“คุณจะทำอะไร” น้ำหวานที่เริ่มกลัวถามขึ้น ตอนนี้กลกันต์ดันร่างเธอเข้ามาในห้องพร้อมตัวเองแล้วปิดประตู ก่อนลากร่างบางมายังเตียงนอนนุ่ม ออกแรงผลักจนเธอล้มลงนอนราบไปบนที่นอน
ร่างสูงไม่ตอบแต่ใช้ลำตัวนอนลงทาบทับบนคนตัวเล็กจนรู้สึกอึดอัด มือซ้ายของคนตัวโตกว่าจับข้อมือเล็กทั้งสองข้างรวบวางไว้เหนือหัว ขาเรียวเล็กที่พยายามจะดิ้นหนีไม่เป็นผลเพราะโดนคนตัวโตล็อกไว้
ร่างบางที่ดีดดิ้นไปมาจึงสัมผัสกับร่างสูงที่มีเพียงเสื้อผ้าขวางกั้น
มือขวาที่ยังว่างของกลกันต์ปัดป่ายไปทั่วร่างบาง พยายามจะฉีกทึ้งเสื้อผ้าของคนตัวเล็กออกจากตัว ก่อนเลื้อยเข้าไปกอบกุมบีบเค้นดอกบัวคู่งาม
ด้วยความตกใจ ริมฝีปากอิ่มที่กำลังจะผรุสวาจาออกมา จึงโดนริมฝีปากหนาเข้าประกบจูบอย่างดุดัน เร่งเร้า น้ำหวานเบิกตากว้าง นอนแน่นิ่ง ตัวแข็งทื่อ ไม่คิดว่ากลกันต์จะทำเช่นนี้ ปลายลิ้นร้อนของกลกันต์พยายามจะสอดเข้าไปควานหาความหวานของคนตัวเล็ก
“อื้อออ” เสียงต่อต้านเบาๆดังมาจากร่างบางเพราะโดนช่วงชิงลมหายจนจนรู้สึกหายใจไม่ออก
กลกันต์จึงหยุดปล่อยให้อีกคนพักหายใจก่อนประกบจูบลงไปอีกครั้ง
“อ้ออ” เสียงเล็กหายเข้าไปในริมฝีปากเพราะริมฝีปากหนาที่ประกบลงมา กลกันต์ค่อยละเลียดชิมปากอิ่มอีกครั้งก่อนขบเม้มเบาๆ ก่อนจูบเลื้อยไปตามผิวอ่อนนุ่มลำคอจนถึงเนินอกอวบนิ่ม จนเกิดเป็นรอยแดงเพราะหนวดเคราที่ล้อมรอบริมฝีปากหนา ที่ตอนนี้เสื้อตัวสวยที่สวมใส่ถูกกลกนต์ถอดออกจดหมดโดยที่น้ำหวานไม่รู้ตัว
มือข้างที่ยังว่างอยู่ลูบไล้ไปทั่วร่างคนตัวเล็ก เลื้อยเข้าไปกอบกุมหยอกเย้ายอดปทุมทัน จนน้ำหวานรู้สึกอ่อนระทวย ไร้แรงต่อต้าน กลกันต์จึงปล่อยทั้งสองข้างของน้ำหวานให้เป็นอิสระ แล้วใช้มือตนทำประโยชน์อื่น
แม้จะเริ่มมีอารมณ์ร่วมไปกับกลกันต์ การสัมผัสกันของชายหญิงเป็นเช่นนี้เอง แต่สมองน้อยๆยังสั่งการออกมาว่าไม่ได้ ทำแบบนี้ไม่ได้ น้ำหวานไม่เคยคิดฝันว่าเขาจะอยากทำแบบนี้กับเธอ จึงใช้มือทั้งสองข้างผลักอกเขา
“ยะ อย่า! ทำแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ทำไมจะไม่ได้”
น้ำหวานใจวูบอีกครั้ง เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว กลกันต์จับมือน้ำหวานที่พยายามจะดันอกเขากางออกสองฝั่ง ใช้มือใหญ่กดทับไว้ ก้มหน้าลงดูดดึงยอดปทุมทัน ที่แข็งขืนสู้ทั้งสองข้าง
“อ่ะ อื้อออ อืมมมมมม”
เสียงที่กำลังจะร้องห้ามกลายเป็นเสียงครางเบาๆจากน้ำหวานเมื่อไม่อาจฝืนธรรมชาติได้
ดูดดึงจนพอใจแล้ว กลกันต์จึงละริมฝีปากออกมาเพื่อเปลี่ยนเป้าหมาย ริมปีฝากค่อยๆจูบละเลียดลงมาตั้งแต่ใต้หน้าอก วนลงมาแล้ววนจูบรอบสะดือน้อย จนน้ำหวานเสียวท้องน้อยวูบโหวงแปลก ไม่เคยเจอความรู้สึกนี้มาก่อน
“อ๊า คุณกันต์ อย่าทำนะ” เสียงประท้วงที่แหบพร่าดังกระเส่าขึ้น
“อื๊อออ” น้ำหวานร้องเบาๆเมื่อแพนตี้ตัวบาง เครื่องแต่งกายชิ้นสุดท้ายที่สวมอยู่หลุดออกไปตามเรียวขางาม
ส่วนสุดท้ายในร่างกายที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ถูกเปิดเผยให้กลกันต์เห็นจนเต็มตา มือหนาจับแยกเรียวขางามออกจากกันเพื่อเชยชมความงามอย่างชัดเจน
“น้ำหวานสวยมาก” กลกันต์เอ่ยชมจากใจด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้มภายในใจมายาวนาน กดจูบไปตามแนวเรียวขางามอย่างไม่ให้เธอได้เตรียมใจ ก่อนจะฉกเข้าที่ใจกลางดอกไม้งามที่จะมีเขาเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว ตวัดปลายลิ้นลงออกแรงถี่จนน้ำหวานบิดเร้าไปทั้งตัวด้วยความเสียวซ่านกับสัมผัสใหม่
“ยะ อย่า มอง”
“อ๊า... ”
“อื้อ อืมมมม หวานรู้สึกแปลก แปลก ”
เสียงหวานที่เอ่ยมากระตุ้นให้กลกันต์ตวัดปลายลิ้นถี่ขึ้นก่อนซุกไซร้เข้าไปในกลีบดอกไม้งาม
รู้สึกเหมือนทนไม่ไหว
“อื้อออ คุณกันต์ น้ำหวานจะไม่ไหวว”
“อ๊ะ อ๊ะ อร๊ายยยยยยยยยย อา~~~”
น้ำหวานที่ปลดปล่อยอารมณ์ออกมาครั้งแรกในชีวิตหวีดร้องออกมาในตอนสุดท้ายด้วยสมองที่ขาวโพลน นอนหอบหายใจถี่อย่างหมดแรง
แฮก แฮก
กลกันต์ยิ้มก่อนคลานตัวเข้าไปจนอยู่ในระดับเดียวกันมองดวงหน้าหวานที่หมดแรง
“เก่งมาก เด็กดี”
กลกันต์ใช้ฝามือหนาลูบเบาๆ บนดวงหน้าของน้ำหวาน กดจูบลงบนหน้าฝากอิ่ม ด้วยส่งสายตาที่ทอดมองเธอด้วยความหลงใหล
เขาไม่อยากให้ครั้งแรกของเธอเกิดจากการทะเลาะกันเช่นวันนี้ แต่เพราะอารมณ์หึงและหวงที่เห็นเธอออกไปกับชายอื่นจึงทำให้ขาดสติ
ร่างสูงที่อารมณ์กำลังปะทุ พยายามปรับอารมณ์ความต้องการตนเองอยู่หากเกินเลยไปมากกว่านี้กลัวคนตัวเล็กจะรับไม่ไหว อยากทะนุถนอม ให้เธอยินยอมเป็นของเขาด้วยความเต็มใจ
น้ำหวานที่เหนื่อยและอายจนไม่รู้จะพูดอะไร จึงหันหน้าหนีกลกันต์ที่กำลังมองสบตา แล้วพลิกตัวหันหน้าหนี
กลกันต์ที่เห็นคนแก้มแดงหันหน้าหนีจึงเข้าไปแนบแผ่นหลังเนียนกอดกระชับแล้วกระซิบที่ข้างหู
“อายทำไม พี่เห็นของหวานหมดแล้ว”
“อื้อออ” ด้วยความอายหนักกว่าเก่าร่างเล็กจึงดิ้นขลุกขลักออกจากอกแกร่ง จนไม่ทันสังเกตคำพูดของกลกันต์ที่มีคำสรรพนามใหม่ระหว่างเขาและเธอ
“ปล่อยค่ะ หวานจะไปล้างตัว”
“ไม่ปล่อยค่ะ หวานต้องบอกพี่มาก่อน คนที่ออกไปด้วยวันนี้คือใคร”
น้ำเสียงที่หวานหูผิดปกติของกลกันต์ทำให้น้ำหวานรู้สึกอยากหายตัวไปจากตรงนี้ และรู้สึกแปลกกับความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างทั้งสอง
“ถ้าคนที่มาส่งเป็นแฟนหวานล่ะคะ” น้ำหวานพูดอย่างท้าทาย
“อย่ามาประชด พี่รู้ว่าไม่ใช่แฟน” กอดกระชับให้แน่นขึ้น กระซิบที่ใบหู ก่อนไล่ละเลียดไปตามใบหูน้อยๆ ขบเม้มเบาๆ
“อื้อ อย่านะ ทำแบบนี้กับหวานทำไมคะ หรือเห็นว่าหวานไม่มีที่ไปคิดจะทำอะไรก็ได้” ถึงจะหลงใหลไปกับเขาเหตุการณ์ก่อนหน้านี้แต่เธอก็รู้ว่าอะไรคืออะไร ไม่รักไม่ชอบจะมาทำแบบนี้กับเธอไม่ได้
หลายปีมานี้ที่เขาทำตัวเหินห่าง ราวกับไม่อยากหายใจร่วมโลกกับเธอ มาวันนี้กลับหลอกล่อให้เธอหลงใหลไปกับเขา แล้วยังพูดน้ำเสียงหวานใส่อีก
“ไม่มีที่ไปอะไร ก็อยู่ที่นี่ด้วยกัน อยู่กับพี่” อยู่ในฐานะอะไร อยากจะถามออกไป แต่กลัวคำตอบ
“ปล่อย ” น้ำหวานรวบรวมแรงฮึดที่มีดันตัวเองลุกขึ้นจนหลุดพ้นจากอ้อมกอดกลกันต์ ข่มความอายที่ตอนนี้เปลือยเปล่าต่อหน้าชายหนุ่ม เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว เดินเข้าห้องน้ำด้วยความไว
ปึง
เสียงปิดประตูตามด้วยเสียงน้ำไหลจากฝักบัว
เห็นดังนั้นกลกันต์จึงปล่อยให้น้ำหวานได้มีเวลาส่วนตัว กำจัดคราบใคร ส่วนเขาเดินกลับห้องตนเองที่อยู่ปีกขวา อารมณ์ที่คิดว่าสงบลงแล้วกลับปะทุอีกครั้งเมื่อได้มองร่างเปลือยเปล่าของน้ำหวาน
ตอนนี้เขาก็ต้องการเวลาส่วนตัวเช่นกัน
พลั๊ก ร่างสูงที่เดินตามเข้ามาจับแขนเรียวทั้งสองข้าง หมุนเมียรักให้หันหน้าเข้าหาเขา ดันร่างบางให้ถอยหลังด้วยความระวังจนแผ่นหลังเนียนแบบติดกำแพง ภายในห้องน้ำมีเพียงเทียนหอมให้ความสว่าง และกลิ่นอโรมาอบอวลให้ความผ่อนคลาย “พี่กันต์ขา หวานอยากสระผม” พร้อมกับมือเรียวขืนออกจากข้อมือใหญ่ จับตัวหนีผมบีบให้คลายออกจากเส้นผมยาวสวยจนเส้นผมค่อยๆตกลงปิดไหล่เนียน เชิดใบหน้าขึ้น สะบัดหน้าสองสามทีให้เส้นทิ้งตัวลง นิ้วชี้เรียวยกขึ้นเกี่ยวเอาเส้นผม ก่อนใช้นิ้ววนรอบ ปากบอกอยากสระผมแต่สายตาเมียรักที่ส่งมาน่าจะอยากอย่างอื่นมากกว่า จึงโน้มตัวลงเข้าไปสูดดมผมงามที่โดนนิ้วเรียวเกี่ยวเอาไว้ “ผมหอมขนาดนี้ พี่ว่าค่อยสระก็ได้” เอ่ยบอกคนตัวเล็ก แล้วงับนิ้วเธอเบาๆ ใบหน้าคมค่อยเคลื่อนลงดมกลิ่นหอมจากเมียรัก ไล้ไปตามไหปลาร้า ขบเข้าที่คอสวยจนเกิดรอย มือหนาสองข้างเคลื่อนเข้าไปกอบกุมยอดอกงามที่ใหญ่ขยายตัวขึ้นนับตั้งแต่มีลูก “อื้อ พี่กันต์อย่าทำรอยข้างนอกนะคะ” จบคำ มือใหญ่ปล่อยจากยอดปทุมที่กำลังกอบกุมเอาไว้ให้เป็นอิสระ ก้มลงใช้ปากหยักครอบงับเข้าไปแทนที่
และแน่นอนว่าลูกของเธอหนีไม่พ้นชื่อว่าน้องน้ำผึ้ง เป็นลูกสาวสมใจอยาก ที่กลกันต์ประคบประหงมอย่าดี โดยมีทั้งคุณตา คุณย่า และบรรดาคุณอาแวะเวียนมาช่วยเลี้ยง กลกันต์เป็นพ่อสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ และยังเป็นสามีที่ดี ไม่มีเรื่องผู้หญิงมากวนใจ เขาทำให้เธอโตขึ้นและมีเป้าหมายในชีวิตแบบที่ไม่เคยคิดมากก่อน ช่วงนี้เธอยังคงเข้าไปเรียนรู้งานในไร่ ส่วนต่างๆ และยังเป็นเลขาส่วนตัวให้กับกลกันต์ที่ไม่ว่าที่ไหนมีเขา ที่นั่นต้องมีเธอ หลังจากที่คลอดลูกคนแรกกลกันต์เป็นฝ่ายเอ่ยกับเธอว่ามีลูกคนเดียวก็พอ เพราะไม่อยากเห็นเธอเจ็บปวดแบบนั้นอีก ยอมรับว่านับตั้งแต่ตั้งท้องและมีลูก คำว่าส่วนตัว และคำว่าสบายไม่มีอยู่จริง แต่เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขไม่สามารถหาสิ่งอื่นมาทดแทนได้ ท้ายที่สุดจึงเลือกที่จะคุมกำเนิดไว้ก่อนเพื่อรอเวลาที่เหมาะสม และวันนี้ก็เป็นวันที่เธอคิดว่าพร้อมแล้วที่จะมีลูกอีกคน เมื่อตอนนี้น้องน้ำผึ้งมีอายุสิบแปดเดือน น้องน้ำผึ้งเดินได้แล้ว และสามารถทานอาหารเองได้บ้าง ถือเป็นพัฒนาการที่ดี นอกจากนี้แล้วช่วงนี้ลูกสาวของเธอเริ่มจดจำสิ่งต่างๆรอบตัว ทำให้ต้องระมัดระวังคำพูดและกา
“แกแน่ใจนะว่าครบแล้ว” เสียงของพลพลเอ่ยท้วงมาแต่ไกลเมื่อเห็นเพื่อนสาวที่ตอนนี้อายุครรภ์ 37 สัปดาห์เข้าไปแล้ว หน้าท้องที่เคยแบนราบเริ่มโตขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น “ครบแล้วแก นี่ฉันตรวจเช็คมาสามรอบแล้ว ของพวกนี้พี่กันต์ก็ช่วยเตรียม” หันไปตอบเพื่อนที่ดูจะเห่อกว่าเธอเสียอีก พร้อมหันไปรับแก้วน้ำผึ้งมะนาวจากกลกันต์ที่ทำหน้าที่ดูแลเธอ ตั้งแต่ที่รู้ว่าตั้งครรภ์สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือน้ำผึ้งมะนาว ถ้าไม่ได้กินจะรู้สึกเหมือนขาดบางอย่างไป จนกลกันต์กลัวว่าเธอจะกินมากไปและขอให้ลดลงกินเพียงสัปดาห์ละสองครั้ง ซึ่งเธอก็เข้าใจความห่วงใยของสามีดี ที่บอกว่าเป็นสามีนั้นก็เพราะว่าเธอและกลกันต์ได้จดทะเบียนสมรสกันไปเมื่อเดือนก่อน ดังนั้นทรัพย์สินที่ถูกจัดแบ่งตามพินัยกรรมของคุณลุงเป็นอันสมบูรณ์ และเพราะคำขอของคุณย่าและคุณตาที่อยากให้เธอและกลกันต์เป็นสามีอย่างถูกต้องตามกฎหมายถึงได้จูงมือกันไปจดทะเบียน ส่วนงานแต่งคงต้องเอาไว้ก่อน เธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับการจัดการมาก ถึงอย่างไรก็อยู่ด้วยกันแถมยังมีลูกอีกหนึ่ง เพียงแต่กลกันต์ที่อยากจัดงานให้ถูกต้อง โดยให้เหตุผลว่าอยากป่าวประกาศเรื่
สองร่างที่กำลังกอดพูดคุยให้กำลังใจผละออกจากกันเมื่อได้ยินเสียงดังอึกกระทึกครึกโครมดังมาจากอีกด้านซึ่งอยู่หลังเวที ในตอนนี้ผู้คนในงานต่างหันไปมองทิศทางของเสียง ก่อนที่สักพักจะได้ยินเสียงโห่ร้องตามมา เสียงเพลงบนเวลาถูกปิดลงจนรอบตัวมีแต่ความเงียบ นิคที่นั่งอยู่บริเวณหน้าเวทีหันไปมองด้วยความสนใจเมื่อเห็นผู้ที่เดินขึ้นมาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นโก๋ ย่างก้าวขึ้นบนเวทีขณะที่มือข้างหนึ่งถือไมโครโฟนและมืออีกข้างกุมอยู่ที่ข้อมือของหญิงสาวที่เขาไม่เคยพบ เจ้าของร่างกำยำอาศัยพละกำลังที่มากกว่าใช้มือกุมข้อมือน้อยๆบังคับให้นิดที่พยายามขัดขืนเดินตามแรงของเขา ไม่ว่าจะทั้งข่วนทั้งขู่ก็ไม่มีทีท่าจะโก๋จะหยุด จนสุดท้ายการฉุดกระชากจึงจบลงที่กลางเวที นิดส่ายหน้าขอร้องให้เขาหยุดการกระทำแต่โก๋ไม่สนใจเมื่อสิ่งที่จะทำต่อจากนี้เขาคิดมาแล้ว “ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะความสนุกทุกคนนะครับ” เสียงเข้มว่าออกไปโดยมีทุกคนสายตากำลังจับจ้องมาที่เขา ต่างรอลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ ผู้จัดการศูนย์อาหารที่หายไปตั้งแต่หัวค่ำ ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับนิดนักบัญชีสาวโสดของไร่
พลพลที่กำลังเดินเข้าไปในครัวไม่ลืมที่จะหันกลับมามองนิคเป็นระยะ เมื่อเห็นว่านิคน่าจะอยู่คนเดียวได้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรจึงเดินเข้าห้องครัวไปชีวิตใหม่ของนิคกำลังจะเริ่มขึ้น ในฐานะแฟนแม้ไม่ใช่ความรักชายหญิงเหมือนทั่วไป แต่เขามั่นใจว่าความรักที่มีเป็นรักแท้และไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นเขาคิดเสมอขอให้นิคกลับมา และสัญญาว่าไม่จะเกิดอะไรขึ้นเขาจะยืนข้างนิคไม่ปล่อยมือพลพลหยุดยืนหน้าห้องครัวที่ส่งกลิ่นหอมลอยโชยออกมาตามลม เมื่อเห็นว่าประตูห้องเปิดอยู่จึงก้าวเข้าไปแต่ภาพที่เห็นทำให้ต้องชะงักเท้าเอาไว้ การมาของเขาจะเป็นก้างขวางคอคนแถวนี้หรือเปล่า เมื่อเห็นคู่รักทำอาหารหวานจนมดแทบจะขนกันลงหม้อแล้วรู้สึกยินดีกับเพื่อนที่ได้เจอรักดีๆ ที่พร้อมจะดูแล แม้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะดูรวดเร็ว เร็วกับการพัฒนาแต่เชื่อว่าทั้งคู่ปรับตัวเข้าหากันได้ ก็รู้จักกันมาทั้งชีวิตแล้ว และนึกขอบคุณกลกันต์ที่ให้โอกาสเขาและนิค ตลอดเวลาที่นิครักษาตัวเขาให้ความช่วยเหลืออย่างดี ทำทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้โดยที่พลพลและนิคไม่เคยได้เอ่ยขอ สงสัยเขาและนิคคงจะต้องอยู่เลี้ยงลูกให้น้ำหวานจริงๆ“ทำแบบนี้กับข้าว
ฝ่ามือหนาของโก๋ยังคงจับยึดที่ข้อเท้าสวย บรรจงจูบซ้ำๆ พร้อมส่งสายตาอ้อนวอนให้หญิงสาวที่ยังคงส่งสายตาปั้นปึ่งให้ เขาเข้าใจดีกับสิ่งที่เธอต้องการ แต่ในมุมของเขาก็ต้องการเวลาเช่นกัน ไม่ใช่อยากเก็บเป็นความลับ แต่คนใกล้กันยิ่งมีคนรู้มากหากไม่ใช่แล้วต้องแยกจากกันไปเธอจะเสียหาย ตัวเขาเองก็ไม่เป็นไรหรอก ไม่สนใจคำพูดอยู่แล้ว จนวันนี้ที่ถูกเธอเมินความสนใจ รู้สึกใจจะขาด ไม่พอใจ เหมือนหัวใจถูกบีบ กลัวเธอยอมแพ้แล้วตัดใจจากเขา“จะปล่อยดีๆไหม” ไม่เพียงแต่สายตาเท่านั้นแต่น้ำเสียงที่ส่งมายังเต็มไปด้วยความโมโห“ไม่” ว่าพร้อมกระตุกเรียวขาสวยที่พยายามขืนออกจากการเกาะกุม“ได้ แล้วอย่ามาเสียใจละกัน” ว่าแล้วจึงชักเรียวขาหดเข้าหาลำตัวก่อนออกแรงเหยียดจนสุดหรือจะเรียกว่าถีบสุดกำลังใส่ร่างล่ำหนา หากแต่ผิดคาดเธอประเมินเขาต่ำไปแรงเท่ามดของเธอไม่สามารถทำอะไรกับผู้ชายถึกทึนแบบเขาได้ จึงตลบหลังเธอด้วยการจับยึดเรียวขาออกแรงพลิกร่างเล็กให้คว่ำลง“อร๊ายยย ทำบ้าอะไรเนี่ย”“พี่คิดว่าจะสู้ผมได้จริงเหรอ” ถามอย่างท้ายทาย ตัวเท่านี้จะเอาอะไรมาสู้เขา“ทำแบบนี้ทำไม”“ขี้เกียจอธิบายแล้ว” โก๋ว่าอย่างมึนๆ พร้อมโน้มตัวลงทาบทับร่างเ