Masukเพื่อนก็เตือนแล้วเตือนอีกว่าอย่าเอาใจลงไปเล่นกับคนเจ้าชู้ มันจะเจ๊บบบบ แต่หัวใจเจ้ากรรมมันก็ยังดื้อดึง ห้ามยังไงก็ห้ามไม่อยู่… สุดท้ายก็เอาตัวเองกระโจนลงไปในความสัมพันธ์นั้นจนได้!
Lihat lebih banyakปี 1
@มหาวิทยาลัย W
โมอา’s Part
จึก จึก~
เสียงสะกิดหลัง
“เธอๆ มีกลุ่มเพื่อนทำกิจกรรมหรือยัง”
ฉันหันไปตามเสียงเรียกก็เจอกับผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่ยืนยิ้มรอคำตอบจากฉันอยู่
“ยังเลย ^^!” ฉันตอบกลับไป
“ดีเลย!! งั้นมาอยู่กับพวกฉันนะ อ้อ.. ฉันชื่อไผ่หลิวนะ ไปหาเพื่อนคนอื่นกันเถอะ” ไผ่หลิวพูดพร้อมกับจูงมือฉันตรงไปยังข้างหน้า คิดว่าคงพาไปหากลุ่มเพื่อนของเธอ
“พวกแก ฉันพาเพื่อนใหม่มาแล้ว เธอ.. ชื่ออะไรนะ” ไผ่หลิวหันมาถามฉัน
“ฉันชื่อโมอา สวัสดีนะทุกคน ^^” ฉันแนะนำตัว
“สวัสดีโมอา ฉันเมษานะ และนี่ก็กั้งกับอาร์ต” เมษาเป็นคนพูดกับฉัน
“หวัดดี” กั้งพูดก่อนจะยิ้มมุมปาก
“อือ” ส่วนอาร์ตแค่พยักหน้ารับรู้
“เอาล่ะ งั้นกลุ่มเราก็ครบตามที่รุ่นพี่บอกละ มาคิดการแสดงให้มันจบๆ เถอะ ฉันอยากกลับห้องละเนี่ย” ไผ่หลิวทำเสียงงอแง
หลังจากกิจกรรมรับน้องในวันนั้นฉัน ไผ่หลิว เมษา กั้งและอาร์ตก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกันไปเลย ด้วยความที่เรายังอยู่ปีหนึ่ง เวลาไปไหนมาไหนพวกเรามักจะไปด้วยกันเสมอ
ไผ่หลิว เธอเป็นคนหน้าตาน่ารัก แต่นิสัยค่อนข้างที่จะลุยขัดกับหน้าตาจิ้มลิ้มของเธอ ด้วยนิสัยและคำพูดที่ตรงไปตรงมาของไผ่หลิวทำให้มีคนหมั่นไส้เธอเยอะเหมือนกัน แต่ไผ่หลิวก็ไม่แคร์
ช่วยไม่ได้ พวกนั้นก็แค่ไม่แซ่บเท่าฉัน
ครั้งหนึ่งเคยมีรุ่นพี่มาหาเรื่องไผ่หลิว หาว่าเธอไปอ่อยแฟนของรุ่นพี่คนนั้น ทั้งๆ ที่จริงแฟนของรุ่นพี่เป็นคนทักไอจีไผ่หลิวมาเองแท้ๆ และยัยนี่ก็ไม่ได้ไปยุ่งด้วยซะหน่อย -_-
เมษา เป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยมาก ย้ำว่ามากกกกก จนฉันก็แอบสงสัยว่าคนเรียบร้อยแบบนี้มาอยู่กับพวกฉันได้ยังไง (พวกฉันค่อนข้างจะแสบ ซ่า น่ะ) แต่เราก็อยู่ด้วยกันได้ และฉันกับไผ่หลิวก็เอ็นดูเมษามากๆ เพราะเมษาดูบอบบางและน่าถนอมไว้เป็นที่สุด
กั้ง เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมาก และคูณความเจ้าชู้ไปอีกสิบเท่า!! หมอนี่ชอบใช้ความหล่อของตัวเองสิ้นเปลือง ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยมากั้งเปลี่ยนผู้หญิงไปจนพวกฉันนับกันไม่ไหวแล้ว ไม่ว่าจะรุ่นเดียวกันหรือรุ่นพี่ กั้งเก็บหมดค่ะ
