“แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะคะ” หงส์แย้ง “ส่วนหนึ่งที่คุณหนีไม่ทันน่าจะเป็นเพราะซอมบี้ที่นี่เกิดการวิวัฒนาการ”
“แต่มันเพิ่งเริ่มเดือนกว่าไม่ใช่เหรอครับ” วิวัฒนาการเร็วไปแล้ว
“อันนี้เป็นสิ่งที่ฉันสังเกตจากที่เคยไปทำภารกิจมานะคะ” หญิงสาวทำหน้านึก “ยิ่งสถานที่ไหนมีคนเปลี่ยนเป็นซอมบี้มาก คุณคิดว่าพวกมันที่ไล่กัดกินเนื้อและมนุษย์จนหมดจะทำอย่างไรเมื่อไม่มีอาหาร” หงส์หรี่ตาพูดเสียงเรียบ ประกอบกับความมืดโรยตัวเข้ามาทำให้แสงสะท้อนจากตะเกียงบดบังซีกหน้าหญิงสาวไปหนึ่งด้าน ดูลึกลับราวกับกำลังนั่งเล่าเรื่องสยองขวัญในงานกิจกรรมของโรงเรียน
“...” เฉินเฟิงเงียบรอฟังประโยคต่อมา
“พวกมันจะกินกันเองค่ะ ยิ่งกินมากเท่าไร พวกมันก็จะยิ่งวิวัฒนาการมากขึ้นเท่านั้น”
“...” เกิดความเงียบทันที
แล้วโรงงานแห่งนี้…
เจ้ากระต่ายถึงกับขนลุกซู่ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าวันนี้ออกสำรวจคนเดียวและไม่ได้เจอกับกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มนี้จะเป็นอย่างไร
“แต่เปอร์เซ็นต์ที่ว่าก็ไม่ได้เยอะเท่าไรค่ะ ส่วนมากพวกมันจะไม่ค่อยกินกันเอง คล้ายกับว่าเป็นการคัดสรรอย่างหนึ่ง” มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งจึงจะดิ้นรนทำทุกอย่างเพื่อให้ตนอิ่มท้อง
“ถ้าอย่างนั้นที่ผมเจอเมื่อตอนกลางวัน...”
“แจ็กพอตไงคะ” เจอซอมบี้วิวัฒนาการทีเดียวสองตัว โชคไม่ใช่เล่นเลยนะ
“...” เจ้ากระต่ายเม้มปากพูดไม่ออก
ทุกคนกินอาหารกันเสร็จเรียบร้อยก็ไม่ได้แยกย้ายกันไปที่ไหน แต่ยังคงนั่งจับกลุ่มคุยกัน เพราะค่ำคืนนี้ยังอีกยาวนาน เมื่อไร้โทรทัศน์หรือโทรศัพท์มือถือ กิจกรรมที่ทำได้ยามก่อนนอนจึงถูกจำกัด แต่พวกเขายังคงคุ้นชินกับการนอนดึก จึงเลือกพูดคุยกันจนกว่าจะง่วง
“ว่าแต่คุณกลายพันธุ์เป็นอะไรเหรอคะ” หงส์ตาเป็นประกาย เธอเคยเห็นคนในค่ายมีหูเป็นลา เป็นม้า หรือแม้แต่คนที่มีหางเป็นปลา! นี่มันเงือกน้อยในตำนานชัด ๆ
ยอมรับว่าแม้จะรู้สึกแปลกแต่หญิงสาวชอบเขากวางบนศีรษะมาก มันเติมเต็มความฝันแฟนตาซีที่เธอเคยอ่านในวรรณกรรมต่าง ๆ จะดีมากถ้าไม่มีซอมบี้พ่วงมาด้วย
“เสียมารยาทน่า” โจเซฟปราม เขาคิดว่าไม่ใช่ทุกคนจะโอเคกับสิ่งแปลกปลอมบนร่างกายของตนเอง ใจเขาใจเราหน่อย
“อ๊ะ ขอโทษนะ” หงส์รีบขอโทษ เธอลืมนึกไป
“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร” เฉินเฟิงยกมือห้ามเมื่อหญิงสาวทำท่าจะประนมมือไหว้ “ก็ไม่ได้อยากจะปกปิดอะไร แค่รู้สึกว่ามันแปลก ๆ ครับ” ชายหนุ่มเกาแก้มแก้เขิน จากนั้นเอื้อมมือไปแกะปมเชือกใต้คาง เมื่อไร้สิ่งยึดเหนี่ยว หูกระต่ายสีขาวก็ดันผ้าคลุมศีรษะผืนนั้นออกทันที เผยให้เห็นหูกระต่ายสีขาวและเส้นผมสีเดียวกัน
“กระต่าย!” หงส์ปิดปากอุทาน เธอเคยเห็นคนกลายพันธุ์มามากแต่ไม่เคยเห็นกระต่ายเลยสักครั้ง
“...” นิโคลัสเบิกตากว้าง ฝ่ามือหนากำหมัดแน่น เส้นเลือดหลังมือนูนออกมา คล้ายกำลังข่มกลั้นอะไรบางอย่างเอาไว้สุดความสามารถ
“ถึงว่าทำไมกินแต่ผัก” ตุ่นพึมพำกับตนเอง นึกถึงมื้อเย็นที่ชายแปลกหน้าคนนี้เอาแต่เคี้ยวแครอท ไม่แตะต้องอาหารกระป๋องสักนิด
“คือมันไม่ค่อยชินน่ะครับ ก็เลยไม่อยากเอาออกมารับลมเท่าไร” เวลาเห็นหูนี่ทีไรเขามักคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนเข้าไปทุกที “พวกคุณ เอ่อ กลายเป็นแบบนี้กันนานแล้วเหรอครับ” เขาเพิ่งกลายร่างได้ไม่กี่วัน การไม่ชินนั้นจึงไม่แปลกอะไร แต่กลุ่มทหารตรงหน้าดูจะคุ้นชินมาก
“พวกเรากลายพันธุ์มาเป็นเดือนแล้วครับ น่าจะหลังจากอุกกาบาตไม่นานเท่าไร” ช่วงที่ไวรัสเริ่มเปลี่ยนตัวเองเป็นซอมบี้ระยะแรกตามที่ทีโอเล่าให้ฟังตอนต้นสินะ
“ผมเพิ่งจะกลายพันธุ์ไม่นานเองครับ อยากรู้ว่าทำไมมันถึงไม่เหมือนกัน” ไหนจะดาริณีที่มีพลังอื่นเข้ามาทดแทนการเปลี่ยนรูปลักษณ์
“หมอกับนักวิทยาศาสตร์ในค่ายเองก็มีการพูดคุยในเรื่องนี้เหมือนกัน พวกเขาสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากวัคซีนต้านไวรัสที่เราได้รับในช่วงแรกของการเกิดโรคระบาด ใครที่กลายพันธุ์เร็วก็มีส่วนเกี่ยวเนื่องกับประสิทธิภาพวัคซีนที่ได้รับ ถ้าได้วัคซีนดีร่างกายก็จะสร้างภูมิคุ้มกันมาต่อต้านกับเชื่อไวรัสทั้งจากอุกกาบาตและเชื้อจากโรคระบาด”
“...” ก็คือพวกเขาได้รับวัคซีนไม่ได้มาตรฐานจึงกลายพันธุ์ช้า... งั้นเหรอ?
เชี่ย! ตอนนี้มีกรมไหนให้เขาฟ้องร้องได้บ้าง! พวกเขาเอาอะไรมาฉีดให้ชาวบ้านตาดำ ๆ กันฟะ!!
“ส่วนคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนก็จะปรากฏออกมาในสองรูปแบบ หนึ่งก็คือไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างหัวหน้าโจของเรา” โจเซฟปรายตาไม่ได้พูดอะไร เขามีความสุขกับทรงผมเรียบลื่นของตนมากกว่า ให้มีหูอย่างลูกทีม... เขาขอบาย
“หรืออย่างทีโอที่ยังคงรูปลักษณ์เดิม แต่มีพลังพิเศษ”
“!!!” เฉินเฟิงหันขวับไปมองยังหนุ่มน้อยหนึ่งในทีมของทหารรับจ้าง
“น้องทีโชว์พลังสิจ๊ะ” หงส์คะยั้นคะยอ เธอเห็นว่าบทสนทนาเริ่มลื่นไหลจึงพูดไปเรื่อย
ทีโอหันไปขอความช่วยเหลือจากหัวหน้า พี่สาวคนสวยพอคุยถูกคอก็เริ่มพูดมากเกินไปแล้ว
“เอ่อ ไม่เป็นไรครับ ผมว่าพวกเราเตรียมพักผ่อนกันดีกว่า” เฉินเฟิงเห็นท่าทางส่งสายตาของลูกทีมและหัวหน้าก็เข้าใจได้ ตัวเขาเองยังบอกไม่หมด จะให้อีกฝ่ายเปิดเผยทุกอย่างก็ดูจะน่าเกลียดเกินไป
“อ่า นั่นสินะ นอนกันเถอะ” หญิงสาวก็เหมือนจะเพิ่งนึกขึ้นได้พยักหน้ารับข้อเสนอนี้อย่างเร็ว ทั้งยังทำทีเป็นหยิบถุงนอนออกมาจากเป้
“งั้นมาแบ่งเวรกัน” โจเซฟแจกแจงเวรเฝ้ายามในค่ำคืนนี้ โกดังมีกำแพงสูงดูปลอดภัยก็จริง แต่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ เฉินเฟิงอยากมีส่วนร่วมด้วยและทุกคนก็ลงความเห็นว่าเขาได้เวรในตอนตีสามจนถึงเช้า
พอเรียบร้อยก็ถึงคราวเตรียมนอนหลับพักผ่อนกันเสียที วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว
เฉินเฟิงโยนผลต้อยติ่งไปตามจุดที่ผู้บุกรุกอยู่ ทำให้ทั้งนิโคลัสและชาล็อตต่างต้องหาที่หลบกันเป็นพัลวันเมื่ออานุภาพทำลายล้างของผลต้อยติ่งนั้นเป็นแบบสุ่ม ไม่สามารถจำกัดให้อยู่ในวงแคบได้ ส่วนผู้บุกรุกที่ไม่ได้รู้เรื่องถึงจะได้ยินสัญญาณให้หลบก็ไม่รู้อยู่ดีว่าควรหลบอะไรเมล็ดต้อยติ่งพุ่งเข้าไปฝังอยู่ในร่างกายของผู้บุกรุกที่โชคร้ายหลบไม่พ้น แม้แต่อุปกรณ์ในห้องก็แตกกระจายไปบางส่วนหลังระเบิดต้อยติ่งสงบลง นิโคลัสก็พาตัวเองออกมาจากหลังตู้หนังสือ บนพื้นห้องมีกลุ่มคนปริศนานอนร้องโอดโอยอยู่เจ้ากระต่ายเห็นดังนั้นก็ออกไปเปิดประตูห้องให้ทหารที่รออยู่แล้วเข้าไปจับกุมคนเหล่านี้ไปสอบสวนกว่าทุกอย่างจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติก็ใช้เวลาไปมากกว่า 20 นาที สิงหาไม่กล้าออกจากที่ซ่อนเลย แม้จะมีคนเข้ามาให้ความช่วยเหลือแล้วก็ตาม จนกระทั่งชาล็อตในร่างกระต่ายตัวเล็กใช้จมูกดุนดัน ยืนยันว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วถึงค่อยออกมา“ขอโทษนะครับ ผมทำห้องของคุณพังไปพอสมควรเลย” เฉินเฟิงรีบเอ่ยขอโทษ เขาไม่คิดว่าประสิทธิภาพของมันจะรุนแรงถึงเพียงนี้ผู้บุกรุกบางคนโดนแรงระเบิดของเมล็ดต้อยติ่งในระยะใกล้มาก ถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสเลือดไหลอ
“พวกเราได้ยินว่าที่นี่มีนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะอยู่ คุณอยากมาเข้าร่วมโครงการกับเราไหม พวกเราจะสร้างโลกใบใหม่ให้น่าอยู่ยิ่งกว่าเดิม โลกที่ธรรมชาติกลับมายิ่ง... แอ่ก!” ยังไม่ทันที่ชายปริศนาจะร่ายคำเชิญชวนสวยหรูจบก็ถูกชาล็อตที่ขยายร่างตะปบเข้าที่ซอกคอน็อกหลับไปกลางอากาศทั้งห้องเกิดเดตแอร์ขึ้นมาอย่างกะทันหัน เจ้ากระต่ายยักษ์จึงฉวยโอกาสนี้พุ่งเข้าใส่ผู้บุกรุกรายอื่นอย่างรวดเร็ว ไม่ปล่อยให้พวกมันเปิดฉากต่อสู้ก่อน ไม่อย่างนั้นตัวอย่างทดลองในห้องนี้คงถึงคราวป่นปี้แล้ว!“เกิดอะไรขึ้น!” คู่รักหมีกระต่ายพร้อมด้วยคนที่แฝงตัวเข้ามาในโรงพยาบาลของนายพลอธิรีบขึ้นมายังห้องทำงานส่วนตัวของสิงหาทันทีที่ได้ยินเสียงอึกทึกภายใน“มีผู้บุกรุกครับ ควันพวกนี้เป็นแก๊สยาสลบ” สิงหาได้ยินเสียงความช่วยเหลือก็รีบตะโกนเตือนเฉินเฟิงและนิโคลัสคว้าหน้ากากกันแก๊สของตนเองขึ้นมาสวม ส่วนคนของนายพลอธิที่แฝงตัวมาเป็นผู้ช่วยนักวิจัย ย่อมไม่มีอุปกรณ์พร้อมรบติดตัว จึงได้แต่ทำการส่งวิทยุสื่อสารกลับไปที่กองบัญชาการเพื่อขอกำลังเสริมที่มีอุปกรณ์ครบครัน“นั่นชาล็อตเหรอ” เฉินเฟิงผลักประตูเข้าไปเห็นเงาดำวูบวาบในกลุ่มควัน พอมองดี ๆ จะเห
“แล้วทางด้านพลังรู้สึกว่ามีมากขึ้นแค่ไหนครับ” สิงหาปล่อยให้สองแม่ลูกหยอกล้อกันสักพักก่อนจะวกกลับเข้าคำถามสำคัญส่วนมากคนที่เลื่อนระดับแล้วจะมีพลังมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว หลังจากได้ทราบว่าอีกฝ่ายมีพลังในการสร้างบาเรียป้องกัน ก็มาร์กไว้ในใจเลยว่าคุณครูเมตตาแจ็กพอตได้รับวัคซีนผสมเชื้อจากอุกกาบาตนอกโลก“มีอาการอึดอัดในอกอีกหรือเปล่า”“ไม่อึดอัดแล้วจ้ะ แถมยังรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามาก ๆ คิดว่าน่าจะใช้พลังได้ดีกว่าเดิมด้วย” จากที่อยู่ได้ไม่กี่ชั่วโมง ในเวลานี้กลับรู้สึกว่าต่อให้เธอหลับไปพลังก็จะยังสามารถทำงานต่อไปได้“พลังของคุณครูคือบาเรียใช่ไหมครับ คุณครูเคยลองใช้พลังนอกเหนือจากการปล่อยออกมาป้องกันบ้างหรือเปล่าครับ” สิงหาเริ่มการซักถามเท่าที่จะจินตนาการได้ เพราะสำหรับคนที่อยู่กับวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน พลังพิเศษที่มนุษย์ในปัจจุบันใช้กันอย่างแพร่หลายค่อนข้างจะอยู่เหนือสามัญสำนึกที่เขาคุ้นเคยอย่างมาก“ยังไม่เคยเลยจ้ะ” นอกจากกางบาเรียป้องกันคลุมรอบสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอก็ไม่เคยลองใช้พลังในรูปแบบอื่นเลย“บาเรียสามารถใช้ทำอย่างอื่นได้ด้วยเหรอครับ” โจเซฟเองก็ข้องใจ“ตอนเด็ก
สองสัปดาห์ต่อมา“อือ…” บนเตียงผู้ป่วยที่ไร้การตอบสนองมานานกว่าหนึ่งเดือน ในที่สุดเปลือกตาสีไข่ของคุณครูเมตตาก็ขยับยุกยิก หัวคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น ลำคอเปล่งเสียงอืออาไม่เป็นคำราวกับลูกเจี๊ยบกำลังหาหนทางกะเทาะเปลือกออกมาเผชิญกับโลกกว้าง“คุณแม่ครับ” โจเซฟลุกจากที่นั่งกดกริ่งข้างเตียงเรียกสิงหาทันที ชายหนุ่มจับมือคุณแม่ไว้แน่น ถ่ายทอดความอบอุ่นให้คนที่ยังไม่ฟื้นสติดีรับรู้ว่ายังมีคนเฝ้ารออยู่ตรงนี้ ขอแค่ลืมตาขึ้นมาก็จะได้เจอ“คุณครูเมตตามีอาการผิดปกติเหรอครับ” หลังได้รับสัญญาณสิงหาก็รีบวิ่งขึ้นมาจากห้องทำงาน“ผมคิดว่าท่านกำลังจะฟื้นแล้วครับ” ใช้เวลาไปหนึ่งเดือนพอดิบพอดี“โอ้ ๆ ๆ” นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะรีบหมุนตัวกลับไปหยิบของจำเป็นในห้องแล้วค่อยกลับขึ้นมาใหม่คล้อยหลังสิงหาไม่ถึงนาที เปลือกตาที่ขยับอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้เวลาเผยอเปิดขึ้น ก่อนจะหลับลงไปใหม่เมื่อต่อสู้กับแสงสว่างที่สะท้อนเข้ามาไม่ไหว“หลับตาก่อนครับ เดี๋ยวปวดหัว” โจเซฟหันไปรินน้ำอุ่นข้างโต๊ะรอ“โจเซฟ... เหรอ” คุณครูเมตตาเปล่งเสียงแหบแห้งออกไป เมื่อครู่เธอลืมตาเร็วเกินไปทำให้ในเวลานี้ปวดหัวเป็นอย่างมาก แต่ก็ทันเห็นว่ามีใครบางคนย
โจเซฟเล่าทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นในห้องประชุมอย่างไม่มีตกหล่นสักประโยค ยิ่งเล่านานเท่าไร ปากของแต่ละคนก็อ้ากว้างมากเท่านั้น และไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ หลายคนในห้องต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากโรคระบาด หนึ่งในนั้นก็คือเฉินเฟิงที่เสียบุคคลอันเป็นที่รักทั้งสองไปอย่างไม่มีวันกลับอดีตผู้ช่วยเชฟเม้มปากน้ำตาคลอเขาไม่ได้เสียใจหรือหวาดกลัวการกระทำต่ำช้าของกลุ่มคนที่คิดว่าตนเองเป็นพระเจ้าเหล่านั้น แต่เขาโกรธจนไม่รู้ว่าจะแสดงออกมาอย่างไร ภายในใจมันเจ็บหนึบ อึดอัดไปทั้งอก จนต้องอ้าปากรับอากาศเข้าปอดเพราะเผลอกลั้นลมหายใจโดยไม่รู้ตัว“ใจเย็น ๆ นะอาเฟิง” นิโคลัสลูบหลังลูบไหล่ปลอบใจคนรัก เขาจำได้ว่าอีกฝ่ายบอกว่าเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ครั้งเกิดโรคระบาดใหญ่นานแล้ว“ผมสาบานเลยว่าถ้าเจอคนพวกนั้น… ผมจะฆ่ามัน!” จะต้องฆ่ามันให้ได้!!“ได้ ๆ พี่จะช่วยอาเฟิงเอง” หากคนรักของตนอยากได้ศีรษะพวกมัน เขาก็พร้อมจะออกตามล่าตัวมาให้ หรือถ้าอยากจับแล่เนื้อเถือหนังก็จะยื่นมืดให้แต่โดยดี ไม่คิดห้ามปรามแม้สักครึ่งคำ“เป็นเพราะพวกมัน… ป๊ากับแม่ก็คงไม่ ฮึก” อดีตผู้ช่วยเชฟหลุดสะอื้น เพียงแค่จินตนาการว่าหากไม่มีโรคระบาด
“โชคดีนะครับที่พวกเราสร้างทางเชื่อมไว้ก่อนแล้ว” แม้ว่าต้นไม้ที่เขาปลูกไว้บดบังเส้นทางจะล้มตายไปบ้างจากฤดูหนาว แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ตายแต่ก็ยังสามารถยืนต้นได้ กลายเป็นป่าขนาดย่อมที่ยังช่วยบดบังเส้นทางแลกเปลี่ยนของสามหมู่บ้านไว้ได้อย่างดี“ทีโอบอกว่าพี่พิมพาสร้างหลุมหลบภัยให้กับทั้งสามหมู่บ้านเสร็จก่อนพายุหิมะจะพัดถล่ม นอกจากบ้านเรือนที่เสียหายแล้วก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จะมีก็แต่คนที่ทนความหนาวไม่ไหวจนเสียชีวิตเท่านั้น” คุณยายร้านขายของชำเองก็ยังมีสุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้คุณตาหมอยาประจำหมู่บ้านยังแจกจ่ายสมุนไพรไล่หนาวให้กับสมาพันธ์ผู้รอดชีวิตอย่างไม่หวงแหน ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นพอจะออกมาทำงานได้ในตอนกลางวัน“ธรรมชาติคัดสรรสินะครับ” เฉินเฟิงจำต้องใช้คำนี้มาเอ่ยปลอบตนเอง การเสียชีวิตของคนในสมาพันธ์ผู้รอดชีวิตไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายนัก ด้วยสภาพอากาศประเทศ T แต่เดิมก็ไม่เคยอุณหภูมิต่ำติดลบทั้งประเทศแบบนี้มาก่อน ย่อมมีคนที่ปรับตัวไม่ได้เป็นปกติเขายังโชคดีที่ตื่นขึ้นมาก็กลายพันธุ์พร้อมกับมีพลังพิเศษจึงมีความแข็งแกร่งมากกว่าแต่ก่อน หากเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคงยากที่จะมีชีวิตรอดมาจนถึงวัน