บรรยากาศยามเช้าในฤดูหนาวช่างหนาวเสียจริง เปลือกตางามพลันขยับขึ้นมา เห็นอีอียืนข้างโต๊ะเตี้ย มีอ่างสำริดทองคำวางด้านบน
"พระชายาล้างหน้าเพคะ" แม้อีอีจะไม่มีจมูกแต่ยามที่สาวใช้ยิ้มพลันมีลักยิ้มทั้งสองข้าง ทำให้ดูน่ารักเสียจริง
น้ำเย็นจัดในฤดูหนาวทำให้หลี่ซินพลันสดใสกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาบ้างเล็กน้อย จากนั้นให้อีอีนำชุดที่จะสวมใส่ในวันนี้ออกมา หลี่ซินมองชุดในตู้ไม้ มีแต่สีสันฉูดฉาด คือสีแดงเป็นหลัก
ดูท่าหลี่ซินคนเดิมคงจะชอบสีแดงมากกระมัง สายตาของหลี่ซินมองไปทางชุดสีชมพูอ่อนลายดอกอวี้หลัน
"เอาชุดนี้แล้วกัน"
"เพคะ ปกติพระชายาสวมแต่สีแดงแทบทุกวัน ยามนี้จะสวมผ้าสีอ่อน ๆ"
"อย่าพูดมาก"
หลังจากแต่งกายเสร็จแล้ว หลี่ซินนั่งแต่งหน้า มองคันฉ่องสีเหลืองทอง นางทาแป้งหอมอ่อน ๆ ไม่หนาเตอะเหมือนเมื่อก่อน อีกทั้งทาชาดไร้สีหรือสีขาวให้ริมฝีปากอวบอิ่ม
"พระชายาไม่แต่งหน้าเข้มเหมือนเมื่อก่อนแล้ว"อีอีมองพระชายาแล้วคลี่ยิ้ม
"ข้าอยากเดินชมรอบจวนอ๋อง"
"เพคะ"
ในความทรงจำของหลี่ซินนั้น นางไม่ค่อยสนอะไรนักในจวนอ๋อง นางสนเพียงการได้กลั่นแกล้งเด็กแฝดสองคนนั้น หลี่ซินอยากจะเจอเด็กสองคนนั้นจริง ๆ
ยามนี้อีอีพาเจ้านายมาที่ท้ายจวน หลี่ซินปรายตามองเห็นเด็กแฝดสองคน ชายหญิงเล่นตุ๊กตาปั้นที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ นางรีบย่างกรายเข้าไปดู
เด็กสองคนนั้นหน้าตาน่ารัก น่าชังมาก พอพวกเขาเห็นหลี่ซินถึงกับทิ้งตุ๊กตาไม้ เด็กผู้ชายยืนขวางหลี่ซินไว้
"ท่านแม่อย่าทำร้ายพวกข้าเลย" เสี่ยวเปาเอ่ยขึ้นด้วยความหวาดกลัว เสี่ยวเปยหลบข้างหลังพี่ชายฝาแฝด
หลี่ซินพลันยิ้มให้เด็กน้อยทั้งสอง มืองามกำลังจะลูบหัวเสี่ยวเปา
"พระชายาจะทำอันใด" แม่นมจางรีบวิ่งมาทันทีพร้อมทิ้งชามขนมที่นำมาจากโรงครัว คาดไม่ถึงว่านางไปโรงครัวครู่เดียวพระชายาจะหาเรื่องเด็กสองคนนี้เสียแล้ว
หลี่ซินรีบชักมืองามกลับมาทันที นางยังไม่ทันได้สัมผัสแม้กระทั้งปลายผมของเด็กน้อย แม่นมจางโอบกอดท่านหญิงน้อย ท่านชายน้อยไว้ ตามคำสั่งหยางอ๋อง แม่นมจางดูแลสองคนนี้เท่าชีวิต เหตุใดสตรีนางนี้ถึงฟื้นขึ้นมาได้ พ่อบ้านจางลงมือหนักแล้วแท้ ๆ
หลี่ซินรับรู้ได้ถึงสายตาไม่เป็นมิตรมองมาที่นางอย่างรังเกียจ ดูท่าหลี่ซินคนเดิมวีรกรรมจะเยอะเหลือเกิน
"ข้าไม่ได้ทำอะไรพวกเขาเลย" หลี่ซินมองแม่นมจาง แม่นมจางไม่มีทางเชื่อเป็นอันขาด