อาร์ต ก็เป็นคนที่จัดว่าหล่อมากๆ เหมือนกัน แต่ด้วยนิสัยพูดน้อย (มากกก) บวกกับเป็นคนอัธยาศัยไม่ดี ชอบทำหน้านิ่งตลอดเวลาทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าหาเท่าไร เคยมีครั้งหนึ่งที่รุ่นพี่เข้ามาขอไลน์หมอนี่ตอกกลับรุ่นพี่จนเธอหน้าเสียกลับไปเลยแหละ
ถึงแม้ว่าพวกเราจะดูนิสัยต่างกันไปคนละทิศละทาง แต่พวกเรากลับเข้ากันได้ดี อาจจะเพราะแต่ละคนเคารพความเป็นตัวของตัวเองของเพื่อนในกลุ่มด้วยแหละ ถึงแม้จะแตกต่างกันก็ทำให้เราอยู่ด้วยกันได้ แถมยังสนิทกันมากด้วย
ลืมแนะนำตัวไปเลย
ฉันชื่อ โมอา ค่ะ ^^
เป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีคนหนึ่ง (คิดว่างั้นนะ) ก็ใครๆ ก็บอกแบบนั้นนี่นา ฉันไม่ได้แรงเท่าไผ่หลิว และก็ไม่ได้เรียบร้อยเท่าเมษา จะว่ายังไงดี.. เหมือนฉันเป็นกึ่งกลางของสองคนนั้นละมั้ง ภายนอกค่อนข้างที่จะดูแรงด้วยลุคการแต่งตัว แต่ถ้าได้รู้จักจริงๆ บางทีฉันก็มีมุมเด๋อๆ เยอะเหมือนกัน แฮะๆ
อย่างช่วงแรกที่เข้ามาจะต้องมีการเลือกคนไปประกวดดาวเดือน ฉันก็เป็นหนึ่งคนที่ถูกเสนอชื่อ แต่วันที่รุ่นพี่นัดคัดเลือกฉันไม่ได้ไป
เหตุผลก็เพราะ..
ฉันตื่นสาย!!!!!!!
ก็คืนก่อนหน้าฉันกับเพื่อนๆ ไปเที่ยวกันมา กว่าจะกลับก็เกือบเช้าแล้วนะ! แน่นอนว่าฉันก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ แต่คิดว่าฉันคงกดปิดมันเหมือนทุกครั้งที่ส่งเสียงนั่นล่ะ
หลังจากวันนั้นฉันก็โดนรุ่นพี่ด่า ฮ่าๆ เขาบอกว่าอยากได้ฉันไปประกวดมากกว่าแต่ฉันก็เทไปดื้อๆ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรนักหรอก ไม่ได้อยากประกวดดาวอะไรนั่นอยู่แล้ว ดูวุ่นวายจะตายว่ามั้ย?
.
.
“นี่! กั้ง!! ผู้หญิงคนล่าสุดของแกทักมาด่าฉันเนี่ย น่าจะหึงฉันกับแก ไปจัดการด้วยนะ แต่ฉันก็จัดการไปบ้างแล้วล่ะ อิอิ” ไผ่หลิวพูดขึ้นทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะที่พวกเรานั่งกันอยู่
“ล่าสุดนี่คนไหนวะ?” กั้งถามพร้อมกับทำท่านึก
“โอ้ยยย! ก็ยัยรุ่นพี่ที่ชื่อโบว์อะไรนั่นไง หรือว่าคนนั้นไม่ล่าสุดแล้ว? หะ”
“ก็เลิกคุยไปแล้วนี่ ยังจะมายุ่งอะไรอีกวะ” เมื่อรู้ว่าคนที่หาเรื่องไผ่หลิวคือใคร กั้งก็ดูจะหัวเสียอยู่ไม่น้อย
“ไม่รู้แหละ.. ไปจัดการด้วย”
“เออๆ เดี๋ยวฉันจัดการเอง แล้วที่แกบอกว่าจัดการไปบ้างแล้วนี่ทำอะไร” คราวนี้กั้งถามไผ่หลิวกลับบ้าง
ยัยนั่นอมยิ้มก่อนจะเปิดแชทที่คุยกับรุ่นพี่คนนั้นให้กั้งดู
OoO!!
“ไผ่หลิววว!!!!!!”
“ฮิๆ ก็ฉันหมั่นไส้ ไม่เป็นไรหรอกน่า”
“ไหนเอามาดูบ้าง” ฉันพูดก่อนจะหยิบมือถือไผ่หลิวมาจากมือของกั้ง
และสิ่งที่ไผ่หลิวส่งไปหารุ่นพี่คนนั้นก็คือเป็นภาพไผ่หลิวตอนเมาและนั่งซบอยู่ที่อกกั้ง ไม่อยากจะคิดว่ารุ่นพี่คนนั้นจะโมโหหึงขนาดไหน ยัยนี่ก็ร้ายเป็นบ้า รู้ว่าเขาหึงก็ยั่วให้หึงขึ้นไปอีก
แต่ไผ่หลิวกับกั้งไม่ได้มีอะไรกันหรอกนะ จริงๆ ภาพนั้นยัยไผ่หลิวหลับไปแล้วด้วยซ้ำฉันน่าจะเป็นคนถ่ายไว้เองแหละ แต่จากภาพถ้าคนไม่รู้ก็คิดไปไกลได้เหมือนกัน
“แล้วแบบนี้จะไม่เป็นไรเหรอไผ่หลิว” เมษาถามขึ้นหลังจากที่เห็นภาพนั้นด้วย
“จะเกิดอะไรล่ะ ก็ให้กั้งไปเคลียร์ให้แล้วไง อย่าให้มาเดือดร้อนฉันอีกนะ” ไผ่หลิวพูดกับเมษา และไม่ลืมที่จะหันไปกำชับกั้งอีกครั้ง
“เออๆ รู้แล้ว ตัวแสบ!”
กลุ่มฉันก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ ค่อนข้างที่จะวุ่นวาย จะมีก็แต่อาร์ตที่คอยเป็นผู้ฟังที่ดีและไม่เคยออกความเห็นอะไรเลย ถ้าไม่จำเป็น -.-
เห็นแบบนี้เวลาที่พวกฉันไปปาร์ตี้กันอาร์ตก็ไปด้วยทุกครั้งนะคะ ถึงแม้จะนั่งกินเงียบๆ ก็เถอะ และอีกคนก็คือเมษา ยัยนี่ก็ไปด้วยทุกครั้งเหมือนกัน แต่ถึงแม้จะเห็นว่าเมษาเรียบร้อยมากก็เถอะ แต่ยัยนี่คอแข็งเป็นบ้า มีแค่ฉันกับไผ่หลิวที่คอไม่แข็งเท่าไรแต่เน้นซ่าและปากดีไว้ก่อน แหะๆ
“แล้วคืนนี้พวกแกจะออกกันอีกมั้ย?” ฉันถามออกไป
“ก็ต้องไปสิยะ เออ เมื่อคืนเหล้าเหลือนะ ฝากไว้ที่ร้าน” ไผ่หลิวเป็นคนหันมาตอบฉัน
“แล้วรายงานที่อาจารย์สั่งจะเริ่มทำกันตอนไหน พวกแกเล่นเที่ยวทุกคืนเลยนะ” เมษาพูดขึ้นด้วยสีหน้ากังวล
“เดี๋ยวไปคืนนี้คืนสุดท้ายละ พรุ่งนี้เราจะเริ่มทำรายงานกันโอเคมั้ย” ฉันหันไปบอกเมษาพร้อมกับเอาหน้าไปถูแขนยัยนั่น เชื่อเถอะเดี๋ยวก็ใจอ่อน
“เห้อออ เอางั้นก็ได้” เมษาตอบกลับอย่างเหนื่อยใจ ฮ่าๆๆ
“แล้วคืนนี้แกไปด้วยมั้ยเมษา” ไผ่หลิวถามขึ้นมาบ้าง
“ก็ต้องไปน่ะสิ -.-“
“ฮ่าๆๆ มันต้องแบบนี้สิเพื่อนรัก ไปขึ้นเรียนกัน เรียนเสร็จจะได้แยกไปเตรียมตัวเลย คืนนี้ต้องสนุกอีกแน่!” ไผ่หลิวพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี
2 เดือนต่อมา“นี่โมอา รู้มั้ยว่าตั้งแต่รันเวย์กลับมาคบกับเธอเนี่ย การทำงานของฉันมันสดใสขึ้นมากกกก” เลิฟหันมาพูดกับโมอาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มตั้งแต่ที่รันเวย์กลับมาคบกับโมอา เหมือนมีแสงสว่างออกมาจากตัวของเขา รันเวย์รีแล็กซ์มากขึ้น ยิ้มมากขึ้น แถมเวลาคุยงานกับลูกน้องก็ดูใจเย็นใจดีขึ้นอีกด้วยแรกๆ ทุกคนก็ไม่ชินที่รันเวย์เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือขนาดนี้ แต่พอมาคิดๆ ดูแล้ว เป็นแบบนี้มันก็ดีกับตัวพวกเขาทั้งนั้น ไม่ต้องคอยกังวลเวลาจะเข้าไปคุยงานกัน“โมอา!! โมอาๆๆๆ”เสียงตะโกนเรียกชื่อหญิงสาวดังลั่นแผนก ก่อนจะตามมาด้วยตัวของพี่ปอนด์ที่วิ่งมาด้วยความตื่นตระหนก“พี่ปอนด์ มีอะไรหรือเปล่าคะ? ทำไมวิ่งหน้าตั้งมาขนาดนี้” โมอาถามด้วยความสงสัย อะไรมันจะด่วนจนถึงขนาดต้องวิ่งลงมา โทรมาก็ได้นี่นา“รันเวย์เป็นลม!!” เมื่อตั้งสติได้พี่ปอนด์ก็บอกสาเหตุที่วิ่งมาหาหน้าตื่นนี่“ห๊าาาาาาาาา!”“ไม่ต้องมัวตกใจ รีบไปดูมันกับพี่ก่อนเถอะ” พูดจบพี่ปอนด์ก็ลากโมอาขึ้นไปที่แผนกของวิศวะทันที“รันเวย์เนี่ยนะคะเป็นลม เป็นไปได้ยังไง” โมอาถามออกไปด้วยความสงสัยตอนที่ทั้งคู่กำลังอยู่ในลิฟต์“พี่ก็สงสัย มันไม่เคยป่วยเลยด้วยซ้ำ แ
ช่วงที่หยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมาฉันกับรันเวย์เราอยู่ด้วยกันตลอด เรียกได้ว่าตั้งแต่ตื่นจนนอนไม่แยกจากกันเลย เหมือนกับว่าเราสองคนอยากจะชดเชยช่วงเวลาที่เสียไปให้แก่กันและกัน เขาบังคับให้ฉันย้ายมาอยู่กับเขาที่คอนโดเลย โดยใช้เหตุผลว่าช่วงที่เลิกกันไปเขานอนหลับไม่สนิทเลยสักคืน ฉันต้องรับผิดชอบโดยการมานอนกับเขาเพราะการที่มีฉันอยู่มันทำให้เขาหลับสนิท แล้วฉันจะเถียงอะไรได้ล่ะ! คนมันยังรู้สึกผิดอยู่ เขาว่ายังไงก็ต้องยอมหมดนั่นแหละ ฉันอัพเดทเรื่องที่กลับมาคบกับรันเวย์ให้เพื่อนๆ ในกลุ่มมหาลัยฟังแล้วนะ ทุกคนยินดีกับฉันมากๆ โดยเฉพาะไผ่หลิวที่มีแซะนิดหน่อยว่าถ้าตัดกันไม่ขาดขนาดนั้นไม่รู้จะเลิกกันทำไมให้เสียเวลาไปหลายปี แหะๆ “คนที่บริษัทจะไม่ตกใจแย่ใช่มั้ย ถ้าฉันลงไปจากรถนาย” ฉันพูดขึ้นมา ใช่ค่ะ! ตอนนี้ฉันอยู่บนรถกับรันเวย์ เราก็กำลังเดินทางเพื่อไปทำงานกัน และวันนี้ก็เป็นวันทำงานวันแรกหลังจากที่หยุดยาวช่วงปีใหม่มาด้วย เรียกได้ว่าเปิดตัวแรงเว่อร์!“ไม่เห็นเป็นไร ยังไงสักวันก็ต้องเห็นและฉันก็ไม่คิดจะปิดใครด้วย ไอ้พวกที่มันม่อๆ เธอไว้จะได้เลิกมายุ
บนรถ “รันเวย์เหรอ?”โมอาถามออกมาเสียงเบาทั้งๆ ที่ดวงตายังปิดสนิท เหมือนเธอจำได้ลางๆ ว่ารันเวย์เป็นคนพาเธอออกมาจากงาน แต่ตัวเธอเองก็เมาและง่วงมากจนไม่ได้สนใจอะไรสักเท่าไรแค่พอรู้สึกว่าอ้อมกอดนั้นมันดูคุ้นเคยแบบแปลกๆ เธอก็พร้อมจะทิ้งตัวและให้เขาพาเธอไปไหนก็ได้ตามแต่เขาจะพาไป“เมาแล้วก็เป็นอย่างนี้ทุกที ทำไมไม่ระวังตัว” รันเวย์หันมามองคนตัวเล็กที่นอนหลับตาอยู่เบาะข้างๆ เขาและพูดด้วยน้ำเสียงดุ“ฮะๆ จำได้ด้วยเหรอ… ฉันก็นึกว่านายลืมไปหมดแล้วซะอีก” ประโยคท้ายของโมอาพูดด้วยเสียงเศร้าๆ“เห็นทำเหมือนว่าไม่เคยรู้จักกัน ก็นึกว่าลืมกันไปแล้ว”“เธอเองต่างหากที่ทำเหมือนไม่รู้จักฉัน” คนตัวโตเถียงขึ้นมา ก็เป็นเธอเองไม่ใช่หรือไงที่พูดกับเขาแทบจะนับคำได้ แถมยังคอยหลบหน้าหลบตาอยู่ตลอดถ้ามีโอกาส“นายนั่นแหละ เริ่มก่อน!” คราวนี้คนตัวเล็กลืมตาขึ้นมาแล้วเถียงเสียงดัง แก้มแดงๆ กับดวงตาเยิ้มๆ นั่นดูก็รู้ว่าคงจะเมามากรันเวย์มองภาพนั้นพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อย เพราะมันช่างดูน่ารักเหลือเกินในสายตาเขา ไม่ได้เห็นภาพแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ ไหนจะความรู้สึกเบิกบานในหัวใจนี่อีก“ฉันคิดถึงเธอ” เขาตัดสินใจพูดอ
ฉันทำงานที่บริษัทมาได้หลายอาทิตย์แล้ว และก็ได้ร่วมงานกับรันเวย์หลายครั้งแล้วด้วย เขาก็ยังเหมือนเดิม เย็นชา ทำเหมือนกับว่าเราไม่เคยรู้จักกัน แต่ฉันก็ไม่ได้คิดจะโกรธเขาหรอก ก็ตอนนั้นฉันเป็นคนเลือกที่จะเลิกไปเองนี่นา : ( “โมอา~ เธอเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงปีใหม่หรือยังจ้ะ” เลิฟตรงเข้ามาถามฉันทันทีที่เธอเข้ามาในออฟฟิศ “เตรียมตัวอะไรเหรอ?” ฉันถามด้วยความงุนงง คือก็พอรู้ว่าจะมีงานเลี้ยงปีใหม่ก่อนจะหยุดยาวแหละ แต่ไม่ยักรู้ว่าจะต้องเตรียมตัวอะไรด้วย “ก็การแสดงของแผนกเราไง ปกติแล้วทุกปีแต่ละแผนกจะต้องคิดการแสดงเพื่อไปแสดงในงานน่ะ ถึงบอสจะบอกว่าเอาง่ายๆ ไม่ต้องจริงจังมากแต่ว่าแต่ละแผนกก็เล่นใหญ่กันทุกปีเลย เหมือนเป็นหน้าเป็นตาของแต่ละแผนกนั้น” เลิฟอธิบาย “แล้วปีนี้แผนกเราแสดงอะไรกันเหรอ?” “ยังไม่ได้คิดเลยน่ะสิ แต่ว่าคนที่จะต้องแสดงน่ะมียัยเลม่อน มียู ส้ม และก็พวกเราสองคนนะจ้ะ” “หื้มมม~ ฉันก็ด้วยเหรอ?” ฉันทำหน้าตกใจเล็กน้อย สมัยเรียนก็โดดตอนคัดเลือกดาว พอมาทำงานยังจะต้องมาแสดงอะไรอีกเหรอ T^T “โมอาคือตั