“นั่นสินะครับ” เจ้ากระต่ายข่าวพยักหน้าเห็นด้วย หลังจากนี้ไปโลกคงไม่มีวันกลับไปปกติสุขเช่นทุกวันอีกแล้ว มีแต่ต้องดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตรอดอยู่ให้ถึงวันพรุ่งนี้ให้ได้
ใกล้หกโมงเช้า กลุ่มทหารรับจ้างทุกคนก็ตื่นจากนิทราแล้วแยกย้ายไปล้างหน้าล้างตาคนละมุมห้อง
“วันนี้จะเข้าไปตรวจในโรงงานกันต่อ ถ้าเครื่องจักรยังใช้ได้คงต้องเคลียร์ซอมบี้ด้านในให้เรียบร้อย” จากนั้นก็แจ้งให้ทางฝั่งฐานพันธมิตรส่งคนมาควบคุมดูแลต่อ ส่วนรถบรรทุกที่นำมาด้วยจะขนเสบียงอาหารกลับไปด้วยบางส่วน เพื่อให้ฐานมีแจกจ่ายให้กับประชาชนธรรมดาที่สามารถทำงานแลกอาหารได้ แน่นอนว่าตรงนี้ก็จะมีส่วนแบ่งของพวกเขาด้วย
“คุณเฉินจะเข้าไปด้วยกันหรือจะไปสำรวจที่อื่นต่อล่ะ” อธิบายให้คนในทีมฟังเสร็จก็หันไปถามสมาชิกพิเศษ ในระหว่างที่พูดคุยก็สำรวจว่าทุกคนเตรียมพร้อมสำหรับออกไปด้านนอกหรือยัง เสียงซอมบี้นั้นเหลือไม่มากก็จริง แต่มันก็ยังคงป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ไม่ได้ไปไหนไกล
“ผมว่าจะไปดูโกดังปลากระป๋องถัดไปครับ” ก็คือพวกเขาคงต้องแยกทางกันตรงนี้ แต่ละคนล้วนมีหน้าที่ของตนเอง
“โอเค ยินดีที่ได้พบคุณนะ” โจเซฟหันไปยิ้มให้ เขาไม่รู้ว่าคนที่ดูบอบบางนี้จะอยู่ได้นานเท่าไร
“...” นิโคลัสมุ่นคิ้วคิดหนัก
“ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากเลยนะครับ” เฉินเฟิงหันไปค้อมศีรษะให้กลุ่มทหารรับจ้าง ถ้าไม่เจอคนกลุ่มนี้ เขาก็ยังคงเหมือนคนถูกปิดหูปิดตา ไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“หัวหน้า เหมือนมีคนไม่อยากไปกับเรานะคะ” หงส์เหล่มองเพื่อนร่วมกลุ่มอย่างรู้ทัน ฆ่าซอมบี้สีหน้าไม่เคยเปลี่ยน จะแยกกับหนุ่มน้อยเข้าหน่อยล่ะคิดมาก
“ขอออกไปเคลียร์ข้างนอกก่อนแล้วกันนะ” ตุ่นหันไปบอกหัวหน้าโดยมีทีโอเตรียมเปิดประตูโกดัง ชายหนุ่มหูสุนัขเคยเป็นทหารอาสาและเคยกลับมาสมัครอยู่ในหน่วยรบพิเศษ ชายหนุ่มจึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการปรับตัวหลังวันสิ้นโลกมากนัก นับได้ว่าเป็นตัวแทงค์ของทีมเลยก็ว่าได้ ส่วนทีโอขี้เกียจอยู่ฟัง ขอออกไปจัดการซอมบี้ฆ่าเวลาดีกว่า
คราแรกเฉินเฟิงเลิ่กลั่กเล็กน้อย นึกว่าหญิงสาวหมายถึงเขา แต่เมื่อมองตามสายตาไปกลับเห็นว่าเธอกำลังมองนิโคลัสอยู่
