“คืนนี้ไปขายไส้กรอกกับลุงมั้ย?”
ลุงยอดถามขณะกำลังพลิกไส้กรอกบนเตาย่างหน้าร้าน ดาวที่กำลังยกแก้วน้ำแดงขึ้นดื่มเมื่อได้ยินก็เอ่ยถามกลับ
“ขายที่ไหนเลยเหรอคะ?”
“ตลาดนัดแถวโรงเรียน ไม่ไกลหรอก ลุงอยากมี ‘ผู้ช่วยส่วนตัว’ ไปด้วย”
เขาพูดพร้อมหันมามองเธอ สายตานั้นไม่ใช่แค่มองแบบอยากให้ช่วยขายของ แต่มันคือสายตาของคนที่อยากเอากับเธออีกสักครั้ง ดาวยิ้มหวาน รู้ทันทุกคำในแววตาเขา
“ไปค่ะ แต่หนูขอนั่งรอที่หลังกระบะนะ อยากนอนเล่นรอลุงขายของเสร็จ”
“ได้สิลูก”
ตลาดนัดเย็นวันศุกร์แน่นขนัดไปด้วยพ่อค้าแม่ขาย แสงหลอดไฟสีเหลือง ๆ สลัว ๆ สะท้อนกับผ้าใบกันแดดตามร้านผู้คนเดินกันจอแจเต็มไปหมด รถกระบะของลุงยอดจอดอยู่ท้ายตลาด โดยมีผ้าใบขึงคลุมส่วนท้ายเป็นซุ้มเล็ก ๆ สำหรับจัดของ
ดาวนั่งอยู่ข้างในสุดของรถกระบะตรงนั้นมีลังไส้กรอก แพ็คเกจซองพลาสติก ผ้ากันเปื้อนรวมไปเสื่อผืนหนึ่ง ลุงยอดขายของอยู่หน้าร้านคนเดินผ่านกันคึกคักแต่ไม่มีใครสังเกตว่าตรงกระบะท้ายรถ ดาวกำลังนอนอ้าขาอย่างสบายอารมณ์อยู่
“ลุงยอด”
ดาวแง้มผ้าใบออกแล้วเอ่ยเรียกเขาเบาๆ ลุงยอดหันมามองทันที
“หืม?”
“มันเปียกแล้วอ่ะ หนูนอนเฉย ๆ แล้วมันแฉะเลย ทำไงดี”
เธอเอ่ยออดอ้อน แล้วแกล้งแอ่นหน้าอกใส่
“คืนนี้อยากให้ลุงสอนเสียบไส้กรอกอีกเอาให้ แน่น ๆ เยิ้ม ๆไปเลย”
ลุงยอดเดินไปดูแลลูกค้าอีกไม่กี่คน เมื่อเห็นไม่มีลูกค้าแล้วก็รีบเดินเข้ามาหลังท้ายกระบะ แล้วรูดผ้าใบปิดลงจนมิด ภายในตอนนี้มืดสนิท มีเพียงแสงสลัวลอดช่องเข้ามาเล็กน้อยเท่านั้น
“หนูพูดเองนะ ว่าอยากโดนเอากลางตลาด”
ดาวนอนราบบนเสื่อ เสื้อยืดสีขาวเปิดจนเห็นหน้าอกเต็มเต้า กางเกงขาสั้นถูกถอดออกจนหมด เผยให้เห็นร่องกลับที่เปียกชุ่ม
“ค่ะ หนูอยากโดนเอาอีก”
ลุงยอดเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ใช้มือข้างหนึ่งตะปบสะโพกดาวเบาๆทำเอาดาวสั่นไปทั้งตัว เขาบอกให้ดาวนอนหงาย อ้าขาออกให้กว้าง ก่อนจะเอาหน้าซุกเข้าไปกลางขาและใช้ลิ้นอุ่น ๆ ตวัดใส่ร่องทันที
“อ๊า ลุง!! มันเสียวเกินไปแล้ว”
“อย่าครางดังนะลูก เดี๋ยวร้านข้าง ๆ ได้ยิน”
เขาเอ่ยกระซิบ แล้วอ้าปากดูดเม็ดเสียวต่อเขาออกแรงเลียอย่างช่ำชอง แล้วดูดเม็ดแรงๆจนน้ำดาวทะลัก ดาวถึงกับต้องเอาหมอนฟองน้ำมากัดเพื่อกลั้นเสียง มือเรียวจิกแขนลุงยอดแน่น หัวเข่าสั่นพั่บๆ
เขายังคงเลียอย่างเมามัน เสียงลิ้นสลับเสียงครางเบาๆ ดังก้องในรถกระบะเป็นระยะ
“หนูไม่ไหวแล้วลุง จะเสร็จแล้ว!”
“แตกเลยลูก”
เขาเร่งจังหวะให้ลิ้นให้เร็วแรงขึ้นเรื่อยๆ ดาวตัวบิดเร่าด้วยความเสียว อยากจะหุบขาแต่ลุงยอดกลับกดขาเธอให้อ้าออกจนสุดและแยงปลายลิ้นเข้าไปให้ลึกกว่าเดิม
“ลุง ฮือ อ๊า จะแตกแล้ว”
เอวบางของดาวร่อนขึ้นกลางอากาศ ก่อนที่ตัวเธอจะกระตุกเกร็ง หญิงสาวนอนหายใจเหนื่อยหอบ อ้าขาให้ลุงยอดดูดน้ำหวานจากรูของเธอจนสะอาด ลุงยอดที่กินน้ำของดาวจนอิ่มแล้วลุกขึ้นมานั่งคุกเข่าแล้วจับขาเธอยกขึ้นพาดบ่าเขา ดาวยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่
“หนูจะโดนเอากลางตลาดนัดแล้ว ลุงจะเอาให้ที่ท้ายรถนี่แหละ”
เขากดท่อนลำเสียบเข้าไปในร่องเสียวจนมิดลำในคราวเดียว ดาวสะดุ้งเฮือกทันที
“อ๊าาา ลุง! เสียวจังเลย! ลึกกกก!”
ลุงยอดขยับเอวเข้าออกช้า ๆ แล้วเร็วขึ้น
เสียงกระแทก “ปั่ก ปั่ก ปั่ก!” ให้เร็วแรงขึ้นเรื่อยๆจนดาวหัวสั่นหัวคลอน เขาก้มหน้าลงมากัดหัวนมเธอเบาและดูดทั้งเต้าซ้ายเต้าขวา มือก็ฟาดก้นไม่หยุด ทุกจังหวะทั้งดิบ เถื่อน และร้อนแรงเหลือเกิน“แรงพอมั้ยลูก? จะเอาแรงกว่านี้อีกมั้ย?”
“แรงๆเลยลุง!! หนูจะขาดใจแล้ว!”
เขาตั้งท่าใหม่จับเธอพลิกคว่ำในรถในท่าหมา
มือหนึ่งดึงผมเธอขึ้น ส่วนมืออีกข้างจับเอวเอาไว้ แล้วกระแทกต่อ“อ๊า!! ลุง!! มันสุด!! หนูรู้สึกเหมือนตรงนั้นจะแหกแล้ว!!”
ลุงยอดที่เห็นดาวร้องครางก็ยิ่งกระแทกย้ำตรงจุดเสียวจนดาวตัวเกร็ง น้ำทะลักเปื้อนเสื่อจนเปียกชุ่ม
“อ๊ะ อ๊ะ ลุง!! หนูจะ...!”
“แตกพร้อมกันนะลูก!! แตกพร้อมกัน!!!”
“ลุง!!! อ๊า!!!”
ร่างคนทั้งสองสั่นกระตุกดาวทรุดพับไปบนเสื่ออย่างหมดแรง น้ำอุ่น ๆ ไหลล้นจากช่องทางรักของเธอเป็นทางยาว
ลุงยอดดึงกางเกงเธอขึ้นให้เบา ๆ แล้วจูบหน้าผากอย่างอ่อนโยน
“เห็นมั้ย? ลุงไม่ได้โม้ ลุงเอากลางตลาดจริง”
ดาวยิ้มอย่างอ่อนแรง
“ลุงแม่ง ทำหนูติดใจจนหยุดไม่ได้แล้ว”
เสียงรถบัสจากในตัวอำเภอแล่นผ่านหน้าร้านข้าวโพดของลุงพลโดยมีฝ้ายยืนอยู่ตรงหน้าร้านมองไปที่รถบัสด้วยสายตาเหม่อลอย ในมือของเธอถือถุงใส่ของใช้ที่จำเป็นเพียงไม่กี่อย่างซึ่งเป็นของที่แม่เตรียมไว้ให้“จะไปจริง ๆ เหรอ?”เสียงทุ้มจากด้านหลังดังขึ้น ลุงพลเดินออกมาจากในร้านขายข้าวโพด วันนี้เขาสวมเสื้อกล้ามเปื้อนฝุ่น กางเกงผ้าธรรมดาเหมือนเช่นทุกวัน แต่วันนี้ดวงตาที่จ้องมองมายังฝ้ายนั้นออกจะเจือความเศร้าใจอยู่ไม่น้อยฝ้ายหันมายิ้มให้ลุงพล ก่อนจะเอ่ยตอบ“ก็ต้องไปเรียนต่อที่ในเมืองนี่คะ ลุงก็รู้”เมื่อได้ยินอย่างนั้นลุงพลก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบข้าวโพดฝักหนึ่งที่เหลืออยู่เพียงฝักเดียวในตะกร้ายื่นส่งให้กับฝ้าย“ฝักสุดท้ายของวันนี้ และอาจจะเป้นฝักสุดท้ายของฤดูกาลนี้ด้วย”“หนูอยากได้ฝักข้าวโพดในกางเกงลุงมากกว่า”ฝ้ายพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ แววตาฉายแววขี้เล่นก่อนจะเบือนสายตาไปทางอื่น“ไม่ขำเลยนะ”ลุงพลเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ มือใหญ่เอื้อมมาแตะปลายผมของเธอที่ถูกรวบไว้หลวม ๆ อย่างอ่อนโยน“ตั้งแต่วันแรกที่หนูเดินเข้ามาขอซื้อข้าวโพด ลุงก็ตกหลุมรักหนูแล้ว”“แล้วตอนนี้ ยังรักอยู่หรือเปล่า
กลิ่นน้ำมันเจียวกระเทียมลอยคลุ้งอยู่ในห้องครัวไม้หลังบ้าน ฝ้ายในชุดเสื้อยืดกับผ้าถุงสีชมพู กำลังยืนทำกับข้าวด้วยหน้าตาจริงจัง เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นเต็มหน้าผาก เธอยกมือขึ้นเช็ดหน้าผากพร้อมกับสบถออกมาเบาๆ“เห้อ ทำไมหมูมันติดกระทะแบบนี้ล่ะ?”เสียงบ่นดังขึ้น พร้อมกลิ่นไหม้อ่อน ๆ ที่ลอยโชยออกจากกระทะ เธอหยิบตะหลิวพยายามกลับหมู แต่หมูเจ้ากรรมกลับติดกระทะจนมันเริ่มจะไหม้ทั้งสองฝั่ง“ทำอะไรน่ะ?”เสียงลุงพลดังขึ้นจากประตูหลังบ้าน เขายืนพิงขอบประตู ชายวัยกลางคนวันนี้เสื้อกล้ามเก่า ๆ กับกางเกงผ้าขายาว สายตาที่มองฝ้ายทั้งขำทั้งเอ็นดู ฝ้ายที่เห็นว่าลุงพลหัวเราะตนก็ยู่ปากพร้อมเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์“หนูจะทำกับข้าวให้ลุงกินไงคะแต่ไม่สำเร็จสักที ดูสิไหม้หมดแล้ว”ลุงพลที่ได้ยินอย่างนั้นก็เดินเข้ามาหาสาวเจ้าพลางเอ่ยเสียงเข้ม“แบบนี้ต้องโดนทำโทษ”“ไม่เอานะ ลุงอย่าหาเรื่องแกล้งหนูเลยน้า”ฝ้ายถอยหลังหนีเล็กน้อย แต่กลับเหยียบผ้าขี้ริ้วจนลื่นล้มลงไปนั่งบนพื้นไม้พอดี“โอ๊ย!”“ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”ลุงพลรีบเดินเข้ามาประคอง ฝ้ายส่ายหน้ารัว ๆเพื่อบอกว่าเธอไม่เป็นอะไร แต่ไม่นานนักใบหน้าเธอก็ร้อนวาบเมื่อรู้ว่าตอนนี้ตั
ลุงพลยืนมองไร่อ้อยที่เพิ่งถอนหญ้าเสร็จด้วยแววตาที่เหนื่อยล้า กลิ่นหญ้าเปียก สายลมอ่อน ๆ และแสงแดดยามบ่ายทำให้เหงื่อซึมทั่วแผ่นหลังเขาจนเปียกชุ่ม เขาเช็ดหน้าตนเองเบา ๆ ด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก แล้วก้มลงถอนหญ้าแถวสุดท้ายโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้ฝ้ายแอบยืนมองดูเขาอยู่ตรงมุมร่มไม้ไม่ไกลนักเด็กสาวอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวเล็กกับกางเกงยีนส์ขาสั้นเช่นที่ชอบสวมเหมือนทุกวัน ริมฝีปากแดงเม้มแน่นน้อย ๆ ดวงตาจับจ้องแผ่นหลังของลุงแน่นิ่ง“ลุงทำงานไม่พักเลยนะ”“ก็ต้องรีบเก็บอ้อยก่อนฝนลง” เขาตอบเสียงนิ่งโดยไม่หันมา“เหนื่อยมั้ยคะ?”“ก็ ถ้ามีคนมาให้หอมหน่อยก็อาจจะหายเหนื่อยนะ”ฝ้ายยิ้มบางๆก่อนจะเดินเข้าไปใกล้และเอาผ้าขนหนูอีกผืนที่เธอพกมาด้วยช่วยเช็ดเหงื่อให้เขา“ลุงรู้มั้ย ว่าหนูชักจะหวงลุงขึ้นทุกวันแล้วนะ”ฝ้ายมีท่าทีแง่งอนอย่างเห็นได้ชัด ที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพราะวันนั้นลุงพลไปสนทนาพูดคุยกับแม่ค้าคนนั้น ลุงพลเองก็รู้ว่าฝ้ายหึงจึงเอ่ยปลอบประโลม“แต่ลุงก็เป็นของหนูอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ จะหึงหวงทำไมกัน”เขาหันมายิ้มมุมปาก พร้อมวางมือลงบนสะโพกเธอเบา ๆ ฝ้ายทำท่าทีปัดมือเขาออกและเอ่ยอย่างไม่ชอบใจ“แต่ลุงก็ยังไปยิ้มให้แม่ค้
แสงแดดยามบ่ายที่แผดเผาร้อนแรงไม่ได้ทำให้ฝ้ายรู้สึกร้อนเท่าภายในใจ เมื่อเธอยืนมองจากมุมไกล เห็นลุงพลกำลังพูดคุยกับแม่ค้าคนใหม่ที่มาเช่าร้านข้าง ๆ ผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะอายุราว ๆ สามสิบปี หน้าตาสะสวย ปากแดง ผิวขาว พูดจาหัวร่อต่อกระซิกกับลุงพลอย่างสนิทสนม“ยิ้มหน้าบานเชียวนะลุงพล”ฝ้ายเอ่ยพึมพำกับตัวเอง ขณะที่ยืนหลบอยู่หลังต้นกล้วย ร่างกายของเธอร้อนผ่าว ดวงตาเริ่มขุ่นมัวด้วยความหึงหวงโดยไม่รู้ตัว เวลาผ่านไปพักใหญ่ เธอก็เดินกระแทกเท้าเข้าไปที่ร้านข้าวโพด เสียงรองเท้ากระแทกพื้นไม้ทำให้ลุงพลถึงกับต้องหันมามอง เมื่อเห็นว่าเป็นฝ้ายจึงเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม“วันนี้มาสายนะฝ้าย”“เห็นลุงคุยเพลินๆอยู่กับแม่ค้าสวย ๆ เลยไม่กล้าเข้ามาค่ะ”ลุงพลชะงักสายตาที่เคยอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นความงุนงงปนหัวเราะ“หึงเหรอ?”“เปล่าสักหน่อย!”ฝ้ายยังคงทำปากแข็ง แต่ดวงตากลับแดงเรื่อเล็กน้อย ลุงพลมองเธออย่างรู้ทันเขารีบเดินเข้ามาใกล้ เธอ ก่อนจะก้มลงมากระซิบที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงต่ำพร่า“งั้นถ้าไม่ได้หึง… ก็แสดงว่าไม่หวง?”“ก็...”เธอยังไม่ทันพูดจบ ลุงพลก็คว้าเอวเธอเข้ามากอดแน่น มือใหญ่รวบสะโพกนุ่ม ๆ อย่างถนัดมือ“แต่ลุงหวงน
แสงแดดยามสายเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ใต้ต้นขนุนหน้าร้านข้าวโพด ลุงพลยืนคัดข้าวโพดใส่ตะกร้า โดยมีผ้าขนหนูพาดไหล่ ข้างกายมีขวดน้ำเย็นที่มีหยดน้ำเกาะวางอยู่ เขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกจับจ้องด้วยสายตาซุกซนจากมุมรั้วบ้าน“ลุง วันนี้มีข้าวโพดเหลือเยอะมั้ยคะ?”เสียงใส ๆ ดังมาจากทางถนน ฝ้ายเดินมาพร้อมชุดเสื้อกล้ามรัดรูป กางเกงขาสั้นเหนือเข่าที่เอชอบใส่เป็นประจำ ลุงพลชะงักไปเล็กน้อย สายตาหยุดอยู่ที่ปลายขาเรียวขาวอย่างอดไมได้“จะเลิกยั่วลุงมั่งได้มั้ย ยัยตัวแสบ”“หนูแค่มาซื้อข้าวโพดนะคะ ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”เธอเดินเข้ามาใกล้ แววตาฉายแววเจ้าเล่ห์ ในขณะที่มือก็ค่อยๆเลิกเสื้อกล้ามของตนเองขึ้นช้าๆ“วันนี้อากาศร้อน หนูเลยไม่ได้ใส่เสื้อซับในมาด้วย”ลุงพลเหลือบตามองอย่างระวัง มือหยุดคัดข้าวโพดโดยไม่รู้ตัว ฝ้ายเดินวนหลังแผงขายข้าวโพด ก่อนจะค่อยๆขยับเข้าไปแนบตัวเข้ากับแผ่นหลังเปื้อนเหงื่อของเขา กลิ่นสบู่ กลิ่นดิน กลิ่นเหงื่อของลุงพล ทำเอาหัวใจเธอเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ“หยุดเลย เดี๋ยวมีคนมาเห็น”“ลุงก็ปิดร้านไปสิ”เขาหันขวับมาอย่างเร็ว จับต้นแขนเธอแน่น สายตาเข้มขึ้น“หนูพูดแบบนี้ อย่าคิดว่าลุงจะใจดีเหม
สายลมยามเช้าพัดเอากลิ่นหญ้าชื้นโชยมาตามแถวข้าวโพด ฝ้ายเดินส่ายสะโพกน้อย ๆ มาตามแนวแปลงนาพร้อมกับร้องเพลงคลอเบา ๆ ในมือของหญิงสาวมีห่อข้าวต้มมัด วันนี้เธอใส่เสื้อยืดเอวลอย กับกางเกงผ้าร่มขาสั้นเหนือหัวเข่าที่ช่วยทำให้ต้นขาและสะโพกดูเด่นชัดกว่าทุกวัน“ลุง หนูเอาข้าวต้มมัดมาให้ค่ะ”เสียงหวาน ๆ ดังลอดเข้ามาในเพิงเก็บของลุงพลที่กำลังเช็ดเหงื่ออยู่เงยหน้าขึ้น ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นเด็กสาวยืนยิ้มอยู่กลางแสงแดด“แต่งตัวแบบนี้มาหาแต่เช้าเลยเหรอ?”“ก็แดดร้อน ใส่ยาว ๆ เดี๋ยวไม่สบาย”ฝ้ายยิ้มพลางยื่นข้าวต้มมัดให้ ลุงพลรับมาแต่สายตากลับยังไม่หลุดจากหน้าท้องแบนราบกับผิวเนียนนวลใต้เสื้อยืดสั้นนั่นเลยแม้แต่น้อย“ระวังลุงจะกินหนูแทนข้าวนะ”“ก็อยากให้กินอยู่แล้วนี่นา…”ฝ้ายเอ่ยตอบโต้ด้วยน้ำเสียงยั่วยวน ลุงชะงักไปวูบหนึ่ง ก่อนจะหรี่ตาเข้มขึ้น“หนูรู้ตัวมั้ย ว่ากำลังยั่วคนแก่อยู่ เดี๋ยวนี้ใจกล้าไม่เบาแล้วนะ”ฝ้ายวางข้ามต้มมัดลงบนแคร่ไม้ ก่อนจะเอ่ยกับลุงพล“ลุงรู้ตัวมั้ย ว่าหนูก็เริ่มติดใจลุงแล้วเหมือนกัน ถึงใจกล้ามาหาลุงแบบนี้ยังไงเล่า”เธอพูดจบก็เดินเข้าไปนั่งบนแคร่ไม้ในเพิง หยิบพัดกระดาษขึ้นมาพัดเบา ๆ แ