LOGINตอนที่สาม ความสุขที่ว่าคือเรื่องไหนกัน
ตื่นได้แล้ว ฉันอยากกลับบ้านแล้ว
ไม่เอาแบบนี้สิ ชวนฉันมาแล้วทิ้งไว้ในที่แบบนี้ได้อย่างไรกัน พาฉันกลับไปนะ
หลินหยุนซีบ่นพึมพำทั้งหยิกตัวเองเพื่อให้ตื่นแล้วยังออกอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
ไม่นาน ทหารคนเดิมก็วิ่งมาเปิดประตูแล้วเชื้อเชิญอย่างนอบน้อมแต่เร่งรีบ
“หมอหญิงรีบตามข้ามาเถิด ครั้งนี้พี่น้องเราบาดเจ็บสาหัสนัก หมอใหญ่เมิ่งรับมือไม่ไหวแล้ว”
เชอะ...ทีอย่างนี้ทำเป็นก้มหัว
ในใจของหญิงสาวยังอยากจะเล่นตัวอีกสักเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นสีหน้ากระวนกระวายของทหารที่ยืนรอส่งสายตาเร่ง จึงถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วตัดสินใจเดินตามโดยดี
เมื่อถึงกระโจมซึ่งเต็มไปด้วยทหารที่ทั้งนั่งทั้งนอนกองรวมกันระเกะระกะ
หลินหยุนซีซึ่งไม่เคยอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องรักษาอย่างรีบเร่ง ไร้พิธีรีตอง ไร้ระเบียบแบบแผน ทั้งไม่มีเครื่องมือเครื่องใช้จึงได้แต่ยืนตกตะลึง
นี่มันยุคสมัยไหนกัน อะไรก็ไม่มี ต้องใช้สองมือกับผ้าเน่าๆ แล้วก็ผงสมุนไพรที่ไม่รู้จักพวกนี้เนี่ยนะ
แล้วจะรักษาอย่างไร?
สายตาสั่นไหวมองไปยังชายวัยประมาณ30ปีคนหนึ่งซึ่งกำลังเย็บแผลสดอยู่กลางกระโจม ขณะชายรุ่นเด็กกว่ากำลังใช้สมุนไพรเทลงบนบาดแผลซึ่งมีเลือดไหลจนทหารคนนั้นร้องลั่น
ไม่นะ! ฉันอยากช่วยคนก็จริง แต่ทั้งเลือดไหลอย่างกับน้ำตก ทั้งแผลเหวอะหวะจนแทบขาดจากกันขนาดนี้ ฉันไม่ไหวจริงๆ
(หากสามารถช่วยคนได้ ย่อมสมเจตนารมณ์แห่งการเป็นผู้รักษาแล้วมิใช่หรือ? หลินหยุนซี เหตุใดต้องเกี่ยงงอนเล่า)
จู่ๆ เสียงหนึ่งก็ดังออกมา เมื่อมองซ้ายมองขวากลับไม่เห็นว่ามีคนใดได้ยินด้วยพวกเขาเอาแต่สาละวนอยู่กับความวุ่นวายตรงหน้า
(หลินหยุนซี ด้วยมิติแห่งกาลเวลาและคำร้องขอของเจ้า เจ้าจึงโดนส่งตัวมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือผู้คนให้มากที่สุด และเพื่อให้ได้เรียนรู้ว่าความรักไม่ควรมอบให้แก่คนที่ไม่เห็นค่า ความรักที่แท้จริงจะมาก็ต่อเมื่อมีคนที่เหมาะสม)
“หมายความว่าท่านคือคนที่ส่งฉันมาที่นี่หรือคะ?” หลินหยุนซีรีบถามในใจเพราะตั้งแต่มาถึง นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดคุยและบอกเหตุผลถึงแม้จะไม่เห็นตัวก็เถอะ
(ใช่แล้ว และเมื่อเจ้าได้ช่วยคนจนพอใจแล้วและอยากกลับไป ข้าก็จะส่งเจ้ากลับไปดั่งประสงค์)
ช่วยคนจนพอใจ...ก็จะได้กลับไป
อืม...ฟังแล้วก็ไม่ยากเท่าไหร่
“เอ่อ...มีตัวช่วยอะไรไหมคะ? หลินหยุนซีที่นึกขึ้นได้รีบเอ่ยถาม
เธอมาที่นี่อย่างมึนงง แม้จะเป็นหมอแต่ถ้าไม่มีตัวช่วยอะไรเลยคงแย่แน่ๆ
(ตัวช่วยก็คือ... หากเจ้ามีความสุข จะสามารถเรียกยารักษาหรือเครื่องมือพิเศษที่คุ้นเคยได้เพียงนึกถึงหน้าตาหรือชื่อของมัน แต่หลังจากใช้แล้วของเหล่านั้นจะหายไปเพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในภายหลัง)
“แล้วความสุขที่ว่าคือเรื่องไหนกันคะ?” หญิงสาวยังไม่เข้าใจเพราะการรักษาคนท่ามกลางสงครามที่มีแต่กลิ่นคาวเลือดจะมีความสุขได้อย่างไร
(ก็คือเรื่องที่เจ้าตะโกนร้องขออ้อนวอนก่อนหน้านี้อย่างไรเล่า)
ร้องขอ!... หา!...ไม่นะ!
ตอนที่สิบสาม จัดการแม้จะพร่ำบ่นแต่ยามสามีเล้าโลมปลุกเร้า ชายาสาวย่อมคล้อยตามอย่างไม่ท้อถอย สองสามีภรรยาสุขสันต์หรรษาพบความหฤหรรษ์ทุกคืนวันจนเป็นที่ริษยาแก่เหล่าสตรีทั่วเมืองหลวงบ่ายวันหนึ่ง ซ่งอี้หนิงชวนสามีออกไปเที่ยวเล่นในตลาดด้วยกันเพื่อหวังให้เขาได้เรียนรู้กิจการค้าของตนเองและผ่อนคลายบรรยากาศบ้างยังเดินไม่ถึงไหนกลับพบหญิงคณิกานางหนึ่งวิ่งมาจับแขนอ๋องหนุ่มอย่างดีใจทั้งพยายามฉุดลากให้เขาไปหอชุนเซียงด้วยกัน“ข้าคิดถึงคุณชายมาก หอชุนเซียงเราเพิ่งได้สุรารสชาติใหม่หอมกรุ่นกำลังดี พวกเราไปลิ้มรสด้วยกันนะเจ้าคะ”ก่อนที่อ๋องหนุ่มจะได้ตอบคำใด ซ่งอี้หนิงซึ่งเดินตามอยู่ข้างๆ กลับยิ้มหวานแล้วฉุดสามีมายืนข้างหลังตนเองก่อนจะหันไปเอ่ยกับคณิกานางนั้น“เจ้าคือแม่นางเหม่ยคนที่ท่านพี่เคยส่งหยกชิ้นงามกับผ้าไหมหลายพับให้แล้วยังรับปากว่าจะส่งค่าเลี้ยงดูให้ทุกเดือนใช่หรือไม่อืม...หลายเดือนที่ผ่านมาเป็นเงินไม่น้อยเลยทีเดียว เอาเป็นว่าที่แล้วไปก็ช่างเถอะ ข้าจะไม่ถือ
ตอนที่สิบสอง กลั่นแกล้งกันไปเล้าโลมกันมาหมิงอ๋องผู้ใช้เงินมือเติบโดยไม่เคยถูกผู้ใดควบคุมย่อมไม่พอใจอย่างมากแม้แต่เสด็จย่าไทเฮายังไม่เคยว่ากล่าวเขาสักคำ นางเป็นเพียงชายาที่เพิ่งแต่งเข้ามากลับหาญกล้าแตะต้องตัดเงินของเขาทำเช่นนี้ มิใช่อยากเห็นเขาขายหน้ากับผู้อื่นหรือ“หากท่านพี่ไม่มีเหตุผลอันควรมาชี้แจงแต่ยังฝืนดื้อดึงใช้จ่ายเงินเพื่อผู้อื่นโดยไม่เห็นค่า ข้าจะถือว่าท่านยังไม่พร้อมจะเป็นบิดา และยังไม่ควรเป็นผู้นำครอบครัว ดังนั้นเรื่องทายาทจึงยังไม่ควรเอ่ยถึง”ได้ยินประโยคถัดมา หมิงอ๋องจึงเริ่มเข้าใจ “หมายความว่าเจ้าจะไม่ให้พี่ร่วมรักกับเจ้าแล้ว เช่นนั้นหรือ?”ในเมื่อนางไม่ยินยอม เช่นนั้นเขาก็ย่อมไม่ฝืนใจชิ...คิดว่าเขาต้องง้อหรือ?ซ่งอี้หนิงเห็นสามีโมโหจนหน้าเขียวจึงเปลี่ยนท่าทีใช้การปลอบประโลม“ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น เรื่องบนเตียงย่อมต้องมีอยู่ เพียงแต่ข้าอาจจะลำบากที่ต้องใช้ยาห้ามครรภ์เท่
ตอนที่สิบสอง กลั่นแกล้งกันไปเล้าโลมกันมาอ๋องหนุ่มนอนหงายผึ่งปล่อยกายปล่อยใจให้ชายาสาวได้กระทำย่ำยีตามแต่ใจขณะที่ซ่งอี้หนิงแย้มยิ้มดีใจที่ได้เป็นฝ่ายควบคุมหญิงสาวขยับตัวยกสะโพกขึ้นสูงแล้วทิ้งหย่อนช่องทางรักลงมาให้ตรงพลางกลืนกินแท่งหยกเข้าไปทีละน้อยจนสามารถนั่งลงบนตัวของชายหนุ่มได้“อ้า... แท่งเนี้อของพี่หายไปหมดแล้ว” คำชื่นชมอย่างเสแสร้งเรียกอาการค้อนขวับจากใบหน้างามเชอะ...สมใจล่ะสิไม่ว่า ทำเป็นโดนรังแกไปได้เมื่อรู้สึกได้ถึงความคับแน่นด้านใน ร่องดอกไม้งามจึงไม่ได้ปล่อยดุ้นลำให้แช่ไว้นาน สะโพกบางขยับโยกตัวเด้งขึ้นเด้งลงเพื่อสร้างความสุขหรรษาให้แก่ตนเองโดยหลับหูหลับตาขย่มเรือนกายจนเต้าทรวงกระเพื่อมไหวสามีหนุ่มย่อมไม่อยู่เฉยยกสะโพกขึ้นลงสอดรับเป็นจังหวะเดียวกันทำให้เนื้อแนบเนื้อกระทบกันดังก้องเห็นความอวบหยุ่นที่ลอยหลอกล่ออยู่ตรงหน้า มือใหญ่ย่อมอยู่ไม่สุขเอื้อมมาบีบเคล้นสองเต้าเต่งที่เด้งไปเด้งมาอย่างน่าขย้ำขยี้จนบิดเบี้ยวแทบไม่เหลือรูปทรง“อื้อ
ตอนที่สิบเอ็ด ช่างดียิ่งผ่านค่ำคืนอ่อนระทวยที่สามีเอาแต่โอบกอดซุกซบตักตวงความหอมหวานโดยมีเพียงการลูบคลึงบั้นท้ายงอนงามเป็นการปลอบประโลมสองคืนถัดมาซ่งอี้หนิงจึงแต่งชุดวาบหวามนั่งรออยู่บนเตียงตั้งแต่ได้ยินเสียงบ่าวรับใช้บอกว่าหมิงอ๋องกลับมาแล้วครั้นได้ยินเสียงเปิดประตูห้องนอน นางจึงแสร้งก้มหน้าสนใจการลูบเรือนร่างเกือบเปลือยแสนเย้ายวนของตนเองพลางบีบขย้ำเต้าทรวงอวบอิ่มด้วยท่วงท่ายั่วยวนยามนี้ชุดสีขาวบางเบาหลุดลุ่ยเปิดเผยตั้งแต่ลำคอเรียวระหงผ่านก้อนเนื้ออวบหยุ่นจนถึงเนินโหนกสามเหลี่ยมอันงดงามหญิงสาวทำท่าทางราวกำลังอยู่ในอารมณ์พลุ่งพล่านอ้าขาออกจนกว้างขณะเอื้อมมือไปแหวกกลีบเต่งตึงซึ่งชุ่มฉ่ำเต็มไปด้วยน้ำใสพลางคลึงเคล้าไปทั่วสองร่องกลีบนิ้วมือเล็กบดเค้นเม็ดติ่งของตนเองจนบวมแน่นด้วยอารมณ์หวามไหว ก่อนจะควานไปทั่วโพรงถ้ำอุ่นด้วยความร่านร้อนแล้วระรัวนิ้วเข้าออกทั้งเปล่งเสียงครางดังออกมา“อื้อ...อ้า...”ร่างอรชรที่นั่งแยกขาทั้งสองออกจากกันเผยเนินอวบอูมและช่องทางสีหวานให้เห็น
ตอนที่สิบ ทำเรื่องใดกัน เจ้าของมือที่กำลังจับแท่งหยกซึ่งขยายใหญ่เตรียมพร้อมอยู่แล้วถูไปถูมาทักทายระหว่างร่องดอกไม้ฉ่ำเพื่อชโลมน้ำหวานใสให้ถ้วนทั่วเงยหน้าขึ้นมาหัวเราะขำพลางเอื้อมมือมาขย้ำก้นเนียนนุ่มอย่างมันเขี้ยวพลางเอ่ยเสียงกระเส่า“พี่จะทำสิ่งใดกับชายารักได้เล่า นอกจาก...”ยังไม่ทันจบประโยคท่อนลำซึ่งแสร้งหลอกล่ออยู่ด้านนอกก็กดจ่อยังปากถ้ำอุ่นแล้วดันเข้าไปจนสุดลำท่อนอย่างเชื่องช้าจนจมหายเข้าไปในร่องดอกไม้งามซ่งอี้หนิงซึ่งเพิ่งหายงัวเงียพยายามขยับสะโพกหนีอย่างแตกตื่นขณะกลีบสวยด้านในตอดรัดถี่รัวเมื่อความใหญ่โตซึ่งรุกล้ำเคลื่อนขยับเข้าออกร่างสูงสง่าเด้งหน้าเด้งหลังเพื่อขยับชักพามังกรอวบมุดเข้ามุดออกสำรวจไปทั่วร่องกุหลาบแดงหญิงสาวได้แต่ยืนเอนไปเอนมาด้วยจุกจนพูดไม่ออกเมื่อสัมผัสได้ถึงความใหญ่โตที่ทิ่มแทงเสียดสีอยู่ข้างในช่องทางบุปผาอันมีน้ำหล่อลื่นไม่มากนัก“อู้ว...เดี๋ยว...ช้า...เบา...”คำที่ออกจากปากบางช่างกระท่อนกระแท่นด้วยมังกรใหญ่เลื้อยเข้าเลื
ตอนที่สิบ ทำเรื่องใดกัน เสียงเว้าวอนทั้งหยาดน้ำที่ปริ่มดวงตาทำให้สามีหนุ่มเห็นใจแม้จะชื่นชอบท่วงท่าการเป็นผู้กระทำอย่างที่หญิงสาวไม่อาจดิ้นรนนี้นัก“เช่นนั้นลองท่านี้ก็แล้วกัน เจ้าจะได้ไม่เจ็บมือมากนัก”ซ่งอี้หนิงยืนรอให้เขาแกะเชือกที่มัดโยงด้วยอาการหอบหายใจทั้งยอมรับชะตากรรมด้วยสุขสันต์ไปแล้วถึงสองครานางไม่คิดว่าจ้าวจื้อหมิงจะมีท่วงท่าพิสดารใดกระทั่งมือหนาเอื้อมมาชโลมขี้ผึ้งยังร่องก้นด้านหลังจากนั้นร่างสูงก็เดินอ้อมจับตัวนางโก้งโค้งยกสะโพกแบะอ้าร่องรูแล้วหลอกล่อด้วยนิ้วอุ่นที่ปาดป่ายจากร่องหน้ามาร่องหลังวนเวียนไปมายังไม่ทันได้ตั้งตัว แท่งกายแข็งแรงก็ทิ่มแทงเข้ามาในร่องหยักอันคับแคบเรียกเสียงกรีดร้องโหยหวน“ว้าย!...อย่านะ ข้าเจ็บ เอาออกไป ไม่...ไม่นะ”ถึงขั้นนี้แล้ว อ๋องหนุ่มหรือจะยอมหยุดยั้งแม้จะเสือกแทงด้วยความยากลำบาก เขาจับสะโพกที่พยายามดิ้นหนีให้มั่นแล้วทิ่มตอกอย่างมุมานะกระทั่งสอดแทรกเข้าไปได้เกือบทั้งหมดซ่งอี้หนิงถูกความใหญ่โตทะลวงใส่ในร่องรูก้







