ระหว่างทางกลับบ้านต้องผ่านเส้นทางที่ไม่ค่อยมีรถสัญจร มีต้นไม้น้อยใหญ่อยู่เต็มสองข้างทาง ถนนเส้นนี้เรียกได้ว่าเปลี่ยวและน่ากลัวไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น ลมหนาวที่รู้จักเส้นทางนี้ดีว่าเป็นอย่างไร เธอรีบหันไปหาชายหนุ่มที่ยังขับรถแบบชิวๆ
“พี่น่าน..ถนนเส้นนี้น่ากลัว พี่น่านขับไวๆ ได้มั้ย?” หญิงสาวบอกออกไปพร้อมกับสีหน้าวิตกกังวล “ได้สิ เอ๊ะ!! ข้างหน้าน่าจะมีอุบัติเหตุนะ..เราจอดดูหน่อยมั้ย?” “อย่าเลย..พี่น่าน หนาวว่ามันน่ากลัวอ่ะ” หญิงสาวห้ามพร้อมกับยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมากอดอก ร่างบางตัวสั่นเล็กน้อยเพราะความกลัว “แต่พี่ว่าจอดดูหน่อยเถอะเผื่อเค้าต้องการความช่วยเหลือ หนาวก็เห็นว่าแถวนี้แทบจะไม่มีรถผ่านเลย หนาวไม่สงสารเค้าเหรอ” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนเป็นห่วงเป็นใยคนอื่น “งั้นก็แล้วแต่พี่น่านเลยค่ะ” สิ้นเสียงของหญิงสาว น่านฟ้าก็ขับไปจอดใกล้บริเวณที่มีรถมอเตอร์ไซค์ของวัยรุ่นล้มอยู่ข้างทางและมีวัยรุ่นชายสองคนนอนร้องครวญครางอยู่ เขาปลดสายคาดเบลล์และกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ “หนาวรอพี่อยู่นี่แหละ..ไม่ต้องลงไป” เขาหันมาสั่ง ก่อนจะลงจากรถแล้วเดินไปหากลุ่มวัยรุ่น ลมหนาวมองไปที่คู่หมั้นหนุ่มตลอดเวลา เธอเห็นเขาคุยกับวัยรุ่นสองคนนั้น ทันใดนั้นเอง วัยรุ่นสองคนนั้นก็ลุกขึ้นไม่มีท่าทีเจ็บปวดเหมือนก่อนหน้านี้ หนึ่งในนั้นควักมีดออกมาจากเอวแล้วหันปลายมีดไปที่น่านฟ้า เธอตกใจกับภาพที่เห็น ด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่ม เธอรีบลงจากรถและวิ่งไปหาเขาทันที “นี่..หยุดนะ! พวกแกจะทำอะไร” หญิงสาวตะโกนถามออกไป “โอ้โห! มีสาวสวยมาด้วยก็ไม่บอก” วัยรุ่นคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูน่ากลัว “อย่ายุ่งกับเธอ..พวกแกต้องการอะไร เงินใช่มั้ย?” น่านฟ้าถามออกไปด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงคู่หมั้นสาว “ใช่ พวกเราต้องการเงิน แล้วก็คนสวยคนนี้ด้วย” วัยรุ่นคนเดิมตอบกลับพร้อมกับหัวเราะออกมา “ฉันจะให้เงินพวกแก..แต่อย่าทำอะไรผู้หญิง” ชายหนุ่มต่อรอง “กูไม่ทำผู้หญิงก็ได้..งั้นพวกกูทำมึงก่อนแล้วกัน” พูดจบวัยรุ่นทั้งสองคนก็เข้ามารุมต่อยชายหนุ่ม ลมหนาวที่เห็นว่าคู่หมั้นหนุ่มถูกทำร้ายจึงเข้าไปช่วยเหลือ เธอผลักวัยรุ่นคนหนึ่งออกด้วยเเรงที่มีอย่างสุดกำลังจนชายคนนั้นกระเด็นออกไป “แรงเยอะดีนี่..คนสวย” สิ้นเสียงวัยรุ่นคนนั้นก็เดินตรงมาหาหญิงสาว มันดึงแขนของเธอกระชากเข้าไปแล้วใช้แขนข้างเดิมล็อกคอของหญิงสาวไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ยกมีดขึ้นมาจ่อใกล้ๆคอหญิงสาว น่านฟ้าเห็นดังนั้นจึงต่อยวัยรุ่นอีกคนจนล้มคว่ำแล้วรีบวิ่งเข้าใส่คนที่มันกำลังจับตัวลมหนาวไว้ “หยุด! ถ้าไม่หยุดกูแทงอีนี่แน่” น่านฟ้าที่กำลังวิ่งเข้ามาเพื่อจะช่วยคู่หมั้นสาว หยุดชะงัก ไม่กล้าเข้าไปใกล้เพราะกลัวว่ามันจะทำร้ายคู่หมั้นสาว “พี่น่าน..พี่น่านช่วยหนาวด้วย” หญิงสาวร้องด้วยความหวาดกลัว “ไม่มีใครช่วยได้หรอก..คนสวย ยังไงวันนี้คนสวยก็ต้องได้ผัวสักสี่ห้าคน เฮ้ย!! พวกมึงออกมาได้ละ” พูดจบจู่ๆ ก็มีวัยรุ่นอีกสามคนโผล่มาจากป่าข้างทาง “ไม่!! ปล่อยนะ ปล่อย พี่น่านช่วยหนาวด้วย” ในขณะที่น่านฟ้านั้นถูกพวกวัยรุ่นสองคนล็อกตัวไว้ “หนาว..ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะต้องช่วยหนาวให้ได้” ชายหนุ่มเอ่ยออกไป ในขณะที่พวกวัยรุ่นอีกสามคนช่วยกันจับตัวหญิงสาวเข้าป่าข้างทาง “ไม่..ปล่อยฉันนะ บอกให้ปล่อย พี่น่านช่วยด้วย!!” เธอร้องตะโกนออกไปสุดเสียง เธอพยายามดิ้นหนีจากการถูกจับตัว เธอหันไปมองน่านฟ้า ที่ตอนนี้เขาแค่ยืนดูเธอถูกจับตัวไป โดยที่เขาไม่ช่วยเธอเลย ทั้งๆ ที่เขาตัวใหญ่กว่าพวกวัยรุ่นพวกนี้ด้วยซ้ำ เธอเชื่อว่าเขาสามารถจัดการพวกนี้ได้แต่ทำไมเขาไม่ทำ หรือไม่พยายามหาทางช่วยเธอเลย “ไม่มีใครช่วยเธอหรอก..คนสวย” หนึ่งในนั้นพูดออกมาพร้อมกับหัวเราะสะใจ “ไม่ ไม่ กรี๊ด!!” สิ้นเสียงร้องของหญิงสาวก็เป็นลมล้มพับไป จากนั้นหญิงสาวก็ไม่รู้เลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเองบ้าง “อย่า! อย่าเข้ามานะ..ออกไป! ออกไป! อย่า!!” ร่างบางสะดุ้งลืมตาตื่นจากความฝันที่เธอรู้สึกเหมือนว่ามันเป็นความจริง หญิงสาวลุกขึ้นนั่งเหงื่อไหลท่วมตัว เธอมองไปรอบๆ นี่มันห้องของพี่น่าน ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ ในขณะที่เธอกำลังนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ น่านฟ้าที่ได้ยินเสียงร้องของหญิงสาวก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา เขานอนอยู่ที่โซฟาตัวยาวที่ตั้งอยู่ในห้องนอน “ตื่นละเหรอ..” ชายหนุ่มเอ่ยถาม “พี่น่าน ทำไมหนาวถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วไอ้พวกนั้นล่ะ?” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ “หึ!! พวกไหนล่ะ..พวกผัวเธอน่ะเหรอ?” ชายหนุ่มแสยะยิ้มถามด้วยความยียวน “พี่น่าน!!” หญิงสาวร้องเรียกชื่อเขาออกมา เธอทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดตั้งแต่แรก น่านฟ้าชวนเธอไปเที่ยวตลาดน้ำ พูดดีด้วย ทำดีด้วยสารพัด รวมถึงเหตุการณ์ที่ไปเจอพวกวัยรุ่นพวกนั้น “อย่าบอกนะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นแผนของพี่น่าน” เธอนึกสงสัยอยู่ว่าทำไมน่านฟ้าถึงไม่ช่วยเธอ “ก็เห็นเธออยากมีผัวจนตัวสั่น..มีผัวเพิ่มอีกสักสี่ห้าคนคงไม่เป็นไรมั้ง?” คำพูดของชายหนุ่มตอกย้ำความเจ็บปวดให้แก่หญิงสาวยิ่งนัก นี่เขากล้าทำถึงขนาดนี้เลยหรอ เขาใจร้ายกับเธอได้ขนาดนี้เลยหรือ.. “พี่ทำแบบนี้กับหนาวได้ยังไง? เลว..พี่เลวมากๆ พี่ยังเป็นคนอยู่มั้ย?” เธอสะอื้นไห้ถามออกไป เธอโกรธจนตัวสั่น น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย “ฉันเลวได้มากกว่านี้อีก บอกแล้วไงว่าฉันจะทำทุกอย่างให้เธอขอถอนหมั้นกับฉัน” “งั้นพี่ก็ทำสำเร็จแล้วล่ะ..หนาวขอถอนหมั้นพี่” พูดจบหญิงสาวก็ถอดแหวนที่สวมอยู่บนนิ้วนางข้างซ้าย เธอปามันใส่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขาคืออดีตคู่หมั้นนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป “หนาวเกลียดพี่..ชาตินี้เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก” พูดจบหญิงสาวก็ลุกจากเตียงแล้วรีบเดินไปยังประตู “ก็ดี..จำคำพูดเธอไว้ให้ดีละกัน อ้อ..แล้วจะบอกพวกผู้ใหญ่ว่ายังไง?” “พี่ไม่ต้องห่วง เรื่องนั้นเดี๋ยวหนาวจัดการเอง” สิ้นเสียงหญิงสาวก็เดินออกไปจากห้อง เธอต้องรีบไปจากที่นี่ ไปจากคนเลวๆ คนนี้ สักวันเธอจะเลิกรักคนเลวๆ คนนี้ให้ได้ เธอสัญญากับตัวเอง หนาวเกลียดพี่ เกลียดหรอ เขาไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากของหญิงสาว คนที่รักและเทิดทูนเขามาตั้งแต่เด็กๆ เธอพูดออกมาพร้อมกับมองเขาด้วยสายตาที่มีแต่ความผิดหวังเสียใจ พอเขาได้ยินคำนี้จากเธอซึ่งมันเป็นคำที่เขามักจะพูดกับเธอมาตลอด เขารู้สึกโหวงเหวงในหัวใจ เขาต้องดีใจสิ! ที่ต่อไปนี้จะไม่มีหญิงสาวมาวุ่นวายในชีวิตของเขา ไม่มีคู่หมั้น ไม่มีการแต่งงานเกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่เขาต้องการ ใช่! เขาต้องการแบบนั้น..หนึ่งปีผ่านไป“แมะ แมะ” เสียงเรียกแม่ของเด็กหญิงดาวนิลที่ตอนนี้อายุได้หนึ่งขวบห้าเดือน เด็กหญิงกับผู้เป็นแม่เดินเล่นอยู่ที่สวนข้างบ้าน“จ๋า..คนสวยของแม่” หญิงสาวย่อตัวลงก่อนจะค่อยๆ อุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้นมาด้วยสรีระที่เปลี่ยนไปจนเห็นได้ชัดเจน ใช่แล้ว! เธอกำลังตั้งท้องได้ยี่สิบแปดสัปดาห์หรือเจ็ดเดือน ชายหนุ่มอ้อนวอนเธอว่าอยากมีลูกเพิ่มอีกหนึ่งคน เขาไม่ยอมให้เธอคุมกำเนิด และเขาก็มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอทุกค่ำคืน จนในที่สุด เธอก็ท้องอีกครั้ง “ป้อ ป้อ” เด็กหญิงชี้ไปที่ชายหนุ่มที่เดินตรงมาที่ทั้งสองยืนอยู่ “ดาวนิล มาหาพ่อเร็ว” ชายหนุ่มยื่นมือทั้งสองข้างออกไปอุ้มลูกสาวตัวน้อย เขาไม่อยากให้ภรรยาที่ตอนนี้ท้องแก่ต้องอุ้มลูกสาวเยอะ เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับลูกน้อยในท้อง เด็กหญิงดาวนิลโน้มตัวไปหาผู้เป็นพ่ออย่างรวดเร็ว“ตอนนี้ดาวนิลกำลังซน เหนื่อยหน่อยนะครับ” ชายหนุ่มกล่าวออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของภรรยาดูเหนื่อยๆ เขารู้สึกสงสารภรรยาที่ต้องอุ้มท้องอีกครั้ง ครั้งนี้เขาได้อยู่ในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ ในคราแรกเธอไม่ยอมมีลูกอีก บอกว่าสองคนก็เพียงพอแล้ว แต่เป็นเพราะเขาที่ขอร้องอ้อนว
โรงแรมสุดหรูใจกลางกรุงเทพมหานครงานแต่งระหว่าง น่านฟ้า และ ลมหนาว จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ สมหน้าตาของทายาทเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดังและเจ้าของห้องเสื้อแบรนด์ดัง ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในสังคม แขกที่มาในงานล้วนแล้วแต่เป็นญาติผู้ใหญ่และคนรู้จักของทั้งสองตระกูล ไฮโซของเมืองไทย ดาราเซเล็บ สื่อ ช่างภาพ นักข่าวทุกสำนัก ต่างมารวมตัวที่งานแต่งงานในวันนี้ กลายเป็นข่าว ท้อลออฟเดอะทาวน์กันเลยทีเดียวงานในตอนเช้า เมื่อเจ้าบ่าวเข้ามาในพิธีเรียบร้อยแล้ว เรนท์กับทิชาก็พาเพื่อนรักเดินมา ลมหนาวสวมใส่ชุดไทยประยุกต์สีทอง พาสสไบลูกไม้สีทอง ผมถูกเกล้าขึ้นไปอย่างสวยงาม เปิดใบหน้านวลอันหวานหยาดเยิ้มที่ถูกเครื่องสำอางราคาแพงตกแต่งด้วยฝีมือของช่างแต่งหน้าเบอร์หนึ่งของเมืองไทย เมื่อเจ้าสาวเดินเข้ามาในพิธี แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปก็รัวระยิบระยับ น่านฟ้าจ้องมองเจ้าสาวด้วยความตกตะลึง ปกติเธอไม่แต่งหน้าทำผมก็สวยมากอยู่แล้ว พอแต่งหน้าทำผมแบบวันนี้ยิ่งสวยเข้าไปอีกเป็นเท่าตัว เจ้าสาวเดินลงมานั่งพับเพียบข้างๆ เจ้าบ่าวที่แต่งชุดราชปะแตนหล่อเนี๊ยบเหมือนคุณชายในราชวัง“วันนี้หนาวสวยมากเลยรู้มั้ย?” ชายหนุ่มกระซิบ
หลังคลอดลมหนาวต้องรอดูอาการอยู่ในห้องพักฟื้นสองชั่วโมง จากนั้นสองแม่ลูกจึงถูกส่งตัวไปห้องพักพิเศษ น่านฟ้าดูแลลมหนาวและลูกน้อยไม่ห่าง ยิ่งในยามที่ลูกสาวตัวน้อยดื่มนมจากอกของมารดา ปากน้อยๆ งับยอดดอกบัวสีชมพู ชายหนุ่มมองด้วยสายตาหื่นกระหาย เขาลอบกลืนน้ำลายลงคอจนหญิงสาวได้ยิน ลมหนาวเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาเชิงตำหนิแบบไม่จริงจังนัก จากนั้นไม่นานลูกสาวตัวน้อยกินนมจนอิ่ม ปากน้อยผละออกจากยอดถันสีสวย หญิงสาวรีบติดกระดุมเสื้อทันที จนชายหนุ่มรู้สึกเสียดาย“เอ่อ..หนาวจะตั้งชื่อลูกว่าอะไรครับ?” ตั้งสติได้ชายหนุ่มจึงเอ่ยถามออกไป“คนโตหนาวเป็นคนตั้ง..คนเล็กให้พี่น่านตั้งก็แล้วกันค่ะ” หญิงสาวตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้เขา“จริงเหรอ! หนาวให้พี่ตั้งชื่อลูกจริงๆ ใช่มั้ย?” ชายหนุ่มถามออกไปด้วยความดีใจ“ค่ะ..” หญิงสาวพยักหน้าเบาๆ“อืม..ลูกชายคนโตชื่อดาวเหนือ ลูกสาวคนเล็กชื่อ…ดาวนิล ดีมั้ย?” ชายหนุ่มทำท่าคิดก่อนจะกล่าวออกไป“เพราะดีนะคะ..หนาวชอบ” ดาวเหนือกับดาวนิล เข้ากันดีนะ..เข้าใจคิดนะคุณพ่อลูกสอง หญิงสาวอมยิ้มอยู่คนเดียว“หนาวหายโกรธพี่แล้วใช่มั้ยครับ? ยกโทษให้พี่แล้วใช่มั้ย?” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ห
สองสัปดาห์ผ่านไปน่านฟ้าเดินทางไปฝรั่งเศสทันทีหลังจากที่เขาเคลียร์งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มลาพักร้อนหนึ่งสัปดาห์เพื่อมาง้อลูกง้อเมีย ทุกคนต่างเอาใจช่วยน่านฟ้าขอให้เขาง้อลมหนาวได้สำเร็จเสียงกริ่งดังขึ้นที่หน้าบ้านในขณะที่ลมหนาวกำลังนั่งออกแบบเสื้อผ้าอยู่ และน้าวีนากำลังเตรียมอาหารว่าง“หนาวไปดูให้น้าหน่อยว่าใครมา” ความจริงแล้ววีนารู้ดีที่สุดว่าใครที่มาเวลานี้“ได้ค่ะ” ลมหนาวตอบออกไปพร้อมกับเดินไปเปิดประตูหน้าบ้าน “มาทำไมไม่ทราบ?” ลมหนาวถามเสียงแข็งเมื่อเห็นว่าใครที่ยืนอยู่หน้าประตู“มาง้อลูกกับเมียครับ” ชายหนุ่มตอบด้วยสายตากรุ้มกริ่ม เขาลอบมองลงไปที่ท้องนูนของหญิงสาว รู้สึกวาบหวิวในหัวใจ อยากยื่นมือไปสัมผัสลูกน้อยเหลือเกิน“มาทางไหนก็กลับไปทางนั้น” หญิงสาวตะโกนไล่ชายหนุ่มเสียงดังพอที่น้าวีนาจะได้ยิน “ใครมาเหรอหนาว? อ้าวตาน่าน มาได้ยังไง เข้ามาก่อนมา” วีนาแสร้งทำเป็นตกใจที่เห็นน่านฟ้าและเอ่ยชวนแขกเข้าบ้าน“น้านาจะชวนเค้าเข้ามาทำไมคะ?” หญิงสาวหันไปถามน้าสาวด้วยน้ำเสียงคล้ายกับไม่พอใจ“อ้าว..ก็แขกมาบ้าน เราก็ต้องต้อนรับขับสู้สิลูก จะไปไล่แขกได้ยังไงกัน”“แต่..” “ไม่ต้องแต่แล้ว..ไ
ณ สนามบินxxx“เดินทางปลอดภัยนะแก..ถึงแล้วบอกด้วย” เรนท์ดึงหญิงสาวเข้ามากอด“อืม..ขอบใจแกมากนะ สำหรับทุกอย่าง” ลมหนาวน้ำตารื้นขึ้นมา เธอทนอยู่ที่นี่ไม่ไหวจริงๆ ครั้งนี้อาจจะเป็นการไปแบบถาวร เธออธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้คุณตาวีระชัยกับน้าวีนาฟังหมดทุกอย่าง ทั้งสองคนต่างเข้าใจและยอมรับในการตัดสินใจของเธอในขณะที่น่านฟ้านั้นกำลังขับรถไปที่สนามบินด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้ แต่สภาพการจราจรในกรุงเทพฯ นั้น ทำให้เขาไม่สามารถขับได้อย่างใจต้องการ ชายหนุ่มดูนาฬิกาข้อมือเหลือเวลาอีกยี่สิบนาทีจะบ่ายโมง เขาเห็นวินมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ข้างๆ รถ ชายหนุ่มไม่รอช้า เขาคว้ากระเป๋าสตางค์รีบลงจากรถและกระโดดขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปทันที โดยไม่สนใจเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เขาทิ้งรถไว้กลางถนนเลยแต่สุดท้าย..น่านฟ้าก็ไปไม่ทัน ลมหนาวกับดาวเหนือไปแล้ว เขาทรุดลงกับพื้นร้องไห้ออกมา พร่ำด่าตัวเองจนคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ต่างก็มองมาที่ชายหนุ่ม ในขณะที่เขากำลังก้มหน้าอยู่กับพื้นนั้น เขาได้ยินเสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา “อย่าพึ่งหมดหวังสิคุณน่าน..ฝรั่งเศสอยู่แค่นี้เอง ตื๊อเท่านั้นที่ครองโ
ทางด้านลมหนาว หลังจากที่เธอพาดาวเหนือขึ้นมาบนห้อง เธอรีบโทรหาเรนท์และบอกให้เรนท์มารับเธอที่บ้านของน่านฟ้าตอนนี้ เธอทนอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ไหวแล้ว หญิงสาวรีบเก็บเสื้อผ้าของตัวเองและของดาวเหนือใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เรนท์ที่ยังงงๆ เพราะไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่ก็รีบขับรถมาหาเพื่อนทันที“หนาวลานะคะ..คุณลุงคุณป้า หนาวคงอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว น้องเหนือกราบลาคุณปู่กับคุณย่าสิครับ” เด็กชายยกมือไหว้คุณปู่คุณย่าตามที่มารดาบอก“ใจเย็นๆ นะหนูหนาว..รอพี่เค้าก่อนนะลูก นี่ก็ค่ำมืดแล้วจะพาลูกพาเต้าไปไหน” “ไม่รอค่ะ..หนาวให้เพื่อนมารับ คุณป้าไม่ต้องห่วงนะคะ” “โถ่เอ้ย! เวรกรรมอะไรหนักหนา น้องเหนือก็พึ่งจะยอมรับในตัวพ่อ ดันมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก” คุณหญิงน้ำฟ้าบ่นพึมพำออกมา“หนาวไปแล้วนะคะ..เพื่อนมารอแล้ว” พูดจบหญิงสาวก็ลากกระเป๋าเดินออกไปจากคฤหาสน์แห่งนี้พร้อมกับลูกชายของเธอหลังจากนั้นไม่นาน เรนท์ก็พาสองแม่ลูกไปพักที่คอนโดของเขา ซึ่งนานๆ เขาจะมานอนเพราะปกติเขานอนที่บ้าน หญิงสาวเล่าเรื่องทุกอย่างให้เรนท์ฟัง ในขณะที่ดาวเหนือนอนหลับไปแล้วด้วยความเพลีย“ทำไมคุณน่านถึงได้เลวขนาดนี้วะ..แล้วนี่แกจะเอายัง