ชมจันทร์....
ฉันข่มความโกรธความไม่พอใจเอาไว้ก่อนจะยอมขับรถมาส่งเขาที่ผับ พอถึงผับฉันก็เตรียมจะดับเครื่องและตั้งท่าจะคุยกับเขาให้รู้เรื่องว่าฉันไม่รับข้อเสนอที่เขาพูดมา แต่...
"เอารถฉันไปงานเลยไอ้หมอนั่นจะได้ไม่ต้องไปรับ อ่อเสร็จธุระแล้วมารับฉันด้วยล่ะอย่าลืม"
ปั้ง!!!! พูดจบเขาก็เปิดประตูรถแล้วเดินลงไปก่อนจะปิดประตูรถแล้วเดินชิวๆ เข้าผับโดยไม่สนใจว่าฉันตอบลงกับเขาหรือยังเรื่องที่เขาจ้างฉันให้ดูแลเขาช่วงที่เขาขับรถไม่ไหว ฉันว่าจะลงไปคุยกับเขาให้รู้เรื่องแต่พอมองดูเวลาแล้วน่าจะไม่ทันแน่ๆ ก็เลยขับรถกลับคอนโดเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุดไปงานสัมมนา
คอนโด...
ครืดดด ครืดดดด ขณะที่ฉันกำลังจะเดินเข้าห้องน้ำเสียงมือถือของฉันก็สั่นฉันหยิบมาดูปรากฏว่าเป็นหมอพีที่โทรมา
"ค่ะหมอ"
"ผมกำลังจะออกจากบ้านไปรับคุณนะถ้าถึงแล้วจะโทรหาอีกที" ตายแล้วนี่ฉันลืมบอกหมอพีเหรอเนี่ยว่าไม่ต้องมารับสงสัยจะรีบจนลืมบอก อ่อเรื่องที่หมอพีรู้จักคอนโดของฉันเพราะมีครั้งนึงเราไปสัมมนาด้วยกันแล้วเขาอาสามาส่งฉัน
"เอ่อหมอไม่ต้องมารับชมแล้วก็ได้ค่ะชมไปเองได้"
"ไปยังไงรถคุณเสียอยู่ไม่ใช่เหรอ" ฉันลืมบอกไปว่าฉันเองก็มีรถแต่ตอนนี้มันเสียก็เลยเอาเข้าศูนย์ซ่อม
"ไม่ใช่รถของชมหรอกค่ะเป็นรถเพื่อนน่ะ"
"รถเพื่อนจริงเหรอ"
"จริงค่ะ"
"เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชายบอกผมได้ไหมเพราะถ้าเป็นเพื่อนผู้หญิงผมจะได้สบายใจ" ฉันถึงกับใบ้รับประทานเมื่อได้ยินแบบนี้หมอพีพูดราวกับว่าหึงฉันเลยถ้ารถเป็นของเพื่อนผู้ชาย
"เอ่อ ของเพื่อน...ผู้ชายค่ะ" ฉันบอกหมอพีไปตามตรงแม้ว่าฉันจะไม่ได้คิดว่านายอาร์ตเป็นเพื่อนของฉันก็ตามเพราะฉันไม่เคยเห็นว่าเขาเป็นเพื่อนมานานแล้วตั้งแต่เขาไล่ให้ฉันไปตายแล้วเกิดใหม่
"งั้น...เราไปเจอกันที่งานก็แล้วกันนะ ขับรถดีๆ ล่ะ"
ตู๊ดดดด ตู๊ดดดด หมอพีวางสายไปแล้วโดยที่ฉันไม่ทันได้พูดอะไรต่อเลย แต่น้ำเสียงของหมอพีเหมือนเขาโกรธและน้อยใจฉันอยู่ฉันฟังจากน้ำเสียงแล้วก็พอดูออก หรือว่าจริงๆ แล้วหมอพีก็ชอบฉันเหมือนที่ฉันชอบเขาถ้าเป็นแบบนั้นก็เท่ากับว่าเราสองคนใจตรงกัน อ๊ายยยแค่คิดก็เขินแล้ว><
ฉันใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ กว่าจะมาถึงโรงแรมที่จัดสัมมนา พอมาถึงฉันก็มองหาหมอพีเพราะเขาบอกว่าเขาจะรอฉันอยู่หน้างานพื่อจะได้เดินเข้าไปพร้อมกัน
"ชมทางนี้ครับ" ฉันหันไปตามเสียงเรียกปรากฏว่าเป็นหมอพีกำลังยืนอยู่กับกลุ่มผู้ใหญ่หลายท่านซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคุณหญิงแม่ของหมอพีท่านเป็นผู้บริหารของโรงพยาบาลที่ฉันทำงานอยู่ ฉันรีบเดินเข้าไปแล้วกราบสวัสดีทุกท่านแม้จะยังไม่รู้จักว่าพวกท่านเหล่านี้เป็นใครกันบ้าง
"ผมขอแนะนำนะครับนี่คือพยาบาลชมจันทร์พยาบาลที่ทั้งสวยและเก่งที่สุดเธอทำงานที่โรงพยาบาลของผมครับ เธอเรียนจบด้านจิตวิทยามาด้วยรักษาผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตมาแล้วหลายรายซึ่งแต่ละรายอาการก็ดีขึ้น" หมอพีบรรยายสรรพคุณของฉันให้กับทุกคนได้รับรู้ซึ่งทุกคนก็ยิ้มและกล่าวทักทายฉันอย่างเป็นมิตรยกเว้นแต่..คุณหญิงแม่ของหมอพีที่มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมด้วยสายตาเหยียดและดูถูก ถามว่าทำไมฉันถึงคิดแบบนี้เพราะท่านไม่ได้แสดงท่าทางแบบนี้กับใครนอกจากฉันเพียงคนเดียว อย่าบอกนะว่าท่านรู้ว่าฉันชอบหมอพี แล้วฉันจะโดนย้ายไหมเนี่ย
และในขณะที่ฉันกำลังคิดมากกับเรื่องนี้จู่ๆ หมอพีก็เดินมาจับมือฉันแล้วพาเดินเข้างาน
"เราเข้าไปในงานกันเถอะงานจะเริ่มแล้ว"
"เอ่อ...ค่ะ" ฉันมองมือตัวเองที่ถูกกุมด้วยมือนุ่มๆ ของหมอพีอยากจะบอกว่ามือหมอนุ่มมากฉันก็เลยทำได้เพียงเดินตามคุณหมอเข้างานโดยที่มีสายตาของคุณหญิงแม่หมอพีมองตามไม่ห่างอย่างไม่พอใจ
และในระหว่างที่เข้าร่วมประชุมสัมมนาอยู่นั่นจู่ๆ ฉันก็รู้สึกปวดฉี่ก็เลยขอตัวแล้วลุกออกมาเพื่อเข้าห้องน้ำ
หลังทำธุระเสร็จและกำลังยืนล้างมืออยู่ที่อ่างล้างมือคุณหญิงแม่ของหมอพีก็เดินเข้ามาในห้องน้ำท่านมองฉันด้วยสายตาไม่พอใจอย่างแรง
"เธอใช่ไหมที่เป็นพยาบาลชื่อชมจันทร์"
"ใช่ค่ะคุณหญิงมีอะไรหรือเปล่าคะ" ฉันถามกลับไปด้วยความงงและสงสัยที่จู่ๆ ท่านก็มาถามฉันแบบนี้เพราะฉันคิดว่าท่านน่าจะได้ยินหมอพีเรียกชื่อฉันหลายรอบแล้วตอนอยู่ในงาน
"ที่ฉันถามชื่อเธอเพราะฉันแค่อยากมั่นใจเท่านั้นว่าเธอใช่คนที่ฉันให้คนไปสืบประวัติมาจริงๆ หรือเปล่า"
"สืบประวัติเหรอคะเอ่อสืบทำไมคะ" ฉันรู้ว่าที่ท่านพูดแบบนี้ท่านต้องการอะไรแต่ฉันก็แค่อยากลองถามเหมือนตัวฉันเองไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าที่ผ่านมาถ้าท่านสืบประวัติใครคนๆ นั้นต้องเกี่ยวข้องกับหมอพีอย่างแน่นอน