คงเป็นเรื่องภายในกลุ่มมั้ง... รีบไปดีกว่า
“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวออกไปพร้อมกับคุณตุ่นเลยก็แล้วกันนะครับ” เจ้ากระต่ายไม่รู้ว่าในกลุ่มเกิดอะไรขึ้น หรือว่าจะมีการทะเลาะกัน ดังนั้นไม่ยุ่งด้วยจะดีที่สุด
นิโคลัสมองตามการก้าวเดินของชายหนุ่มตาแดง คิ้วหนาก็ยิ่งขมวดพันกันแน่น
“อ้าว พ่อหนุ่มหูกระต่ายก็จะมาด้วยเหรอ” ตุ่นเอ่ยทักในขณะที่สองมือกระชับมีดยาวในมือ ด้านหลังสะพายปืนกล
“ครับ ผมว่าจะไปดูโกดังปลากระป๋องข้าง ๆ น่าจะได้อาหารกลับไปบ้าง” เฉินเฟิงพยักหน้า จับขวานในมือแน่น
“ไปคนเดียวจะดีเหรอครับ” ขนาดมาโกดังน้ำตาลยังแทบแย่ ถ้าไม่ได้พวกเขาช่วยไว้ป่านนี้กลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว
“ไม่ไหวก็ต้องไหวครับ” กระต่ายขาวยิ้มแหย ครั้งนี้คงต้องระวังทุกฝีเก้ามากกว่าเดิม
“จะเปิดแล้วนะ” ตุ่นให้สัญญาณ
“ใครว่าหมอนี่จะไปคนเดียว” นิโคลัสเดินเข้ามาใกล้
“...” เฉินเฟิงที่จับต้นชนปลายไม่ถูก
“...” ตุ่นที่มือหนึ่งปลดล็อกประตูโกดังเป็นที่เรียบร้อย
“ฉันก็จะไปด้วย”
ตึง!
ประตูโกดังถูกเปิดออกเผยให้เห็นซอมบี้เดินโซเซอยู่ด้านนอกกว่ายี่สิบตัว
กรรรซ์!
“วิ่ง!” แพทย์หนุ่มกระตุกมือเล็กของกระต่ายขาวพาออกไปยังจุดที่เล็งเห็นว่ามีซอมบี้น้อยที่สุด ฟากตุ่นที่เหมือนเพิ่งได้สติก็รีบตวัดมีดยาวในมือออกไปด้านหน้า ไม่ถึงวินาทีหัวของอดีตมนุษย์ก็ร่วงหล่นลงพื้น
ตุบ
พร้อมกับหัวใจของคนในทีม
แพทย์ทหารหนีตามผู้ชายไปแล้วโว้ยยยย!!!
หรือไม่ก็อาจได้เลื่อนตำแหน่ง ได้รับหมายเลขนัมเบอร์เหมือน W03 จากนั้นก็จะได้ติดตามนายท่านไปทุกหนทุกแห่ง…บึ้ม!!“เกิดอะไรขึ้น!” เสียงระเบิดดังกึกก้อง ปลุกหัวหน้าเทวทูตที่กำลังเพ้อฝันถึงความเจริญก้าวหน้าในการงานให้หลุดจากภวังค์“พะ พวกมันทำลายโดรนเลเซอร์ครับ” ลูกน้องเร่งรายงาน แม้จะถูกทำลายไปเพียงตัวเดียว แต่แค่นั้นก็นับเป็นความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้แล้ว“ได้ยังไง! นายท่านทุ่มเทกับอาวุธชิ้นนี้มาก มันจะไปพังได้ยังไง!”“อยู่ๆ มันก็ขยับเข้าไปในทิศทางของเลเซอร์จากโดรนเครื่องอื่นครับ แล้วก็…” ตูม! ระเบิดเป็นจุณ...