共有

บทที่ 2

作者: เจว๋เหริน
“แกใส่ร้ายฉัน คุณย่าไม่ได้ดื่มชามาสองปีแล้ว ฉันจะประสงค์ร้ายกับท่านได้ยังไง” ซูไห่เฉากล่าวด้วยใบหน้าที่ตื่นตระหนก ท่าทีรีบร้อนหาข้อแก้ตัว ยิ่งทำให้คนอื่น ๆ รู้สึกว่าเขากำลังกินปูนร้อนท้อง

“อ่อ เป็นแบบนี้เองเหรอ” หานซานเฉียนพยักหน้ารับ และพูดด้วยความเข้าใจในทันทีว่า “นายรู้ว่าคุณย่าไม่ได้ดื่มชา จึงใช้โอกาสนี้ย้อมแมวท่าน โดยโกหกว่าชาผู่เอ๋อร์นี้ราคาแปดแสนแปดหมื่นหยวนสินะ”

แววตาของซูไห่เฉาสั่นไหวผิดปกติ เพราะหานซานเฉียนพูดถูกต้องทุกอย่าง แท้จริงแล้วเขาย้อมแมว และอยากให้เป็นหน้าเป็นตาให้กับครอบครัวของเขา ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้คุณย่าไม่ได้ดื่มชาแล้ว ดังนั้นท่านจึงไม่น่าที่จะดูออก

ซูไห่เฉาไม่คิดเลยว่าการที่ตัวเองโอ้อวดต่อหน้าหานซานเฉียนเพื่อให้ญาติ ๆ หัวเราะเยาะเขา แต่กลับถูกหานซานเฉียนเปิดโปงคำโกหกของเขา!

“สิ่งที่นายพูดมันไร้สาระ มันเป็นการแต่งเรื่องขึ้นมา คนอย่างนายรู้จักชาชั้นดีด้วยเหรอ?” ซูไห่เฉาพูดอย่างใจเย็น

เมื่อบรรดาญาติ ๆ ที่สงสัยซูไห่เฉาได้ยินประโยคนี้ ก็คิดว่าเกือบถูกหานซานเฉียนหลอกเข้าให้แล้ว

คนกระจอกอย่างเขาจะรู้จักสินค้าระดับสูงเหล่านี้ได้อย่างไร?

“หานซานเฉียน ถ้านายไม่รู้อะไรก็หุบปากซะ อย่าใส่ร้ายไห่เฉา”

“ใช่ ไม่ดูสารรูปตัวเองเลย ทำอย่างกับตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญ นายรู้เหรอว่าอะไรดีอะไรไม่ดี?”

“นายแยกความแตกต่างได้แค่ระหว่างเกลือกับผงชูรสเท่านั้นแหละ เพราะมันเป็นสิ่งที่เป็นพ่อครัวต้องรู้ยังไงล่ะ”

เสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้เสียงดังก้องเป็นพิเศษ

หานซานเฉียนไม่ได้โต้เถียงออกไป เมื่อตอนที่เขาอยู่ในตระกูลหาน เขาได้พบกับผู้เชี่ยวชาญด้านการชงชา และนักสะสมชาท่านหนึ่ง ดังนั้นเรื่องของชา ไม่มีใครที่มาร่วมงานนี้จะรู้จักชาได้ดีกว่าเขาแน่นอน

แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ที่เขาจะต้องอธิบาย มันเหมือนเขาพูดกับภูเขา เพราะถึงอย่างไรคนเหล่านี้ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

“ช่างคึกครื้นอะไรเช่นนี้” ทันใดนั้นน้ำเสียงของหญิงชราก็ดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของคุณย่าของตระกูลซู

บรรดาญาติทุกคนลุกขึ้นยืนด้วยความเคารพ

ตั้งแต่คุณปู่ของตระกูลซูเสียชีวิตไป หญิงชราของตระกูลซูก็เป็นผู้กุมอำนาจ ตำแหน่งของเธอเปรียบเหมือนจักรพรรดินี ทุกเรื่องของตระกูลซู ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่จะต้องผ่านการตัดสินใจของเธอ ที่ทุกคนในตระกูลซูมีวันนี้ได้ ก็เพราะพวกเขาทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของหญิงชราของตระกูลซู

บางคนหวังให้หญิงชราของตระกูลซูรีบตายไป เพื่อที่จะได้แบ่งปันอำนาจกัน แต่หญิงชราของตระกูลซูนั้นมีร่างกายที่แข็งแรง และอาจไม่สามารถตอบสนองความต้องการของคนเหล่านั้นได้ในเร็ว ๆ นี้

“คุณย่าคะ ซูไห่เฉามอบชาผู่เอ๋อร์แก่ท่าน คุณย่าลองดูหน่อยสิคะว่าเป็นของจริงหรือเปล่า” ซูหยิงเซี่ยเหลือบตามองไปที่หานซานเฉียน โดยที่เธอก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเชื่อในคำพูดของหานซานเฉียน และยังหวังว่าเขาจะสามารถเปิดโปงเรื่องหลอกลวงนี้ได้

เมื่อซูไห่เฉาได้ยินเช่นนี้ เขาก็รู้สึกตื่นตกใจเป็นอย่างมาก

คนอื่นอาจดูไม่ออกว่าชานี้จริงหรือไม่ แต่คุณย่าดื่มชามาหลายสิบปีแล้ว ท่านสามารถแยกได้อย่างแน่นอน หากให้ท่านเป็นคนพิสูจน์ ก็เท่าก็ยื่นคอไปใส่เครื่องตัดหัวไม่ใช่เหรอ?

“จริงเหรอ? เอามาให้ฉันดูหน่อยสิ” หญิงชราของตระกูลซูพูด

ซูไห่เฉาหน้าดูสลดลงราวกับว่าเขาอยู่บนลานประหาร พลางยื่นกระปุกชาให้หญิงชรา

ซูหยิงเซี่ยอยากให้หานซานเฉียนได้เครดิต จึงรีบพูดขึ้นว่า “ซานเฉียนดูชานี้ออกค่ะ”

หญิงชราของตระกูลซูแสดงสีหน้าไม่พอใจ ทันใดนั้นหัวใจของซูไห่เฉาก็เต้นเป็นกลองรัว และสีหน้าพ่อแม่ของเขาก็เริ่มซีดเผือดเช่นกัน ถ้าหากชานี้เป็นของปลอม หญิงชราจะต้องไม่ชอบใจพวกเขาเป็นแน่ และคาดว่าการแบ่งมรดกจะต้องลดลงอย่างแน่นอน

ซูหยิงเซี่ยเหลือบมองหานซานเฉียน และคิดว่าในที่สุดเขาก็ทำอะไรเพื่อครอบครัวบ้าง ถ้าคุณย่าชมเชยเขา ทัศนคติของทุกคนที่มีต่อเขาอาจจะดีขึ้นอีกหน่อย

แต่สิ่งที่หญิงชราของตระกูลซูพูดนั้นเหมือนเทน้ำที่เย็นเฉียบใส่ซูหยิงเซี่ย

“ชานี้เป็นของจริง ทำไมนายถึงใส่ร้ายไห่เฉา?” หญิงชราถามหานซานเฉียน และมองตรงไปที่เขา

หานซานเฉียนรู้สึกมึนงง เห็นได้ชัดว่าชาผู่เอ๋อร์นี้เป็นของปลอม เขารู้ว่าหญิงชราท่านนี้รู้จักชาเป็นอย่างดี ท่านแยกไม่ออกได้อย่างไร

ซูไห่เฉาก็รู้สึกมึนงงเช่นกัน หรือว่าคุณย่าแก่เกินไปจนสายตาฝ้าฟาง?

“คุณย่าครับ ลองดูให้ละเอียดกว่านี้อีกครั้งนะครับ ชานี้...”

