เข้าสู่ระบบรันเวย์’s Part
“อ้าว! หลับแล้วเหรอวะ” ผมพึมพำกับตัวเอง และมองไปยังร่างบางตรงหน้าที่นั่งหลับอยู่บนโซฟา ลังเลอยู่ว่าจะปลุกเธอขึ้นมาดีมั้ย แต่ฟังจากเสียงลมหายใจเข้าออกที่สม่ำเสมอนั่นคิดว่าเธอคงหลับสนิทแล้ว
งั้นปล่อยให้นอนไปแล้วกัน โมอา : )
ใช่ครับ! ผมรู้จักเธอ เราอยู่หอเดียวกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ที่จริงห้องเราอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน แต่เธออาจจะไม่ได้สังเกตเห็นผม
หอของพวกเราจะเป็นลักษณะตัวยู และพื้นที่ตรงกลางเมื่อมองลงไปก็จะเห็นสวนที่อยู่ด้านล่างของหอพอดี ทำให้ถึงแม้ห้องของเราจะอยู่ตรงข้ามกัน แต่มันก็คนละฝั่ง ถ้าจะเดินมาหากันก็ต้องเดินอ้อมไป ทำให้เธออาจจะไม่เคยเห็นผมก็เป็นได้
ผมเจอเธอตั้งแต่เข้าปีหนึ่งมาแรกๆ เลย ด้วยหน้าตาที่สวยมากและบุคลิกที่ดูสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น
โมอามีผมสีน้ำตาลที่ยาวจนถึงกลางหลัง ขับให้ผิวสีน้ำผึ้งของเธอดูโดดเด่นขึ้น เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กคิดว่าไม่น่าเกิน 160 ด้วยซ้ำ แต่กลับมีเซ็กแอพพีลสูงมาก แค่เดินผ่านก็ต้องเหลียวหลังกลับไปมอง
ใช่ครับ...
ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เหลียวหลังมองทุกครั้งที่เห็นเธอ
แต่ผมไม่เคยได้มีโอกาสเข้าไปทำความรู้จักกับเธอเลย ปกติผมไม่ค่อยเข้าหาใครด้วย มีแต่ผู้หญิงที่เข้าหาผมไม่หยุดหย่อน หึๆ
แต่วันนี้ตอนผมกลับมาจากข้างนอกผมเห็นเธอนั่งฟุบอยู่หน้าห้อง และดูท่าเธอน่าจะเมาด้วย ปล่อยผ่านไปคงไม่ได้ แล้วยิ่งเห็นชุดที่เธอใส่วันนี้แล้วก็ต้องแอบกลืนน้ำลายอยู่เหมือนกัน ถึงแม้มันจะไม่ได้โป๊อะไร แต่พอมันอยู่บนตัวเธอมันกลับดูเซ็กซี่เป็นอย่างมาก ถ้าคนอื่นมาเห็นเข้าเธอเองนั่นแหละที่จะเป็นอันตราย (แต่กับผมปลอดภัยแน่นอนครับ)
ผมก็เลยเข้าไปทักเธอ และก็ได้รู้ว่าเธอทำกุญแจห้องหาย แถม
แบตมือถือยังมาหมดอีก ซวยชะมัดแล้วผมจะไม่ให้ความช่วยเหลือสาวสวยตรงหน้าได้ยังไงล่ะ จริงมั้ย : )
ตอนแรกตั้งใจว่าจะให้เธอชาร์ตแบตเพื่อโทรหาเพื่อนให้มารับไป แต่พอจะเอาที่ชาร์ตมาให้ก็อย่างที่เห็น เธอหลับไปแล้ว คงจะเมาอยู่ไม่น้อยเลยดูจากแก้มที่แดงๆ นั่น
ผมจึงเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อหยิบผ้าห่มมาห่มให้เธอ และให้เธอนอนอยู่ที่โซฟานั่นแหละ หวังว่าพรุ่งนี้เช้าตื่นมาเธอจะจำเรื่องคืนนี้ได้นะ
.
.
โมอา’s Part
ตอนเช้า
“อื้อออออ” ฉันที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา รู้สึกปวดคอไปหมด พอลืมตาได้ก็มองไปรอบๆ ห้อง
เอ๊ะ!