"ที่ฉันสืบก็เพราะฉันต้องรู้ว่าผู้หญิงที่ลูกชายฉันชอบอยู่ตอนนี้เป็นใครมาจากไหนลูกเต้าเหล่าใคร และตอนนี้ฉันรู้เรื่องราวของเธอหมดแล้ว เธอเลิกอ่อยเลิกให้ท่าลูกชายของฉันได้แล้ว"
"อ่อย?? ให้ท่า?? เอ่อคุณหญิงหมายความว่ายังไงคะดิฉันไม่เข้าใจ" เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันไม่เคยอ่อยหรือให้ท่าหมอพีเลยสักครั้งแม้ว่าจะชอบเขามากแค่ไหนก็ตาม
"เธออย่ามาแกล้งโง่หน่อยเลยฉันรู้ว่าเธอหวังที่จะจับหมอพีลูกชายฉัน"
"ดิฉันไม่เคยคิดแบบนั้นนะคะสาบานได้" ฉันเถียงคุณหญิงแม่หมอพีด้วยน้ำเสียงจริงจังเพราะฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลยฉันรู้ว่าตัวเองไม่มีอะไรเหมาะสมกับหมอพีเลยสักอย่างเขาเป็นคนดีเป็นคุณหมอที่เก่งเป็นคนมีฐานะทางสังคมฉันรู้ตัวเองดีมาตลอดว่าตัวเองเป็นใคร แค่ฉันได้แอบชอบเขาฉันก็มีความสุขแล้ว ฉันคิดแบบนี้จริงๆ นะ
"อย่ามาโกหกแค่เธออ้าปากฉันก็เห็นลิ้นไก่ ฉันจะบอกให้เอาบุญนะว่าผู้หญิงที่จะมาเป็นแฟนหมอพีหรือจะเป็นลูกสะใภ้ของฉันได้นั้นประวัติต้องดีการศึกษาฐานะครอบครัวก็ต้องดีด้วยไม่ใช่ผู้หญิงแบบเธอที่ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่างซ้ำร้ายไปกว่านั้นเธอเคยไปทำศัลยกรรมใบหน้าที่เกาหลีมาอีกฉันบอกตามตรงฉันรับไม่ได้ถ้าลูกชายฉันต้องแต่งงานกับผู้หญิงหน้าพลาสติกแบบเธอ!!!" ฉันกำหมัดแน่นด้วยความโกรธที่ถูกดูถูก
"เรื่องฐานะเรื่องครอบครัวฉันไม่เถียงหรอกค่ะแต่เรื่องศัลยกรรมมันทำไมเหรอคะทำแล้วมันผิดตรงไหนเหรอคะใครๆ ก็อยากสวยอยากดูดีกันทั้งนั้น และเท่าที่ดิฉันทราบมาคุณหญิงเองก็มาเสริมความงามมาผ่าตัดร้อยไหมยกกระชับหน้าหน้าที่โรงพยาบาลบ่อยๆ ไม่ใช่เหรอคะ ถ้าไม่อยากสวยแล้วคุณหญิงจะมาทำทำไมคะ" ฉันไม่รู้ว่าเอาความกล้ามาจากไหนเถียงคุณหญิงไปแบบนั้นแต่ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกฉันแบบนี้
"แกกล้ามากที่ว่าฉันแบบนี้แกอยากโดนไล่ออกใช่ไหม"
"ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดไม่ได้ผิดกฎระเบียบหรือข้อบังคับของทางโรงพยาบาลทำไมฉันต้องกลัวด้วยคะฉันทำงานทำหน้าที่ของตัวเองดีมาตลอด"
"แต่แกอย่าลืมว่าฉันเป็นเจ้าของโรงพยาบาลฉันจะไล่ใครออกก็เป็นสิทธิ์ของฉัน"
"ก็ลองดูค่ะฉันร้องเรียนได้นะคะถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมถึงแม้คุณหญิงจะเป็นเจ้าของโรงพยาบาลก็ตาม"
"แก!!!นังชมจันทร์!!!"
"ค่ะฉันชื่อชมจันทร์ไม่ต้องย้ำ อ่อฉันจะบอกความจริงให้อีกอย่างนะคะว่าหมอพีน่ะฉันเองก็แอบชอบเขามานานแล้วตอนแรกฉันคิดว่าจะแอบชอบหมอพีเงียบๆ ชอบไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ฉันชักจะอยากได้หมอพีมาเป็นผัวแล้วสิคะยิ่งคุณหญิงห้ามแบบนี้ฉันยิ่งสนุก ฉันจะทำให้หมอพีตกหลุมรักฉันให้มากๆ และขอฉันเป็นแฟนจากนั้นก็ขอฉันแต่งงานในที่สุดเพราะฉันมั่นใจว่าหมอพีเองก็ชอบฉันเหมือนกันไม่อย่างงั้นคุณหญิงคงไม่ลงทุนจ้างให้คนไปสืบเรื่องของฉันหรอกจริงมั้ยคะ ตั้งรับไว้ให้ดีนะคะคุณหญิงและดูหน้าของฉันไว้เพราะอนาคตของฉันจะเป็นสะใภ้ของคุณหญิงอย่างแน่นอน"
"กรี๊ดดดด นังชมจันทร์นังหน้าพลาสติกฉันไม่ยอมให้แกสมหวังแน่!!!"
"ก็มาลองดูค่ะ^^"
"เกิดอะไรขึ้นครับแม่" หมอพีวิ่งหน้าตั้งเข้ามาในห้องน้ำสงสัยได้ยินเสียงแม่ตัวเองกรี๊ด
หมอพี..."พ่อขา""ครับลูก""ทำไมพ่อกับอาอาร์ตถึงไม่ค่อยถูกกันล่ะคะหนูเห็นเจอหน้ากันทีไรก็ทะเลาะกันตลอดเลย""เรื่องมันยาวลูกอย่าไปรู้เลยเนอะว่าแต่ตอนนี้ลูกสาวพ่อหิวหรือยังครับ""หิวแล้วค่า อืมมมไม่รู้พี่พีคไปไหนหนูไม่เจอเลย" น้องพั้นช์มองหาพี่ชายตัวเอง"น่าจะอยู่ข้างในบ้านมั้งลูกก็เราสองคนพากันเดินออกมานั่งเล่นข้างนอกถ้าหนูจไปหาพี่ก็ไปเถอะ""แล้วพ่อล่ะคะไม่เข้าไปด้วยกันเหรอ""เดี๋ยวพ่อตามไปหนูเข้าไปก่อนเลยแต่อย่าลืมที่พ่อบอกนะลูก""ไม่ลืมค่า ห้ามคุยกับคนแปลกหน้าแล้วก็คนหน้าไม่แปลกค่า^^""โดยเฉพาะ....""ผู้ชายค่า""ดีมากครับ" ผมยืนมองลูกสาวเดินเข้าไปในงาน หลายๆคนอาจจะมองว่าผมหวงลูกสาวของผมซึ่งผมก็ยอมรับว่าทั้งหวงทั้งห่วงเพราะแกเป็นเด็กไม่ค่อยพูดถ้าไม่สนิทจริงๆแกเป็นคนเข้ากับคนอื่นยากมากขนาดไปโรงเรียนแกยังไม่ค่อยมีเพื่อนเลยแกบอกว่าเพื่อนที่โรงเรียนชอบนินทาเพื่อนคนอื่นๆแกก็เลยไม่ชอบและชอบที่จะอยู่คนเดียว แกเหมือนผมแทบทุกอย่างเลยโดยเฉพาะนิสัยใจคอซึ่งผมก็หวังว่าแกจะไม่มีอารมณ์รุนแรงเหมือนผมเมื่อก่อนนะแต่ผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ลูกสาวผมก็แค่คนเรียบร้อยพูดน้อยไม่เข้าสังคมก็แค่นั้นเอง ส่วนลูกชา
อาร์ต...."ผมชอบพี่พั้นช์ผมอยากได้พี่พั้นช์เป็นแฟนครับปะป๊า^^""ห๊ะ!!! เตอร์บอกอยากได้พี่พั้นช์แฟน??""คร๊าบบบบบ""เตอร์ครับเตอร์เพิ่งเจ็ดขวบเองนะลูก" ผมบอกลูกด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ"เจ็ดขวบก็มีหัวใจนี่ครับปะป๊า"ในเมื่อลูกชายสุดที่รักของผมพูดมาขนาดนี้แล้วคงต้องช่วยแล้วล่ะแต่..แต่มันติดตรงที่พ่อของน้องพั้นช์นี่แล่ะไอ้หมอพีมันหวงลูกสาวมันยังกับไข่ในหินแม่งใครที่เป็นผู้ชายเข้าใกล้ไม่ได้เลย ผมจำได้ตอนที่ผมไปรับลูกสาวผมน้องอบเชยที่โรงเรียนอนุบาลซึ่งก็เรียนห้องเดียวกันกับน้องพั้นช์น้องพีคผมเจอไอ้หมอพีมันกำลังยืนกอดอกทำตาขวางใส่เด็กผู้ชายที่เดินจับมือลูกสาวมันออกมาจากห้องเรียนเพราะคุณครูให้เข้าแถวแล้วเดินจับมือกันออกมาเป็นคู่ๆผมเห็นมือมันกำหมัดแน่นด้วยความโกรธและไม่พอใจแต่มันก็ทำอะไรไม่ได้ไงเพราะเด็กก็แค่ไม่กี่ขวบแล้วเด็กก็คงไม่ได้คิดอะไรกันหรอกมันอ่ะคิดมากไปเองแต่...พอมาตอนนี้ผมคิดแบบนั้นไม่ได้แล้วเพราะลูกชายผมมันบอกว่าชอบลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของไอ้หมอพี ผมปวดหัวแทนลูกผมตอนนี้เลยละกัน"เตอร์ครับทำไมเตอร์ไม่ไปชอบคนอื่นๆล่ะลูกเพื่อนที่โรงเรียนก็มีตั้งเยอะแยะอ่ะครับลูก" ผมพยายามโน้มน้าวจิตใจลูกเผื
8ปีต่อมาชมจันทร์...."แม่ขาาา แม่"ตุบ ตุบ ตุบ เสียงวิ่งพร้อมเสียงตะโกนเรียกมาแต่ไกลของลูกสาวของฉันนั่นก็คือน้องอบเชยทำให้ฉันต้องรีบวางมือจากสิ่งที่ทำแล้วหันไปถามลูกสาวที่เพิ่งเลิกเรียนมาน้องอบเชยตอนนี้อายุได้เก้าขวบกว่าแล้ว"ขาคนสวยของแม่ว่าไงคะลูก^^" ที่ฉันพูดไม่เกินจริงเลยลูกสาวของฉันทั้งสวยทั้งน่ารักไม่ใช่แค่ฉันนะที่ชมลูกใครเห็นใครเจอก็พูดแบบนี้ทั้งนั้นบางคนบอกน้องอบเชยสวยได้แม่ฉันทำได้แค่ยิ้มบางๆเพราะจริงๆแล้วที่ฉันสวยได้ขนาดนี้ก็เพราะมีดหมอต่างหาก แต่ก็ดีแล้วล่ะที่น้องอบเชยสวยปะป๊าของแกจะได้ไม่ต้องเสียเงินพาลูกไปทำสวยแล้วลูกก็จะไม่เจ็บตัวด้วย ฉันยังจำวันนั้นได้ดีวันที่ฉันตัดสินใจไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีเป็นอะไรที่เจ็บปวดและทรมานมากๆถึงมากที่สุด"วันนี้แม่ทำอะไรให้น้องอบทานบ้างคะน้องอบหิวแล้วหิวมากๆๆเลยค่า""โถลูกขาแม่ก็นึกว่าอะไรตะโกนมาซะเสียงดังลั่นบ้านเลยเรียบร้อยเหมือนพี่พั้นช์มั่งสิคะลูก" พี่พั้นช์ที่ฉันพูดถึงก็คือลูกสาวของหมอพีกับยัยพินแกเป็นเด็กเรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้ต่างจากลูกสาวของฉันราวฟ้ากับดินที่ทั้งดื้อและซนเอาแต่ใจตัวเองอีกต่างหากเพราะโดนปะป๊าสปอยล์ตามใจมาตั้งแต่เด็ก
หลายเดือนต่อมา....อาร์ต...."ฮึก ฮึก ฮือออ ฮือออ" "เสียงอะไรวะ" ผมสะลึมสะลือแล้วก็บ่นพึมพำคนเดียวท่ามกลางความมืดภายในห้องนอนเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นที่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงใครแต่ทั้งห้องมันก็มีแค่ผมกับชมไหมถ้าไม่ใช่ชมแล้วจะใครวะจะว่าผีก็ไม่น่าจะใช่เพราะเพิ่งทำบุญบ้านกันไปหรือว่าชมร้องเพราะปวดท้อง พอนึกขึ้นได้สติเริ่มมาผมก็รีบเปิดไฟหัวเตียงแล้วหันไปทางฝั่งที่ชมนอนปรากฏว่าเธอกำลังนั่งร้องไห้อยู่กลางที่นอนผมรีบถามทันทีด้วยความเป็นห่วง"ชมร้องไห้ทำไมใครทำอะไรหรือปวดท้อง" ผมถามพร้อมกับเอามือไปแตะที่ท้องใหญ่ๆของเธอ"อาร์ตชมกลัว ฮืออ ฮืออออ""กลัวอะไรครับไหนบอกผัวมาซิ""ฮึก ฮึก อีกไม่กี่วันลูกสาวของเราก็จะคลอดแล้วใช่ไหม""อื้มมใช่ทำไมเหรอ""ชมกลัวฮือออ ฮือออออกลัวลูกเกิดมาจะไม่สวยเหมือนชมเมื่อก่อนไง ฮืออ ชมสงสารลูกอ่าาาา ฮืออออ" ผมถึงกับถอนหายใจเมื่อได้ยินสิ่งที่เมียรักพูดทั้งน้ำตา "ที่ตื่นขึ้นมากลางดึกนี่แล้วร้องไห้นี่เพราะกลัวลูกจะเกิดมาไม่สวย??""อื้ออออ ใช่ ฮึก ฮึก""โอ๋ โอ๋ ไม่เป็นไรน๊าาา ถ้าลูกไม่สวยเดี๋ยวปะป๊าคนนี้จะพาลูกไปเกาหลีเองจะให้หมอทำให้สวยเหมือนเจนี่แบล็คพิ้งค์
ชมจันทร์....ตอนนี้ฉันอยู่ที่สนามบินเพื่อมาส่งยัยพินกับหมอพีไปอเมริกาส่วนอาร์ตไม่ได้มาเพราะจู่ๆเขาก็รู้สึกเวียนหัวหน้ามืดฉันก็เลยต้องมาคนเดียวแล้วให้เขานอนพักอยู่ที่ห้อง"เดินทางปลอดภัยนะแก แกไม่อยู่ฉันคงเหงามากเลย""แกอย่ามาพูดว่าเหงายัยชมฉันเห็นแกที่ไหนที่นั่นก็ต้องมีคุณอาร์ตอยู่ด้วยตลอดเวลามีแฟนตามติดเป็นเงาตามตัวขนาดนั้นแกจะเหงาได้ยังไงจ๊ะเพื่อนรัก^^" ฉันโดนยัยพินแซวแต่เรื่องนี้ไม่เกินจริงเลยสักนิดคือตอนนี้ฉันไม่ได้ทำงานที่โรงพยาบาลแล้วเพราะอาร์ตบังคับให้ฉันลาออกเนื่องจากว่าแม่ของหมอพีพอรู้เรื่องที่ฉันกับหมอพีไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วแต่ไม่ยอมบอกกับท่านท่านก็เลยมาพาลด่าหาว่าฉันหลอกท่านทำให้ท่านพลาดโอกาสที่จะหาผู้หญฺิงที่เพียบพร้อมและเหมาะสมให้กับหมอพีแล้วแม่หมอพีก็ยังพาลเข้าใจผิดอีกหาว่าฉันยุยงส่งเสริมให้ยัยพินไปหลอกหมอพีแล้วก็ปล่อยให้ท้องเพื่อจับหมอพีฉันนี่อายมากเพราะไม่เคยเจอใครมาด่าต่อหน้าขนาดนี้ ตอนที่แม่หมอพีด่าฉันอาร์ตก็เดินเข้ามาได้ยินพอดีเขาโกรธและไม่พอใจเป็นอย่างมากก็เลยด่าแม่หมอพีไปชุดใหญ่จนคนทั้งแผนกหันมามอง แล้ววันนั้นอาร์ตเขาก็สั่งให้ฉันลาออกทันทีเขาบอกว่าเมียคนเดียวเขาเลี
หมอพี...ผมไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีและมีความสุขได้มากขนาดนี้ ตั้งแต่เด็กจนโตตั้งแต่จำความได้ผมไม่เคยมีความสุขมากเท่านี้มาก่อนตอนนี้ผมมีผู้หญิงที่ผมรักและกำลังจะมีลูกกับเธอซึ่งอาจจะได้ลูกแฝดก็เป็นได้ แต่ผมคิดว่ามีทางเป็นไปได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะผมเคยมีพี่ชายฝาแฝดแต่เขาไม่อยู่แล้วเขา..ฆ่าตัวตายเพราะโดนกดดันจากแม่ที่บังคับเขาทุกอย่างพอพี่ชายผมเสียไม่นานพ่อของผมก็ขอหย่ากับแม่พ่อโยนความผิดไปให้แม่บอกว่าเพราะแม่ถึงทำให้พี่ชายผมคิดสั้นตอนนั้นแม่ผมเสียใจมากแทบจะฆ่าตัวตายตามพี่ชายผมไป ผมสงสารแม่มากก็เลยปลอบแม่และบอกกับแม่ว่าแม่ยังมีผม และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแม่ก็โยนความหวังทุกอย่างมาให้ผมซึ่งผมก็ขัดคำสั่งแม่ไม่ได้เพราะกลัวว่าท่านจะเสียใจแล้วทิ้งผมไปอีกคน เรื่องพี่ชายฝาแฝดของผมไม่มีใครรู้ทุกคนคิดว่าผมเป็นลูกชายคนเดียวของแม่ ตอนนั้นผมต้องทนรับแรงกดดันทุกอย่างแม่สั่งให้ทำอะไรเรียนอะไรผมก็ทำตามที่ท่านต้องการทุกอย่างจนกลายเป็นความเคยชินของแม่ ถ้าผมไม่ทำตามท่านก็จะขังผมไว้ในห้องไม่ให้ออกไปไหนไปเจอใคร ตอนนั้นผมรับรู้ถึงความรู้สึกของพี่ชายว่าเพราะอะไรเขาถึงคิดสั้น มีหลายครั้งที่ผมอยากทำแบบพี่แต่สุดท้า