ยามค่ำคืนนั้นหลี่ซินกล่อมสองแฝดนอนเสร็จ นางจึงกลับเข้ามาเรือนของตัวเอง พบหยางอ๋องนั่งบนตั่งยาว นางคิดว่าเขาจะต้องค้างคืนที่ค่ายทหาร
"ท่านไม่ได้นอนที่ค่ายทหารรึ"
สตรีนางนี้สมองไม่พัฒนาเสียจริง ถ้าเขานอนค่ายทหาร เขาจะกลับมาที่จวนรึ ให้นางมาถามคำถาม เยี่ยงนี้กับเขา
"ข้าอยากจะนอนกอดเจ้า"
"ท่านอ๋อง ท่านมิได้รักข้ามิใช่รึ"
"รักไม่รักมิได้สำคัญ เจ้าคือชายาต้องปรนนิบัติข้าเรื่องบนเตียง นี่คือเรื่องที่ชายาควรใส่ใจ" หยางอ๋องประชิดตัวนาง จุมพิตอย่างดูดดื่ม หลี่ซินห้ามใจตัวเองไม่อยู่เมื่อนึกถึงสัมผัสวาบหวามที่เขามอบให้ ม่านมุ่งถูกปลดลง
เสียงเตียงดังอี๊ดแอ๊ดดังขึ้นอย่างแรง พร้อมกับสองคนบนเตียงที่เล่นสงครามผู้ใหญ่อย่างเร่าร้อน
ผ่านไปหนึ่งชั่วยามหยางอ๋องรัดสายคาดเอว มองดูคนงามหลับอย่างเหนื่อยล้า
หลี่ซินรู้สึกว่ามือหนาใหญ่บีบที่ปากอย่างเจ็บปวด ทำให้นางลืมตาขึ้นมาพบว่าเป็นคนใจร้ายอย่างอ๋องเถื่อนนั่นเอง
รสชาติขมฝาดเข้าไปในลิ้นของนาง นี่มันยาลูกกลอนอันใดกัน เขาบีบปากนาง แววตาเขามองนางอย่างเลือดเย็น หลี่ซินสะท้านไปถึงทรวง นี่เขาจะสังหารนางรึ
หลี่ซินพลันไอโขลก ๆ ขึ้นมาหลังกลืนยาเม็ดนั้นเข้าไป นางตัวสั่นเทิ้ม ดวงตาสีกลมโตทอประกายแดงก่ำ
มืองามปะทะใบหน้าหล่อเหลาของหยางอ๋องซ้ำรอยเก่าเต็มแรง
"ข้าทำอันใด เหตุใดท่านถึงใจร้ายกับข้าเพียงนี้ ท่านจะให้ข้าตายไปก่อนรึไง ถึงจะพอใจท่าน" หลี่ซินมิสามารถนำยาลูกกลอนออกได้ทันแล้ว นางกลืนลงท้องไปเรียบร้อยแล้ว
หยางอ๋องถึงกับพูดไม่ออก ทั้งเจ็บบนใบหน้าอย่างแรง
"ข้าทั้งดื่มน้ำแกงห้ามครรภ์ ที่ท่านเตรียมไว้ให้ตลอด หลังร่วมรักกับท่าน แต่ท่านเอายาอันใดให้ข้ากิน"
หยางอ๋องไม่กล้าบอกนาง ว่าเป็นยาบำรุงร่างกาย หลังจากที่นางกลับไป เขาได้ออกไปหาหมอเทวดา ท่านหนึ่งที่บนหุบเขา ไม่ไกลจากค่ายทหารนัก เพราะเขาใช้ยาพิษกับนางมากเกินไป กลัวนางจะตายเสียก่อน เลยไปเสาะหาของพวกนี้มาให้นาง
ยาพิษของหนานอ๋องมอบให้เขาได้มาจากยุทธภพ กระนั้นหมอเทวดาน่าจะช่วยได้ แต่ท่านหมอบอกว่าอาจจะให้นางมีชีวิตรอดไปสักระยะหนึ่ง
"ยาบำรุงร่างกาย" หยางอ๋องพูดอย่างหน้าตาย หลี่ซินไม่อยากจะเชื่อ มองเขาสาวเท้าเดินออกไป นางทั้งหวาดกลัวเขา ข้ามภพเข้ามาอยู่ในร่างนี้ก็รู้แล้วว่าเจ้าของร่างเดิมโดนยาพิษถึงแก่ความตาย ส่วนนางก็รักษาตัวเองตามยาแผนปัจจุบัน เพื่อประคองร่างนี้ไว้
หลี่ซินลืมตาอีกที พบอีอียืนข้างเตียงพร้อมอ่างสำริดทองคำ
วันนี้หลี่ซินเลือกใส่อาภรณ์สีขาวไร้ลวดลาย ราวกับนางจะไว้อาลัยใครสักคน อีอีเห็นแล้วอยากจะห้ามเจ้านาย แต่ทว่ามองหน้าหลี่ซินเหมือนเจ้านายยังอยู่ในห้วงอารมณ์แห่งความโกรธ สาวใช้จึงเลือกที่จะเงียบปากไว้
หลี่ซินแต่งหน้าอ่อน ๆ ดวงตาของนางบอบช้ำยิ่งนัก บ่งบอกว่านางผ่านสงครามน้ำตามาอย่างหนัก นางเสียใจจนนอนร้องไห้เผลอหลับไป
ที่นางทำดีกับสองแฝดเพราะรักสองแฝดมาก อีกทั้งยอมนอนกับเขาเพื่อที่นางจะได้อยู่กับสองแฝด แต่เขากลับคิดทำร้ายนาง
หลี่ซินตบแป้งเข้าใต้ตายอย่างหนา ตอนแรกจะแต่งบาง ๆ ดูคันฉ่องสีเหลืองทองขอบตาราวกับหมีแพนด้า ไม่ไหว ต้องตบแป้งเยอะ ๆ จากนั้นทาชาดสีอ่อน ๆ ที่ทำจากดอกเหมยกุยสีขาว ม้วนผมขึ้นปักด้วยปิ่นไม้ธรรมดา
"พระชายา ทรงเรียบง่ายมากเพคะ" ต่างจากเมื่อก่อนยิ่งนัก ยามนี้พระชายากลายเป็นคนดี
อีกทั้งอารมณ์เย็นขึ้น เมตตาบ่าวไพร อีกทั้งรักท่านหญิง ท่านชายมากด้วย อีอีดีใจมากที่พระชายาเปลี่ยนจากดำเป็นขาว
"เรียนพระชายา ท่านอ๋องจัดสำรับเช้าไว้ที่ศาลาดอกบัว ให้ท่านรีบไปเพคะ" ข้ารับใช้เข้ามารายงาน มองการแต่งกายของชายาเอกหยางอ๋อง เหตุใดถึงได้เรียบง่ายเพียงนี้เล่า
"นำทางข้าไป"
หลี่ซินเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่กี่วัน นางยังไม่รู้จักสถานที่ต่าง ๆ ในจวนนัก จึงให้สาวใช้ผู้นั้นนำทางไป
หยางอ๋องในยามนี้อยู่ในศาลาดอกบัว สายตามองวิวยามเช้า สระบัวที่เต็มไปด้วยดอกบัวสีชมพูบานสะพรั่ง บานรับแสงตะวันเต็มที่ อีกทั้งวิหคบินว่อนอย่างงดงาม
"พระชายามาแล้วเพคะ" สาวใช้นางหนึ่งเอ่ยขึ้น หยางอ๋องหันมามอง แล้วไล่สาวใช้ออกไปให้หมด
หลี่ซินยังยืนเป็นตอไม้ หยางอ๋องลุกขึ้น มองชุดที่นางสวมใส่ นางไว้ทุกข์ให้ผู้ใดกัน
"เหตุใดเจ้าจึงสวมชุดอัปมงคลเยี่ยงนี้" หยางอ๋องพิโรธอีกแล้ว สาวใช้ที่ยืนอยู่ไม่ไกล เห็นเขาต่างเป็นห่วงพระชายา
"ข้าชอบความสบาย มิชอบความยุ่งยาก" นางบอกด้วยน้ำเสียงแข็ง สายตามองไปทางอื่น ไม่อยากมองหน้าเขาให้เสียลูกนัยน์ตา คนไร้มโนธรรมเยี่ยงนี้
หยางอ๋องยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ ใบหน้าเขาสีแดงก่ำ ดวงตาดอกท้อมีเมฆครึ้มบดบัง เขาขบกรามอย่างหนัก
"ไปแต่งกายเสียใหม่ วันนี้เจ้าต้องไปสำนักศึกษา พาสองแฝดไปดูสถานที่เรียน"
นางลืมไปได้อย่างไร
"ข้าจะไปเดี๋ยวนี้" พอพูดถึงสองแฝด นางกระตือรือร้นขึ้นมาทันที รีบเดินออกจากศาลาดอกบัว หยางอ๋องถอนหายใจอย่างหนัก เพียงเอ่ยถึงเจ้าก้อนแป้งสองตัวนั้น นางยอมถอยให้เขา
มุมปากหนาหยักยิ้มโดนไม่รู้ตัว
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล