“ยินดีที่ได้รู้จักนะ...มาจากแคนยอนแลนด์เหรอ? เธอดูแปลก ๆ ไม่ต่างจากภูเขาที่นั่นเลยนะ”
“พี่จะให้ซอนญ่าพักอยู่ที่นี่”
แดเนียลแทรกขึ้นและนั่นเองทำให้เจ้าของคำพูดเสียดสีหน้าบึ้งยิ่งกว่าเก่า ถึงแดเนียลจะดูใส่ใจผู้หญิงที่เขาพามาหากเธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกดูถูกอยู่ดี
“ในฐานะอะไรหรือคะ” สะกดใจถามออกไปด้วยน้ำเสียงหนัก ๆ
“ในฐานะเพื่อนที่รู้ใจ และพี่...ก็จะดูแลเธอเอง”
ชายหนุ่มกล่าวจบก็จูงมือหญิงสาวที่เขาพามาด้วยเข้าไปในตัวตึก ปล่อยให้โมนิกาที่ยังยืนอยู่กับเพียร์สันเหลือบมองด้วยสายตาไม่พอใจ
“คุณคงเห็นแล้วสินะ ว่าแดเนียลเขาไม่มีเวลาจะมาสนใจโครงการปรับปรุงตึกของฉัน”
“ครับ...แต่น่าประหลาดใจมาก”
“ยังมีอะไรที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าเรื่องที่พี่ชายฉันพาผู้หญิงข้างถนนมาที่นี่อีกอย่างนั้นหรือ?”
“ครับ...น่าประหลาดใจที่สุด เพราะผมไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่เขาเคยควงด้วยมาที่นี่เลย...แม้แต่คนเดียว”
ความเห็นของเพียร์สันยิ่งกระตุกความรู้สึกของโมนิกาซึ่งมีความไม่พอใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วให้ย่ำแย่ลงกว่าเก่า ทว่าญาติผู้น้องซึ่งทำหน้าที่เป็นถึงรองประธานบริษัทก็ฉลาดพอที่จะเก็บอารมณ์ขุ่นข้นไว้ข้างใน นิสัยที่ไม่ชอบให้ใครเจ้ากี้เจ้าการชีวิตและเป็นคนตัดสินใจเด็ดขาดอย่างแดเนียลสอนให้หญิงสาวที่บิดาและมารดาแยกทางกันเดินแต่เล็กและต้องย้ายมาอยู่ภายใต้การดูแลของลุงกับป้ารู้จักการวางตัวต่อญาติผู้พี่ของเธอคนนี้เสมอ
อลินทิรายินยอมให้แดเนียลจูงมือเธอเข้าไปในคฤหาสน์รูปทรงแอนทีคแสนโอ่อ่าซึ่งได้รับการออกแบบตกแต่งชั้นเลิศและประดับประดาด้วยของมีค่าที่ได้รับการเก็บสะสมจนไม่อาจนับชิ้น สายลับสาวเก็บอาการตื่นใจไว้ลึก ๆ ขณะประหวัดคิดไปถึงคืนนั้นที่เธอสวมวิญญาณจารชนเข้ามาขโมยข้อมูลสำคัญออกไปซึ่งมันถูกเก็บรักษาไว้ในห้องปฏิบัติการใต้ดินลึกลงไปภายใต้คฤหาสน์หลังนี้ แดเนียลอาจพาเธอไปคุมขังไว้ที่ใดสักแห่ง
อาจเป็นห้องลึกลับมิดชิดพอที่เขาจะจับเธอทรมานเพื่อบีบบังคับเอาสิ่งที่ต้องการกลับคืน ทว่าสายลับสาวต้องพบความประหลาดใจเมื่อสิ่งที่เธอคาดเดาไว้ต่าง ๆ นานานั้นล้วนผิดพลาด เขาพาเธอไปยังห้องที่อยู่ทางปีกซ้ายของตัวตึกซึ่งเป็นห้องที่ได้รับการออกแบบดูเรียบง่ายมากกว่าส่วนใด ๆ ของคฤหาสน์หลังนี้
“คุณต้องอยู่ที่นี่ ห้ามออกไปไกลเกินจากเขตรั้วของคฤหาสน์ไพรซ์ จนกว่าผมจะได้ข้อมูลของผมคืน”
ร่างสูงใหญ่กล่าวขึ้นหลังปิดประตูห้องและปล่อยมือหญิงสาวเป็นอิสระ ข้อต่อรองของเขาทำให้หญิงสาวเหยียดยิ้มเยาะอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า
“แล้วถ้าฉันไม่ยอมคืนมันง่าย ๆ คุณก็ต้องรอต่อไป ต่อไป...และต่อไป”
“ผมน่ะรอไหว” แดเนียลสวนกลับก่อนกระชากไหล่บางจนร่างนั้นเซเข้าไปหาเขาอีกหน
“ว่าแต่คุณเถอะ จะทนไหวมั้ยถ้าต้องถูกกรอกยาเพื่อรองรับอารมณ์ของผมทุกคืน!”
“คุณน่าจะเกรงใจคุณโมนิกา ญาติของคุณบ้างนะคะแดน แค่คุณหอบหิ้วฉันมาที่นี่ฉันก็คิดว่าเธอต้องรู้สึกไม่ดีแน่”
“เธอไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของผม ถ้าผมจะหิ้วโสเภณีเข้ามาที่นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับโมนิกา!”
“แดน!” อลินทิราสุดทนจนต้องผละจากร่างสูงใหญ่แล้วตวัดฝ่ามือลงไปบนหน้าคมคายอย่างแรง
ฉาด!
เสียงฝ่ามือปะทะใบหน้าสีแทนทว่าก็แทบไม่ระคายความรู้สึกของคนเลือดเย็นอย่างขาเช่นเคย
“แดน...คุณมันหยาบคาย!”
ร่างแน่งน้อยตวาดชายหนุ่มที่แค่ยกมือขึ้นลูบแก้ม ทว่านัยน์ตาสีน้ำเงินอมม่วงนั้นกล้าแข็งราวกับเสือดุร้าย เขาดึงร่างบอบบางกลับมาและกอดรัดด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน
“ซอนญ่า...คุณเคยเป็นสายลับมือหนึ่งของไซออนเนต คุณเคยทำให้คนอื่นอยู่ไม่เป็นสุขเพราะการกระทำเลวร้ายที่คุณอ้างว่ามันเป็นหน้าที่ ทีนี้คุณก็คงรู้แล้วสินะว่าการต้องตกเป็นเหยื่อและผู้ถูกกระทำมันเป็นยังไง ผมนี่แหละที่จะสั่งสอนให้คุณรู้จักกับคำว่า บทเรียน!”
“แดน...อย่านะ!”
อลินทิราไม่ทันร้องออกมาก็ถูกลิ้นหนาจู่โจมเข้าไปในอุ้งปากเล็กอีกหน แขนแกร่งรัดเอวบางไว้แน่นและบดขยี้จูบหนักจนหญิงสาวหายใจแทบไม่ทัน ร่างเล็กกว่าเจ็บปวดจากการถูกรุกราน จากสายลับสาวมากฝีมือตอนนี้ต้องกลายเป็นเบี้ยล่างให้คนใจหินอย่างแดเนียลกระทำตามอำเภอใจ หญิงสาวทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการกำหมัดแน่นและถูมันไปบนแขนแกร่งที่ตวัดรัดรอบตัวจนไม่อาจกระดิก
“แดเนียล...ฉันรักคุณค่ะ ฉันกลัวเหลือเกินว่าคุณจะไม่กลับมาหาฉันอีก”“ผมต้องกลับมาที่รัก” เขาก้มลงจูบบนเปลือดกตาของหญิงสาวที่ตัวเธอสั่นสะทานขึ้นมาราวกับยังหวาดหวั่น “ยอดดวงใจของผม คุณไม่รู้หรอกว่าผมกลัวมากแค่ไหนถ้ามาถึงที่นี่แล้วไม่พบคุณ”“บ้าน...เป็นที่สุดท้ายสำหรับฉันค่ะ จารชนที่แต่นี้ไปจะเป็นแค่คนธรรมดา แดนคะ...มาเต้นรำกันเถอะค่ะ ฟังซีคะ ต้นหญ้าและขุนเขากำลังร้องเพลง”ร่างอรชรผละห่างจากชายหนุ่มและเริ่มร่ายรำด้วยท่าทางอย่างบัลเล่ต์รีน่าท่ามกลางทุ่งหญ้าส่ายไหวอาบแสงสีเงิน แดเนียลยืนล้วงกระเป๋าและอมยิ้มอยู่ข้าง ๆ ม้าพันธุ์เทอโรเบรดด้วยความรู้สึกสุขใจ ดวงตาสีน้ำเงินอมม่วงลึกล้ำจับจ้องอยู่ที่ร่างแน่งน้อยที่กำลังเริงระบำกลางที่ราบทุ่งหญ้าพลิ้วไหว เขารักอลินทิรามากเกินกว่าจะใช้ชีวิตอยู่ได้ตามลำพังและมองเห็นความวาดหวังถึงชีวิตครอบครัวอันอบอุ่นในกาลเบื้องหน้า นี่อาจเป็นสิ่งที่เขาตามหามาตลอดชีวิตก็เป็นได้ศาลาที่ว่าการกรุงออสโลว์ ประเทศนอรเวย์เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ร่างบอบบางในชุดราตรีสีฟ้าครามซึ่งนั่งอย่างสงบบนเบาะหลังรถเอสยูวีคันใหญ่รีบหยิบขึ้นมากดรับสาย“สวัสดีจ้ะ ซอนญ่า”“ค่ะ...แม่”
“แดน...ที่ผ่านมาคุณไม่คิดบ้างหรือคะว่าฉันเคยทำอะไรแย่ ๆ กับคุณบ้าง อย่างเช่นวางยาคุณ หรือตั้งใจจะเอาคืนให้คุณเจ็บแสบ”“อะไร ๆ อาจแย่กว่านี้ถ้าผมไม่ได้รู้จักคุณ...ออโซลย่า”หญิงสาวเอียงคอเพื่อมองใบหน้าคร้ามคมที่ลดจมูกลงมาเคลียบนแก้มนุ่ม“คุณคงยังไม่ลืมเธอซีนะคะ”“ผมไม่เคยลืมสายลับสาวแสนสวยที่เก่งกาจถึงขนาดถอดรหัสผ่านประตูนิรภัยของผมได้ และยิ่งกว่านั้นเสน่ห์ของเธอก็มัดใจผมไว้จนดิ้นไม่หลุด”“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะแดน...ฉันน่ะไม่เห็นว่าคุณจะพูดดีกับฉันสักหน” อลินทิราอดที่จะตั้งคำถามกับคนที่เธอรักไม่ได้แม้เวลานั้นจะล่วงเลยมาแล้วก็ตาม“อืม...คงตั้งแต่พบกันครั้งแรกในแคนยอน แลนด์ ผู้หญิงอะไรเจ้าเล่ห์ชะมัดทั้งที่รู้ว่าสู้ผมไม่ได้”“ฉันอยากจะฆ่าคุณ” เธอย่นจมูก “ทึ้งคุณให้หลุดเป็นชิ้น ไม่เคยมีใครตามติดและต้อนฉันจนมุมได้เหมือนคุณ”“ตอนแรกคุณจินตนาการว่าผมเป็นคนแบบไหนกัน ซอนญ่า” ชายหนุ่มจุดความอบอุ่นในกายหญิงสาวด้วยการขบเม้มเบา ๆ ที่ใบหูเล็กบาง“ตอนที่ฉันจะรับงานนี้ ฉันแทบไม่สนใจข้อมูลเจ้าของชิปนั่นเลยสักนิดเดียว ฉันคิดเอาเองว่า แดเนียล ไพรซ์ คงเป็นผู้ชายที่น่าเบื่อ เขาคงเป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง
“แม่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขค่ะ ท่านยังปลูกผักและเดินเป็นระยะไกล ๆ ได้ ถึงท่านจะอยู่คนเดียวแต่ก็ไม่เหงา เพราะว่าเจ้าอิงลิชกับเจ้ามูนวอล์คเกอร์นี่ล่ะค่ะ”หญิงสาวหันกลับไปยังม้าสองตัวที่ยื่นหน้าเข้ามาให้เธอลูบไล้แผงคอของพวกมันเล่น พวกมันดูคุ้นเคยและทำราวกับคิดถึงนายของมัน“ตัวนี้เป็นม้าอิงลิช เทอโรเบรดค่ะ มันเป็นม้าฝีเท้าดี ฉันตั้งชื่อมันว่าอิงลิช” อลินทิราบอกพลางลูบไล้ไปบนหัวของม้าตัวใหญ่สีน้ำตาลเข้มซึ่งเรือนขนบนหลังและหางมีสีดำเป็นมันวาว มันดูบึกบึนแข็งแรงทว่าก็เชื่องอย่างไม่น่าเชื่อ“ผมเคยอ่านประวัติของม้าพันธุ์ผสมพวกนี้ ตอนศตวรรษที่สิบเจ็ดนักล่าอาณานิคมพยายามพัฒนาสายพันธุ์ม้าอเมริกันใหม่ ๆ ก็เลยผสมพันธุ์ม้าพื้นเมืองกับม้าแคนาดา มันขึ้นชื่อเรื่องของความแข็งแรง พอหลังจากนั้นก็ผสมกับม้าพันธุ์อิงลิชเทอโรเบรดอย่างเจ้าอิงลิชของคุณนี่ไง”แดเนียลเสริมแต่ยังไม่สัมผัสตัวของมันเหมือนหญิงสาว“และนี่...เจ้ามูนวอล์คเกอร์ค่ะ มันเป็นม้าป่าพันธุ์สเปน เรียกได้อีกอย่างว่าซัลเฟอร์ เป็นม้าของรัฐยูทาห์ค่ะ แม่เป็นคนตั้งชื่อให้เพราะตอนพามาเลี้ยงใหม่ ๆ มันหายไปตอนคืนจันทร์เต็มดวง เราคิดว่ามันคงถูกขโมยหรือไม่ก
“ที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อจะขอคุณแต่งงาน แต่ผมยังไม่ได้พบแม่บุญธรรมของคุณ ไม่รู้ท่านจะว่ายังไงบ้าง”“ฉันจะว่ายังไงได้ล่ะคะ”เสียงของหญิงสูงวัยที่แทรกขึ้นมาทำให้สองหนุ่มสาวหันไปมองที่ประตูพร้อมกัน“แม่!” อลินทิราอุทานออกมา เธอลืมตัวจะผละห่างจากชายหนุ่มทว่าแดเนียลยังกอบกุมมือเรียวบางไว้แน่น ดาเลียซึ่งยืนอยู่ที่ประตูยิ้มกับผู้มาใหม่ นางมองเขาด้วยสายตาบอกความประหลาดใจหากก็เต็มไปด้วยความตื้นตัน“สวัสดีค่ะ...ฉันคือดาเลีย เฮอเกรล ฉันเป็นแม่บุญธรรมของอัลลี่เองค่ะ”ดาเลียแนะนำตัวในขณะที่ชายหนุ่มคลายมือจากหญิงสาว“สวัสดีครับคุณแม่ ผม แดเนียล ไพรซ์”“แม่กลับมาตอนไหนคะ ทำไมหนูไม่ได้ยินเสียงเลย”ร่างบางถามแก้เก้อ เธอดูเงอะงะไม่รู้ว่าจะยิ้มหรือจะแสดงท่าทางอย่างไรต่อหน้าแม่บุญธรรมในสถานการณ์ไม่คาดฝันเช่นนี้“แม่ลืมของที่จะเอาไปฝากลุงเคิร์คน่ะจ้ะ เลยกลับมาและก็ทันได้ยินว่า คุณแดเนียลจะขอหนูแต่งงาน นี่เป็นความจริงหรือจ๊ะ?”“เป็นความจริงครับคุณแม่”ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาหญิงสูงวัย นางจ้องมองเขาไม่วาง แดเนียล ไพรซ์ เป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาและมีเสน่ห์ดึงดูด เขาทำให้ดาเลียพรึงเพริศราวถูกสะกดด้วยนัย
แดเนียลอธิบายในขณะที่อาการตื่นกลัวของอีกฝ่ายเริ่มคลายลง อลินทิราเห็นแววตาคู่นั้นหม่นแสงเมื่อเขาพูดต่อไป“เธอแอบจัดตั้งมูลนิธิในนาม ไพรซ์ คอร์ป เพื่อซออนเนต และถ่ายโอนเงินเป็นท่อน้ำเลี้ยงเพื่อองค์กรของตัวเอง พอเออร์วิ่งรายงานเรื่องนี้พร้อมทั้งยืนยันด้วยเอกสาร ผมก็เริ่มส่งคคนตามประกบจนเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้ข้อมูลว่าโมนิกานัดพบกับ อลัน ทีทอน เจ้าพ่อค้าอาวุธสงครามของยุโรป...ผมตามเธอไปพร้อมกับตำรวจและหน่วยสวาทติดอาวุธครบมือ”“ตำรวจคงจับเธอได้แล้วใช่ไหมคะ แดเนียล?”หญิงสาวถามอย่างกระตือรือร้น ความตื่นเต้นประดังอยู่ในอกแทบระเบิดด้วยอยากรู้วาระสุดท้ายของนายใหญ่แห่งไซออนเนต ทว่าแดเนียลกลับยิ้มขื่นและตอบว่า“โมนิกาเป็นคนเก่ง เธอเป็นอัจฉริยะ แต่...” ชายหนุ่มหยุดคำพูดจนอีกฝ่ายต้องเอ่ยถาม“เธอหนีไปได้ใช่ไหมคะ?”ร่างสูงส่ายหน้าและสูดลมหายใจลึก “โมนิกา...ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจ...วิสามัญ”“พระเจ้า!”“เราจัดพิธีศพให้เธอและฝังเธอไว้ในสุสานของตระกูล เมื่อไม่มีนายใหญ่ ไซออนเนตก็ถึงจุดจบ”“บางที...อาจจะไม่” อลินทิราขืนตัวออกจากแขนแกร่ง ดวงตาคู่สวยรื้นน้ำและแดงก่ำ“อาจเป็นจุดจบของไซออนเนต แต่คุณ
“ตอนผมไปโรงพยาบาลและพบหมอที่รักษาคุณ เขาบอกว่าภรรยาของผมอาการดีขึ้นมากและได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ หมอกำชับผมให้ดูแลคุณเป็นพิเศษ ผมคิดว่าจะไม่ถามอะไรต่อจนคุณหมอเข้ามาแสดงความยินดีที่ผมจะได้เป็นพ่อคน เพราะภรรยาของผมตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว”หญิงสาวพูดอะไรไม่ออก เธอรับฟังทุกอย่างแต่เหมือนยังมีสิ่งค้างคาใจ“แดนคะ...ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหนีหรือปกปิดเรื่องนี้ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าคุณกลับไปแคลิฟอเนียเป็นเพราะคุณต้องรีบกลับไปหาโมนิกาหรือเปล่า”“ใช่...โมนิกาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมต้องรีบกลับไปที่นั่น”ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ลังเลและทำให้ใบหน้าของอีกฝ่ายหมองลงอย่างเหนได้ชัด กระทั่งเขาพูดต่อทั้งที่กอดเธอไว้แน่น“ตอนที่คุณยังไม่ฟื้นหลังจากหมอผ่าตัดเอากระสุนฝังในออก ผมได้รับโทรศัพท์จากเออร์วิ่ง เขาเป็นนักสืบเอกชนฝีมือดีที่ผมจ้างมาสืบเรื่องนี้ เออร์วิ่งให้ผมรีบกลับไปที่ซานตาโมนิกาด่วนเพราะเขามีข้อมูลบางอย่างให้ผมดู มันเป็นข้อมูลความผิดปกติทางด้านการเงินของบริษัท ตอนแรกที่เขาเข้ามาสืบเรื่องชิปที่หายไป เขารู้แค่ว่ามันเชื่อมโยงกับองค์กรลับไซออนเนต แต่การล้วงข้อมูลลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ทำให้เออร์วิ่งพบกับสิ่งที่น่าต