วันนี้เป็นอีกวันที่ฝนตกหนัก ทำให้ขายของไม่ค่อยดี ลุงยอดจึงเก็บของเร็วอีกวันหนึ่ง แต่แทนที่จะรีบขับรถกลับบ้าน เขากลับพาดาวแวะเข้าไปในซอยข้างทางลูกรังเลี้ยวซึ่งเป็นเขตโรงงานร้างที่ถูกปิดไปนานหลายปีแล้ว
“ลุงพาหนูมาที่นี่ทำไม”
ดาวถามเสียงเบา พลางมองไปโดยรอบอย่างหวาดระแวง
“ฝนตกหนัก จะกลับบ้านก็อันตราย มาหลบฝนที่นี่ก่อนแล้วกัน”
“หึ หรือจะเอาหนูที่นี่?”
เธอเอ่ยพร้อมกับยิ้มเย้ายวน ลุงยอดหันมามองเธอช้า ๆ สายตาล้ำลึกเหมือนทุกครั้ง
“อยากโดนเอาที่นี่ไหมล่ะ”
“อยากค่ะ
คำตอบนั้นเหมือนเชื้อเพลิงสวาทชั้นดี ลุงยอดไม่รอช้าเขาดึงตัวเธอลงจากรถและพากันเดินเข้าไปในโรงงานร้างทันที เขาดันหลังเธอเข้าชิดผนังปูนที่เย็นเฉียบพร้อมเอ่ยออกคำสั่ง
“ถอดเสื้อออก”
เขาสั่งเสียงเข้ม ดาวรีบทำตามโดยไม่ต้องให้ลุงยอดสั่งซ้ำ เธอหันหน้ามาหาเขาและถอดเสื้อผ้าออกทันที เสื้อยืดเปียกฝนถูกดึงออกจนพ้นตัว เผยให้เห็นหน้าอกหน้าใจอวบอั๋นปรากฏต่อสายตาเขา
มือใหญ่ ๆ ของลุงยอดยื่นมาบีบขยำหน้าอกของดาวทันที
“แน่นเหมือนเดิม”
เขาก้มลงขบกัดยอดอกทั้งสองข้างและออกแงดูดจนเกิดเสียง “จ๊วบ จ๊วบ” ดังสะท้อนทั่วผนังโรงงาน ดาวแอ่นอกตอบรับ สะโพกเบียดต้นขาเรื่อยๆ
“เสียว เสียวจนจะยืนไม่อยู่แล้ว ลุง”
เขาบอกให้เธอนั่งอ้าขาบนลังเก่า ๆจากนั้นเขาก็ทรุดตัวลงแล้วเอาหน้าซุกไปตรงร่องลึกที่แสนคุ้นเคย
“อ๊า!! ลุงยอด!!”
เสียงครางของดาวดังก้องทั่วห้องเขาดูดเม็ดเสียวสลับกับลากลิ้นยาวเลียไปตามร่อง เธอหอบหายใจหนัก ตัวสั่นร่างบางแทบทรุดลงกับพื้น
“จะเสร็จแล้วใช่มั้ยลูก?”
“จะแล้ว!! จะเสร็จแล้วว!!!”
“แตกเลยลูก ลูกจะเลียให้เอง”
เขาเร่งจังหวะลิ้นให้ถี่ระรัวมากยิ่งขึ้น จนร่างของดาวเกร็งเธอกรีดร้องดังลั่น น้ำหวานทะลักใส่หน้าลุงยอด แต่เขากลับกินมันเข้าไปทุกหยด ก่อนจะลุกขึ้นปลดกางเกงตัวเองลงเผยให้เห็นแท่งเนื้อขนาดใหญ่ ที่แข็งขึงปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ
“วันนี้ลุงจะเอาหนูในโรงงานร้างนี่ล่ะ”
เขาจับดาวพลิกหันหน้าเข้ากำแพงและยกขาเธอข้างหนึ่งพาดขึ้นไปบนท่อเหล็กสนิม
จากนั้นก็เสียบลำแท่งเข้าไปเต็มลำ!“อ๊า ลุง!!!”
ดาวกรีดร้องลั่นเสียงกระแทก “ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!” ดังสะท้อนก้องไปทั่วห้อง
“ผนังนี่แม่งแข็ง แต่รูของหนูมันนุ่มฉิบหาย”
เขาออกแรงกระแทกหนักขึ้นเรื่อย ๆมือหนึ่งบีบนม อีกมือฟาดก้นดาวจนเกิดเสียงดัง “เพียะ! เพียะ!”
“อ๊า! ฟาดอีกลุง! หนูชอบ!!”
“อยากโดนเอาแรง ๆ มั้ย?”
“เอาเลยลุง! เอาแรง ๆ เลย!!”
ลุงยอดเร่งจังหวะเข้าสุดออกสุดแทงเข้าแทงออกเร็วถี่ เสียงกระแทกดังก้องผสานกับเสียงครางของดาวมันทำให้ลุงยอดยิ่งมันส์เข้าไปใหญ่
“หนูจะแตกแล้วลุงงง! แตกแล้วว!!”
“พร้อมกันนะลูก!!”
“อ๊า!!! ลุง!!”
ดาวตัวเกร็งกระตุก เขากระแทกลึกเข้ามาอีกที
แล้วจึงปล่อยน้ำรักอุ่น ๆ พุ่งเข้าไปเต็มร่องในตัวเธอดาวขาสั่นหายใจเหนื่อยหอบ ลุงยอดมือหนึ่งคลึงเม็ดเสียวให้เธออีกครั้ง ปากก็เอ่ยกระซิบเสียงแผ่ว
“หนูจำไว้ คราวหน้าอย่ายั่วลุงอีก”
เสียงรถบัสจากในตัวอำเภอแล่นผ่านหน้าร้านข้าวโพดของลุงพลโดยมีฝ้ายยืนอยู่ตรงหน้าร้านมองไปที่รถบัสด้วยสายตาเหม่อลอย ในมือของเธอถือถุงใส่ของใช้ที่จำเป็นเพียงไม่กี่อย่างซึ่งเป็นของที่แม่เตรียมไว้ให้“จะไปจริง ๆ เหรอ?”เสียงทุ้มจากด้านหลังดังขึ้น ลุงพลเดินออกมาจากในร้านขายข้าวโพด วันนี้เขาสวมเสื้อกล้ามเปื้อนฝุ่น กางเกงผ้าธรรมดาเหมือนเช่นทุกวัน แต่วันนี้ดวงตาที่จ้องมองมายังฝ้ายนั้นออกจะเจือความเศร้าใจอยู่ไม่น้อยฝ้ายหันมายิ้มให้ลุงพล ก่อนจะเอ่ยตอบ“ก็ต้องไปเรียนต่อที่ในเมืองนี่คะ ลุงก็รู้”เมื่อได้ยินอย่างนั้นลุงพลก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบข้าวโพดฝักหนึ่งที่เหลืออยู่เพียงฝักเดียวในตะกร้ายื่นส่งให้กับฝ้าย“ฝักสุดท้ายของวันนี้ และอาจจะเป้นฝักสุดท้ายของฤดูกาลนี้ด้วย”“หนูอยากได้ฝักข้าวโพดในกางเกงลุงมากกว่า”ฝ้ายพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ แววตาฉายแววขี้เล่นก่อนจะเบือนสายตาไปทางอื่น“ไม่ขำเลยนะ”ลุงพลเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ มือใหญ่เอื้อมมาแตะปลายผมของเธอที่ถูกรวบไว้หลวม ๆ อย่างอ่อนโยน“ตั้งแต่วันแรกที่หนูเดินเข้ามาขอซื้อข้าวโพด ลุงก็ตกหลุมรักหนูแล้ว”“แล้วตอนนี้ ยังรักอยู่หรือเปล่า
กลิ่นน้ำมันเจียวกระเทียมลอยคลุ้งอยู่ในห้องครัวไม้หลังบ้าน ฝ้ายในชุดเสื้อยืดกับผ้าถุงสีชมพู กำลังยืนทำกับข้าวด้วยหน้าตาจริงจัง เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นเต็มหน้าผาก เธอยกมือขึ้นเช็ดหน้าผากพร้อมกับสบถออกมาเบาๆ“เห้อ ทำไมหมูมันติดกระทะแบบนี้ล่ะ?”เสียงบ่นดังขึ้น พร้อมกลิ่นไหม้อ่อน ๆ ที่ลอยโชยออกจากกระทะ เธอหยิบตะหลิวพยายามกลับหมู แต่หมูเจ้ากรรมกลับติดกระทะจนมันเริ่มจะไหม้ทั้งสองฝั่ง“ทำอะไรน่ะ?”เสียงลุงพลดังขึ้นจากประตูหลังบ้าน เขายืนพิงขอบประตู ชายวัยกลางคนวันนี้เสื้อกล้ามเก่า ๆ กับกางเกงผ้าขายาว สายตาที่มองฝ้ายทั้งขำทั้งเอ็นดู ฝ้ายที่เห็นว่าลุงพลหัวเราะตนก็ยู่ปากพร้อมเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์“หนูจะทำกับข้าวให้ลุงกินไงคะแต่ไม่สำเร็จสักที ดูสิไหม้หมดแล้ว”ลุงพลที่ได้ยินอย่างนั้นก็เดินเข้ามาหาสาวเจ้าพลางเอ่ยเสียงเข้ม“แบบนี้ต้องโดนทำโทษ”“ไม่เอานะ ลุงอย่าหาเรื่องแกล้งหนูเลยน้า”ฝ้ายถอยหลังหนีเล็กน้อย แต่กลับเหยียบผ้าขี้ริ้วจนลื่นล้มลงไปนั่งบนพื้นไม้พอดี“โอ๊ย!”“ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”ลุงพลรีบเดินเข้ามาประคอง ฝ้ายส่ายหน้ารัว ๆเพื่อบอกว่าเธอไม่เป็นอะไร แต่ไม่นานนักใบหน้าเธอก็ร้อนวาบเมื่อรู้ว่าตอนนี้ตั
ลุงพลยืนมองไร่อ้อยที่เพิ่งถอนหญ้าเสร็จด้วยแววตาที่เหนื่อยล้า กลิ่นหญ้าเปียก สายลมอ่อน ๆ และแสงแดดยามบ่ายทำให้เหงื่อซึมทั่วแผ่นหลังเขาจนเปียกชุ่ม เขาเช็ดหน้าตนเองเบา ๆ ด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก แล้วก้มลงถอนหญ้าแถวสุดท้ายโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้ฝ้ายแอบยืนมองดูเขาอยู่ตรงมุมร่มไม้ไม่ไกลนักเด็กสาวอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวเล็กกับกางเกงยีนส์ขาสั้นเช่นที่ชอบสวมเหมือนทุกวัน ริมฝีปากแดงเม้มแน่นน้อย ๆ ดวงตาจับจ้องแผ่นหลังของลุงแน่นิ่ง“ลุงทำงานไม่พักเลยนะ”“ก็ต้องรีบเก็บอ้อยก่อนฝนลง” เขาตอบเสียงนิ่งโดยไม่หันมา“เหนื่อยมั้ยคะ?”“ก็ ถ้ามีคนมาให้หอมหน่อยก็อาจจะหายเหนื่อยนะ”ฝ้ายยิ้มบางๆก่อนจะเดินเข้าไปใกล้และเอาผ้าขนหนูอีกผืนที่เธอพกมาด้วยช่วยเช็ดเหงื่อให้เขา“ลุงรู้มั้ย ว่าหนูชักจะหวงลุงขึ้นทุกวันแล้วนะ”ฝ้ายมีท่าทีแง่งอนอย่างเห็นได้ชัด ที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพราะวันนั้นลุงพลไปสนทนาพูดคุยกับแม่ค้าคนนั้น ลุงพลเองก็รู้ว่าฝ้ายหึงจึงเอ่ยปลอบประโลม“แต่ลุงก็เป็นของหนูอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ จะหึงหวงทำไมกัน”เขาหันมายิ้มมุมปาก พร้อมวางมือลงบนสะโพกเธอเบา ๆ ฝ้ายทำท่าทีปัดมือเขาออกและเอ่ยอย่างไม่ชอบใจ“แต่ลุงก็ยังไปยิ้มให้แม่ค้
แสงแดดยามบ่ายที่แผดเผาร้อนแรงไม่ได้ทำให้ฝ้ายรู้สึกร้อนเท่าภายในใจ เมื่อเธอยืนมองจากมุมไกล เห็นลุงพลกำลังพูดคุยกับแม่ค้าคนใหม่ที่มาเช่าร้านข้าง ๆ ผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะอายุราว ๆ สามสิบปี หน้าตาสะสวย ปากแดง ผิวขาว พูดจาหัวร่อต่อกระซิกกับลุงพลอย่างสนิทสนม“ยิ้มหน้าบานเชียวนะลุงพล”ฝ้ายเอ่ยพึมพำกับตัวเอง ขณะที่ยืนหลบอยู่หลังต้นกล้วย ร่างกายของเธอร้อนผ่าว ดวงตาเริ่มขุ่นมัวด้วยความหึงหวงโดยไม่รู้ตัว เวลาผ่านไปพักใหญ่ เธอก็เดินกระแทกเท้าเข้าไปที่ร้านข้าวโพด เสียงรองเท้ากระแทกพื้นไม้ทำให้ลุงพลถึงกับต้องหันมามอง เมื่อเห็นว่าเป็นฝ้ายจึงเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม“วันนี้มาสายนะฝ้าย”“เห็นลุงคุยเพลินๆอยู่กับแม่ค้าสวย ๆ เลยไม่กล้าเข้ามาค่ะ”ลุงพลชะงักสายตาที่เคยอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นความงุนงงปนหัวเราะ“หึงเหรอ?”“เปล่าสักหน่อย!”ฝ้ายยังคงทำปากแข็ง แต่ดวงตากลับแดงเรื่อเล็กน้อย ลุงพลมองเธออย่างรู้ทันเขารีบเดินเข้ามาใกล้ เธอ ก่อนจะก้มลงมากระซิบที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงต่ำพร่า“งั้นถ้าไม่ได้หึง… ก็แสดงว่าไม่หวง?”“ก็...”เธอยังไม่ทันพูดจบ ลุงพลก็คว้าเอวเธอเข้ามากอดแน่น มือใหญ่รวบสะโพกนุ่ม ๆ อย่างถนัดมือ“แต่ลุงหวงน
แสงแดดยามสายเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ใต้ต้นขนุนหน้าร้านข้าวโพด ลุงพลยืนคัดข้าวโพดใส่ตะกร้า โดยมีผ้าขนหนูพาดไหล่ ข้างกายมีขวดน้ำเย็นที่มีหยดน้ำเกาะวางอยู่ เขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกจับจ้องด้วยสายตาซุกซนจากมุมรั้วบ้าน“ลุง วันนี้มีข้าวโพดเหลือเยอะมั้ยคะ?”เสียงใส ๆ ดังมาจากทางถนน ฝ้ายเดินมาพร้อมชุดเสื้อกล้ามรัดรูป กางเกงขาสั้นเหนือเข่าที่เอชอบใส่เป็นประจำ ลุงพลชะงักไปเล็กน้อย สายตาหยุดอยู่ที่ปลายขาเรียวขาวอย่างอดไมได้“จะเลิกยั่วลุงมั่งได้มั้ย ยัยตัวแสบ”“หนูแค่มาซื้อข้าวโพดนะคะ ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”เธอเดินเข้ามาใกล้ แววตาฉายแววเจ้าเล่ห์ ในขณะที่มือก็ค่อยๆเลิกเสื้อกล้ามของตนเองขึ้นช้าๆ“วันนี้อากาศร้อน หนูเลยไม่ได้ใส่เสื้อซับในมาด้วย”ลุงพลเหลือบตามองอย่างระวัง มือหยุดคัดข้าวโพดโดยไม่รู้ตัว ฝ้ายเดินวนหลังแผงขายข้าวโพด ก่อนจะค่อยๆขยับเข้าไปแนบตัวเข้ากับแผ่นหลังเปื้อนเหงื่อของเขา กลิ่นสบู่ กลิ่นดิน กลิ่นเหงื่อของลุงพล ทำเอาหัวใจเธอเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ“หยุดเลย เดี๋ยวมีคนมาเห็น”“ลุงก็ปิดร้านไปสิ”เขาหันขวับมาอย่างเร็ว จับต้นแขนเธอแน่น สายตาเข้มขึ้น“หนูพูดแบบนี้ อย่าคิดว่าลุงจะใจดีเหม
สายลมยามเช้าพัดเอากลิ่นหญ้าชื้นโชยมาตามแถวข้าวโพด ฝ้ายเดินส่ายสะโพกน้อย ๆ มาตามแนวแปลงนาพร้อมกับร้องเพลงคลอเบา ๆ ในมือของหญิงสาวมีห่อข้าวต้มมัด วันนี้เธอใส่เสื้อยืดเอวลอย กับกางเกงผ้าร่มขาสั้นเหนือหัวเข่าที่ช่วยทำให้ต้นขาและสะโพกดูเด่นชัดกว่าทุกวัน“ลุง หนูเอาข้าวต้มมัดมาให้ค่ะ”เสียงหวาน ๆ ดังลอดเข้ามาในเพิงเก็บของลุงพลที่กำลังเช็ดเหงื่ออยู่เงยหน้าขึ้น ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นเด็กสาวยืนยิ้มอยู่กลางแสงแดด“แต่งตัวแบบนี้มาหาแต่เช้าเลยเหรอ?”“ก็แดดร้อน ใส่ยาว ๆ เดี๋ยวไม่สบาย”ฝ้ายยิ้มพลางยื่นข้าวต้มมัดให้ ลุงพลรับมาแต่สายตากลับยังไม่หลุดจากหน้าท้องแบนราบกับผิวเนียนนวลใต้เสื้อยืดสั้นนั่นเลยแม้แต่น้อย“ระวังลุงจะกินหนูแทนข้าวนะ”“ก็อยากให้กินอยู่แล้วนี่นา…”ฝ้ายเอ่ยตอบโต้ด้วยน้ำเสียงยั่วยวน ลุงชะงักไปวูบหนึ่ง ก่อนจะหรี่ตาเข้มขึ้น“หนูรู้ตัวมั้ย ว่ากำลังยั่วคนแก่อยู่ เดี๋ยวนี้ใจกล้าไม่เบาแล้วนะ”ฝ้ายวางข้ามต้มมัดลงบนแคร่ไม้ ก่อนจะเอ่ยกับลุงพล“ลุงรู้ตัวมั้ย ว่าหนูก็เริ่มติดใจลุงแล้วเหมือนกัน ถึงใจกล้ามาหาลุงแบบนี้ยังไงเล่า”เธอพูดจบก็เดินเข้าไปนั่งบนแคร่ไม้ในเพิง หยิบพัดกระดาษขึ้นมาพัดเบา ๆ แ