“อะไรกัน มีของเล่นน่าสนุกอยู่ด้วยนี่นา” ในขณะที่ทุกคนกำลังงงงวยกับอาวุธของศัตรูที่ถูกทำลาย กลับมีชายคนหนึ่งสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้าเดินเข้ามาในวงต่อสู้โดยไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีเลยแม้แต่น้อย“หัวหน้า” แต่สมาชิกกองกำลังย่อมจดจำครูฝึกของตนเองได้ขึ้นใจ เพราะการฝึกฝนอันหนักหน่วงของหัวหน้า ต่อให้ไม่อยากจำแค่ไหนก็ยังสลักลึกในสมองอยู่ดี“สถานการณ์ไม่สู้ดีเลยนะ” ชายหนุ่มเอ่ยเย้าเหล่าลูกเจี๊ยบในสังกัด“ครับ โดรนนั่นค่อนข้างเร็ว พลังพิเศษที่พวกเรามีไล่ตามไม่ทันเลย” ส่วนมากในกองกำลั
ฟากคิวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ชายหนุ่มพยายามสลัดพวกเทวทูตเก๊และหาทางไปให้ถึงตัวหัวหน้าอยู่ตลอดเวลา แต่เหมือนพวกมันจะไม่ยอม ทั้งยังเข้ามาเพิ่มเรื่อย ๆจะขอให้คนอื่นช่วยก็ไม่ได้เพราะมีสภาพไม่ต่างกัน จากที่เคยสู้หนึ่งต่อหนึ่งหรือมากกว่านั้นนิดหน่อยก็ต้องรับศึกหลายด้าน พวกมันกรูกันเข้ามาไม่ให้พักหายใจหายคอเลย“จงสำนึกเสียใจเสียเถอะที่ทำให้ต้องหยิบอาวุธชิ้นนี้มาใช้” หัวหน้ากลุ่มเทวทูตมีสีหน้าเรียบเฉย นัยน์ตาสีนิลมีประกายเยียบเย็นเวลานี้ปืนเลเซอร์ประจำตัวถูกปลดล็อกให้เข้าสู่โหมดต่อสู้เต็มกำลังแล้ว และมีเพียงมันเท่านั้นที่นายท่านยอมให้ใช้อาวุธชิ้นดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว“คำพูดโคตรเบียว” เกมเบะปาก “อย่างกับคัดลอกบทพูดตัวโกงในการ์ตูนช่อง X มาเลย”“เดี๋ยวเถอะ” กรอยากจะดีดปากเจ้าตัวแสบให้หายปากไว เห็นสีหน้าพวกมนุษย์นกไหม หน้าตาใกล้จะเป็นยักษ์วัดแจ้งอยู่แล้ว“…”“ผมคิดว่าพวกลูกน้องหมอนั่นก็ต้องคิดเหมือนกันแหละ ว่าคำพูดแบบนี้มีแต่เด็กที่อินกับการ์ตูนเท่านั้นแหละที่จะพูดออกมา” เกิดความเงียบเป็นวงกว้างโดยที่ไม่มีใครกล้าพูดออกมาแม้แต่คำเดียว นอกจากฝั่งศัตรูที่มีสีหน้าเหมือนกลืนยาขม ก็มีเพื่อนร่วมทีมภายใน
…“เอ่อ พวกเขาเป็นใครกันเหรอครับ” ลูกน้องของเอเห็นว่าความสนใจของเทวทูตถูกหันเหไปยังกลุ่มคนปริศนาจนหมด พวกตนจึงหาที่ซ่อนตัวพร้อมกับชมการต่อสู้นี้ชนิดติดขอบเวที“นอกจากทหารทั่วไปกับทหารรับจ้างแล้ว ค่ายเรายังมีกองกำลังอีกหนึ่งกลุ่มที่ไม่ขึ้นตรงกับใครและได้รับการฝึกฝนจากคุณโจเซฟเป็นพิเศษ” เป็นแบบนี้ให้ปิดเป็นความลับต่อไปก็คงไม่ได้แล้ว“คนพวกนั้นจะถูกเรียกว่า ‘กองกำลังพิเศษ’ ถูกเตรียมการไว้เพื่อต่อกรกับองค์กร SW โดยเฉพาะ” เออธิบายสั้นๆ ใจความกระชับ พาให้สายตาลูกน้องในทีมหันไปมองยังกลุ่มคนที่มีไม่ถึงยี่สิบ แต่สามารถต่อกรกับเทวทูตและอาวุธทำลายล้างได้โดยที่ไม่มีใครบาดเจ็บสาหัสเลยอย่างมากก็มีแค่แผลถลอกพอเรียกให้เลือดซึมออกมาเล็กน้อย สำหรับทหารที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก ไม่นับว่าเป็นแผลได้ด้วยซ้ำ“โคตรเท่!” ทั้งวาดลวดลายอยู่บนอากาศหรือต่อสู้อยู่บนหลังคาสูง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่มีอาการเหนื่อยหอบให้เห็นเลยสักนิดเดียว คนพวกนี้ทำได้ยังไงกันแถมยังกำจัดเทวทูตปลอมๆ พวกนั้นไปได้เกือบครึ่งแล้วด้วย!…“ชิ ฉันจะเปลี่ยนอาวุธ พวกแกมาจัดการหมอนี่ที” หัวหน้าเทวทูตที่สู้ติดพันอยู่กับคิวกระพือปีกบินขึ้นสูงพลาง
“!!!”ลูกน้องของเอที่กำลังหัวเราะสะใจกันอย่างครึกครื้นหันซ้ายมองขวาหาต้นตอของเสียง เป็นเอที่รู้ตัวก่อนใคร เงยหน้ามองท้องฟ้าที่บัดนี้ไม่ได้มีเพียงก้อนเมฆอีกต่อไป แต่ยังมีมนุษย์นกจำนวนมากกว่า 100 คนพร้อมด้วยอาวุธหน้าตาแปลกประหลาดในมือ“มาจนได้นะ พวกร่างโคลน” การโคลนนิ่งคนมาตัดต่อพันธุกรรมเข้ากับนกและเรียกมนุษย์กลุ่มนี้ว่าเทวทูตเป็นข้อมูลที่โจเซฟล้วงมาได้นานแล้ว หมาป่าหนุ่มจึงไม่ประหลาดใจนักยามเห็นคนกลุ่มนี้เป็นหนึ่งในกองกำลังสำคัญของเกรย์สัน“พวกเราคือกลุ่มที่นายท่านขนานนามให้ว่าเทวทูต จงดีใจเสียเถอะที่ได้ตายเร็วแบบไม่ทรมาน” หนึ่งในเทวทูตที่คาดว่าเป็นหัวหน้ายกอาวุธคล้ายปืนแต่มีรูปทรงและดีไซน์แปลกประหลาดประทับบนบ่า“เบียวฉิบหาย” ลูกน้องของเอแขวะ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าอาวุธหน้าตาประหลาดนั้นมีอานุภาพร้ายแรงเพียงใด“หลบเร็ว!” เอเห็นท่าไม่ดีรีบสั่งการให้ลูกน้องหนีออกจากดาดฟ้าที่ใช้เป็นจุดสังเกตการณ์ ก่อนที่ในอีกกี่วินาทีต่อมาจะมีลำแสงพุ่งเข้าจู่โจมทำลายจุดที่พวกเขาเคยยืนอยู่เมื่อลมพัดเศษฝุ่นให้ปลิวไปตามสายลมก็เผยให้เห็นพื้นคอนกรีตที่ถูกอาวุธของศัตรูละลาย แม้แต่โครงเหล็กด้านในก็ยังไม่สามารถต้านท
