"ท่านแต่งงานแล้วอย่างไร อีกอย่างท่านมิได้ชอบนางมิใช่รึ ข้าได้ยินว่านางคือหญิงร้ายรังแกบุตรของท่าน ท่านจะรักนางไปไย" ฟูเหยายังคงไม่หยุดเห่า ตั้งแต่หยางอ๋องมาประจำการที่เมืองจิน ฟูเหยาบอกกับตัวเองว่านางต้องได้หยางอ๋องมาครอบครองให้ได้
"ไร้ยางอายสิ้นดี" หนานอ๋องเป็นคนเอ่ยประโยคนี้ออกมา เพราะเขาไม่เคยเห็นสตรีนางใดหน้าหนายิ่งกว่าดินโคลนมาก่อน
ทำให้ฟูเหยาค่อย ๆ หันไปมองบุรุษอีกคน ตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาแต่งกายในอาภรณ์สีเหลืองอ่อนลายพระอาทิตย์เฉิดฉาย ใบหน้านั้นคล้ายกับหยางอ๋องยิ่งนัก แต่ทว่าดวงตาดุกว่าหยางอ๋อง สายตาเหลือบเห็นหยกห้อยตรงสายคาดเอว นางจำได้ว่าหยางอ๋องก็มีเช่นกัน
"ไร้มารยาท เจ้าเป็นสตรียังไม่ออกเรือน ใช้สายตาเยี่ยงนี้มองบุรุษ ได้อย่างไรกัน"
ฟูเหยาโดนเขาด่าไปสองครั้งแล้ว
"ท่านกล้าด่าข้า แม้แต่บิดายังไม่กล้าด่าข้าเลย ท่านคิดว่า ท่านใหญ่มาจากไหน"
"ใหญ่มากถึงขนาดปลดบิดาของเจ้าให้กลายเป็นขอทานได้"
"ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง นี่คือหนานอ๋องพระอนุชาของหยางอ๋อง" อาหวังบอกให้ฟูเหยากระจ่างใจ
ฟูเหยาเพียงแค่คิดว่า เขาน่าจะเป็นญาติของหยางอ๋อง หมายถึงญาติห่าง ๆ ไม่ได้มียศอันใด แต่ไม่คิดว่าเขาจะเป็นอ๋องอีกคน
"แม่นางฟู เชิญ" อาหวังหวังดี ให้นางออกไปอย่างงดงาม ดีกว่าข้ารับใช้อย่างเขาลากออกไป
"เจ้าสุนัขไร้สมอง แม้แต่ท่านอ๋องยังไม่ไล่ข้าไปเลย แล้วเจ้าล่ะ" นางยังไม่หุบปาก
ใบหน้าหยางอ๋องพลันโกรธจัด หนานอ๋องมองพี่ชาย เขารับรู้แล้วว่า ท่านพี่คงจะไม่ชอบสตรีนางนี้
"ไสหัวไป !!!"
ฟูเหยาถอยหลังไปสามก้าว นางตกใจไม่น้อย นางไม่เคยเห็นหยางอ๋องเป็นเช่นนี้มาก่อน
"ท่านอ๋อง ท่านไล่ข้า"
"ถ้าเจ้าไม่ไสหัวไป ข้าจะปลดบิดาเจ้าเสีย"
"ข้าไม่กลัว ข้ารักท่าน ข้ารักท่าน ท่านจำได้รึไม่เมื่อหลายเดือนก่อน ท่านช่วยข้ามิให้โดนรถม้าเหยียบกลางตลาด"
หลายเดือนก่อนหยางอ๋องมาประจำการที่เมืองจิน ในยามนั้นแม่นางน้อยในอาภรณ์ที่งดงาม นางเดินเลือกซื้อของกิน จังหวะนั้นได้มีรถม้าผ่านมาอย่างรวดเร็ว ฟูเหยาคิดว่าตัวนางจะต้องตายเสียแล้ว แต่ทว่าฟ้าก็ให้โอกาสนาง โดยมีบุรุษสวมชุดเกราะสีน้ำเงิน ควบม้ามาหานาง คว้าตัวนางเข้ามากอดอย่างรวดเร็ว
จังหวะนั้นดรุณีน้อยอย่างนาง ก็พลันมอบหัวใจให้หยางอ๋องนับแต่นั้นมา ฟูเหยาให้คนไปสืบความในตอนแรกพบว่าเขาแต่งงานแล้ว รู้สึกเสียใจมาก แต่ทว่าพบว่าเขาเกลียดหญิงที่แต่งงานด้วย ทำให้ฟูเหยายังมีหวัง นางหาข้ออ้างมาที่ค่ายทหารประจำเพื่อที่จะได้เจอหยางอ๋องซ้อมเพลงดาบ
หยางอ๋องจำได้ แต่คนเป็นทหารที่มีคุณธรรม เมื่อเห็นผู้ใดตกอยู่ในอันตราย ก็ต้องช่วยอยู่แล้ว เหตุใดสตรีนางนี้ จึงคิดว่าเขาพึงใจต่อนางเล่า
"เจ้ามันสตรีไร้สมองเสียจริง" หนานอ๋องคันปากทนมิไหว
"ไสหัวไป!!!" หยางอ๋องกำหมัดแน่น
"พระชายาอย่าเพิ่งเข้าไป" ทหารขวางหลี่ซินไว้ แต่นางไม่สนใจ ย่างกรายเข้ามาในกระโจมอย่างเนิบช้า
หลี่ซินมองสตรีนางหนึ่งแต่งกายงดงามนัก แต่ความงามนั้นสู้หลี่ซินไม่ได้
หยางอ๋องไม่คิดว่านางจะมาที่ค่ายทหาร หนานอ๋องไม่คิดว่านางร้ายจะกล้ามาเช่นกัน
"ท่านอ๋อง ท่านอย่าบอกนะ ที่ท่านไม่รักข้าเพราะท่านรักนาง"
หลี่ซินมองสตรีนางนี้ นางเป็นบ้ารึ
"ฟูเหยา นางคือชายาเอกของข้า เหตุใดข้าจะไม่รักนางเล่า" หยางอ๋องไม่พูดเปล่าเดินไปประชิดตัวหลี่ซินแล้วจุมพิตอย่างดูดดื่ม
หลี่ซินเบิกตากว้างขึ้น นี่มันเรื่องบ้าอันใดกัน ผ่านไปหนึ่งถ้วยชา หยางอ๋องถอนจุมพิตอันเร่าร้อนออก
ฟูเหยาร่ำไห้น้ำตาไหล
"ไหนท่านว่าไม่ได้รักนางเล่า เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้"
"เลิกวุ่นวายกับข้าได้แล้ว มิเช่นนั้นบิดาของเจ้าได้ย้ายเข้าไปอยู่ในคุกแทน" ฟูเหยาวิ่งออกมาทั้งน้ำตาท่ามกลางหิมะที่ตกลงมาอย่างหนาวเย็นในยามนั้น
"เจ้ามีอันใด" หยางอ๋องทำสีหน้าปกติ หลี่ซินเหงื่อแตกพราก ๆ นางปรับตัวไม่ทัน
"ข้านำอาหารเที่ยงมาให้ท่าน" นางยื่นตะกร้าให้เขา อาหวังเห็นสายตาเจ้านาย รู้ความหมายจึงรับตะกร้าไม้ไว้
"ข้าขอตัว" หลี่ซินลนลานรีบออกจากกระโจมทันที
"นางร้ายเยี่ยงนางห่วงคนอื่นด้วยรึ พี่สี่ ท่านหลอกใช้นาง จนข้าตกใจจริง ๆ จุมพิตกับนางร้ายต่อหน้า ฟูเหยา"
"ฟูเหยา ถ้าไม่เห็นบิดาของนาง ข้าสังหารนางไปแล้ว"
"เหตุใดใบหน้าท่านถึงได้มีรอยตบเล่า" หนานอ๋องช่างตาไวเสียจริง เมื่อเช้านี้หยางอ๋องโบกด้วยแป้งหอมของสตรีแล้วจึงรุดมาค่ายทหาร ยามนี้ผ่านไปสามชั่วยาม แป้งต้องออกธรรมดา
อาหวังถึงกับอมยิ้ม สายตาของหยางอ๋องมองอาหวัง ทำให้อาหวังทำหน้าปกติแทบจะไม่ทัน เกือบหัวหลุดแล้ว
"ท่านไปโดนใครทำร้าย"
"ไม่มีอะไร"
"อย่าบอกนะ ว่านางร้ายตบท่าน พี่สี่ พี่อย่าได้หลงรักนางเป็นอันขาด นางจะอายุสั้น เพราะโดนยาพิษที่ข้ามอบให้ท่าน ข้าบอกไว้เลยนะ" หนานอ๋องเตือนด้วยความหวังดี
เมื่อมาถึงจวนหลี่ซินกลับเข้ามาในเรือนของนาง อีอีมองเจ้านายแปลกไปหลังจากออกมาจากค่ายทหาร เพราะอีอีรออยู่รถม้า ไม่ได้ตามเจ้านายเข้าไปจึงไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้น
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล