“ฉันจะไม่คืนมันให้คุณ แดเนียล ไพรซ์! คุณจำไว้ด้วยว่าฉันเกลียดคุณมากกว่าอะไรทั้งหมด!”
“คุณเป็นคนบีบบังคับผมเองนะซอนญ่า”
ชายหนุ่มแผดเสียงก่อนก้มหน้าลงไปหาหญิงสาวอย่างรวดเร็ว สายลับสาวเบี่ยงหลบไม่ทันจึงต้องรับจูบหนักอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
“อื้อ...อื้อ” อลินทิราครางอู้อี้ในลำคอ เธอตอบโต้เขาไม่ได้และอ่อนแอลงอย่างน่าใจหายใต้เรือนกายแข็งแกร่ง หญิงสาวบอกตัวเองว่าตอนนี้เธอมีสติครบถ้วน ทว่าร่างกายกลับอ่อนยวบเหมือนขี้ผึ้งเหลวยามถูกไฟลน ทั้งที่แดเนียลกำลังโกรธจัดแต่จูบหนักและเรียวลิ้นที่ตวัดไปมาในโพรงปากเล็กกลับจุดความหวามไหวขึ้นในใจที่ต่อต้าน
“อือ...อือ” เจ้าของใบหน้าหวานเริ่มครางแผ่วในขณะที่อาการขัดขืนก็ลดน้อยตามไปด้วยและแล้วสายลับสาวก็ตอบรับจุมพิตหน่วงหนักและรู้สึกถึงความตื่นตัวที่เสียดสีบนหน้าขา นี่เธอเป็นอะไรไปถึงได้ยอมปลดปล่อยตัวเองง่ายดายขนาดนี้
“แดน!” อลินทิราหอบเหนื่อยหลังจากที่แดเนียลถอนจูบ ร่างบอบบางเปล่าเปลือยสั่นสะท้านเหมือนลูกนก ทำไมเธอต้องอ่อนแอและอ่อนไหวต่อบุรุษที่คุกคามร่างกายเธอเมื่อคืนนี้
“คุณทำร้ายฉัน แดเนียล! คุณทำลายฉัน ไม่มีวันที่ฉันจะคืนข้อมูลลับนั่นให้คุณ!”
“นี่เป็นข้อต่อรองใหม่ของคุณอย่างนั้นหรือซอนญ่า...ได้...ถ้าคิดว่าตัวเองฉลาดก็ต้องรู้ว่าคุณกำลังเล่นกับอะไรอยู่”
“ฉันเคยพบคนที่ร้ายกาจยิ่งกว่าคุณเสียอีก แดเนียล”
“แต่คุณคงไม่เคยอยู่บนเตียงกับเขาแบบนี้แน่”
“แดน!”
“ฟังผม!” นักนิวเคลียร์ฟิสิกส์บัญชาเสียงเด็ดขาดและกดแกนกลางลำตัวกับร่างสาวที่สั่นเทิ้ม
“ผมตามคุณมาถึงยูทาห์ไม่ใช่แค่มารับรู้ข้อต่อรองที่ไม่มีเหตุผลพวกนี้หรอกนะ ในเมื่อคุณไม่ยอมบอกผมดี ๆ ว่าเอาข้อมูลสำคัญนั่นไปไว้ที่ไหน ผมก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้คุณคายมันออกมาให้ได้”
คนพูดหยุดไปชั่วครู่ก่อนสายตาคู่คมจะเลื่อนต่ำลงไปยังกลีบปากนุ่มแห้งผาก แดเนียลกระตุกยิ้มมุมปากอย่างน่าหวาดหวั่น
“ผมจะพาคุณกลับแคลิฟอเนีย...กลับไปคฤหาสน์ไพรซ์”
“ถ้าจะพาตัวฉันไปขังไว้ที่นั่นแล้วทรมานให้ฉันบอกความจริง...ก็ไม่มีทางที่คุณจะได้ในสิ่งที่คุณต้องการหรอกค่ะ แดน”
“คุณจะเป็นอิสระ” เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินอมม่วงลึกล้ำฉายประกายบางอย่างที่หญิงสาวมิอาจคาดเดา อลินทิราย่นคิ้วกระทั่งเขาพูด
“แต่ก็อย่าเพิ่งสติแตกไปเสียล่ะ...ถ้าผมจะให้ยาแบบนี้กับคุณ...ทุกคืน!”
บทที่ 5
กลับสู่คฤหาสน์ไพรซ์
“แดน...นี่ฉันไม่ใช่ที่ระบายความใคร่ของผู้ชายบ้ากามอย่างคุณนะ!”
“นี่แหละวิธีการของผม! มันเป็นวิธีรีดความลับจากสายลับที่แสนเก่งกาจ คุณเก่งนักไม่ใช่หรือ ซอนญ่า อยากจะรู้เหมือนกันว่าคุณจะทนมันได้แค่ไหน”
”ฉันจะตอบแทนคุณให้เจ็บในสักวัน แดเนียล ไพรซ์!”
“เมื่อถึงวันนั้นแม่บุญธรรมของคุณก็อาจจะได้รับการตอบแทนไปในแบบเดียวกัน!”
อลินทิราจ้องมองแดเนียลอย่างจะกินเลือดเนื้อ เธออยากฉีกเขาออกเป็นล้านชิ้น หญิงสาวตอบโต้บุรุษที่อยู่เหนือเธอไม่ได้สักอย่าง เธอสู้เขาไม่ได้และถึงทุ่มเถียงไปก็ไม่สำเร็จ ครั้งนี้เธอเข้าตาจนที่สุดในชีวิต
“แดน...ให้คุณล่ามโซ่ฉันไว้ กักขังฉันไว้ ก็ไม่มีวันทำลายความเป็นออโซลย่าในตัวฉันได้เด็ดขาด”
“ช่างน่าชื่นชมสายลับที่ซื่อตรงต่อองค์กรอย่างคุณเสียจริง แต่...ผมคงไม่ทำอะไรอย่างนั้นหรอก ผมจะไม่ล่ามโซ่ ไม่ใส่กุญแจมือ ไม่กักขังคุณ เพราะถึงยังไงผมก็จะเลือกตัดสินใจกับข้อต่อรองสุดท้ายที่คุณยังเหลืออยู่ นั่นคือดาเลีย!”
ร่างสูงใหญ่ทิ้งคำพูดไว้ก่อนจะผละจากร่างบอบบางให้สายลับสาวครุ่นคิดอยู่อีกชั่วครู่ เขาทำอย่างที่พูด คือปล่อยให้หญิงสาวเป็นอิสระโดยไม่ยอมสวมกุญแจมือเหมือนเธอเป็นนักโทษ ทว่าอลินทิราก็รู้ด้วยสัญชาติญาณว่าเธอทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการมองดูบุรุษรูปร่างกำยำหายเข้าไปในห้องน้ำและออกมาพร้อมกับการแต่งกายด้วยเสื้อยืดกางเกงยีนส์อย่างเมื่อวาน แม้ว่าแดเนียล ไพรซ์ เป็นผู้ชายอันตรายกว่าที่เธอคิดไว้มาก แต่ทางออกสำหรับจารชนสาวคือการยื้อเวลาไว้ให้นานที่สุด เพราะไม่แน่ว่าหากเจ้าของข้อมูลลับได้สิ่งที่ต้องการไปแล้วเขาอาจบิดเบือนคำสัญญาไม่เว้นแม้แต่ข้อต่อรองสุดท้ายของเธอก็เป็นได้
“แดเนียล...ฉันรักคุณค่ะ ฉันกลัวเหลือเกินว่าคุณจะไม่กลับมาหาฉันอีก”“ผมต้องกลับมาที่รัก” เขาก้มลงจูบบนเปลือดกตาของหญิงสาวที่ตัวเธอสั่นสะทานขึ้นมาราวกับยังหวาดหวั่น “ยอดดวงใจของผม คุณไม่รู้หรอกว่าผมกลัวมากแค่ไหนถ้ามาถึงที่นี่แล้วไม่พบคุณ”“บ้าน...เป็นที่สุดท้ายสำหรับฉันค่ะ จารชนที่แต่นี้ไปจะเป็นแค่คนธรรมดา แดนคะ...มาเต้นรำกันเถอะค่ะ ฟังซีคะ ต้นหญ้าและขุนเขากำลังร้องเพลง”ร่างอรชรผละห่างจากชายหนุ่มและเริ่มร่ายรำด้วยท่าทางอย่างบัลเล่ต์รีน่าท่ามกลางทุ่งหญ้าส่ายไหวอาบแสงสีเงิน แดเนียลยืนล้วงกระเป๋าและอมยิ้มอยู่ข้าง ๆ ม้าพันธุ์เทอโรเบรดด้วยความรู้สึกสุขใจ ดวงตาสีน้ำเงินอมม่วงลึกล้ำจับจ้องอยู่ที่ร่างแน่งน้อยที่กำลังเริงระบำกลางที่ราบทุ่งหญ้าพลิ้วไหว เขารักอลินทิรามากเกินกว่าจะใช้ชีวิตอยู่ได้ตามลำพังและมองเห็นความวาดหวังถึงชีวิตครอบครัวอันอบอุ่นในกาลเบื้องหน้า นี่อาจเป็นสิ่งที่เขาตามหามาตลอดชีวิตก็เป็นได้ศาลาที่ว่าการกรุงออสโลว์ ประเทศนอรเวย์เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ร่างบอบบางในชุดราตรีสีฟ้าครามซึ่งนั่งอย่างสงบบนเบาะหลังรถเอสยูวีคันใหญ่รีบหยิบขึ้นมากดรับสาย“สวัสดีจ้ะ ซอนญ่า”“ค่ะ...แม่”
“แดน...ที่ผ่านมาคุณไม่คิดบ้างหรือคะว่าฉันเคยทำอะไรแย่ ๆ กับคุณบ้าง อย่างเช่นวางยาคุณ หรือตั้งใจจะเอาคืนให้คุณเจ็บแสบ”“อะไร ๆ อาจแย่กว่านี้ถ้าผมไม่ได้รู้จักคุณ...ออโซลย่า”หญิงสาวเอียงคอเพื่อมองใบหน้าคร้ามคมที่ลดจมูกลงมาเคลียบนแก้มนุ่ม“คุณคงยังไม่ลืมเธอซีนะคะ”“ผมไม่เคยลืมสายลับสาวแสนสวยที่เก่งกาจถึงขนาดถอดรหัสผ่านประตูนิรภัยของผมได้ และยิ่งกว่านั้นเสน่ห์ของเธอก็มัดใจผมไว้จนดิ้นไม่หลุด”“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะแดน...ฉันน่ะไม่เห็นว่าคุณจะพูดดีกับฉันสักหน” อลินทิราอดที่จะตั้งคำถามกับคนที่เธอรักไม่ได้แม้เวลานั้นจะล่วงเลยมาแล้วก็ตาม“อืม...คงตั้งแต่พบกันครั้งแรกในแคนยอน แลนด์ ผู้หญิงอะไรเจ้าเล่ห์ชะมัดทั้งที่รู้ว่าสู้ผมไม่ได้”“ฉันอยากจะฆ่าคุณ” เธอย่นจมูก “ทึ้งคุณให้หลุดเป็นชิ้น ไม่เคยมีใครตามติดและต้อนฉันจนมุมได้เหมือนคุณ”“ตอนแรกคุณจินตนาการว่าผมเป็นคนแบบไหนกัน ซอนญ่า” ชายหนุ่มจุดความอบอุ่นในกายหญิงสาวด้วยการขบเม้มเบา ๆ ที่ใบหูเล็กบาง“ตอนที่ฉันจะรับงานนี้ ฉันแทบไม่สนใจข้อมูลเจ้าของชิปนั่นเลยสักนิดเดียว ฉันคิดเอาเองว่า แดเนียล ไพรซ์ คงเป็นผู้ชายที่น่าเบื่อ เขาคงเป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง
“แม่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขค่ะ ท่านยังปลูกผักและเดินเป็นระยะไกล ๆ ได้ ถึงท่านจะอยู่คนเดียวแต่ก็ไม่เหงา เพราะว่าเจ้าอิงลิชกับเจ้ามูนวอล์คเกอร์นี่ล่ะค่ะ”หญิงสาวหันกลับไปยังม้าสองตัวที่ยื่นหน้าเข้ามาให้เธอลูบไล้แผงคอของพวกมันเล่น พวกมันดูคุ้นเคยและทำราวกับคิดถึงนายของมัน“ตัวนี้เป็นม้าอิงลิช เทอโรเบรดค่ะ มันเป็นม้าฝีเท้าดี ฉันตั้งชื่อมันว่าอิงลิช” อลินทิราบอกพลางลูบไล้ไปบนหัวของม้าตัวใหญ่สีน้ำตาลเข้มซึ่งเรือนขนบนหลังและหางมีสีดำเป็นมันวาว มันดูบึกบึนแข็งแรงทว่าก็เชื่องอย่างไม่น่าเชื่อ“ผมเคยอ่านประวัติของม้าพันธุ์ผสมพวกนี้ ตอนศตวรรษที่สิบเจ็ดนักล่าอาณานิคมพยายามพัฒนาสายพันธุ์ม้าอเมริกันใหม่ ๆ ก็เลยผสมพันธุ์ม้าพื้นเมืองกับม้าแคนาดา มันขึ้นชื่อเรื่องของความแข็งแรง พอหลังจากนั้นก็ผสมกับม้าพันธุ์อิงลิชเทอโรเบรดอย่างเจ้าอิงลิชของคุณนี่ไง”แดเนียลเสริมแต่ยังไม่สัมผัสตัวของมันเหมือนหญิงสาว“และนี่...เจ้ามูนวอล์คเกอร์ค่ะ มันเป็นม้าป่าพันธุ์สเปน เรียกได้อีกอย่างว่าซัลเฟอร์ เป็นม้าของรัฐยูทาห์ค่ะ แม่เป็นคนตั้งชื่อให้เพราะตอนพามาเลี้ยงใหม่ ๆ มันหายไปตอนคืนจันทร์เต็มดวง เราคิดว่ามันคงถูกขโมยหรือไม่ก
“ที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อจะขอคุณแต่งงาน แต่ผมยังไม่ได้พบแม่บุญธรรมของคุณ ไม่รู้ท่านจะว่ายังไงบ้าง”“ฉันจะว่ายังไงได้ล่ะคะ”เสียงของหญิงสูงวัยที่แทรกขึ้นมาทำให้สองหนุ่มสาวหันไปมองที่ประตูพร้อมกัน“แม่!” อลินทิราอุทานออกมา เธอลืมตัวจะผละห่างจากชายหนุ่มทว่าแดเนียลยังกอบกุมมือเรียวบางไว้แน่น ดาเลียซึ่งยืนอยู่ที่ประตูยิ้มกับผู้มาใหม่ นางมองเขาด้วยสายตาบอกความประหลาดใจหากก็เต็มไปด้วยความตื้นตัน“สวัสดีค่ะ...ฉันคือดาเลีย เฮอเกรล ฉันเป็นแม่บุญธรรมของอัลลี่เองค่ะ”ดาเลียแนะนำตัวในขณะที่ชายหนุ่มคลายมือจากหญิงสาว“สวัสดีครับคุณแม่ ผม แดเนียล ไพรซ์”“แม่กลับมาตอนไหนคะ ทำไมหนูไม่ได้ยินเสียงเลย”ร่างบางถามแก้เก้อ เธอดูเงอะงะไม่รู้ว่าจะยิ้มหรือจะแสดงท่าทางอย่างไรต่อหน้าแม่บุญธรรมในสถานการณ์ไม่คาดฝันเช่นนี้“แม่ลืมของที่จะเอาไปฝากลุงเคิร์คน่ะจ้ะ เลยกลับมาและก็ทันได้ยินว่า คุณแดเนียลจะขอหนูแต่งงาน นี่เป็นความจริงหรือจ๊ะ?”“เป็นความจริงครับคุณแม่”ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาหญิงสูงวัย นางจ้องมองเขาไม่วาง แดเนียล ไพรซ์ เป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาและมีเสน่ห์ดึงดูด เขาทำให้ดาเลียพรึงเพริศราวถูกสะกดด้วยนัย
แดเนียลอธิบายในขณะที่อาการตื่นกลัวของอีกฝ่ายเริ่มคลายลง อลินทิราเห็นแววตาคู่นั้นหม่นแสงเมื่อเขาพูดต่อไป“เธอแอบจัดตั้งมูลนิธิในนาม ไพรซ์ คอร์ป เพื่อซออนเนต และถ่ายโอนเงินเป็นท่อน้ำเลี้ยงเพื่อองค์กรของตัวเอง พอเออร์วิ่งรายงานเรื่องนี้พร้อมทั้งยืนยันด้วยเอกสาร ผมก็เริ่มส่งคคนตามประกบจนเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้ข้อมูลว่าโมนิกานัดพบกับ อลัน ทีทอน เจ้าพ่อค้าอาวุธสงครามของยุโรป...