Share

บทที่ 329

Author: ทองประกาย
มีคนถาม "พระชายา เมื่อครู่ท่านว่าองค์ชายน้อยถูกองครักษ์อุ้มไป แล้วเหตุใดตอนนี้จึงไปอยู่ในตู้เสื้อผ้าเล่า"

อีกคนหนึ่งก็สังเกตเห็นผ้าในปากทารก จึงถามขึ้นอย่างสงสัย "เหตุใดจึงมีผ้าอุดปากองค์ชายน้อย ดูสิ หน้าแดงก่ำไปหมดแล้ว"

เจียงเม่ยเอ๋อร์อ้าปากค้าง คิดไม่ออกว่าจะอธิบายอย่างไร จึงตบหน้าแม่นมทีหนึ่ง "นังบ่าวชั่ว! ใครใช้ให้เจ้าเอาองค์ชายน้อยไปไว้ในตู้"

"องค์ชายน้อยเป็นเทพเจ้ากลับชาติมาเกิด หากเกิดอันตรายขึ้นมา ข้าจะเอาชีวิตเจ้า!"

แม่นมถูกตบล้มลง ทุกข์ใจอย่างมากแต่ก็พูดไม่ออก จึงร้องไห้วิ่งหนีออกไป

เจียงเม่ยเอ๋อร์ดึงผ้าออกจากปากทารก มองดูแล้วพลันรู้สึกว่าทารกหน้าตาประหลาดคนนี้ดูน่ารักขึ้นมาไม่น้อยจึงยิ้มกว้างพูดว่า "ข้าบอกแล้วว่าลูกข้าไม่ใช่ดวงกาลกิณี หน้าตาเช่นนี้ แท้จริงคือเทพเจ้ากลับชาติมาเกิด"

เจียงเม่ยเอ๋อร์อุ้มทารกอย่างเอ็นดู ส่วนทารกรูปร่างประหลาดในอ้อมแขนนางนั้นตอนนี้ร้องไห้จนไม่มีเสียงหลงเหลือแล้ว

ผู้คนมองภาพตรงหน้า รู้สึกว่าแม้จะดูอบอุ่น แต่กลับแฝงความประหลาดอย่างบอกไม่ถูก

พวกเขาทนดูต่อไปไม่ไหว ในเมื่อมอบของแสดงความยินดีแล้ว จึงเอ่ยคำประจบประแจงสองสามคำแล้วรีบจากไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 330

    ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ฮูหยินอ๋องกลับดูเหมือนแก่ไปหลายปี ผมบนศีรษะหลายเส้นกลายเป็นสีเงิน "ท่านแม่ เหตุใดท่านจึงพูดกับลูกเช่นนี้ ลูกเป็นบุตรีของท่านนะเจ้าคะ!" เจียงเม่ยเอ๋อร์เปิดหนังสัตว์ออก พูดว่า "ท่านดูสิ ลูกยังพาหลานชายของท่านมาด้วย แม้เขาจะมีรูปลักษณ์อัปลักษณ์ แต่โหรหลวงบอกว่าเขาเป็นเซียนกลับชาติมาเกิด เป็นดาวมงคลนะเจ้าคะ!" แต่ฮูหยินอ๋องกลับมีสีหน้าเรียบเฉย "ข้าไม่สนว่าเขาจะเป็นดาวอัปมงคลหรือดาวมงคล เจ้าทำให้ท่านอ๋องโกรธจนเป็นลมล้มลง จนบัดนี้ยังไม่ฟื้น ต่อไปเจ้าไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับจวนอ๋องอีก กลับไปซะ!" "ท่านแม่ ลูกถูกใส่ร้ายจริง ๆ นะเจ้าคะ" เจียงเม่ยเอ๋อร์พูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น "พอเถอะ ข้าไม่อยากฟังคำอธิบายพวกนี้" ฮูหยินอ๋องถอนหายใจยาว "ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ข้าคิดอะไรได้มากมาย ข้าเลี้ยงเจ้ามาตั้งแต่เล็กเหมือนลูกแท้ ๆ แม้ภายหลังจะพบซุ่ยฮวนบุตรีแท้ ๆ ของข้า ข้าก็ยังรู้สึกว่าสนิทกับเจ้ามากกว่า" "ข้ามอบของดีทั้งหมดให้เจ้า ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็เข้าข้างเจ้า หลายครั้งที่เจ้าบอกว่าซุ่ยฮวนรังแกเจ้า ข้าไม่ถามไถ่อะไรก็ให้นางไปคุกเข่าที่หอบรรพบุรุษ ที่นั่นทั้งเย็นทั้งชื้น นางเป็

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 331

    ฮูหยินอ๋องตัวแข็งทื่อ เก็บก้อนหินจากพื้นขว้างใส่เจียงเม่ยเอ๋อร์ แต่น่าเสียดายที่นางขว้างไม่แม่น หินกระทบหนังสัตว์ข้างๆ "ฮึ" เจียงเม่ยเอ๋อร์วางหนังสัตว์ลงแรงๆ สั่งว่า "พวกเราไป" องครักษ์หามเกี้ยวจากไป เจียงเม่ยเอ๋อร์ก้มมองฝูเอ๋อร์ในอ้อมอก พูดอย่างดูแคลน "แค่จวนอ๋องเท่านั้น ข้าไม่สนใจหรอก" "ข้าคือพระชายาวังหนานหมิง ลูกของข้าไม่เพียงเป็นรัชทายาทน้อย ยังเป็นดาวมงคล ต่อไปยังมีอีกมากที่พวกเจ้าต้องเสียใจ!" ในตำหนักของจีกุ้ยเฟย ฉู่อี้คุกเข่าอยู่บนพื้น ก้มหน้าไม่พูดจา แก้มซ้ายแดงเป็นรอยฝ่ามือ จีกุ้ยเฟยนั่งบนเก้าอี้ มองฝ่ามือขวาของตน ฝ่ามือชา เมื่อครู่ตบแรงเกินไป นางสีหน้าโกรธจัด กัดฟันพูด "ลูกทรยศ! ใครใช้ให้เจ้าไปขอร้องแทนฉู่เจวี๋ย? เจ้าถึงกับแนะนำฝ่าบาทให้หาโหรหลวงมาทำนายดวงชะตาปีศาจนั่น ใครสอนเจ้ามา หา?" ฉู่อี้ไม่แสดงสีหน้า ส่ายหน้าทูล "ไม่มีใครสอนหม่อมฉัน ฉู่เจวี๋ยเป็นพี่ชายคนที่สามของหม่อมฉัน หม่อมฉันไม่อยากเห็นเขาถูกลดฐานะเป็นสามัญชน" "ส่วนบุตรของพี่สาม อายุยังน้อยนัก หากถูกประหารเพราะหน้าตาประหลาด ช่างน่าสงสารเกินไป หม่อมฉันจึงช่วยเสด็จพ่อคิดวิธีนี้" "เจ้าช่างมีจิตใจเมตต

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 332

    อัครเสนาบดีเป็นลูกพี่ลูกน้องของพระนางจีกุ้ยเฟย ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดี พระนางจีกุ้ยเฟยรู้ว่าอัครเสนาบดีมีความทะเยอทะยานมาก เมื่อเขาได้กำลังทหารครึ่งหนึ่งของฉู่เจวี๋ยไปแล้ว หากฉู่เจวี๋ยจะเอากลับคืนคงยากเย็นดั่งปีนขึ้นสวรรค์ บุตรของฉู่เจวี๋ยกลายเป็นดวงดาวแห่งโชคลาภ เหล่าขุนนางต่างประจบฉู่เจวี๋ย บางทีหากฝ่าบาททรงพอพระทัย อาจรับสั่งให้อัครเสนาบดีคืนกำลังทหารครึ่งหนึ่งนั้นให้ฉู่เจวี๋ย อัครเสนาบดีใจแคบ สิ่งที่ได้มาแล้วยากจะคายออก หากพระนางจีกุ้ยเฟยพูดยุแหย่เขาสักหน่อย เขาต้องลงมือกับปีศาจน้อยนั่นแน่ เช่นนี้ ทั้งกำจัดปีศาจน้อยได้ และไม่ต้องให้พระนางจีกุ้ยเฟยเปื้อนมือ ได้ประโยชน์ทั้งสองทาง คิดถึงตรงนี้ สีหน้าพระนางจีกุ้ยเฟยอ่อนโยนลงเล็กน้อย นางมองฉู่อี้อย่างมีนัยลึกซึ้ง "เจ้าไม่อยากเห็นพระบิดาของเจ้าสั่งประหารปีศาจนั่น แต่กลับมาพูดเช่นนี้กับข้า เจ้าต้องการช่วยหรือต้องการฆ่าปีศาจนั่นกันแน่?" ฉู่อี้พูดอย่างว่าง่าย "ลูกช่วยปีศาจนั่นด้วยความสงสาร แต่เมื่อพระมารดาไม่ชอบ ลูกก็คิดหาวิธีกำจัดเขา" "พระมารดามีพระคุณในการเลี้ยงดูลูก ลูกไม่มีทางตอบแทนได้ทั้งหมด ได้แต่เชื่อฟังพระมารด

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 333

    "เจ้าวางใจได้ ข้าเป็นอัครเสนาบดีมาหลายปี กินเกลือมามากกว่าที่เขากินข้าวเสียอีก เขาจะมาเล่นงานข้า ยังอ่อนหัดเกินไป" อัครเสนาบดีพูดอย่างดูแคลน เฉินยู่หุยถอนหายใจโล่งอก "เช่นนั้นข้าก็วางใจได้" "อืม ข้าปูทางไว้ให้เจ้าแล้ว ต่อไปดูว่าเจ้าจะเดินอย่างไร" อัครเสนาบดีเป็นห่วงบุตรชายคนเล็กคนนี้มาก จึงกล่าวด้วยความเป็นห่วง "แม้เจียงหนานจะอุดมสมบูรณ์ มีคนเก่งมากมาย แต่ก็ต่างจากเมืองหลวง เจ้าต้องระวังตัวให้มาก" "ท่านพ่อวางใจได้ ครั้งนี้ข้าไปเป็นเจ้าเมือง ฟ้าสูงจักรพรรดิไกล ไม่มีใครกล้ารังแกข้าหรอก" เฉินยู่หุยพูดอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม อัครเสนาบดียังไม่วางใจ จึงกำชับอีกประโยค "จำไว้ว่าต้องพาเมิ่งเซียวไปด้วย" เฉินยู่หุยเป็นบุตรชายที่อัครเสนาบดีรักที่สุด ส่วนเมิ่งเซียวเป็นเพียงบุตรีนอกสมรสของบุตรชายแม่ทัพเจิ้นหยวน ตามธรรมเนียมแล้วฐานะของทั้งสองไม่เหมาะสมกัน ที่เฉินยู่หุยแต่งงานกับเมิ่งเซียว เพราะอัครเสนาบดีเคยให้อาจารย์ใหญ่ดูดวงชะตา ในบรรดาสตรีที่ถึงวัยออกเรือนในเมืองหลวง มีเพียงเมิ่งเซียวที่ดวงชะตาเข้ากับเฉินยู่หุยที่สุด พูดง่ายๆ คือดวงชะตาของเมิ่งเซียวส่งเสริมเฉินยู่หุยมากที่สุด อยู่กับเม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 334

    "ท่านพี่ตาสว่างใจสะอาด มองออกว่าปีศาจนั่นไม่ใช่ดาวมงคล แต่ขุนนางคนอื่นมองไม่ออก ข้าได้ยินว่าพวกเขาเพิ่งแห่กันไปมอบของขวัญให้เจียงเม่ยเอ๋อร์" นางถอนหายใจลึก "ฮือ แต่เดิมฉู่เจวี๋ยก็ไม่ได้แย่งชิงเรื่องในราชสำนักแล้ว มาเจอเรื่องเช่นนี้อีก พวกขุนนางต้องประจบเขาแน่ บางทีสักวันฝ่าบาทอาจจะกลับมาใช้งานเขาอีก" อัครเสนาบดีไม่รู้เรื่องที่จีกุ้ยเฟยสลับตัวเด็กเมื่อก่อน ยังคิดว่าความกังวลของจีกุ้ยเฟยมาจากฉู่เจวี๋ย กลัวฉู่เจวี๋ยจะแย่งราชบัลลังก์กับฉู่อี้ เขาปลอบว่า "เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้ ฝ่าบาทสถาปนาฉู่เจวี๋ยเป็นองค์ชายหนานหมิงแล้ว ไม่มีทางให้ฉู่เจวี๋ยเป็นรัชทายาทอีกหรอก" "ข้าไม่ได้กังวลเรื่องนั้น" จีกุ้ยเฟยเห็นอัครเสนาบดีไม่เข้าใจนัยแฝงในคำพูดของนาง จึงพูดตรงไปตรงมาขึ้น "ข้ากังวลเรื่องท่านพี่ต่างหาก" อัครเสนาบดีไม่เข้าใจ "เจ้ากังวลเรื่องข้าทำไม?" จีกุ้ยเฟยพูด "ท่านพี่ลืมไปหรือ? อำนาจทางทหารอีกครึ่งของฉู่เจวี๋ยยังอยู่ในมือท่านนะ" มืออัครเสนาบดีที่กำลังรินชาชะงักค้างกลางอากาศ คางกระตุกสองที ดูเหมือนกำลังขบกราม จีกุ้ยเฟยหัวเราะในใจ นางรู้จักอัครเสนาบดีดีเกินไป เขาจะสนใจก็ต่อเมื่อเ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 335

    หลุมโคลนลื่น เจียงซุ่ยฮวนเกือบจะล้มลง โชคดีที่ยึดต้นไม้ใหญ่ข้างตัวไว้ทัน แม้ตัวจะไม่เป็นไร แต่ถุงเงินในแขนเสื้อกลับกระเด็นออกไป ตกลงในหลุมโคลนพอดี เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำโคลน "อ๊า!" นางอุทานเสียงดัง รีบเก็บถุงเงินขึ้นจากหลุมโคลน เปิดดู ตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึงข้างในเปียกไปครึ่งหนึ่ง นางรีบนำตั๋วเงินออกมาเช็ด แล้วเก็บไว้ที่อก ทั้งกังวลทั้งโล่งใจ โชคดีที่เมื่อคืนนางเอาตั๋วเงินห้าหมื่นตำลึงไปซ่อนไว้ใต้หมอนของกู้จิ่น ไม่เช่นนั้นคงยุ่งใหญ่ ทั้งไม่ได้อยู่กับกู้จิ่น แถมยังเอาตั๋วเงินห้าหมื่นตำลึงของเขามา สุดท้ายตั๋วเงินยังตกน้ำ คิดแล้วช่างน่าสมเพช โชคดีที่นางไม่ได้โชคร้ายถึงเพียงนั้น หมอหลวงเมิ่งเดินมาถาม "เจียงเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นไรหรือ?" เจียงซุ่ยฮวนเทเงินก้อนเล็กๆ ออกจากถุง "แค่เหยียบหลุมโคลน ไม่เป็นไรค่ะ" หมอหลวงเมิ่งจ้องมองนางครู่ใหญ่ ถามอย่างสงสัย "เจียงเอ๋อร์ เจ้าอ้วนขึ้นกว่าแต่ก่อนมากใช่หรือไม่?" นางเก็บเงินก้อนใส่แขนเสื้อ สีหน้าดูเก้อเขิน "ใช่ค่ะ อาหารในคฤหาสน์อร่อยเหลือเกิน ช่วงนี้ข้ากินมากไปหน่อย" แม้นางจะอ้วนขึ้นกว่าตอนมาอยู่ที่นี่แรกๆ แต่ก็ไม่เห็นชัด ที่ดูอ้วนท้วนเพราะท

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 336

    คนขับรถม้าพยักหน้า "ใช่ขอรับ" "ชางอี้ล่ะ?" "เขาไปปฏิบัติภารกิจแล้วขอรับ" เจียงซุ่ยฮวนลังเลอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็เลือกที่จะปฏิเสธ "ข้าไม่นั่งรถม้าแล้ว เจ้ากลับไปบอกท่านอ๋องว่า หลังการล่าสัตว์ฤดูใบไม้ร่วงสิ้นสุด ข้อตกลงระหว่างข้ากับเขาก็จบลงแล้ว ขอบคุณที่ช่วยเหลือข้ามาตลอดหลายวันนี้" "ต่อไปพวกเจ้าก็ไม่ต้องคอยคุ้มครองข้าอีก" เจียงซุ่ยฮวนพูดจบก็ลากกระเป๋าเดินจากไป ชุนเถาที่ไม่เข้าใจวิ่งตามไป ถามเสียงเบา "อาจารย์ ท่านกับองค์ชายเป่ยโม่เป็นอะไรกันหรือเจ้าคะ?" "ข้าเคยช่วยเขา เขาก็เคยช่วยข้า พวกเราหักลบกันแล้ว" เจียงซุ่ยฮวนพูดเสียงทุ้ม ชุนเถาก้มหน้าพึมพำ "องค์ชายเป่ยโม่เป็นคนดี หากท่านเป็นเพื่อนกับเขาได้ก็คงดี" เจียงซุ่ยฮวนหยุดเดิน ชุนเถาไม่ทันระวังชนหลังนาง นางหันมาถาม "ในวังทุกคนกลัวองค์ชายเป่ยโม่ เหตุใดเจ้าจึงไม่กลัว กลับบอกว่าเขาเป็นคนดี?" ชุนเถาเกาศีรษะ "เมื่อหลายปีก่อน คืนหนึ่งข้าเดินผ่านอุทยานหลวง เห็นองค์ชายเป่ยโม่อยู่ที่ศาลาเย็น กำลังเผากระดาษให้ฮองเฮาไท่ชิง" "ผู้คนต่างพูดว่าองค์ชายเป่ยโม่เลือดเย็นไร้ความรู้สึก แต่ข้ากลับเห็นว่าองค์ชายเป่ยโม่เป็นคนรักความรู้สึกมา

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 337

    หยิ่งเถาและหงหลัวมองเจียงซุ่ยฮวนอย่างงุนงง เจียงซุ่ยฮวนหัวเราะจนตัวงอ แนะนำว่า "หญิงสาวคนนี้ชื่อชุนเถา เป็นศิษย์ที่ข้ารับไว้ระหว่างการล่าสัตว์ฤดูใบไม้ร่วง พวกเจ้าเรียกนางว่าพี่ชุนเถาได้" ขณะที่สองคนกำลังประหลาดใจกับอายุของชุนเถา ร่างมหึมาก็พุ่งออกมาจากซุ้มประตูที่เชื่อมไปลานหลัง วิ่งตรงมาที่เจียงซุ่ยฮวน สีหน้าเจียงซุ่ยฮวนเปลี่ยนไป หากนางเดาไม่ผิด ร่างมหึมานั้นคือหมาป่าที่นางเลี้ยงไว้ สี่จือ ไม่ได้เจอกันหลายวัน สี่จือโตเต็มที่แล้ว หากกระโจนใส่นาง พลังทำลายล้างยังจะแรงกว่าหยิ่งเถาและหงหลัวรวมกันเสียอีก นางรีบหลบไปหลังประตู สี่จือวิ่งออกมามองซ้ายขวา เห็นนางอย่างรวดเร็ว วิ่งมาข้างกายนางเอาหัวขนฟูๆ มาถูไถ นางลูบหัวสี่จือ ดีที่มันรู้จักประมาณ ไม่ได้กระโจนใส่นาง ตอนนั้น จางอวิ๋นถือทัพพีวิ่งออกมาจากครัว "ลุงยวี่ มาเร็วเข้า ไอ้หนูนั่นหนีเข้าไปในห้องใต้ดินอีกแล้ว ดึงยังไงก็ไม่ออก" เจียงซุ่ยฮวนเงยหน้า "ใครหนีเข้าห้องใต้ดินไม่ยอมออก?" จางอวิ๋นเพิ่งเห็นว่าเจียงซุ่ยฮวนกลับมา พูดอย่างดีใจ "คุณหนูกลับมาเสียที คุณชายน้อยที่คุณหนูพากลับมาก่อนออกจากบ้าน คนที่สลบไม่ได้สติน่ะ ตอนนี้เขาหลบอย

Latest chapter

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 574

    ครั้นได้ยินคำว่า “ไฟไหม้” ความง่วงที่ยังหลงเหลืออยู่ในห้วงนิทราของเจียงซุ่ยฮวนพลันสลายหายไปสิ้น หัวใจพลันเต้นโครมครามราวจะหลุดจากอกนางลุกพรวดจากที่นอน คว้าผ้าคลุมขนกระต่ายที่วางอยู่ข้างหมอนมาสวมอย่างลวก ๆ แล้วรีบลงจากเตียงในขณะเดียวกัน ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดอย่างรุนแรง หยิ่งเถาวิ่งพรวดเข้ามาทั้งที่ยังทรงตัวไม่ทันดี จึงพลาดล้ม “โครม” ลงกับพื้นหยิ่งเถาไม่ทันได้ลุกขึ้นก็รีบเงยหน้าร้องบอกเสียงลั่น “คุณหนู! รีบออกไปเถิด! ข้างนอกเกิดไฟขึ้นแล้ว!”เจียงซุ่ยฮวนรีบสวมรองเท้า ก้าวยาว ๆ ตรงเข้าไปฉุดหยิ่งเถาขึ้นจากพื้น แล้วจูงมือนางวิ่งออกไปทันทีมือของเจียงซุ่ยฮวนที่กำมือหยิ่งเถานั้นสั่นน้อย ๆ นางถามเสียงเร่งร้อน “เสี่ยวถังหยวนเล่า?”“คุณชายน้อยปลอดภัยดีเพคะ แม่นมเห็นก่อนจึงรีบพาออกไปหลบแล้วเพคะ” หยิ่งเถารีบตอบครั้นรู้ว่าลูกน้อยปลอดภัย เจียงซุ่ยฮวนจึงค่อยสงบลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “แล้วไฟเกิดที่ใด?”“เป็นห้องพักของท่านอาจารย์เพคะ” หยิ่งเถาตอบเจียงซุ่ยฮวนถึงกับชะงัก ห้องของฉู่เฉินหรือ!? แล้วหลี่ลี่ก็ยังอยู่ในนั้นด้วย!นางจึงเร่งฝีเท้าวิ่งออกไป ทว่าเพิ่งออกจากประตู ก็มีควันไฟใน

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 573

    หากฝืนปลุกเขาขึ้นมาในยามนี้ เกรงว่าจะทำให้สติแตกเสียจนอาละวาดคลุ้มคลั่ง“ดูท่าคงต้องปล่อยให้ฟื้นขึ้นเองแล้วกระมัง” เจียงซุ่ยฮวนถอนหายใจอย่างจนปัญญา แล้วเอ่ยเรียกจากในห้องว่า “ปู้กู่ เข้ามาหาข้าสักประเดี๋ยวสิ”ปู้กู่เปิดประตูเข้ามาทันที “พระชายา มีสิ่งใดจะทรงบัญชาหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจียงซุ่ยฮวนชี้ไปยังบุรุษที่นอนอยู่บนพื้น “เจ้ารู้จักบุรุษผู้นี้หรือไม่?”ปู้กู่หลับตานิ่ง พยายามรื้อค้นความทรงจำอย่างเคร่งเครียด ทว่านึกอยู่เนิ่นนานก็ยังคิดไม่ออกเจียงซุ่ยฮวนจึงกล่าวเป็นเชิงเตือน “ชายผู้นี้ผิวขาวซีดผิดธรรมชาติ คงมิได้ออกไปพบแสงตะวันมาเป็นเวลานานแล้ว”ปู้กู่นั่งย่อตัวลง เพ่งพินิจใบหน้าของบุรุษผู้นั้นอย่างละเอียด กระทั่งครู่หนึ่ง ก็อุทานเสียงเบา “ซี้ด…”“นึกออกแล้วหรือ?” เจียงซุ่ยฮวนเอ่ยถามปู้กู่ชี้ไปที่บุรุษผู้นั้นด้วยแววตาตกตะลึง “ผู้นี้ชื่อหลี่ลี่ เมื่อสิบปีก่อน เคยเป็นหนี้หอพนันถึงหนึ่งแสนตำลึง แล้วบุกเข้าไปปล้นคฤหาสน์ของพ่อค้าผู้มั่งคั่ง”“หากเพียงแค่ปล้นก็คงไม่ถึงกับร้ายกาจนัก เขากลับอาศัยฝีมือที่เหนือกว่าฆ่าล้างทั้งครอบครัวพ่อค้านั้น รวมแล้วกว่ายี่สิบชีวิต”เจียงซุ่ยฮวนสีหน้าหม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 572

    เจียงซุ่ยฮวนโดยสารรถม้ากลับถึงจวน พอเปิดม่านลงจากรถ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นปู้กู่ยืนอยู่เบื้องหน้าพร้อมผู้ติดตามนับสิบคน“เหตุใดเจ้าจึงพาผู้คนมากมายมาด้วย?” นางเหลือบมองแคร่ไม้ด้านหลังพลางถามปู้กู่รีบเอ่ยอย่างร้อนรน “พระชายา พอได้ข่าวว่าเส้นทางขากลับถูกเฉียนจิงอี๋สกัดไว้ กระหม่อมก็ตั้งใจจะนำคนไปช่วย แต่ไม่นานก็ทราบว่าท่านเสด็จกลับมาเสียแล้ว”“อืม...ตอนนี้ไม่มีอันใดแล้ว ให้พวกเขาแยกย้ายกันไปเถิด” เจียงซุ่ยฮวนโบกมือ นางยังเร่งรีบอยากกลับเข้าเรือนเพื่อสอบปากคำฉู่เฉินตัวปลอมปู้กู่สั่งให้คนที่มาด้วยกันกลับไป ทว่าตนเองกลับยืนอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเจียงซุ่ยฮวนจึงถามขึ้น “เหตุใดเจ้ายังไม่ไปเล่า?”ปู้กู่เอ่ยว่า “พระชายา ขอพระองค์โปรดแจ้งกระหม่อมเถิด เฉียนจิงอี๋ขวางรถพระองค์ไว้ด้วยเหตุใด?”เจียงซุ่ยฮวนเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วกล่าวทิ้งท้ายว่า “ข้ารู้สึกว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา ที่สำคัญคือแววตาที่เขามองข้ามันช่างประหลาด เจ้ารีบส่งคนไปสืบข่าวเขาสักหน่อยเถิด”ปู้กู่สีหน้าหนักแน่น “เฉียนจิงอี๋ผู้นี้มิใช่คนธรรมดาแน่ หอพนันซิ่งหลงของตระกูลเขากระจายอยู่ทั่วแคว้นต้าเหยียน และเขาเอง...ดูเหมือนจะมีธ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 571

    เจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วกดเสียงต่ำลงพลางกระซิบว่า “วางใจเถิด...ตอนนี้ไม่มีแล้ว”แววตาขององครักษ์ลับยังเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าเจียงซุ่ยฮวนเพียงยิ้มอย่างเงียบงัน หาได้กล่าวคำใดอีกไม่นานนัก เฉียนจิงอี๋ก็เดินออกจากรถม้าด้วยท่วงท่าสงบ มือไพล่หลังไว้ ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้ากลับจางหายไปจนหมดสิ้น หางตายังพลันกระตุกเล็กน้อยเขาเห็นกับตาตนเองว่าเหล่าองครักษ์ลับจับคนยัดใส่รถม้า แล้วเขายังไล่ตามมาตลอดทางจากหอพนัน สายตาไม่เคยละไปที่อื่นเลยแม้แต่น้อยแต่เหตุใดคนผู้นั้นจึงหายไปเสียได้?เจียงซุ่ยฮวนยิ้มถาม “เห็นผู้ใดหรือไม่?”แววตาเฉียนจิงอี๋เย็นเยียบสั่นไหวเล็กน้อย ประหนึ่งกำลังครุ่นคิดบางสิ่งอยู่ เมื่อสบเข้ากับรอยยิ้มของเจียงซุ่ยฮวน เขาจึงยกยิ้มบาง ๆ “ขออภัยด้วยคุณหนู ข้าคงตาฝาดไป”เขาหยิบตั๋วเงินใบหนึ่งขึ้นมา แล้วยื่นสองมือส่งให้เจียงซุ่ยฮวน “เชิญคุณหนูรับของเล็กน้อยเป็นการขออภัย”ท่าทีของบุรุษผู้นี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนัก ไม่เสียแรงเป็นทายาทหอพนันโดยแท้ ขณะที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังจะเอื้อมมือไปรับ กลับพบว่าตั๋วเงินในมือเขานั้นมิใช่ใบละแค่แสนตำลึง...แต่เป็นถึงสองแสนตำลึงเจียงซุ่ยฮวนชักมือกลั

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 570

    ควันสีเทาลอยฟุ้งขึ้นมา ลูกประคำที่เฉียนจิงอี๋ปาออกไปยังคงสภาพสมบูรณ์ แต่กลับฝังลึกอยู่กลางหลุมใหญ่บนพื้นแค่ลูกประคำธรรมดา กลับสามารถก่อความเสียหายได้ถึงเพียงนี้ ต้องมีพลังภายในลึกล้ำถึงเพียงใดกันแน่สีหน้าของเจียงซุ่ยฮวนพลันเคร่งขรึม ขณะเดียวกัน เหล่าองครักษ์ลับที่ล้อมรถม้าอยู่ก็ล้วนตั้งท่าเตรียมพร้อมด้วยท่าทีตึงเครียดแต่ก่อนพวกเขาเคยได้ยินชื่อของเฉียนจิงอี๋มาบ้าง รู้เพียงว่าเขาเป็นทายาทของหอพนันซิ่งหลง เป็นผู้มีอุปนิสัยเงียบขรึม หาได้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนบ่อยนักกระทั่งได้พบกับตัวจริงในวันนี้ จึงรู้ว่าบุรุษผู้นี้...มิใช่คนธรรมดาแน่นอน“แม่นางผู้นี้ ข้าไร้เจตนาจะสร้างความลำบากแก่ท่าน เพียงแต่ในฐานะทายาทของหอพนันซิ่งหลง ข้าย่อมไม่อาจเพิกเฉยมองลูกค้าถูกลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตา...ท่านว่าใช่หรือไม่?” เฉียนจิงอี๋ยิ้มละไม รอยยิ้มนั้นดูสุภาพอ่อนโยน หากแต่แฝงไว้ด้วยแรงกดดันจาง ๆ อย่างยากจะหยั่งถึงองครักษ์ลับทั้งหกยังคงเฝ้ารอบรถม้า หนึ่งในนั้นค่อย ๆ ถอยหลังออกไป แล้วอาศัยจังหวะชุลมุนลับหายไปในพริบตาเฉียนจิงอี๋เห็นดังนั้น จึงหัวเราะพลางถามว่า “หืม? ถึงกับต้องไปตามกำลังเสริมเชียวหรือ? หรื

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 569

    ผู้คนที่อยู่ ณ ที่นั้นล้วนทราบดีว่า "เซียนพนัน" ผู้นั้นจงใจกลั่นแกล้งเจียงซุ่ยฮวนเป็นแน่ ทั้งที่ลูกเต๋ายังวางนิ่งอยู่ในถ้วย จะมีผู้ใดคาดเดาได้ถูกต้องเล่า?ขณะนั้นเอง เหล่าองครักษ์ลับทั้งหกก็เริ่มขยับเข้าใกล้ฉู่เฉินตัวปลอมอย่างช้า ๆ พวกเขาล้วนถอดชุดดำออกเสียแล้ว แลดูแทบไม่แตกต่างจากชาวบ้านทั่วไปเจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วตอบว่า “ตกลง”ทุกผู้คนถึงกับตะลึง แม้เจียงซุ่ยฮวนจะชนะมาหลายตา แต่หาได้มีผู้ใดเชื่อว่านางจะเดาแต้มลูกเต๋าได้ถูกต้องทุกเม็ด ครั้นแล้วจึงพร้อมใจกันวางเดิมพันทั้งหมดลงข้างเซียนพนันฉู่เฉินตัวปลอมลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนวางถุงผ้าบนโต๊ะ แล้วเดิมพันข้างเซียนพนันเช่นกันหญิงสาวบนโต๊ะค่อย ๆ เขย่าถ้วยลูกเต๋า เจียงซุ่ยฮวนหลับตาลง ตั้งใจฟังเสียงที่เล็ดลอดออกมาจากในถ้วยโดยมิปล่อยให้จิตวอกแวกในยามนั้น เสียงรอบข้างพลันเลือนหาย สิ่งเดียวที่ดังสะท้อนอยู่ในโสตประสาทคือเสียง “กรุ๊งกริ๊ง กั๊กกั๊ก” ของลูกเต๋าอันแว่วไหวจนเมื่อลูกเต๋าสิ้นเสียงนิ่งลง เจียงซุ่ยฮวนจึงลืมตาขึ้นมาเซียนพนันแค่นหัวเราะเย็น เอื้อนเอ่ยอย่างเย้ยหยัน “ทายสิ ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าจะทายได้หรือไม่!”เจีย

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 568

    ผู้คนรอบโต๊ะเมื่อเห็นว่าเซียนพนันลงเงินมากถึงเพียงนี้ ต่างคิดว่าเขาคงเริ่มจริงจังแล้ว จึงพากันวางเดิมพันตามครั้นทุกคนลงเงินเสร็จ เจียงซุ่ยฮวนกลับค่อย ๆ หยิบตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงออกมาวางบนโต๊ะอย่างไม่รีบร้อน“……”ทุกผู้คนถึงกับตะลึง โดยเฉพาะเซียนพนัน สีหน้าเขาราวกับกลืนของเสียเข้าไป เอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “นี่เจ้าล้อข้าเล่นหรือ?”หญิงบนโต๊ะเองก็หน้าเจื่อนเล็กน้อย “คุณหนูเจ้าขา ที่นี่วางขั้นต่ำต้องหนึ่งพันตำลึงเจ้าค่ะ”“อ้อ ขอโทษด้วย” เจียงซุ่ยฮวนยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหยิบอีกใบมาวางซ้อน “เช่นนี้ใช้ได้หรือยัง?”เซียนพนันนั้นยืมเงินจากบ่อนมากถึงหมื่นตำลึง เพียงหวังเอาชนะเงินสองแสนของนาง กลับกลายเป็นนางวางแค่พันเดียว จนเขาอยากจะพลิกโต๊ะเสียให้ได้ทว่าผู้ใดจะสนใจความคิดของเขา? เจียงซุ่ยฮวนหาได้ใส่ใจ เพราะสิ่งที่นางต้องการคือเรียกความสนใจ หาใช่เดิมพันเพื่อชัยชนะอย่างเดียวและผลก็ไม่ผิดคาด นางชนะอีกคราหลายตาต่อมา บางครั้งนางวางเดิมพันทีละสองแสน บางครั้งก็เพียงแค่พันเดียว แต่ทุกครั้งนางล้วนชนะหมดส่วนเซียนพนันกลับเหมือนตกอยู่ในวังวนของความอาฆาต ยิ่งนางเลือกอย่างไร เขาก็เลือกตรงข้าม จนแพ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 567

    เมื่อเจียงซุ่ยฮวนกล่าวจบ เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้นรอบโต๊ะ“ฮ่า ๆ ๆ! ข้ารู้อยู่แล้วเชียวว่านางต้องเพี้ยนแน่ พวกเราลง ‘สูง’ กันหมด แต่นางกลับเลือก ‘ต่ำ’ เสียนี่!”ผู้หนึ่งชี้ไปยังชายที่ลงเงินเป็นคนแรก แล้วหันมาถามเจียงซุ่ยฮวนว่า “แม่นาง รู้หรือไม่ว่าท่านผู้นี้เป็นใคร?”เจียงซุ่ยฮวนเลิกคิ้วขึ้น เอ่ยเรียบ ๆ ว่า “แล้วเขาเป็นใครกันล่ะ”“เขาน่ะหรือ คือ ‘เซียนพนัน’ ประจำที่นี่เชียวนะ! ท่านผู้นี้แม่นยำยิ่ง ทายสิบหน ชนะไปถึงเจ็ด!”อีกคนที่มิได้ลงพนัน กล่าวเสริมว่า “ใช่แล้ว เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายในบ่อนนี้ ยังต้องตามเขาเลือกเลยแม่นาง ข้าเกรงว่าท่านควรไตร่ตรองให้ดี สองแสนตำลึงมิใช่น้อย ๆ”ชายที่ถูกเรียกว่าเซียนพนันจับจ้องตั๋วเงินเบื้องหน้าเจียงซุ่ยฮวนด้วยแววตาลุกวาว ราวกับเงินนั้นได้ตกในกำมือของตนเรียบร้อยแล้วครั้นได้ยินเสียงเตือนของคนอื่น ก็แค่นเสียงฮึดฮัด “เจ้าเองยังไม่ได้เดิมพัน อย่าสอด!”จากนั้นจึงหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ต่อเจียงซุ่ยฮวน “แม่นาง อย่าได้เชื่อคำพวกนั้น ข้าเองก็ใช่ว่าจะทายถูกเสมอ”“ท่านหากตามพวกเราเลือก ‘สูง’ ชนะขึ้นมาก็ได้เงินไม่มากเท่าไร แต่หากท่านเลือก ‘ต่ำ’ แล้วชนะ อย่าง

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 566

    ชายตาตี่โน้มตัวลงมาด้วยความคาดหวัง “ว่ากระไร?”เจียงซุ่ยฮวนชกเข้าที่เบ้าตาซ้ายของเขาทันที ใช้เพียงห้าส่วนของพลังแต่ก็ตาเขียวช้ำเป็นวง ร้องลั่นพลางย่อตัวกุมตาชายหน้าแดงตะโกนด่า “นางหญิงชั่ว เจ้าคงอยากตายแล้วกระมัง!”เจียงซุ่ยฮวนกระชากคอเสื้อเขาขึ้นมาด้วยแววตาเด็ดขาด “ฟังให้ดี ข้ามาเพื่อตามหาคน ไม่นานก็จะไป”“หากพวกเจ้ายังคิดจะขัดขวางอีก อย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้าเจ้า”ชายผู้นั้นถึงกับสะดุ้งจากแรงอำนาจของนาง แต่ยังคงหัวเราะเยาะ “เจ้าก็แค่หญิงอ่อนแอ จะทำอะไรพวกข้าได้?”“บ่อนนี้คือบ่อนใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง แค่ข้าตะโกนคำเดียว บรรดายอดฝีมือทั้งหลายจะกรูออกมาทันที!”เจียงซุ่ยฮวนคลี่ยิ้มจาง ๆ “บ่อนใหญ่ที่สุดงั้นหรือ? เช่นนั้นคงได้กำไรมหาศาลต่อวันสินะ?”“แน่นอน!”“หากได้มากเพียงนั้น ภาษีที่ต้องส่งคงไม่น้อยพอ ๆ กันกระมัง? บังเอิญว่าข้ารู้จักกับเสนาบดีกรมคลังอยู่คนหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรไปถามเขาดีหรือไม่ว่าบ่อนนี้จ่ายภาษีครบหรือเปล่า?”สีหน้าชายผู้นั้นซีดลงทันที ใครจะคิดว่าแม่นางผู้นี้รู้จักกับเสนาบดีกรมคลัง!แม้เขาจะเป็นแค่ผู้เฝ้าประตู แต่ก็รู้ดีว่าบ่อนของตนรับมือการตรวจสอบไม่ได้แน่ หากทางราช

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status