็นจังได้ไหม?
(คงไม่ทันแล้ว เพราะพรที่เจ้าขอได้ปรากฎผลแล้ว เอาล่ะ ข้ายังสามารถให้พรเจ้าอีกข้อหนึ่ง เอาเป็น...ขอให้เจ้าแข็งแรง อึดทน มีส่วนนั้นที่ใช้งานได้ดี ฟื้นฟูได้โดยเร็วก็แล้วกัน)
ไม่นะ!...ไม่เอาพรแบบนี้
หลินหยุนซีเกือบลืมตัวผวาตามเสียงที่ไร้แหล่งที่มาและมีเพียงตัวเธอที่ได้ยิน
แต่เมื่อหันไปเห็นสายตารอบข้างที่จดจ้องอย่างจับผิด หญิงสาวจึงพยายามตั้งสติเก็บอาการเพื่อพูดคุยกับเสียงนั้นต่อ
แต่เสียงนั้นกลับเพียงหัวเราะออกมาแล้วบอกลา
(ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าบอกแล้วว่าไม่ทันแล้ว มีความสุขให้มากๆ เล่า หลินหยุนซี)
จบประโยคนั้นแม้หญิงสาวจะพยายามตะโกนเรียกเพียงใดก็ตาม เสียงในหัวก็ไม่ยอมตอบสักคำและเงียบหายไปนาน
ครั้นมองสายตาของเหล่าทหารที่เฝ้ารอคอยความหวังที่จะหายเจ็บปวด แต่เมื่อเห็นหญิงสาวผู้มาใหม่ทำท่าทางประหลาดเดี๋ยวมีสีหน้าบิดเบี้ยว เดี๋ยวกำมือแน่น อีกเดี๋ยวทำปากขมุบขมิบ พวกเขาจึงมีสีหน้าไม่เชื่อถือ
หลินหยุนซีจึงถอนหายใจแล้วพยายามตั้งสติทบทวนความรู้ที่มีระหว่างพับแขนเสื้อเตรียมตัวเข้าไปช่วยหมอใหญ่ซึ่งกำลังชุลมุน
เอาน่าอย่างน้อยก็ยังได้ช่วยคน ดีกว่านอนเป็นผักเน่าอยู่ที่หอพัก
หญิงสาวเฝ้าปลอบใจตัวเองและทำตัวแนบเนียนแม้เกือบจะอาเจียนอยู่หลายครั้งด้วยที่นี่ช่างเน้นการปฏิบัติจริงอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสในห้องเรียนมาก่อน
“เจ้าเย็บแผลเป็นหรือไม่?” หมอใหญ่เหลือบตาถามโดยไม่แม้แต่จะหยุดมือที่กำลังเคลื่อนไหวเย็บแผลด้วยเข็มไม้อย่างคล่องแคล่ว
“เป็นเจ้าค่ะ”
“ดี เช่นนั้นจัดการขาของเขาข้างนี้” ขาที่ห้อยรุ่งริ่งจนแทบขาดจากกันมองอย่างไรก็อยากจะเบือนหน้าหนี
ยามนี้หลินหยุนซีอยากจะกลับไปหยิบเครื่องมือเย็บแผลทั้งเข็มและด้ายไหมมาจากห้องผ่าตัดนัก
แต่เงื่อนไขที่เสียงนั้นบอกก็คือนางต้องมีความสุขจึงจะเรียกของพวกนั้นออกมา แล้วกลางกระโจมที่มีแต่คนบาดเจ็บแบบนี้ นางจะไปหาความสุขบ้าบอเช่นนั้นได้อย่างไร?
ตอนที่สิบสาม จัดการแม้จะพร่ำบ่นแต่ยามสามีเล้าโลมปลุกเร้า ชายาสาวย่อมคล้อยตามอย่างไม่ท้อถอย สองสามีภรรยาสุขสันต์หรรษาพบความหฤหรรษ์ทุกคืนวันจนเป็นที่ริษยาแก่เหล่าสตรีทั่วเมืองหลวงบ่ายวันหนึ่ง ซ่งอี้หนิงชวนสามีออกไปเที่ยวเล่นในตลาดด้วยกันเพื่อหวังให้เขาได้เรียนรู้กิจการค้าของตนเองและผ่อนคลายบรรยากาศบ้างยังเดินไม่ถึงไหนกลับพบหญิงคณิกานางหนึ่งวิ่งมาจับแขนอ๋องหนุ่มอย่างดีใจทั้งพยายามฉุดลากให้เขาไปหอชุนเซียงด้วยกัน“ข้าคิดถึงคุณชายมาก หอชุนเซียงเราเพิ่งได้สุรารสชาติใหม่หอมกรุ่นกำลังดี พวกเราไปลิ้มรสด้วยกันนะเจ้าคะ”ก่อนที่อ๋องหนุ่มจะได้ตอบคำใด ซ่งอี้หนิงซึ่งเดินตามอยู่ข้างๆ กลับยิ้มหวานแล้วฉุดสามีมายืนข้างหลังตนเองก่อนจะหันไปเอ่ยกับคณิกานางนั้น“เจ้าคือแม่นางเหม่ยคนที่ท่านพี่เคยส่งหยกชิ้นงามกับผ้าไหมหลายพับให้แล้วยังรับปากว่าจะส่งค่าเลี้ยงดูให้ทุกเดือนใช่หรือไม่อืม...หลายเดือนที่ผ่านมาเป็นเงินไม่น้อยเลยทีเดียว เอาเป็นว่าที่แล้วไปก็ช่างเถอะ ข้าจะไม่ถือ
ตอนที่สิบสอง กลั่นแกล้งกันไปเล้าโลมกันมาหมิงอ๋องผู้ใช้เงินมือเติบโดยไม่เคยถูกผู้ใดควบคุมย่อมไม่พอใจอย่างมากแม้แต่เสด็จย่าไทเฮายังไม่เคยว่ากล่าวเขาสักคำ นางเป็นเพียงชายาที่เพิ่งแต่งเข้ามากลับหาญกล้าแตะต้องตัดเงินของเขาทำเช่นนี้ มิใช่อยากเห็นเขาขายหน้ากับผู้อื่นหรือ“หากท่านพี่ไม่มีเหตุผลอันควรมาชี้แจงแต่ยังฝืนดื้อดึงใช้จ่ายเงินเพื่อผู้อื่นโดยไม่เห็นค่า ข้าจะถือว่าท่านยังไม่พร้อมจะเป็นบิดา และยังไม่ควรเป็นผู้นำครอบครัว ดังนั้นเรื่องทายาทจึงยังไม่ควรเอ่ยถึง”ได้ยินประโยคถัดมา หมิงอ๋องจึงเริ่มเข้าใจ “หมายความว่าเจ้าจะไม่ให้พี่ร่วมรักกับเจ้าแล้ว เช่นนั้นหรือ?”ในเมื่อนางไม่ยินยอม เช่นนั้นเขาก็ย่อมไม่ฝืนใจชิ...คิดว่าเขาต้องง้อหรือ?ซ่งอี้หนิงเห็นสามีโมโหจนหน้าเขียวจึงเปลี่ยนท่าทีใช้การปลอบประโลม“ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น เรื่องบนเตียงย่อมต้องมีอยู่ เพียงแต่ข้าอาจจะลำบากที่ต้องใช้ยาห้ามครรภ์เท่