ผมตามเธอไปพร้อมกับตำรวจและหน่วยสวาทติดอาวุธครบมือ”“ตำรวจคงจับเธอได้แล้วใช่ไหมคะ แดเนียล?”หญิงสาวถามอย่างกระตือรือร้น ความตื่นเต้นประดังอยู่ในอกแทบระเบิดด้วยอยากรู้วาระสุดท้ายของนายใหญ่แห่งไซออนเนต ทว่าแดเนียลกลับยิ้มขื่นและตอบว่า“โมนิกาเป็นคนเก่ง เธอเป็นอัจฉริยะ แต่...” ชายหนุ่มหยุดคำพูดจนอีกฝ่ายต้องเอ่ยถาม“เธอหนีไปได้ใช่ไหมคะ?”ร่างสูงส่ายหน้าและสูดลมหายใจลึก “โมนิกา...ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจ...วิสามัญ”“พระเจ้า!”“เราจัดพิธีศพให้เธอและฝังเธอไว้ในสุสานของตระกูล เมื่อไม่มีนายใหญ่ ไซออนเนตก็ถึงจุดจบ”“บางที...อาจจะไม่” อลินทิราขืนตัวออกจากแขนแกร่ง ดวงตาคู่สวยรื้นน้ำและแดงก่ำ“อาจเป็นจุดจบของไซออนเนต แต่คุณ
“ตอนผมไปโรงพยาบาลและพบหมอที่รักษาคุณ เขาบอกว่าภรรยาของผมอาการดีขึ้นมากและได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ หมอกำชับผมให้ดูแลคุณเป็นพิเศษ ผมคิดว่าจะไม่ถามอะไรต่อจนคุณหมอเข้ามาแสดงความยินดีที่ผมจะได้เป็นพ่อคน เพราะภรรยาของผมตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว”หญิงสาวพูดอะไรไม่ออก เธอรับฟังทุกอย่างแต่เหมือนยังมีสิ่งค้างคาใจ“แดนคะ...ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหนีหรือปกปิดเรื่องนี้ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าคุณกลับไปแคลิฟอเนียเป็นเพราะคุณต้องรีบกลับไปหาโมนิกาหรือเปล่า”“ใช่...โมนิกาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมต้องรีบกลับไปที่นั่น”ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ลังเลและทำให้ใบหน้าของอีกฝ่ายหมองลงอย่างเหนได้ชัด กระทั่งเขาพูดต่อทั้งที่กอดเธอไว้แน่น“ตอนที่คุณยังไม่ฟื้นหลังจากหมอผ่าตัดเอากระสุนฝังในออก ผมได้รับโทรศัพท์จากเออร์วิ่ง เขาเป็นนักสืบเอกชนฝีมือดีที่ผมจ้างมาสืบเรื่องนี้ เออร์วิ่งให้ผมรีบกลับไปที่ซานตาโมนิกาด่วนเพราะเขามีข้อมูลบางอย่างให้ผมดู มันเป็นข้อมูลความผิดปกติทางด้านการเงินของบริษัท ตอนแรกที่เขาเข้ามาสืบเรื่องชิปที่หายไป เขารู้แค่ว่ามันเชื่อมโยงกับองค์กรลับไซออนเนต แต่การล้วงข้อมูลลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ทำให้เออร์วิ่งพบกับสิ่งที่น่าต