"พระชายา โปรดเมตตา ท่านหญิงกับท่านชายด้วยเพคะ ที่ผ่านมาท่านโกรธจนให้พวกเขาต้องกินข้าวหมาถึงกับล้มป่วย" แม่นมจางคับแค้นใจเอ่ยทั้งน้ำตา ยามนี้แม่นมจางถึงกับคุกเข่าให้กับหลี่ซิน
"แม่นมจางลุกขึ้นเถอะ ข้าเห็นอาภรณ์ของเด็กพวกนี้ขาดนัก ข้าอยากจะให้คนตัดให้พวกเขาใหม่ เจ้าพาเด็กพวกนี้ไปหาพ่อบ้านจาง นำเบี้ยออกไปสองก้อนตัดชุดพวกนี้ให้เด็กสองคนนี้"
แม่นมจางแทบจะไม่เชื่อหู พระชายาเป็นคนโมโหร้าย เพียงแค่เห็นลูกเลี้ยงนางจะลงมือทันที หรือว่าการป่วยของนางจะทำให้นางสมองเสื่อม
"อึ้งอยู่ทำไมเล่า ไปสิ พระชายามีเมตตาขนาดนี้" อีอีเอ่ยแทนเจ้านาย ในใจข้ารับใช้ก็สงสัยเช่นกัน เหตุใดเจ้านายถึงใจดีกับเด็กสองคนนั้นยิ่งนัก
หลี่ซินมุ่งหน้ากลับมาที่เรือนใหญ่ ในสมองของนางคิดว่า หลี่ซินคนเดิมร้ายกาจจนเด็กแฝดทั้งสองคนหวาดกลัวมากจริง ๆ
นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป นางจะชดเชยความผิดทั้งหมดของเจ้าของร่างเดิม โดยการเป็นคนดี อีกทั้งนางยังไม่อยากโดนหยางอ๋องสังหาร
"พระชายา เหตุใดท่านต้องเมตตาสองคนนั้น" อีอีเอ่ยถามเจ้านายหลังรินน้ำชาเสร็จ หลี่ซินมองจอกน้ำชาที่มีกลิ่นชาหอมลอยขึ้นมา แล้วปรายตามองสาวใช้
"ข้าเพียงอยากเป็นคนดี ในเมื่อแต่งเข้ามาจวนอ๋องแล้ว ลูกของหยางอ๋องก็เหมือนกับลูกข้า แม้หยางอ๋องจะไม่รักข้าก็ตาม"
อีอีเข้าใจถึงหัวอกเจ้านาย นับแต่หยางอ๋องแต่งงานด้วย ในคืนเข้าหอหยางอ๋องเลือกที่จะทิ้งพระชายาให้โดดเดี่ยวเพียงลำพังหลายเดือนมานี้ พระชายาจึงทำร้ายเด็ก ๆ พอหายป่วยกลับกลายเป็นคนละคน จากคนใจร้อนเป็นคนใจเย็นขึ้นมาทันที
"ต่อไปนี้ ข้าจะปฏิบัติธรรมช่วงเย็น เจ้าไม่ต้องมารับใช้ข้า อีกอย่าง บอกแม่นมด้วยให้เด็กสองคนนั้นไปเรียนสำนักศึกษาได้ ข้าอนุญาต"
ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม สั่งเด็กแฝดห้ามออกจากจวนไปเรียน ช่างน่าสงสารนัก หลี่ซินคนนี้ ทำร้ายได้แม้กระทั่งเด็กตาดำ ๆ
หลี่ซินมองอีอีออกจากเรือนแล้วปิดประตู ข่าวใหญ่ของจวนอ๋องคงไม่พ้นพระชายาตัดชุดให้ท่านหญิง ท่านชาย อีกทั้งอนุญาตให้กลับไปเรียนที่สำนักศึกษาได้ ทักคนในจวนต่างตกใจไม่น้อย
นางรึจะเป็นคนมีน้ำใจ เป็นไปมิได้เป็นอันขาด แม้แต่หยางอ๋องที่ได้รับพิราบสื่อสารอ่านข้อความเขายังตกใจ ใบหน้าหยางอ๋องครุ่นคิด สตรีนางนี้ต้องมีความบางอย่างที่เขามิรู้แน่นอน
"อาหวัง ส่งองครักษ์ไปสอดแนมที่จวนอ๋อง ข้าอยากรู้ สตรีนางนั้นคิดทำการอันใด" คนอย่างนางรึจะคิดดีกับคนอื่นไม่มีทาง...
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล