"เป็นไรของแกแทนขวัญ ทำไมไม่นั่ง"
เจ้อลินกระตุกข้อมือฉันให้นั่งลง แต่เก้าอี้ที่เหลือดันเป็นเก้าอี้ที่ฉันต้องหันไปที่โต๊ะของผู้ชายคนนั้น เขามองฉันนิ่งมาก วันนี้มาด้วยเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มปลดกระดุมสองเม็ด ขาที่สวมกางเกงสแลคยกไขว่ห้าง และมือขาวๆก็คลึงวิสกี้ในแก้วไปด้วยช้าๆ อย่างมีชั้นเชิง
เออเขาดูดี แต่ไม่ดูดีกว่า
จนสุดท้ายฉันจิกตาใส่ และยอมนั่งลง ดีเจก็ต้อนรับอย่างอลังการงานสร้างประกาศชื่ออีกครั้ง พร้อมกับขบวนเหล้าจุดไฟมาชุดใหญ่
"ว้าว...สุดปัง" ฉันใช้เท้าสะกิดเจ้ซีลีนที่ตื่นตาตื่นใจ ปังอะไร...ไม่เห็นรึไงว่าโต๊ะข้างๆมันคุ้นๆ
"อะไรของแก"
"ผู้ชายที่เราขับรถชนเมื่อตอนกลางวันนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ" เจ้ซีลีนอย่าหันนะ!
ไม่ทัน
ลูกพี่ลูกน้องฉันหันขวับไปทันทีเมื่อฉันพูดจบ ฉันจึงรีบตีแขนให้เธอหันกลับมาก่อนที่จะโป๊ะ
"ไปมองเขาทำไม"
"ก็แกบอกฉันฉันก็มองป่ะ แต่ไม่เสียสายตานะ มีแต่คนหล่อๆ" ฉันส่ายหน้าเอือมระอา พยายามไม่สนใจสายตาของอีตาบ้านั่น ดื่มด่ำกับเหล้าหรูหลายยี่ห้อหลายรสที่เจ้อลินเปิดมา แต่ระหว่างนั้นรู้สึกตลอดนะว่าเขามอง
ต้องอยากทวงค่าซ่อมรถกับฉันแน่ๆ
รวยทิพย์ล่ะสิ ถึงไม่มีค่าซ่อมลัมโบร์กินี
"นี่ ดูแกไม่มีสมาธิเลยนะแทนขวัญ เป็นอะไร?"
เจ้อลินถามแล้วประสานมือท้าวคาง หนำซ้ำตายังกะพริบตาถี่ๆโชว์ขนตาที่ติดมาด้วย เอ่อขนตานี่ยาวไปถึงลพบุรีแล้วมั้งเจ้ ไม่หนักรึไงวะ
"เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร"
"ฉันพี่แกนะ ไม่ใช่ผัว"
"ก็ไม่มีอะไรจริงๆ" ฉันยืนยันอีกครั้ง จนเจ้ซีลีนกวักมือให้เจ้อลินหันไปหาตัวเอง
"คืองี้ โต๊ะข้างๆพึ่งมีประเด็นกับแทนขวัญเมื่อตอนกลางวัน น้องสาวแกไปขับรถชนรถเขา"
เจ้ซีลีน
"เหรอๆคนไหนอ่ะ?"
"คนที่หล่อที่สุดนั่งตรงข้ามกับนางนั่นแหละ"
เจ้ซีลีน!
"แล้วทีนี้นะ ก็เถียงกันใหญ่ว่าใครผิด แทนขวัญเอาหมวกกันน็อคไปทุบรถเขาด้วยนะ ขับตั้งลัมโบร์กินีอ่ะ!"
เจ้...ซี ลีน!
"งั้นไปทักแป๊บ"
ความบรรลัยของชีวิตคือการที่เจ้อลินรู้นี่แหละ พอเจ้ซีลีนพูดจบ พี่สาวฉันอีกคนก็คว้าแก้วเหล้าไปที่โต๊ะนั้นทันที
"สวัสดีค่าาา อลินนะคะ" ผู้ชายสองคนมองเจ้อลิน แต่อีตาบีบนมมองหน้าฉัน เขาไม่ละสายตาไปจากฉันเลย วันนี้ฉันต้องมีเรื่องอีกแน่ๆ แต่ก็พร้อมบวกนะ ไม่มีอะไรที่แทนขวัญต้องกลัว
"ดูสิ ขนาดดาราดังอย่างอลินไปนั่งด้วย เขายังมองแกตาเป็นมันเลยอ่ะ"
"สงสัยอยากเรียกค่าซ่อมรถละมั้ง รถลัมโบร์กินีคันนั้น อาจจะเช่ามาอวดสาว พวกรวยทิพย์น่ะเจ้"
ฉันจีบปากจีบคอพูดดังๆ ก่อนจะยกเหล้าของตัวเองดื่มแล้วหันมาสุนทรีกับเพลง เจ้อลินกกผู้ชายที่โต๊ะนั้นเรียบร้อยแล้ว และฉันก็ดื่มโดยไม่สนใจใคร โดยเฉพาะสายตาผู้ชายคนนั้น ที่เผลอมองทีไรแล้วทำตัวไม่ถูกทุกที
"แกดูเครียดๆนะ กระดกเอาๆ"
"เออ ทะเลาะกับพ่อมา"
"เรื่องอะไร?" เพลงดังจัง ฉันแทบจะตะโกนคุยกับเจ้ซีลีนอยู่แล้ว
"เรื่องแต่งงาน ยิงขาบอดี้การ์ด ขับรถบิ๊กไบค์ ฉันเองก็มีส่วนผิดที่พูดอะไรไม่คิดเหมือนกันล่ะ"
ว่าแล้วน้ำตาก็ซึมออกมา แต่เศร้าซึมได้ไม่นานหรอกค่ะ! ก็ต้องสะดุ้งโหย่งเพราะเสียงแว๊ดของเจ้ซีลีน
"ห๊ะ แต่งงาน?!!"
เจ้อลินที่อยู่โต๊ะผู้ชายหันขวับมาหาเรา พลังเผือกนั้นแรงกล้า นางรีบบอกลาผู้ชายแล้วเดินมานั่งถามตาแป๋ว
"ใครจะแต่งงาน? แกเหรอซีลีน" เจ้ซีลีนส่ายหน้าแล้วชี้มาที่ฉัน แต่ฉันยังไม่ตอบในทันที ปล่อยให้พี่ๆนั่งมองตัวเองยกเหล้าดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า
จนแก้วที่สี่หมดฉันถึงเล่าให้ฟังแบบเมาๆ และเล่าเสียงดังด้วย
"เออ! ฉันต้องแต่งงานกับทายาทมาเฟียอีกบ้าน ตอนเด็กๆก็หล่อนะ โตมาไม่รู้หน้าตาเป็นไง แล้วที่ฉันทะเลาะกับพ่อ เพราะว่าอยากทดลองใช้ก่อน แต่ฉันดันไปพูดกับพ่อตรงๆ เลยไม่เข้าหูท่าน"
"แกหมายถึงลองมีอะไรกันเหรอ?" เจ้อลินถามอึ้งๆ
"ใช่"
"ถ้าไม่ชอบทำไง? เสียตัวฟรี ไม่แต่ง?" ฉันวางแก้วบนโต๊ะ ปึก! แล้วมองเจ้ซีลีนตาเยิ้ม
"เจ้ ถ้าคนมันเซ็กส์ห่วยมันก็ต้องห่วยตั้งแต่เล้าโลมแล้วป่ะ ฉันเอาตัวรอดได้น่า จะรีบหุบขาให้ทัน"
พี่ๆถอนหายใจพร้อมกัน ก่อนที่ฉันจะลุกขึ้นยืนแล้วเซไปข้างหลังจนเกือบล้ม
"ไหวป่ะเนี่ย แกจะไปไหน"
"ไปเข้าห้องน้ำก่อน เดี๋ยวมา"
ฉันว่าจบก็เหลือบมองอีตาบีบนมแว๊บนึง พอเห็นว่าเขากำลังคุยกับเพื่อนอยู่จึงเดินไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำของวีไอพีจะอยู่ข้างหลังเรา ไม่ต้องลงบันไดไปใช้ร่วมกับคนอื่นๆ
ด้วยสติที่ไม่ครบร้อย ฉันจึงรีบทำธุระส่วนตัวให้เสร็จอย่างทำเวลา และรีบล้างมือเป่าแห้ง
แต่เมื่อเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำหญิงเท่านั้นแหละ ฝ่ามือใหญ่ของใครบางคนก็คว้าหมับที่ข้อมือฉัน แล้วกดตัวเข้ากำแพงทันที
"ปล่อย!"
"เจอกันอีกแล้ว... แต่ทำไมรอบนี้ปากไม่เก่งแล้วล่ะ"
ฉันกัดฟันจ้องหน้าเขาเขม็ง การเผชิญหน้ากันครั้งนี้ใกล้ชิดกว่ารอบแรกซะอีก ฉันเห็นหน้าเขาชัด เห็นความหล่อที่ยากจะจับตำหนิ แม้แต่ลมหายใจที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์และกลิ่นบุหรี่จางๆ ฉันยังรู้สึกได้เลย
แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาสำรวจใบหน้าเขา...
เขามีสิทธิ์อะไรมาแตะต้องตัวฉัน!
"คิดว่าอยากเจอรึไง!? คุณตามฉันใช่มั้ย รวยทิพย์อยากได้เงินซ่อมรถล่ะสิ" ฉันเชิดหน้าขึ้น ไม่ยอมให้ตัวเองอยู่ใต้อำนาจสายตาคู่นั้น
แต่เขาเหยียดยิ้มที่มุมปาก มองฉันด้วยสายตาที่แปลกไปกว่าเดิม
"ตอนแรก... ฉันไม่อยากพบอยากเจอผู้หญิงอย่างเธอเลย แต่ตอนนี้รู้สึก'อยาก' แล้วล่ะ"
"อย่ามาพูดจาทุเรศกับฉันนะ!" มือใหญ่บีบข้อมือฉันแน่น ก่อนจะกดฉันลงกับกำแพง จนหลังกระแทก ปึก!
"โอ๊ย ไอ้!..." ฉันชะงักทันที เพราะนิ้วชี้เรียวชี้หน้าฉัน ห่างเพียงคืบ
"ลองด่าฉันสิ แล้วเธอจะรู้...ว่าฉันไม่เหมือนคนอื่นๆที่เธอทำนิสัยแย่ด้วย"
"...."
"ผู้หญิงอย่างเธอ... จุดจบควรเป็นที่ไหนดี"
สาบานเถอะ ฉันไม่เคยอยากชกใครเท่านี้มาก่อน ถ้ามือฉันหลุดออกไปได้สักวิเดียวล่ะก็ ฉันจะจัดให้สาแก่ใจเลย
"แล้วคุณล่ะจุดจบควรเป็นที่ไหน ที่กล้าพูดแบบนี้คงไม่รู้สินะว่าพ่อฉันเป็นใคร"
เขาไม่ตอบฉัน ริมฝีปากยังคงยิ้มเหยียดอย่างเคย จนฉันเริ่มดิ้น เริ่มออกแรง เริ่มทำทุกอย่างให้ตัวเองหลุดจากพันธนาการนี้
แล้วเมื่อเขาปล่อย หมัดหลวมๆของฉันก็ง้างกว้างทันที
หมับ!
บ้าจริง!
มันยังไม่ปะทะกับใบหน้าเขาเลย อีตาบ้านั่นก็จับข้อมือฉันและบีบแรงจนเจ็บ หนำซ้ำยังกระตุกเข้าไปหาตัวเอง และสอดมือว่างอีกข้างรั้งท้ายทอยฉันเข้าไปจูบ
ฉันตาเบิกกว้าง ยืนนิ่งกับที่ ลมหายใจที่หอบโมโหเปลี่ยนเป็นหายใจไม่ทั่วท้อง
ริมฝีปากนั้นไม่ได้สั่งสอนให้ฉันสงบและผ่านไป เขาไม่จบเพียงแค่นั้น รุกล้ำเข้ามาด้วยลิ้นร้อนกดแนบริมฝีปากแรงๆ จนฉันเซไปข้างหลัง
และเมื่อฉันใช้มืออีกข้างดัน ทุบตี เขาก็จับหมับ! กดมันเหนือหัวฉันทันทีอย่างไม่เบาแรง
ฉันหายใจไม่ทันแล้ว
ช่วยออกไปสักที
แรงของฉันมันหายไปไหนหมด!
เวลาล่วงเลยนานแค่ไหนไม่รู้ แต่เมื่อริมฝีปากร้ายถอดถอนออกไป ฉันก็ไม่เหลือเรี่ยวแรงอีกเลย ร่างเล็กทรุดนั่งลงกับพื้นเหมือนคนโง่หายใจหอบหนัก
ทำได้แค่ช้อนตาขึ้นไปมองเขาที่ล้วงกระเป๋ากางเกงเดินออกไปเท่านั้น
นี่ฉันเมาหรืออะไรกัน... ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย มันทำให้ฉันอ่อนแออย่างประหลาด
"แทนขวัญๆ แกไหวไหมเนี่ย เป็นอะไรไปนั่งอยู่ตรงนั้น" เจ้ซีลีนที่กำลังเดินผ่านรีบมาพยุงฉันลุกขึ้น
"ฉัน... ฉะ ฉันเมา"
"เมา?"
ฉันพยักหน้า และมองรอบๆบริเวณจนเจ้อลินรีบมาช่วยพยุงไปที่โต๊ะอีกคน ฉันหย่อนก้นนั่งเหมือนคนเหม่อลอย มองไปที่โต๊ะนั้นเขาก็ยังนั่งอยู่และกินเหล้ากับเพื่อนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"วันนี้น้องสาวเราหนักจริงๆ เมาซะแล้ว แก้มแดงเลย"
ฉันจับแก้มตัวเองทันที แต่จังหวะนั้นดันเผลอสบตากับเขาเข้าให้ เขาจ้องมาขณะที่ยกเหล้าดื่ม แล้วรู้ไหม...ว่าอะไรทำให้ฉันแทบกัดลิ้นตัวเองตาย
ตอนที่เขาลดแก้วลง...
เขาเลียริมฝีปากตัวเอง
สติฉันไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ฉันต้องเมาแล้วแน่ๆ จึงพยายามดื่มให้น้อยลง แล้วหาเรื่องอื่นคุยกับพี่ๆแทน จนถึงเวลาเช็คบิลเจ้อลินอาสาเลี้ยง
แต่พนักงานดันถือใบเสร็จที่จ่ายเงินแล้วมาให้เธอ
"ยังไม่จ่ายเลยนะคะ" เจ้อลินที่ถือใบเสร็จอยู่บอกกับพนักงานไป
"เจ้าของผับบอกไม่คิดเงิน เพราะได้จูบไปแล้วครับ"
เราสามคนมองหน้ากันเลิ่กลัก และฉันเม้มปากทันที ก่อนที่เจ้ซีลีนจะชี้ไปที่เจ้อลินคนแรก
เออข้ามฉันไปเถอะ! ข้ามไป!
"แกเหรออลิน แกแน่ๆเลย นังใจร่าน!"
"บ้าเหรอ?! ไม่ใช่ฉันย่ะ>[]<"
"ไม่ใช่ฉันด้วย แล้วจะเป็นใครล่ะ!"
"คงเป็น... " สองคนนั้นชี้มาที่ฉันพร้อมกัน ซึ่งฉันรีบยกมือปฏิเสธ และส่ายหน้ารัวทันที
ไม่ๆ ไม่ใช่ฉัน!
และนี่มันก็ไม่ใช่ฉันเลย... แก้มฉันมันร้อนไปหมด ร้อนแปลกๆ เหล้ามันแรงเกินไปเหรอ?
ก็ไม่นะ...
หรือว่าจะเป็นคน...
"เป็นไรของแกแทนขวัญ ทำไมไม่นั่ง"เจ้อลินกระตุกข้อมือฉันให้นั่งลง แต่เก้าอี้ที่เหลือดันเป็นเก้าอี้ที่ฉันต้องหันไปที่โต๊ะของผู้ชายคนนั้น เขามองฉันนิ่งมาก วันนี้มาด้วยเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มปลดกระดุมสองเม็ด ขาที่สวมกางเกงสแลคยกไขว่ห้าง และมือขาวๆก็คลึงวิสกี้ในแก้วไปด้วยช้าๆ อย่างมีชั้นเชิงเออเขาดูดี แต่ไม่ดูดีกว่าจนสุดท้ายฉันจิกตาใส่ และยอมนั่งลง ดีเจก็ต้อนรับอย่างอลังการงานสร้างประกาศชื่ออีกครั้ง พร้อมกับขบวนเหล้าจุดไฟมาชุดใหญ่"ว้าว...สุดปัง" ฉันใช้เท้าสะกิดเจ้ซีลีนที่ตื่นตาตื่นใจ ปังอะไร...ไม่เห็นรึไงว่าโต๊ะข้างๆมันคุ้นๆ"อะไรของแก""ผู้ชายที่เราขับรถชนเมื่อตอนกลางวันนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ" เจ้ซีลีนอย่าหันนะ!ไม่ทันลูกพี่ลูกน้องฉันหันขวับไปทันทีเมื่อฉันพูดจบ ฉันจึงรีบตีแขนให้เธอหันกลับมาก่อนที่จะโป๊ะ"ไปมองเขาทำไม""ก็แกบอกฉันฉันก็มองป่ะ แต่ไม่เสียสายตานะ มีแต่คนหล่อๆ" ฉันส่ายหน้าเอือมระอา พยายามไม่สนใจสายตาของอีตาบ้านั่น ดื่มด่ำกับเหล้าหรูหลายยี่ห้อหลายรสที่เจ้อลินเปิดมา แต่ระหว่างนั้นรู้สึกตลอดนะว่าเขามองต้องอยากทวงค่าซ่อมรถกับฉันแน่ๆรวยทิพย์ล่ะสิ ถึงไม่มีค่าซ่อมลัมโบร์กินี"นี่ ดูแกไม่ม
"นั่นแหละ แต่ก่อนแต่งขอทดลองใช้ก่อนได้มั้ยคะ?""ทดลองใช้อะไร?" พ่อฉันถามด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ และหลังจากนั้นก็จ้องฉันรอคำตอบ"มีเซ็กส์""แทนขวัญ!"ฉันยักไหล่ขึ้นกับเสียงตวาดกร้าวเสียงดัง ก็พ่อจะให้ฉันแต่งงาน ฉันก็ไม่ปฏิเสธ (เพราะปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว) แล้วกฏการแต่งงานคืออะไร? เข้าใจกันเรื่องบนเตียง พอใจกันในเรื่องอื่นๆ มีหลายอย่างเลยที่ชีวิตคู่ต้องเรียนรู้ด้วยกันการทดลองเอากันก่อนแต่งมันผิดตรงไหน?ดีออก จะได้รู้ไงว่าเข้ากันได้รึเปล่า ไม่ใช่แต่งไปแล้วเซ็กส์ห่วยแตกฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ เสียอรรถรสเออ...ไหนๆก็บ่นแล้ว ก็บ่นแม่งยาวๆเลยแล้วกันฉันไม่เคยถือสาเรื่องพวกนี้ และไม่เคยหวงตัว อยากให้แต่งก็จะแต่งให้ แต่ขอแค่เป็นผู้เป็นคนไม่ปากเหม็น ไม่แก่ทึนทึก เพราะชีวิตฉันมันถูกจำกัดในกรงแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร แค่แต่งงานไม่ตายหรอกต้องอยู่บ้าน ต้องมีบอดี้การ์ด ห้ามเที่ยวต่างประเทศ ไปไหนต้องรายงาน สั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำ ถามหน่อยฉันมีสิทธิ์พูดหรือแย้งอะไรบ้างเหอะ! คอยดูนะ พ่อต้องเฉ่งฉันเรื่องรถบิ๊กไบค์ และเรื่องบอดี้การ์ดอีกแน่นอน"เหิมเกริม! เป็นผู้หญิงพูดจาแบบนี้ได้ยังไง!""เพศไหนก็มีสิทธิ์พูดเรื่องเซ็ก
"ก็ใช่น่ะสิ ถ้ามีสติคงไม่ทะเล่อทะล่าออกมาแบบนี้"เขาลอบถอนหายใจ แล้วจับมือฉันออกจากคอเสื้อตัวเอง ก่อนจะใช้หลังมือปัดสองสามทีด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง"อืม...ก็ใช่ แต่ถ้ามีจิตสำนึกที่ดี คงไม่ขับรถเร็วในที่ชุมชมแบบนี้" ฉันถลึงตามองเขาเขม็ง ก้าวไปประชิดอีกครั้งด้วยความโกรธ แต่เจ้ซีลีนรีบมาลากแขนออกไปซะก่อน"พอเถอะนะแทนขวัญ ช่างเขาเถอะ ขอโทษด้วยนะคะ เอาเป็นว่าผิดทั้งคู่ ต่างคนต่างแยกย้ายดีกว่าค่ะ"ฉันสบัดมือพี่สาวออกแล้วชี้หน้าผู้ชายคนนั้นทันที"อย่าให้ฉันเห็นหน้าอีกนะ ไม่อย่างงั้นฉันเก็บคุณแน่"ว่าแล้วฉันก็เปิดเสื้อขึ้นโชว์ปืนที่เหน็บเอวขู่เบาๆก่อนจะก้าวขาควบรถ แต่ผู้ชายคนนั้นไม่กลัวเลยสักนิด เขากลับล้วงกระเป๋ากางเกงมองฉันด้วยสีหน้าเรียบเฉย จนเจ้ซีลีนไปหยิบหมวกกันน็อคที่พื้นแล้วเขย่งขึ้นซ้อนรถบิ๊กไบค์ฉันเราทั้งคู่ขับมาจอดที่หน้าบ้านของนางด้วยอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่าน"อารมณ์เสียว่ะ" พอรถจอดฉันก็บ่นทันที"เออ ดีแล้วที่ออกมาก่อน เพราะถ้าตำรวจมาจะเรื่องใหญ่แน่ๆ อ่ะนี่หมวกกันน็อค ขอบใจนะที่ไปรับแต่คราวหลังฉันขอรถยนต์!"ฉันรับหมวกกันน็อคจากเจ้ซีลีนมาสวมให้ตัวเอง"อืม แล้วเจ้บินอีกตอนไหน?""อาทิตย์หน้
ล่ามรักมาเฟียโนเนจังเพนส์เฮาส์"แลนด์ดิ้งรึยัง..."(แลนด์แล้วจ้า มารับได้เลย)"โอเค อยากลองรถใหม่พอดี"หลังวางสายฉันหยัดลุกจากโซฟาไปคว้าหมวกกันน็อกเดินไปที่ลิฟต์ ก่อนจะกดลงไปชั้นจอดรถส่วนตัวของตัวเองเพื่อควบบิ๊กไบค์ Ducati Street Fighter V4s คู่ใจ ปอยผมยาวถูกสบัดไปข้างหลังลวกๆ เพื่อสวมหมวกกันน็อค ก่อนจะดึงถุงมือจากเสื้อหนังมาใส่ทีละข้างให้กระชับมือ"โคตรเท่"ฉันพูดกับตัวเองแล้วยิ้มที่มุมปาก หลังจากนั้นก็กดปุ่มสตาร์ทระเบิดเสียงท่อดังกระหึ่มทั่วบริเวณ'บรึ้นนนนน บรึ้นนนนน'"คุณแทนขวัญครับ!""คุณแทนขวัญ!"บอดี้การ์ดที่พึ่งมาถึงวิ่งมาล้อมรถบิ๊กไบค์ฉันทันที เวร น่ารำคาญเป็นบ้า! ทำไมฉันต้องเกิดมาเป็นลูกสาวมาเฟียด้วยวะ กฎเกณฑ์เยอะกว่ากฎหมายประเทศไทยซะอีก"หลบ""ถ้าคุณแทนขวัญจะออกไปข้างนอก พวกผมต้องนำขบวนนะครับ"ฉันเปิดหมวกกันน็อกขึ้นด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะคว้าปืนที่เหน็บข้างเอวออกมาตั้งลำ 'แกร๊ก' และเล็งไปที่คนขวางทางอย่างเอาจริง"ถ้าไม่หลบ...ฉันยิงเรียงคนแน่""แต่คุณแทนขวัญ... มันอันตรายนะครับ ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาท่านเอาผมตายแน่ๆ ผมไหว้ล่ะครับ ลงจากรถนะครับ""หลบ!"บอดี้การ์ดมองหน้ากันด้วยคว
"ได้ข่าวว่าอยากทดลองใช้"ร่างเล็กที่ยืนอยู่ก้าวถอยหลังโดยสัญชาติญาณ ทันทีที่สายตาสบประสานกับสายตาที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม เธอก็หายใจไม่ทั่วท้องในทันทีใช่ เธอรู้จักเขา...นับถือว่าเป็นพี่ชายคนนึงเลยก็ว่าได้...แต่ไม่คิดว่ามันจะมีวันนี้ วันที่ต้องเปลี่ยนสถานะเป็นสามีภรรยา และอยู่ๆเขาก็ปฏิบัติกับเธอไม่เหมือนเดิมมือใหญ่ยกขึ้นลูบไล้แก้มขาวก่อนจะบีบหมับ! เพื่อให้เธออยู่ในสายตา องศาไม่เคยทำแบบนี้กับแทนขวัญมาก่อน แต่พอเขารู้ว่าไม่นานต้องเข้าพิธีแต่งงานและเป็นเจ้าของ ความรู้สึกอยากครอบครองส่วนอื่นๆก็มีขึ้นมาดื้อๆ"กลัวรึเปล่า...""ไม่ ฉันไม่เคยกลัว""แต่ขนาดของฉัน จะทำให้เธอเจ็บเกินไป"แทนขวัญกลืนน้ำลายดังอึก แต่เก็บกลั้นความกลัวไว้ในใจ เธอเชิดหน้าขึ้นและส่งมือเรียวทาบทับกับเป้ากางเกงเพื่อพิสูจน์ความยิ่งใหญ่"ก็ไม่เท่าไหร่นี่""ต้องจับข้างใน"องศากระซิบข้างหู พลางจับมือเล็กสอดเข้าไปในกางเกงของตัวเอง หัวใจหญิงสาวเต้นแรงเมื่อแตะโดนความแข็งแรงนั้น เธอมองหน้าเขา เขามองหน้าเธอ ทั้งคู่จมอยู่กับความเงียบงันแค่จับก็อึดอัดจนหายใจไม่ออกแล้ว เธอคิดผิดรึเปล่าที่อยากทดลองใช้"ใหญ่ไหม..." เขาถาม"...""