หานซานเฉียนยังคงต้องการอธิบาย แต่หญิงชราพูดขัดเขาทันทีว่า “นายหมายความว่าฉันแก่แล้วสายตาไม่ค่อยดี จนไม่สามารถแยกแยะของปลอมกับของจริงได้เหรอ? ฉันบอกว่ามันคือของจริง มันก็คือของจริง”

“หานซานเฉียน คุณย่าพูดถูก นายยังพูดไร้สาระอยู่อีก”

“แม่ครับ อย่าโกรธไปเลยครับ หานซานเฉียนเป็นคนที่ไม่รู้อะไร เขาก็แค่แกล้งทำเป็นเชี่ยวชาญต่อหน้าทุกคน มันเป็นเรื่องไร้สาระเท่านั้น”

“หานซานเฉียน นายยังไม่รีบขอโทษไห่เฉาอีก”

หานซานเฉียนมองไปยังหญิงชราก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่น

ไม่ใช่ว่าท่านไม่รู้ แต่ท่านไม่ต้องการทำให้หลานชายของท่านอับอายต่อหน้าทุกคนก็เท่านั้น

มันคงเป็นเพราะเขาคือคนนอก เป็นแค่คนต่ำต้อยในสายตาของท่าน และท่านจะทำให้ไห่เฉาขายหน้าเพราะเขาได้อย่างไร

เพี้ยะ!

เสียงตบดังกึกก้องไปทั่วห้อง

ซูหยิงเซี่ยมองไปที่หานซานเฉียนและกัดฟันพูดว่า “ฉันไม่น่าคาดหวังกับคนแบบนายเลย”

หานซานเฉียนรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วใบหน้า เพราะเล็บที่ยาวของซูหยิงเซี่ย ทำให้ใบหน้าของเขามีเลือดออกเป็นทางยาว

หานซานเฉียนกำหมัดแน่น แต่เมื่อมองเห็นดวงตาของซูหยิงเซี่ยที่เต็มไปด้วยน้ำตา เขาก็คลายมันออก

ที่เธอได้รับความเดือดร้อนมันก็เป็นเพราะเขาเองไม่ใช่เหรอ? แล้วเขามีสิทธิ์อะไรไปโกรธเธอ

ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เขาต้องทนกับความอับอายขายขี้หน้า และความอัปยศอดสูมากมาย ซูหยิงเซี่ยเองก็เช่นเดียวกันไม่ใช่เหรอ?

มันเป็นความลำบากสำหรับเขา แต่สำหรับซูหยิงเซี่ยมันคงเป็นเหมือนหายนะจากสวรรค์

“ขอโทษ มันเป็นความผิดของผมเอง” หานซานเฉียเอ่ย

ซูหยิงเซี่ยรู้สึกเสียหน้าเพราะหานซานเฉียน ถ้าไม่ใช่เพราะเขาพูดมากเกินไป สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้น และเธอคงไม่ต้องรู้สึกอับอายขนาดนี้

“มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดคำนั้นกับฉัน ไปขอโทษไห่เฉาซะ” ซูหยิงเซี่ยตอบ

หานซานเฉียนหายใจเข้าลึก และเดินไปหาซูไห่เฉา จากนั้นเขาก้มหัวลงแล้วพูดว่า “ฉันขอโทษ”

ซูไห่เฉายิ้มและกระซิบข้างหูของหานซานเฉียนว่า “นายคิดว่าคุณย่าดูไม่ออกเหรอ? แต่ฉันเป็นหลานชายของท่าน ไม่เหมือนกับนายที่เป็นเพียงแค่ลูกเขยที่ไร้ค่า แม้ว่ามันจะเป็นของปลอม แต่ท่านก็ช่วยฉันอยู่ดี”

น้ำเสียงภาคภูมิใจของซูไห่เฉานั้นรุนแรงกระทบจิตใจของหานซานเฉียนอย่างมาก หญิงชราก็เปลี่ยนดำเป็นขาว ในเมื่อท่านบอกว่าชาผู่เอ๋อร์นั้นเป็นของจริง หานซานเฉียนจึงไม่สามารถทำอะไรได้อีก

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้สถานะของหานซานเฉียนในตระกูลซูยิ่งตกต่ำลงกว่าเดิม เพราะในสายตาของทุกคน เขาเป็นเหมือนคนต่ำต้อยไร้ค่าจนถึงขีดต่ำสุดอยู่แล้ว

สำหรับซูหยิงเซี่ย เรื่องนี้เป็นเรื่องยากที่เธอจะยอมรับ แต่สิ่งที่เธอรับไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องที่หานซานเฉียนทำให้เธอรู้สึกอับอาย

เมื่อซูหยิงเซี่ยใจเย็นลง เธอก็พบปัญหาหนึ่ง ชาจะเป็นของจริงหรือของปลอมนั้นไม่สำคัญเลย สิ่งสำคัญคือหญิงชราไม่สนใจที่หานซานเฉียนพูด ซึ่งหมายความว่า ต่อให้หานซานเฉียนจะรู้ว่าชานี้เป็นของปลอม แต่คุณย่าก็จะปกป้องซูไห่เฉาอยู่ดี

เมื่อใกล้ถึงเวลาทานอาหารกลางวัน ซูหยิงเซี่ยเดินไปหาหานซานเฉียนและพูดกับเขาว่า

“ฉันติดหนี้นายหนึ่งครั้ง นายเอาคืนได้ทุกเมื่อที่นายต้องการ”

“คุณจะให้ผมตบคุณกลับอย่างนั้นเหรอ?” หานซานเฉียนเอ่ยพลางยิ้มอย่างขมขื่น

“ฉันไม่ต้องการติดหนี้อะไรนาย นายก็รู้ว่าถึงยังไงเราก็ต้องหย่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าจะเร็วจะช้าเท่านั้น” ซูหยิงเซี่ยกล่าว

หานซานเฉียนมองตามหลังของซูหยิงเซี่ยที่กำลังเดินเข้าไปในห้องอาหาร ทันใดนั้นเขาก็พูดออกไป โดยที่เขาก็ไม่รู้ตัวว่าเขาไปเอาความกล้าหาญมาจากไหนว่า “คุณอยากให้ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองไหม? ในโลกนี้ มีเพียงคุณเท่านั้นที่จะเปลี่ยนผมได้”

ซูหยิงเซี่ยหันมายิ้มและหัวเราะเยาะ

“อย่าลืมว่าตัวตนของนายเป็นใครในตระกูลซู นายจะไม่มีวันทำได้ ยิ่งไปกว่านั้น นายเป็นคนที่ไม่มีพรสวรรค์”

ในช่วงอาหารกลางวัน ที่นั่งจัดตามลำดับความสำคัญของแต่ละครอบครัว

ตัวตนของหานซานเฉียนในฐานะลูกเขยที่ไม่ถูกยอมรับ เขาจึงถูกจัดให้นั่งโต๊ะที่เล็กที่สุด ซึ่งห่างจากหญิงชราตระกูลซูมากที่สุด และคนที่นั่งโต๊ะเดียวกับหานซานเฉียนล้วนแต่เป็นคนรับใช้ และคนทำความสะอาดของตระกูลซู

ขณะรับประทานอาหาร จู่ ๆ ก็มีคนวิ่งเข้ามาในห้องอาหารด้วยความตื่นตระหนก

“คุณย่า มีคนนำของขวัญมาให้ครับ” บุคคลนั้นพูดกับหญิงชราของตระกูลซู

วันเกิดของหญิงชราของตระกูลซู ไม่มีการเชิญบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมงาน ซึ่งเป็นแบบนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลซูเป็นตระกูลอันดับสองในหยุนเฉิง ไม่น่าจะมีใครต้องมาเอาอกเอาใจพวกเขา

“ใคร?” หญิงชราของตระกูลซูถาม

“เห็นบอกว่ามาจากตระกูลหานครับ ผมก็ไม่รู้จักเหมือนกัน เพราะไม่เคยเจอเขามาก่อน” ชายคนนั้นพูด

ตระกูลหาน?

ในนี้มีเพียงหานซานเฉียนเท่านั้นที่มีนามสกุลหาน และมีเพียงซูหยิงเซี่ยที่เหลือบมองไปที่หานซานเฉียน ส่วนคนอื่น ๆ ไม่มีใครคิดว่านามสกุลหานกับหานซานเฉียนจะมีความเกี่ยวข้องกัน
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード
コメント (1)
goodnovel comment avatar
ONE ALL-in-ONE
สนุกลึกลับ
すべてのコメントを表示

最新チャプター

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1455

    เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1454

    “เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1453

    เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1452

    เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1451

    “เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1450

    ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status