ตอนที่สิบสอง กลั่นแกล้งกันไปเล้าโลมกันมาอ๋องหนุ่มนอนหงายผึ่งปล่อยกายปล่อยใจให้ชายาสาวได้กระทำย่ำยีตามแต่ใจขณะที่ซ่งอี้หนิงแย้มยิ้มดีใจที่ได้เป็นฝ่ายควบคุมหญิงสาวขยับตัวยกสะโพกขึ้นสูงแล้วทิ้งหย่อนช่องทางรักลงมาให้ตรงพลางกลืนกินแท่งหยกเข้าไปทีละน้อยจนสามารถนั่งลงบนตัวของชายหนุ่มได้“อ้า... แท่งเนี้อของพี่หายไปหมดแล้ว” คำชื่นชมอย่างเสแสร้งเรียกอาการค้อนขวับจากใบหน้างามเชอะ...สมใจล่ะสิไม่ว่า ทำเป็นโดนรังแกไปได้เมื่อรู้สึกได้ถึงความคับแน่นด้านใน ร่องดอกไม้งามจึงไม่ได้ปล่อยดุ้นลำให้แช่ไว้นาน สะโพกบางขยับโยกตัวเด้งขึ้นเด้งลงเพื่อสร้างความสุขหรรษาให้แก่ตนเองโดยหลับหูหลับตาขย่มเรือนกายจนเต้าทรวงกระเพื่อมไหวสามีหนุ่มย่อมไม่อยู่เฉยยกสะโพกขึ้นลงสอดรับเป็นจังหวะเดียวกันทำให้เนื้อแนบเนื้อกระทบกันดังก้องเห็นความอวบหยุ่นที่ลอยหลอกล่ออยู่ตรงหน้า มือใหญ่ย่อมอยู่ไม่สุขเอื้อมมาบีบเคล้นสองเต้าเต่งที่เด้งไปเด้งมาอย่างน่าขย้ำขยี้จนบิดเบี้ยวแทบไม่เหลือรูปทรง“อื้อ
ตอนที่สิบเอ็ด ช่างดียิ่งผ่านค่ำคืนอ่อนระทวยที่สามีเอาแต่โอบกอดซุกซบตักตวงความหอมหวานโดยมีเพียงการลูบคลึงบั้นท้ายงอนงามเป็นการปลอบประโลมสองคืนถัดมาซ่งอี้หนิงจึงแต่งชุดวาบหวามนั่งรออยู่บนเตียงตั้งแต่ได้ยินเสียงบ่าวรับใช้บอกว่าหมิงอ๋องกลับมาแล้วครั้นได้ยินเสียงเปิดประตูห้องนอน นางจึงแสร้งก้มหน้าสนใจการลูบเรือนร่างเกือบเปลือยแสนเย้ายวนของตนเองพลางบีบขย้ำเต้าทรวงอวบอิ่มด้วยท่วงท่ายั่วยวนยามนี้ชุดสีขาวบางเบาหลุดลุ่ยเปิดเผยตั้งแต่ลำคอเรียวระหงผ่านก้อนเนื้ออวบหยุ่นจนถึงเนินโหนกสามเหลี่ยมอันงดงามหญิงสาวทำท่าทางราวกำลังอยู่ในอารมณ์พลุ่งพล่านอ้าขาออกจนกว้างขณะเอื้อมมือไปแหวกกลีบเต่งตึงซึ่งชุ่มฉ่ำเต็มไปด้วยน้ำใสพลางคลึงเคล้าไปทั่วสองร่องกลีบนิ้วมือเล็กบดเค้นเม็ดติ่งของตนเองจนบวมแน่นด้วยอารมณ์หวามไหว ก่อนจะควานไปทั่วโพรงถ้ำอุ่นด้วยความร่านร้อนแล้วระรัวนิ้วเข้าออกทั้งเปล่งเสียงครางดังออกมา“อื้อ...อ้า...”ร่างอรชรที่นั่งแยกขาทั้งสองออกจากกันเผยเนินอวบอูมและช่องทางสีหวานให้เห็น
ตอนที่สิบ ทำเรื่องใดกัน เจ้าของมือที่กำลังจับแท่งหยกซึ่งขยายใหญ่เตรียมพร้อมอยู่แล้วถูไปถูมาทักทายระหว่างร่องดอกไม้ฉ่ำเพื่อชโลมน้ำหวานใสให้ถ้วนทั่วเงยหน้าขึ้นมาหัวเราะขำพลางเอื้อมมือมาขย้ำก้นเนียนนุ่มอย่างมันเขี้ยวพลางเอ่ยเสียงกระเส่า“พี่จะทำสิ่งใดกับชายารักได้เล่า นอกจาก...”ยังไม่ทันจบประโยคท่อนลำซึ่งแสร้งหลอกล่ออยู่ด้านนอกก็กดจ่อยังปากถ้ำอุ่นแล้วดันเข้าไปจนสุดลำท่อนอย่างเชื่องช้าจนจมหายเข้าไปในร่องดอกไม้งามซ่งอี้หนิงซึ่งเพิ่งหายงัวเงียพยายามขยับสะโพกหนีอย่างแตกตื่นขณะกลีบสวยด้านในตอดรัดถี่รัวเมื่อความใหญ่โตซึ่งรุกล้ำเคลื่อนขยับเข้าออกร่างสูงสง่าเด้งหน้าเด้งหลังเพื่อขยับชักพามังกรอวบมุดเข้ามุดออกสำรวจไปทั่วร่องกุหลาบแดงหญิงสาวได้แต่ยืนเอนไปเอนมาด้วยจุกจนพูดไม่ออกเมื่อสัมผัสได้ถึงความใหญ่โตที่ทิ่มแทงเสียดสีอยู่ข้างในช่องทางบุปผาอันมีน้ำหล่อลื่นไม่มากนัก“อู้ว...เดี๋ยว...ช้า...เบา...”คำที่ออกจากปากบางช่างกระท่อนกระแท่นด้วยมังกรใหญ่เลื้อยเข้าเลื
ตอนที่สิบ ทำเรื่องใดกัน เสียงเว้าวอนทั้งหยาดน้ำที่ปริ่มดวงตาทำให้สามีหนุ่มเห็นใจแม้จะชื่นชอบท่วงท่าการเป็นผู้กระทำอย่างที่หญิงสาวไม่อาจดิ้นรนนี้นัก“เช่นนั้นลองท่านี้ก็แล้วกัน เจ้าจะได้ไม่เจ็บมือมากนัก”ซ่งอี้หนิงยืนรอให้เขาแกะเชือกที่มัดโยงด้วยอาการหอบหายใจทั้งยอมรับชะตากรรมด้วยสุขสันต์ไปแล้วถึงสองครานางไม่คิดว่าจ้าวจื้อหมิงจะมีท่วงท่าพิสดารใดกระทั่งมือหนาเอื้อมมาชโลมขี้ผึ้งยังร่องก้นด้านหลังจากนั้นร่างสูงก็เดินอ้อมจับตัวนางโก้งโค้งยกสะโพกแบะอ้าร่องรูแล้วหลอกล่อด้วยนิ้วอุ่นที่ปาดป่ายจากร่องหน้ามาร่องหลังวนเวียนไปมายังไม่ทันได้ตั้งตัว แท่งกายแข็งแรงก็ทิ่มแทงเข้ามาในร่องหยักอันคับแคบเรียกเสียงกรีดร้องโหยหวน“ว้าย!...อย่านะ ข้าเจ็บ เอาออกไป ไม่...ไม่นะ”ถึงขั้นนี้แล้ว อ๋องหนุ่มหรือจะยอมหยุดยั้งแม้จะเสือกแทงด้วยความยากลำบาก เขาจับสะโพกที่พยายามดิ้นหนีให้มั่นแล้วทิ่มตอกอย่างมุมานะกระทั่งสอดแทรกเข้าไปได้เกือบทั้งหมดซ่งอี้หนิงถูกความใหญ่โตทะลวงใส่ในร่องรูก้