“พวกมันเป็นยังไงบ้าง” เกรย์สันยกแก้วบรรจุไวน์องุ่นขาวเลิศรสขึ้น มือหนาแกว่งแก้วเบาๆ ก่อนจะจิบไปเพียงเล็กน้อย พอให้รสหวานหอมอบอวลอยู่ภายในโพรงปาก“มีประเทศ M, P, H, E และประเทศ Q ที่ต้านทานไม่ไหวครับ พวกที่เหลือรอดอยู่ก็หนีกระจัดกระจายไปซ่อนตัวตามเมืองร้างหรือหนีเข้าป่าแล้วครับ ส่วน 5 ประเทศพันธมิตรแถบภูมิภาคเอเชียยังคงต้านทานไว้ได้” มนุษย์นกอินทรีที่หายจากอาการบาดเจ็บแล้วกล่าวรายงาน“หึ เหนียวจริงนะ” เจอไปขนาดนั้นแล้วยังมีชีวิตรอดอยู่ได้อีก “แล้วพวกคนที่แข็งแกร่งของแต่ละประเทศล่ะ ตอนนี้อยู่ที่ไหน”“ส่วนมากจะถูกเรียกตัวกลับไปประจำที่ค่ายหลักครับ ทางหน่วยสังเกตการณ์ยืนยันว่าเป็นตัวจริง” อย่างประเทศ T ก็มีหน่วยสอดแนมเห็นว่ากลุ่มของโจเซฟกำลังต่อสู้กับสัตว์กลายพันธุ์ในวันแรก ก่อนจะกลับเข้าไปพักในกำแพงแล้วให้ทีมอื่่นมารับหน้าที่ต่อ“ดี ในเมื่อไปรวมกันอยู่ในเมืองก็เข้าทางแผนของเรา” นักวิทยาศาสตร์หนุ่มกระดกไวน์ครั้งเดียวหมดแก้ว “ปล่อยทัพเสริมลงไป” พร้อมกับสั่งการด้วยนัยน์ตาเปล่งประกาย ราวกับได้เห็นพวกมดปลวกหมดอาลัยตายอยากจากการโจมตีในครั้งนี้“ให้ปล่อยที่ไหนบ้างครับ” จริงอยู่ว่ากองกำลังที่สร้
ดังนั้นก่อนพามาร่วมภารกิจด้วย คุณหมอหนุ่มทั้งเคี่ยวและเข็นสามเด็กแสบมาหนักมาก ทั้งยังมีบททดสอบสุดท้ายให้ได้ทำ หากไม่ผ่านต้องกลับไปอยู่กับเพื่อนที่ทำงานซัพพอร์ตอยู่ในหลุมหลบภัยแต่โดยดี“กลับมาแล้วคร้าบบ~” เด็กชายดลที่รู้ตัวเองดีว่าพลังใกล้จะหมดรีบกลับมายังฐานบัญชาการลับนอกค่าย ใบหน้าเล็กมีเหงื่อผุดซึมเป็นหย่อมๆ พร้อมกับอาการหอบเพราะออกซิเจนในอากาศมีน้อย“เตรียมกลับไปที่ฐานเลย แผนต่อไปจะเริ่มแล้ว” นิโคลัสสั่งเสียงขรึม ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย “วันนี้ทำได้ดีมาก” เอ่ยชมเด็กแสบที่ตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่“พวกพี่ก็สู้ๆ นะครับ” เด็กชายดลแม้จะเหนื่อยหอบก็ยังชูกำปั้นส่งรอยยิ้มทะเล้นไปให้“อย่าแพ้เขานะคะ” พลอยใสให้กำลังใจอีกคน“ระวังพวกลิงไว้ด้วยนะครับ มันเจ้าเล่ห์กว่าเสือโคร่งอีก” และคำเตือนจากปอนด์เป็นคนสุดท้าย“ได้ พวกเราจะระวัง” เมื่อเป็นคำเตือนจากผู้มีพลังพิเศษมองเห็นนิมิตได้ ชายหนุ่มย่อมไม่มองข้าม ถ่ายทอดคำเตือนนี้ผ่านช่องทางสื่อสารให้กับทีมต่อไปทันที“กองกำลังพิเศษทีมที่หนึ่งออกปฏิบัติการได้ ฆ่าได้ฆ่าเลย” พร้อมกับเริ่มดำเนินแผนขั้นต่อไปกับกองทัพสัตว์กลายพันธุ์ที่ยังมีสติเหลืออยู่[ รับท