วันนี้รถติดกว่าทุกวันแถมยังร้อนอบอ้าวอีก แสงแดดที่ส่องมาทำให้เหงื่อที่ผุดขึ้นตามใบหน้าหวาน ในตอนนี้มันกลับเปล่งประกายจนสายตาชายหนุ่มไม่อาจละสายตาจากใบหน้าหวานนั่นได้เลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน ที่ทำให้เขาเอามือล้วงลงไปที่กระเป๋ากางเกงแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าออกมายื่นให้กับเธอ
มือใหญ่ที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้เธอตรงหน้า โดยไม่ได้มีคำพูดอะไรออกมา น้ำอิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจกับการกระทำของลุงที่ยืนอยู่ด้านหลัง ใจหนึ่งก็ดีใจจนอยากจะแสดงออกให้มากกว่านี้ แต่ก็นั่นแหละ พอเป็นคนที่เราสนใจตัวเรามักจะแข็งทื่อ ทำอะไรไม่ถูก จึงได้แต่เอียงหน้าขึ้นมองคนข้างหลัง
"อะไรเหรอคะ คุณลุง" ถึงแม้ว่าน้ำอิงจะรู้ว่ามันหมายถึงอะไร แต่เธออยากได้ยินเสียงของเขา เธอจึงแกล้งถามออกไปแบบใสซื่อ
สิงห์แทบจะหลุดหัวเราะกับคำที่เธอใช้เรียกเขา ก็ไม่แปลกนักศึกษามหาลัยที่เหมือนกับเป็นเด็กใหม่ เพราะดูจากการแต่งตัวแล้วคงใช่แน่นอน คาดว่าน่าจะห่างกันราวเกือบยี่สิบปีเห็นจะได้ และแน่นอนว่าเขาไม่พูดอะไร เขาเอาแต่จ้องมองใบหน้าเธอไม่หยุด
"ถ้าคุณลุงไม่พูด หนูจะรู้ได้ยังไงล่ะคะ" น้ำอิงยังไม่ยอมแพ้ เธอหันหน้าไปถามเขาตรงแบบตาใสแป๋ว
ผิดคาดสิงห์ไม่พูดอะไรออกไป เอากำลังจะเก็บผ้าเช็ดหน้าลงที่กระเป๋ากางเกง แต่กลับถูกมือเล็กยื้อเอาไว้พร้อมกับรีบดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากมือใหญ่ทันที
"..."
"ขี้น้อยใจเหมือนกันนะคะ" น้ำอิงพูดพร้อมกับเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดตามใบหน้าและลำคอขาว ทุกอย่างล้วนอยู่ในสายตาของสิงห์ ที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะพูดตอบโต้อะไรกับน้ำอิง
"ป้ายหน้ามหาลัยXXครับ" เสียงของพนักงานเก็บค่าโดยสารตะโกนออกมาเพื่อบอกเหล่านักศึกษาบนรถให้เตรียมตัว
"คุณลุงทำงานที่ไหนเหรอคะ"
"คือ...หนูจะได้ซักผ้าเช็ดหน้ามาคืนคุณลุงค่ะ" สิงห์ยังคงยืนนิ่งเงียบ ไม่ได้ตอบโต้อะไรออกไปและตอนที่เธอหันมามองแบบจ้องหน้าเขาอีกครั้ง นั่นทำให้เขาถึงกับเลิกคิ้วกับคนตรงหน้า 'เด็กคนนี้ไม่กลัวเขาหรือไงกัน' และเธอก็ได้คำตอบออกมาในที่สุด
"เอาทิ้งไปได้เลย"
"ก็พูดได้นี่ค่ะ ถ้างั้นพรุ่งนี้เจอกันเวลาเดิม บนรถเมล์ก็แล้วกันนะคะ อ๋อ! เว ลา เดิม นะ คะ" น้ำอิงพูดย้ำเพื่อให้เขาได้ยินอย่างชัดเจน
"เจอกันพรุ่งนี้เช้านะคะคุณลุง" น้ำอิงพูดก่อนที่จะเดินไปที่ประตูรถเมล์เพื่อรอให้รถเมล์จอดให้สนิทเมื่อถึงป้ายของมหาลัย
สิงห์รู้...เขารับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่น้ำอิงมีให้กับเขา แต่ทว่าเขายังไม่พร้อมที่จะเริ่มกับใครใหม่แล้วอีกอยางเธอเด็กเกินไป จังหวะที่รถเมล์จอดอยู่ที่หน้ามหาลัยนั้น สายตาของสิงห์แปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองทันที ภาพหน้ามหาลัยที่มีเขากับดอกแก้วยืนใกล้ชิดกันและหยอกล้อกันระหว่างที่เขารอขึ้นรถเมล์กับดอกแก้ว
ดอกแก้วชอบขึ้นรถเมล์มากกว่าจะนั่งรถยนต์ส่วนตัวของสิงห์ เธอบอกว่าแบบนี้เรียกว่าสีสันของชีวิต เธออยากจะทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆถ้าสิงห์ไม่ว่าอะไร และแน่นอนเขาตามใจดอกแก้วทุกอย่าง ขอแค่บอกเขาเท่านั้นเอง
ทันทีที่ลงจากรถเมล์น้ำอิงหันหลังกลับแล้วรีบมองไปที่บนรถเมล์ทันที ถึงแม้เขาจะไม่ได้มองลงมาที่เธอก็ตาม
"พรุ่งนี้เจอกันนะคะ" น้ำอิงพูดลอยๆขึ้นมาแล้วหันหลังกลับก่อนจะเดินเข้ามหาลัย
"ไปหาที่นอนก่อนดีกว่า" เท้าเล็กก้าวเดินเร็วไปที่หอสมุดทันที
"ลงป้ายหน้า" สิงห์หันไปบอกมือขวาก่อนที่จะเดินตามมือขวาไปที่ประตูรถเมล์
"ไปบ้าน" ทันที่ที่ขึ้นมาบนรถยนต์ส่วนตัว สิงห์ก็บอกคนขับรถที่พ่วงตำแหน่งมือซ้ายอย่างชนินทร์
"ครับนาย"
คฤหาสน์ตระกูลเสนีต์
คฤหาสน์หรูที่โอบล้อมด้วยสวนกว้างที่ถูกตกแต่งอย่างประณีต ทางเดินปูด้วยหินอ่อนขัดมันวาววับนำไปสู่บันไดหินแกรนิตสีเทาเข้ม ขายาวก้าวเข้ามาภายในห้องโถงใหญ่ก่อนจะเดินเลยผ่านไปยังห้องรับแขกที่มีพ่อและแม่กำลังนั่งดูโทรทัศน์รายการข่าวช่วงเช้า
"มาให้แม่กอด ให้หายคิดถึงที"
"ครับ" สิงห์เดินไปนั่งข้างๆโซแอลคนเป็นแม่ก่อนจะโอบกอดแล้วหอมแก้มคนเป็นแม่ทั้งสองข้างแก้มเพราะสิงห์รู้ดีว่าแม่ของเขาชอบให้ตนเองหอมแก้ม ก่อนจะเปลี่ยนไปนั่งตรงกลางระหว่างเจ้าป่าคนเป็นพ่อ กับโซแอลคนเป็นแม่
"พ่อมีเรื่องอะไรเหรอครับ ถึงเรียกผมมาบ้าน" สิงห์ถามขึ้นทันที เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องจำเป็นพ่อเขาคงไม่ตามให้กลับมาบ้านอย่างแน่นอน
"โซแอล..คุณพูดดีกว่า" เจ้าป่าเขารู้ว่าถ้าเขาพูดมันอาจจะดูไม่นุ่มนวลเสียเท่าไหร่นัก เขาจึงมองไปที่โซแอลแล้วให้โซแอลเป็นคนพูดน่าจะดีกว่า
"เอาล่ะ! แม่ขอพูดตรงๆก็แล้วกันนะ" โซแอลพูดขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือของตนเองไปกุมมือของลูกชาย และเขาในฐานะพี่ชายคนโต เขาจะต้องเป็นคนสืบทอดทุกอย่าง รอวันที่ไลออนโตพอจะได้มาช่วยกัน ให้พี่น้องเขาได้แบ่งหน้าที่กันเอง
"แม่..." โซแอล
"พูดมาเถอะครับ ผมทำใจได้แล้วถ้าไม่อย่างนั้นผมคงไม่กลับมาที่ประเทศไทย" สิงห์พูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบบอกถึงว่าเขาทำใจได้แล้วจริงๆกับเรื่องราวที่ผ่านมา
สิงห์มองหน้าคนเป็นแม่ เขาดูรู้ว่าเรื่องที่แม่จะพูดคงไม่พ้นเรื่องแต่งงาน ด้วยอายุของเขามันสมควรแก่เวลาแล้วจริงๆ
น้ำอิงหยิบพวงกุญแจมาเปิดประตูห้องวางถุงกระดาษลงบนโซฟา แล้วก็ตรงไปยังห้องนอนก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงไม้เล็กๆที่มีฟูกบางๆอยู่ เธอนอนลืมตามองเพดานที่มีพัดลมหมุนกระจายความเย็นดั่งกับลมเย็นในหน้าร้อน ด้วยสมองที่ว่างเปล่าก่อนจะผล็อยหลับไปในที่สุดอพาร์ตเมนต์ชั้นแปดตึกบี01.20น. "ห้องนี้?" ทั้งๆที่ตนเองเพิ่งพูดไปว่า เธออย่ามารักฉันเลย แต่เขากำลังทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม"ครับนาย" ชนินทร์ตอบเสร็จเขาก็หันไปงัดลูกบิดเพื่อเปิดประตูห้องให้กับเจ้านาย"ทำไมไม่เปิดดีๆ" สิงห์พูดด้วยน้ำเสียงที่สงสัยปนหงุดหงิดเมื่อเห็นคนของตนกำลังงัดห้องของน้ำอิง"ผมไม่ได้เอากุญแจผีมาครับ ขอโทษครับ!" ชนินทร์พูดแล้วก้มศีรษะลงเล็กน้อยอย่างรู้สึกผิด แต่สิงห์ก็ยกมือขึ้น เพื่อบอกว่าไม่เป็นไร พร้อมกับพูดขึ้นมาก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง"จัดการประตูให้เรียบร้อย""ครับนาย"หลังจากที่สิงห์ได้อ่านประวัติของน้ำอิงที่ถูกวางใส่ซองเอกสารสีน้ำตาลไว้บนหัวเตียง ไม่บอกก็รู้ว่าองอาจเป็นคนเอาวางไว้ให้เขาตอนที่เขากำลังอาบน้ำอยู่ และสิ่งที่เขาอ่าน มันทำให้เขารู้สึกอยากจะมาหาน้ำอิงเสียดื้อๆในตอนกลางดึกแบบนี้ทันทีที่สิงห์ก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องที่
ภายในห้องรับแขกคอนโดหรูของสิงห์หลังจากวางสายจากหัวหน้าแผนก น้ำอิงเดินเอาชามโจ๊กกับแก้วน้ำไปล้างแล้วเดินมานั่งที่โซฟาตัวยาว กดเข้ากลุ่มแชทเพื่อถามเรื่องที่ตนเองมาอยู่ที่ห้องของลุงได้ยังไงLINE (เพื่อนกัน3)น้ำอิง "จอม ไลออน เรามาอยู่ที่ห้องลุงได้ยังไงเหรอ"น้ำอิง "แล้วจอมกับไลออนรู้จักลุงด้วยเหรอ"จอม "ไลออน.."ไลออน"ลุง?..อ๋อหมายถึงคนที่มารับเธอใช่ป่าว"น้ำอิง "ใช่ นายรู้จัก?"ไลออน"เดี๋ยวโทรหาดีกว่า เรื่องมันยาว"น้ำอิง "อือ ตอนนี้เลยนะ"ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงหลังจากวางสายจากไลออน น้ำอิงนั่งนิ่งอยู่นาน ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่ความว่างเปล่า นี่เธอกำลังจีบมาเฟียอยู่เหรอ แถมยังรวยมีเงินมากมาย ลุงเขาจะคิดว่าเธอหวังสมบัติหรือเปล่านะ เธอคิดวนเรื่องของสิงห์จนท้องเริ่มร้องอีกครั้ง"กองทัพต้องเดินด้วยท้อง"เธอพูดเสร็จก็ตรงไปที่ครัวทันทีเปิดตู้เย็นและตู้ต่างๆเพื่อดูว่าพอมีอะไรที่พอจะทำกินได้บ้าง ตู้เย็นที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบต่างๆ อาหารสำเร็จรูปเต็มตู้ ทำให้เธอถึงกลับนึกไม่ออกว่าจะทำอะไร เพราะมีแต่ของน่ากินทั้งนั้น"มาม่าใส่ไข่ใส่ผักดีที่สุด..อืมม ไม่ได้สิต้องทำอะไรให้ลุงกินด้วย""ต้มยำกับไข่เจ
17.30น.เปลือกตาบางค่อยๆลืมตาขึ้นมา แสงสลัวจากโคมไฟที่โต๊ะหัวเตียงพอทำให้เธอได้เห็นว่าที่นี่ที่ไหน ถึงแม้เธอจะเคยเข้ามาแค่ครั้งเดียวก็ตาม"ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นมากินข้าวจะได้กินยา" เป็นจังหวะที่สิงห์เปิดประตูเข้ามาพอดี ก็เห็นน้ำอิงนอนลืมตาอยู่"ไม่ต้องถามเยอะ" สิงห์พูดขัดทันทีเมื่อเห็นว่าน้ำอิงกำลังจะอ้าปากถามตนเอง"ฉันไม่ป้อนหรอกนะ กินเอาเอง" สิงห์วางโจ๊กกับยา ที่เขาสั่งคนของเขาให้ไปซื้อเอาไว้ให้ พร้อมกับถุงกระดาษที่มีเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงวางไว้ที่ข้างเตียงก่อนจะเดินไปนั่งโซฟาขนาดกลางที่ปลายเตียง"ก็ได้ค่ะ ไม่ถามอะไรก็ได้แล้วก็กินโจ๊กก็ได้แต่ไม่กินยาได้ไหมคะ""เรื่องมาก" ถึงจะได้ยินคำบ่น แต่มันกลับทำให้เธอรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก 'คนอะไรแก่แล้วยังขี้บ่น แต่ก็ยังดูดี'สิงห์เหมือนโดนสะกดให้หยุดมองใบหน้าหวานที่กำลังอมยิ้มไปกินโจ๊กไปแถมยังฮัมเพลงอีกต่างหาก"นี่เธอป่วยจริงไหม""ป่วยจริงสิค่ะ แต่ตอนนี้หายแล้วเพราะหนูมียาดี" สิงห์ถึงกลับเลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนจะหรี่ตาอย่างจับผิด"ฉันเพิ่งให้ยาเธอและเธอก็ยังไม่ได้กิน" น้ำเสียงที่ราบเรียบแต่ก็แฝงไปด้วยความสงสัย"อย่าทำหน้าเหมือนอยากรู้คำตอบแบบนั้นสิ
ใต้ตึกคณะลมเย็นๆ พัดผ่านใบหน้าหวานที่ตอนนี้เอากระเป๋าผ้ามาเป็นหมอนหลับตาสนิทพร้อมกับลมหายใจเข้าออกที่สม่ำเสมอ"โทรหาพี่ชายแล้วใช่ไหม""อือ..ขอบใจนะที่ช่วยเรา""น้ำอิงก็เพื่อนเราเหมือนกัน ถ้าน้ำอิงสมหวังฉันก็ดีใจกับน้ำอิงและก็พี่ชายนายด้วย""เราน่ะ..อยากให้พี่เราได้มีความสุขเสียที" มือเล็กยกขึ้นตบไปที่หัวไหล่หนาเพื่อเป็นการปลอบใจผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง รถยนต์คันหรูตบไฟเลี้ยวข้างซ้ายก่อนจะชะลอแล้วจอดข้างริมฟุตบาท สายตาคมมองภาพตรงหน้านิ่งๆก่อนเปิดประตูลงไปหาน้องชายที่กำลังเดินมาที่รถ"นึกยังไงวันนี้ให้พี่มารับ""คืออย่างนี้นะครับ น้ำอิง เพื่อนผมเขาดูไม่ค่อยสบายแล้วตอนนี้ก็หลับสนิท ผมกับเพื่อนผมเลยอยากจะให้พี่สิงห์ช่วยไปส่งเธอหน่อยได้ไหมครับ"เป๊ะ!.. ไลออนพูดขึ้นในใจ ในขณะที่ทำสายตาปริบๆเพื่ออ้อนพี่ชาย"แล้วสองคนจะไปไหนกัน""อ๋อ..ผมกับเพื่อนมีเขียนใบงานส่งเย็นนี้ครับ แล้วเราจะทำเผื่อน้ำอิงด้วยครับพี่สิงห์""อืม" สิงห์ตอบรับน้องชายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ"เดี๋ยวผมส่งโล..""ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่จัดการเอง""ครับ!!"วันนี้เหมือนทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่แม่โซแองวางไว้ ทุกคนให้ความร่วมมืออย่างดีรวมไ
Trigger WarningBlood, กักขังหน่วงเหนี่ยวบรรยากาศภายในรถที่ค่อนข้างเงียบ คนเป็นน้องชายอย่างไลออนเป็นคนที่พูดไม่ค่อยเก่ง แต่ในเมื่อเขาได้เข้าร่วมแผนการนี้แล้วยังไงก็คงจะหยุดไม่ได้แล้ว แต่ทว่ากลับเป็นสิงห์พี่ชายของเขาเป็นคนเริ่มบทสนทนาก่อน"พี่..ขอโทษ..ที่ไม่ได้อยู่ดูแลนาย" ประโยคแรกที่พี่ชายเขาพูด กลับเป็นเรื่องราวของพวกเขาสองคนเมื่อสิบปีก่อน ไลออนนิ่งเงียบไปไม่กี่วิก็รีบตอบกลับพี่ชายของตนเองทันที"พี่สิงห์ไม่เคยผิด ทุกคนไม่มีใครผิด เพียงแต่ทุกคนล้วนต้องเดินไปตามเส้นทางที่ควรจะต้องเป็นไป" ไลออนพูดพลางหันไปมองหน้าพี่ชายของตนเอง"ไปเพื่อที่จะได้กลับมา เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งยังไงล่ะครับ" แววตาที่สื่อออกไป มีทั้งความเป็นห่วง คิดถึงและ..เขาอยากจะกอดพี่ชายคนนึ้หลังจากที่ไม่ได้กอดมาสิบปีสิงห์หันหน้ามามองน้องชายของตนเอง เขาเข้าใจในสิ่งที่ไลออนต้องการจะสื่อ สุดท้ายคนปากหนักอย่างพี่ชายเขาก็หันหน้าไปมองริมทางผ่านกระจกสีดำทึบราวเกือบครึ่งชั่วโมงรถยนต์คันหรูก็ขับเคลื่อนมาจอดที่หน้าคณะที่ไลออนเรียนอยู่ และเมื่อรถยนต์จอดสนิท ไลออนก็ก้าวเท้าลงจากรถพร้อมสายตาที่สอดส่องมองหาใครบางคน"ยังไม่มาอีกเห
"...ลุง!!"สิงห์ได้ยินเสียงคนตรงหน้าเรียกเป็นครั้งที่สอง เขาจึงล้มตัวลงนอนต่อพร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขานอนโดยที่ไม่ได้ห่มผ้าเลยด้วยซ้ำแถมยังนอนถอดเสื้ออีกด้วย"นี่ลุง..ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะ" เธอถามด้วยความสงสัยเพราะว่าก่อนหน้านี้เธอเห็นว่าเขาขึ้นรถเมล์ นั่นก็น่าจะหมายถึงว่าลุงของเธอคนนี้ไม่น่าจะรวย..เอ๊ะ!..หรือว่า"ลุง เป็นเจ้าของห้องนี่เหรอคะ"สิงห์ที่ได้ยินคำถามถึงสองคำถามก็ทำให้เขาถึงกับพ่นลมหายใจออกมาก้อนใหญ่ๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งจนทำให้ผ้าห่มมากองไว้ที่หน้าตักของตัวเอง"ห๊ะลุง..โป๊!!" ถึงจะรู้สึกตกใจกับคนตรงหน้า แต่สายตาก็อดไม่ได้ที่มอง ผู้ชายอะไร..ดูดีเป็นบ้าอย่างกับหนุ่มๆที่เธอเคยเห็นตามโซเชียลที่เต้นลงแอปแล้วโพสโชว์มัดกล้าม วันนี้เธอเพิ่งจะเห็นของจริง ทำเอาตาค้างเลยแหะ..สิงห์ที่เห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าเอาแต่จ้องมองช่วงอกแกร่งของตัวเอง เขาจึงนึกอยากจะทำอะไรที่มันสนุกๆขึ้นมาแล้วสิ เขาลุกขึ้นจากเตียงขนาดคิงไซต์ แล้วเดินตรงเข้ามาระยะประชิด จนทำให้น้ำอิงก้าวถอยหลังจนไปชนกับประตูก่อนจะถูกแขนแกร่งค้ำยันประตูเอาไว้แล้วก้มหน้าลงมาที่ใบหูเล็กแล้วถามออกไปด้วยน้ำเสี