นี่มันไม่ใช่ห้องฉันนี่ O.O
ฉันนั่งประมวลผลอยู่สักพักก็จำเรื่องราวเมื่อคืนได้ ว่าทำกุญแจห้องหาย และเจอผู้ชายแปลกหน้าบอกจะเอาที่ชาร์ตแบตให้ และก็ภาพตัดไปเลย
พอสำรวจตัวเองแล้วพบว่าทุกอย่างยังปกติ และที่ที่ฉันนอนก็เป็นบนโซฟา แถมมีผ้าห่มให้ด้วย
แกร๊ก~
เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขึ้น พร้อมกับปรากฏร่างสูงที่เดินออกมาจากห้องนอน เขาใส่เสื้อยืดกับบ็อกเซอร์และกำลังเดินเข้ามาหาฉัน
หล่อจัง ><
ไม่ๆๆ ไม่สิ ฉันสะบัดหัวแรงๆ กับความคิดแรกของตัวเอง จะมาชมคนหล่ออะไรเวลานี้ละโมอา
โอยย ปวดหัววว สงสัยจะสะบัดแรงไป T^T
“ปวดหัวเหรอ” ผู้ชายคนนั้นถามขึ้นเมื่อเดินมาตรงหน้าฉัน เขาคงเห็นฉันกำลังนวดขมับตัวเองอยู่เลยถามแบบนั้น
“อือฮึ นิดหน่อย” ฉันตอบกลับเสียงอ้อมแอ้ม
“เดี๋ยวไปเอาน้ำให้ แล้วก็นี่สายชาร์ตพอดีเมื่อคืนเห็นว่าหลับสบายก็เลยไม่ได้ปลุก” เขายื่นสายชาร์ตมาให้ฉันก่อนจะเดินไปยังโซนครัวและเปิดตู้เย็น
“ขอบใจนะ นาย..” ฉันเว้นไว้เพราะไม่รู้จักชื่อเขานี่นา
“ฉันชื่อรันเวย์” เขาตอบกลับมา
“ขอบใจนะรันเวย์ ฉันชื่อโมอานะ” ฉันแนะนำตัว
“อ่าฮะ.. นี่น้ำเปล่าและก็โค้ก แฮงค์ ๆ แบบนี้ต้องเติมน้ำตาลเข้าร่างกายไปจะช่วยได้เยอะ” เขาบอกพร้อมกับยื่นน้ำทั้งสองอย่างมาให้ฉัน
ระหว่างที่รอชาร์ตแบตอยู่ฉันก็ได้สังเกตรันเวย์อย่างจริงๆ จังๆ เขาเป็นผู้ชายที่ตัวสูงมาก น่าจะเกิน 180 แน่ๆ ผมสีดำสนิทนั่นมันตัดกับผิวขาวๆ ของเขาทำให้ดูขาวสว่างจ้าขึ้นไปอีก หน้าก็เนียนใส เครื่องหน้าก็ครบ
อดยอมรับไม่ได้เลยว่าเขาหล่อมาก ขนาดว่าฉันที่ชินกับการอยู่กับคนหล่ออย่างกั้งกับอาร์ตแล้วนะ แต่กับรันเวย์ฉันกลับรู้สึกว่าเขาหล่อกว่าเพื่อนฉันไปอีกสิบเท่าเลย ฮ่าๆๆ (กั้งกับอาร์ตจามแล้วตอนนี้)
หล่อขนาดนี้ แถมอยู่หอเดียวกันอีก ทำไมฉันไม่เคยเจอนะ
“ทำไมเงียบไปเลย ปวดหัวมากเหรอ” รันเวย์ถามขึ้นเมื่อเห็นฉันนั่งนิ่งไปนาน
“อ๋อ เปล่าๆ อาจจะเบลอๆ อยู่น่ะ” ฉันแก้ตัวไป จะให้บอกได้ไงว่านั่งชมเขาอยู่ในใจน่ะ แฮะๆ
“หึ” รันเวย์ยิ้มมุมปาก
“เวลานี้คนดูแลหอน่าจะมาแล้ว น่าจะไปขอกุญแจสำรองได้นะ ให้ฉันไปเป็นเพื่อนมั้ย?” เขาพูดต่อจากนั้น
“หะ! อ๋อ ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปเอง ขอบใจนายอีกครั้งนะ” ฉันรีบพูดอย่างเลิ่กลั่ก ยอมรับว่าเมื่อกี้แอบเคลิ้มไปกับรอยยิ้มมุมปากของเขาด้วย ฮิๆ
“เธอโอเคแน่มั้ยเนี่ย” เขาถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ คงเห็นสภาพฉันเด๋อๆ ด๋าๆ สินะ T^T
“โอเคแน่สิ เริ่มมีแบตมือถือแล้ว งั้นฉันไปก่อนนะ” ฉันพูดพร้อมกับถอดสายชาร์ตออกและลุกขึ้นยืนเตรียมออกจากห้องเขา
“ไว้เจอกันอีกนะ โมอา : )” รันเวย์พูดทิ้งท้ายตอนที่เดินมาส่งฉันที่หน้าประตู
ปัง!
.
.
@มหาวิทยาลัย W
หลังจากที่ออกจากห้องของรันเวย์ฉันก็ไปเอากุญแจสำรองกับคนดูแลหอ พอเข้าห้องมาได้ก็จัดการอาบน้ำล้างหน้า แล้วเห็นว่าเวลายังเหลือก่อนเรียนช่วงบ่ายก็เลยเผลอหลับไปสักแปป
พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบจะมาเรียนไม่ทันแล้ว ฉันเลยรีบแต่งตัวออกมาและไม่ได้แต่งหน้ามาด้วย ก็เลยต้องใส่แว่นสายตาเพื่ออำพรางหน้าสดสักหน่อย ไม่ใช่ไม่สวยนะ แต่มันแค่ไม่ค่อยมั่นใจ
“โหหห สภาพ เมามากเหรอยะเมื่อคืน” ไผ่หลิวทักขึ้นทันทีที่เห็นฉันเดินเข้ามาในห้องเรียน
“ไม่มากเท่าไร และเกิดเรื่องนิดหน่อยน่ะ” ฉันพูดขึ้น
“ไหนเม้ามา” ไผ่หลิวทำหน้าตาสนใจขึ้นมาทันที แม้กระทั่งเมษาที่นั่งข้างๆ ก็เงยหน้าจากหนังสือขึ้นมาฟังด้วย
“เมื่อคืนฉันเข้าห้องไม่ได้ ทำกุญแจหาย”
“อ้าวว แล้วทำไมไม่โทรมาหาฉันล่ะ” เมษาพูดขึ้นสีหน้าตกใจ
“แล้วแบบนี้เมื่อคืนเธอไปนอนที่ไหนละโมอา”
“แบตหมดน่ะสิ เลยติดต่อใครไม่ได้เลย: (”
“อ่าฮะ แล้วสรุปไปนอนที่ไหนมา” ไผ่หลิวยังคงถามย้ำ พร้อมกับหรี่ตามองแบบจับผิด
“พอดี.. คนที่อยู่หอเดียวกันเขาให้ยืมที่ชาร์ตน่ะ ฉันก็เลยตามเขาไป แล้วเผลอหลับ เพิ่งได้ชาร์ตแบตเมื่อเช้าเนี่ย” ฉันอธิบาย
“แล้วคนนั้นที่ว่า ผู้หญิงหรือผู้ชายจ๊ะ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าของไผ่หลิวหลังจากที่เธอซักไซ้ฉัน
“เห้อออ ผู้ชาย ><” ฉันตอบ
“กรี๊ดดด งานดีมั้ยๆๆ” คราวนี้ไผ่หลิวมาเขย่าแขนถามฉันพร้อมกับน้ำเสียงตื่นเต้น
“ดี ดีมากกกก ฉันงงมากว่าดีขนาดนั้น แถมอยู่หอเดียวกันทำไมไม่เคยเจอ” ฉันตอบไป พอนึกถึงวันนี้ที่เขาออกจากห้องมาแล้วผมยุ่งนิดๆ เหมือนเพิ่งลุกจากเตียงมา หน้าก็แอบร้อนๆ เหมือนกันแฮะ
“อุ้ย! โมอาเธอหน้าแดง” เมษาพูดขึ้น
“เขาชื่ออะไร เรียนคณะไหน มีรูปมั้ยไหนเอามาดูซิ” ไผ่หลิวยังคงถามรัวใส่ฉัน
“โอ้ยย! ฉันไม่มีรูปไม่มีอะไรทั้งนั้น ไม่รู้ด้วยว่าเรียนคณะไหน รู้แค่ว่าชื่อ.. รันเวย์” ฉันบอกไป ฉันจะไปรู้รายละเอียดขนาดนั้นได้ไง เมื่อเช้าตอนออกจากห้องเขามาฉันก็ยังมึนๆ เบลอๆ ~.~
“หืมมมม รันเวย์” ไผ่หลิวทำท่านึก
“รันเวย์วิศวะที่เป็นเดือนมหาลัยปีเราน่ะเหรอ O.O” ก่อนจะหันมาถามฉัน
“ไม่รู้สิ ฉันก็รู้แค่เขาชื่อรันเวย์”
“คนนี้หรือเปล่า” เมษาพูดพร้อมกับยื่นมือถือที่เปิดหน้าไอจีคนคนหนึ่งมาให้ฉันดู ว่าแต่.. ยัยนี่ตามเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ
“ใช่ๆ คนนี้แหละ” ฉันตอบกลับไป
“ว่าแต่เมษา แกมีไอจีเขาได้ไงอ่ะ” ฉันถามพร้อมกับหรี่ตาจับผิดยัยนี่
“โมอา!! เขาเป็นเดือนมหาลัย ใครๆ ก็รู้จัก เพจมหาลัยก็ลงรูปเขาแทบจะทุกวันเลยมั้ง เธอไม่ได้ตามมั่งเลยหรือไง” เมษาพูดพร้อมกับทำหน้านิ่งๆ ใส่ฉัน
ก็จริงอย่างที่เมษาบอกนั่นแหละ ฉันไม่ค่อยตามโซเชียลเท่าไร
ไอจีก็ไม่ค่อยอัพรูป เวลาเลื่อนเฟสบุ๊คก็เลื่อนผ่านๆ ไม่ได้สนใจประเด็นอะไรเป็นพิเศษ ฉันเลยมักจะเป็นคนที่ตกข่าวในเรื่องต่างๆ เสมอ“หล่อมาก และก็เจ้าชู้มากๆ ด้วย แกอย่าไปยุ่งจะดีกว่าถ้าไม่อยากเสียใจ” ไผ่หลิวพูดเสริม
“มากขนาดไหนอะ เท่ากั้งมั้ย” ฉันถาม
“อะไรๆ ฉันฟังอยู่นะ อย่างฉันไม่ได้เจ้าชู้แค่เฟรนลี่เฉยๆ” กั้งที่นั่งอยู่ข้างหลังไผ่หลิวพูดแทรกขึ้นมาทันที
“อย่างกั้งมันยังคุยยังคบ ถึงจะแปปๆ เปลี่ยนก็เถอะ แต่รันเวย์เนี่ยขึ้นชื่อเรื่องวันไนท์สแตนมาก ได้ละจบอะแก”
“หยุดพาดพิงฉันสักที” กั้งพูดแทรกขึ้นมาอีกครั้ง
“แต่แบบหมอนั่นเธอคงไม่ชอบหรอกใช่มั้ยโมอา ความสัมพันธ์แบบนั้นน่ะ” คราวนี้กั้งพูดน้ำเสียงที่จริงจังมากขึ้น
“อย่าเอาใจลงไปเล่นนะโมอา เจ็บมามันไม่คุ้ม” ไผ่หลิวยังคงย้ำฉันอีกครั้ง
“รู้แล้วๆ ฉันไม่ยุ่งหรอกน่า” ฉันตอบเสียงอ้อมแอ้ม ในใจก็รู้สึกแอบเสียดายอยู่หน่อยๆ เหมือนกัน
เห้ออออ : (
2 เดือนต่อมา“นี่โมอา รู้มั้ยว่าตั้งแต่รันเวย์กลับมาคบกับเธอเนี่ย การทำงานของฉันมันสดใสขึ้นมากกกก” เลิฟหันมาพูดกับโมอาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มตั้งแต่ที่รันเวย์กลับมาคบกับโมอา เหมือนมีแสงสว่างออกมาจากตัวของเขา รันเวย์รีแล็กซ์มากขึ้น ยิ้มมากขึ้น แถมเวลาคุยงานกับลูกน้องก็ดูใจเย็นใจดีขึ้นอีกด้วยแรกๆ ทุกคนก็ไม่ชินที่รันเวย์เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือขนาดนี้ แต่พอมาคิดๆ ดูแล้ว เป็นแบบนี้มันก็ดีกับตัวพวกเขาทั้งนั้น ไม่ต้องคอยกังวลเวลาจะเข้าไปคุยงานกัน“โมอา!! โมอาๆๆๆ”เสียงตะโกนเรียกชื่อหญิงสาวดังลั่นแผนก ก่อนจะตามมาด้วยตัวของพี่ปอนด์ที่วิ่งมาด้วยความตื่นตระหนก“พี่ปอนด์ มีอะไรหรือเปล่าคะ? ทำไมวิ่งหน้าตั้งมาขนาดนี้” โมอาถามด้วยความสงสัย อะไรมันจะด่วนจนถึงขนาดต้องวิ่งลงมา โทรมาก็ได้นี่นา“รันเวย์เป็นลม!!” เมื่อตั้งสติได้พี่ปอนด์ก็บอกสาเหตุที่วิ่งมาหาหน้าตื่นนี่“ห๊าาาาาาาาา!”“ไม่ต้องมัวตกใจ รีบไปดูมันกับพี่ก่อนเถอะ” พูดจบพี่ปอนด์ก็ลากโมอาขึ้นไปที่แผนกของวิศวะทันที“รันเวย์เนี่ยนะคะเป็นลม เป็นไปได้ยังไง” โมอาถามออกไปด้วยความสงสัยตอนที่ทั้งคู่กำลังอยู่ในลิฟต์“พี่ก็สงสัย มันไม่เคยป่วยเลยด้วยซ้ำ แ
ช่วงที่หยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมาฉันกับรันเวย์เราอยู่ด้วยกันตลอด เรียกได้ว่าตั้งแต่ตื่นจนนอนไม่แยกจากกันเลย เหมือนกับว่าเราสองคนอยากจะชดเชยช่วงเวลาที่เสียไปให้แก่กันและกัน เขาบังคับให้ฉันย้ายมาอยู่กับเขาที่คอนโดเลย โดยใช้เหตุผลว่าช่วงที่เลิกกันไปเขานอนหลับไม่สนิทเลยสักคืน ฉันต้องรับผิดชอบโดยการมานอนกับเขาเพราะการที่มีฉันอยู่มันทำให้เขาหลับสนิท แล้วฉันจะเถียงอะไรได้ล่ะ! คนมันยังรู้สึกผิดอยู่ เขาว่ายังไงก็ต้องยอมหมดนั่นแหละ ฉันอัพเดทเรื่องที่กลับมาคบกับรันเวย์ให้เพื่อนๆ ในกลุ่มมหาลัยฟังแล้วนะ ทุกคนยินดีกับฉันมากๆ โดยเฉพาะไผ่หลิวที่มีแซะนิดหน่อยว่าถ้าตัดกันไม่ขาดขนาดนั้นไม่รู้จะเลิกกันทำไมให้เสียเวลาไปหลายปี แหะๆ “คนที่บริษัทจะไม่ตกใจแย่ใช่มั้ย ถ้าฉันลงไปจากรถนาย” ฉันพูดขึ้นมา ใช่ค่ะ! ตอนนี้ฉันอยู่บนรถกับรันเวย์ เราก็กำลังเดินทางเพื่อไปทำงานกัน และวันนี้ก็เป็นวันทำงานวันแรกหลังจากที่หยุดยาวช่วงปีใหม่มาด้วย เรียกได้ว่าเปิดตัวแรงเว่อร์!“ไม่เห็นเป็นไร ยังไงสักวันก็ต้องเห็นและฉันก็ไม่คิดจะปิดใครด้วย ไอ้พวกที่มันม่อๆ เธอไว้จะได้เลิกมายุ
บนรถ “รันเวย์เหรอ?”โมอาถามออกมาเสียงเบาทั้งๆ ที่ดวงตายังปิดสนิท เหมือนเธอจำได้ลางๆ ว่ารันเวย์เป็นคนพาเธอออกมาจากงาน แต่ตัวเธอเองก็เมาและง่วงมากจนไม่ได้สนใจอะไรสักเท่าไรแค่พอรู้สึกว่าอ้อมกอดนั้นมันดูคุ้นเคยแบบแปลกๆ เธอก็พร้อมจะทิ้งตัวและให้เขาพาเธอไปไหนก็ได้ตามแต่เขาจะพาไป“เมาแล้วก็เป็นอย่างนี้ทุกที ทำไมไม่ระวังตัว” รันเวย์หันมามองคนตัวเล็กที่นอนหลับตาอยู่เบาะข้างๆ เขาและพูดด้วยน้ำเสียงดุ“ฮะๆ จำได้ด้วยเหรอ… ฉันก็นึกว่านายลืมไปหมดแล้วซะอีก” ประโยคท้ายของโมอาพูดด้วยเสียงเศร้าๆ“เห็นทำเหมือนว่าไม่เคยรู้จักกัน ก็นึกว่าลืมกันไปแล้ว”“เธอเองต่างหากที่ทำเหมือนไม่รู้จักฉัน” คนตัวโตเถียงขึ้นมา ก็เป็นเธอเองไม่ใช่หรือไงที่พูดกับเขาแทบจะนับคำได้ แถมยังคอยหลบหน้าหลบตาอยู่ตลอดถ้ามีโอกาส“นายนั่นแหละ เริ่มก่อน!” คราวนี้คนตัวเล็กลืมตาขึ้นมาแล้วเถียงเสียงดัง แก้มแดงๆ กับดวงตาเยิ้มๆ นั่นดูก็รู้ว่าคงจะเมามากรันเวย์มองภาพนั้นพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อย เพราะมันช่างดูน่ารักเหลือเกินในสายตาเขา ไม่ได้เห็นภาพแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ ไหนจะความรู้สึกเบิกบานในหัวใจนี่อีก“ฉันคิดถึงเธอ” เขาตัดสินใจพูดอ
ฉันทำงานที่บริษัทมาได้หลายอาทิตย์แล้ว และก็ได้ร่วมงานกับรันเวย์หลายครั้งแล้วด้วย เขาก็ยังเหมือนเดิม เย็นชา ทำเหมือนกับว่าเราไม่เคยรู้จักกัน แต่ฉันก็ไม่ได้คิดจะโกรธเขาหรอก ก็ตอนนั้นฉันเป็นคนเลือกที่จะเลิกไปเองนี่นา : ( “โมอา~ เธอเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงปีใหม่หรือยังจ้ะ” เลิฟตรงเข้ามาถามฉันทันทีที่เธอเข้ามาในออฟฟิศ “เตรียมตัวอะไรเหรอ?” ฉันถามด้วยความงุนงง คือก็พอรู้ว่าจะมีงานเลี้ยงปีใหม่ก่อนจะหยุดยาวแหละ แต่ไม่ยักรู้ว่าจะต้องเตรียมตัวอะไรด้วย “ก็การแสดงของแผนกเราไง ปกติแล้วทุกปีแต่ละแผนกจะต้องคิดการแสดงเพื่อไปแสดงในงานน่ะ ถึงบอสจะบอกว่าเอาง่ายๆ ไม่ต้องจริงจังมากแต่ว่าแต่ละแผนกก็เล่นใหญ่กันทุกปีเลย เหมือนเป็นหน้าเป็นตาของแต่ละแผนกนั้น” เลิฟอธิบาย “แล้วปีนี้แผนกเราแสดงอะไรกันเหรอ?” “ยังไม่ได้คิดเลยน่ะสิ แต่ว่าคนที่จะต้องแสดงน่ะมียัยเลม่อน มียู ส้ม และก็พวกเราสองคนนะจ้ะ” “หื้มมม~ ฉันก็ด้วยเหรอ?” ฉันทำหน้าตกใจเล็กน้อย สมัยเรียนก็โดดตอนคัดเลือกดาว พอมาทำงานยังจะต้องมาแสดงอะไรอีกเหรอ T^T “โมอาคือตั
โมอา’s Part 2 ปีผ่านไป หลังจากที่เรียนจบฉันก็ขอที่บ้านไปเวิร์คแอนด์ทราเวลมา เหตุผลก็เพราะอยากไปใช้ชีวิตเจออะไรใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ อีกเหตุผลก็คือหนีไปทำใจด้วย ถ้ายังอยู่ที่เดิมเจออะไรเดิมๆ ฉันคงจะมูฟออนไม่ได้สักทีแน่ๆ T^T ตอนนี้ฉันกลับมาอยู่ที่ไทยแล้วล่ะ และก็กำลังจะเริ่มงานวันแรกวันนี้ ส่วนเพื่อนๆ ในกลุ่มเราก็มีคุยกันในไลน์กรุ๊ปตลอด แต่ว่ายังไม่ได้นัดเจอกันเลย เพราะไผ่หลิวเองไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ส่วนเมษาก็ทำงานไปด้วยพร้อมกับต่อโทไปด้วยทำให้เธอยุ่งจนไม่มีเวลาออกมาเจอใคร กั้งกับอาร์ตตอนนี้ก็เป็นผู้บริหารธุรกิจของที่บ้านไปแล้ว ตอนแรกสองคนนั้นชวนฉันไปทำงานที่บริษัทด้วย แต่ฉันเกรงใจไม่อยากให้ใครมองว่าใช้เส้นสายเพื่อนก็เลยเลือกที่จะหางานเองมากกว่า “สวัสดีค่ะ มัทฑิตา มารายตัวเข้างานวันแรกค่ะ” ฉันพูดขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้อง HR “สวัสดีจ้าโมอามาแต่เช้าเลยน้า งั้นเดี๋ยวเซ็นเอกสารสัญญากันเสร็จพี่จะพาไปที่แผนกของน้องนะจ้ะ”พี่องุ่น HR ประจำบริษัททักทายฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เราสองคนเคยเจอกันวันที่ฉันมาสำภาษณ์งานแล้วเหมือนได้ค
หลังจากวันนั้นที่รันเวย์เลิกกับโมอาเขาก็แทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน เรียนก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง โปรเจกต์ก็แทบจะไม่คืบหน้า “รันเวย์ถ้ามึงยังเป็นแบบนี้ มันจะเรียนไม่จบเอานะเว้ย” คุนพูดขึ้นตอนที่เขาเอาข้าวมาให้เพื่อนที่คอนโด เพราะถ้าไม่เอาข้าวมาให้และนั่งดูเพื่อนกินจนหมด รันเวย์ก็คงแทบจะไม่กินข้าวเลย ช่วงนี้ที่กินก็มีแต่เหล้า “เรียนไม่เท่าไร ข้าวปลาก็ไม่กินแบบนี้จะตายก่อนมั้ยวะ” เคนพูดเสริมขึ้นมา เขาเห็นเพื่อนหมกตัวอยู่แต่ในห้องมาหลายอาทิตย์แล้ว ถ้าไม่ใช่วิชาสำคัญที่จะต้องเข้าจริงๆ รันเวย์ก็ไม่ออกจากห้องเลย แล้วดูสภาพรันเวย์ตอนนี้สิ ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาเป็นที่หมายปองของสาวๆ ตอนนี้กลับทรุดโทรมและแห้งตอบ หนวดเคราก็รกรุงรัง เคนคิดภาพไม่ออกเลยว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้เรื่อยๆ เพื่อนเขาจะแย่ลงอีกแค่ไหน “โปรเจกต์จบของเราตอนนี้เครื่องมีปัญหาอยู่นะเว้ย พวกกูช่วยกันดูแล้วแต่แก้ไม่ได้ว่ะ ไอ้นักรบบอกว่ายังไงก็ต้องเป็นมึงมาแก้ มึงช่วยพาตัวเองเข้าไปที่คณะหน่อยได้มั้ยวะ”คุนยังคงพูดต่อไป ถึงแม้จะไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดจะเข้าหูเพื่อนบ้างหรือเปล่าก็ตาม ก็รันเว







![NightZ [I] THE LOST MEMORIES](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)